LOGINวันเสาร์ที่อากาศสดใส
รถหรูคันหนึ่งได้ขับเข้ามาที่บ้านของณัฐวีย์ มีผู้หญิงวัยกลางคนที่โฉบเฉี่ยวได้ก้าวลงจากรถ “เอ่อ คุณพิชามาพบคุณณัฐใช่มั้ยคะ? ท่านกำลังทานมื้อเช้ากันอยู่ค่ะ” แม่บ้านคนเก่าคนแก่ได้ถามขึ้นด้วยท่าทางเกรงกลัว “ฉันรอได้ ให้พวกเขากินให้อิ่มก่อนแล้วกัน” พิชามญช์เดินเข้าไปในบ้านที่เธอเคยอยู่มาสิบสามปี สายตามองหาความเปลี่ยนแปลงซึ่งก็มีหลายอย่างที่ขัดหูขัดตา เสียงของตกแตกดังลั่นบ้าน จนทุกคนออกจากห้องรับประทานอาหารวิ่งตามเสียงสิ่งของที่แตกในห้องรับแขก “โอ้..ขอโทษที พอดีชาจะมาหาพู่กันน่ะ เดินชนใส่..ไอ้ไหประหลาดนี้แตก ขอโทษทีนะคะ แต่..มันขวางทางเกะกะมากเลย แถมดูไร้รสนิยมสุดๆ” เธอส่งสายตาที่คุ้นเคยให้อดีตสามี จนเขาเองต้องตั้งสติ ส่วนปริมนั้นถึงกับตัวสั่นที่เห็นสิ่งที่เธอซื้อมาแต่งบ้านได้แตกไม่มีชิ้นดี “ช่างมันเถอะ แล้วลูกไม่บอกคุณหรือว่าแกไปอยู่ที่คอนโดแล้ว” เขาตอบพลางชี้ให้แม่บ้านเก็บกวาดให้เรียบร้อย “ลูกเราโตเป็นสาวแล้วสินะ อีกอย่าง..แกคงยังโกรธชาอยู่ลึกๆ ชาเองมีเรื่องกลุ้มใจเกี่ยวกับพู่กัน มีคนที่ชาจะคุยได้แค่คุณ..พ่อแม่ชาก็เสียหมดแล้ว ไม่รู้จะคุยกับใครได้” ปริมได้ยินแบบนั้นก็รีบพูดแทรกทันที “แล้วสามีใหม่คุณพี่ละคะ? คุยไม่ได้เหรอ?” พิชามญช์เหลือบมองปริมด้วยสายตาที่ถ้าเป็นมีดมันคงกรีดเธอเป็นริ้วๆ “พู่กัน..ลูกสาวแสนสวย..ของเรา ทำไมฉันต้องคุยกับคนอื่น? ฉันกับคุณณัฐตั้งใจทำลูกคนนี้กันอย่างตั้งใจ” เธอเดินย่างสามขุมเข้าไปหาปริมที่ประหวั่นพรั่นพรึงกับสายตาของสาวรุ่นพี่ “ฉันเห็นคลิปนั้น..ที่เธอจงใจใช้ความเดียงสาของเด็กมาทำลายข้าวของๆลูกฉัน แอบนินทาสาบแช่งลูกสาวคนเดียวของฉันยังไง” ตาที่โตและเบิกกว้างของพิชามญช์ทำให้ปริมถึงกับกลัวขึ้นมา ณัฐวีย์จึงตัดบทให้อดีตภรรยาไปคุยที่ห้องทำงานแทน หลังจากนั้นไม่กี่วันต่อมาชรันได้เอาเด็กสาวอายุสิบห้าที่ดูก๋ากั่นเข้ามาอยู่ในบ้าน โดยให้อยู่ห้องเก่าของฟ้าที่ลาออกไป พิชามญช์เองกลับไม่หึงหวงหรือห้ามปราม เธอใช้เวลาที่ไม่ต้องมาคอยปรนนิบัติเอาใจสามี ดูแลตัวเองจนสวยพริ้งเหมือนก่อนจะมีลูกชายคนเล็ก ณ ร้านเบเกอรี่และคาเฟ่ Mon Sucré ติดถนนใหญ่บนถนนเทพารักษ์ พรรณนาราเลิกเรียนแล้วเธอจะเรียกวินมอเตอร์ไซค์ให้ไปส่งทำพาร์ทไทม์ตามเวลา เธอทำงานได้สามวันแล้วด้วยความสนุกสนาน และด้วยความสวยสดใสจึงไปเข้าตาบาริสต้าหนุ่มประจำร้านที่อายุอานามเท่ากับธีทัตคือ 26 ย่าง 27 ปี ที่มีชื่อเล่นว่าพีท เขาชอบเฝ้ามองเธอที่หุ่นสวย หน้าตาดีจนแทบไปเป็นดาราได้ แต่กลับมาใส่ผ้ากันเปื้อนถูพื้นอยู่ที่นี่ เธอจะมีแฟนหรือยังนะ?..ได้ยินว่าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน พ่อแม่ต้องมีเงินประมาณหนึ่ง แต่ทำไมถึงยังต้องมาทำงานให้เหนื่อย?… จนกระทั่งเธอทำอะไรเสร็จและสะพายกระเป๋าจะออกไปเรียกวินให้ไปส่งที่คอนโด พีทจึงรีบทักเธอก่อน “น้องพู่ กลับวินทุกวันเลย บ้านอยู่ไกลมั้ยครับ?” “ไม่ไกลค่ะ ห้านาทีก็ถึง” “พี่ไปส่งมั้ยครับ?” “ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณพี่พีทมากๆ แต่พู่จะไปที่อื่นต่อค่ะ” เธอซ้อนวินออกไปที่ร้านอาหารตามสั่งของฟ้าซึ่งปิดสี่ทุ่ม ทำเอาพีทยืนยิ้มบางๆมองตามส่งเธอที่ห่างออกไป “พี่ฟ้า หนูมีขนมมาฝากค่ะ” “ทำพาร์ทไทม์เอามาซื้อขนมหมด น้องพู่” “เหนื่อยมั้ย…” “แล้วน้องหิวมั้ย? พี่ผัดข้าวให้กิน” “ค่ะ ข้าวผัดหมูใส่ผักเยอะๆ” “น้องพู่ ใกล้จะยี่สิบแล้วสินะ” “ใช่ค่ะ คนจีบเยอะด้วย เลือกไม่ถูก” “ห๊า..” “ล้อเล่นค่ะ” พรรณนาราแกล้งหยอกพี่ที่เธอนับถือเสมือนพี่สาวแท้ๆ “วันหยุดกลับบ้านไปหาคุณพ่อมั้ย?” “ไม่ไปค่ะ น่าจะพักผ่อนแล้วก็ไปทำงาน วันหยุดคนเยอะค่ะพี่ฟ้า” “งั้นกลับไปนอนพักได้แล้ว พี่ปิดร้านแล้วก็จะกลับไปนอนพักบ้าง ขาแข็งทั้งวัน” ในวันหยุด พรรณนาราไปทำงานพาร์ทไทม์ตั้งแต่บ่ายสาม จนการมาถึงของคนคนหนึ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจ เขาทำมือว่าต้องการสั่งกับเธอ จึงจำเป็นต้องเดินไปรับออเดอร์ “เอ่อ..ผมขอ Caramel Coffee Dirty ส่วนขนม ผมขอให้คุณสั่งให้ผมสักอย่างหนึ่งเพราะจะนั่งทำงานอีกพักใหญ่” เขาพูดพลางเปิดโน๊ตบุ้คและนำเอกสารขึ้นมาวาง “ฉันไม่ทราบว่าคุณชอบหรือไม่ชอบอะไร คุณสั่งให้ตัวเองน่าจะดีกว่า รอสักครู่ค่ะ จะเอาเมนูมาให้” “ไม่ต้อง ผมจะให้คุณสั่ง ใช้ความรู้สึกของคุณเลือกให้ผมก็แล้วกัน” เธอแอบทำท่าเหนื่อยใจ ก่อนจะไปบอกบาริสต้าและทำท่าคิดว่าจะเลือกขนมอะไรดี “น้องพู่มีอะไรหรือเปล่า? พี่ช่วยเอามั้ย?” “อ้อ ไม่มีอะไรค่ะ ลูกค้าบอกให้เลือกขนมให้เค้าชิ้นนึง แต่หนูไม่รู้ว่าจะเลือกอะไร..อืม เอาเป็น Mille-Feuille Vanilla-Strawberry ก็ได้ละมั้ง” “พี่ว่าเค้าดูไม่น่าจะกินขนมที่หวานเยอะ น่าจะเป็นชิโอะปังเนยสดอุ่นๆก็น่าจะดีนะ” “ค่ะ” พรรณนาราเห็นด้วยจึงสั่งชิโอะปังเนยสดอุ่นๆไปเสิร์ฟให้เขา “นี่เลือกเองเหรอ? ดูท่าทางไม่น่าใช่” “คุณให้ฉันเลือก ฉันไม่กล้าเลือกที่มันดูหวานเลี่ยนให้ อันนี้น่าจะดีสำหรับคุณ” ธีทัตแค่ยิ้มให้เชิงพอใจ เธอดูน่ารักในชุดเสิร์ฟและมัดผมหางม้ารวบตึงทำให้ดูสดใส แต่ที่เขาขัดใจมีอยู่อย่างหนึ่งคือ สายตาของบาริสต้าหนุ่มที่มองผู้หญิงของเขา แถมชอบชวนเธอคุยเวลาที่พรรณนาราสาละวนทำงานแล้วอยู่ใกล้ๆ ผ่านไปชั่วโมงครึ่ง ธีทัตก็สั่งกาแฟและอาหารอีก ดูไม่มีทีท่าว่าจะออกร้านไปง่ายๆจนภรรยาของเขาได้โทรมาตาม “ตอนเย็นไปกินข้าวข้างนอกกันมั้ยธี? วันนี้วันเสาร์ด้วย” “ไม่ล่ะ ผมอยากกินอะไรง่ายๆแล้วพักอยู่บ้าน คุณชวนเพื่อนหรือชวนใครไปกินสิ” “แต่แบมอยากชวนธีนี่นา” “ผมอยากนั่งทำงานอีกหน่อย” “งั้นบอกมาว่าอยู่ที่ไหนเดี๋ยวจะไปหาเอง” เขาถอนหายใจก่อนจะตอบอย่างเบื่อหน่าย “ผมกลับบ้านละกัน แค่นี้แหละ” ธีทัตจ้องมองพรรณนารารอให้สบตาเขาเพื่อที่จะเรียกมาเช็กบิล ถึงแม้จะมีพนักงานสองสามคนที่อยู่บริเวณนั้นก็ตาม จนเธอกวาดตามองลูกค้าเป็นระยะ จึงประสานสายตาเข้าและเขาพยักหน้าให้มาหา “เช็กบิลด้วยครับ” “ค่ะ รอสักครู่นะคะ” “พู่..ทำไมถึงต้องมาทำงาน? เงินไม่พอใช้เหรอ? หรือเกิดอะไรขึ้น” “พี่ฟ้าบอกใช่มั้ยว่าหนูทำงานที่นี่?” “งั้นพู่ไม่ต้องทำงาน พี่จะจ่ายให้เอง” พรรณนาราเริ่มกลอกตามองซ้ายมองขวาเพราะไม่อยากให้ใครได้ยิน “ขอตัวไปเอาบิลก่อนนะคะ” เมื่อเช็กบิลเสร็จแล้ว ธีทัตจำเป็นต้องกลับออกไป เธอจึงรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย เสียงรถของธีทัตที่เข้ามาจอดในบ้าน แบมที่นั่งรออยู่รีบเดินออกไปหาสามีทันที “ไปกินข้าวกัน” “คุณกินเลย ผมอิ่ม” แบมทุบอกเขาอย่างแรงด้วยความอดทนที่ขาดสะบั้นลง “แต่งงานกันจะครึ่งปี ไม่เคยมีอะไรที่ใกล้คำว่าสามีภรรยากันเลย มันเพราะอะไรกัน? ห๊ะ!” “จะเอาอะไรอีกล่ะ?” “แล้วออกไปไหนมา? แบมออกบ้านแป๊บเดียว ธีก็ออกไปข้างนอก ไปหาน้องสาวสินะ ไม่สิ..อาจจะเมียอีกคน” “งั้นเราเลิกกันได้นะ ผมให้คุณเลิกไปมีชีวิตใหม่ คุณกลับรวมหัวกับครอบครัวผม ผลก็ออกมาเป็นแบบนี้แหละ” “ธียอมรับแล้วสินะ” “ยอมรับอะไร? ขอตัวนะ อายชาวบ้าน มาเสียงดังอะไรตรงนี้” แต่ภรรยาของเขาจะไม่ยอมเป็นแค่เมียในนาม กลางดึกหลังจากที่ธีทัตหลับไปได้สักพัก เธอจึงพยายามจะทวงคืนสามีให้กลับมามีใจให้เหมือนเมื่อเคยคบกันมาก่อน ………………………………🎆💐♣️วันเสาร์ที่อากาศสดใส รถหรูคันหนึ่งได้ขับเข้ามาที่บ้านของณัฐวีย์ มีผู้หญิงวัยกลางคนที่โฉบเฉี่ยวได้ก้าวลงจากรถ“เอ่อ คุณพิชามาพบคุณณัฐใช่มั้ยคะ? ท่านกำลังทานมื้อเช้ากันอยู่ค่ะ”แม่บ้านคนเก่าคนแก่ได้ถามขึ้นด้วยท่าทางเกรงกลัว“ฉันรอได้ ให้พวกเขากินให้อิ่มก่อนแล้วกัน”พิชามญช์เดินเข้าไปในบ้านที่เธอเคยอยู่มาสิบสามปี สายตามองหาความเปลี่ยนแปลงซึ่งก็มีหลายอย่างที่ขัดหูขัดตา เสียงของตกแตกดังลั่นบ้าน จนทุกคนออกจากห้องรับประทานอาหารวิ่งตามเสียงสิ่งของที่แตกในห้องรับแขก “โอ้..ขอโทษที พอดีชาจะมาหาพู่กันน่ะ เดินชนใส่..ไอ้ไหประหลาดนี้แตก ขอโทษทีนะคะ แต่..มันขวางทางเกะกะมากเลย แถมดูไร้รสนิยมสุดๆ”เธอส่งสายตาที่คุ้นเคยให้อดีตสามี จนเขาเองต้องตั้งสติ ส่วนปริมนั้นถึงกับตัวสั่นที่เห็นสิ่งที่เธอซื้อมาแต่งบ้านได้แตกไม่มีชิ้นดี“ช่างมันเถอะ แล้วลูกไม่บอกคุณหรือว่าแกไปอยู่ที่คอนโดแล้ว”เขาตอบพลางชี้ให้แม่บ้านเก็บกวาดให้เรียบร้อย“ลูกเราโตเป็นสาวแล้วสินะ อีกอย่าง..แกคงยังโกรธชาอยู่ลึกๆ ชาเองมีเรื่องกลุ้มใจเกี่ยวกับพู่กัน มีคนที่ชาจะคุยได้แค่คุณ..พ่อแม่ชาก็เสียหมดแล้ว ไม่รู้จะคุยกับใครได้”ปริมได้ยินแบบนั้น
พิชามญช์กลับมาที่บ้านหลังจากทำผมทำหน้าเสร็จ และรีบขึ้นไปที่ชั้นสองของบ้านก็เจอลูกสาวกล่อมน้องชายอยู่ เธอยืนดูลูกสาวเงียบๆอยู่พักหนึ่ง พลางคิดแล้วว่าลูกสาวจะต้องเจอฤทธิ์เดชของชรันยังไง“พู่ มาคุยกับแม่ตอนนี้เลย เวลามีไม่มาก ไปที่ห้องคุณธี”พรรณาราทำหน้างง แต่ก็ตามออกไปโดยดี“เมียคุณธีมาที่นี่ใช่มั้ย? มันโทรไปฟ้องคุณรันว่าสงสัยเรื่องลูกมีอะไรกับผัวมันที่นี่ แล้วตอนนี้เขากำลังจะขึ้นเครื่องกลับ แม่มีคำถามจะถามอย่างหนึ่ง ก่อนจะบอกให้ลูกหนีไปจากที่นี่ หมายถึง..ไม่ต้องกลับมาอีก อย่าให้เขาตามหาลูกเจอ ดูแลตัวเองให้ดี”“แต่เขารู้ว่าหนูเรียนที่ไหน?”“แม่จะหาวิธีดึงเขาให้เลิกสนใจลูกเอง เอาล่ะ..บอกแม่สิ ลูกมีอะไรกับคุณธีหรือเปล่า?”“ไม่มีค่ะ เราแค่คุยกัน”พิชามญช์ไม่เชื่อแต่ก็ไม่ถามต่อ “เขาจะช่วยลูกได้และลูกคือคนที่จะทำให้เขามีความสุข ต่อสู้เพื่อตัวเอง เราเป็นผู้หญิง ใช้มารยาหญิงให้เป็นประโยชน์”“แบบแม่น่ะเหรอคะ? หนูไม่ใจร้ายขนาดนั้น”“ไปเก็บของแล้วไปซะ ให้ฟ้ามาช่วยเก็บ”พรรณนาราให้ฟ้ามาช่วยเก็บของทั้งหมดที่จำเป็นรวมถึงกล้องที่ซ่อนไว้ในห้องที่กุมความลับทุกอย่างในห้องนี้เอาไว้มาหลายปี “น้องพู่ เด
ธีทัตที่โตขึ้นกว่าเมื่อก่อน เขาดูเป็นชายหนุ่มที่มุ่งมั่น มั่นใจในตัวเองและดูเอาแต่ใจมากขึ้น “พี่ธี..อื้ออ..ปล่อย” เขาบังคับเอาจูบจากเธอ สองแขนที่กอดแน่น มือที่จับต้นคอเธอไม่ให้หนีหน้าไปจากเขา ไม่มีอะไรหยุดเขาจากความต้องการที่ปะทุขึ้นได้อีกแล้ว “เดี๋ยวค่ะ..พี่ธี เดี๋ยวก่อน..อ๊ะ” พรรณนาราถูกจับกดลงบนเตียง นั่นทำให้เธอกลัวมากเพราะยังไม่ได้ตั้งตัว “รออะไร? พี่รอมาสามปีแล้ว” เขาจูบอย่างหนักหน่วง ใช้น้ำหนักตัวกดทับเพื่อไม่ให้พรรณนาราดิ้นหนี มือล้วงเข้าไปในกางเกงขาสั้นลูบไล้ต้นขาและสะโพกของเธอ ก่อนจะพยายามดึงกางเกงแต่อีกฝ่ายต่อต้านด้วยการยื้อไว้ไม่ให้เขาดึงออกไปได้ “พี่ธี…เดี๋ยว ให้หนูทำให้ดีกว่ามั้ยคะ?” ธีทัตมองเธอใกล้ๆด้วยสายตาที่บ่งบอกว่าเขาต้องการและต้องได้ตอนนี้ “ทำอะไร? ไม่ต้องทำ พี่จะเป็นฝ่ายทำ” เธอกลืนน้ำลายและคิดหาทางเอาตัวรอด จึงเอามือลูบและขยำแก่นกายเขาที่แข็งตัว รูดซิบลงแล้วเอามือล้วงเข้าไปจับข้างในกางเกงแทน “ทำไมไม่อยากให้ทำ ไม่รักพี่แล้วเหรอ? หนูบอกว่าพี่ได้ทุกอย่างแล้วค่อยมาคุยกัน นี่ไง..พี่ได้ทุกอย่างแล้ว” “อย่าพึ่งพูดเลย..ให้หนูทำก่อนนะ” เขาบรรจง
ธีทัตฝากของขวัญวันเกิดให้พรรณนาราที่อายุครบ 19 ปี ผ่านทางแม่บ้านสาวอย่างฟ้า เป็นสร้อยแพลตตินั่มจี้เพชรทรงหยดน้ำที่เขาตั้งใจเลือกด้วยตัวเองเพื่อเธอ“น้องพู่ คุณธีฝากของขวัญวันเกิดไว้ให้นะคะ แกโทรมาให้พี่เดินออกไปเอาตั้งไกลแน่ะ สงสัยกลัวคนมาเห็น น้องพู่จะมานอนบ้านนี้อีกทีตอนไหนคะ?”“อาจจะวันศุกร์นี้ค่ะ อยู่บ้านพ่อก็เบื่อ เสียงเด็กร้องโวยวายตลอด ลูกสาวคนใหม่ของพ่อดื้อมาก อารมณ์ร้ายน่าดู ไม่พอใจอะไรก็ตะเบ็งเสียง”“ตายจริง ผิดกับน้องชายน้องพู่เลย ยิ้มเก่ง เริ่มพูดเก่งแล้วเนี่ย ถึงพี่จะไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ แต่เห็นจากไกลๆ ป้าพูดให้ฟังว่าน่ารัก เลี้ยงง่ายมาก”“ไม่อยากเชื่อเลยเนอะ”“ยังไงคะ?”“ก็แม่น่ะ ตอนท้องชอบหงุดหงิดจับผิดไปหมด ชอบวางแผน อารมณ์ขึ้นๆลงๆ แต่น้องชายหนูดันตรงข้ามเลย”“ช่วงนี้คุณชรันไม่ค่อยอยู่บ้านด้วยน่าจะงานยุ่ง คุณป้ามาบอกพี่ว่าคุณแม่น้องพู่บ่นทุกวัน แต่ก็ดีกับน้องพู่นะ”“ใช่ค่ะ แต่หนูว่าเขาน่าจะมีเด็กใหม่”“หึ..คนมักมาก สักวันโรคจะถามหา”“พี่ฟ้า..หนูอยากให้พี่ได้เจอคนดีๆเหมือนกันนะคะ”“ถ้าพี่ยังจน ความรู้น้อย คงไม่คิดมีแฟนหรอกค่ะ ที่ผ่านมานี่ก็สิ้นคิดพอแล้ว”“ไม่เอาน่า”วั
“คุณพ่อพี่ดูแลหนูอย่างดี ยินดีด้วยที่เรียนจบและสุขสันต์วันเกิดนะคะ”เธอพูดโดยที่แง้มประตูอยู่แค่นั้นและไม่สบตาด้วย“อวยพรให้หน่อยสิ”“หนูเขียนคำอวยพรในกระดาษให้แล้ว พี่ได้รับหรือยังคะ?”“ได้แล้ว แต่อยากได้อีก”สายตาเขาที่ทอดมองมาหมายความแบบนั้นจริงๆที่อยากได้ทั้งคำอวยพรและอย่างอื่น“ขอให้พี่ธีสุขภาพดีและคิดหวังสิ่งใดให้สมหวังทุกอย่างนะคะ” “พี่จะสมหวังแบบที่น้องพู่พูด เพราะคิดแล้วว่าต้องการอะไร”ธีทัตดันประตูเข้ามาจนได้ ทำให้พรรณนาราเกิดกลัวขึ้นมา เธอกอดอกตัวสั่นเพราะหวั่นใจถ้าใครมาเห็นเข้าพรรณนาราถอยหลังไปเรื่อยๆเพราะธีทัตเดินมาใกล้ แล้วมอบกอดที่อบอุ่นให้เธอ เขาสูดดมกลิ่นหอมจากเส้นผมของเธออย่างหลงใหล“พี่เรียนจบแล้ว ตอนอยู่อังกฤษคิดอยู่ว่า..หรือจะหางานทำแล้วพาพู่มาอยู่ด้วยกัน พี่อยากสละทุกอย่างที่นี่ พู่ก็โอนหน่วยกิตไปเรียนที่นู่นเอา พี่จะส่งเสียเอง”ถึงฉันจะมีความรู้สึกให้เขา..แต่ฉันจะไม่ยอมให้ทุกคนที่ทำให้ฉันมีแผลใจต้องสมหวังหรอก… “หนูทำแบบนั้นไม่ได้ค่ะ ตอนนี้พ่อก็มีภรรยาใหม่เหมือนกัน หนูเองต้องอยู่เพื่อปกป้องสิทธิ์ของหนูด้วย ไม่มีใครควรชุบมือเปิบเอาของๆคนอื่นมาเป็นของตัวเองทั้งน
วันที่ธีทัตเรียนจบกลับมาจากอังกฤษซึ่งใกล้กับวันเกิดของเขาพอดี แต่เขาโดนกันท่าจากพ่อและแม่ทำให้ไม่สามารถไปที่บ้านซึ่งพรรณนาราอยู่ที่นั่นได้ เขาอยากเจอเธอที่ตอนนี้อายุได้สิบแปดแล้ว แต่ก็ทำได้แค่คิดฝัน สามวันตั้งแต่กลับมาธีทัตได้พักผ่อนอยู่ที่บ้านเพื่อปรับเวลาและปรับสภาพร่างกายโดยอยู่ในสายตาของแม่อยู่ตลอด“วันนี้ครอบครัวแบมกับครอบครัวเรามีนัดทานข้าวเย็นกันที่ Lacal Bangkok นะลูก แต่งตัวดีๆล่ะ”บรรยากาศการดินเนอร์ของสองครอบครัวเป็นไปด้วยดี มีเพียงธีทัตที่พูดน้อย เน้นพูดและแสดงออกตามมารยาท เสียงเคาะประตูทำให้พรรณนาราตกใจทุกครั้ง แต่ก็เดินไปเปิดให้“ไงลูกรัก คุณอาชรันกับภรรยาเก่ามีนัดทานข้าวกับครอบครัวคู่หมั้นคุณธี ถึงเวลาที่ลูกต้องดึงเขาอย่าให้แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น แทนที่จะมานั่งจับเจ่าเป็นทองไม่รู้ร้อนอยู่แบบนี้”“หนูมัวคุยกับเพื่อนเรื่องเรียนมหาวิทยาลัยค่ะ ไม่ได้สนใจเรื่องคนอื่นหรอก พรุ่งนี้วันศุกร์ก็ต้องไปอยู่บ้านพ่อด้วย คงไม่ได้เจอใครหรอกค่ะ”“ใกล้วันเกิดพี่ธีแล้ว แม่จะลองพูดให้เขาจัดงานวันเกิดที่นี่ดู”“แล้วแต่แม่เถอะค่ะ ขอตัวคุยกับเพื่อนต่อนะคะ”เมื่อจบจากดินเนอร์ ธีทัตไปส่งแม่ที







