“ท่านรองคิดจะทำอะไรคะ” เขมิกาเอ่ยขึ้นหลังกลับมาถึงบริษัทแล้ว
ทิวากรหันกลับไปมองคนตัวเล็กที่กล้าตั้งคำถามกับเขา “ทำอะไร ฉันเปล่า” พูดแล้วเดินหนีเข้าห้องโดยมีเขมิกาสาวเท้าตามเข้ามาติด ๆ
“จะเปล่าได้ยังไงคะ ก็ในเมื่อฉันเห็น” หญิงสาวไม่พูดต่อเธอเม้มริมฝีปากแน่น
ชายหนุ่มกระตุกยิ้มทรุดกายนั่งบนโซฟาเอนแผ่นหลังพิงพนักโซฟาด้วยท่วงท่าผ่อนคลายหลังเข้ามาด้านในห้องทำงานแล้ว “เห็นอะไร ทำไมไม่พูดต่อล่ะ”
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าลึกก่อนผ่อนออกช้า ๆ
“พี่ทิว”
“ฉันไม่ใช่พี่เธอ อย่ามาเรียกฉันว่าพี่” ชายหนุ่มพูดแทรกเสียงแข็งตวัดสายตาวาวโรจน์มองร่างบางที่บังอาจเรียกเขาว่าพี่
เขมิกาเจ็บแปลบแต่ก็พยักหน้ารับคำ “ค่ะ ท่านรองคะ ถ้าท่านรองแค้นเขม ก็แก้แค้นเขม อย่าดึงคนที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาเอี่ยวกับเรื่องนี้เลยได้ไหมคะ ถือว่าเขมขอ” เธอขอร้องเขาพร้อมมองอย่างอ้อนวอน แต่คนที่มีอคติบังตาหรือจะฟัง
“หึ ของั้นเหรอ”
“ค่ะ”
“ฝันไปเถอะ”
“หมายความว่าท่านรองจะใช้ยัยวาดแก้เเค้นเขมงั้นเหรอคะ”
“ฉลาดดีนี่ รู้ไหม ตอนแรกฉันก็ไม่ได้คิดอะไรยุ่งยากหรอก แค่อยากทำให้เธอเจ็บเล่น ๆ เจ็บแปลบ ๆ แต่พอเห็นเธอดิ้นแบบนี้แล้วมันก็ทำให้ฉันคิดอะไรดี ๆ ขึ้นมาได้ เพื่อนของเธอที่ชื่อปานวาดเป็นหมากที่ดีเลยนะว่าไหม คิดดูสิ อะไรมันจะทำให้เธอเจ็บไปกว่าการที่ฉันเข้าไปยุ่งกับคนที่เธอรัก”
“ท่านรอง! ยัยวาดไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้” หญิงสาวกัดฟันกรอดกำมือแน่นพูดเสียงรอดไรฟันจ้องตาเขาเขม็ง
“ทำไม กลัวอะไรงั้นเหรอ ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไม่ทำร้ายเพื่อนเธอหรอกน่า”
“ไม่ทำร้าย แต่คุณกำลังใช้เธอเป็นหมากในการทำร้ายเขม เขมขอละนะคะ ปล่อยยัยวาดไปเถอะ เขมไม่เชื่อว่าคุณดูไม่ออกว่ายัยวาดชอบคุณ”
“โอ เปลี่ยนคำเรียกขานจากท่านรองเป็นคุณแล้วเหรอ ช่างเถอะ จะเรียกยังไงก็เรื่องของเธอ ส่วนเรื่องดูออกไหม แน่นอนสิ มองฉันตาเป็นมันโดยไม่สนใจเธอแบบนั้นใครบ้างจะดูไม่ออก จะว่าไป เพื่อนของเธอคนนี้ก็ดูจะชื่นชอบฉันมากเหมือนกันนะ เกมนี้ดูสนุกขึ้นเยอะเลยจริงไหม”
ทิวากรรู้สึกสนุกที่ทำให้เขมิกาเดือดพล่านขึ้นมาได้ ยอมรับตามตรงอย่างไม่อายเลยว่า พอเห็นหน้าปานวาดครั้งแรกและได้รู้ว่าเธอเป็นเพื่อนสนิทของอดีตคนรัก เขาไม่ได้คิดจะใช้เธอเป็นหมากหรืออะไร แต่พอเห็นประกายในแววตาที่หญิงสาวมองเขา พร้อมท่าทีเป็นเดือดเป็นร้อนของเขมิกา ความคิดชั่ว ๆ ก็ผุดขึ้นมาในบัดดล หมากสำคัญในการทำให้เขมิกาเจ็บเห็นทีจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากปานวาดแล้วละ ซวยหน่อยนะที่ดันเป็นเพื่อนของผู้หญิงคนนี้
เขมิกามองใบหน้าเปื้อนยิ้มแต่ดูชั่วร้ายของทิวากรด้วยความเจ็บใจ “คุณทิว ถือว่าเขมขอร้องนะคะ คุณจะแกล้งเขมยังไงก็ได้ แต่อย่าไปยุ่งกับยัยวาดเลยนะ อย่าให้ความหวังมันหรือแสดงออกว่าคุณชอบมันเลยนะคะ เขมไม่อยากเห็นเพื่อนเขมเจ็บตอนรู้ความจริงว่าคุณไม่ได้คิดอะไรและไม่เคยจริงจังกับเจ้าตัว การทำให้คนคนหนึ่งรู้สึกชอบจนรักแล้วทำลายความหวังของเขา ทำร้ายความรู้สึกของเขา มันทรมานและเจ็บปวดมากนะคะ ได้โปรดเห็นแก่เขมสักครั้ง”
“เห็นแก่เธอเหรอ เเล้วเธอล่ะเคยเห็นแกฉันบ้างไหม เธอทำให้ฉันชอบ ทำให้ฉันรัก แล้วก็ทิ้งฉันไปไม่ใยดี ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจของฉัน ทำร้ายความรู้สึกฉัน มาตอนนี้บอกให้ฉันเห็นใจ เธอจะบ้าเหรอ เธอคิดว่าฉันเป็นพระหรือไงถึงจะปล่อยวางให้ศัตรูคนที่ฉันแค้นและชิงชังมีความสุขน่ะหา!” ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นจากโซฟาตวาดเสียงกร้าว จับจ้องหญิงสาวด้วยไฟโทสะ พร้อมยกมือขึ้นชี้หน้า
“ในเมื่อตอนเธอทำก็ไม่เคยเห็นใจฉัน เพราะฉะนั้นก็อย่าฝันว่าฉันจะเห็นใจเธอ เตรียมตัวเห็นเพื่อนเธอเจ็บปวดเจียนตายเพราะฉันได้เลย เพราะฉันจะไม่หยุด จนกว่าฉันจะสะใจ!”
ทิวากรโมโหจนมือสั่นระริกมองหญิงสาวด้วยแววตาแข็งกร้าว เธอกล้าดียังไงมาขอความเห็นใจจากเขา กล้าดียังไงมาสอนเขาว่าการทำร้ายความรู้สึกของคนอื่นมันทรมาน เหอะ ไม่ต้องมาสอนหรอก เพราะเขาเข้าใจดี เป็นเธอไม่ใช่หรือไงที่ทำให้เขาเผชิญกับความรู้สึกนั้น
ผู้หญิงเห็นแก่ตัวหน้าไม่อายอย่างเธอ กล้าดีอย่างไรมาสั่งสอนและขอร้องเขากัน เหอะ ทำราวกับว่าตัวเองเป็นคนดีนักหนา ขอโทษนะ เขาไม่อิน ไม่หลงเชื่อเธออีกแล้ว เชิญไปหลอกคนอื่นเถอะ!
เขมิกาที่ถูกเขาชี้หน้าและตวาดใส่ก็สะดุ้งโหยง ตั้งแต่รู้จักกันมาและกลับมาเจอกันอีกครั้ง ไม่มีสักครั้งที่เขาจะโมโหร้ายแบบนี้ หญิงสาวชักเท้าถอยหลังด้วยความรู้สึกผวาและหวาดกลัว แต่ตาก็ยังจ้องเขาไม่ห่าง
“ฉันจะบอกเพื่อนฉันเรื่องของฉันกับคุณ” แม้ว่าจะกลัวสักแค่ไหนแต่ความเป็นห่วงเพื่อนดันมีมากกว่า หญิงสาวทำใจกล้ากลั่นกรองคำพูดออกมาจนคนฟังอดหัวเราะไม่ได้
“เหอะ ตลกเหรอ อยากบอกก็บอกไป เธอคิดว่าปานวาดจะสนใจไหม อย่างมากก็แค่ตงิดใจที่คนอย่างเธอเป็นแฟนเก่าฉันเท่านั้นแหละ ย้ำว่าแฟนเก่านะ คนเราน่ะ ถ้ามันได้ชอบไปแล้วมันไม่สนใจหรอกว่าอดีตจะเป็นยังไง ต่อให้ฆ่าคนตายมาถ้าคนมันชอบมันก็ชอบอยู่วันยังค่ำนั่นแหละ แล้วอาการเพื่อนเธอที่ฉันเห็นวันนี้บอกเลยว่าเธอไม่สนใจหรอกว่าฉันกับเธอจะเคยคบกันมาก่อนหรือเปล่า ผู้หญิงอย่างปานวาดแค่มองก็รู้แล้วว่าสนใจแค่ปัจจุบัน หากเธอมั่นใจว่าเพื่อนจะเชื่อคำพูดตัวเองและฟังสิ่งที่เธอเตือน ก็เชิญวิ่งโร่ไปฟ้องได้เลย ฉันไม่สนใจอยู่แล้ว”
เขมิกานิ่งงันกับคำพูดของเขา เธอรู้ดีว่าปานวาดเป็นคนเช่นไร ที่ชายหนุ่มพูดมาถูกต้องทุกอย่าง ต่อให้เธอบอกว่าเคยคบหากับทิวากร ถ้าเพื่อนของเธอพอใจ อดีตก็ไม่สำคัญ เธอสนที่ปัจจุบันมากกว่า หากปัจจุบันทำให้เธอมีความสุขได้ เธอจะสนใจอดีตทำไม นั่นคือนิสัยส่วนหนึ่งของปานวาด
แล้วเธอจะทำอย่างไรต่อไปล่ะ บอกเพื่อนว่าทิวากรตั้งใจใช้เธอเป็นหมากในการแก้แค้นตัวเอง เหอะ นอกจากจะไม่เชื่อแล้ว ปานวาดคงหัวเราะเยาะหาว่าเธอกุเรื่องขึ้นมาสิไม่ว่า
อีกอย่างเธอไม่เชื่อหรอกว่าคนอย่างทิวากรจะอยู่เฉย ๆ ให้เธอไปเตือนปานวาด ไม่แน่ว่าเขาจะเป็นคนบอกเรื่องนี้กับเพื่อนของเธอก่อนเธอเสียเอง
“ไง เงียบไปเลย ฉันพูดถูกล่ะสิ ถ้าไม่มีอะไรก็ออกไปได้แล้ว แล้วทีหน้าทีหลังอย่าได้สะเออะมาสอนฉันหรือบอกฉันว่าห้ามทำร้ายความรู้สึกของใครอีก ตัวเธอเองยังทำไม่ได้ ดันมาบอกคนอื่น เหอะ น่าสมเพชชะมัด”
เขมิกาเดินออกจากห้องทำงานของชายหนุ่มด้วยอาการเลื่อนลอย หญิงสาวมืดแปดด้าน ไม่รู้จะเอาอย่างไรดีกับเรื่องนี้ ถ้าเขาแก้แค้นเธอโดยตรงไม่เอาคนอื่นมาเกี่ยวข้องเธอจะไม่เครียดเท่านี้เลย แต่นี่...
หญิงสาวทรุดกายนั่งเก้าอี้ทำงานด้วยความเหนื่อยอ่อน ผินหน้ามองไปยังประตูห้องชายหนุ่มด้วยสายตาแน่วแน่ เธอตัดสินใจแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม เธอจะบอกเรื่องของนี้ให้ปานวาดรับรู้ หากเตือนแล้วเพื่อนสนิทไม่ยอมฟังก็สุดแท้แต่วาสนาและเวรกรรมเถิด
ณ งานเลี้ยงบริษัทศิวานันท์ งานเลี้ยงบริษัทศิวานันท์ถูกจัดขึ้นที่ห้องบอลรูมของโรงแรมในเครือศิวานันท์กรุป โดยมีผู้เข้าร่วมงานไม่ต่ำกว่าสองร้อยคน ไล่ตั้งแต่พนักงานระดับล่างตลอดจนพนักงานระดับสูง ทั้งยังรวมไปถึงผู้บริหารตำแหน่งต่าง ๆ และหุ้นส่วนบริษัทคนสำคัญซึ่งงานเลี้ยงบริษัทศิวานันท์ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ นอกจากเป็นการจัดเลี้ยงครบรอบไตรมาสของบริษัทแล้ว ยังเป็นการเฉลิมฉลองปีใหม่ในบริษัทอีกด้วยร่างสูงในชุดเรียบหรูสมกับตำแหน่งประธานบริษัท นั่งอยู่บริเวณโต๊ะด้านหน้าเวที ควงคู่มากับสองสาวต่างวัย ขวามือเป็นมารดาที่อยู่ในชุดหรูหราตามวัย ซ้ายมือคือร่างระหงของเขมิกาที่อยู่ในชุดเดรสยาวของแบรนด์ดังยี่ห้อหนึ่ง ขับเน้นให้เจ้าของร่างแบบบางดูสวยสง่า และน่าทะนุถนอมไปในตัว ซึ่งแขกเหรื่อคนอื่น ๆ ก็นั่งโต๊ะถัดไปตามตำแหน่งเมื่อถึงเวลาหลักของการจัดงาน พิธีกรมืออาชีพเริ่มหน้าที่ของตนเอง ตั้งแต่เชิญทิวากรไปกล่าวเปิดงาน ตลอดจนประกาศมอบรางวัลให้พนักงาน เช่น พนักงานดีเด่นประจำบริษัท ประกาศเลื่อนตำแหน่งของพนักงานบางคน ตลอดจนอื่น ๆ ก่อนจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสนุกที่ทุกคนรอคอย นั่นคือการจับฉลากแลกของขวัญ บ้างได้ชิ้
วันเวลาเลื่อนผ่าน ทิวากรกับเขมิกาปลูกต้นรักด้วยกันมาร่วมปีแล้ว เส้นทางรักครั้งนี้ไม่ได้ฉาบฉวยหากเต็มไปด้วยความรักความเข้าใจ มีแง่งอนบ้าง ทะเลาะกันบ้าง แต่สุดท้ายก็เข้ากันได้ดี และทุกครั้งหลังจากที่ทะเลาะ ทั้งสองจะรักและเข้าใจกันมากกว่าเดิม ซ้ำบรรยากาศที่แผ่ออกมายังหวานชื่นไม่เปลี่ยนเสียจนคนรอบข้างยังลอบอิจฉาเรียกได้ว่าความรักของพวกเขาสุกงอมเต็มที่ หลาย ๆ คนต่างเฝ้ารอข่าวดี และเป็นที่จับตามองเนื่องจากทิวากรเป็นลูกชายเพียงคนเดียว และทายาทสายตรงของศิวานันท์ ทั้งนี้ชายหนุ่มยังเข้ารับตำแหน่ง CEO เป็นประธานบริษัทศิวานันท์แบบเต็มตัวแล้วด้วย ในวันประกาศขึ้นรับตำแหน่งจากมารดา นอกจากชายหนุ่มจะเอ่ยเกี่ยวกับการรับผิดชอบหน้าที่ของตน ให้ผู้บริหารรวมถึงหุ้นส่วนคนสำคัญต่าง ๆ มั่นใจกับการทำงานของตนเองแล้ว เขายังประกาศเปิดตัวคนรักอย่างเอิกเกริก จนเกิดแฮชแท็กทายาทศิวานันท์เปิดตัวคนรัก ดังขึ้นมาแซงข่าวการขึ้นรับตำแหน่งของตัวเองเสียอีก สาวน้อยสาวใหญ่ที่เคยจ้องเขาก่อนหน้านี้ต่างอกหักไปตาม ๆ กัน แน่นอนชายหนุ่มไม่ได้สนใจใครนอกจากแฟนสาวเขมิกากลายเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉาของใครหลาย ๆ คนไปทันที เช่นเดิม มีคน
“ปกติพี่ทิวก็ดูฉลาดนะคะ ทำไมตอนนี้ถึงซื่อบื้อจังเลยล่ะ” เขมิกาไม่ตอบแต่ตั้งคำถามแทนชายหนุ่มที่ตั้งใจฟังและกำลังจะตอบทันเอะใจ เมื่อครู่เธอเรียกเขาว่าพี่และแทนตัวเองว่าเขมใช่ไหม?“เมื่อกี้เขมเรียกพี่ว่าอะไรนะครับ” เพื่อความแน่ใจจึงรัวคำถามทันที“เรียกว่าพี่ทิวค่ะ”หัวใจชายหนุ่มเต้นแรงก่อนถามอีกครั้ง “แล้วแทนตัวเองว่าอะไรนะครับ”“เขมค่ะ”ได้ฟังคำตอบรอยยิ้มจึงปรากฏบนใบหน้าหล่อเหลา “ เขม... เขมเรียกแทนตัวเองว่าเขม และเรียกพี่ว่าพี่”“ก็ใช่ไงคะ ตกใจอะไรกัน”“ก็ ก็พี่คิดว่าเขมจะโกรธเกลียดพี่นี่ แต่ว่าเขมเรียกพี่แบบนี้แสดงว่าเขมไม่ได้โกรธเกลียดพี่จริง ๆ ใช่ไหมครับ”เขมิกาลอบกลอกตา “ก็ถ้าโกรธถ้าเกลียดเมื่อคืนจะยอมให้ทำอะไรเหรอคะ”ทิวากรชะงัก “เขม! นี่หมายความว่าเขมให้โอกาสพี่แล้วใช่ไหมครับ”“อื้อ” ตอบพลางพยักหน้า“ให้โอกาสที่หมายถึง ยินดีคบหากับพี่เป็นคนรัก เป็นแฟนกันแล้วใช่ไหมครับ” ชายหนุ่มถามรัวเร็วไม่เก็บกิริยา จากที่นอนกอดหญิงสาวอยู่ก็ผุดลุกนั่งอย่างรวดเร็ว จับไหล่คนตัวเล็กทั้งสองข้างรั้งเธอออกจากตัวเล็กน้อย แล้วก้มหน้ามองสบตากับหญิงสาวด้วยความคาดหวังกับคำตอบเขมิกาแม้จะขวยอาย ที่ถูกถามตอ
ค่ำคืนสุดเร่าร้อนผ่านไปเช้าวันใหม่ก็มาเยือน ทิวากรนอนก่ายหน้าผาก กลัดกลุ้มกับเหตุการณ์เมื่อคืน เขาไม่ได้เสียใจที่กระทำการร่วมรักเป็นหนึ่งเดียวกันกับเธอ หากแต่กังวลกลัวว่าเขมิกาจะเกลียดตัวเอง ที่ฉวยโอกาสตอนเธอไม่ได้สติ ทว่าหากย้อนเวลากลับไปเขาก็จะทำมันเช่นเดิมเสียงครวญครางแว่วหวานใต้ร่างทำให้เขามีความสุขมาก มีความสุขมากเสียจนเคี่ยวกรำเธอทั้งคืนรังแกจนตัวเธอแดงไปหมดทั้งตัว!ไม่มีตรงไหนของร่างกายที่เขาไม่ทิ้งรอยรักเอาไว้ รอยแดงสีกุหลาบที่เห็นได้ชัดที่สุดคงจะเป็นเนินอก ส่วนลำคอระหงเขาทิ้งไว้นิดหน่อย อยากประกาศให้รู้ว่าเขมิกามีเจ้าของแล้ว หากไม่กล้าทิ้งไว้มากและชัดเกินไปนัก มันจึงกลายเป็นรอยจาง ๆ ที่หากไม่ตั้งใจมองก็คงไม่เห็นคิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนความสุขพลันเอ่อล้น ใบหน้าหล่อเหลาระบายยิ้ม แววตาของเขาระยิบระยับระคนอ่อนโยนยามมองคนที่นอนอยู่ข้าง ๆเขมของเขาน่ารักจริง ๆใช่เมื่อคืนเธอน่ารัก แต่ไม่รู้ตื่นมาจะยังน่ารักอยู่ไหม เขากลัวเธอกลายร่างจริง ๆ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะรับมือเธออย่างไร แล้วถ้าเกิดเธอโกรธเกลียดตัวเองขึ้นมาล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น เฮ้อ! ปวดหัวจริง ๆคิดดูแล้วความสุขที่มีกลับไม่เต็มร้
“อืม... ทั้งหวานทั้งหอม เขมหวานไปทั้งตัวเลยครับ” เขาครวญครางเสียงพร่า แต่หญิงสาวไม่มีสติรับรู้อะไรอีกแล้ว ความเสียวที่เธอไม่เคยสัมผัสมาทั้งชีวิต กำลังเล่นงานเธออย่างหนัก จนเกือบจะถึงฝั่งฝัน แต่กลับถูกคนตัวโตกลั่นแกล้ง หยุดการกระทำวาบหวาม จนเธอต้องเขม่นมองแรงด้วยความขัดใจ ทิวากรดึงมือออกจากร่องรูแสนคับแคบ คว้าถุงยางอนามัยขึ้นมาฉีก ก่อนสวมมันกับแก่นกายที่แข็งตัวพร้อมรบทิวากรรูดรั้งแก่นกายของตัวเองสองสามที จ่อปลายหัวบานหยักกับปากทางเล็ก ค่อย ๆ เสือกหัวใหญ่เข้าไปในช่องทางแสนคับแคบ“อื้อ! เจ็บ เขมเจ็บ” คนตัวเล็กร้องลั่นพร้อมทั้งพยายามที่จะถอยหนีหากไม่พ้น เพราะถูกชายหนุ่มจับยึดเอวคอดกิ่วไว้ เขาขบกรามแน่นกับความตอดรัดทั้ง ๆ ที่มันเพิ่งเข้าได้แค่หัว เห็นใบหน้าสวยอาบด้วยน้ำตาพลันสงสาร แต่ถ้าจะให้หยุดตอนนี้ เขาไม่ยอมแน่ทิวากรไม่ฝืนดันทุรังฝ่าเข้าไปทันที เข้าเลือกที่จะครอบโพรงปากยังยอดอกสีชมพู แล้วออกแรงดูดดึง ในขณะที่มือขวาไม่หยุดขยี้ปุ่มกระสันเรียกน้ำหวานให้อาบชโลมไปทั่วร่องรักเขมิกาซ่านเสียวจนลืมความเจ็บปวด ช่องทางรักชื้นแฉะเต็มไปด้วยน้ำหวาน ยิ่งนานยิ่งเสียวจนเธอต้องหาทางระบายออก โดยการจิ
“อ๊ะ” เขมิกาสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อริมฝีปากร้อนผ่าวทาบลงมาที่ลำคอขาว ก่อนเอียงคออำนวยความสะดวกให้เขาด้วยความยินดี แขนเรียวยกคล้องต้นคอหนาของเขาในเวลาต่อมาทิวากรมีสติครบถ้วน แอลกอฮอล์ที่ดื่มไปก่อนหน้าไม่อาจทำให้เขามึนเมาได้ ทว่าตอนนี้ชายหนุ่มกลับรู้สึกว่าตัวเองกำลังเมาเมารัก...เมาเขมิกา...ทิวากรอยากให้ครั้งแรกของเราเป็นไปอย่างอ่อนโยนทะนุถนอม อยากให้ทุกการสัมผัสเต็มไปด้วยความลึกซึ้งตรึงใจ หากความรู้สึกวาบหวามที่ถูกปลุกเร้าขึ้นมาไม่อาจทำได้อย่างใจหวัง ทุกการสัมผัสเต็มไปด้วยพายุเฮอริเคนที่พร้อมโหมกระหน่ำทุกช่วงเวลา แทนที่จะเป็นสัมผัสหวานล้ำตรึงใจอย่างที่ตั้งใจทิวากรไม่ปิดบังความต้องการพอ ๆ กับเขมิกาที่พร้อมเปิดรับทุกสัมผัสจากเขามือหนาลูบไล้สัมผัสไปทั่วเรือนกายบอบบาง ก่อนที่จะถอดชุดของเธอที่แสนจะเกะกะในสายตาทิ้งไปอย่างไม่ไยดี โดยมีเจ้าของร่างให้ความร่วมมือเต็มที่ทันทีที่ชุดหลุดออกไปจากร่างระหง ลำคอของชายหนุ่มแห้งผากจนเขาต้องรีบกลืนน้ำลาย ก่อนเข้าจู่โจมที่เนินอกสล้างอย่างที่ใจต้องการสองมือกอบกุมบีบเคล้นความนุ่มเด้ง จรดริมฝีปากขบเม้มดูดดึงเนื้อขาวจนเกิดรอยแดง ก่อนที่โพรงปากอุ่นร้อนจะเข้