แพทตี้รีบมาเข้างานอย่างเคย ไม่มีใครรู้ว่าเธอแต่งงานกับลูกชายคนโตของท่านประธานใหญ่ เธอไม่ใส่แหวนแต่งงาน เธอถูกเขาดึงแหวนแต่งงานออกจากนิ้วทิ้งตั้งแต่หลังจบพิธี พิธีแต่งงานของเธอและเขาไม่ได้จัดอะไรมาก นอกจากครอบครัวเขาและพ่อของเธอ ดังนั้นจึงไม่มีใครมางานแต่งที่โสมมครั้งนี้เธอคิดว่ามันก็ดีเหมือนกันที่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ และสามีของเธอเขาก็ไม่ได้เต็มใจที่จะแต่งงานและไม่เต็มใจที่จะเห็นเธออยู่ในบ้านหลังนั้น แต่แล้วยังไงล่ะไม่ใช่แค่เขาที่ไม่อยากเห็นเธอก็เหมือนกันเธอไม่อยากเห็นเขาและผู้หญิงของเขา ถามว่าเสียใจไหม ตอบตามตรงว่าเสียใจ แต่มากรึเปล่า ไม่มากนะ เพราะเธอไม่ได้รักเขาไง ถ้าเธอรักเขามันก็อีกเรื่องแต่เมื่อคนสองคนที่ไม่ชอบกันเกลียดขี้หน้ากันมาแต่งงานด้วยกัน มันเลยทำให้เธอและเขาเหมือนกับโลกขู่ขนาน....
" แพทตี้จ๋า...วันนี้ตอนเย็นแพทตี้จะไปไหนต่อรึเปล่าจ๊ะ" น้ำขิงถามเพื่อนสนิทในสายงานเดียวกับเธอ วันนี้เธออยากไปเดินตลาดนัดแต่เธอไม่อยากไปเดินคนเดียว เธอเลยอยากชวนแพทตี้ที่รักของเธอไปด้วย....
" ไปได้ไม่นานน่ะขิง เพราะวันนี้ต้องไปเฝ้าพ่อน่ะ ไปได้แต่ห้ามดึกไม่งั้นไม่มีรถกลับแน่นอน.." อันที่จริงเธอไม่ได้จะไปเฝ้าพ่อหรอกขอโทษนะน้ำขิง แต่เธอไม่สามารถกลับบ้านหลังนั้นดึกได้ เพราะมันไกลและกลัวว่าจะไม่มีรถ เธอไม่อยากให้น้ำขิงรู้ด้วยว่าเธออยู่ที่อื่นที่ไม่ใช่บ้านของเธอ
" อ๋อ... ไม่เป็นไรๆ ไปแป๊บเดียว ไม่นาน ขอแค่แพทตี้ที่รักของขิงไปด้วย แค่เสี้ยววินาทีก็มีความสุขแล้ว...คริคริ" น้ำขิงหยอดนิดๆ เธอชอบของเธอนิ แพทตี้น่ารักขนาดนี้ เป็นใคร ใครก็ชอบ
" หึหึ ปากหวานนะคะคุณน้ำขิง ทำงานค่ะทำงาน เดี๋ยวโดนหักเงินเดือน..." แพทตี้ถึงกับส่ายหัวให้กับความขี้เล่นของน้ำขิง น้ำขิงชอบแซวของแกล้งเธอมากๆ แต่ก็ดีนะ จะได้ไม่เหงาดี...
ตกเย็นสองสาวก็พากันนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานีที่ใกล้ที่สุด พวกเธอพากันเดินคล้องแขนกันไปหา ด้วยเงินเดือนที่ไม่ค่อยมากนัก แพทตี้เลยต้องคอยคิดคำนวณอยู่ตลอดว่าเธอจะซื้อหรือทำอะไร ต้องคิดหน้าบวกหลัง คอยระวังไม่ให้ใช้เงินเกินกว่าที่เธอกำหนดไว้ในแต่ละวัน ถึงแม้ว่าเธอจะแต่งงานกับลูกชายเจ้าของโรงแรม แต่งแบบไม่ได้เต็มใจและไม่ได้รักกัน แต่อย่างนั้นเธอก็ไม่ได้เงินจากเขา หรือจากใครทั้งนั้น ถึงแม้ว่าคุณลุงภพกูลบอกว่าจะให้เงินเดือนแยกกับเธอ แต่เธอไม่สามารถรับมันไว้ได้หรอก เธอไม่มีสิทธิ์ขนาดนั้น เธอไม่อยากเอาเปรียบท่านไปมากกว่านี้ ลำพังแค่ค่าผ่าตัดค่าโรงพยาบาลมันก็หมดไปเป็นล้านเกือบสองล้านแล้ว เธอยังไม่มีปัญญาที่ไหนจะหาเงินมาใช้หนี้ก้อนนี้เลย... ดังนั้นเธอเลยปฏิเสธที่จะไม่รับเงินของคุณลุงท่าน....
" แพทตี้จ๋า.. กินอันนี้ไหมอ่ะ แบ่งกันกินขิงกินคนเดียวไม่ไหวหรอกมันเยอะมากเลยดูสิ..." น้ำแข็งอยากกินไอ้ของตรงหน้าแต่ดูๆแล้วเธอกินไม่หมดหรอกมันเยอะเกินไป
"อือ เอาสิ ช่วยกันออกคนละครึ่ง งั้นขิงสั่งนะ เดี๋ยวแพทไปซื้อน้ำ เราไปหาที่นั่งกินกันดีกว่า" แพทเลี่ยงไปซื้อน้ำทันที อันที่จริงของที่น้ำขิงอยากกินเธอก็อยากลองนะ มันดูแปลกใหม่ดี เธอยังไม่เคยกิน มันเป็นขาหมูใหญ่ๆทอดอ่ะ ขาหมูเยอรมันไหม รึเปล่าเธอไม่รู้แต่มันเยอะเกินไปเธอก็กินไม่หมดหรอกถ้าให้ซื้อกินคนเดียว
"อุ้ย.. ขอโทษค่ะ คุณเป็นอะไรรึเปล่าคะ?" ด้วยความซุ่มซ่ามของเธอ ทำให้เธอชนกับใครก็ไม่รู้เข้า ดีที่เขาไม่ล้มและเธอก็ไม่ล้มลงไป...
" ไม่เป็นไรครับ แล้วคุณเจ็บตรงไหนรึเปล่า? ผมต้องขอโทษด้วยที่เมื่อกี้ไม่ทันได้มองคุณ"
" ไม่ค่ะไม่เป็นไร ขอโทษอีกครั้งนะคะ..." แพทตี้ก้มหัวเพื่อเป็นการขอโทษเขาอีกครั้งจากนั้นเธอก็รีบเดินไปยังโต๊ะที่มีน้ำขิงนั่งรออยู่...
สองสาวนั่งเม้าท์มอยกันอย่างสนุกสนาน และไม่รู้เลยว่ามีสายตาของใครบางคนคอยจับจ้องทั้งคู่อยู่...
" กลับกันเถอะเดี๋ยวจะพากันถึงบ้านดึก..." น้ำขิงยกนาฬิกาขึ้นมาดู พร้อมกับเอ่ยชวนให้แพทตี้กลับบ้านกันดีกว่าเพราะตอนนี้มันก็เกือบสองทุ่มไปแล้ว กว่าจะไปถึงปลายทางที่พวกเธอขึ้นรถไฟฟ้าก็ใช้เวลาเป็นชั่วโมงได้ เธอต้องก่ะเวลาให้ดีๆ เพื่อเรียกวินมอร์ไซต์ หรือเรียกแก๊ปอีก ต้องก่ะเวลาให้ถูก และจะได้ไม่เป็นอันตราย
" อืมๆนั่นสิ กลับกันเถอะ แต่วันนี้สนุกมากเลยนะขิง นานแล้วที่แพทไม่ได้ออกมาเดินเล่นตลาดนัดแบบนี้..." มันนานมากแล้วที่เธอไม่ได้มาเดินเล่นแบบนี้เธอจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าครั้งสุดท้ายที่เธอได้ออกมาเดินตลาดนัดมันคือช่วงไหน
สองสาวเดินคุยหยอกล้อกันไปตลอดทางจนถึงสถานีรถไฟฟ้า แล้วทั้งคู่ก็พากันหาที่นั่งพร้อมกับคุยเรื่องสัพเพเหระไปเรื่อย ตาคู่หนึ่งจับจ้องทั้งสองอย่างไม่คลาดสายตา มุมปากยิ้มยกขึ้นเล็กน้อย และในที่สุดสองสาวก็ถึงจุดที่ตนเองต้องลงกันแล้ว ทั้งคู่บอกลากันแล้วก็แยกย้ายกันไปคนละทิศคนละทาง
เพียงแค่แพทกลับมาถึงบ้านเธอก็พบกับสภาพบ้านที่เละเทะเต็มไปด้วยจานชามข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนบ้านไปหมด เธอไม่รู้ว่าคนพวกนี้เกิดมากันแบบไหนถึงไม่รู้จักทำความสะอาดกันเลยสักนิด
" เหนื่อยจากงานแล้วยังจะมาเหนื่อยเก็บด้วยเหรอเนี่ย โตกันมาแบบไหนถึงได้ทำตัวทุเรศทุรังกันแบบนี้..." มือบางหยิบจับข้าวของไป ปากก็บ่นไปอีกเธอไม่ชอบเลย เธอไม่ชอบให้บ้านมีกลิ่นของอาหารนานๆ หลังจากทำกับข้าวมันมีกลิ่นเธอจะไม่ว่าเลย แต่กลิ่นที่มันยังคงตลบอบอวลอยู่ตลอดเวลาแบบนี้เพราะคนกินไม่ยอมเก็บนี่สิ เธอไม่ชอบเลย...
แพทวางกระเป๋าของเธอเอาไว้ที่เก้าอี้แล้วเธอก็จัดการล้างจานชามและของอย่างอื่นไปจนเกือบจะเสร็จแล้ว อยู่ๆเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตรงมาหาเธอ...
หมับ!!!
" ไปไหนมาห๊ะ บ้านช่องไม่รู้จักกลับ ไปแรดที่ไหนมาล่ะ ไปหาเหยื่อใหม่เหรอ? เป็นไงเจอรึยัง ถ้าเจอเร็วหน่อยยิ่งดี ฉันจะได้หลุดพ้นจากปลิงดูดเงินอย่างเธอไง..." เอกดนัยที่นั่งรอให้ยัยปลิงดูดเลือดกลับมาเก็บกวาดจานชามและข้าวของที่เขากับแยมสั่งมากิน แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่มาสักที ชักจะปลีกกล้าขาแข็งแล้วสินะ
" ถ้าคุณเมาก็ไปนอนเถอะคะ ฉันไม่มีอารมณ์มาต่อล้อต่อเถียงกับคุณ " แพทถอนหายใจออกมายาวๆแล้วก็เริ่มลงมือล้างจานชามต่อ..
เพล้ง!!!!
ไม่เคยมีใครเมินใส่เขามาก่อน ยัยตัวทุเรศคนนี้เป็นใครถึงกล้ามาทำเมินใส่เขาแบบนี้...
" คุณเป็นประสาทเหรอคะ? คุณอยากทำลายข้าวของนักก็เชิญค่ะ ดีฉันจะได้ไม่ต้องล้างต้องเก็บมันแล้วดีค่ะ จะได้ไม่เหนื่อย..." แพทถอดถุงมือยางสำหรับล้างจานออกแล้วเธอก็หมุนตัวเพื่อที่จะออกไปจากตรงนี้ทันที....
หมับ!!!
เอกดนัยจับแขนของยัยปลิงดูดเลือดเอาไว้อย่างแน่น... ดวงตาที่แดงก่ำเพราะความเมาและความโกรธมันผสมปนเปกันไปหมด...เขาไม่รู้หรอกว่าเขาจะโกรธยัยผู้หญิงคนนี้อะไรมากขนาดนี้... แต่เขาก็โกรธไปแล้ว เขาเกลียดผู้หญิงคนนี้ เกลียดมาก
ครอบครัวใหญ่สองครอบครัวกำลังมารอลุ้นว่าตอนนี้พวกเขาจะได้หลายชายหรือหลานสาว สองสาวบอกว่าไม่ขอตรวจเพศให้รอมาลุ้นตอนคลอดเอา และวันนี้คนเป็นปู่เป็นตาก็มาลุ้นกันที่หน้าห้องคลอดกันอย่างเนืองแน่น... ครามถูกตามให้มากรุงเทพ ตอนแรกเขาก็ไม่ได้อยากจะกลับมาสักเท่าไหร่ แต่ว่าเมื่อคนเป็นพ่อบอกว่ายัยน้องกำลังจะคลอดเขาก็เลยต้องรีบจองตั๋วแล้วก็มายังโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังทันที....พลั่ก.... อุ๊ย...." ขอโทษครับ... ฝ้าย...." ครามถึงกับตกใจในสิ่งที่เขาเห็น... รักแรกของเขา.... เขาไม่ได้เจอรักแรกของเขาตั้งแต่ที่เธอบอกเลิกเขาไป.... จนป่านนี้... ก็เกือบ8ปีแล้ว...ฝ้ายมาเป็นพยาบาลอยู่ที่นี่เหรอ...." สวัสดีค่ะ ขอตัวก่อนนะคะ..." หญิงสาวรีบทักทายพร้อมกับก้มหัวให้หนึ่งครั้งและเดินจากไปทันที...ครามเดินมายังกลุ่มคนด้วยท่าทางที่เหม่อลอย.. เขาบอกไม่ถูกว่าเขาควรจะรู้สึกยังไงดี ดีใจ? หรือเสียใจ...." มาแล้วเหรอเจ้าคราม ตอนนี้กำลังรอลุ้นอยู่เลยว่าใครจะคลอดก่อนกัน.... " พ่อตาของยัยน้องพูดขึ้น แต่เท่าเขาคิดไว้เขาว่ายัยน้องน่าจะคลอดก่อน เพราะยัยน้องท้องก่อนไม่ใช่เหรอ..." น้ำขิงต้องคลอดก่อนสิครับเพราะน้ำขิงท้องก่อนแพทเกื
หลังจากที่ภพกูลบอกกล่าวคนในวงการนักธุรกิจให้มาร่วมงานบุญในครั้งนี้ ครอบครัวของน้ำขิงก็ได้มาร่วมงานบวชของลูกชายคนโตของเขาด้วย.....โดยการบวชครั้งนี้เป็นการบวชช่วงเข้าพรรษาพอดี และลูกชายของท่านก็ขอบวชหนึ่งพรรษาหรือการบวชเอาพรรษาก็เท่ากับ3เดือน ตอนแรกท่านก็คิดว่าลูกชายเขาจะบวชหนึ่งพรรษาที่แปลว่า 1 ปี เพราะเขาคิดว่าลูกชายเขาไม่น่าจะบวชได้นานขนาดนั้น เอกดนัยที่พยายามข่มอารมณ์เอาไว้... เพราะเขากลัวว่าเขาจะเผลอด่าไอ้ผัวเมียคู่นี้... เมียมันก็คอยมาออเซาะเมียเขา ส่วนไอ้น้อยเวรมันก็คอยส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้เมียเขาเช่นกัน และที่สำคัญไอ้สองผัวเมียคู่นี้มันชอบมากวนใจให้เขาแทบจะหลงลืมตัวและด่ามันออกไป แต่ติดที่ว่าเขาต้องสำรวมทั้งกาย วาจา และใจ... นี่สินะที่เขาเรียกว่า มารผจญ ก่อนบวชมักจะมีมารผจญ.. ที่แท้มันก็เป็นแบบนี้นี่เอง เมื่อถึงเวลาที่เอกดนัยเข้าสู่ใต้ร่มกาสาวพัสตร์ทุกคนในงานก็ต่างสงบเสงี่ยมมากขึ้น... เอกภพเลือกวัดที่นอกเมืองหน่อย เพราะมันไม่ค่อยวุ่นวาย.... แต่สิ่งที่เขาคิดไว้มันกลับผิดไปหมด.....ทุกเช้าที่เขาออกมาบิณฑบาตก็มักจะมีสาวๆไม่ว่าจะเด็กสาววัยรุ่น วันกลางคน และคนแก่แม่ม่ายก็มักจะตื
หลังจากงานแต่งงานอันใหญ่โตได้สิ้นสุดลง ตอนนี้น้ำขิงและเอกภพก็พากันไปอยู่ที่ภูเก็ต เพราะเอกดนัยบอกให้ทั้งสองคนไปดูแลงานที่นั่น เพราะตอนนี้ที่ภูเก็ตขาดคนดูแลและไหนพ่อกับพี่ของยัยน้ำเน่าที่ปักหลักอยู่ที่นั่นอีก ดังนั้นมันก็เป็นทางออกเดียวที่จะทำให้ไอ้สองคนนั้นกระเด็นออกจากบ้านไป เพราะเขาเบื่อขี้หน้าของสองคนผัวเมียที่คอยแต่จะเคลมเมียเขา... เขารู้หรอกน๊าว่าเมียเขาน่ะน่ารัก ถึงแม้ว่าเขาจะมองเห็นความน่ารักของเมียเขาช้าไปนิดก็ตาม แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เห็นแล้วไงจะมาวุ่นวายอะไรกันอีก..." รีบๆไสหัวกันไปได้แล้ว น่ารำคาญ" เพี๊ยะ....โอ๊ย...." เจ็บน้ำยัยหน้าเงิน!!! " เอกดนัยถึงกับร้องโอ๊ยออกมาทันทีเพราะเมียเขาฟาดลงมาที่แขนด้วยไม้พายที่กวนขนม...ดูสิแขนหักไปแล้วมั้งเนี่ย..." ทำไมคุณเอกดนัยถึงพูดแบบนี้คะ? น้ำขิงเป็นน้องสะใภ้คุณ และพี่ภพก็เป็นน้องชายคุณด้วย..." แพทตี้ล่ะไม่ชอบเลยที่คุณเอกดนัยชอบพูดจาแบบนี้ใส่น้ำขิงและพี่ภพ.." โห้... ที่มันเธอเรียกว่าพี่ ส่วนฉันเธอเรียกว่าคุณ.... น่าน้อยใจฉิบหาย..." เพียงเท่านั้นเอกดนัยก็เดินหนีออกจากห้องนั่งเล่นทันที...เอกดนัยเดินออกไปด้านนอกของตัวบ้าน จากอารมณ์
หลังจากเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้นในครอบครัวพิจารุวรรณ ก็มีข่าวดีเกิดขึ้นเพราะคุณภพกูลได้ไปสู่ขอหนูน้ำขิงกับพ่อของหนูน้ำขิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทั้งสองฝ่ายต่างก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างมาก จะมีแค่คนเดียวเท่านั้นที่ไม่ค่อยยินดีสักเท่าไรนั่นก็คือน้ำขิง...." คุณจะมาเดินตามอะไรฉันหนักหนาคุณเอกภพ..." เจ้าสาวคนสวยถึงกับหน้างอคอหักเลยทีเดียว เพราะตอนนี้เจ้าบ่าวของเธอเดินตามเธอยิ่งกว่าเงาอีก..." เฮียภพ เรียกเฮียภพ... แล้วที่เดินตามเพราะว่าเธอกำลังให้พ่อของฉันและพ่อของเธอต้องเสียหน้าเพื่อเธอไม่รู้... เรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้ถ้าเกิดท้องขึ้นมาจะเลี้ยงลูกได้ยังไงกัน..." เอกภพถึงกับต้องถอนหายใจออกมายาวๆ "ฉันคงไม่ซวยขนาดนั้นมั้งที่จะท้องเลย..." น้ำขิงเบ้ปากใส่เจ้าบ่าวของเธอไปหนึ่งที และตอนนี้เธอเห็นแพทกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะพร้อมกับกำลังกินอาหารอย่างสนุกสนานโดยมีไอ้คุณเอกดนัยจับนั่น ป้อนนี้ใส่ปากแพทตี้ของเธออยู่.." อิจฉาน้องแพทเหรอ? จะให้ป้อนแบบนั้นไหม.. แบบว่า.. ป้อนบนเตียง... ป้อนในห้องน้ำ... ป้อนบนโต๊ะทำงาน แบบนั้นก็คงจะอร่อยไปอีกแบบนะ.." เอกภพถึงกับรีบยียวนเมียมาดๆของเขา เพราะเท่าที่เขาเดาได้.. ยั
เสียงกรี๊ดที่ดังสะนั่นบ้านปลุกทุกคนให้ตื่นขึ้นและคนที่ตกใจมากที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้..."คุณทำอะไรฉัน...ห๊ะ... กรี๊ดดด...." น้ำขิงกรี๊ดสุดเสียงเธอมาอยู่ที่นี่ได้ยัง..."เงี๊ยบ!! ผมบอกให้เงี๊ยบบบ " เอกภพไม่พูดเปล่าเขายังใช้ฝ่ามือของเขาปิดทับลงไปที่ริมฝีปากอวบอิ่ม.... จากการดูด และขบเม้ม... ไม่ต้องบอกก็รู้แล้วว่าเขามันขนาดไหน" ถ้ายังร้องโวยวายอีกละก็...ฉันจะฆ่าหมกเตียง.. ลองดูไหมล่ะ ฉันไม่ได้ใจดีเหมือนหน้าตานะจะบอกให้..." น้ำขิงถึงกับต้องทำหน้ายี้เลยทันทีคนบ้าอะไรชมตัวเอง พูดเองเออเองเหมือนคนเป็นพี่ไม่มีผิด...อือ.. อือ...อือ......เอกภพค่อยๆปล่อยมือออกจากปากของน้ำขิงช้าๆ เพราะเขาคิดว่าน้ำขิงคงอยากจะพูดอะไรกับเขาเป็นแน่..." แก... ไอ้คนนิสัยไม่ดี ไอ้คนฉวยโอกาส ไอ้หน้าหมา ไอ้อืออออ" และนั่นก็เป็นคำสุดท้ายของน้ำขิงที่ถูกพ่นออกมาก...เอกภพไม่รอช้าเขาจูบหนักๆที่ริมฝีปากบางแต่กลับพูดมาก พูดจาไม่ดี พูดจากไม่เพราะจากแค่เขาต้องการที่จะทำโทษน้ำขิงที่พูดไม่ดีใส่เขา แต่เพียงแค่เขาจูบไปจูบมา... มันก็ทำให้อารมณ์ที่โกรธจางหายไปและแปลเปลี่ยนไปเป็นอารมณ์แห่งความดิบเถื่อนชวนสยิว....น้ำขิงถึงกับทำอะไร
มื้อค่ำถูกจัดขึ้นที่ห้องอาหารใหญ่ เพราะวันนี้ลูกชายเจ้าของบ้านทั้งสองคนมานั่งร่วมโต๊ะด้วยพร้อมกับน้ำขิงแขกประจำของบ้าน แต่กว่าน้ำขิงจะหยุดโวยวายได้ก็ทำเอาเอกภพถึงกับปวดหัว...และในที่สุดมื้อค่ำก็ถูกจัดเรียงเอาไว้ให้ทุกคนได้ลิ้มลอง อาหารแต่ละอย่างนั้นถูกสร้างสรรค์ขึ้นมาด้วยแม่ครัวประจำของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นมื้อไหนๆอาหารทุกจานก็จะถูกกวาดเรียบเสียจนไม่เหลือแม่แต่น้ำสักหยด ทุกคนบนโต๊ะอิ่มเอมกับอาหารตรงหน้า คนที่มีอายุมากที่สุดของบ้านก็ชวนเด็กๆรุ่นลูกคุยเรื่องต่างๆนานา คุยสัพเพเหระ และถามแขกของบ้านว่าอยากจะเปลี่ยนตำแหน่งไหม แต่เขาก็ได้คำตอบมาเพียงว่าเธอไม่ต้องการ เธอชอบตำแหน่งนั้นมากกว่าเธอเรียนมาทางนี้ จะให้เธอไปทำบัญชีก็คงจะไม่ไหว เธอพอทำได้บ้างแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ถนัดเอาเสียเลย คุณภพกูลถึงกับถูกใจในคำตอบของหนูน้ำขิง ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะมีเงินมากมายจนไม่จำเป็นต้องทำงานก็สามารถมีกินได้ไปจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน แต่เจ้าตัวก็เลือกที่จะออกมาทำงานหาเงินเพื่อหาประสบการณ์ให้กับตัวเอง แบบนี้สิดี ถ้าได้มาเป็นลูกสะใภ้อีกคนก็คงจะดี....เอกดนัยจ้องมองสายตาของคนเป็นพ่อที่ดูจะถูกอกถูกใจในตัวของยัยน้ำเน่านี่