ตอนที่ 5 เข้าเมือง
“คุณธันคิดว่ายังไงครับ ถ้าผมอยากจะให้เกษตรกรจากที่อื่นเข้ามาศึกษาการทำเกษตรอินทรีย์ที่ไร่ธารา มันจะเป็นการรบกวนคุณธันเกินไปหรือเปล่าครับ” หลังจากทานข้าวเสร็จอาธันก็พาเธอมาดูการทำงานของเขาต่อ แต่จะว่าเขาพามาก็ไมถูก เพราะอาธันก็เสนอว่าจะให้คนไปส่งเธอที่บ้าน แต่เป็นเธอเองที่ขอตามมาด้วยพร้อมทั้งสัญญาว่าจะไม่ดื้อจะไม่ซน ไม่ทำให้ธันวาต้องปวดหัว เธอจึงได้ถูกอนุญาตให้ตามมาได้
“ไร่ธารายินดีต้อนรับครับ แต่ผมขอให้คนที่เข้ามาเป็นคนที่สนใจอยากเรียนรู้จริงๆ นะครับ แล้วผมจะจัดวิทยากรและเตรียมสถานที่ไว้ให้” ธันวาตอบ ตอนนี้เขากำลังคุยกับคนที่มาจากอำเภอที่มาเสนอให้ไร่ของธันวาเป็นแหล่งเรียนรู้
“ได้เลยครับ ผมจะรีบเสนอเรื่องนี้เข้าที่ประชุมเลยครับ ถ้างั้นผมตัวกลับก่อนนะครับ”
“ครับ” ธันวาส่งแขกขึ้นรถ ก่อนที่จะเดินกลับมาหาลูกหนูที่นั่งวาดรูปอยู่โดยที่เอาสมุดจดงานกับปากกาของเขาไปทำสมุดวาดเขียน
“เสร็จแล้วเหรอคะ” ลูกหนูถามหลังจากเห็นธันวาเดินมาหาเธอ
“อืมเสร็จแล้ว” ธันวาตอบก่อนจะมองดูรูปวาดในสมุดจดงานของเขา นี่ลูกหนูวาดเขาเหรอ
“แล้ววันนี้อาธันยังเหลืองานอะไรอีกหรือเปล่าคะ หรือว่าหมดแค่นี้” ลูกหนูถามเพราะวันนี้ทั้งวัน เธอตามธันวาไปนู้นไปนี่เธอเห็นธันวาทำงานสาระพัดอย่าง ถึงบางอย่างจะแค่สั่งงานก็ตามแต่ธันวาก็จะคอยดูแลจนกว่าจะเรียบร้อย
“ไม่มีหมดง่ายๆ หรอกลูกหนู เสร็จงานนี้ก็ยังมีงานอีกเยอะแยะรออยู่” ธันวาตอบ
“ฟังดูแล้วท่าจะเหนื่อยนะคะ งั้นอาธันก็น่าจะหาคนมาช่วยแบ่งเบาภาระได้แล้วนะคะ” ลูกหนูพูดก่อนจะหันมาสพตาของธันวาที่แสดงความสงสัยในสิ่งที่ลูกหนูกำลังพูด
“ไม่ลองขอให้ลูกหนูมาเป็นคนทำหน้าที่นั้นดูล่ะค่ะ ถ้าอาธันขอลูกหนูอาจจะทำให้ก็ได้” ลูกหนูพูดเหมือนพูดเล่น แต่แววตาที่สื่อออกมาไม่มีท่าทีว่านั่นคือเรื่องล้อเล่นเล่นเลย
“ไร้สาระนะลูกหนู” ธันวาปราม ก่อนจะเดินนำหน้าไปที่รถ แต่ก็ยังไม่วายได้ยินข้อความที่คนเดินตามหลังส่งมา
“แต่ลูกหนูไม่ได้ล้อเล่นนะคะ”
“วันนี้อาธันจะเข้าไปที่อำเภอใช่หรือเปล่าค่ะ” ลูกหนูถามระหว่างที่ทั้งสองกำลังทานอาหารเช้ากันอยู่ ลูกหนูอยู่ที่ไร่ธารามาได้หนึ่งอาทิตย์แล้วโดยทุกๆ เช้าลูกหนูจะทำอาหารเช้าให้กับอาธัน แล้วก็อาจจะตามอาธันออกไปทำงานบ้าง ไม่ก็ทำขนมอยู่บ้านบ้าง แต่วันนี้เธอได้ยินจากน้อยว่าธันวาจะเข้าไปที่อำเภอและเธอเองหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาก็ไม่ได้ออกไปไหนเลยเธอจึงอยากจะขอตามอาธันเข้าไปด้วย
“ใช่ แต่ผมไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยวเล่น” ธันวาพูดเหมือนรู้ทันว่าลูกหนูต้องการอะไร
“โห่ พูดดักขึ้นมาเลยนะคะ ลูกหนูขอไปด้วยแค่นี้ก็ไม่ได้เหรอคะ ลูกหนูอยู่ที่นี่มาอาทิตย์นึ่งแล้วนะไม่ได้ออกไปไหนเลย แค่ลูกหนูขอไปด้วยแค่นี้อาธันก็ไม่ให้ไป ไม่ใจร้ายไปหน่อยเหรอคะ” ลูกหนูตัดพ้อ ก็มันจริงเธอเองก็พอจะรู้เหมือนกันว่าอาธันของเธอจะออกไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน แต่เธอเองก็แค่อยากจะตามไปดูการทำงานของเขาว่าเวลาที่อยู่ที่นอกไร่เป็นยังไงก็แค่นั้นเอง
“ถ้าอยากออกไปข้างนอกลูกหนูก็ขับรถออกไปเองก็ได้นี่เอารถมาไม่ใช่เหรอ หรือถ้าไม่อยากไปคนเดียวจะเอาน้อยหรือป้านิดไปเป็นเพื่อนด้วยก็ได้ ผมไปทำงานไม่ได้ไปเที่ยวเล่นมันไม่สนุกหรอกนะ” ธันวาบอก
“อาธันรู้ได้ไงคะว่าลูกหนูจะไม่สนุก อาธันไม่รู้เหรอว่าแค่มีอาธันอยู่ลูกหนูก็รู้สึกสนุกแล้ว แล้วปล่อยให้ลูกหนูไปคนเดียวไม่กลัวว่าจะมีหนุ่มไหนมาจีบลูกหนูเหรอคะ ถ้าเกิดลูกหนูเปลี่ยนใจไปชอบหนุ่มคนอื่นขึ้นมาอาธันอาจจะไม่มีคนคอยช่วยงานนะคะ” ลูกหนูตอบ แต่ธันวารู้สึกว่านั่นไม่ใช่เหตุผลที่เขาจะยอมรับได้เลย แล้วยิ่งสายตาที่ส่งออกมานั่นอีก นี้แหละคือสาเหตุที่เขาไม่ค่อยอยากจะอยู่ใกล้ลูกหนูสักเท่าไร เพราะเขารู้ดีว่าเขามักจะแพ้สายตาแบบนี้ สายตาที่มั่นใจในตัวเอง และเขาก็รู้ดีว่าถ้าลูกหนูอยากจะไปต่อให้เขาห้ามยังไงเธอก็หาทางไปได้อยู่ดี
“เห้อ” ธันวาถอนหายใจเบาๆ กับความดื้อของหญิงสาว “ถ้าอยากจะไปก็เตรียมตัวไว้ แล้วตอน 10 โมงผมจะมารับ” ทำไมกันนะถึงไม่เคยที่จะขัดใจลูกหนูได้เลยสักครั้ง เขาเป็นแบบนี้ตั้งแต่สมัยก่อนจนถึงปัจจุบันก็ยังไม่เคยที่จะขัดใจลูกหนูได้เลย ธันวาถามตัวเอง
“เย้ แล้วลูกหนูจะรอนะคะ” ลูกหนูส่งยิ้มให้ธันวาที่ยอมตามใจเธอ นี้สินะคงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาไม่อยากที่จะขัดใจ เพราะเขาอยากเห็นรอยยิ้มแบบนี้ของเธอต่อไป ถึงแม้จะรู้ว่ารอยยิ้มนั้นมักจะมากับเรื่องปวดหัวก็ตาม
“คุณลูกหนูคะ คุณธันวามาแล้วค่ะ” น้อยรีบเข้าไปรายงานลูกหนูทันทีที่เห็นรถของธันวาขับมาแต่ไกล
“อาธันมาแล้วเหรอ งั้นน้อยช่วยไปเอาตะกร้าในครัวมาให้ฉันหน่อย” น้อยรีบไปหยิบตะกร้าตามที่ลูกหนูบอก แล้วทั้งสองคนก็ออกมารอธันวาที่หน้าบ้าน เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ธันวามาถึงพอดี แต่บนรถของธันวาไม่ได้มีแค่ธันวาเพียงแค่คนเดียว ยังมีลุงชิดพ่อของน้อยนั่งมาด้วยอีกคน
ทันทีที่รถจอดสนิทคนที่เตรียมตัวรอก็รีบเดินมาที่รถพร้อมกับสายตาคมที่มองสำรวจการแต่งการของเธอ
“เป็นไงค่ะ เรียบร้อยพอหรือเปล่า” ลูกหนูถามธันวาถึงการแต่งกาย
“อืม ไปเถอะกว่าจะไปถึงเดี๋ยวไม่ทันเวลา” ธันวาตอบ ก่อนจะเดินนำลูกหนูไปขึ้นรถ
[ ที่ว่าการอำเภอ ]
“ท่านนายอำเภอคะ คุณธันวามาแล้วค่ะ”
“เชิญเข้ามาเลย”
“สวัสดีครับท่านนายอำเภอ” ธันวากล่าวทักทายนายอำเภอ ที่อาวุโสกว่าตัวเองไปหลายสิบปี
“อ่ะๆ เชิญนั่งเลยๆ เอะ ผมพึ่งสังเกตว่าวันนี้ คุณธันวามีสาวสวยมาด้วย นี่ผมพลาดอะไรไปหรือเปล่าครับ” นายอำเภอเอ่ย พร้อมกับยิ้มแบบมีความหมายแอบแฝงเพราะปกติเขามักจะเห็นธันวาไปไหนมาไหนคนเดียว ถ้าจำเป็นจะต้องมีคนมาด้วยก็จะมีแค่นายชิดที่เป็นผู้ช่วย แต่ครั้งนี้กลับมีสาวสวยมาด้วยหรือว่าไร่ธารากำลังจะมีนายหญิงกันแน่นะ
“สวัสดีค่ะ ลูกหนูเป็นผู้ช่วยอาธันค่ะ” ธันวามองลูกหนูที่แนะนำตัวเองพร้อมกับแต่งตั้งตำแหน่งตัวเองเสร็จสรรพ โดยไม่ปรึกษาเขาสักคำ
“นี่เป็นผักผลไม้ ของไร่ธาราค่ะ ทั้งหมดนี้เราปลูกแบบปลอดสารพิษเลยนะคะ ลูกหนูไปเก็บเองกับมือเลยค่ะ” ลูกหนูนำผักผลไม้ที่ไปเก็บมาเมื่อเช้ามอบให้กับนายอำเภอ เรียกรอยยิ้มเอ็นดูจากผู้อาวุโสได้เยอะเลย
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า น่ารักแบบนี้ท่าทางไร่ธาราคงมีสีสันน่าดู” นายอำเภอเอ่ยชม ก่อนที่เจ้าของไร่หนุ่มกับนายอำเภอจะพูดคุยกันถึงการวางแผนการที่จะเปิดไร่ให้เกษตรกรสามารถเข้ามาศึกษาการทำเกษตรอินทรีย์โดยมีลูกหนูที่คอยช่วยออกความเห็นบ้างเป็นบางระยะ
“ผมว่าความคิดของลูกหนูก็เข้าท่านะ นอกจากเราจะได้เผยแพร่การทำเกษตรอินทรีย์แล้วเรายังสามารถส่งเสริมการสร้างอาชีพของกลุ่มชาวบ้านได้อีก ดีๆ ผมชอบ เดี๋ยวผมจะให้คนไปจัดการว่าเราจะทำยังไงกับเรื่องนี้ได้บ้าง วันนี้ก็รบกวนเวลาของทุกคนมากแล้ว ขอบคุณที่อุตส่าห์สะระเวลามานะ” นายอำเภอกล่าว
“ไม่เป็นไรครับ ผมยินดี ถ้างั้นผมขอตัวกลับก่อนนะครับ” แล้วทั้งหมดก็บอกลานายอำเภอ
“อาธัน นี่จะบ่ายโมงแล้ว เราแวะหาอะไรทานกันก่อนกลับไร่ดีหรือเปล่าค่ะ ลูกหนูหิวแล้วอ่ะ” ลูกหนูบอกระหว่างที่กำลังเดินมาขึ้นรถ
“อืมเอาสิ เดี๋ยวแวะทานร้านแถวตลาดก่อนกลับก็แล้วกัน เผื่อมีอะไรที่ลูกหนูอยากจะซื้อด้วย” ธันวาเสนอ เพราะเขาเองก็เริ่มหิวแล้วเหมือนกัน
[ ตลาด ]
“คุณธัน คุณลูกหนู เดี๋ยวผมขอตัวไปซื้อของตรงนู้นแป๊บนึงนะครับ จะซื้อไปฝากแม่นังน้อยกับนังน้อยมัน แล้วผมจะหาอะไรแถวนั้นกินเลย” นายชิดบอกก่อนจะขอแยกตัวออกไปอีกทาง
ธันวาจึงพาลูกหนูมาอีกทาง แต่ระหว่างที่ธันวากำลังจะพาลูกหนูเข้าไปในร้านอาหาร ก็มีเสียงผู้หญิงเรียกธันวาดังขึ้นมาซ่ะก่อน
“คุณธันคะ คุณธัน” ธันวากับลูกหนูจึงหยุดเดินและหันไปทางเสียงเรียก แต่ทั้งสองยังไม่ทันเห็นเจ้าของเสียงว่าเป็นใครเธอคนนั้นก็กระโจนเข้ามาเกาะแขนของธันวา จนทำให้ลูกหนูที่ยืนอยู่ข้างๆ ต้องถอยหลบแทบจะไม่ทัน
“แวว” ธันวาเอ่ยเรียกชื่อของหญิงสาวที่เข้ามาเกาะแขนเขาแบบไม่ทันตั้งตัว
“ดีใจจังเลยค่ะ ที่คุณธันยังจำแววได้ นึกว่าลืมแววไปแล้วซ่ะอีก” แววตาเอ่ย พร้อมเอียงหน้าซบกับแขนของธันวา เพื่อแสดงความสนิทสนม แต่ธันวากลับพยายามจะแกะมือของเธอออก
“แวว ผมว่าคุณปล่อยผมก่อนดีกว่านะ ที่นี่มันกลางตลาด คนเยอะแยะ คุณไม่อายคนเหรอ” แต่คำพูดของเขาดูเหมือนจะไม่ได้ผลเพราะอีกฝั่งไม่เพียงไม่ยอมปล่อยแต่กลับเกาะไว้แน่นกว่าเดิม
“ไม่ค่ะ ก็แววคิดถึงคุณนี่คะ ถ้าแววปล่อยคุณธันก็จะเดินหนีแววไป เราก็ไม่ได้คุยกันพอดีสิคะ เดี๋ยวนี้ไม่เห็นคุณธันแวะมาหาแววเลย ลืมแววไปแล้วเหรอคะ หรือว่าผู้หญิงคนใหม่ของคุณธันหวงคะ” แววตาพูดก่อนจะหันมามองทางลูกหนู พร้อมกลับยิ้มเยาะ แล้วหันกลับไปพูดกับธันวาต่อ
“แต่ดูท่าทางคนใหม่ของคุณธันคนนี้คงจะจืดชืดน่าดูนะคะ แววไม่รู้ว่าคุณธันเปลี่ยนรสนิยมไปกินของจืดแล้ว” แววตาพูดแซะลูกหนู
พอลูกหนูได้ฟังแบบนี้ก็ชักจะมีอารมณ์บ้าง ตอนแรกเธอก็กะจะดูอยู่เฉยๆ เพราะก็พอจะเข้าใจอาธันของเธอเป็นผู้ชายทั้งแท่ง เรื่องแบบนั้นมันก็ต้องมีบ้างเป็นธรรมดา แต่ทำไมจะต้องเอาเธอไปเกี่ยวด้วย แล้วสายตาดูถูกที่ผู้หญิงคนนั้นส่งมาอีก คงจะอยู่เฉยๆ แบบที่เธอคิดคงไม่ได้แล้ว เธอก็ไม่ใช่นางเอกผู้แสนดีที่จะให้ใครมาดูถูกง่ายๆ ด้วยสิ
“ขอโทษนะคะ อย่าเอาฉันไปเปรียบเทียบกับคุณสิ เพราะเรามันต่างกัน แล้วอีกอย่างคนอย่างฉันไม่เคยห้ามใครถ้าใครเขาอยากจะไปหาคุณฉันก็ไม่ห้ามนะ แต่ที่เขาไม่ไปเพราะเขารู้มั้ง ว่าจานหลักมันสำคัญกว่าของว่าง” พูดจบลูกหนูก็เลิกสนใจแววตาแล้วหันมามองอาธันของเธอ
“เดียวลูกหนูไปซื้อของสดก่อนนะคะ พอดีอยากกินปูผัดผงกระหรี่กับปลาแรดทอดน้ำปลา ไม่รู้ว่าร้านในตลาดจะมีหรือเปล่า เดี๋ยวลูกหนูไปดูก่อนนะคะถ้าไปช้าเดียวคนอื่นเลือกของดีๆ ไปหมดก่อนแล้วจะได้ของไม่สด” ลูกหนูพูดเสร็จก็เดินเข้าไปในตลาดโดยไม่สนใจธันวากับแววตาที่กำลังยืนอึ้งกับคำพูดของเธอเมื่อสักคู่เลย
ตอนพิเศษ 2ยินดีต้อนรับ“คุณพ่อข่า เมื่อไรคุณปู่จะมาถึงค่ะ” เด็กหญิงลูกหนูในวัยห้าขวบถามพ่อหลังจากวิ่งเข้าวิ่งออกระหว่างประตูหน้าบ้านกับห้องรับแขกหลายสิบรอบ แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่ารถที่ไปรับคุณปู่ของเธอที่สนามบินจะกลับมาซักที“ใจเย็นๆ สิ เดี๋ยวคุณปู่ก็มาถึงแล้ว ลูกหนูมานั่งรอกับพี่ดีกว่าไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาแล้วแล้วเดี๋ยวก็ล้มหรอก” ทินกรวัยสิบเอ็ดปีเป็นคนตอบพร้อมกับเดินมาอุ้มลูกหนูให้ขึ้นไปนั่งบนตักของตัวเอง เพราะกลัวว่าน้องสาวจะล้มเพราะการวิ่งไปวิ่งมา“แต่ลูกหนูอยากไปรอรับคุณปู่นี่ค่ะ” เด็กหญิงลูกหนูหันไปบอกพี่ชาย“อยากไปรอรับคุณปู่หรือรอรับใครกันแน่ อย่าคิดว่าพี่รู้ไม่ทันเรานะ” ภาสกรวัยแปดขวบพูด“ลูกหนูต้องรอรับคุณปู่สิ พี่ภาสอย่ามาใส่ร้ายลูกหนูนะ” ลูกหนูตอบพี่ชายของเธอ“จริงเหรอ แล้วทำไมต้องแก้มแดงด้วย” ภาสกรยังไม่หยุดแหย่น้องสาว“พี่ทินจัดการพี่ภาสให้ลูกหนูหน่อย ลูกหนูถูกพี่ภาสแกล้ง” เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่สามานถสู้ภาสกรได้ลูกหนูจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากทินกรพี่ชายคนโต พร้อมกัลป์บีบน้ำตาเรียกคะแนนส่งสาร“ภาสหยุดแกล้งน้องเลยนะ ถ้าไม่งั้นพี่จะฟ้องแม่” ทินกรเองก็รู้แผนการของน้องสาวตัว
ตอนพิเศษ 1ท้อง“พี่ธันตื่นได้แล้วค่ะ สายแล้วนะคะ” ลูกหนูปลุกสามีของเธอ ปกติธันวาไม่ใช่คนตื่นสาย ถึงแม้จะตื่นหลังลูกหนูแต่ก็ไม่ได้ตื่นช้าขนาดที่ทำให้เธอต้องขึ้นมาปลุก แต่วันนี้เธอทั้งเรียกทั้งเขย่า คนตัวโตก็เอาแต่ส่งเสียงอืม แล้วพลิกตัวหนี“ตัวก็ไม่ได้ร้อน เมื่อคืนก็นอนไม่ดึก ทำไมวันนี้ตื่นยากจัง” ลูกหนูคิดพร้อมกับพยามเรียกสามีของเธออีกครั้ง “พี่ธันตื่นนะ เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ ถ้าไม่ตื่นลูกหนูจะเรียกหมอพัดมาแล้วนะ” ลูกหนูบอกพร้อมกับเขย่าคนตัวโตอีกครั้ง แต่ธันวาก็ยังคงหลับตาอยู่แบบเดิม ลูกหนูเลยตัดสินใจลุกขึ้นเพื่อจะไปบอกป้านิดให้โทรตามหมอพัดแต่ลูกหนูขยับตัวยังไม่ทันจะพ้นขอบเตียงคนที่นอนปลุกไม่ตื่นก็จับแขนของเธอไว้ก่อนจะดึงคนตัวเล็กให้ลงมานอนข้างๆ พร้อมกับใช้แขนแกร่งกอดไว้แน่น“ไม่ต้องไปตามหรอกพี่ไม่ได้เป็นอะไร” ธันวาตอบทั้งที่ยังคงหลับตาอยู่“แน่ใจนะคะ แต่ลูกหนูเรียกพี่ตั้งหลายรอบแต่พี่ก็ไม่ยอมตื่นจนลูกหนูนึกว่าพี่เป็นอะไร” ลูกหนูถามด้วยความอดห่วงไม่ได้“แน่ใจสิ พี่แค่เหนื่อยนิดหน่อย ต้องเป็นเพราะลูกหนูใช้งานพี่ตอนกลางคืนหนักแน่ๆ เลย”เพี๊ยะ!!หลังพูดจบคนพูดก็โดนฝ่ามือเล็กของลูกหนูไ
ตอนที่ 21 งานแต่ง“ลูกหนูช่วยขึ้นให้ผมหน่อย” ลูกหนูตกใจกับคำขอให้ช่วย“ลูกหนูทำไม่เป็นค่ะ” ลูกหนูตอบเพราะทุกครั้งก็มีแต่ธันวาเป็นฝ่ายทำ เธอเคยทำอะไรแบบนี้ที่ใหนกัน“ไม่ยากหรอกเดี๋ยวผมสอน” ธันวาพูดจบก็จูบเล้าโลมลูกหนู ก่อนจะยกสะโพกของลูกหนูขึ้นแล้วจัดการถอดกางเกงชั้นในของของลูกหนูออก ก่อนจะปดกระดุมกางเกงแล้วรูดซิบของตัวเอง ธันวาจับน้องชายของตัวเองให้ตั้งขึ้นก่อนจะจ่อไปที่ปากถ่ำหวาน“ลูกหนูนั่งทับลงมาเลย...อ้า” ลูกหนูทำตามที่ธันวาบอกตอนนี้น้องสาวขอเธอกลืนกินน้องชายของธันวาจนหมดสิ้น“อ๊า” ลูกหนูเองก็ร้องเสียงหลงเพราะตอนนี้น้องชายของธันวาเข้าไปลึกมาก ลึกกว่าทุกครั้งก็ว่าได้ ธันวาใช้สองมือจับไปที่ก้นงามก่อนจะออกแรงยกขึ้นก่อนจะปล่อยลง“ลูกหนูทำแบบนี่นะ ยกขึ้นแล้วลง...อ้า...แบบนั้นแหละ...อ้า” ลูกหนูทำตามที่ธันวาสอนแล้วทำได้ดีด้วย ลูกหนูโยกขึ้นลงตามที่ธันวาบอก ส่วนธันวาก็ใช้ปากดูดเลียที่อกงาม มือทั้งสองก็บีบเค้นก้นงามและช่วยออกแรงยก“อ๊า...อ๊า” ลูกหนูไม่เคยคิดเคยฝันว่าวันนึงเธอจะมามีอะไรกับธันวาข้างนอกแบบนี้แถมยังเป็นตอนกลางวันถึงฟิล์มรถจะมืดแต่ถ้ามีใครผ่านมาเห็นก็ต้องรู้แน่ๆ ว่าคนในรถทำอะไรก
ตอนที่ 20 ขอ“ว่าไงลูกหนูคนสวยกลับมาจากต่างประเทศปุ๊บก็รีบไปหาผู้ชายปั๊บเลยนะ เพื่อนเพิ่นนี้ไม่มาเจอเลยทำดีจริงๆ” รินหรือรินรดาดาราสาวแนวหน้าของประเทศพูดขึ้น“แน่นอนเพื่อนกับผู้ชาย ผู้ชายก็ต้องสำคัญกว่าอยู่แล้ว” เฟย่านักธุรกิจสาวเจ้าของกิจการขนส่งทั้งบนดินทางอากาศแม้แต่ทางเรือก็อยู่ในความดูแลของเธอพูดขึ้น“ว่าแต่ลูกหนูแกล่ะเฟย่าผู้ชายคนนั้นบอดี้การ์ดพี่ชายแกไม่ใช่เหรอทำไมถึงมาอยู่กับแกได้ อย่าบอกนะว่าแกแอบสอยมาอ่ะ” ลาน่านักร้องสาวแสนเท่ทักขึ้น เรียกความสนใจของสาวๆ ให้หันไปมองชายหนุ่มคนนั้น“จะบ้าเหรอ พอดีตอนนี้ฉันกำลังจัดการเรื่องบางอย่างให้พี่เฟร็ดอยู่นะพี่เขาเลยส่งหมอนั่นมาช่วยแค่นั้นแหละ” เฟย่าตอบ“ถ้าแค่ส่งมาช่วยแล้วทำไมต้องตามมาเฝ้าด้วยล่ะ” ซูจินดีไซเนอร์สายมูทักขึ้น“นี่หยุดสนใจเรื่องฉันแล้วไปจัดการยัยลูกหนูดีกว่าม่ะ นางเอกของงานไม่ใช่ฉันแต่เป็นยัยนั่นต่างหาก” หลังจากเฟย่าพูดจบทุกคนก็หันมาเล่นงานเธอต่อ“ตื่นได้แล้วคนขี้เซา”“ลูกหนูขอนอนอีกนิดนะคะ ง่วงมากเลย” เมื่อคืนกว่ายัยสี่สาวนั้นจะปล่อยเธอกลับก็เกือบเช้า เพราะงั้นเธอตื่นไม่ไหวจริงๆ“ถ้างั้นแม่จะไปบอกให้อาธันของลูกกลับไปก่อนด
ตอนที่ 19 กลับบ้าน[ สนามบิน ]มีคนเคยบอกว่าถ้าผู้ชายได้ผู้หญิงแล้วจะไม่เห็นค่าคำพูดนั้นคงใช้ไม่ได้กับอาธัน เพราะตั้งแต่วันที่ทั้งสองมีอะไรกันในวันนั้นดูเหมือนธันวาจะติดลูกหนูหนักว่าเดิมเรียกได้ว่าที่ใหนมีธันวาต้องมีลูกหนู ที่ใหนมีลูกหนูต้องมีธันวา จนตอนนี้คนทั้งไร่ต่างลือกันว่าอีกไม่นานที่ไร่ต้องมีข่าวดีเร็วๆนี้แน่“ไม่ไปไม่ได้เหรอ ถ้าลูกหนูไม่อยู่แล้วผมจะนอนกอดใครล่ะ” ธันวาบ่น“ลูกหนูกลับบ้านนะคะไม่ได้ไปไหน แค่สัปดาห์เดียวเองอย่างอแงสิคะ” ลูกหนูกำลังปลอบคนงอแงถ้าพวกพี่ๆ ของเขาได้มาเห็นอาธันของเธอในตอนนี้ล่ะก็ต้องขำแน่ๆ“ตั้งอาทิตย์นึง มันนานมากเลยนะทั้งผมและเจ้าน้องชายผมต้องคิดถึงลูกหนูกับน้องสาวของลูกหนูมากแน่ๆ” ลูกหนูตีแขนธันวาเบาๆไปหนึ่งที“คิดแต่เรื่องอะไรเนี่ยอาธัน เมื่อคืนยังรังแกลูกหนูไม่พออีกเหรอ เดี๋ยวนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ” ลูกหนูต่อว่า“ก็ลูกหนูจะไม่อยู่ตั้งหลายวันผมก็ต้องตักตวงไว้หน่อยสิ แล้วก็เมื่อไรลูกหนูจะเลิกเรียกผมว่าอาเนี่ย บางคนที่เขาไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของเราต่างพากันคิดว่าผมเอาหลานตัวเองมาทำเมียกันหมดแล้วเนี่ย” ลูกหนูอกขำไม่ได้“แล้วมันไม่จริงเหรอค่ะ อาธัน” ธ
ตอนที่ 18 มื้อดึก“โอ๊ย” ลูกหนูส่งเสียงร้องออกมาหลังจากที่บิดขี้เกียจเพราะเธอรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว“สองทุ่มแล้วเหรอ นี้ฉันหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอ” ลูกหนูพึมพำที่เธอมีสภาพแบบนี้คงต้องโทษอาธันเพราะกว่าที่อาธันจะปล่อยให้เธอออกมาจากห้องทำงานก็เกือบเย็น ข้าวเที่ยงก็ไม่ได้กิน พอมาถึงห้องก็หลับไม่รู้เรื่องทำให้ตอนนี้เธอพลาดมื้อเย็นอีก“หิวจัง ยังมีอะไรเหลือให้เธอกินหรือเปล่าเนี้ย” ลูกหนูลงมาหาของกินในครัวเพราะตอนนี้เธอหิวมาก แต่ระหว่างที่เธอกำลังหาของกินในตู้เย็นเธอก็ถูกคนบางคนสวมกอดจากข้างหลังจนเธอตกใจร้องกรี๊ดออกมา คนฉวยโอกาสเลยต้องปิดปากเธอด้วยจูบร้อนแรง ลิ้นร้อนดันปากของเธอเปิดออกเพื่อให้ลิ้นของเขาได้ลุกล่ำเข้าไปชิมความหวานในปากนุ่ม“อืม” ลูกหนูส่งเสียงประท้วงหลังจากถูกจู่โจมจากคนนิสัยไม่ดี ก่อนจะดันอาธันออก ธันวายอมถอนจูบออกทั้งที่ไม่เต็มใจ“หยุดเลยนะคะอาธัน ลูกหนูหิว”“หิวอะไรเหรอ หิวผมหรือเปล่า” ให้ตายเถอะอาธันของเธอเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร เมื่อกลางวันยังไม่พอใจอีกเหรอ“ลูกหนูไม่เล่นนะคะ ลูกหนูหิวข้าวมากจริงๆ เป็นเพราะใครก็มารู้ลูกหนูถึงอดข้าวไปตั้งสองมื้อ” ลูกหนูบ่น“วันนี้ป้าน