ระหว่างรอเธอล้างหน้าล้างตาเขาก็ไปเตรียมผ้าสำหรับเช็ดหน้าให้เธอ เมื่อหญิงสาวออกมาจากห้องน้ำภวินทร์ที่ยืนรออยู่จึงยื่นผ้าให้เธอ
“ขอบคุณค่ะ”
“ไปกินข้าวกัน”
เป็นอีกครั้งที่ภวินทร์จูงมือเธอเดินเพื่อไปที่โต๊ะอาหาร พราวฟ้ามองอาหารมากมายเต็มโต๊ะและนั่งลงทานข้าวเงียบๆ ส่วนภวินทร์ก็เดินไปนั่งฝั่งตรงข้ามเธอ
“ถ้าทานข้าวเสร็จแล้วต้องทานยาอีกรอบนะคะ ไม่งั้นกลางคืนไข้จะกลับมาอีก”
“อืม”เขาตอบรับเธอสั้นๆอย่างว่าง่ายโดยไม่บ่นสักคำ
“ยอมทานยาง่ายๆแล้วหรอคะ”พราวฟ้าถามด้วยความประหลาดใจ
“อืม”
หลังจัดการให้ภวินทร์ทานยาเสร็จเรียบร้อยแล้วเธอจึงขอตัวกลับบ้าน
“ดึกแล้วฟ้าขอตัวกลับก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวผมไปส่ง”
“ไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวจะไม่หายป่วย ฟ้ากลับเองได้ค่ะ”
“ไม่ได้ ถ้าไม่ให้ไปส่งก็นอนที่นี่”เมื่อรู้ตัวว่าตัวเองหลุดปากพูดสิ่งที่ไม่ควรทั้งคู่ได้แต่ยืนนิ่งจ้องตากัน
“เอ่อ ผมหมายถึงนอนห้องนอนแขก พรุ่งนี้ผมมีธุระต้องพาคุณออกไปข้างนอกด้วย”
“เดี๋ยวตอนเช้าฟ้ารีบมาเลยค่ะ”
“คือผมยังไม่หายดี คุณอยู่เป็นเพื่อนผมได้มั้ย”
“คุณวิน”เมื่อได้ยินคำขอร้องของเขาพราวฟ้าก็ใจอ่อน
“ได้มั้ย”
“แต่ฟ้าไม่มีชุดเปลี่ยน”
ภวินทร์หยิบชุดที่เตรียมไว้ให้เธอตั้งแต่ช่วงเย็นตอนเธอนอนหลับขึ้นมา
“ผมสั่งมาไว้ให้แล้ว ขอแค่คุณตกลง”
“เอ่อ…ก็ได้ค่ะ”
“คุณไม่ต้องห่วงวันนี้ที่อยู่เป็นเพื่อนผม ผมจะจ่ายค่าทำงานล่วงเวลาให้”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฟ้าไม่ได้ทำไปเพราะเงิน”
ภวินทร์ยิ้มให้กับคำตอบของเธอก่อนจะเดินนำพราวฟ้าขึ้นไปที่ห้องนอนซึ่งอยู่ตรงข้ามกับห้องนอนของเขา คืนนั้นทั้งสองคนนอนไม่หลับพลิกตัวไปมาคิดถึงแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้ ความรู้สึกประหลาดแล่นเข้ามาในหัวใจ แค่คิดถึงใบหน้า แววตาและรอยยิ้มของกันและกันใจก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะ ทั้งคู่ได้แต่สับสนว่าความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันแน่
เช้าวันรุ่งขึ้นพราวฟ้าตื่นนอนแต่เช้าลงมาทำอาหารเช้าเตรียมไว้ให้เขาก่อนขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัว ภวินทร์เมื่อตื่นนอนและจัดการธุระส่วนตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วลงมารอพราวฟ้าข้างล่าง เขาเดินผ่านโต๊ะอาหารเห็นมีอาหารวางอยู่บนโต๊ะหนึ่งชุด จึงเดินไปดูในครัวด้วยความแปลกใจ เขาเห็นมีอาหารวางอยู่ในครัวอีกชุดจึงเข้าใจแล้วว่าที่อยู่บนโต๊ะอาหารคือที่พราวฟ้าเตรียมไว้ให้เขา ส่วนที่อยู่ในครัวเธอน่าจะเตรียมไว้ให้ตัวเอง ภวินทร์จึงหยิบอาหารอีกชุดมาวางไว้บนโต๊ะข้างกัน
“เสร็จแล้วหรอมาทานข้าวสิ”
“คุณทานเลยค่ะเดี๋ยวฟ้าไปทานในครัว”
“ทานด้วยกันตรงนี้ ผมหยิบมาแล้ว”เมื่อเห็นอาหารอีกชุดถูกยกจากครัวมาไว้บนโต๊ะทานข้าวพราวฟ้าจึงจำต้องเดินลงมานั่งตรงข้ามเขาและเลื่อนจานอาหารไปไว้ตรงหน้าตัวเองพร้อมกับนั่งทานข้าวเงียบๆ
“ทำอาหารเก่งเหมือนกันนะ”อยู่ๆภวินทร์ก็ชมเธอขึ้นมา
“ทำได้แค่อาหารธรรมดาแบบนี้ค่ะ ถ้าอาหารหรูๆฟ้าทำไม่เป็น”พราวฟ้าพูดพร้อมทั้งก้มลงมองอาหารเช้าตรงหน้าที่มีข้าวผัด ไข่ดาวและไส้กรอก
“ผมชอบ อร่อยดี”
คำพูดสั้นๆของภวินทร์ทำให้หัวใจของคนฟังพองโตด้วยความดีใจ เธอไม่คิดมาก่อนว่าจะได้ยินคำชมจากปากเขา
“ขอบคุณค่ะ”พราวฟ้ากล่าวขอบคุณเขาและก้มหน้าทานข้าวต่อ ภวินทร์ที่เห็นท่าทางเขินอายของคนตรงหน้าก็อมยิ้มพลางคิดในใจว่าน่ารักดี
“หายปวดหัวรึยังคะ”
“หายแล้ว”
“แน่ใจนะคะ ไม่ใช่ว่าไม่อยากกินยา”
“แน่ เห็นผมเป็นคนชอบโกหกหรอ”
“ป่าวค่ะ ฟ้าแค่ถามให้แน่ใจเพราะคิดว่าแถวนี้น่าจะมีคนไม่ชอบกินยา”
“รู้ทัน”
“แล้ววันนี้เราต้องไปที่ไหนกันคะ”
“ไปดูสถานที่ถ่ายโฆษณา”ลูกค้ารายนี้เป็นลูกค้ารายใหญ่ของเขาและค่อนข้างเรื่องมากภวินทร์จึงอยากไปดูสถานที่ด้วยตัวเองเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด
ภวินทร์ขับรถมุ่งหน้าออกต่างจังหวัดใช้เวลาเดินทางเกือบสองชั่วโมงก็มาถึงบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ริมน้ำ รอบๆบริเวณบ้านถูกจัดเป็นสวนด้วยต้นไม้และไม้ประดับอย่างสวยงาม
เมื่อทั้งสองคนก้าวขาลงจากรถก็มีคุณลุงคุณป้าคู่หนึ่งเดินออกมาต้อนรับทั้งสองคน
“คุณลุงคุณป้าสวัสดีครับ”ภวินทร์ทักทายทั้งสองคน
“สวัสดีๆ มากันเหนื่อยๆเข้าบ้านไปดื่มน้ำดื่มท่าก่อนป้าเตรียมน้ำเย็นๆมาไว้ให้แล้ว”เมื่อทั้งคู่เข้าไปนั่งพักบนบ้าน ป้าดาผู้เป็นเจ้าของบ้านก็นำน้ำลอยดอกมะลิและสาคูไส้หมูมาให้ผู้มาเยือนทาน
“น่าทานจังเลยค่ะคุณป้า”
“ลองทานดูนะลูก ป้าทำเองเลยนะ”
“ชื่นใจจังค่ะ สาคูก็อร่อยมาก”พราวฟ้าบอกป้าดาหลังจากดื่มน้ำลอยดอกมะลิเย็นๆหอมๆชื่นใจและชิมสาคูไส้หมูที่มีหลากหลายสีสัน
“อร่อยก็ทานเยอะๆเลย ในครัวยังมีอีกเยอะ”
“คุณวินลองทานดูสิคะอร่อยมาก”พราวฟ้าหันไปบอกภวินทร์พร้อมรอยยิ้มสดใส ทำเอาคนตัวโตที่นั่งข้างๆถึงกับหัวใจเต้นแรง
หลังจากนั่งพักจนหายเหนื่อยแล้วลุงศักดิ์ก็พา ภวินทร์และพราวฟ้าไปเดินดูรอบๆบ้าน บ้านเรือนไทยหลังนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่มาก ด้านนึงของบ้านอยู่ติดกับคลองน้ำมีศาลาริมน้ำขนาดใหญ่ตั้งอยู่ มองออกไปในน้ำเห็นดอกบัวสีขาวและชมพูอยู่บนผิวน้ำแถมยังมีสะพานไม้ข้ามคลองไปยังสวนผลไม้ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยซึ่งพื้นที่บ้านและสวนผลไม้ทั้งหมดนี่ล้วนแล้วแต่เป็นของป้าดาและลุงศักดิ์ทั้งหมด
“สวยมากเลยค่ะ มองไปทางไหนก็สวยไปหมด”
“ชอบหรอ”ภวินทร์ถามพราวฟ้า
พราวฟ้าไม่ตอบแต่ยิ้มให้เขาและพยักหน้ารับ ทั้งสามคนใช้เวลาเดินดูพื้นที่โดยรอบร่วมสองชั่วโมง ภวินทร์และพราวฟ้าจดบันทึกข้อมูลและถ่ายรูปพื้นที่ที่จะใช้ถ่ายทำโฆษณาไว้อย่างละเอียดเพื่อเก็บไว้ใช้นำเสนองาน
“น่าจะได้ข้อมูลเยอะพอสมควรแล้ว กลับไปพักกันก่อนดีกว่าครับ”ภวินทร์หันไปบอกเจ้าของบ้านและพราวฟ้า
เมื่อทั้งสามคนกลับเข้ามาในบ้านก็เห็นอาหารเที่ยงวางรออยู่ก่อนแล้ว แค่มองด้วยตาก็รู้ว่าอาหารแต่ละอย่างถูกจัดเตรียมอย่างพิถีพิถันและอาหารแต่ละชนิดล้วนเป็นอาหารไทยโบราณที่หาทานได้ยากมากในสมัยนี้มีทั้งข้าวแช่ หมูสร่ง แกงคั่วหัวตาลกุ้งสดและยำทวาย ปิดท้ายด้วยแตงโมปลาป่น พราวฟ้ายืนตาโตมองอาหารและหันไปถามป้าดาด้วยความตะลึง
“คุณป้าทำเองหมดนี่เลยหรอคะ”
“จ้า”ป้าดาตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้มเอ็นดูกับท่าทางน่ารักของสาวน้อย
“ป้าเขาถนัดมากๆเรื่องอาหารไทยต้องยกให้คนนี้ ทำอร่อยทุกอย่าง”ลุงศักดิ์ชื่นชมภรรยาให้ทุกคนฟัง
“คุณป้าเก่งจังเลยค่ะฟ้าอยากทำได้แบบนี้บ้าง บ่ายนี้คุณป้าสอนฟ้าสักเมนูได้มั้ยคะ”พราวฟ้าถามด้วยแววตาเป็นประกาย
“ได้สิ ทานข้าวเที่ยงให้เรียบร้อยก่อนเดี๋ยวป้าสอนให้ ว่าแต่ไม่รีบกลับกันใช่มั้ย”พราวฟ้าที่ลืมคิดเรื่องนี้จึงหันไปมองหน้าภวินทร์เพื่อขอคำตอบ
“ไม่รีบครับ”ทันทีที่ได้ยินคำตอบจากปากเขาพราวฟ้าก็ยิ้มกว้างด้วยความดีใจ
“มาๆๆทานข้าวกันได้แล้วนี่ก็จะบ่ายโมงแล้ว เดี๋ยวได้กินข้าวเที่ยงพร้อมข้าวเย็นกันพอดี”ลุงศักดิ์บอกทุกคน
หลังฝึกงานจบเพียงไม่นานพราวฟ้าก็เริ่มต้นงานใหม่ที่สำนักพิมพ์ชื่อดังแห่งหนึ่ง เธอเข้ามาทำงานในตำแหน่งนักแปล พราวฟ้าแม้จะจบเอกภาษาอังกฤษมาแต่ความสามารถในด้านภาษาต่างประเทศ อื่นๆเธอก็ทำได้ดีทีเดียวเช่นกัน ทำให้ในเวลาเพียงไม่กี่เดือนเธอก็กลายเป็นที่รักและไว้วางใจของหัวหน้าและเพื่อนร่วมงานแม้ว่าหน้าที่การงานของเธอจะกำลังไปได้สวย แต่ทุกวันหลังเลิกงานเมื่อกลับมาอยู่บ้านกับตัวเองความทรงจำเก่าๆที่เคยมีเขาคนนั้นอยู่เคียงข้างก็เข้ามารบกวนหัวใจของเธอตลอดเวลา ยิ่งอยากลืมยิ่งคิดถึงยิ่งโหยหา แต่ก็ทำได้เพียงตามดูข่าวเขาเงียบๆและเก็บความคิดถึงนี้ไว้ให้ลึกสุดใจภวินทร์เองตั้งแต่พราวฟ้าจากไปความรู้สึกของเขาในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับเธอเลยแม้แต่น้อย ได้แต่ระบายความคิดถึงโดยการไปนอนดมกลิ่นหอมจากกายเธอที่ติดอยู่บนที่นอนในห้องที่เธอเคยนอน คืนแล้วคืนเล่าจนกลิ่นหอมเริ่มจางหายแต่ความรู้สึกนั้นกลับสวนทาง ความคิดถึงนับวันยิ่งทำงานมากขึ้น ไม่ใช่ว่าการได้พบเจอเธออีกครั้งจะเป็นเรื่องยากแต่เขาไม่อยากทำให้เธออึดอัดใจจึงทำได้เพียงเฝ้ามองเธออยู่ห่างๆเมื่อเริ่มทำงานได้สักพักพราวฟ้าเริ่มรู้สึกเหนื่อยกับการเดินทางเพราะที่
เช้าวันรุ่งขึ้นเมื่อพราวฟ้าอาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วและเดินลงมาข้างล่างเตรียมออกไปทำงาน หางตาเธอเห็นภวินทร์กำลังทำอาหารอยู่ในครัวพร้อมกับท่าทางงกๆเงิ่นๆจึงเดินเข้าไปดู“คุณวินทำอะไรคะ”“ผมกำลังทำอาหารเช้าให้คุณอยู่แต่ว่า”ภวินทร์มองไปที่ไข่ดาวและขนมปังปิ้งที่มีสีน้ำตาลเข้มวางอยู่บนโต๊ะ“คุณแน่ใจนะคะว่าจะให้ฟ้าทาน”“เอ่อ ผมทำครั้งแรก”“ทำกับข้าวไม่เป็น แล้วซื้ออาหารมาไว้ในตู้เย็นทำไมเยอะแยะคะ”“ปกติวันหยุดจะมีแม่บ้านมาทำให้ก็เลยซื้อของมาเผื่อไว้”“มาค่ะเดี๋ยวฟ้าทำให้”พราวฟ้าบอกให้ภวินทร์ไปนั่งรอส่วนเธอก็ลงมือทำอาหารเช้าง่ายๆสำหรับสองคน ภวินทร์นั่งมองหญิงสาวทำอาหารก็นึกตลกตัวเองที่อยากง้อเธอจนต้องลงมือเข้าครัวเพื่อทำอาหารเช้าให้เธอ เขาคิดในใจว่าคุณจะรู้หรือเปล่าว่าคุณคือผู้หญิงคนแรกที่ผมทำอะไรแบบนี้ให้ เขานั่งมองเธอไปอมยิ้มไปแอบคิดไปว่าถ้าตื่นมาทุกเช้าแล้วเจอเธออยู่ตรงนี้จะมีความสุขแค่ไหน ก่อนจะรีบขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อออกไปทำงานพร้อมกันเพราะกลัวเธอจะแอบหนีไปก่อน“เรื่องเมื่อคืนขอโทษนะ”ภวินทร์บอกพราวฟ้าขณะขับรถไปทำงาน ทำให้พราวฟ้านิ่งอยู่พักหนึ่งที่ได้ยินเขาขอโทษตัวเอง“ฟ้าลืมไป
"คุณวินอย่าทำให้ฟ้าลำบากใจเลยนะคะ คนอื่นมาเห็นเขาจะมองฟ้าไม่ดีได้นะคะ ฟ้าขอร้อง"ภวินทร์ไม่ตอบแต่เดินไปล็อกประตูและเดินกลับมาดึงแขนพราวฟ้าลงไปนั่งทานข้าวด้วยกัน"กินข้าว ตั้งแต่เย็นยังไม่ได้กินอะไรเลยไม่ใช่หรอ""คุณวิน""หรือจะให้ป้อน""ฟ้าทานเองได้ค่ะ"พราวฟ้าเมื่อเห็นว่าขัดเขาไม่ได้จึงยอมนั่งลงทานข้าวเงียบๆ"หึ ก็แค่นั้น"ภวินทร์ยิ้มอย่างผู้ชนะก่อนจะตักอาหารเข้าปากตัวเอง"ฟ้าอิ่มแล้วขอตัวก่อนนะคะ""ผมยังไม่ได้ดื่มเลยจะกลับได้ยังไง""คุณวิน ฟ้าต้องไปทำงานนะคะ""นี่ก็ทำงานไง ชงเหล้าให้ผม นั่งลง"ภวินทร์นึกน้อยใจที่เธอเอาแต่ผลักไสเขา“…”พราวฟ้าไม่ตอบแต่จำใจต้องนั่งลงตามคำสั่งของเจ้านายพร้อมกับชงเหล้ายื่นให้เขา“ฟ้าชงไม่เก่งนะคะ ถ้าไม่ถูกปากฟ้าจะไปเรียกคนอื่นให้”“อะไรที่เป็นคุณผมชอบทั้งนั้น”ภวินทร์หลุดปากพูดความในใจออกมาทำเอาพราวฟ้านั่งนิ่งอึ้งกับคำพูดเขา ก่อนจะพยายามสลัดคำพูดเมื่อครู่ทิ้งไปนั่งชงเหล้าให้เขาเงียบๆภวินทร์เมื่อเห็นหญิงสาวเงียบ เฉยชา ไม่ยอมพูดคุยกับตัวเองก็เอาแต่นั่งกระดกเหล้าเข้าปากจนเมาแทบไม่ได้สติ“คุณวินเมามากแล้วนะคะพอได้แล้วค่ะ”พราวฟ้าห้ามเขาเมื่อเห็นว่าเขาเมามากแล้ว
เสียงไก่ขันและเสียงนกร้องในตอนเช้ามืดทำให้พราวฟ้ารู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอตกใจมากเมื่อเห็นว่าตัวเองนอนอยู่บนอกแกร่งของใครบางคน พราวฟ้าค่อยๆเงยหน้าขึ้นไปมองก็เห็นภวินทร์กำลังนอนหลับอยู่"คุณวิน"พราวฟ้าอุทานด้วยความตกใจ"อื้อ เสียงดังแต่เช้าเลยขอนอนต่ออีกหน่อยนะ" ภวินทร์ไม่ยอมตื่นแถมยังกระชับอ้อมแขนกอดพราวฟ้าไว้แน่น"คุณวินปล่อยได้แล้วค่ะ นี่ฟ้าเองนะคะ"ภวินทร์ลืมตาตื่นตามเสียงเรียกของหญิงสาว เขานอนมองพราวฟ้าที่อยู่ในอ้อมกอดของตัวเองนิ่งก่อนจะได้สติรีบผละออกจากเธอ"เอ่อ ผมขอโทษผมไม่ได้จะล่วงเกินคุณนะ เมื่อคืนคุณกอดแขนผมไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเลย ผมก็เลยต้องปล่อยเลยตามเลยแล้วก็เผลอหลับไป"ภวินทร์รีบอธิบายให้หญิงสาวฟังเพราะกลัวเธอเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นคนฉวยโอกาส"ฟ้า เอ่อฟ้าก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่คะ ฟ้าขอตัวออกไปข้างนอกก่อนนะคะ"พราวฟ้ารีบลุกเดินออกจากห้องไปทันที"หึ ท่าเขินยังน่ารักเลยยัยฟ้าเอ๊ย"ภวินทร์นอนยิ้มอย่างมีความสุขก่อนจะเดินตามพราวฟ้าออกไปข้างนอกภวินทร์ออกมานั่งเล่นกับลุงศักดิ์พลางสายตาก็ลอบมองพราวฟ้าที่นั่งพับดอกบัวและจัดเตรียมของสำหรับใส่บาตรเช้านี้อยู่เป็นระยะ"นี่พ่อหนุ่มแฟนเองคนนี้น่ะรั
“ตายละฝนฟ้าอะไรเนี่ยคิดจะตกก็ตก”ป้าดาบ่น“รอให้ฝนหยุดก่อนค่อยกลับแล้วกัน อาจจะค่ำหน่อยนะคุณมีธุระมั้ยตอนเย็น”ภวินทร์ถามพราวฟ้าหลังเหลือบดูนาฬิกาที่ข้อมือบอกเวลาสี่โมงเย็นแล้ว“ไม่มีค่ะ ก็คุณลางานให้ฟ้าแล้วนี่คะ”หญิงสาวเตือนความจำให้ภวินทร์เพราะเขาลางานให้เธอจนถึงวันอาทิตย์เพราะอยากให้เธอได้พักผ่อนบ้าง“จริงด้วยผมลืม”“แก่แล้วก็ขี้ลืมแบบนี้แหละค่ะ”“คุณว่าอะไรนะ”“เปล่าค่ะ”“นี่คุณว่าผมแก่ยังมาบอกว่าเปล่าอีกหรอ”“ได้ยินแล้วจะถามย้ำทำไมคะ”“พราวฟ้า!!”ภวินทร์อยากจะจับคนตัวเล็กมาขย้ำที่เธอยั่วโมโหเขา แต่เกรงใจคุณลุงคุณป้าจึงทำได้เพียงมองเธออย่างคาดโทษเวลาผ่านไปจนถึงหกโมงเย็นฝนฟ้าก็ไม่มีท่าทีว่าจะหยุดเลยป้าดาจึงชวนทั้งสองคนค้างคืนที่บ้านตน“ป้าว่าคืนนี้ก็นอนซะที่นี่แหละนะ ฝนฟ้าท่าจะไม่หยุดง่ายเดี๋ยวป้าไปหาเสื้อผ้ามาให้เปลี่ยนจะได้ไปอาบน้ำอาบท่ามากินข้าวเย็นกัน”“เออ ลุงว่าก็ดีเหมือนกันนะขับรถกลับกลางค่ำกลางคืนมันอันตราย ไปเลยแม่มึงไปหาเสื้อผ้ามาให้เด็กๆ”ลุงศักดิ์กับป้าดาตกลงกันสองคนเสร็จสรรพโดยที่ภวินทร์กับพราวฟ้าไม่ได้อ้าปากพูดสักคำ“คุณโอเคมั้ย ถ้าไม่โอเคฝนหยุดเรากลับกันก็ได้นะ ผมขับรถ
หลังจากทานข้าวเที่ยงเสร็จป้าดากับพราวฟ้าจึงเข้าครัวเพื่อเรียนทำอาหาร“อยากทำอะไรเป็นพิเศษมั้ยจ๊ะลูก”ป้าดาถามพราวฟ้า“ฟ้าเห็นมีดอกบัวอยู่ในคลองหลังบ้านเต็มเลยค่ะเราเอามาทำเมี่ยงคำกลีบบัวได้มั้ยคะ”“ได้สิลูกแต่ใช้เวลาทำนานหน่อยนะหนูไหวมั้ย”“ไหวค่ะ ฟ้าอยากลองทำมานานแล้วค่ะวันนี้มีโอกาสแล้วจะตั้งเรียนให้เต็มที่เลยค่ะ”“อืม ดีๆๆ ป้าชอบคนใฝ่รู้ มาเริ่มกันเลย แต่ก่อนอื่นต้องไปเก็บดอกบัวมาก่อน เดี๋ยวป้าให้ลุงไปเก็บให้”“ผมไปเก็บให้เองครับ”ภวินทร์ที่พึ่งเดินเข้าครัวมาบอกทั้งสองคน“ขอฟ้าไปด้วยนะคะ”“งั้นก็ไปทั้งสองคนนั่นล่ะ ให้ลุงไปเป็นเพื่อนด้วย ส่วนป้าจะเตรียมของรออยู่ที่นี่”เมื่อทั้งสามมาถึงคลองหลังบ้านภวินทร์ก็อาสาเป็นคนพายเรือเองเพราะอยากลอง ภวินทร์ลงไปนั่งบนเรือเป็นคนแรกตามด้วยพราวฟ้า ระหว่างยื่นขาลงไปบนเรือเธอเกิดเสียหลักล้มลงไปนั่งทับบนตักของภวินทร์พอดี สองมือโอบรอบคอเขาโดยอัตโนมัติเพราะกลัวตก ส่วนภวินทร์ก็โอบเอวสาวน้อยไว้แน่นทั้งคู่มองหน้ากันใจเต้นแรง หน้าแดงหูแดงไปหมดก่อนที่พราวฟ้าจะตั้งสติได้รีบพยุงตัวลุกจากตักเขา“ฟ้าขอโทษค่ะ”พราวฟ้าขอโทษเขาพร้อมกับพยายามลุกออกจากตักเขาอย่างทุลักท