“คืนนี้ฉันจะนอนที่บ้านเธอ พอดีไม่ได้จองโรงแรมไว้ คงไม่เป็นไรใช่ไหม” ใบหน้าของเต้าหู้เต็มไปด้วยความงุนงง ไม่ต่างจากลูกน้องอีกสองคนที่ไม่เข้าใจเจ้านายว่าพูดแบบนั้นทำไม ทั้งๆ ที่พี่แกมีบ้านพักตากอากาศที่อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ขับรถไปไม่นานก็ถึงแล้ว ไม่มีเหตุผลที่จะต้องจองโรงแรมเลย หรือนี่จะเป็นข้ออ้างขอค้างบ้านผู้หญิง
“คิดอะไรกับหนูปะเนี่ย” จู่ๆ ผู้ชายที่ไหนก็ไม่รู้ ทำทีจะมาขอนอนที่บ้านด้วย รู้อยู่ว่าเธอสวยคงจะมีแต่คนหมายปอง ถึงเจ้าหนี้คนนี้จะหล่อก็เถอะ แต่เธอก็เป็นผู้หญิงจะให้อยู่ใต้ชายคาเดียวกับผู้ชายมันก็จะดูไม่งามเอานะ
“หรือจะให้หนูขัดดอก บังคับขืนใจให้เป็นนางบำเรอ ก็พวกคุณสามคนตัวโตอย่างกับยักษ์อุ้มปิดปากหนูก็ทำได้สบาย เพราะหนูไม่มีทางสู้อยู่แล้ว” เคยอ่านหนังสือเคยดูละครมาเยอะ ถ้านางเอกติดหนี้ไม่มีเงินจ่ายจะต้องเอาตัวเองไปขัดดอกเพื่อใช้หนี้ อย่าบอกนะว่าเขาจะให้เธอทำแบบนั้น
“แค่มองเธอฉันก็หมดอารมณ์แล้ว ไม่ได้สวยขนาดนั้น” เอาจริงๆ ตอนนี้ เขาก็ไม่มีอารมณ์กับใครทั้งนั้นแหละ ไม่ว่ากับเธอหรือกับใคร ไม่รู้ว่าจะกลับมาใช้งานได้ตอนไหน หรืออาจต้องอยู่อย่างเหี่ยวเฉาไปทั้งชีวิต
“แรงมาก”
“รีบเปิดบ้านสิ ฉันง่วงแล้ว” คนตัวโตเร่งให้คนตัวเล็กเปิดประตูบ้าน พอเธอเปิดได้เขาก็พุ่งตัวเข้าไปโดยที่ไม่รอให้เธอได้อนุญาต แต่จะให้เธอลากตัวเขาออกมาคงไม่ไหว คนอะไรตัวโตอย่างกับยักษ์เลยต้องปล่อยเลยตามเลย เพราะตอนนี้เธอก็ทั้งเหนื่อยและง่วงเหมือนกัน
“นอนตรงโซฟาหน้าทีวีได้ไหมคะ”
“ยุงเยอะ จะนอนยังไง”
“งั้นนอนห้องของแม่หนูได้ไหม”
“ไม่อะแม่เธอพึ่งเสีย ฉันจะนอนห้องเธอ เธอก็ไปนอนห้องแม่เธอแทนแล้วกัน” ไอ้เจ้าหนี้นี่ก็เรื่องมากพอตัวเลย แต่ถ้าเกิดเธอทำอะไรขัดใจเขาขึ้นมาแล้วทำให้เขาไม่พอใจก็กลัวจะจบไม่สวย
“งั้นหนูนอนห้องแม่ก็ได้ค่ะ ห้องนอนอยู่ชั้นสอง ห้องน้ำก็เดินไปเข้าทางนู้นนะคะ หนูขอตัวเคลียร์ห้องก่อนถ้าเสร็จแล้วจะบอกให้คุณค่อยเข้าไปค่ะ” เธอเอ่ยบอกกับชายหนุ่มทั้งสามคนก่อนจะขึ้นไปเอาเสื้อผ้าที่จะใส่นอนและใส่วันพรุ่งนี้ออกมา พร้อมจัดห้องนอนให้ดูเรียบร้อย แล้วค่อยไปอาบน้ำ
ระหว่างที่รอเต้าหู้ไปจัดการห้องเฉินก็ได้นั่งรอไปพลางหยิบมือถือขึ้นมาเล่นเกมอย่างสบายใจ
“ลูกพี่ลืมเหรอครับว่าเรามีบ้านอยู่แถวๆ นี้ด้วย” จ๊อดที่ต่อมเผือกกระตุกอยากรู้เลยเอ่ยถาม
“ไม่ได้ลืม แต่ไม่อยากไป อยากนอนที่นี่” เหตุผลก็แค่ไม่อยากปล่อยให้เด็กสาวที่ชีวิตรันทดอยู่แล้วเพราะแม่พึ่งจากไป ยังมีคนคิดทำไม่ดีไม่ร้ายด้วยอีก เขาแค่ไม่อยากให้ชีวิตเธอรันทดมากไปกว่าเดิมอีกก็แค่นั้น
จ๊อดแจ๊ดมองหน้ากันก่อนจะแสยะยิ้มอย่างมีเลศนัย นานแล้วที่ไม่ได้เห็นลูกพี่คุยกับสาวๆ สงสัยลูกพี่จะถูกใจน้องคนนี้แน่ๆ
“พวกมึงยิ้มอะไรกัน”
“ลูกพี่ไม่ได้ชอบน้องเขาหรอกเหรอครับ” แจ๊ดถามไปตรงๆ
“นั่นดิลูกพี่ น้องเขาก็น่ารักดีนะ สเป็กลูกพี่เลย”
“ไม่ใช่อย่างที่พวกมึงคิดหรอก” ระหว่างที่คุยกันเต้าหู้ที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยก็ได้เดินมาบอกกับเฉิน
“เสร็จแล้วค่ะ เดินขึ้นบันไดไปห้องอยู่ทางซ้ายมือค่ะ”
“อืม”
“ห้องหนูไม่มีของมีค่าอะไรหรอกนะคะ ไม่ต้องรื้อ ไม่ต้องค้นหาอะไร แล้วก็ห้ามแตะต้องของส่วนตัวด้วย ถึงจะเป็นเจ้าหนี้แต่ก็ห้ามทำอะไรตามอำเภอใจนะคะ” เต้าหู้เอ่ยเตือนทำหน้าจริงจัง ไม่รู้หรอกเจตนาของเขาคือมาทำอะไร บางทีอาจจะอยากมารื้อมาค้นบ้านหาของมีค่าเอาไปขาย แต่ก็ไม่มีอะไรแบบนั้นหรอก เพราะตั้งแต่แม่ป่วยทั้งเงินทั้งทองก็ขายเอาไปรักษาแม่หมดแล้ว แต่ถ้าทำไม่ดีเธอก็ไม่ยอมแน่นอน ก่อนจะไปอาบน้ำเพื่อรีบเข้านอน พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าไปที่วัดเพื่อช่วยเตรียมงานเผาศพที่จะมีขึ้นในช่วงบ่าย
“จะบอกอะไรให้ ฉันไม่ได้มีดีแค่หน้าตาหรอกนะ มารยาทฉันก็ดี” หญิงสาวเบะปากมองบน แต่ไอ้ที่พุ่งพรวดเข้ามาใหนบ้านไม่รอให้อนุญาต เนี่ยเหรอที่เขาเรียกว่ามีมารยาท
“เหรอคะ เห็นทำอะไรตามอำเภอใจเลยนึกว่าไม่มี” คนหล่อย่นคิ้ว เด็กนี่ไม่รู้เลยสินะว่าตัวเองกำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่นอกจากเพื่อน พ่อ แม่พี่น้อง ก็ไม่มีใครกล้าพูดกับเขาแบบนี้เลยนะ คิดดอกเพิ่มเลยดีไหมเนี่ย
“หนูขอตัวก่อนนะคะ”
เต้าหู้เดินเข้าไปในห้องของแม่ เพราะห้องนอนเธอเจ้าหนี้นอนอยู่ ก่อนนอนไม่ลืมไหว้พระพร้อมบอกกล่าววิญญาณของแม่
“หนูรักแม่นะ แต่ว่าเราอยู่กันคนละโลกแล้ว หนูคิดถึงแม่นะ มาเข้าฝันได้บอกหวยได้ แต่ไม่ต้องมาหานะ หนูกลัว” ก่อนจะรีบล้มตัวข่มตานอนหลับไปพร้อมกับความกลัว รักแค่ไหนแต่ก็กลัวผีอยู่ดี
ด้านของเฉิน เขาเข้ามาในห้องนอนเด็กสาวที่ตกแต่งไปด้วยรูปไอดอลที่ชอบ บนหัวเตียงก็มีกรอบรูปวางเอาไว้ สามสี่อัน เขาก็ไม่ได้สนใจก่อนจะเปิดหน้าต่างกว้างๆ แล้วปิดไฟล้มตัวลง นอนรอใครบางคนที่มันคิดจะทำเรื่องไม่ดี แต่จะว่าไป ทำไมเขาถึงมาอยู่ตรงนี้ได้
เด็กที่ชื่อเต้าหู้จะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องใส่ใจ หรือคงเป็นเพราะความดีในตัวยังมีอยู่ เห็นใครเดือดร้อนไม่ช่วยก็จะดูใจร้ายเกินไปล่ะมั้ง
แหมเราก็เป็นคนดีเหมือนกันนะเนี่ย เฉินเอ่ยชมตัวเองอยู่ในใจ
ผ่านไปสักพักจนเฉินผล็อยหลับไปจริงๆ ตรงหน้าต่างก็มีเสียงกุกๆกักๆ เฉินเลยสะดุ้งตื่น และรู้ว่ามีคนกำลังเข้ามาจริงๆ เขาจึงคลุมโปง แกล้งหลับต่อ ในห้องที่มีแสงไฟกิ่งส่องเข้ามาสลัวๆ ทำให้เห็นรายละเอียดไม่ชัดนัก แต่ก็พอเห็นเป็นรูปร่างคนนอนอยู่บนเตียง
อาร์มที่หมายตาเต้าหู้เอาไว้เพราะแอบชอบมานาน แต่ไม่กล้าจีบ อะไรไม่รู้ดลใจทำให้มันคิดทำเรื่องเลวร้าย แอบย่องจะเข้ามาลักหลับเต้าหู้ในคืนนี้ แต่ก็ดันมีคนไปรู้เข้า และกำลังทำให้ชะตาของมันจะขาด
อาร์มขยับขึ้นไปนอนบนเตียงเดียวกับเฉินโดยที่มันก็คิดว่านี่คือเต้าหู้ มันสืบมาอย่างดีแล้วว่าเต้าหู้นอนห้องนี้ มันจึงเอาบันไดไม้ไผ่บาดหน้าต่างแล้วปีนขึ้นมาโดยที่มีไอ้บูมคอยดูต้นทางให้ด้านล่าง
“เต้าหู้ กูอาร์มเอง กูชอบมึงนะ”
มือของไอ้เวรนั่นไม่หยุดนิ่งลูบไล้ พร้อมทั้งบีบทั้งคลำต้นแขน ของเฉินจนเขาขนลุก
“กล้ามมึงใหญ่เหมือนกันนะ ซ้อมมวยกับส้มลิ้มมันบ่อยล่ะสิกล้ามแน่นมาก แต่ไม่เป็นไร จะเป็นยังไงกูก็ชอบมึงอยู่ดี เป็นของกูนะเต้าหู้”
“กูไม่เป็น!!”
“เห้ย!! เต้าหู้ทำไมเสียงมึงใหญ่จังวะ”
"โทษทีเสียงกูพึ่งแตกหนุ่ม" ไอ้อาร์มรีบดึงผ้าห่มออกจังหวะนั้นเฉินก็ดีดตัวขึ้นจากที่นอนพอไอ้อาร์มเห็นว่าไม่ใช่เต้าหู้จึงรีบถอยหนี
“เห้ย มึงเป็นใครวะ”
“เป็นพ่อมึงไง! ไอ้ลูกเหี้ย!” ฝ่าเท้าของเฉินกระแทกเข้าที่หน้าอกของไอ้คนที่มันคิดทำเรื่องชั่ว จนมันกระเด็นหลังไปกระแทกกับผนังห้อง แล้วมันก็ล้มลงไปกองกับพื้นด้วยความจุก จากนั้น ก็รัวกระแทกเท้าลงบนตัวไอ้เด็กนี่อย่างเมามัน
“ไอ้เด็กเวร ใครสั่งใครสอนให้ทำตัวระยำแบบนี้ฮะ!!? สมองมึงคิดได้แต่เรื่องพวกนี้หรือไง กินตีนเข้าไปเยอะๆ จะได้เลิกชั่ว”
“อะ โอ๊ย ยอมแล้ว ยอมแล้ว”
“เห้ย ไอ้อาร์ม เป็นอะไรวะ” ไอ้เพื่อนอีกคนที่มาด้วยกันพอได้ยินเสียงเพื่อร้องโอดโอยด้วยความเป็นห่วงก็ปีนบรรได้ขึ้นมาดู
“ไอ้ บูม ช่วยกูด้วย” ไอ้อาร์มที่ได้ยินเสียงเพื่อนจึงได้ตะโกนขอความช่วยเหลือ
“มาช่วยเพื่อนมึงกินตีนกูนี่เลยมา โทษฐานสนับสนุนกันทำเรื่องชั่วๆ” พอมันปืนจนขึ้นมาถึงหน้าต่างก็ถูกเฉินกระชากลงไปกระทืบด้วยอีกคน โทษฐานที่ไม่ห้ามเพื่อนทำสิ่งไม่ดี มิหนำซ้ำยังมาดูต้นทางให้อีก กลายเป็นว่าตอนนี้เป็นหนึ่งรุมสอง วัยรุ่นสองคนไม่สามารถสู้แรงเฉินได้เลย ได้แต่นั่งขดนอนขดให้เฉินลงโทษอยู่อย่างนั้น
แค่นี้จิ๊บๆสิบรุมหนึ่งยังเอาพี่ไม่ลง
หลังจากเหตุการณ์นั้นตำรวจก็จับตัวของภีมไปรับโทษตามกฎหมาย และยังค้นพบหลักฐานที่ภีมและพ่อร่วมกันทำความผิด ปิดบัง อำพรางมาตลอดหลายปีอีกมากมาย ภาพที่เห็นว่าภีมนั้นเป็นสุภาพบุรุษไม่ยุ่งกับผู้หญิงคนไหน หรือไม่เคยมีข่าวเสียหายเป็นเพราะว่าภีมมักจะอัดคลิปที่ตนมีอะไรกับผู้หญิงที่คบกันอยู่เอาไว้สำหรับข่มขู่หากพวกเธอคิดจะเปิดโปงเรื่องของเขาและเธอ จึงไม่มีใครกล้าปริปากเอาเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งคู่ไปแพร่งพรายให้ใครรู้ หากคนไหนที่ยังรั้นและไม่ยอมทำตามก็จะถูกภีมและพ่อจัดการปิดปากพวกเธอ แถมภีมก็มีรสนิยมที่ชอบถ่ายคลิปเอาไว้เวลาที่ทรมานเหยื่อนั่นจึงเป็นหลักฐานชั้นดีที่ทำให้ภีมจะได้รับโทษสถานหนัก เต้าหู้นั่งรอเฉินอยู่ที่หน้าห้องผ่าตัด ไม่นานเขาก็ถูกนำตัวออกมาเข้าไปพักฟื้นที่ห้องพักผู้ป่วย พอหมอบอกว่าเขาพ้นขีดอันตรายแล้วเธอจึงโล่งใจและปล่อยให้เขาพักผ่อนเต็มที่ เธอจึงมีเวลาก็ไปดูอาการของเพื่อนอย่างพลอย พอไปถึงก็ได้ยินเสียงดังโวยวายดังมาจากข้างในห้อง “อีลูกไม่รักดี ฉันส่งแกมาเรียน ทำไมแกไม่เรียน ฉันทำงานเหนื่อยแทบตายหาเงินมาให้แกทำตัวเหลวไหลแบบนี้เหรอ พลอยแก
ขณะที่ใจจะอยากยอมแพ้ แต่พอภีมจะขึ้นมาคร่อมตัวเธอบนโซฟา สองเท้าที่ไม่ได้ถูกมัดก็กระแทกแรงๆ ไปที่หน้าอกภีมจนเขาหงายหลังลงไปกับพื้น “อีเหี้ยเอ๊ย” เขาสบถคำออกมาเพราะแรงถีบที่รุนแรงจนจุก เธอพยายามพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นอย่างทุลักทุเล เพราะมือที่ถูกมัดไว้ด้านหลังทำให้ขยับตัวยาก พอนั่งได้และเท้าแตะพื้นก็พยายามลุกขึ้นวิ่งหลบและคิดหาทางวิ่งไปทางประตูห้องเพื่อที่จะหนีเอาตัว “พวกมึงยืนโง่กันอยู่ทำไม ไปจับตัวมันสิวะ” ภีมเอ่ยด่าลูกน้องที่มัวแต่มองไม่ทำอะไร ลูกน้องของภีมก็วิ่งเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลัง ห้องมันไม่ได้กว้างพอที่จะให้เธอวิ่งไปมาได้มากนัก หนีได้ไม่นานสุดท้ายก็มาอยู่ที่มุมห้อง ภีมที่โมโหจึงเดินปรี่เข้ามาหา มือใหญ่คว้าใบหน้าของเธอจับบีบแก้มทั้งสองข้าอย่างแรง และใช้นิ้วกดลงที่แผลบนพวงแก้มที่เขาเป็นคนทำเธอทั้งเจ็บและแสบ “กูหมดความอดทนกับมึงแล้วนะ ชอบความรุนแรงใช่ไหมงั้นก็โดนพร้อมกันหลายๆ อันมึงน่าจะชอบ” ก่อนจะหันหน้าไปทางลูกน้อง “จับมัน แล้วถอดเสื้อผ้ามันให้หมด เสื้อผ้าพวกมึงด้วย” ไอ้พวกลูกน้องผุ้ชายได้ยินคำสั่งก็ร
“วันนี้พลอยก็ไม่มาอีกแล้วนะ” เต้าหู้บ่นกับเพื่อนสาวสองคนเช่นเคยที่เพื่อนอย่างพลอยหายไปและไม่สามารถติดต่อได้จนน่าเป็นห่วง “โทรหาติดไหม” “ไม่เลยตั้งแต่ที่เจอเมื่อวานก็ไม่ได้คุยอะไรกันอีก” “พวกเราจะทำยังไงดีล่ะ ตอนนี้แชทฉันหนักขวามากเลย พลอยไม่อ่านไม่ตอบเลย” "ยังไงวันนี้เราก็ต้องไปหาพลอยอีก" "โอเคไปกันเลยไหม" ระหว่างที่กำลังตกลงว่าจะไปหาพลอย เต้าหู้ก็สังเกตเห็นว่าภีมกำลังเดินสวนกับพวกเธอไป ใจจริงเธออยากจะเอ่ยถามเกี่ยวกับเรื่องของพลอยแต่ก็เห็นว่าเขาเดินไปไกลแล้ว อีกอย่างตอนนี้เฉินก็มารับเธอเสียก่อนทำให้เธอพลาดที่จะได้เข้าไปถามเขา เธอมองภีมเดินไปจนสุดลูกตา ทำให้เฉินต้องมองตามไปบ้างพอเห็นว่าเป็นภีมเขาก็รู้สึกไม่สบายใจ “มีอะไรเหรอ” “เปล่าค่ะ เฮียเฉิน เดี๋ยวแวะไปที่คอนโดเพื่อนหนูแป๊บหนึ่งได้ไหม“ “ได้สิ แล้ววันนี้ไม่มีสอนพิเศษเหรอ” “วันนี้หนูลาค่ะ หนูเป็นห่วงพลอยช่วงนี้พลอยแปลกไป” ไม่นานเธอก็มาถึงที่คอนโดของพลอย และแน่นอนว่าทางรปภ.คอนโดของพลอยก็ยังยืนกรานไม่ให้ค
“เฮีย เฮีย” เต้าหู้ตะโกนเรียกเขาพร้อมน้ำตา ขณะที่มือเล็กๆนั้นก็เขย่าไปที่ตัวเขาอย่างแรงไม่หยุด เธอเงยหน้าขึ้นมอง จ๊อดกับแจ๊ดที่ได้แต่ยืนนิ่งไม่ทำอะไร “พี่จ๊อดพี่แจ๊ด เรียกรถพยาบาลเร็ว” ลูกน้องคนสนิทมองหน้ากันแต่ก็ไม่มีใครหยิบมือถือหรือมีท่าที่เป็นเดือดเป็นร้อนกันสักคน “พี่จ๊อดพี่แจ๊ดเร็วสิ เฮียเฉินจะตายแล้วเนี่ย” เธอทั้งห่วงเขา และพาลโมโหที่จ๊อดแจ๊ดดูจะไม่ได้เดือดเนื้อร้อนใจอะไรแม้แต่น้อยทั้งๆที่เห็นลูกพี่ตัวเองนอนสลบเหมือดไปต่อหน้าต่อตา ฝ่ามือเล็กที่วางบนอกแกร่งรู้สึกได้ถึงแรงกระเพื่อมถี่ๆ ก่อนจะได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆตามออกมาทำให้เธอต้องรีบกลับไปมองคนที่สภาพปางตายบนตักของเธอว่าเกิดอะไรขึ้น ดวงตาคมที่ปิดลงเมื่อครู่ตอนนี้ได้มองมาที่เธอพร้อมใบหน้าที่เจือรอยยิ้มอันแสนเจ้าเล่ห์ เต้าหู้พอรู้ว่าโดนแกล้งถึงกับกัดฟันกรอดด้วยความโมโห “เฮียเฉิน!” จากมือที่ใช้เขย่าตัวเขาเพื่อเรียกสติ ตอนนี้กลับกำแน่น และทุบไปอย่างแรงบนอกแกร่งนั้นจนคนที่โดนถึงกับจุกเพราะเธอใส่มาเกือบเต็มแรง “โอ๊ย ตีเฮียทำไม เฮียเจ็บอยู่นะ” “แล้ว
หลายวันมานี้พลอยหยุดเรียนไปด้วยเหตุผลที่ว่าเธอนั้นไม่สบาย แถมในแชทกลุ่มเธอก็ไม่มีความเคลื่อนไหว ส่งข้อความหาเพื่อนก็ตอบกลับเพียงสั้นๆ แล้วก็หายไป โทรหาน้ำเสียงก็ไม่ค่อยสู้ดีนัก เต้าหู้กับเพื่อนอีกสองคนเลยอดที่จะเป็นห่วงไม่ได้ “แกสองคนได้คุยกับพลอยบ้างปะ” เต้าหู้ที่เป็นกังวลเอ่ยถามกับเพื่อนทั้งสองขณะที่กำลังนั่งรอเข้าเรียนในช่วงเช้า “ไม่นะ ไม่ได้คุยอะไรกันเลย เป็นห่วงอยู่เหมือนกัน” ส้มลิ้มตอบ “ฉันก็รู้สึกเป็นห่วงพลอยอะ ไม่รู้ว่าป่วยเป็นอะไรกันแน่” สีหน้าเต้าหู้เป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด พลอยไม่ใช่คนที่จะโดดเรียนหรือหนีหายไปและโกหกว่าป่วยแน่นอน ตอนนี้เธอคงจะป่วยจริงๆ จนถึงขั้นมาเรียนไม่ไหว จีจี้ที่นั่งฟังอยู่เลยออกความเห็น “งั้นเราลองถามพลอยดีไหมว่าตอนนี้อยู่ไหน หลังเลิกเรียนแล้วไปเยี่ยมพลอยกัน” ระหว่างที่กำลังจะกดโทรหาอยู่นั้น พวกเธอก็ได้เห็นพลอยก็กลับมาเรียนแต่พลอยกลับไม่เดินมาหาพวกเธอ แต่กลับรีบเดินเข้าห้องเรียนไปแถมยังไม่มานั่งรวมกับพวกเธออีกต่างหาก ไม่รู้ว่าพลอยมีปัญหาอะไรไหม พอจะถามพลอยก็ปลีกตัวไม่สุงสิงกับใครนั่นยิ่งทำให้น่าเป็นห่วงมา
วันกีฬามหาวิทยาลัย นักศึกษาแต่ละคนก็ต้องวุ่นกับการทำหน้าที่ของตนเอง เต้าหู้ พลอย และจี้จี้ มีหน้าที่แปลกอักษร บนอัฒจันทร์พวกเธอต้องตื่นตั้งแต่ตีสามตีสี่เพื่อมาเตรียมความพร้อมก่อนงานจริงจะเริ่ม ส่วนส้มลิ้มก็มีแข่งชกมวยรอบชิงชนะเลิศอยู่ที่สนามและเธอจะมารับเหรียญในช่วงเย็น จนถึงเวลาพักทานข้าว รุ่นพี่ที่ดูแลได้นำอาหารและน้ำดื่มมาแจกให้กับพวกนักกีฬาและคนอื่นๆ ที่ทำกิจกรรม สามสาวก็มาหาที่ร่มๆ มานั่งทานข้าวและพักผ่อนก่อนจะกลับไปทำกิจกรรมต่อในช่วงบ่าย สามสาวเปิดกล่องข้าวออกมากำลังจะเริ่มทานด้วยความหิวและความเหนื่อย แต่พลอยกลับทำหน้าพะอืดพะอม และรีบปิดกล่องข้าวลงทันที “พลอยเป็นอะไร ไม่หิวเหรอ” “เรารู้สึกไม่ชอบกลิ่นหมูกระเทียมกล่องนี้เลย มันฉุน เราอยากอ้วก” พอพูดจบเธอก็รีบลุกจากที่นั่งเพื่อที่จะรีบไปอ้วกในห้องน้ำใกล้ๆ เต้าหู้กับจีจี้ด้วยความที่เป็นห่วงเพื่อน จึงวิ่งตามไปพอมาถึงก็เห็นว่าพลอยอยู่ข้างในนั้น เต้าหู้รีบช่วยลูบหลังเพื่อนให้ก่อนจะเอ่ยถาม “แกเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ” “ไม่รู้สิ แต่สองสามวันมานี้ฉันเวียนหัวมา