ตอนที่ 6 ง้อ
“ลูกหนู เดี๋ยวก่อน” ธันวาพยายามเรียกคนที่กำลังอารมรณ์ไม่ดี ที่พอถึงบ้านปุ๊บก็หนีเขาขึ้นบ้านปั๊บ
“ไอ้ชิด มีเรื่องอะไรวะ ทำไมคุณลูกหนูถึงเดินหนีคุณธันแบบนั้น ก่อนออกไปยังดีๆ อยู่เลยไม่ใช่เหรอ” ป้านิดรีบเข้ามาถามคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทันที หลังจากที่เห็นเจ้านายของเธอวิ่งตามคนโกรธขึ้นไปข้างบน
“ก็ตอนที่แวะไปกินข้าวที่ตลาด คุณธันแกไปจ๊ะเอ๋กับนังแววมันพอดีนะสิ มันเลยกระโจนใส่คุณธัน ตอนแรกคุณลูกหนูเธอก็ไม่อะไรหรอก แต่แววนะสิมันดันปากหาเรื่องพูดจาไม่ดีใส่คุณลูกหนู คุณลูกหนูเลยจัดให้ไปชุดนึง เล่นเอาเงียบไปทั้งตลาด แล้วหลังจากนั้นก็เงียบมาตลอดทางแถมข้าวก็ไม่ได้กิน” ชิดเล่าให้ฟัง ตอนที่เขาย้อนกลับมาแล้วเห็นนายของตนโดนแววตากอดแน่นอยู่เขาก็ตกใจรีบเขาไปช่วยแต่กว่าจะแกะได้ก็เอาเหนื่อยเลย แถมยังต้องคอยห้ามไม่ให้หญิงสาววิ่งตามนายของตนไปอีก
“ตายล่ะ คุณธัน” ป้านิดอุธาน คุณลูกหนูของเธอปกติเป็นคนใจเย็นแล้วก็มีเหตุผล แต่ถ้าใครลองทำให้โกรธขึ้นมาละก็เธอร้ายน่าดูเลย
“งานนี้ป้าขอเป็นกำลังใจอยู่ห่างๆ ก็แล้วกัน ขอให้โชคดีนะคะคุณธัน” ป้านิดได้แต่ให้กำลัง
“ลูกหนู ฟังผมก่อน” ในที่สุดธันวาก็สามารถคว้าข้อมือของคนโกรธไว้จนได้
“ปล่อยลูกหนูค่ะอาธัน ลูกหนูเหนื่อยอยากพักผ่อนค่ะ” ลูกหนูบอกก่อนจะสลัดข้อมือออกจากการจับกุมของธันวา แล้วเดินหนีเข้าห้อง แต่มีเหรอที่คนอย่างธันวาจะยอมให้หนีไปได้ง่ายๆ เขารู้ดีว่าเวลาลูกหนูโกรธแล้วมันจะเป็นยังไง เพราะงั้นเขาต้องรีบทำให้ลูกหนูหายโกรธให้เร็วที่สุดถ้าเขาไม่อยากเจอเรื่องปวดหัวมากกว่านี้ แต่ดูท่าคนโกรธจะไม่ค่อยให้ความร่วมมือสักเท่าไร แต่เขามีทางเลือกซ่ะที่ไหนล่ะงานนี้ถ้าไม่ฟังดีๆ คงต้องใช้กำลังกันสักหน่อย
“เดี๋ยวลูกหนู” ธันวาเดินตามลูกหนูเข้ามาในห้อง ทำเอาเจ้าของห้องถึงกับตกใจ เพราะไม่คิดว่าธันวาจะกล้าเข้ามาหาเธอถึงในนี้ เพราะปกติเขาออกจะเว้นระยะห่างกับเธอพอสมควร
“อาธันเข้ามาในห้องลูกหนูทำไมค่ะ ออกไปนะ” ลูกหนูบอกพร้อมกับมองไปทางประตูเพื่อให้ธันวาออกไป แต่ธันวากลับไม่ทำตามที่เธอบอกแถมยังปิดประตูแล้วกดล๊อกก่อนจะเดินมาใกล้เธอมากขึ้นกว่าเดิม จนลูกหนูต้องเดินถอยหลังหนี แต่คนเดินตามก็ไม่ยอมให้เธอได้หนีไปได้มากกว่านี้ เขารวบตัวคนโกรธให้เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของตนเอง เพราะไม่ต้องการให้เธอหนีไป
“อาธันจะทำอะไร ปล่อยลูกหนูนะ” ลูกหนูตกใจพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดจากพันธนาการของธันวา แต่ดูเหมือนว่าเธอยิ่งดิ้นธันวายิ่งรัดแน่นกว่าเดิม จนตอนนี้เธอแทบจะรวมร่างกับธันวาอยู่แล้ว
“ไม่ ลูกหนูต้องคุยกับผมก่อน”
“ไม่ อาธันปล่อยลูกหนูก่อนสิ”
“ไม่ ถ้าลูกหนูไม่รับปากว่าจะคุยกันดีๆ ผมก็ไม่ปล่อย”
“ไม่คุย อาธันปล่อยลูกหนูเดี๋ยวนี้นะ” ลูกหนูดิ้นสุดแรง ทำเอาคนที่กอดรัดเธออยู่ถึงกับฉุน ธันวาจึงตัดสินใจอุ้มลูกหนูขึ้น แล้วนำไปโยนลงบนเตียงลูกหนูรีบดีดตัวลุกขึ้นเพื่อจะหนี แต่ก็ไม่ทันคนตัวโตที่เขามาล๊อกตัวเธอไว้กับเตียงก่อน จนทำให้ลูกหนูตกใจกรี๊ดออกมา
“กรี๊ดดด อุ๊บบบ” ธันวารีบเอามือปิดปากลูกหนูทันทีเพราะกลัวคนในบ้านจะตกใจ
“ลูกหนูจะกรี๊ดทำไม ผมไม่ได้จะทำอะไรสักหน่อย แค่จะคุยด้วยเฉยๆ”
“อ่อยอ่อนอิ” ลูกหนูพูดอู้อี้ แต่ธันวาก็เข้าใจว่าเธอต้องการสืออะไร
“ถ้าผมปล่อยแล้วห้ามกรี๊ด ห้ามโวยวาย ห้ามดิ้น ห้ามหนี จะคุยกันดีๆ เข้าใจมั้ย”
“อืม” ลูกหนูพยักหน้า ธันวาจึงปล่อยลูกหนูให้เป็นอิสระ ทันทีที่ลูกหนูเป็นอิสระเธอก็รีบขยับหนีไปชิดหัวเตียงทันทีแถมยังหยิบหมอนที่อยู่แถวนั้นขึ้นมาเป็นที่กำบัง ธันวารู้สึกขำกับการกระทำของลูกหนู ทำยังกับว่าเอาหมอนมากันแล้วเขาจะทำอะไรเธอไม่ได้
“เรื่องวันนี้ไม่ใช่ความผิดผมเลยนะ ลูกหนูรู้ใช่มั้ย”
“ค่ะ”
“แต่ลูกหนูก็ยังโกรธ ถ้ารู้ว่าไม่ใช่ความผิดผมแล้วจะโกรธผมทำไม อ่ะ อย่าบอกว่าไม่โกรธ ก็เห็นๆ กันอยู่ว่าลูกหนูโกรธผม โกรธมากด้วย” ธันวารีบดัก เพราะเห็นลูกหนูกำลังตั้งท่าจะเถียง
“ถึงอาธันจะไม่ผิดเต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่อาธันก็มีส่วนที่ผิดอยู่นะคะ” ลูกหนูเถียง
“ผิด ผมผิดตรงไหน” ธันวาถาม
“ก็ตรงที่อาธันทำตัวไม่ดียังไงล่ะคะ ถ้าอาธันทำตัวดีเรื่องผู้หญิง เธอคนนั้นก็คงไม่ทำแบบนั้นกับอาธัน แล้วก็คงไม่เหมารวมลูกหนูไปเป็นคนแบบเดียวกับเธอ” ลูกหนูอธิบาย พอคิดถึงเหตุการณ์เมื่อตอนบ่ายเธอก็รู้สึกโมโหขึ้นมาอีก ไม่รู้เป็นเพราะที่โดนแววตาดูถูก หรือ เพราะที่อาธันของเธอมีผู้หญิงมาเกาะแกะก็ไม่รู้
“ผมขอโทษเรื่องที่แววเขาพูดกับลูกหนูแบบนั้น แต่ลูกหนูก็ต้องเข้าใจนะผมเป็นผู้ชายแถมโสดเรื่องแบบนี้มันก็ต้องมีบ้าง” ลูกหนูมองหน้าธันวาเธอก็เข้าใจมันเป็นเรื่องธรรมดาของชายโสดแถมหล่อและรวย แต่จะให้เธอยิ้มรับกับเรื่องแบบนี้มันก็ไม่ค่อยโอเคเท่าไร ไม่ใช่ว่าเพราะเป็นธันวาเธอถึงโกรธหรอก ต่อให้จะเป็นพี่ชายทั้งสองของเธอก็อดที่จะโกรธไม่ได้อยู่ดี
“เห้อ” ลูกหนูถอนหายใจ
ธันวาเห็นแบบนั้นก็เบาใจลง เขาอยู่กับลูกหนูมาตั้งแต่เด็ก ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าลูกหนูเป็นคนแบบไหน ลูกหนูเป็นคนมีเหตุผลมากพอ แต่ก็แอบมีความเอาแต่ใจตามประสาลูกคนเล็ก ที่ทั้งพ่อแม่และพี่ชายพากันโอ๋และตามใจมาตั้งแต่เด็ก
“เข้าใจแล้วใช่ไหม” ธันวาถาม
“ค่ะ” ลูกหนูตอบเสียงอ่อย
“แต่ก็ยังโกรธอยู่ ผมต้องทำยังไงลูกหนูถึงจะหายโกรธผม หรือต้องใช้วิธีแบบเมื่อก่อน” ธันวาถาม
“เมื่อก่อนเหรอคะ” ลูกหนูทำท่านึก วิธีแบบเมื่อก่อนเหรอ อาธันชอบง้อเธอแบบไหนนะ พอนึกออกเธอก็หน้าแดงขึ้นมา จนคนที่เสนอวิธีง้ออดขำไม่ได้
“บ้า ลูกหนูไม่ใช่เด็กๆ แล้วนะคะ ที่จะต้องเล่นตุ๊กตาอ่ะ” ลูกหนูบ่น เมื่อก่อนเวลาเธองอน เธอมักจะให้ทุกคนง้อเธอโดยการเล่นตุ๊กตาเป็นเพื่อนเธอ ก็ทำไงได้เธอเป็นเด็กผู้หญิงคนเดียวของบ้านนี่ ก็เลยไม่ค่อยมีเพื่อนเล่นตุ๊กตาด้วย แต่ก็ไม่มีใครยอมง้อเธอด้วยวิธีนี้สักคนแม้แต่พี่ชายของเธอที่บอกว่ารักเธอมากก็ไม่ยอมเล่นด้วย จะมีก็แต่อาธันนี่แหละที่ยอมเป็นเพื่อนเล่นกับเธอบ่อยๆ
“งั้นก็บอกมาสิว่าจะให้ทำยังไงถึงจะหายโกรธ” ธันวาถาม
“ไม่รู้ งั้นเอาแบบนี้สิอาธันก็ติดลูกหนูไว้ก่อน ถ้าลูกหนูนึกออกว่าอยากให้อาธันทำอะไรเดี๋ยวจะบอกดีหรือเปล่าคะ” มีวิธีแบบนี้ด้วย นี่มันตัวแสบชัดๆ ธันวาคิดมีอย่างที่ไหนให้ติดหนี้ง้อไว้ก่อน ถ้าไม่ใช่ลูกหนูจะคิดได้ไหมวิธีแบบนี้
“ก็ได้ๆ งั้นเรื่องนี้จบไป มาคุยอีกเรื่องดีกว่า”
“อีกเรื่อง เรื่องอะไรเหรอคะ” ลูกหนูทำหน้างง เธอมีเรื่องอะไรให้ต้องปรับความเข้าใจกับอาธันอีกเหรอ
“ก็เรื่องที่วันนี้เราคุยกับท่านนายอำเภอไง ไปได้ความคิดเรื่องงานสานพวกนั้นมาจากไหน แล้วรู้ได้ไงว่าคนที่นี่มีงานสานเป็นอาชีพเสริม” วันนี้ลูกหนูทำเขาตกใจมากอยู่ๆ เธอก็ขอเสนอให้ชาวบ้านนำงานสานไปวางขายเวลามีคนมาศึกษาดูงานที่ไร่ เพื่อจะได้เป็นการเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้ชาวบ้าน ลูกหนูเอาเวลาไหนไปคิด เขาไม่เห็นรู้เรื่องเลย วันๆ ไม่เห็นได้ออกไปไหน ไม่ตามเขาเข้าไร่ก็อยู่แต่ที่บ้าน ไปรู้เรื่องงานสานพวกนี้ได้ยังไง
“อ่อ เรื่องนี้นี่เอง วิเป็นคนบอกค่ะ เมื่อวันก่อนวิเขาเอาขนมมาฝากลูกหนู แล้วบังเอิญตะกร้าที่วิใส่ขนมมาสวยดี ลูกหนูเลยถามค่ะว่าหาซื้อได้ที่ไหน วิเขาเลยเล่าให้ฟังว่าชาวบ้านเขามีงานอดิเรกเป็นงานสารที่ทำขึ้นมาเพื่อใช้เองในบ้าน ลูกหนูเลยคิดว่าถ้าว่าถ้าสารเล่นได้สวยขนาดนี้ก็น่าจะขายได้ต้องมีคนที่ชื่นชอบพวกงานทำมือพวกนี้แน่นอน แต่ติดที่ว่าอำเภอของเราไม่ใช่อำเภอที่มีสถานที่ท่องเที่ยวหรือว่าจะมีนักท่องเที่ยวแวะมาเที่ยวเยอะแยะ ถ้าจะเปิดร้านขายก็คงขายได้ไม่เท่าไรกลัวไม่คุ้มกับที่ลงทุน แล้วพอดีลูกหนูก็นึกออกว่าอาธันมีความคิดจะเปิดให้คนภายนอกเข้ามาศึกษาดูงานที่ไร่ได้ ก็แสดงว่าจะต้องมีคนจากที่อื่นมาแน่ๆ ถ้ามีคนมาที่นี่กันมากขึ้นแบบนี้เราอาจจะขายได้ก็ได้ลูกหนูเลยลองเสนอไปค่ะ” ธันวาคิดตามที่ลูกหนูพูด แล้วรู้สึกเห็นด้วย ชาวบ้านที่นี่ส่วนใหญ่จะทำการเกษตร ซึ่งไม่สามารถทำได้ตลอดทั้งปี ในช่วงหน้าแล้งที่ไม่สามารถทำการเกษตรได้ จึงจำเป็นต้องออกไปทำงานรับจ้างทั่วไป แต่ถ้ามีอาชีพเสริม ก็ไม่ต้องไปทำงานรับจ้างที่อื่น ทำไมเขาถึงคิดเรื่องแบบนี้ไม่ได้นะ
“มันเป็นความคิดที่ดีมากๆ เลยนะลูกหนู งั้นผมจะแบ่งพื้นที่บางส่วนใกล้ๆ กับอาคารสัมมนาให้คนสร้างร้านเป็นร้านขายของฝากดีมั้ย ให้ชาวบ้านรวมกลุ่มกันสร้างผลิตภัณฑ์มาวางขาย ลูกหนูว่าดีหรือเปล่า”
“ดีค่ะๆ ถ้าทำแบบนั้นได้ลูกหนูว่ามันต้องดีมาก แน่ๆ เลยค่ะ” ลูกหนูดีใจที่ธันวาเห็นด้วยกับความคิดของเธอ ก่อนที่เธอจะนึกอะไรออก
“เอ่อ อาธันคะ” ลูกหนูเรียกธันวาที่กำลังทำท่าทางคิดอะไรอยู่ให้หันมาสนใจเธอ
“หืม ว่ายังไงลูกหนู” ธันวาหันกลับมาถาม แต่ลูกหนูเอาแต่ก้มหน้าไม่ยอมตอบจนเขาต้องถามซ้ำ
“ว่ายังไง มีอะไรหรือเปล่า”
“คือ ลูกหนูว่าอาธันออกไปจากห้องของลูกหนูก่อนดีกว่าไหมค่ะ” ลูกหนูบอกหลังจากคิดได้ว่าตอนนี้อาธันอยู่ในห้องของเธอ แถมยังเป็นบนเตียงอีก ต่อให้คนตรงหน้าคืออาธันแต่เธอก็ไม่ไว้ใจอยู่ดี ไม่เคยได้ยินเหรอว่าอย่าไว้ใจผู้ชายคนไหนนอกจากพ่อกับพี่ชาย
ธันวามีสีหน้าตกใจ เขาเองก็ลืมไปเหมือนกันว่าตอนนี้เขาอยู่ในห้องของลูกหนูแถมยังเป็นบนเตียงอีก แต่เห็นท่าทางเขินของลูกหนูแล้วเขาก็อดที่จะแกล้งไม่ได้
“หืม กลัวผมงั้นเหรอ” เหมือนธันวาจะรู้ทันความคิดของลูกหนูจึงขยับหน้าเข้ามาใกล้ หมายจะแกล้งซ่ะหน่อยจนลูกหนูต้องขยับตัวให้ชิดหัวเตียงมากขึ้น แต่ยิ่งขยับหนีธันวายิ่งขยับตาม จนตอนนี้ลูกหนูต้องหลับตาปี๋
“ป๊อก” เสียงธันวาดีดหน้าผากลูกหนู
“โอ๊ย ลูกหนูเจ็บนะอาธัน ดีดมาได้” ลูกหนูบ่น ถึงมันจะไม่ได้เจ็บมาก แต่มันก็เจ็บอยู่ดี
“ดีแล้วที่รู้จักกลัว งั้นผมไปก่อนไว้อาหารเสร็จแล้วจะให้ป้านิดมาตามนะ” แล้วธันวาก็เดินออกไปทันทีที่พูดจบ แต่เขาก็ไม่ได้ไปไหนไกลเกินกว่าประตูห้องนอนของลูกหนูเลย เพราะทันทีที่เขาออกมาเขาก็รู้สึกหมดแรง เหตุการณ์ก่อนที่เข้าจะออกมามันทำให้หัวใจของเขาเกือบจะวาย ให้ตายเถอะไอ้ธันวาเมื่อกี้แกเกือบจะคุมตัวเองไม่ได้เชียว ตอนแรกเขาก็แค่จะแกล้งแย่ลูกหนูเล่น แต่พอเอาเข้าจริงเขากับรู้สึกเหมือนถูกดูดให้เข้าไปหาคนที่หลับตาอยู่ ดีที่ตอนที่เขาเกือบจะเลยเถิดเขาตั้งสติได้พอดีไม่งั้นลูกหนูแย่แน่ๆ สำหรับใครหลายๆ คนลูกหนูอาจจะเป็นคนน่ารักแสนดี แต่กับเขาลูกหนูกับเป็นอะไรที่แสนอันตรายสุดๆ โดยเฉพาะกับไอ้ที่อยู่ตรงอกด้านซ้าย เห็นทีเขาต้องพยายามอยู่ห่างลูกหนูสักหน่อยแล้วแหละ ถ้าไม่อยากให้ตัวเองต้องตกอยู่ในอันตรายอีกครั้ง
ตอนพิเศษ 2ยินดีต้อนรับ“คุณพ่อข่า เมื่อไรคุณปู่จะมาถึงค่ะ” เด็กหญิงลูกหนูในวัยห้าขวบถามพ่อหลังจากวิ่งเข้าวิ่งออกระหว่างประตูหน้าบ้านกับห้องรับแขกหลายสิบรอบ แต่ก็ยังไม่เห็นวี่แววว่ารถที่ไปรับคุณปู่ของเธอที่สนามบินจะกลับมาซักที“ใจเย็นๆ สิ เดี๋ยวคุณปู่ก็มาถึงแล้ว ลูกหนูมานั่งรอกับพี่ดีกว่าไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาแล้วแล้วเดี๋ยวก็ล้มหรอก” ทินกรวัยสิบเอ็ดปีเป็นคนตอบพร้อมกับเดินมาอุ้มลูกหนูให้ขึ้นไปนั่งบนตักของตัวเอง เพราะกลัวว่าน้องสาวจะล้มเพราะการวิ่งไปวิ่งมา“แต่ลูกหนูอยากไปรอรับคุณปู่นี่ค่ะ” เด็กหญิงลูกหนูหันไปบอกพี่ชาย“อยากไปรอรับคุณปู่หรือรอรับใครกันแน่ อย่าคิดว่าพี่รู้ไม่ทันเรานะ” ภาสกรวัยแปดขวบพูด“ลูกหนูต้องรอรับคุณปู่สิ พี่ภาสอย่ามาใส่ร้ายลูกหนูนะ” ลูกหนูตอบพี่ชายของเธอ“จริงเหรอ แล้วทำไมต้องแก้มแดงด้วย” ภาสกรยังไม่หยุดแหย่น้องสาว“พี่ทินจัดการพี่ภาสให้ลูกหนูหน่อย ลูกหนูถูกพี่ภาสแกล้ง” เมื่อเห็นว่าตัวเองไม่สามานถสู้ภาสกรได้ลูกหนูจึงหันไปขอความช่วยเหลือจากทินกรพี่ชายคนโต พร้อมกัลป์บีบน้ำตาเรียกคะแนนส่งสาร“ภาสหยุดแกล้งน้องเลยนะ ถ้าไม่งั้นพี่จะฟ้องแม่” ทินกรเองก็รู้แผนการของน้องสาวตัว
ตอนพิเศษ 1ท้อง“พี่ธันตื่นได้แล้วค่ะ สายแล้วนะคะ” ลูกหนูปลุกสามีของเธอ ปกติธันวาไม่ใช่คนตื่นสาย ถึงแม้จะตื่นหลังลูกหนูแต่ก็ไม่ได้ตื่นช้าขนาดที่ทำให้เธอต้องขึ้นมาปลุก แต่วันนี้เธอทั้งเรียกทั้งเขย่า คนตัวโตก็เอาแต่ส่งเสียงอืม แล้วพลิกตัวหนี“ตัวก็ไม่ได้ร้อน เมื่อคืนก็นอนไม่ดึก ทำไมวันนี้ตื่นยากจัง” ลูกหนูคิดพร้อมกับพยามเรียกสามีของเธออีกครั้ง “พี่ธันตื่นนะ เป็นอะไรหรือเปล่าค่ะ ถ้าไม่ตื่นลูกหนูจะเรียกหมอพัดมาแล้วนะ” ลูกหนูบอกพร้อมกับเขย่าคนตัวโตอีกครั้ง แต่ธันวาก็ยังคงหลับตาอยู่แบบเดิม ลูกหนูเลยตัดสินใจลุกขึ้นเพื่อจะไปบอกป้านิดให้โทรตามหมอพัดแต่ลูกหนูขยับตัวยังไม่ทันจะพ้นขอบเตียงคนที่นอนปลุกไม่ตื่นก็จับแขนของเธอไว้ก่อนจะดึงคนตัวเล็กให้ลงมานอนข้างๆ พร้อมกับใช้แขนแกร่งกอดไว้แน่น“ไม่ต้องไปตามหรอกพี่ไม่ได้เป็นอะไร” ธันวาตอบทั้งที่ยังคงหลับตาอยู่“แน่ใจนะคะ แต่ลูกหนูเรียกพี่ตั้งหลายรอบแต่พี่ก็ไม่ยอมตื่นจนลูกหนูนึกว่าพี่เป็นอะไร” ลูกหนูถามด้วยความอดห่วงไม่ได้“แน่ใจสิ พี่แค่เหนื่อยนิดหน่อย ต้องเป็นเพราะลูกหนูใช้งานพี่ตอนกลางคืนหนักแน่ๆ เลย”เพี๊ยะ!!หลังพูดจบคนพูดก็โดนฝ่ามือเล็กของลูกหนูไ
ตอนที่ 21 งานแต่ง“ลูกหนูช่วยขึ้นให้ผมหน่อย” ลูกหนูตกใจกับคำขอให้ช่วย“ลูกหนูทำไม่เป็นค่ะ” ลูกหนูตอบเพราะทุกครั้งก็มีแต่ธันวาเป็นฝ่ายทำ เธอเคยทำอะไรแบบนี้ที่ใหนกัน“ไม่ยากหรอกเดี๋ยวผมสอน” ธันวาพูดจบก็จูบเล้าโลมลูกหนู ก่อนจะยกสะโพกของลูกหนูขึ้นแล้วจัดการถอดกางเกงชั้นในของของลูกหนูออก ก่อนจะปดกระดุมกางเกงแล้วรูดซิบของตัวเอง ธันวาจับน้องชายของตัวเองให้ตั้งขึ้นก่อนจะจ่อไปที่ปากถ่ำหวาน“ลูกหนูนั่งทับลงมาเลย...อ้า” ลูกหนูทำตามที่ธันวาบอกตอนนี้น้องสาวขอเธอกลืนกินน้องชายของธันวาจนหมดสิ้น“อ๊า” ลูกหนูเองก็ร้องเสียงหลงเพราะตอนนี้น้องชายของธันวาเข้าไปลึกมาก ลึกกว่าทุกครั้งก็ว่าได้ ธันวาใช้สองมือจับไปที่ก้นงามก่อนจะออกแรงยกขึ้นก่อนจะปล่อยลง“ลูกหนูทำแบบนี่นะ ยกขึ้นแล้วลง...อ้า...แบบนั้นแหละ...อ้า” ลูกหนูทำตามที่ธันวาสอนแล้วทำได้ดีด้วย ลูกหนูโยกขึ้นลงตามที่ธันวาบอก ส่วนธันวาก็ใช้ปากดูดเลียที่อกงาม มือทั้งสองก็บีบเค้นก้นงามและช่วยออกแรงยก“อ๊า...อ๊า” ลูกหนูไม่เคยคิดเคยฝันว่าวันนึงเธอจะมามีอะไรกับธันวาข้างนอกแบบนี้แถมยังเป็นตอนกลางวันถึงฟิล์มรถจะมืดแต่ถ้ามีใครผ่านมาเห็นก็ต้องรู้แน่ๆ ว่าคนในรถทำอะไรก
ตอนที่ 20 ขอ“ว่าไงลูกหนูคนสวยกลับมาจากต่างประเทศปุ๊บก็รีบไปหาผู้ชายปั๊บเลยนะ เพื่อนเพิ่นนี้ไม่มาเจอเลยทำดีจริงๆ” รินหรือรินรดาดาราสาวแนวหน้าของประเทศพูดขึ้น“แน่นอนเพื่อนกับผู้ชาย ผู้ชายก็ต้องสำคัญกว่าอยู่แล้ว” เฟย่านักธุรกิจสาวเจ้าของกิจการขนส่งทั้งบนดินทางอากาศแม้แต่ทางเรือก็อยู่ในความดูแลของเธอพูดขึ้น“ว่าแต่ลูกหนูแกล่ะเฟย่าผู้ชายคนนั้นบอดี้การ์ดพี่ชายแกไม่ใช่เหรอทำไมถึงมาอยู่กับแกได้ อย่าบอกนะว่าแกแอบสอยมาอ่ะ” ลาน่านักร้องสาวแสนเท่ทักขึ้น เรียกความสนใจของสาวๆ ให้หันไปมองชายหนุ่มคนนั้น“จะบ้าเหรอ พอดีตอนนี้ฉันกำลังจัดการเรื่องบางอย่างให้พี่เฟร็ดอยู่นะพี่เขาเลยส่งหมอนั่นมาช่วยแค่นั้นแหละ” เฟย่าตอบ“ถ้าแค่ส่งมาช่วยแล้วทำไมต้องตามมาเฝ้าด้วยล่ะ” ซูจินดีไซเนอร์สายมูทักขึ้น“นี่หยุดสนใจเรื่องฉันแล้วไปจัดการยัยลูกหนูดีกว่าม่ะ นางเอกของงานไม่ใช่ฉันแต่เป็นยัยนั่นต่างหาก” หลังจากเฟย่าพูดจบทุกคนก็หันมาเล่นงานเธอต่อ“ตื่นได้แล้วคนขี้เซา”“ลูกหนูขอนอนอีกนิดนะคะ ง่วงมากเลย” เมื่อคืนกว่ายัยสี่สาวนั้นจะปล่อยเธอกลับก็เกือบเช้า เพราะงั้นเธอตื่นไม่ไหวจริงๆ“ถ้างั้นแม่จะไปบอกให้อาธันของลูกกลับไปก่อนด
ตอนที่ 19 กลับบ้าน[ สนามบิน ]มีคนเคยบอกว่าถ้าผู้ชายได้ผู้หญิงแล้วจะไม่เห็นค่าคำพูดนั้นคงใช้ไม่ได้กับอาธัน เพราะตั้งแต่วันที่ทั้งสองมีอะไรกันในวันนั้นดูเหมือนธันวาจะติดลูกหนูหนักว่าเดิมเรียกได้ว่าที่ใหนมีธันวาต้องมีลูกหนู ที่ใหนมีลูกหนูต้องมีธันวา จนตอนนี้คนทั้งไร่ต่างลือกันว่าอีกไม่นานที่ไร่ต้องมีข่าวดีเร็วๆนี้แน่“ไม่ไปไม่ได้เหรอ ถ้าลูกหนูไม่อยู่แล้วผมจะนอนกอดใครล่ะ” ธันวาบ่น“ลูกหนูกลับบ้านนะคะไม่ได้ไปไหน แค่สัปดาห์เดียวเองอย่างอแงสิคะ” ลูกหนูกำลังปลอบคนงอแงถ้าพวกพี่ๆ ของเขาได้มาเห็นอาธันของเธอในตอนนี้ล่ะก็ต้องขำแน่ๆ“ตั้งอาทิตย์นึง มันนานมากเลยนะทั้งผมและเจ้าน้องชายผมต้องคิดถึงลูกหนูกับน้องสาวของลูกหนูมากแน่ๆ” ลูกหนูตีแขนธันวาเบาๆไปหนึ่งที“คิดแต่เรื่องอะไรเนี่ยอาธัน เมื่อคืนยังรังแกลูกหนูไม่พออีกเหรอ เดี๋ยวนี้ชักจะเอาใหญ่แล้วนะ” ลูกหนูต่อว่า“ก็ลูกหนูจะไม่อยู่ตั้งหลายวันผมก็ต้องตักตวงไว้หน่อยสิ แล้วก็เมื่อไรลูกหนูจะเลิกเรียกผมว่าอาเนี่ย บางคนที่เขาไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของเราต่างพากันคิดว่าผมเอาหลานตัวเองมาทำเมียกันหมดแล้วเนี่ย” ลูกหนูอกขำไม่ได้“แล้วมันไม่จริงเหรอค่ะ อาธัน” ธ
ตอนที่ 18 มื้อดึก“โอ๊ย” ลูกหนูส่งเสียงร้องออกมาหลังจากที่บิดขี้เกียจเพราะเธอรู้สึกปวดเมื่อยไปทั้งตัว“สองทุ่มแล้วเหรอ นี้ฉันหลับไปนานขนาดนี้เลยเหรอ” ลูกหนูพึมพำที่เธอมีสภาพแบบนี้คงต้องโทษอาธันเพราะกว่าที่อาธันจะปล่อยให้เธอออกมาจากห้องทำงานก็เกือบเย็น ข้าวเที่ยงก็ไม่ได้กิน พอมาถึงห้องก็หลับไม่รู้เรื่องทำให้ตอนนี้เธอพลาดมื้อเย็นอีก“หิวจัง ยังมีอะไรเหลือให้เธอกินหรือเปล่าเนี้ย” ลูกหนูลงมาหาของกินในครัวเพราะตอนนี้เธอหิวมาก แต่ระหว่างที่เธอกำลังหาของกินในตู้เย็นเธอก็ถูกคนบางคนสวมกอดจากข้างหลังจนเธอตกใจร้องกรี๊ดออกมา คนฉวยโอกาสเลยต้องปิดปากเธอด้วยจูบร้อนแรง ลิ้นร้อนดันปากของเธอเปิดออกเพื่อให้ลิ้นของเขาได้ลุกล่ำเข้าไปชิมความหวานในปากนุ่ม“อืม” ลูกหนูส่งเสียงประท้วงหลังจากถูกจู่โจมจากคนนิสัยไม่ดี ก่อนจะดันอาธันออก ธันวายอมถอนจูบออกทั้งที่ไม่เต็มใจ“หยุดเลยนะคะอาธัน ลูกหนูหิว”“หิวอะไรเหรอ หิวผมหรือเปล่า” ให้ตายเถอะอาธันของเธอเป็นคนแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร เมื่อกลางวันยังไม่พอใจอีกเหรอ“ลูกหนูไม่เล่นนะคะ ลูกหนูหิวข้าวมากจริงๆ เป็นเพราะใครก็มารู้ลูกหนูถึงอดข้าวไปตั้งสองมื้อ” ลูกหนูบ่น“วันนี้ป้าน