Se connecterธนบัตรปึกใหญ่ถูกวางลงตรงหน้าหญิงวัยกลางคนที่มีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงของนับดาว ทันทีที่เงินปึกใหญ่ถูกเลื่อนมาตรงหน้า นางบังอรก็หยิบเงินขึ้นมาถือด้วยสายตาวาวโรจน์เป็นประกาย ราวกับเป็นของที่รอคอยมาครึ่งค่อนชีวิตก็ไม่ปาน
“ฮือๆ น้าอรจ๋า ดาวไม่ไป น้าอรอย่าขายดาวแบบนี้เลยนะ ดาวขอร้อง”
หญิงสาวร่างท้วมสวมกอดขาแม่เลี้ยงตัวเองเอาไว้แน่นอีกครั้ง นับดาวคิดว่าตัวเองร้องไห้ออกมาแทบขาดใจ ดวงตากลมโตแดงช้ำจนรอบ เพราะผ่านการร้องไห้อย่างหนักเป็นเวลาร่วมชั่วโมง
นางสาวนับดาว มนัสวงศ์...
หญิงสาวผมยาววัยยี่สิบสามปี สัดส่วนอวบอัด หน้าตาจิ้ม ผิวขาวเนียนตามแบบคนเป็นแม่แท้ๆ เธอร้องไห้ออกมาราวกับจะขาดใจตั้งแต่เช้าของวันนี้ เมื่อทราบจากนางบังอรผู้เป็นแม่เลี้ยงว่าหล่อนจะขายเธอให้กับเจ้าหนี้หนุ่มรายใหญ่ ที่นางบังอรไปกู้หนี้ยืมสินมาจากลูกน้องของเขา
‘ณฉัตร วิริยะกุล’ ลูกเสี้ยวไทยอังกฤษที่ใครๆต่างชมว่าเขาช่างแสนเพอร์เฟค เขาเจ้าของผับชื่อดังและเป็นนักธุรกิจหนุ่มหน้าตาดี ที่มีทั้งธุรกิจสีขาวและสีเทาเต็มไปหมด และเขาคือคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามนับดาวในตอนนี้
อันที่จริงพื้นเพครอบครัวของนับดาวไม่ได้ยากจนอะไร เป็นคนระดับกลางที่อยู่แบบพอมีพอกินสุขสบายไปตามอัตภาพ ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงินทองใดๆ เพราะนายเอกรัตน์ผู้เป็นพ่อของนับดาวนั้น เป็นที่ปรึกษาอาวุโสให้กับบริษัทผลิตอะไหล่รถยนต์ที่ทำงานด้วยกันมานานตั้งแต่สมัยหนุ่มๆ
แม้พ่อจะเปิดรับนางบังอรเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวหลังแม่จากไป นั่นก็ไม่ได้สร้างความรู้สึกไม่ดีหรือความไม่สบายใจอะไรให้แก่ครอบครัวหรือตัวนับดาวมากนัก
เพราะนับดาวตั้งใจเอาไว้จะไม่เข้าไปก้าวก่ายในเรื่องส่วนตัวของคนเป็นพ่อ ตั้งแต่ที่แม่จากไปพ่อก็ทุ่มเทให้งานและตัวเธอมากพอแล้ว อะไรที่พ่อทำแล้วมีความสุข เธอก็ยินดีกับสิ่งนั้นด้วยเสมอ และส่วนมากเธอเองก็ไม่ได้ไปสนใจหรือสุงสิงอะไรกับแม่เลี้ยงมากเกินจำเป็นอยู่แล้ว เพราะรู้สึกได้...ว่าลึกๆ นางบังอรเองไม่ได้ชื่นชอบหรือชื่นชมเธอเหมือนเวลาอยู่ต่อหน้าพ่อเลยสักนิด
นับดาวไม่ถูกใจแค่เรื่องเดียวที่เธอทราบมา นั่นคือนิสัยของแม่เลี้ยงที่ชอบเข้าบ่อนเล่นการพนันอยู่บ่อยๆ เรื่องนี้พ่อเธอรู้ดีแต่กลับไม่ได้สนใจข้อเสียนั้นมากนัก ท่านขอแค่ให้นางบังอรรู้ขอบเขตและความพอดีของตัวเองก็เท่านั้น
จนกระทั่งเมื่อนับดาวอายุได้ยี่สิบเอ็ดปี พ่อของเธอก็ล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็ง จากครอบครัวที่พอมีพอกิน ต้องเปลี่ยนไปราวกับหน้ามือหลังมือ
เพราะถึงแม้ว่านายเอกรัตน์ พ่อของนับดาวจะมีประกันสุขภาพและสวัสดิการของบริษัทรองรับเรื่องค่ารักษาพยาบาลอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่เพียงพอที่จะเอามารักษาผู้ป่วยมะเร็งระยะลุกลามแบบที่ท่านเป็นอยู่ เงินเก็บราวหนึ่งล้านบาทที่มีถูกเอาออกมาใช้รักษาตัวนายเอกรัตน์จนเกือบหมดบัญชี
ทรัพย์สินต่างๆ ถูกขายแปรสภาพให้เป็นเงินสด เงินช่วยเหลือจากบริษัทไม่เพียงพอ นางบังอรจึงไปยืมเงินจากลูกน้องคนสนิทของณฉัตรเพื่อมารักษานายเอกรัตน์ เพราะหวังว่าจะรักษาอาการป่วยให้หายได้ นางไม่อยากลำบากในตอนนี้ถ้าเกิดว่าสามีเป็นอะไรขึ้นมา
แต่สุดท้าย...เอกรัตน์ก็จากไปแบบไม่มีวันหวนกลับมาได้อีกแล้วในปีต่อมา
นั่นเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ทำให้นางบังอรผู้เคยสุขสบายรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะจมน้ำตาย ตลอดเวลาสิบสองปีที่อยู่กินกับเอกรัตน์มา นางไม่เคยลำบากลำบนเหมือนก่อนเลยสักนิด เพราะได้สามีที่ดูแลดีเสียจนลืมไปว่า ครั้งก่อนนั้นตัวเองก็เคยเป็นแม่ค้าหาบเร่ ทำงานลำบากลำบนแทบตาย กว่าจะมาเป็นคุณนายที่ใช้แต่เงินแบบนี้
และเพราะการจากไปของสามีตัวเอง ที่ทิ้งมรดกก้อนหนึ่งเป็นเงินประกันเอาไว้ ก็ยังยกให้ลูกสาวตัวเองเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ยอมแบ่งให้นางบังอรเลยแม้แต่บาทเดียว เลยทำให้คนที่เคยเอ็นดูนับดาวอยู่บ้างเผยธาตุแท้ความเห็นแก่ตัวออกมาอย่างน่ากลัว เงินประกันที่ควรเป็นของนับดาวถูกริบมาเป็นของตัวเองจนหมด
ด้วยเหตุผลเพียงว่า...จะคอยดูแลเด็กสาวและดูแลบ้านให้ดีเหมือนตอนที่พ่อของเธอยังมีชีวิตอยู่
แต่ในความเป็นจริงแล้ว...เงินก้อนนั้นถูกใช้หมดลงในระยะเวลาไม่ถึงสามเดือน เพราะนางบังอรหวังว่าถ้าเอาเงินนี้ไปลงทุนในบ่อน เงินอาจจะงอกเงยขึ้นมามากกว่าที่เป็นอยู่ก็ได้
จากเงินหลักพันก็แปรเปลี่ยนหลักไปเรื่อยๆ จนแทบหมดตัว ความเครียดเรื่องเงินที่กำลังหมดลงมาพร้อมกับการเจอหน้าลูกน้องคนสนิทของณฉัตรที่ประเดประดังเข้ามาจนนางแทบเป็นบ้า เลยต้องแบกหน้าไปกู้ยืมเงินญาติพี่น้องที่เคยช่วยเหลือมาลงทุนกับบ่อนอีกครั้ง
และเพราะ ‘ผีพนัน’ เข้าสิงมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้าย... เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ญาติคนหนึ่งให้ยืมมาก็หมดลงด้วยระยะเวลาแค่ไม่กี่วัน
ถ้าต้องลองขอโอกาสจากเขา เธอก็อยากลองขอดูสักครั้ง เท่าที่ฟังจากป้าออและพี่มะลิเกี่ยวกับเรื่องของณฉัตรในวันนี้ ก็ถือว่าเขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไรอย่างทีเธอคิดในคราวแรก และถ้ามาคิดกันตามจริง ถ้าเขาคิดจะทำอะไรกับเธอจริงๆ ก็คงทำไปแล้ว ไม่มานั่งคุยกันก่อนแบบนี้หรอกมั้ง... เพราะเขาเองก็ใช้เงินซื้อเธอมาแล้ว แต่นี่เขายังไม่ทำอะไรเธอ อาจจะเป็นเพราะเขานึกสงสารเธอขึ้นมาจริงๆ ก็ได้“คนจะนอนด้วยกันนี่... ต้องรักกันด้วยหรือไง?” ณฉัตรเค่นเสียงหัวเราะออกมา ไม่อยากเชื่อว่าหญิงสาวตรงหน้าคิดแบบนั้นจริงๆ สมัยนี้ยังมีคนคิดแบบนี้อีกหรือไง“ค่ะ คุณพ่อของดาวเคยบอกแบบนั้น” นับดาวพยักหน้าตอบรับเสียงแผ่วเบา แววตาเศร้าสลดลงอย่างชัดเจนเมื่อนึกถึงพ่อ ผู้ชายคนสุดท้ายที่รักและหวังดีกับเธอมากที่สุด“เธอรู้ไหม... ฉันนอนกับผู้หญิงมานับไม่ถ้วน นี่ก็ยังไม่เห็นว่าฉันจะรักใครสักคนเหมือนกัน เซ็กซ์กับความรักมันคนละเรื่องกันนะแม่หนูน้อย เธออาจจะต้องแยกแยะมันออกจากกันสักหน่อย” คนมากประสบการณ์ยิ้มยียวน มั่นใจเหลือเกิน ว่าอีกไม่นานหรอกคนตรงหน้าก็คงเป็นเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ที่ผ่านมาของเขา รักเขาข้างเดียว...ยอมขึ้นเตียงด้วยเพราะหวัง
“แต่ยายหนูนั่น... เฮ้อ! บอกตามตรงนะคะ ป้าสงสาร” ป้าออมีสีหน้าลำบากใจอย่างเห็นได้ชัด เพราะเวทนาและสงสารนับดาวขึ้นมาดื้อๆ“ไม่ต้องสงสารหรอกครับ บางทีเขาอาจจะชอบก็ได้”ณฉัตรแกล้งพูดจากวนคนตรงหน้า นึกขำขึ้นมาเหมือนกันที่ป้าออเป็นเดือดเป็นร้อนแทนนับดาวขนาดนี้“เขาร้องไห้เป็นวรรคเป็นเวรขนาดนั้น ยังจะบอกว่าเขาอาจจะชอบอีก!”เพียงออยกแขนขึ้นมากอดอก ถอนหายใจออกมาแรงๆ เพราะเหนื่อยกับการที่ต้องหาเหตุผลมาหักล้างกับคนตรงหน้า“งั้น...ถ้าผมทำให้เขายินยอมเองล่ะครับ ป้าออจะไม่ว่าอะไรใช่ไหม?” คนหน้ามึนพูดแทรกขึ้นมาพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อีกครั้ง“ยังไงกันคุณฉัตร” หญิงสูงวัยขมวดคิ้ว“ถ้าเขาชอบผม หรือยินยอมที่จะให้ผม เอ่อ...ทำอะไรต่ออะไรกับเขา ป้าออจะไม่ว่าอะไรใช่ไหมครับ เพราะถือว่ายินยอมพร้อมใจทั้งสองฝ่าย ซึ่งไม่ใช่ผมคนเดียวที่ผิดนะครับ”พูดจบก็ลุกขึ้นเดินมากอดอ้อนหญิงสูงวัยตรงหน้าอย่างที่เคยทำประจำเวลาทำผิด และมันมักได้ผลเสมอนี่สิ!“ป้าล่ะอยากจะตีคุณฉัตรให้ตาย ทำไมถึงร้ายกาจได้ขนาดนี้” ป้าออถอนหายใจออกมา พร้อมกับลุกขึ้นเดินหนีไปทันทีหลังจากไม่มีใครอยู่แล้วณฉัตรจึงเดินผิวปากขึ้นไปชั้นสองอย่างสบายใจ เตร
เพราะเห็นว่าผู้ร้ายปากแข็งไม่ยอมปริปากบอกง่ายๆ เพียงออจึงจำเป็นต้องหงายไพ่ใบสุดท้ายออกมาเช่นกัน เพราะมั่นใจว่ายังไงณฉัตรจะต้องพูดออกมาอย่างแน่นอนถ้ายกบุคคลที่สามมาอ้างถึงแบบนี้เพราะคุณท่าน... หรือคุณณรงค์ ผู้ที่เป็นพ่อของณฉัตรนั้น เป็นคนดุและเป็นคนจริงจังกับทุกเรื่องในชีวิต ผิดก็ว่าไปตามผิด ถูกท่านก็ชื่นชม ไม่ชอบให้ลูกไปสร้างปัญหาให้แก่ใครท่านรักความยุติธรรม มีเมตตาต่อลูกน้องสูง เลี้ยงดูลูกน้องเป็นอย่างดี ความดีนี้ถูกส่งมาถึงยังรุ่นของณฉัตร ที่ปฏิบัติตามผู้เป็นพ่อมาจนถึงปัจจุบัน และในความดีนี้เองที่ถูกส่งต่อมา จึงทำให้ณฉัตรก้าวขึ้นมาอยู่จุดสูงสุดของบริษัทได้อย่างมั่นคงอย่างเช่นทุกวันนี้“ทำไมต้องบอกพ่อล่ะครับป้าออ!”ณฉัตรขมวดคิ้ว ไม่ค่อยชอบใจนัก ขึ้นเสียงใส่หญิงสูงวัยตรงหน้าอย่างลืมตัว“งั้นสรุปว่า จะเล่าให้ป้าฟังหรือเปล่าคะ หรือต้องให้คุณท่านเป็นคนมาถามความจริงเอาเอง คุณฉัตรถึงจะยอมเล่า”คนที่ถือไพ่เหนือกว่าเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มเย็น ยิ้มแบบที่ณฉัตรรู้ดี...ว่าเขาไม่ควรตุกติกเลยสักนิด“ป้าออจะบีบคั้นผมทำไมล่ะครับ มันไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรเลยนะ” ณฉัตรขมวดคิ้วยุ่ง“ถ้าไม่ร้ายแรงแล้วทำไมไ
รถยนต์คันหรูถูกขับเข้ามาจอดในโรงจอดรถในเวลาสองทุ่มกว่า เสียงเบรกและเสียงยางที่บดกับพื้นจนดังสนั่นแบบนี้ บ่งบอกถึงอารมณ์โมโหของคนขับได้เป็นอย่างดีไม่นานนัก...เจ้าของรถคันหรูก็ก้าวเท้าออกมาจากรถด้วยอารมณ์หงุดหงิดแบบที่ไม่เคยเป็นบ่อยเท่าไหร่นัก เพราะวันนี้มันเกิดเรื่องกับเขามากเกินไปจนน่าปวดหัวน่ะสิ!ทั้งเรื่องงานในบริษัทที่จู่ๆ ก็เกิดปัญหาได้ ไหนจะเรื่องงานที่ผับอีก ต่างก็มีปัญหาวุ่นวายจนทำให้ณฉัตรหัวเสียจนลูกน้องเข้าหน้าไม่ติดเลยสักราย และอีกอย่างที่ทำให้ณฉัตรรู้สึกหงุดหงิดมากที่สุดอีกเรื่อง ก็คงไม่พ้นเรื่องของหญิงสาวที่เขาใช้เงินซื้อมา ‘นับดาว’เด็กสาวหน้าตาดีแต่หุ่นไม่ได้เรื่องคนนั้น...ต้นเหตุใหญ่ที่ทำให้ชายหนุ่มต้องกลับมาที่บ้านนี้ในวันนี้และเวลานี้!! แทนที่เขาจะได้ไปสวีตหวานถึงไหนต่อไหนกับนางแบบหน้าใหม่ที่เขานัดเอาไว้ก็คือแม่คนเจ้าน้ำตานั่น!ยายนั่นทำให้ป้าออโทรไปหาเขาอีกครั้ง และซักไซ้ไล่เลียงจนเขาเผลอหลุดปากออกไป เรื่องมันถึงบานปลายขึ้นมา ทั้งๆ ที่มันไม่ควรจะบานปลายเลยด้วยซ้ำ อยากรู้จริงๆ ว่าแม่นั่นทำยังไง... ป้าออที่ไม่เคยก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเขาถึงได้เป็นเดือดเป็นร้อนแทนได
“พาน้องเขาเข้าไปด้านในเถอะครับป้าออ ยังไงผมต้องฝากป้าออกับพี่มะลิจัดการที่หลับที่นอนให้ด้วยครับ เดี๋ยวผมต้องไปที่ผับต่อ พอดีเกิดปัญหาขึ้นนิดหน่อย”ชรัตน์พูดตัดบทสั้นๆ เมื่อเห็นว่านับดาวกำลังจะร้องไห้ออกมาอีก และตัวเขาเองก็ต้องรีบไปทำงานต่อจริงๆ อย่างที่บอกไป จะสงสารแค่ไหนก็คงไม่มีประโยชน์ เพราะทุกอย่างเจ้านายเขาตัดสินไปหมดแล้ว“เดี๋ยวๆ พ่อชรัตน์ แล้วนี่จะให้นอนห้องไหนกันล่ะ คุณฉัตรไม่ได้สั่งอะไรป้าเอาไว้” ป้าออตะโกนเรียก เมื่อเห็นว่าชรัตน์กำลังจะเดินกลับไปขึ้นรถที่จอดอยู่ไม่ไกล“เดี๋ยวคงโทรมาสั่งครับ ขอตัวก่อน” คนสนิทของณฉัตรก้มหัวให้แม่บ้านสูงวัยด้วยความเคารพ และกลับขึ้นรถไปทันทีไม่นานนักรถตู้คันเดิมที่พานับดาวมา ก็เคลื่อนตัวออกไปพ้นรั้วบ้าน นับดาวถูกพามานั่งรอที่ห้องรับแขกด้านล่าง เพราะทั้งป้าออและลูกสาวก็ไม่รู้ว่าห้องนอนที่คนเป็นนายต้องการให้นับดาวไปอยู่น่ะคือห้องไหนในบ้านทั้งสองคนไม่รู้ว่าการพาเด็กสาวเข้ามาอยู่ในบ้านนั้น เจ้านายหนุ่มต้องการให้มาอยู่ในฐานะใด เพราะปกติแล้วก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนได้มาที่นี่เหมือนนับดาวเลยสักคนเดียวหลังจากสองแม่ลูกหายไปไม่นาน นับดาวก็ถูกพามายังห้องน
ช่วงที่พ่อจากไปนั้นนับเป็นโชคดีของนับดาวที่เรียนจบและเริ่มหางานทำพอดี จึงไม่ต้องพึ่งพาเงินส่วนไหนในบ้านอีกแล้ว เงินเก็บที่พ่อเคยฝากเอาไว้ให้ตั้งแต่เด็กจนโตก็ยังพอเหลือติดบัญชีอยู่บ้างนับดาวฝันอยากจะออกไปให้ไกลจากแม่เลี้ยง เพราะยิ่งนานวันเข้า... เธอรู้สึกว่าแม่เลี้ยงติดการพนันมากเกินกว่าจะเยียวยา หากได้งานตามที่ไปสมัครเอาไว้บวกกับเงินก้อนที่ยังเหลืออยู่สองหมื่นกว่าบาทนั้น เธอจะย้ายออกจากบ้านหลังนี้ทันทีบ้านหลังนี้ที่เคยเป็นกรรมสิทธิ์ของพ่อ... แต่ถูกใครบางคนฉกฉวยเอาไปเป็นของตัวเองแบบหน้าด้านๆ หลังท่านจากไปแต่ในความโชคดีที่นับดาวคิดเอาไว้นั้นก็มีความโชคร้ายย่างกรายเข้ามาเรื่อยๆ โดยที่หญิงสาวไม่ทันได้ตั้งตัว เพราะลูกน้องของณฉัตรก็เริ่มตามทวงถามเงินก้อนที่นางบังอรมาหยิบยืมไปอยู่บ่อยครั้ง ยิ่งทวงบ่อยเข้าๆ นางบังอรจึงมีความคิดที่จะเอานับดาวไปขัดดอกชั่วคราว นางจึงเดินทางไปที่ผับหรูของเจ้าหนี้พร้อมกับยื่นข้อเสนอนี้ให้ณฉัตรทราบและเขาเองก็ตอบตกลง...โดยการยกหนี้ให้นางบังอร พร้อมกับเงินก้อนใหญ่อีกหนึ่งก้อน แลกกับสิทธิ์ขาดในตัวนับดาวแต่เพียงผู้เดียว หญิงสาวที่เขารู้สึกถูกใจและอยากได้มานอนด้วยช







