Mag-log in🔥 ไฟราคะ 🔥
บทที่ 03
เขมิกาเดินเข้าบ้านหลังใหญ่ บ้านของตระกูลไพวรรณ เธอถือช่อดอกไม้กลับเข้าบ้านทุกๆ วัน เพราะเธอจะจัดแจกันในบ้านให้ดูสวยงามและสดชื่นอยู่เสมอ
"เขม.. มาหาแม่หน่อยสิ" แขไขเรียกบุตรสาวคนโตที่กำลังเดินเข้าบ้าน เขมิกาเดินเข้าไปหาพ่อกับแม่ที่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว เธอวางกระเป๋าและช่อดอกไม้ลงบนโต๊ะ ก่อนจะเดินไปนั่งข้างๆ แม่
"มีอะไรคะแม่" หญิงสาวเอ่ยถามแม่และพ่อที่นั่งทำหน้าเคร่งเครียดอย่างเห็นได้ชัด
"เขม..แม่กับพ่อมีเรื่องจะบอก แต่อย่าบอกเรื่องนี้กับน้องนะลูก น้องยังเรียนอยู่ เดี๋ยวจะทำให้น้องเครัยดตามไปด้วย" เธอบอกลูกสาวอย่างกังวล
"ค่ะแม่.. มีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะ" หญิงสาวเอ่ยถามผู้เป็นแม่
"เขม..ตอนนี้ธุระกิจครอบครัวของเรากำลังแย่นะลูก..เราติดหนี้ธนาคารอยู่ร้อยล้านบาท"
มานพเอ่ยเสียงเครียดหลายวันมานี่เขาแทบจะไม่ได้พักผ่อนเลย เพราะมัวแต่หาทางใช้หนี้อยู่ ยิ่งช้าดอกยิ่งเพิ่มมากขึ้น บริษัทเขาทำเกี่ยวกับพวกอสังหาริมทรัพย์ ขายบ้านขายที่ดิน แต่ปีนี้เศรษฐกิจกำลังแย่ โครงการบ้านจัดสรรของเขาที่กำลังขยายกำลังมีปัญหาหลายอย่าง เขาทั้งกู้ธนาคารคาร กู้นอกระบบ เขาทำมาทุกอย่างแล้ว แต่ยิ่งทำเหมือนมันยิ่งเป็นหนี้เพิ่มขึ้นไปอีก
"ตายจริง! จริงหรอคะคุณพ่อคุณแม่" เขมิกาถามอย่างตกใจ ไม่คิดว่าพ่อกับแม่เธอต้องเจอปัญหาหนักแบบนี้
"พ่อกับแม่หมดหนทางแล้วลูก" แขไขเอ่ยบอกบุตรสาวเสียงเศร้า
"แล้วเราผ่อนจ่ายไม่ได้หรอคะ เขมพอมีเงินเก็บสักก้อนอยู่ค่ะ" เขมิกาเอ่ยบอกพ่อกับแม่ เธอก็พอมีเงินเก็บในบัญชีอยู่แต่ไม่มาก
"มันไม่ทันแล้วลูก มันเลยกำหนดชำระมานานหลายเดือนแล้ว แต่พ่อกับแม่ไม่ได้บอกลูกเอง..." แขไขบอกกล่าวหญิงสาว เธอก้มหน้าร้องไห้ออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ ครอบครัวเธอกำลังแย่ หากไม่ใช้หนี้บ้านและบริษัทที่ใช้ค้ำประกันก็ต้องถูกยึด เธอไม่อยากให้ลูกๆมาลำบากกับเธอเลย
"โธ่~ แม่คะ.. อย่าร้องไห้นะคะ ถ้ามีอะไรที่เขมช่วยได้ บอกเขมนะคะ.." เขมิกากอดมารดาแน่น เธอสงสารพ่อกับแม่เหลือเกิน
"มีสิลูก..ลูกช่วยพวกเราได้แน่นอน" มานพเอ่ยบอกลูกสาว มันตันแล้วจริงๆ เหลืออยู่วิธีเดียว แม้ว่าเขาจะโดนตราหน้าว่าขายลูกกินก็เถอะ แต่มันจำเป็น..คนไม่ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ไม่เข้าใจหรอก
"อะไรคะ.. ถ้าเขมช่วยได้ เขมจะช่วยแน่นอนค่ะ" หญิงสาวเอ่ยบอกพ่ออย่างมั่นใจ
"คุณคะ...จะดีหรอคะ" แขไขถามสามีอีกครั้ง เธอไม่อยากเลือกวิธีนี้เลย..
"เราไม่มีทางเลือกแล้วนะแข.. หรือคุณจะยอมให้บ้านและบริษัทเราถูกยึด" มานพเอ่ยบอกภรรยา เขาก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้เลย หากไม่จำเป็นจริงๆ
"ไม่นะคะ.. บ้านเราจะไม่ถูกยึด พ่อกับแม่บอกมาเถอะค่ะ จะให้เขมช่วยอะไร" เขมิกาบอกกล่าวพ่อแม่ เธอจะไม่ยอมให้บ้านและบริษัทที่ครอบครัวเธอสร้างมากับมือพังเด็ดขาด หากเธอช่วยได้จริงๆ เธอจะช่วยอย่างเต็มที่..
"เขมต้องแต่งงาน!" มานพเอ่ยบอกเสียงเครียด เขาก้มหน้าลงไม่กล้าสบตาลูก กลัวว่าลูกจะเกลียดเขา
"อะ..อะไรนะคะ" เธอเบิกตากว้างอย่างตกใจ เหมือนลมหายใจเธอหยุดไปชั่วขณะ สมองหยุดทำงานเสียดื้อๆ พ่อกับแม่จะให้เธอแต่งงานงั้นหรอ..เธอจะทำยังไงดีนะ แต่เธอคงยอมให้ทุกอย่างพังลงไปต่อหน้าต่อตาก็ไม่ได้อีก...
"เขมลูก..ถ้าเขมไม่อยากแต่ง ก็ไม่ต้องแต่งนะลูก พ่อกับแม่จะไม่บังคับเขม.. ถ้าทุกอย่างมันจะพังก็ให้มันพังไป เราสร้างใหม่ได้นะลูก" แขไขรวบหญิงสาวเข้ามากอดแน่นน้ำตาผู้เป็นแม่ไหลออกมา เธอสงสารลูก ไม่อยากทำร้ายลูกแบบนี้เลย เขมิการ้องไห้ออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ เธอจะทำยังไงดี.. หญิงสาวสูดหายใจเข้าปอดลึกๆ เธอตัดสินใจแล้ว..
"พ่อคะ..แม่คะ.. เขมจะแต่งงานค่ะ" หญิงสาวกลั้นใจพูดออกไป เธอทำถูกแล้วใช่มั้ย..
"จะ..จริงหรอเขม..เขมจะแต่งงานจริงๆหรอลูก" แขไขถามลูกสาวให้แน่ชัด เธอไม่ได้บังคับลูกเกินไปใช่มั้ย
"ค่ะ เขมจะแต่งงาน เขมยอมให้บ้านและบริษัทเราถูกยึดไม่ได้หรอกนะคะ กว่าพ่อกับแม่จะสร้างมาได้ขนาดนี้ลำบากเพื่อเขมกับน้องมาตั้งเท่าไหร่ แล้วทำไมเขมจะยอมทำเพื่อพ่อกับแม่ไม่ได้ล่ะคะ.." เธอบอกพ่อกับแม่อย่างหมั่นใจ เธอคิดดีแล้วแหละ คงถึงเวลาที่เธอต้องตอบแทนบุญคุณของพ่อกับแม่ซะบ้าง
"ขอบใจนะเขม ขอบใจมากลูก" มานพกอดลูกสาวอย่างขอบคุณ หากลูกไม่ช่วยเขาก็คงหมดหนทางแล้ว
"ไม่ต้องห่วงนะลูก คนที่ลูกจะแต่งงานด้วยเป็นลูกชายของเพื่อนพ่อเอง อาชาญวิทย์ลูกจำได้มั้ย" มานพถามลูกสาว ตอนเด็กๆเขาเคยพาลูกสาวไปหาเพื่อนรักอยู่บ่อยๆ
"อ้อ อาชาญ..จำได้สิคะ ตอนเด็กอาชาญรักและเอ็นดูเขมมาก"
เธอจำได้อยู่บ้าง ชาญเอ็นดูเธอเหมือนลูกสาว ครั้งเมื่อตอนภรรยาของเขายังอยู่ ยังชอบพาเธอไปนอนค้างด้วยบ่อยๆ เพราะเขาไม่มีลูกสาว ส่วนลูกชายของชาญวิทย์เธอเองก็ไม่เคยเห็น เพราะตอนนั้นลูกชายของเขาไปเรียนต่อต่างประเทศเลยไม่เคยได้เจอกัน เคยเจออยู่ครั้งนึงตอนงานศพภรรยาของชาญวิทย์แต่ตอนนั้นเธอยังเด็กและยังไม่รู้จัก
"ใช่ลูก ลูกชายอาชาญหล่อมากเลยนะ พ่อเชื่อว่าเขาเป็นคนดี" มานพยิ้มให้ลูกสาวคนสวย ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยเจอตัวจริงตอนเป็นหนุ่มของชาตรี แต่เขาก็เชื่อว่าชาตรีจะดูแลลูกสาวเขาได้เป็นอย่างดี
"แม่กับพ่อขอบใจลูกมากๆนะ แม่รักเขมนะลูก" แขไขลูบผมหญิงสาวอย่างอ่อนโยน
"ค่ะ เขมก็รักแม่กับพ่อค่ะ" ร่างบางหอมแก้มพ่อและแม่
"จ๊ะเอ๋!?.. ทำอะไรกันอยู่คะ สามคนพ่อแม่ลูก" เขมิกรเดินเข้ามาก่อนจะเดินเข้าไปสวมกอดผู้เป็นแม่
"ไงเรา.. เลิกเรียนแล้วหรอ หืม.." แขไขถามบุตรสาวคนเล็ก
"เลิกแล้วค่ะ ว่าแต่คุยอะไรกันอยู่หรอคะ" ร่างบางเอ่ยถามแม่และพี่สาว
"เขมเขามาปรึกษาพ่อเรื่องที่จะขยายร้านน่ะ ใช่มั้ยเขม" มานพขยิบตาให้เขมิกา ร่างบางพยักหน้าหงึกหงัก
"อ้อ ใช่ๆ พี่มาปรึกษาพ่อกับแม่เรื่องขยายร้านน่ะ งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ" เขมิกาหยิบกระเป๋าและช่อดอกไม้ ก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว กลัวน้องสาวสงสัยเธอเป็นคนที่โกหกอะไรไม่เก่งอยู่แล้วด้วย
"พ่อข๋าา แม่ข๋าา แขอยากได้รถเบนซ์คันใหม่ค่ะ พ่อกับแม่ซื้อให้แขหน่อยน๊าา" หญิงสาวเดินไปกอดแขนอ้อนพ่อกับแม่ พลางกระพริบตาปริบๆ
"ช่วงนี้พ่อไม่ว่างอ่ะ กำลังยุ่งๆ พ่อไปก่อนนะ" มานพรีบหนีเอาตัวรอด ก่อนจะเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
"อ้าว คุณ!.." แขไขเรียกสามีที่ทิ้งให้เธอรับหน้ากับลูกสาวคนเล็กอยู่คนเดียว
"คุณแม่ข๋าา " เขมิกรเรียกแม่เสียงหวาน
"ห้าวว~ ง่วงจังเลย แม่ไปนอนก่อนนะ" แขไขว่าจบก็รีบเดินหนีออกมาทันที ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงซื้อให้อย่างไม่ลังเล แต่สถานการณ์ตอนนี้มันไม่ใช่..
"แม่อ่าา " ร่างบางทำหน้าบูดบึ้ง ทุกคนเดินหนีเธอหมดเลย ก่อนที่เขมิกรจะเดินออกไป..
ไฟราคะตอนพิเศษร่างตุ้ยนุ้ยจ้ำม่ำเดินเตาะแตะๆ ล้มลุกคลุกคลานอยู่หลายครั้ง โดยมีเขมิกา ชาตรีและครอบครัวนั่งเฝ้าดูอยู่ไม่ห่าง วันหยุดสุดสัปดาห์ของใครหลายๆคน พวกเธอจึงใช้โอกาสนี้มาเที่ยวเล่นที่ทะเลหัวหิน โดยตกลงจะพัก 3 วัน 2 คืน น้ำใสสะอาดถูกคลื่นซัดขึ้นฝั่งมาเป็นระลอกๆ หญิงสาวในชุดว่ายน้ำตัวจิ๋วนอนอาบแดดอย่างสบายกายสบายใจ ข้างๆเป็นชายหนุ่มมาดเข้มใบหน้าหล่อเหลาสวมแว่นตากันแดดสีดำอันใหญ่ ยิ่งทำให้ดูมีเสน่ห์มากยิ่งขึ้น "ชะเอม..มาหาแม่มา" เขมิกาอ้าแขนรอรับลูกสาวที่เดินเตาะแตะอยู่บนพื้นทราย ก่อนที่ร่างตุ้ยนุ้ยของเด็กน้อยจะเดินมาหาผู้เป็นแม่"หืม ได้อะไรมาคะ" เธอก้มดูมือน้อยๆของลูกที่กำเปลือกหอยสีสวยไว้ในมือ"ให้พ่อหรอลูก" ชาตรียื่นมือไปรับเมื่อชะเอมทำท่าจะยื่นให้เขา แต่กลับชักมือกลับเสียอย่างนั้น"อ้าว ไม่ให้พ่อหรอ" เด็กน้อยฉีกยิ้มอารมณ์ดีจนเห็นฟันสองซี่ด้านหน้า "โชน ทำอะไรอยู่ครับ" ชาตรีเดินเข้าไปถามบุตรชายที่นั่งเล่นก่อกองทรายที่เหมือนไม่ใช่กองทรายสักเท่าไหร่ ตามลำตัวและใบหน้าเต็มไปด้วยเม็ดทรายเต็มไปหมด เด็กชายหน้านิ่งเงยหน้ามองพ่อพลางอมยิ้มนิดๆ นิดเดียวเท่านั้น แต่นี่คือดีใจสุดๆของเขา
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 49ชายหนุ่มและหญิงสาวนอนกอดก่ายกันอยู่บนเตียงนอนอันแสนนุ่มผ้าห่มหนาถูกคลุมโปงเพื่อหนีแสงแดดที่ส่องสว่างเข้ามาทางม่านหน้าต่าง ดวงตากลมโตกระพริบตาถี่ๆ ก่อนจะลืมตาขึ้นช้าๆ "เอ๋? ยังไม่เช้าหรอเนี่ย" เขมิกาพึมพำซบอกแกร่งที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของชายหนุ่ม ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะ 'หึหึ' ในลำคอเบาๆ "ใครบอกว่ายังไม่เช้าล่ะ" ชาตรีเปิดผ้าห่มออกทำให้ร่างกายเปลือยเปล่าปะทะกับอากาศหนาวเย็นสุดขั้ว เขมิการีบขว้าผ้าห่มมาคลุมกายไว้อย่างรวดเร็ว"พี่ชาตรีอ่า" เธอทำหน้ายู่อย่างแง่งอน คนตัวโตชอบแกล้งเธออยู่เรื่อย"ฮ่าๆๆ พี่ชอบเขมแบบนี้จัง น่ารักดี" มือหนาบีบแก้มเจ้าหล่อนก่อนจะก้มลงจุ๊บปากอย่างเอ็นดู "อื้อ~ ไม่ต้องเลย" เธอสะบัดหน้างอนๆ ก่อนจะหอบผ้าห่มคลุมกายลงจากเตียง"เฮ้ย! เขม พี่หนาวนะ ฮ่าๆๆ" ชายหนุ่มร้องตามหลังภรรยาเมื่อตอนนี้ร่างกายของเขาเปลือยเปล่าล่อนจ้อนอยู่บนที่นอนขนาดกว้าง ฟันกระทบกันเสียงดังเมื่อรู้สึกหนาวจนตัวสั่น ก่อนที่ร่างสูงจะก้าวลงจากเตียงตามหญิงสาวไป"เข้ามาทำไมเนี่ย" เธอหันไปแห้วเขาอย่างตกใจเมื่อเธอกำลังอาบน้ำอยู่เพลินๆ ชาตรีรวบกอดเธอจากด้านหลังก่อนจะบีบสบู่เหลวมาถูตา
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 48~ประเทศเกาหลี~ร่างบางในชุดกันหนาวขนสัตว์อันหนานุ่ม ยืนกอดอกมองออกไปด้านนอกที่โปรยปรายไปด้วยหิมะสีขาวสะอาดตา เธอเลือกมาที่เกาหลีเพราะอยากมานานแล้วแต่ไม่เคยได้มา วันนี้เธอจึงถือโอกาสมาเที่ยวให้หนำใจ ช่วงที่เธอมาเป็นช่วงหน้าหนาวพอดิบพอดี อุณหภูมิติดลบหลายองศาทำเอาหนาวเย็นไปถึงกระดูก แม้จะเตรียมตัวมาอย่างดีแต่เอาเข้าจริงๆ มันหนาวเหน็บมากๆ "ทำอะไรอยู่ หืม" ร่างสูงโปรงในชุดกันหนาวตัวใหญ่เดินมาสวมกอดเธอจากด้านหลัง ควันพวยพุ่งออกจากปากและจมูกเมื่ออากาศหนาวเหน็บ ชาตรีหยิบผ้าพันคอก่อนจะสวมใส่ให้เธอ"กำลังคิดอยู่ว่าวันนี้เราจะไปเที่ยวที่ไหนดี" เธอหันไปตอบเขายิ้มๆ เธอตั้งใจมาฮันนีมูนหนึ่งอาทิตย์ ส่วนลูกเธอฝากให้แม่ดูแลแทน "แล้วเขมอยากไปเที่ยวที่ไหนล่ะ" ใบหน้าหล่อเหลาซบลงที่ไหล่ข้างซ้ายของเธอ "เขมดูๆไว้สองสามที่ค่ะ แต่ที่เขมอยากไปมากๆก็จะเป็นโซลทาวเว่อร์ค่ะ เขมเคยดูละครมันโรแมนติก มากๆเลยนะ" เธอเอ่ยเสียงสดใส "งั้นไปกันเลยมั้ย" "มันจะดีนะ ฮ่าๆๆ" เธอป้องปากหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี ทำเอาคนตัวโตถึงกับยิ้มตามความน่ารักของเธอ "ปะ ไปกัน" มือหนากุมมือหญิงสาวไว้มั่นก่อนจะพาเธอเด
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 47หลายวันผ่านไปชาตรีได้ย้ายกลับไปอยู่บ้าน โดยมีเขมิกาเฝ้าดูแลตลอดเวลา หญิงสาวคอยเช็ดตัวและหาข้าวหายาให้กินตลอด ตอนนี้เขาดีขึ้นมากแล้ว แผลเริ่มหายสนิทดี เพราะเขาได้กำลังใจที่ดีจากภรรยาและลูกที่น่ารัก"อุ๊ย!" เขมิกาสะดุ้งอย่างตกใจเมื่อถูกรวบกอดจากด้านหลัง ขณะที่เธอกำลังง่วนอยู่กับการทำอาหารเย็น "หอมจัง" ชายหนุ่มสูดดมความหอมจากพวงแก้มใสซ้ำแล้วซ้ำเล่า วงแขนกำยำกักขังเธอไว้ในอ้อมกอด"อื้อ พี่ชาตรีคะ เขมทำกับข้าวอยู่นะ" เธอเบี่ยงหน้าหลบจมูกซุกซนของสามีหนุ่มที่เอาแต่กอดหอมเธออยู่แบบนั้น "ทำอะไรกินหรอ" เขาชะเง้อมองแกงที่เดือดปุดๆอยู่ในหม้อ กลิ่นหอมลอยเตะจมูก"แกงเลียงค่ะ เขมเปิดเจอก็เลยอยากกิน มีประโยชน์ดีนะคะ" เธอเทกุ้งที่แกะเปลือกเรียบร้อยใส่หม้อ ก่อนจะปรุงรสนิดหน่อยก็เป็นอันเสร็จ"เขมเก่งจัง" เขาเอ่ยชมภรรยาเสียงหวาน ยิ่งอยู่ใกล้เธอเขายิ่งรักเธอมากขึ้นไปทุกวันๆ "ก็เขมมีครอบครัวแล้วนี่คะ ก็ต้องทำหน้าที่ภรรยาที่ดีสิคะ " เธอว่าพลางยกอาหารไปวางบนโต๊ะกับข้าวโดยมีชายหนุ่มคอยช่วย "แล้วลูกล่ะคะ" เธอเอ่ยถามชาตรี เพราะเธอให้เขาดูลูกให้ตอนลูกหลับ"ยังไม่ตื่นเลย แต่เดี๋ยวก็คงตื่
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 46ภายในห้องพักฟื้นพิเศษ ร่างบางนั่งกุมมือชายหนุ่มไว้ใบหน้าแนบลงที่มือของเขาเบาๆ ผ่านไปเกือบอาทิตย์แล้วคนที่นอนแน่นิ่งก็ยังไม่มีท่าทีจะฟื้นขึ้นมาเลย เขมิกานั่งมองหน้าชายหนุ่มที่เฝ้ารอมาตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา หยดน้ำใสใสเอ่อคลอที่ดวงตาคู่สวยก่อนจะรินไหลอาบแก้ม"ตื่นได้แล้วนะ.. เขมกับลูกรอพี่อยู่นะ.." เธอเอ่ยเสียงสั่นเครือ หมอบอกว่าเขาพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องพักฟื้นให้แผลที่ถูกยิงหายดีเสียก่อน เธอรู้แล้วว่าเธอรู้สึกเสียใจแค่ไหนที่เห็นเขาเกือบตายในตอนนั้น เธอจะอยู่ต่อไปยังไงเธอยังนึกไม่ออก เธอผิดเองที่แอบไปโดยพละการแบบนั้น หากเขามาช่วยเธอไม่ทัน ป่านนี้เธอกับลูกจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้.."ฮึก~ เขมขอโทษนะคะ เขมรักพี่นะ" เขมิกาฟุบหน้าลงร้องไห้ที่ท่อนแขนแกร่งของชายหนุ่ม จู่ๆเธอก็รู้สึกว่านิ้วเขาขยับเพียงเล็กน้อย เธอเบิกตากว้างอย่างดีใจ"พะ..พี่ชาตรี..พี่ชาตรีฟื้นแล้วหรอคะ" เธอถามคนที่นอนนิ่งบนเตียงอย่างตื่นเต้น เธอคงไม่ได้คิดไปเองหรอกใช่มั้ย.. เปลือกตาอันหนักอึ้งค่อยๆลืมตาขึ้นช้าๆ ชาตรีกระพริบตาถี่ๆ เพื่อให้ชินกับแสงสว่างในห้องเขามองไปรอบๆห้องช้าๆ ก่อนจะมาหยุดที่ใบหน
🔥 ไฟราคะ 🔥บทที่ 45"เขม!! ระวัง!!!"ปัง!! ปัง!!เสียงปืนดังขึ้นติดกันสองนัด ก่อนที่ร่างของกิ่งเหมยจะล้มลงบนพื้นกิตติวิ่งมาประคองร่างของบุตรสาวที่นอนหายใจรวยรินเมื่อกระสุนเจาะที่กลางหน้าอก เลือดไหลทะลักออกปากและจมูก ลีวายลดปืนลงก่อนจะวิ่งไปดูชาตรีที่ทรุดลงเช่นกัน ชาตรีคว้าเขมิกาไว้ก่อนจะเอาตัวบังกระสุนแทน กระสุนปืนเจาะช่วงไหล่ซ้ายเกือบทะลุหัวใจของเขาอย่างจัง ร่างสูงทรุดฮวบลงทันควัน"พี่ชาตรี!!!!!" เขมิกากรีดร้องออกมาดังลั่น เมื่อเห็นร่างผู้เป็นสามีล้มลง น้ำตาเธอรินไหลอาบแก้มเธอประคองหัวเขาให้นอนหนุนตัก "อึก~" ชายหนุ่มเบ้หน้าอย่างเจ็บปวด "ฮืออ~ พี่ชาตรีอย่าเป็นอะไรนะคะ ฮึก~ ช่วยด้วย!! ฮืออ~ " เธอร้องไห้อย่างบ้าคลั่งเมื่อเขาแทบไม่มีสติ มือบางเขย่าตัวเขา ไม่ให้เขาหลับเธอกลัว..กลัวจะเสียเขาไป.."อึก..ขะ..เขม..ซี๊ดด~ เขมไม่เจ็บตรงไหนใช่มั้ย" เขายิ้มให้เธอน้อยๆ เขารู้ว่าเธอเป็นห่วงเขามาก ร่างบางส่ายหน้าไปมา"ไม่ค่ะ เขมไม่เจ็บ พี่อย่าเป็นอะไรนะ ฮืออ~ " เธอประคองใบหน้าเขาไว้ มืออีกข้างโอบกอดเขาไว้แนบกาย"พะ..พี่ฝากดูลูกด้วย..นะ.." เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง เลือดสดๆ ไหลรินเป็นทาง หมอธีร์วิ