Share

บทที่ 8

last update Last Updated: 2025-12-05 23:26:58

แสงแดดเช้าส่องลอดผ่านม่านโปร่งของเพนต์เฮาส์ลงมาแตะปลายเท้าของคะน้า กลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ และอากาศเย็นจัดจากเครื่องปรับอากาศทำให้เธอลืมตาขึ้นอย่างไม่เต็มใจนัก

เตียงที่เธอนอนนุ่มเกินไป…ต่างจากฟูกบาง ๆ ที่บ้านไม้จนทำให้เธอนอนไม่ค่อยหลับทั้งคืน

“นี่มันไม่ใช่ที่ของฉัน…” คะน้าคิดในใจเบา ๆ แล้วยันตัวลุกขึ้นนั่ง

ม่านโปร่งสีครีมขยับเบา ๆ ตามแรงลมที่ลอดเข้ามา เธอกวาดสายตาไปทั่วห้องอีกครั้ง ทุกอย่างในนี้ดูหรู ดูเรียบ และดูเย็น…จนเหมือนไร้ชีวิต

“ตื่นแล้วสินะคะคุณคะน้า”

เสียงคุณจินคนดังขึ้นจากหน้าประตูห้อง เธอเปิดเข้ามาพร้อมถาดอาหารเช้าและถุงเสื้อผ้าชุดใหม่วางไว้บนเก้าอี้

“คุณเฟยให้เตรียมไว้ให้ค่ะ ตั้งแต่วันนี้คุณจะได้รับอาหารตรงเวลา 8 โมงเช้า อาหารเย็น 6 โมงเย็น ถ้าจะออกไปไหนต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อยหนึ่งชั่วโมงค่ะ”

“แจ้ง…? เหรอคะ” คะน้าทวนคำช้า ๆ

คุณจินยิ้มสุภาพแต่เป็นยิ้มที่มีกรอบชัดเจน

“ค่ะ นี่เป็นกฎของคุณเฟยค่ะ”

คะน้านิ่งไปชั่วขณะ ก่อนพยักหน้าเบา ๆ เธอไม่ได้ตอบอะไร แต่ในใจกลับรู้สึกเหมือนมีเชือกเส้นบาง ๆ มาพันรอบตัวเธออีกเส้นหนึ่งแล้ว

สายตาเธอเหลือบไปเห็นถุงเสื้อผ้าสีขาววางอยู่ข้างเตียง ผ้าที่โผล่ออกมาเป็นผ้าฝ้ายเรียบ เนี้ยบ และแพงจนไม่ต้องเดาก็รู้ว่า…ไม่ใช่สไตล์ของเธอเลยแม้แต่นิด

“ของเก่า ๆ เสื้อผ้าเก่า ๆ พวกนั้น ฉันไม่ชอบ” คำพูดของเขาเมื่อวานยังก้องในหัว

คะน้าเม้มปากแน่น เธอไม่เถียง แต่ก็ไม่ได้รีบแตะถุงนั้นด้วยซ้ำ

กลิ่นกาแฟขมอ่อน ๆ ลอยมาแตะปลายจมูกทันทีที่เธอก้าวลงบันได หลงเฟยนั่งอยู่บนเคาน์เตอร์บาร์สูง ร่างสูงในเสื้อเชิ้ตสีเข้มยกแก้วกาแฟขึ้นจิบอย่างนิ่งสงบ

เขาไม่ได้เงยหน้าขึ้น…แต่เธอรู้ว่าเขารู้ว่าเธอลงมา

“ตื่นสาย” เขาพูดเรียบ

“ยังไงก็ไม่ถึงสิบโมง… ค่ะ” คะน้าตอบเสียงนิ่งเช่นกัน

เขาเงยหน้าขึ้นช้า ๆ มองเธอแวบหนึ่ง ก่อนมุมปากจะกระตุกขึ้นเล็กน้อย

“เธอกล้าเถียงฉันตั้งแต่เช้าเลยเหรอ”

“ฉันแค่พูดความจริงค่ะ” เธอยกคางนิด ๆ อย่างไม่รู้ตัว

คำว่าค่ะของเธอดูเหมือนจะไม่เต็มใจพูดเท่าไหร่นัก…

บรรยากาศระหว่างทั้งสองขมุกขมัวด้วยความตึงที่ไม่มีเสียงใด ๆ ตามมา

หลงเฟยไม่ใช่คนชอบพูดซ้ำ…แต่เธอก็ไม่ใช่คนยอมก้มหัวง่าย ๆ เช่นกัน

“อีกเรื่องค่ะ” คะน้าพูดขึ้น

“อะไร”

“ทุกวัน ฉันขอกลับไปช่วยยายขายผักนะคะ” เธอมองหลงเฟยตรง ๆ

เขาวางแก้วกาแฟลงช้า ๆ ก่อนเอนตัวพิงพนักเก้าอี้ แววตาคมกริบจ้องเข้ามาโดยไม่พูดสักคำ

หนึ่งวินาที…

สองวินาที…

สามวินาที…

“ตราบใดที่มันไม่รบกวนแผนของฉัน…” หลงเฟยคิดในใจและนิ่งไปชั่วขณะ ดวงตาคมกริบจ้องเธอเหมือนกำลังชั่งน้ำหนักบางอย่างในใจ ก่อนจะพูดเรียบ

“ฉันเข้าใจตั้งแต่เมื่อวานแล้ว”

“ขอบคุณค่ะ” คะน้าพูดเบา ๆ แต่มั่นคง

บ่ายวันเดียวกัน

คะน้านั่งอยู่ปลายเตียง กระเป๋าผ้าใบเดิมวางข้างตัว มือเธอเปิดสมุดจดเล่มเล็กที่พกติดตัวมาตลอด

เธอเริ่มขีดเขียนตัวเลข 400,000 บนหน้ากระดาษแล้ววงกลมมันไว้

“90 วัน…ฉันต้องหาเงินให้ได้” เธอพึมพำกับตัวเองเบา ๆ

มือเล็กเปิดโทรศัพท์หางานพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานร้านกาแฟ ร้านอาหาร หรือรับจ้างทั่วไป เธอเลื่อนหน้าจอไปเรื่อย ๆ พร้อมจดเบอร์โทรไว้ในสมุดอย่างเป็นระบบ

“ฉันไม่ใช่คนที่คุณจะสั่งให้ยืนเฉย ๆ แล้วรอหมดเวลาได้หรอกนะ หลงเฟย” เธอคิดในใจ

เสียงประตูกระจกของล็อบบี้ปิดลงเบา ๆ ด้านหลัง ร่างเล็กในเสื้อยืดเรียบกางเกงยีนส์ดูดีกว่าปกติก้าวออกไปบนถนนเย็นย่ำของเมืองใหญ่

แสงไฟจากตึกสูงเริ่มเปิดทีละดวง ทาบเงาของเธอลงบนพื้นซีเมนต์ยาวเหยียด

คะน้าเปิดโทรศัพท์ดูเบอร์ที่จดไว้ในสมุด เธอตัดสินใจตรงไปยังร้านกาแฟเล็ก ๆ ย่านตลาดกลางเมืองจุดที่ดูปลอดภัยที่สุด เพราะมันไม่ไกลจากที่เธออ้างกับเขาไว้ว่า จะกลับไปช่วยยายขายผัก

“เริ่มกันเลย…” คะน้าพูดเบา ๆ

เสียงกระดิ่งเหนือประตูร้านกาแฟดังกรุ๊งกริ๊งทันทีที่เธอผลักประตูเข้าไป กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นตลบอบอวลในร้านเล็ก ๆ ที่ดูอบอุ่นผิดกับตึกสูงของหลงเฟยอย่างสิ้นเชิง

“สวัสดีค่ะ มาสมัครงานเหรอ?” พนักงานหญิงวัยยี่สิบปลาย ๆ ทักขึ้นทันที

“ใช่ค่ะ พอดีหนูเห็นป้ายรับสมัคร” คะน้าตอบเรียบ

หลังจากนั้นทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เจ้าของร้านสัมภาษณ์เธอสั้น ๆ พอเห็นเวลาว่างของเธอตรงกับที่ร้านต้องการก็รับเธอไว้ทันที

“เริ่มพรุ่งนี้ไหวไหม”

“ไหวค่ะ”

“ดีเลย งั้นมาลองงานพรุ่งนี้ตอนเย็น พี่อยากได้คนขยันแบบเธอพอดีเลย” เจ้าของร้านยิ้ม และเสียงตอบรับง่าย ๆ จากเจ้าของร้านเหมือนเปิดประตูให้เธอก้าวออกจากโลกของหลงเฟยสักนิดหนึ่ง

“นี่ไง…ก้าวแรกของฉัน”

หลังจากสัมภาษณ์งานเรียบร้อยคะน้าใช้เวลาเดินทางกลับช้า ๆ ให้เนียนเหมือนคนเพิ่งกลับจากตลาด

ลมเย็นพัดเบา ๆ ขณะเธอยกมือแตะบัตรเข้าอาคาร เสียงประตูล็อบบี้ดังติ๊ดก่อนจะเดินเข้าไปอย่างเงียบที่สุด

ทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ร่างสูงในชุดเชิ้ตปลดกระดุมสองเม็ดก็ยืนพิงกรอบประตูเหมือนคนที่รู้ว่าเธอกำลังมา

หลงเฟยมองเธอด้วยสายตานิ่ง ๆ มือถือแก้วไวน์แกว่งเบา ๆ

“ไปไหนมา” เสียงทุ้มต่ำถามโดยไม่เร่ง

คะน้าเงยหน้ามองเขา ดวงตาไม่หลบ

“ไปช่วยยายขายผักค่ะ” เธอตอบเรียบง่าย

เขาไม่ได้ถามต่อทันที แค่จ้องอยู่นานสองวินาที…ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากบาง ๆ

“เด็กดีจริง ๆ” เขาพูดเบา ๆ ราวกับพึมพำกับตัวเองมากกว่าจะพูดกับเธอ

นั่นแหละ…จุดที่เขาพลาด

เขากำลังประเมินเธอต่ำว่าเป็นเด็กบ้าน ๆ ที่ซื่อจนไม่มีทางดิ้นหลุดจากขอบเขตที่เขาวางไว้…

แต่สัญชาตญาณบางอย่างในสายตาคมนั้นกลับบอกว่า เขาอาจเริ่มจับได้เล็กน้อย ว่าเด็กคนนี้…ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด

“พรุ่งนี้ถ้าออกอีก แจ้งคุณจินไว้ด้วย” หลงเฟยพูดทิ้งท้ายเสียงเรียบ ก่อนจะเดินเข้าห้องไป

คะน้ายืนนิ่งอยู่ตรงหน้าประตู ปลายนิ้วเธอกำสายกระเป๋าแน่น ดวงตากลมใสสะท้อนแสงไฟในเพนต์เฮาส์

“คุณประมาทฉันเองนะ…หลงเฟยฉันอาจไม่แข็งแรงเท่าคุณ แต่ฉันไม่ใช่คนที่จะยืนเฉย ๆ แล้วให้คุณบีบจนหมดลมหายใจได้หรอก”คะน้าพูดในใจ

จากนั้นเธอก็รีบเดินกลับเข้าห้องอย่างเงียบ ๆ ไม่มีใครรู้…นอกจากเธอ ว่าวันพรุ่งนี้เธอจะเริ่มหาเงินกลับมาด้วยมือของตัวเอง…

ภายในห้องเพนต์เฮาส์ที่เงียบสนิท แสงไฟจากเมืองลอดเข้ามาทาบพื้นกระเบื้องเป็นลายยาว

คะน้าวางกระเป๋าผ้าเบา ๆ ลงบนโซฟาเบดในห้อง ลมหายใจที่กลั้นมาตลอดทางค่อย ๆ ผ่อนออก เธอถอดเสื้อคลุมพาดไว้บนพนัก พาร่างตัวเองไปยืนริมกระจกบานใหญ่ มองแสงเมืองที่พร่างพราวอยู่ไกลสุดตา

ในเขตเมืองนี้ไม่สนใจว่าเธอเป็นใคร…แต่ก็ไม่ได้ห้ามไม่ให้เธออยู่เหมือนกัน

“เหนื่อยชะมัด…” เธอพึมพำเบา ๆ กับตัวเอง เสียงเบาจนแทบกลืนไปกับอากาศเย็น หันกลับมาที่โต๊ะขณะมือเล็กยื่นไปใช้ปากกาขีดกากบาททับปฏิทินที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ

วันที่หนึ่ง…ผ่านไปแล้ว

เส้นหมึกสีดำที่ลากพาดผ่านตัวเลขเหมือนเส้นเวลาที่กำลังหายไปทีละวัน มันเรียบง่าย แต่กลับบีบแน่นตรงกลางอกอย่างบอกไม่ถูก

“เหลือ…แปดสิบเก้าวัน” เธอพึมพำเบา ๆ ดวงตาไม่ละจากปฏิทิน

คะน้าปล่อยปากกาลงบนโต๊ะเบา ๆ แล้วนั่งพิงหลังกับพนักเสียงแอร์ยังคงดังสม่ำเสมอในความเงียบ เธอยกมือแตะกระจกเย็นเฉียบ ปลายนิ้วไล้ไปตามผิวเรียบใสอย่างไม่มีจุดหมาย ความคิดวนอยู่ในหัว

ตัวเลข 400,000 วนซ้ำไม่หยุดมันไม่ใช่เงินก้อนเล็กสำหรับเธอเลยสักนิด แต่เธอก็รู้…ว่ามันต้องทำให้ได้

“ยังไงก็ต้องหาให้ทัน…” ร่างบางพูดช้า ๆ เหมือนกลัวใครมาได้ยิน ทั้งที่ในห้องนี้มีเพียงเธอคนเดียว ก่อนจะเดินไปนั่งเอนตัวพิงโซฟาเบดในห้องพลางหลับตา สูดลมหายใจเข้าลึก

เสียงเมืองข้างล่างแผ่วเบาเหมือนอยู่คนละโลกกับห้องนี้ ห้องที่เย็น เรียบ และไม่มีความอบอุ่นแม้แต่นิดเดียว

“ให้แค่ 90 วัน” คะน้าพูดกับตัวเอง น้ำเสียงไม่ได้สั่น ไม่ได้เข้มข้น แต่แน่นพอให้รู้ว่าเธอจำทุกคำที่หลงเฟยพูดได้แม่นยำ

มือเล็กดึงผ้าม่านปิดแสงเมืองออกจากสายตา ค่อย ๆ เดินกลับมาที่โซฟาเบดตัวเดียวในห้อง แล้วทรุดตัวลงนั่ง กอดกระเป๋าผ้าไว้แน่นเหมือนมันเป็นเพื่อนเพียงคนเดียวในที่แห่งนี้

“ฉันต้องรอด…” เธอพูดเบา ๆ กับความมืดลมเย็นจากแอร์พัดผ่านผมเธอเบา ๆ

เมืองข้างนอกยังไม่หลับ และคะน้าก็ยังไม่อาจหลับได้เหมือนกัน เพราะตั้งแต่คืนนี้เป็นต้นไป…เธอจะเริ่มลุกขึ้นสู้ในมุมเงียบของเธอ โดยที่ไม่ให้มังกรบนหอคงไม่รู้ตัว
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ใต้เงาหลงเฟย   บทที่ 159

    หลงเฟยอยู่ในสูทสากลสีดำทรงเฉียบปักลายมังกรทองบาง ๆ ที่ปกเสื้อ ประสานความเป็นจีนกับความเป็นสากลได้อย่างพอดีที่สุด ทันทีที่หลงเฟยเห็นคะน้าเขาหยุดหายใจอีกครั้งในวันเดียว “สวยกว่าพิธีเช้าอีก” ร่างสูงกระซิบเบา ๆ “ก็คุณเลือกชุดให้นี่คะ” คะน้ายิ้ม งานเริ่มด้วยพิธีเปิดตัวบ่าวสาว เดินเข้าสู่เวทีท่ามกลางแ

  • ใต้เงาหลงเฟย   บทที่ 158

    รุ่งเช้าในวันแต่งงานของตระกูลหลง ท้องฟ้าเซี่ยงไฮ้สีฟ้าอ่อนแบบหายาก แสงสว่างลอดผ่านม่านผืนบางในคฤหาสน์ใหญ่ บรรยากาศในบ้านไม่ใช่ความเร่งรีบ แต่เป็นความสงบ อบอุ่น และเต็มไปด้วยกลิ่นหอมของดอกกุหลาบขาวกับลิลลี่ที่ทีมงานกำลังจัดอยู่ทุกมุม ห้องแต่งตัวชั้นบนถูกเปิดไฟนุ่ม ๆ ช่างแต่งหน้าช่างผมยืนเรียงกันอย่

  • ใต้เงาหลงเฟย   บทที่ 157

    “เดี๋ยวคุณจินก็บินมาแล้ว” “เอาล่ะ เรามาดูชุดเจ้าสาวต่อดีกว่า” หลงเฟยพูดขึ้น พลางเลือกรูปชุดจากโฟลเดอร์ที่ตั้งชื่อว่า kanaa bridal ไว้ “แล้วคุณอยากให้ฉันใส่แบบไหนคะ?” “ที่เธอชอบที่สุด” หลงเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อยเหมือนกำลังตั้งใจจริง “แต่คุณก็ต้องชอบด้วยค่ะ” “คะน้าไม่ว่าชุดไหน เธอก็สวย” เขาส่ายหัวเบา

  • ใต้เงาหลงเฟย   บทที่ 156

    หลังจากสรุปจำนวนแขกและรูปแบบงานได้อย่างสงบที่สุดในรอบเช้าปั่นป่วน ช่วงบ่ายของวันนั้นบรรยากาศในบ้านหลังโต ตระกูลหลงก็เปลี่ยนไปเป็นอีกโลกหนึ่ง ราวกับจากสนามรบกลายเป็นสตูดิโอวางแผนความฝันของคู่รัก… บ่ายวันเดียวกัน ห้องนั่งเล่นชั้นล่าง คะน้านั่งอยู่บนโซฟาตัวเดิม แต่คราวนี้ไม่ใช่เพื่อเถียง แต่เพื่อไล่ดู

  • ใต้เงาหลงเฟย   บทที่ 155

    “คะน้า…” “คะ?” “ฉันตั้งใจรักเธอมากนะ” เสียงกระซิบเบา ๆ ข้างหู ทำให้หัวใจคะน้าสั่นอย่างที่คำหวานเกินไปไม่เคยทำได้ “ฉันก็เหมือนกันค่ะ” เธอยิ้ม หลงเฟยกอดแน่นขึ้นนิด เหมือนยืนยันคำพูดโดยไม่ต้องอธิบายอะไรอีก วันนี้ไม่มีเสียงถกเถียงเรื่องงานแต่งอีกแล้ว จะมีแค่เสียงหัวใจของสองคน ที่กำลังก้าวจากสู้กันเ

  • ใต้เงาหลงเฟย   บทที่ 154

    เสียงของคะน้าดังสะเทือนไปทั้งโถงบ้าน แต่แทนที่หลงเฟยจะเถียงกลับ เขากลับยกมือยอมแพ้ทั้งสองข้างอย่างสงบ เหมือนผู้ชายที่รู้ว่าถ้ายังไปต่อ จะไม่มีทางชนะตั้งแต่ต้น… “ล้อเล่น” หลงเฟยพูดเสียงเบานุ่มจนคะน้าขมวดคิ้ว “ฉันจะไม่บังคับเรื่องจำนวนแขกแล้วให้เราค่อย ๆ คุยกันใหม่ดีกว่า” คะน้าไม่ค่อยเชื่อ แต่ก็ยิ้

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status