LOGINสิบปีผ่านไป
ลาสเวกัส เนวาดา, สหรัฐอเมริกา
เอื้องทราย มองลงมาจากห้องทำงานผู้จัดการชั้นสูงของโรงแรมหรู The Astraea Palace (แอสทรีอา พาเลซ) แสงไฟระยิบระยับของเมืองที่ไม่เคยหลับใหลส่องกระทบใบหน้าของเธอ ทำให้ใบหน้างดงามนั้นดูสง่างามและเยือกเย็น
สิบปีที่จากมาเพื่อหลีกหนีคำขู่ของ คอสโม่ ได้เปลี่ยนเด็กหญิงที่เต็มไปด้วยความกลัว ให้กลายเป็นหญิงสาวที่สง่าผ่าเผย จบการศึกษาเกียรตินิยมจากสวิตเซอร์แลนด์ด้านการโรงแรม และปัจจุบันคือ ผู้จัดการแผนกห้องพักและบริการ
เธอจำได้ว่าตอนที่มาสมัครงานที่นี่เมื่อสองปีก่อน เธอรู้สึกเอะใจเล็กน้อยกับชื่อโรงแรม Astraea ที่มีความใกล้เคียงกับชื่อ Cosmo (คอสโม่) ที่แปลว่าจักรวาล แต่ตอนนั้นเธอปลอบตัวเองว่ามันคงเป็นเพียงความบังเอิญ เพราะเธอมาไกลถึงอีกซีกโลก...
ทว่าในห้วงลึกของใจ...คำพูดสุดท้ายของ คอสโม่ เอร์นานเดซ ในพิธีศพวันนั้นไม่เคยจางหายไป
“จงหายไปจากชีวิตฉันซะ... ก่อนที่ฉันจะหาตัวเธอเจออีกครั้ง”
ก๊อก ก๊อก!
เสียงเคาะประตูดึงสติของทรายกลับมาที่ปัจจุบัน
“คุณทรายคะ มีแขกวีไอพีคนสำคัญที่สุดของปีรอพบคุณค่ะ” เลขาฯ แจ้งด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นระคนหวาดหวั่น “เขาบอกว่าเขาจะไม่คุยกับใครนอกจากผู้จัดการแผนกเท่านั้นค่ะ”
“เขามีชื่อแจ้งไว้ไหมคะ” เอื้องทรายถามด้วยใจที่เริ่มเต้นผิดจังหวะ
“ค่ะ... ชื่อว่า คอสโม่ เอร์นานเดซ ค่ะ”
ชื่อนั้นกระแทกเข้ากลางหัวใจของทรายอย่างแรงราวกับถูกสายฟ้าฟาด ความหวาดระแวงที่เธอพยายามฝังกลบมานานสิบปีได้พังทลายลงในพริบตา ความบังเอิญไม่มีจริง
ตอนนี้เขากลับมาแล้ว...และเขากลับมาในสถานที่ที่เธอคิดว่าปลอดภัยที่สุด
แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่อย่างที่เธอคิด
“ให้เขาเข้ามาค่ะ” เอื้องทรายตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่พยายามควบคุมให้เป็นปกติที่สุด
เพียงเสี้ยววิ ร่างสูงใหญ่สมบูรณ์แบบในชุดสูทสีเทาเข้มเดินเข้ามาในห้องทำงานของเธอ คอสโม่ เอร์นานเดซ ดูน่าเกรงขามกว่าเด็กหนุ่มวัยสิบห้าที่เธอเคยรู้จักหลายเท่า เขาทรงอำนาจและแผ่รังสีเย็นชาชนิดที่ทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ออก
ดวงตาสีเขียวอมเทาคมกริบคู่นั้นกวาดมองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ก่อนจะหยุดที่แววตาของเธอที่เต็มไปด้วยความตกตะลึง
“ไม่น่าเชื่อว่าสิบปีผ่านไป... ลูกสาวของ โฆษิต จะกลายมาเป็นผู้จัดการโรงแรม” เสียงทุ้มต่ำของเขาฟังดูอ่อนโยนจนน่าขนลุก แต่กลับแฝงด้วยคำเยาะหยันที่ทำให้เธอรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ
เอื้องทรายพยายามรวบรวมสติทั้งหมดไว้ในกำมือ ก่อนจะก้าวไปเผชิญหน้ากับเขาอย่างสง่างามที่สุดเท่าที่ทำได้
“ยินดีต้อนรับค่ะ มิสเตอร์เอร์นานเดซ ไม่ทราบว่ามีปัญหาเรื่องการเข้าพัก หรือมีอะไรที่ดิฉันสามารถอำนวยความสะดวกให้คุณได้เป็นพิเศษคะ” เธอเลือกใช้ภาษาทางธุรกิจอย่างเคร่งครัด
คอสโม่ยิ้มเยาะที่มุมปาก รอยยิ้มที่ไม่เคยมาถึงดวงตา
“แน่นอนว่ามีปัญหา...” เขาเดินอ้อมโต๊ะทำงานเข้ามาใกล้ทรายอีกก้าว “ปัญหาของผมก็คือ... ผมไม่ชอบให้คนที่เคยทรยศครอบครัวผมมายืนอยู่บนตำแหน่งสูง ๆ แบบนี้”
เขายื่นซองสีน้ำตาลหนาปึกมาตรงหน้าทราย
“ผมไม่ได้มาพักที่นี่... ผมคือเจ้าของคนใหม่ของ The Astraea Palace...ผมเทคโอเวอร์โรงแรมนี้เรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ก่อนที่คุณจะเดินทางมาถึงลาสเวกัสด้วยซ้ำ” เขาหยุดเล็กน้อยเพื่อให้คำพูดนั้นแทรกซึมเข้าสู่ความรู้สึกของเธอ
“คุณคือเป้าหมายแรกของผม... เอื้องทราย” คอสโม่กระซิบเสียงต่ำ “ผมต้องการให้คุณเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของผม ตลอดช่วงเวลาที่ผมอยู่ที่นี่ หรือจนกว่าผมจะพอใจกับสิ่งที่ได้รับคืน”
ผู้จัดการสาวยืนนิ่ง สัมผัสได้ถึง พันธนาการที่มองไม่เห็น ที่รัดรอบตัวเธอจนหายใจไม่ออก นี่คือหายนะที่เลวร้ายกว่าที่เคยจินตนาการไว้มากนัก
เสียงสะท้อนจากอดีตย้อนกลับมาในหัว คำขู่ของเด็กหนุ่มในวันวานคนนั้นที่ผู้สูญเสียน้องสาวว่า "เธอจะต้องชดใช้" มันไม่ใช่แค่คำขู่ลม ๆ แล้งๆ อีกต่อไป แต่มันได้กลายเป็นความจริงอันน่าสะพรึงกลัวที่ถูกบรรเลงด้วยอำนาจและเงินตราที่เหนือกว่า
ตอนนี้ความรู้สึกแรกคือ ความหวาดกลัว และความอับอาย การเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของเขา ไม่ได้แปลว่าแค่ทำงานเอกสาร แต่มันหมายถึงการรับใช้ทุกอย่างที่เขาต้องการ ไม่ต่างจากการเป็นทาสในกรงทอง เขาไม่ได้ต้องการให้เธอแค่ตกงาน แต่เขาต้องการทำลายจิตวิญญาณและความภาคภูมิใจของเธอ
หลังมื้ออาหารที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและไร้คำพูด คอสโม่พาเอื้องทรายกลับสู่รถลีมูซีนกันกระสุน บรรยากาศภายในรถหนักอึ้งกว่าเดิมหลายเท่า ความโกรธเกรี้ยวที่คุกรุ่นอยู่ในใจของคอสโม่ยังไม่จางหายไปจากการถูกยั่วยุของเซย์เยสรถมาถึงโรงแรมที่พัก ซึ่งเป็นเพนต์เฮาส์สวีทที่หรูหราที่สุดแห่งหนึ่งในลอสแอนเจลิส การเช็กอินเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและเป็นความลับที่สุดตามคำสั่งของคอสโม่เมื่อประตูห้องพักเปิดออก เอื้องทรายก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของความมั่งคั่งที่ไม่มีขีดจำกัด ห้องสวีทกว้างขวางถูกตกแต่งด้วยงานศิลปะราคาแพง มีผนังกระจกใสที่มองเห็นแสงไฟระยิบระยับของนครลอสแอนเจลิสได้โดยรอบ พื้นที่หลักประกอบด้วยห้องนั่งเล่นกว้างขวาง ห้องทำงานส่วนตัว และ... ห้องนอนใหญ่เอื้องทรายเดินตามคอสโม่เข้าไปในห้องนอน เธอใจเต้นรัวเมื่อเห็นว่าภายในห้องนั้นมี เตียงขนาดคิงไซส์เพียงเตียงเดียวถูกจัดวางอยู่กลางห้องอย่างสง่างาม ในขณะที่มุมห้องมีโซฟาผ้าไหมขนาดใหญ่ไว้สำหรับนั่งพักผ่อนคอสโม่โยนกระเป๋าเอกสารของเขาลงบนโซฟาหนัง และหันมามองเอื้องทรายด้วยสายตาที่เย็นชาและตั้งใจ เขายืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเธอ โดยมีแสงไฟจากตึกสูงสะท้อนอยู่บนดวงตาของเขา
เอื้องทรายลืมตาตื่นเมื่อรู้สึกถึงแรงสะกิดจากคอสโม่ตามที่เขาสั่ง เธอพักผ่อนได้อย่างเต็มที่สมองปลอดโปร่งขึ้นมาก แต่ความรู้สึกไม่ชอบมาพากลก็ยังคงอยู่ เธอถูกปลุกหนึ่งชั่วโมงก่อนเครื่องลงตามกำหนด แล้วรีบอาบน้ำในห้องพักส่วนตัวอย่างรวดเร็ว จัดชุดเดรสสีเข้มให้เรียบร้อย และแต้มเครื่องสำอางอย่างประณีตเพื่อปกปิดร่องรอยความบอบช้ำบนริมฝีปากเมื่อกลับมายังห้องโดยสารหลัก คอสโม่นั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขาสวมชุดสูทสีเทาเข้มเนื้อดี ดูภูมิฐานและน่าเกรงขามกว่าชุดลำลองก่อนหน้า ทรงผมถูกเซตเสยเปิดกรอบหน้าคมสันผิดจากทุกวันที่เขาอยู่กับเธอ“เสร็จแล้วก็มานี่” เขาออกคำสั่ง “ตารางงานใหม่ถูกส่งเข้าแท็บเล็ตเธอแล้ว ทุกอย่างต้องเป๊ะ ห้ามมีข้อผิดพลาดแม้แต่นิดเดียว”เอื้องทรายรับคำสั่งอย่างเงียบเชียบ ก่อนที่เครื่องบินจะลงจอดที่ลอสแอนเจลิสการต้อนรับที่สนามบินเต็มไปด้วยความเคร่งครัด รถลีมูซีนกันกระสุนคันยาวจอดรอรับ พร้อมด้วยรถเอสยูวีอีกสองคันที่บรรทุกบอดี้การ์ดสี่คนในชุดสูทสีดำสนิท ซึ่งเป็นทีมรักษาความปลอดภัยส่วนตัวที่รออยู่ที่แอลเออยู่แล้ว เอื้องทราย นั่งอยู่เบาะหลังข้างคอสโม่ เธอรู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่แค่การเดินทางมาเจรจาธุร
เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว กัลลิแวนท์ ทะยานสู่ท้องฟ้าอันกว้างใหญ่เหนือแผ่นดินอเมริกา แสงอาทิตย์ยามเย็นสาดส่องเข้ามาในห้องโดยสารหรูหรา สร้างบรรยากาศที่สงบเงียบผิดจากความตึงเครียดที่ปกคลุมอยู่ระหว่างคนทั้งสองคอสโม่นั่งทำงานอยู่ด้านหน้าสุด เขาดูราวกับถูกผนึกอยู่ในโลกของตัวเอง แผ่รัศมีแห่งอำนาจที่เย็นชาออกมาจนแม้แต่เสียงเครื่องยนต์ก็ไม่อาจกลบได้เอื้องทรายพยายามอย่างยิ่งที่จะจดจ่ออยู่กับแท็บเล็ตในมือ ข้อมูลทางธุรกิจจำนวนมหาศาลที่ต้องทำความเข้าใจก่อนลงจอดที่ลอสแอนเจลิสเรียกร้องสมาธิอย่างหนัก แต่ร่างกายของเธอกลับไม่ยอมเชื่อฟังภาพในแท็บเล็ตเริ่มหมุน...อาการ มึนหัว และ คลื่นไส้ เริ่มโจมตีเธออย่างหนัก มันเป็นผลพวงจากการอดนอนมาเกือบ 24 ชั่วโมง ความเครียดจากการเผชิญหน้ากับความตายในอุบัติเหตุ รถชนในอดีต ภาพที่พ่อคอหักตายคาพวงมาลัย การถูกดูถูกเหยียดหยามเมื่อคืน และการปะทะทางอารมณ์ที่รุนแรงเมื่อช่วงสาย ทุกอย่างประดังเข้ามาพร้อมกันริมฝีปากที่ถูกกัดจนช้ำของเธอแห้งผาก เธอพยายามกลืนน้ำลายลงคอเพื่อระงับอาการคลื่นไส้ แต่ก็ทำได้ยากลำบาก เอื้องทรายยกมือขึ้นนวดขมับเบา ๆ พลางพิงศีรษะกับเบาะอย่างเงียบ ๆ เพียงเ
ร่างของเอื้องทรายกระแทกเข้ากับโต๊ะทำงานอย่างแรงจนจุก ภาพของคอสโม่ที่มองเธอด้วยสายตาขยะแขยงเป็นเหมือนมีดที่กรีดลึกเข้ามาในใจของเธอ ความรู้สึกที่ปะปนกันของความเร่าร้อนและความรังเกียจที่จู่โจมเมื่อครู่ทำให้เธอหายใจติดขัด“น่าขยะแขยงที่สุด” คำพูดสุดท้ายของเขาดังก้องในโสตประสาทเอื้องทรายยกหลังมือขึ้นแตะที่ริมฝีปากที่ชาหนึบของตัวเอง เมื่อชักมือกลับลงมาก็เห็น คราบเลือดสีแดงสด ติดอยู่ที่นิ้วเขาทำให้เธอเลือดออก ไม่ใช่แค่บาดแผลที่ขา แต่เป็นบาดแผลที่ริมฝีปาก... และบาดแผลในใจที่ถูกฉีกกระชากคอสโม่เดินหันหลังให้เธออย่างเฉยชา คว้ากุญแจรถและกระเป๋าสตางค์อย่างรวดเร็ว เขากลับสู่มาดนักธุรกิจผู้เหี้ยมโหดอีกครั้ง ราวกับเหตุการณ์เมื่อครู่ไม่เคยเกิดขึ้น“ฉันจะไปทำธุระให้เสร็จก่อนกลับไปเก็บของ” คอสโม่พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาโดยไม่หันมามองเธอแม้แต่น้อย “เตรียมทุกอย่างให้พร้อมสำหรับไฟล์ทส่วนตัวตอนห้าโมงเย็นด้วยนะเอื้องทราย ฉันต้องการแค่กระเป๋าเสื้อผ้าของเธอใบเดียว และฉันจะไม่รอ”เขาหยุดที่ประตูห้อง หันมามองเธอเพียงเสี้ยววินาที “ถ้าเธอไม่เตรียมตัวให้พร้อม ก็เท่ากับว่าเธอได้ลาออกจากการเป็นผู้จัดการที่นี่ไปแล้ว”
“ลอสแอนเจลิส?” เอื้องทรายทวนคำเสียงดัง ดวงตาเบิกกว้างด้วยความไม่พอใจ เธอหยิบตั๋วเครื่องบินใบนั้นขึ้นมาดูแล้วโยนกลับลงไปบนโต๊ะ“ดิฉันไปไม่ได้ค่ะ!” เธอประกาศกร้าว “ดิฉันเป็นผู้จัดการโรงแรมที่นี่ มีหน้าที่ต้องดูแลความเรียบร้อยและต้อนรับแขกอีกหลายร้อยคน ดิฉันจะทิ้งงานไปเฉยๆ เพื่อไปเป็นคนรับใช้ส่วนตัวให้คุณที่เมืองอื่นไม่ได้!”คอสโม่ลุกขึ้นจากเก้าอี้ช้าๆ ท่าทางคุกคามของเขาทำให้บรรยากาศในห้องเย็นยะเยือกขึ้นทันที “เธอกล้าปฏิเสธฉันเหรอ”“ดิฉันไม่ได้ปฏิเสธ แต่ดิฉันกำลังพูดถึงความรับผิดชอบในหน้าที่การงานที่คุณคงไม่เข้าใจ!” เอื้องทรายเถียงกลับอย่างไม่ลดละ ความอดทนของเธอเริ่มขาดผึง“ความรับผิดชอบ...หึหึ” คอสโม่แค่นหัวเราะ “เธอคงลืมไปแล้วว่าตอนนี้ ฉันคือเจ้าของ The Astraea Palace คำสั่งของฉันคือกฎ และหน้าที่เดียวของเธอคือทำตามคำสั่งของฉัน!”เขาเดินอ้อมโต๊ะมายืนประจันหน้าเธอ ร่างสูงใหญ่ข่มให้เธอดูตัวเล็กลงถนัดตา “ถ้าเธอไม่ไป... ก็ไสหัวออกจากตำแหน่งผู้จัดการไปซะ! เก็บข้าวของของเธอแล้วออกไปจากโรงแรมของฉันเดี๋ยวนี้!”เอื้องทรายกัดฟันแน่นจนกรามปวดหนึบ เธอกำหมัดแน่น เล็บจิกเข้าเนื้อเพื่อระบายความโกรธที่
คอสโม่บีบแขนเธอแน่นขึ้น พลางผลักเธอออกเล็กน้อย แต่สายตาของเขายังคงจ้องลึกเข้าไปในดวงตาของเธออย่างคุกคาม “จำไว้ให้ดี เอื้องทราย อย่าคิดว่าฉันจะละเว้นเธอ” เขาปล่อยเธออย่างแรงจนเธอเซถอยหลังไปเขากลับไปที่เตียง คว้าผ้าขนหนูมาพันรอบเอวอย่างหยาบๆ ก่อนจะนั่งลงบนขอบเตียงอย่างไม่สบอารมณ์ “ไปหาอาหารเช้ามาให้ฉันเดี๋ยวนี้” เขาออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่เด็ดขาดผู้จัดการสาววยืนนิ่ง จัดชุดที่ยับยู่ยี่ให้เข้าที่เธอพยายามควบคุมการเต้นของหัวใจ และตอบกลับด้วยความเป็นมืออาชีพที่เหลืออยู่ “ดิฉันจะให้พนักงานบริการอาหารเช้ามาส่งให้ที่ห้องค่ะ คุณคอสโม่ ตอนนี้ดิฉันยังไม่ได้อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่สะดวกที่จะออกไปข้างนอก”“ผู้หญิงอะไรวะ น่ารำคาญชะมัดเลยโว้ย” คอสโม่ขึ้นเสียงใส่ด้วยความหงุดหงิด “เธอก็อาบที่นี่สิ โรงแรมนี้เป็นของฉัน ห้องน้ำนี้เป็นของเธอ” เขาชี้นิ้วไปยังห้องน้ำขนาดใหญ่ “และ... ถอดเสื้อผ้าของเธอตรงนี้เดี๋ยวนี้”เอื้องทรายเบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อหู “คุณบ้าไปแล้วหรือคะ! ดิฉันจะทำอย่างนั้นไม่ได้! อีกอย่าง... ถึงอาบแล้วดิฉันก็ไม่มีเสื้อผ้าสะอาดให้เปลี่ยนอยู่ดี” เธอปฏิเสธอย่างหนักแน่น ความกลัวถูกแทนที
![สิงขร [มาเฟียร้ายรัก]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)






