Beranda / โรแมนติก / ในอ้อมกอดชรัณ NC20+ / บทที่ 6 ไร้ที่พึ่งพิง

Share

บทที่ 6 ไร้ที่พึ่งพิง

last update Terakhir Diperbarui: 2024-11-13 17:53:35

บทที่ 6 ไร้ที่พึ่งพิง

ไม่รู้ว่าเป็นเขาจริงไหม ที่จ่ายค่าแอดมิตโรงพยาบาลให้ ราคาต่อคืนบวกกับค่ายาค่าดูแลผู้ป่วยไม่มีญาติมาเฝ้าคงหลายหมื่นแน่เลย เธอจึงไม่ปล่อยให้ความสงสัยครอบงำ เอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร.ไปหาชรัณทันที ทว่าสัญญาณรอสายดังขึ้นจนสายถูกตัดไปเอง เธอไม่ท้อใจที่จะโทร.ไปหาอีก คราวนี้กลับติดต่อไม่ได้ แถมยังบริการฝากหมายเลขโทร.กลับอีก

หรือนี่จะเป็นการรับผิดชอบของเขา จ่ายค่ารักษาพยาบาลแล้วก็จบ

“แต่ตาลไม่ได้ไปมั่วกับผู้ชายคนไหนนี่คะ” ต้นตาลเบะปากร้องไห้ นั่งชันเข่าบนเตียง กอดเข่าแล้วฟุบหน้าลงร้องไห้ออกมาจนพยาบาลตกใจ

“เป็นอะไรหรือเปล่าคะคุณ”

“เปล่าค่ะ ฉันแค่ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้”

“อีกเดี๋ยวคุณหมอจะเข้ามาตรวจ นอนพักดีกว่านะคะ”

“...”

“แล้วยังมีอาการวิงเวียนศีรษะอยู่อีกไหมคะ หรืออาการพะอืดพะอมอยากอ้วกมีไหม”

“ไม่มีค่ะ คนที่จ่ายค่ารักษาให้ เขาจะมาอีกไหมคะ” จู่ๆ คำถามหนึ่งก็ผุดขึ้นในหัว แล้วถ้าคนคนนั้นไม่ใช่ชรัณล่ะ? หรือว่าเป็นเขานั่นแหละที่พาเธอมารักษาโรงพยาบาลเอกชน แล้วออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด

@ร้านทอง

“พี่ชัชขอแปรงทาสีอันเล็กหน่อยครับ”

“...”

“พี่ชัช” ยังนั่งนิ่ง “พี่ชัช” ก็ยังไม่ตอบกลับ คล้ายว่าวิญญาณออกจากร่างเขาไปแล้วมั้ง “ไอสัตว์!”

“มึงก้าวร้าวใหญ่แล้วนะไอ้อั้ม”

“ก็พี่เป็นเหี้ยไรล่ะ เรียกจนคอจะแตกแล้วเนี่ย”

“เรียกกูตอนไหน”

“นั่นไง” รุ่นน้องลงมาจากบันไดแล้วนั่งลงข้างกับชรัณ “นี่เป็นอะไรเนี่ย เหม่อเก่ง เหม่อเอาโล่เลยมั้ง เหม่อเป็นพระเอกเอ็มวีเลย”

“ดีๆ เดี๋ยวจะโดนตีน”

ท่าทางเขาแปลกไปจนรุ่นน้องจับสังเกตได้ อั้มหรี่ตามองอย่างกดดันทางอ้อม หากไม่เล่าตอนนี้เขาก็จะกดดันแบบนี้ไปเรื่อยๆ

“เล่ามาเลย”

“เล่าไร”

“ก็สิ่งที่มันกวนใจพี่ไง แหมเหม่อขนาดนี้บอกไม่มีอะไรนี่กูว่าแปลกนะพี่ชัช”

“มึงเคยวันไนต์ปะ”

“แหมพี่ รู้ๆ กันอยู่นะเราน่ะ ถามมาได้”

“แล้วมึงเคยเปิดซิงใครไหม”

“เคยดิ แฟนเก่าผมไง”

“แล้วมึงใส่ถุงปะ”

“โห ตอนนั้นเลือดมันร้อนว่ะพี่ ถุงเถิงอะไรไม่ใส่หรอก เอาสดเนี่ยแหละเสียวดี”

“เหรอ”

“ว่าแต่ถามทำไม พี่ไม่น่ามานั่งถามคำถามโง่ๆ แบบนี้นะพี่ชัช”

ชรัณกลอกตามองบนด้วยความเอือมระอาใจกับรุ่นน้อง แต่เพราะสนิทกันมากเขาจึงไม่ถือสามัน

“ฮั่นแน่ หรือว่าพี่ไปฝากไข่ไว้ในท้องใครมาวะ ถึงมาตะล่อมถามผมแบบนี้อะ”

ชรัณเลือกที่จะเงียบแล้วลุกขึ้นไปทำงานที่เหลือต่อจนเสร็จสรรพ จากนั้นเขาก็ตรงดิ่งไปไร่ปาริฉัตร

“อ้าว” อธิราชร้องทักเพื่อนขณะที่เจ้าตัวควบม้าอยู่กลางไร่ “ไปไงมาไงเนี่ย ไม่โผล่หัวมาเกือบเดือนนะ”

“ยุ่งทำร้านไง”

“อ๋อ กูก็ลืมไปเลย”

“กูมีเรื่องจะถาม”

“ถามเรื่องไร ตอบได้กูก็ตอบหมดแหละ ไหนถามดู”

“เราสามารถตรวจดีเอ็นเอเด็กได้ตอนกี่เดือนวะ”

“ฉิบหาย! เห็นหน้ากูฉลาดมากมั้ง ทำไมไม่ไปถามอดีตแฟนหมอมึงล่ะวะ”

“ไหนบอกมึงตอบได้ไง โธ่”

“ถามกูเกี่ยวกับเกษตรดิ กูตอบได้หมดแหละ แต่มึงเล่นถามคำถามที่ไม่ใช่แนวทางกูไง” อธิราชจูงม้าไปผูกไว้ เขาถอดหมวกคาวบอยแล้วกระพือสาบเสื้อ สายตาจดจ้องเพื่อน “แล้วถามไปทำไม มึงจะไปตรวจดีเอ็นเอใคร”

“เปล่า ถามประดับความรู้ในหัว”

“แปลก” อธิราชหรี่ตาจับผิด น้อยครั้งที่ชรัณจะถามอะไรแปลกๆ แบบนี้กับเขา ปกติแทบไม่คุยเรื่องพวกนี้นอกจากปรึกษากันเรื่องธุรกิจ ไม่ก็ชวนกันทำปิ้งย่างหรือนัดกันดื่มเหล้าที่บ้านเขาช่วงเย็น

“แปลกอะไร” เมื่อรู้ตัวว่ากำลังถูกจับผิดอยู่ ชรัณจึงเงยหน้าสบตากับเพื่อน “กูถามไม่ได้เลยเหรอวะ”

“ถามมันถามได้ แต่กูแค่แปลกใจไง” อธิราชชี้หน้า “หรือมีใครมาบอกว่าท้องกับมึงวะ” อธิราชเดาได้แม่นยำกว่าหมอดูบางคนอีก

“เปล่า”

“แล้วไป”

“งั้นกูขอตัวก่อน เย็นนี้ต้องพาแม่ไปหาเพื่อนในเมือง” เขากำลังโกหกเพื่อนคำโต เพราะมีบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวจึงต้องไปจัดการในทันที อธิราชพยักหน้ารับรู้แล้วเดินไปส่งเพื่อนขึ้นรถ

“มีอะไรอยากปรึกษากูอีกก็มาหากูนะ เดี๋ยวจะไปหาความรู้มาประดับหัวไว้ กันมึงถามจะได้ตอบตรงคำถามได้”

“เออ” รู้ว่าอธิราชกำลังหยอกล้อถึงเรื่องที่เขาเอ่ยถามไปเมื่อหลายนาทีก่อน “เอาไว้นัดกันอีก กูไปก่อน” ชรัณโบกมือลาเพื่อนแล้วจึงขับรถออกมาจากไร่ปาริฉัตร มุ่งตรงไปยังโรงพยาบาลเอกชนในเมือง ใช้เวลาเดินทางมาถึงเกือบหนึ่งชั่วโมงเต็ม

ก๊อก ก๊อก

เสียงเคาะประตูไม่อาจทำให้คนที่นั่งเหม่อลอยอยู่บนเตียงผู้ป่วยหลุดออกจากภวังค์ความคิดตัวเองได้ กระทั่งเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกสองครั้ง ต้นตาลกะพริบตาไล่หยาดน้ำตาแล้วหันหน้าไปมองคนที่เปิดประตูเดินเข้ามา

“พี่ชัช” ดวงตาหม่นแสงเริ่มมีม่านน้ำตามาบดบังอีกครั้ง “ตาลคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นพี่จริงๆ”

“ฉันมาที่นี่เพื่อมาตกลงกับเธอ”

“คะ?”

“ฉันยอมรับว่าคืนนั้นไม่ได้ป้องกัน แต่ฉันก็ไม่มั่นใจเหมือนกันว่านอกจากฉันแล้วเธอไปนอนกับใครมาหรือเปล่า”

“ตะ ตาลไม่ได้นอนกับใคร” ไม่รู้จะหาคำไหนมาพูดให้เขาเชื่อเหมือนกัน ว่าเธอน่ะไม่ได้นอนกับใครมั่วเหมือนที่เขากล่าวหา แต่ก็เข้าใจดีว่าชรัณคงไม่เชื่อใจเธอ ทำงานในคลับแบบนั้นใครเขาจะไปเชื่อได้ล่ะ อีกอย่างไม่มีหลักฐานอะไรมายืนยันด้วย ว่าสิ่งที่เธอพูดมานั้นเป็นความจริง

“ฉันจะรับผิดชอบ หากเด็กในท้องเธอเป็นลูกฉัน”

“...”!

“พอเด็กคลอดฉันจะเลี้ยงเขาเอง”

นั่นก็แปลว่าเขาไม่ได้ต้องการแม่อย่างเธอสินะ คลอดลูกให้เขาก็จบกัน

“แล้วตาลต้องทำยังไงพี่ถึงจะเชื่อ”

“ตรวจดีเอ็นเอ”

“ตาลไม่เคยนอนกับใคร จริงๆ นะคะ พี่ก็รู้ว่าคืนนั้นพี่เป็นคนแรกของตาล”

“แต่หลังจากนั้นฉันไม่รู้ไง ว่าฉันยังเป็นคนแรกของเธอไหม”

หัวใจดวงน้อยเต้นคร่อมจังหวะ ทุกความรู้สึกมากองอยู่กลางอกเธอจนคับแน่นไปหมด เสียงที่จะเอ่ยออกไปถูกกลืนหายไปทั้งที่เตรียมคำพูดไว้มากมาย เธอไม่มีสิทธิ์คิดหรือตัดสินใจอะไรด้วยซ้ำ ถึงแม้ลูกในท้องจะเป็นลูกเขา แต่เขาก็ไม่ได้ต้องการเธอสักหน่อย

“ตาลผิดเองที่ปล่อยตัวเองท้อง” มาเข้าใจก็วันนี้แหละ ว่าความรู้สึกของผู้หญิงที่ถูกทอดทิ้งมันเป็นยังไง ใช้ชีวิตที่เหลือมาอย่างดี กระเสือกกระสนมาจนเติบใหญ่ แต่พอถึงจุดหนึ่งของชีวิตกลับรู้สึกว่าตัวเองไร้ค่ามาก มันน่าสมเพชที่ต้องแบกหน้ามาอ้อนวอนผู้ชายให้รับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเธอเองก็ผิด

“จนกว่าเธอจะคลอดลูก” เขาวางคีย์การ์ดคอนโดฯหรูย่านคนรวยลงบนโต๊ะตัวเตี้ยหน้าโซฟา “ไปอยู่ที่นั่น จนกว่าจะคลอดลูก”

“ทำไมให้ตาลไปอยู่ที่นั่น”

“ฉันต้องรู้ว่าหลังจากนี้เธอจะไม่ไปมั่วที่ไหน”

“แต่ใครมันจะไปทำแบบนั้น ตาลท้องอยู่นะคะ”

“...” เหมือนเขาไม่เปิดใจรับฟังอะไรจากเธอเลย วางคีย์การ์ดไว้แล้วก็เดินจากไปเสียดื้อๆ อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าต้องทำอะไร มีความรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองกระทำแค่สิบเปอร์เซ็นต์ก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไรเลย

สามวันต่อมา

หลังจากได้รู้เหตุผลที่ชรัณกลับมาหาเธอแล้วว่า เขาแค่อยากรับผิดชอบแค่ลูกในท้องเธอ ไม่ได้ต้องการแม่ของลูกเลย และเป็นวันแรกที่เธอย้ายมาอยู่คอนโดฯเขาตามที่ตกลงกันไว้

กระเป๋าเสื้อผ้าใบเล็กที่เธอยัดเสื้อผ้าไม่กี่ชุดลงในนั้น พร้อมกับครีมบำรุงหน้าและผิวไม่กี่อย่างวางลงบนโซฟา เธอมาที่นี่ครั้งที่สองแล้ว และต่อไปนี้ต้องใช้ชีวิตอยู่ในนี้จนกว่าจะคลอดลูก

“เฮ้อ” ร่างผอมบางซวนเซมานอนหงายหลังลงบนฟูกนุ่มๆ สายตาพร่ามัวมองเพดานสีขาวไม่คุ้นเคย ไม่รู้ว่าเผลอมองมันนานแค่ไหน รู้ตัวอีกทีก็เสียงติ๊งหน่องหน้าห้องดังขึ้น

และมันยังดังอยู่แบบนั้นสามครั้ง เธอจึงรีบลุกขึ้นไปเปิดประตูเผื่อว่าเป็นชรัณ แต่พอประตูแง้มออกรอยยิ้มบนใบหน้าก็หายไป

“คุณชัชให้เอาของพวกนี้มาไว้ที่ห้องค่ะ”

“ของอะไรเหรอคะ”

“ของกินกับของสดค่ะ”

“เอ่อ...หมายความว่าเขาจะให้ฉันทำกับข้าวกินเองเหรอคะ” ให้ตายเถอะ เรื่องทำกับข้าวเธอติดลบมาก ต้มมาม่ากินเองได้ก็บุญเท่าไรแล้ว นี่เล่นซื้อของมาให้ทำกินที่ห้อง นี่เขามีประกันไฟไหม้ใช่ไหมถึงกล้าให้เธอทำกับข้าวกินเองน่ะ “เอ่อ เขาบอกไหมคะว่าจะมาที่นี่อีก”

“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ ฉันได้รับคำสั่งมาแค่นี้”

“ค่ะๆ ขอบคุณนะคะ” ต้นตาลเปิดประตูออกกว้าง ให้คนเอาของไปไว้ห้องครัวให้ “อย่างน้อยเขาก็ไม่ปล่อยให้เธออดตาย แต่คงเป็นห่วงลูกมากกว่าฉัน หากฉันอดลูกเขาก็อดไปด้วยอย่างนั้นสินะ” เธอถอนหายใจจนสุดปอด ก่อนจะเดินไปเช็กของว่ามีอะไรที่ควรรีบทำกินบ้าง หรือว่ามีอย่างไหนที่ควรเก็บไว้ในตู้เย็น

หลายนาทีต่อมา

ต้นตาลมองจานข้าวด้วยความละเหี่ยใจ ถึงหน้าตาอาหารไม่แย่ แต่รสชาติมันก็ไม่ได้กลมกล่อมขนาดนั้น ทำออกมาได้ขนาดนี้เพราะมีอาจารย์จากยูทูบช่วยสอนให้

เสียงประตูถูกปลดล็อกด้วยคีย์การ์ดดังขึ้นในจังหวะที่เธอจะตักข้าวใส่ปาก หางตาเหลือบเห็นร่างสูงเดินเข้ามาพอดี เธอรีบวางช้อนหันไปมองหน้าชรัณด้วยความดีใจ

“พี่ชัช”

“...” สายตาเขาจดจ้องจานข้าว มันชัดเจนว่าเขากำลังสงสัยว่านั่นอะไร

“อ๋อ พอดีตาลทำหมูสับรวนน้ำปลากินค่ะ”

“ฉันเคยได้ยินว่าคนท้องห้ามกินเค็ม”

“...”! จะบอกยังไงดีว่าเธอไม่ถนัดทำกับข้าวเลย “ขอโทษค่ะ”

“เรามาทำขอตกลงกัน”

“คะ?” ไม่ใช่ว่าเขาพูดไปแล้วเหรอ ข้อตกลงที่ว่าน่ะ “ข้อตกลงอะไรเหรอคะ”

“เด็กในท้องนั่นอาจเป็นลูกฉัน หรือไม่ใช่ก็ตามแต่ ระหว่างนี้เธอต้องบำรุงตัวเองอย่าให้อด”

“ค่ะ”

“และฉันไม่อนุญาตให้ไปทำงาน ไปลาออกให้เรียบร้อยซะ”

“แล้วตาลจะเอาอะไรกินล่ะ"

“ระหว่างนี้ฉันจะให้เงินเดือนเธอ”

ฟังดูแปลกๆ แฮะ เหมือนพวกรับจ้างอุ้มบุญอะไรเทือกนั้นเลย มีทั้งเงินเดือนกิน ทั้งได้กินดีอยู่ดี

“ต้องทำขนาดนี้เหรอคะ” น่าสมเพชสิ้นดี “ถ้าคุณลำบากใจจะเก็บเด็กคนนี้ไว้…ให้ตาลเอาเขาออกไหมคะ”

“ฉันไม่เคยอยากทำลายชีวิตใคร”

แต่เขาทำลายชีวิตเธอแบบไม่เหลืออะไรแล้วไง ศักดิ์ศรีแทบไม่มีเหลืออยู่บนหน้าแล้ว เขาทำแบบนี้ยิ่งตอกย้ำให้เธอรู้สึกเวทนาชีวิตตัวเองไปอีก

“ตาลคงไม่มีอะไรโต้แย้งพี่หรอก ตาลไม่เหลืออะไรแล้วจริงๆ” ไม่มีแม้ที่พึ่งพิง “ตาลจะไปลาออกตามที่พี่สั่ง"

ชรัณมองหน้าหญิงสาว

“แล้วพรุ่งนี้จะพาไปฝากท้อง”

“ค่ะ” เธอเงยหน้ามองชรัณผ่านดวงตาพร่าพราวด้วยน้ำตาที่เอ่อคลอเบ้า เขายกจานข้าวเธอเดินหายเข้าไปในห้องครัว ไม่นานก็ได้ยินเสียงเหมือนทำอาหาร เธอได้แต่มองอยู่ไกลๆ หากนี่เป็นการเอาใจใส่จากเขา เธอก็จะเก็บเอาไว้ในใจ ซึมซับไออุ่นนี้ให้ซาบซ่านหัวใจแม้มันเป็นเพียงเศษเสี้ยวหนึ่งที่เขาส่งทอดมาก็ตาม

จานอาหารที่เพิ่งทำเสร็จใหม่วางลงตรงหน้าเธอ ข้าวผัดแฮมหมูหอมยั่วน้ำลาย แต่เขาก็เดินเข้าไปเอาของมาอีกอย่างหนึ่ง คือผลไม้สดนั่นเอง ชรัณไม่ได้พูดอะไรมากหลังจากวางจานผลไม้ลงบนโต๊ะเสร็จ เขาเดินไปหยิบกุญแจรถแล้วเดินตรงไปยังประตู

“พี่ชัช”

“พรุ่งนี้เก้าโมงเตรียมตัวด้วย”

“ค่ะ” เธอก้มหน้าขานรับอย่างจำยอม ได้แต่มองตามแผ่นหลังกำยำเดินจากไปต่อหน้า เมื่อประตูปิดสนิทเธอก็ถอนหายใจออกยาวๆ ความรู้สึกมากมายอัดแน่นอยู่เต็มอก บางครั้งแทบหายใจไม่ออก เขาทำเหมือนเธอเป็นอากาศเบาบางลอยผ่านหน้าไปมาเท่านั้น อยากสัมผัสก็แค่ยกมือขึ้นมาให้อากาศพัดผ่านไป “ห้องกว้างกว่าห้องเช่าเราอีก” แต่ยิ่งกว้าก็ยิ่งรู้สึกว้าเหว่ เหมือนตัวเองยืนอยู่กลางหลุมดำขนาดใหญ่ มองไปทางไหนก็มืดมนไปหมด

อย่างน้อยๆ ในความอึดอัดใจเธอก็ยังยิ้มออกได้เพราะข้าวผัดฝีมือเขานั่นแหละ เขาอาจกำลังสงสารหรือเวทนาเธอ ไม่ก็ทำแค่เพราะเป็นห่วงเด็กในท้อง

“จะกินให้หมดจาน ไม่ให้เหลือข้าวสักเม็ดเลยล่ะ” ระหว่างที่พูดเธอก็ลูบท้องไปด้วย ส่งผ่านความรู้สึกดีใจให้ลูกในท้องรับรู้ไปด้วย

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ในอ้อมกอดชรัณ NC20+   ตอนพิเศษ 2

    ตอนพิเศษ 2วันคลอดต้นตาลเอนหลังพิงโซฟายกขาไปพาดหน้าขาชรัณอยู่ภายในห้องพักเตรียมคลอด เธอรู้สึกชาขาและเหนื่อยจนไม่อยากขยับกายไปไหน ท้องสองท้องใหญ่กว่าท้องแรกมาก ทั้งเวลาเดินเวลานั่งจึงลำบาก แต่ดีที่มีสามีอย่างชรัณอยู่ข้างๆ กายคอยช่วยเหลือและเป็นมือให้เธอ“พอแล้วค่ะ พี่อยากกลับไปเอาของไหม ตาลอยู่รอคุณแม่ได้นะ”“ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่รออยู่กับเราที่นี่แหละ”“พี่ไม่ได้นอนเลยนะ อยากนอนพักสักหน่อยไหมคะ” เธอเอ็นดูคุณพ่อลูกสองมาก เขาน่ะตื่นเต้นกว่าเธออีกนะที่ว่าลูกจะคลอดน่ะ ตั้งตารอกันทั้งบ้านเลย และเจ้ายูตะน้อยก็ดีใจอยากเจอหน้าน้องแล้วด้วย“ห่วงเราเถอะ พี่พักตอนไหนก็ได้”“ตาลโอเคค่ะ ว่าแต่พี่…” ต้นตาลหลับตาพริ้มเมื่อชรัณยกมือขึ้นมาลูบแก้มเธอเบาๆ ส่งผ่านภาษากายว่าเขาน่ะโอเคมาก ห่วงก็แต่เธอคนเดียว “พี่อย่าไปไหนนะ อยู่กับตาลก่อน” เธอกลัวทุกครั้งที่จะคลอดลูก แต่ถ้ามีชรัณอยู่ข้างกายก็ไม่รู้สึกกลัวอะไร แถมยังเบาใจมากด้วย“รู้ว่าเรากลัว แล้วพี่ก็ไม่ไปไหนแน่นอน”“พี่ก็ยังเป็นพี่ ทำไมพี่แสนดีขนาดนี้เนี่ย”“หึหึ”“จริงๆ นะ ถ้าตาลไม่ได้เจอกับพี่ตาลก็อาจจะยังทำงานอยู่ที่ไหนสักแห่ง แต่ก็ขอบคุณที่ได้เจอพี่”

  • ในอ้อมกอดชรัณ NC20+   ตอนพิเศษ 1

    ตอนพิเศษ 1หลายเดือนต่อมาเราจัดงานแต่งงานเล็กๆ ในบ้าน ไม่ได้เชิญแขกมามากมาย มีแต่เครือญาติของชรัณเท่านั้น มีตักบาตรในช่วงเช้าแล้วก็ดื่มน้ำชาตามประเพณีของคนจีน ส่วนสินสอดไม่มีเพราะเราคุยกันแล้วว่าจะจัดแค่งานเท่านั้น เราเองก็มีโซ่ทองคล้องใจแล้วคือยูตะน้อยนั่นเอง แถมตอนนี้ยังมียูจินน้อยอยู่ในท้อง ผลงานอันน่าภูมิใจของชรัณเลยก็ว่าได้ เพราะเพิ่งรู้เพศลูกในท้องก่อนวันแต่งงาน เขาจึงถือโอกาสนี้เลี้ยงฉลองที่ได้ลูกสาวอย่างตั้งใจเอาไว้ด้วย“พี่ชัช ตาลเหม็นไข่ไก่ต้ม พี่เอาไปกินหมดเลยได้ไหม” ช่วงกินไข่ต้มน้ำขิงในพิธี เธอยังไม่หายแพ้ท้องและรู้สึกพะอืดพะอมมาก เห็นไข่สีขาวนวลกับน้ำขิงก็รู้สึกเวียนหัวแล้ว แถมยังเหม็นฉุนจนกลืนไม่ลงอีกด้วย“อดทนหน่อย เรากัดกินนิดเดียวก็ได้”“ไม่ไหว” ฝืนไม่ไหวจริง ถ้ากินอีกนิดเดียวเธออ้วกแตกแน่ พอเห็นสีหน้าต้นตาลไม่สู้ดีเขาจึงจัดการอ้าปากกินไข่ต้มในถ้วยของเธอจนหมด ทำให้ถูกเพื่อนแซวกันยกใหญ่ว่าเขาน่ะหิวข้าวหรือเปล่าถึงได้รีบกินขนาดนั้นหลังจากนั้นก็เป็นไปตามพิธีที่วางเอาไว้ ดำเนินมาถึงการส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาวเข้าหอ อธิราชกับอีริคเป็นคนจัดแจงผ้าปูที่นอนให้เพื่อนรักพร้อมกับ

  • ในอ้อมกอดชรัณ NC20+   บทที่ 25 ในอ้อมกอดชรัณ END

    บทที่ 25 ในอ้อมกอดชรัณ END หลังจากที่จูงมือกันไปจดทะเบียนสมรส นี่ก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้วสำหรับการใช้ชีวิตในฐานะสามีภรรยาอย่างเป็นทางการของเรา ยูตะน้อยเติบโตมาอย่างดีโดยมีทั้งคุณย่าและคุณปู่ช่วยเลี้ยงและพร่ำสอนเขา ส่วนชรัณก็รับตำแหน่งผู้บริหารเต็มตัว ดูแลร้านทองทุกสาขาที่มีโดยมีต้นตาลเป็นเลขาส่วนตัวเขา เธอขยับจากเด็กฝึกงานในร้านทองที่คุณแม่เฝ้าสอนงานจนมาเป็นเจ๊ใหญ่ดูแลร้านทองสาขาใหญ่แทนคุณแม่ชีวิตช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานับว่าดีมากเลยทีเดียว ทั้งการงานและชีวิตคู่ จะว่าราบรื่นก็ไม่เท่าไร ก่อนหน้านี้มีงอนกับชรัณบ้างแต่ก็เพราะยังไม่เข้าใจกันดี แต่พอเปิดใจคุยกันโดยไม่ปัดตกปัญหาเล็กน้อยก็เข้าใจกันมากขึ้น เดี๋ยวนี้เลยไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องงอนและทะเลาะกันอีก หากเกิดความสงสัยหรือรู้สึกไม่ดีกับอีกฝ่ายเราจะคุยกันทันทีและช่วยกันปรับแก้ ไม่ละเลยปัญหาที่อาจสะสมเป็นปัญหาใหญ่ในภายภาคหน้าแน่นอนชรัณคลั่งรักเธอมาก มากแบบเธอกลัวว่าคนรอบข้างจะอิจฉาเอาน่ะ และเรื่องความหื่นไว้ใจเขาได้เลย ตอนนี้วางแผนไว้ว่าจะมีลูกคนที่สองและเป็นหน้าที่ของชรัณที่ต้องทำให้เธอท้องให้ได้ เขาเลยหมกมุ่นในเรื่องนั้นมากและตอนนี้ก็ย้ายเข

  • ในอ้อมกอดชรัณ NC20+   บทที่ 24 ครอบครัว

    บทที่ 24 ครอบครัว “ชอบขนาดนั้น?” ชรัณละสายตาจากการมองทางมามองรอยยิ้มคนข้างๆ เธอนั่งยิ้มกับช่อดอกไม้และแหวนเพชรบนนิ้วนางตัวเองตั้งแต่ขับรถออกจากร้าน ชรัณก็พลอยได้ยิ้มตามเธอด้วย“ชอบมากค่ะ ชอบทั้งดอกไม้และคนให้”“งั้นพี่จะให้คนทำสวนเอาดอกไม้มาลงสวนบ้านเราด้วยนะ เวลาตื่นเข้ามาจะได้เห็นอะไรที่สดชื่นแต่เช้า”“รักจัง” เธอยื่นมือไปโอบปลายคางเขาอย่างมันเขี้ยว และชรัณก็ค้อมศีรษะลงมาเอาคางเกยฝ่ามือเธออย่างไม่อิดออดเช่นกัน“พี่ลืมบอกไปว่าพี่ให้เราเป็นเจ้าบ้านนะ ในทะเบียนบ้านหลังใหม่”“วะ ว่ายังไงนะคะ”“ก็ตามนั้นเราได้ยินไม่ผิดหรอก”“มันมากไปนะคะ”“มากไปตรงไหน พี่อยากให้เรามีอะไรที่เป็นชื่อเราน่ะ แล้วเดี๋ยวพี่ว่าจะให้หุ้นร้านทองกับเราด้วย”“พี่ชัช”“หือ?”“มันมากไปนะ” เธอไม่รู้หรอกว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่สิ่งที่เขาให้มานั้นมันมากเกินไปจริงๆ นะ“ไม่มากไปหรอก แค่นี้พี่หาได้สบายมาก”“ทำไมน่ารักจัง แค่นี้ก็หลงไม่ไหวแล้วนะคะ”“ของของพี่ก็เหมือนของของเรานั่นแหละ ต่อไปนี้เราจะช่วยกันดูแลและส่งเสริมกันและกันนะ” เขาละมือจากพวงมาลัยรถมาจับมือเธอขึ้นไปจูบเบาๆ “พี่รักตาลนะ” เป็นคำว่ารักที่ฟังกี่ครั้งก็จั๊กจี้ห

  • ในอ้อมกอดชรัณ NC20+   บทที่ 23 อยู่ด้วยกันนะ

    บทที่ 23 อยู่ด้วยกันนะ หัวใจดวงน้อยเต้นคร่อมจังหวะ วันนี้มันจะไม่แปลกไปจากเดิมหากชรัณไม่ชวนเธอออกมาเที่ยวแบบนี้ ซึ่งจุดหมายปลายทางยังไม่รู้แน่ชัดว่าเขาจะพาเธอไปที่ไหน“พี่จะพาตาลกลับค่ำไหม กลัวลูกร้องไห้กลัวพ่อแม่เหนื่อย”“ไม่กลัวค่ำหรอก”“ค่ะ” ทว่าหางตาเหลือบเห็นผ้าอ้อมลูกวางอยู่ที่วางของข้างประตูฝั่งคนขับ เธอเอียงคอมองแล้วอมยิ้มจนชรัณต้องหันมามองหน้า “นี่พี่เอาผ้าอ้อมลูกมาทำไมเหรอคะ”“ก็มันคิดถึงนี่นา พี่ติดกลิ่นเด็ก”“ถามจริง พี่ติดกลิ่นลูกเหรอคะ”“อืม กลิ่นเราก็หอม”“บ้าน่า จะมาติดกลิ่นตาลทำไม” เธอเขินเขาจนไม่อยากยอมรับในสิ่งที่ชรัณพูดมา “พี่ติดกลิ่นลูกพอเข้าใจได้ แต่พี่ติดกลิ่นตาลตาลไม่เข้าใจค่ะ มันหอมตรงไหน”“เด็กหนอเด็ก”“ว่ายังไงคะคุณลุง” เธออยากเย้าแหย่เขาเล่นเหมือนกัน จะว่าไปก็ไม่ได้ไปไหนมาไหนด้วยกันนานแล้ว ก็ตั้งแต่คลอดลูกนั่นแหละ ทุ่มเทเวลาให้ยูตะตัวน้อยจนลืมไปเลยว่าต้องใช้เวลาอยู่กับคนข้างๆ เหมือนกัน “พี่จะพาตาลไปไหนเนี่ย ไม่ได้จะพาไปเดินห้างเหรอ”“เปล่า”“แล้วไปไหน” เขาพาเธอขับไปในเมืองก็จริง แต่ไม่ได้ขับตามเส้นทางไปห้างนี่นา“เดี๋ยวก็รู็เองนั่นแหละ”“ชอบทำให้ตาลหัวใจเต

  • ในอ้อมกอดชรัณ NC20+   บทที่ 22 หลงรักหมดหัวใจ

    บทที่ 22 หลงรักหมดหัวใจ หลังจากอยู่โรงพยาบาลจนหมอให้กลับบ้านได้ ต้นตาลกับชรัณก็กลับมาอยู่บ้านของแม่เพราะแม่ไม่ให้ไปอยู่คอนโดฯตามลำพัง มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกันได้ทัน“พี่ชัชจะพาลูกไปไหนคะ” เธอนั่งปั๊มนมอยู่แต่เหลือบเห็นว่าชรัณกำลังอุ้มลูกเดินออกไปจากห้อง ห้องนอนชรัณนั่นแหละแต่แม่ให้ช่างมาทำให้ใหม่และน่าอยู่กว่าเดิมอีก ภายในห้องสะอาดและโล่งมาก แม่ขนของในห้องออกไปจนหมดและเอาของของยูตะเข้ามาไว้แทน“จะพาลงไปหาแม่หน้าร้านน่ะ เราปั๊มนมเสร็จแล้วก็ตามลงไปนะ”“ระวังนะคะ”“ครับ...”จะว่าเธอหวงลูกก็ว่าไปเถอะ ก็ชรัณหลงลูกและยังหวงลูกกว่าเธออีก เขาน่ะหยิบจับอะไรก็คล่องมือไปหมด ช่วยแบ่งเบาภาระไปจากเธอได้เยอะเลย ส่วนแม่กับพ่อก็ช่วยเลี้ยงยูตะบ้างเป็นบางเวลา เพราะท่านยังต้องเปิดร้านขายทองทุกวัน และสาขาใหม่ของชรัณเขาก็แวะไปดูบ้างเป็นบางครั้ง ส่วนมากสั่งงานกันผ่านการโทร. มากกว่า“ยูตะนะยูตะ พออยู่กับพ่อหนูก็หลับปุ๋ยเชียว” เธอปั๊มนมเสร็จแล้วก็ลงไปหาลูกกับชรัณ อันที่จริงยูตะต้องนอนแล้วแต่พ่อเขาเห่อลูก อยากอุ้มให้เขาหลับไปในอ้อมแขนตัวเอง และก็ได้ผลเพราะยูตะชอบนอนตอนเวลาพ่อเขาอุ้มมากกว่านอนบนเบาะนุ่มๆ ซะอีก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status