/ โรแมนติก / ไม่ยั่วได้ไหมคะ ท่านประธาน / บทที่ 11 ก็แค่...รู้สึกผิด

공유

บทที่ 11 ก็แค่...รู้สึกผิด

last update 최신 업데이트: 2025-04-08 17:59:17

มีแมวโมโหเรื่องในคาเฟ่วีนเขาจนหูชาไปหมด คนพี่ไม่ได้เถียงอะไรกลับปล่อยน้องบ่นไปตลอดทางจนสุดท้ายก็พอจับคำพูดได้ว่า ที่วีนเพราะเขิน เขินทั้งเขา เขินทั้งน้อง แล้วตรงนั้นก็คนเยอะเกินไป พูดจบก็มุดหน้าลงไปแต่งรูปที่เขาถ่ายให้แล้วชมว่าสวยฝีมือดีอย่างนั้นอย่างนี้

ก็แน่ล่ะ เห็นอย่างนี้เขาก็เรียนเรื่องการถ่ายรูปมาบ้าง แม้แต่ถ่ายรูปเล่นๆ กับเพื่อนหรือเซลฟี่มือของภาคินทร์ก็ไม่เคยพลาด ถ่ายมา 100 รูปอย่างน้อยรูปดีๆ ต้องมี 99

หลังจากส่งน้องกลับบ้านเขาก็ไม่ลืมถามเรื่องไปทำงานตามที่ได้คุยกับคุณย่าเอาไว้ เขาไม่ได้บังคับให้น้องมาทำแต่ถามความคิดเห็นของน้องมาแล้วเรียบร้อย ในเมื่อน้องยังไม่ได้มีงานทำเป็นหลักแหล่ง ช่วงนี้เขาก็ต้องการคนมาช่วยกรภัทร เลขาชั่วคราวของเขาที่กำลังรับหน้าที่แทนแพทตี้อยู่ด้วย น้องเลยตกลงเพราะเห็นว่างานไม่ได้สำคัญถึงขั้นจะทำบริษัทเขาล่มได้

หลักๆ ก็แค่กลัวทำงานพลาดแล้วโดนดุ แต่ถามว่าใครจะกล้าดุ เด็กเส้นของท่านประธานใหญ่อย่างคุณหญิงรฐาทั้งคน

ส่งน้องเสร็จแล้วแทนที่เขาจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนหรือเข้าฟิตเนสเหมือนทุกที กลับได้รับสายจากดีเทลเพื่อนรักเรียกให้ออกมาดื่มกันสักวัน ใจอยากปฏิเสธแต่ก็มีเรื่องอยากปรึกษามันนิดหน่อยเลยตอบตกลง

คลับ Kmnxx

ปกติแล้วภาคินทร์ไม่ใช่คนชอบเที่ยวกลางคืน ที่เที่ยวส่วนใหญ่เขาก็ไม่ค่อยรู้จักเลยนัดเพื่อนมานั่งที่ร้านของน้องชายฝาแฝด ดีเทล เพื่อนรักที่คบกันมาตั้งแต่สมัยอนุบาลเข้ามานั่งปั้นจิ้มปั้นเจ๋อรอตั้งแต่ยังไม่ถึงสองทุ่มดีด้วยซ้ำ

เรื่องดื่มเรื่องดริ๊งก์ไว้ใจไอ้หมอนี่ได้เลย ตั้งแต่รู้จักกันมาบอกเลยว่าดีเทลน่ะขี้เมาตัวพ่อ ออกทุกวันเมาทุกวัน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังสามารถบริหารค่ายเพลงของตัวเองจนทำกำไรเพิ่มขึ้นทุกปีได้ เรื่องความสามารถวัดจากความขี้เมาไม่ได้จริงๆ

“มาช้าว่ะ”

ดีเทลบ่นอุบ ภาคินทร์ถึงกับต้องยกแขนขึ้นมาดูนาฬิกาที่ข้อมือ ตอนนี้เพิ่งจะสามทุ่มนิดๆ เขาไม่ได้บอกมันว่านัดกี่โมง เป็นเขาที่มาช้าหรือดีเทลมาเร็วเองกันแน่

“เออ ขอโทษ ไถ่โทษด้วยการเลี้ยงวันนี้แล้วกัน”

“อันนั้นไม่เกี่ยว มึงต้องเลี้ยงอยู่แล้ว ร้านน้องมึงมึงได้ราคาพิเศษกว่ากูแน่ๆ”

กลับกันเลยอะดิ ยิ่งคามินทร์รู้ว่าพี่ชายฝาแฝดเข้ามาใช้บริการยิ่งจะชาร์จค่าบริการแพงกว่าเดิม หาเรื่องเสียเงินเพิ่มโดยใช่เหตุแท้ๆ

“แล้วนี่มึงมีเรื่องข้องใจอะไรวะ ให้กูเดานะ เรื่องว่าที่คู่หมั้นที่ย่ามึงหามาให้คนนั้นใช่ปะ?” ดีเทลมองหน้าเพื่อนแล้วลองเดา แต่ดันเดาถูกทุกคำจนภาคินทร์ได้แต่ส่ายหัวด้วยความเหนื่อยใจ

“เดาเก่ง” ภาคินทร์นั่งลงที่นั่งตรงข้ามเพื่อน แล้วยกขาขึ้นไขว่ห้างเอนหลังไปกับโซฟา “ไม่ไปเป็นหมอดูล่ะมึง”

“เปล่าหรอก กูรู้จากชมมุกเมื่อตอนเย็นนี้เอง ทำไมวะ เด็กคนนั้นที่มึงเคยบอกว่าไม่ชอบใช่ปะกูจำได้ แล้วอะไรทำให้มึงเปลี่ยนใจในชั่วข้ามคืนวะ”

ดีเทลซักละเอียดยิบ คบกันมาก็หลายปี เขาไม่เคยเห็นไอ้เพื่อนคนนี้จริงจังกับการเข้าหาผู้หญิงมากเท่านี้มาก่อน เขาเองก็พอรู้จักเด็กที่ชื่อเหมียวอยู่บ้าง ด้วยเมื่อก่อนเธอมักจะมาวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวภาคินทร์เป็นประจำ ซ้ำยังตีกับชมมุกบ่อยจนกลายเป็นคอนเทนต์ประจำวันที่ต้องลุ้นว่าวันนี้จะมาเรื่องอะไรอีก

“กูเปล่าตัดสินใจเร็ว” ภาคินทร์ว่าพร้อมกระดกเหล้าเข้าปาก วันนี้รสเหล้าหวานเป็นพิเศษ ไม่รู้เพราะอารมณ์ที่ดีกว่าปกติ หรือเพราะไอ้เพื่อนตัวแสบชงมาผิดสูตรกันแน่

“ไม่ตัดสินใจเร็วเลยครับ ไหนมึงเคยบอกว่าไม่อยากแต่งงาน ไม่อยากมีชีวิตเหมือนพ่อตัวเองที่มีคนอื่นจนแม่ตรอมใจ แล้วก็ไม่อยากวุ่นวายเหมือนน้องชายฝาแฝดสองคน กูเห็นมึงหาทางปฏิเสธสาวๆ สวยๆ ไฮโซหลายคนที่ย่าหามาให้ แล้วตอนนี้คือ กลืนน้ำลายตัวเอง?”

ไอ้เพื่อนเขาคนนี้มันแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีหัวใจ ดีเทลรู้เช่นเห็นชาติกันจนไม่รู้แล้วว่าจะเลิกคบกันไปได้ยังไง เมื่อก่อนเพื่อนบ่นทุกวันว่าช่วยหาทางล้มการดูตัวให้หน่อย แต่วันนี้กลับมีสายตาเหมือนคนคลั่งรักทั้งที่เจอน้องเหมียวได้ไม่ถึงสามวัน

ถ้าไม่ใช่ผีบ้าเข้าเพื่อนเขา ก็คงโดนดีดน้ำมันพรายใส่แน่ๆ

“แล้วมันแปลกยังไง การที่กูจะชอบใครแล้วจีบเลย มึงเองก็อยากให้กูแต่ง คอยแซะกูทุกวันอย่าคิดว่ากูไม่รู้”

แต่งๆ ไปซะทีเหอะ รำคาญลูกตามัวแต่ทำหล่ออยู่ได้ คำที่ภาคินทร์ได้ยินจากปากดีเทลจนกลายเป็นความเคยชิน มันชอบหาว่าเขาแย่งซีนจนไม่มีสาวๆ เข้ามาสนใจ ที่จริงก็แค่ข้ออ้าง ตัวมันเองมัวแต่เล็งสาวในบ้านจนไม่สนคนอื่นเสียมากกว่า

ถ้าหากมันเรียกเขาว่า ประธานไร้ใจ เขาเองก็จะมอบฉายาให้ดีเทลว่า ไอ้สมภารกินไก่วัด

“กับคนอื่นไม่แปลก แต่กับมึงนี่ดิ เมื่อก่อนมึงไม่ชอบน้องไม่ใช่เหรอ แล้วอะไรมาเปลี่ยนใจมึงวะ?”

“ตอนนี้ก็ไม่ได้ชอบ” เขาตอบกลับแบบไม่ต้องคิด

“ไม่ชอบแล้วแต่งงานเพื่อ?”

รู้สึกผิดละมั้ง เขาเคยเล่าไปแล้วว่าเมื่อก่อนตัวเองทำตัวไม่ดีกับน้องเอาไว้ แม้ว่าเมื่อก่อนจะต่างคนต่างป่วนกันไปมาจนนับไม่ได้แล้วว่าใครเริ่มก่อน แต่ในฐานะของผู้ใหญ่เขาก็ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้

อีกอย่าง การแต่งงานกับน้องคงไม่ได้แย่เท่าไร เขาไม่ใช่คนที่จะรู้สึกถูกชะตากับใครง่ายๆ ตั้งแต่แรกเจอ แต่กับน้อง วันที่เจอกันในคาเฟ่วันนั้นเขารู้สึกเหมือนว่าตัวเองจะชอบน้องอยู่นิดหน่อย

ในเมื่อพอจะชอบอยู่บ้าง ลองดูก็ไม่เสียหาย

“เออ ไอ้เหี้ย กูถามแค่นี้ต้องนั่งทำหน้าคลั่งรักอยู่ได้ น่าหมั่นไส้ว่ะ”

ดีเทลถึงกับต้องค่อนแคะเพื่อนด้วยความหมั่นไส้เมื่อเห็นว่าอีกคนเงียบไปนาน

“ทำหน้าคลั่งรักอะไรของมึง เพ้อเจ้อ แดกเหล้าจนหลอนไปหมดแล้วมั้ง”

“ครับๆ ไอ้ท่านประธาน ไม่คลั่งรักก็ไม่คลั่งรักเนอะ แต่คนนี้จริงจัง?”

“ก็ยังไม่รู้ คงต้องลองดูก่อน”

“ลองดูเหี้ยอะไรของมึง แต่งงานไม่ใช่ชิมอาหารตามฟูดคอร์ต ลองแล้วไม่ใช่ทำไง เลิกงี้?”

“ก็เหมือนกับกระบวนการทำงานของซีรีส์สักเรื่อง ก่อนคนจะสนใจก็ต้องได้ดูทีเซอร์ก่อน ซีรีส์ฉายก็ต้องลองดู ถ้าดูแล้วไม่ติดใจก็แยกย้าย มันยากตรงไหน”

กระบวนการทางความคิดของไอ้ประธานทำให้ดีเทลปวดหัวตุ้บๆ ได้ยินอย่างนี้แล้วเขาอยากจะเข้าไปช่วยผู้ประสบภัยอย่างมะเหมียวขึ้นมาทันที น้องมันก็ตัวแค่นี้ จะมารับมือคนมองทุกอย่างเป็นธุรกิจอย่างไอ้ภาคินทร์ได้ยังไง

“เอาดีๆ นะมึง นั่นเพื่อนคะนิ้งนะ กูไม่อยากเห็นน้องเสียใจ”

ดีเทลปรามเพื่อนเสียงเครียด เขาเป็นคนชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเป็นทุนเดิม ขนาดคนข้างบ้านที่ไม่ได้รู้จักมักคุ้นเขายังเข้าไปยุ่งจนกลายเป็นเรื่องอีนุงตุงนัง แล้วนี่เพื่อนของว่าที่แฟนทั้งคนทำไมเขาจะไม่ช่วย

เรื่องของเขากับเพื่อนของว่าที่คู่หมั้นเพื่อนมันยุ่งเหยิงนิดหน่อย รู้แค่ว่าตอนนี้เขากำลังตามจีบคะนิ้งอยู่ เป็นความสัมพันธ์ที่ทำให้ภาคินทร์ต้องขมวดคิ้วถามอย่างงงๆ

“เพื่อนคะนิ้งอะไรวะ มึงกับน้องนิ้งไปอะไรกันตั้งแต่ตอนไหน”

เขาจำได้ว่าเมื่อก่อนเห็นเด็กที่ชื่อคะนิ้งอยู่กับมะเหมียวตลอดเวลา เรียกได้ว่ามีเหมียวที่ไหนมีนิ้งที่นั่น แต่พอหลังจากสองสาวไปเรียนต่อญี่ปุ่นก็ไม่รู้ว่ายังคบกันอยู่ไหม แล้วมาตอนนี้ดีเทลดันพูดชื่อคะนิ้งออกมาหน้าตาเฉยเหมือนแอบมีความสัมพันธ์กันมานานอีก

ต้องมีอะไรแน่ๆ

“เออ ไม่ต้องมาจับผิดกู เอาเรื่องตัวเองให้รอดก่อนเถอะ” ดีเทลบอกปัด

“งั้นก็ช่างมึง แล้วกูไปทำน้องเสียใจตอนไหน อย่าพูดจาหมาๆ ดิ” คำที่อีกฝ่ายตอบกลับมาทำให้เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบๆ ในทีแรกนึกอยากจะซัดหมัดเข้าหน้าเพื่อนสักที

แต่มันดันติดที่ว่าไอ้เพื่อนคนนี้มันดันหมัดหนักกว่าเขา ด้วยทั้งส่วนสูงที่ต่างกันเกือบคืบ แล้วขนาดตัวก็ต่างกันมาก ดีเทลเป็นผู้ชายตัวเล็ก หน้าหวาน ยิ้มเก่ง ชอบทำทรงผมอย่างที่สาววาย[1]เรียกว่าคนสวยขา หลายครั้งที่เดินกับภาคินทร์ซึ่งตัวสูงโปร่ง มีกล้ามเล็กน้อยตามประสาคนชอบเล่นกีฬา ใบหน้าคมไทป์พระเอก เลยทำให้ถูกจับจิ้นกันอยู่บ่อยๆ

จะว่าไปถ้าเกิดว่าภาคินทร์ไม่ยอมแต่งงานสักที เขาเองก็คิดเหมือนกันว่าไอ้เพื่อนรักต้องแอบอยากเล่นเพื่อนแน่ๆ แค่คิดก็ขนลุกแล้ว

“ไม่ทำก็ไม่ทำ แต่อย่าให้เห็นว่าคะนิ้งเครียดเพราะเพื่อนโดนหักอกนะ มึงตาย”

“ไอ้ห่า คบกันแล้วเหรอวะห่วงลามไปถึงเพื่อนเขาแล้วเนี่ย ถามจริงเหอะ มึงอยากเป็นแฟนเขาหรืออยากเป็นพ่อ?”

ถามได้จี้จุดมากเพื่อน ไม่ต้องอยากเป็นทุกวันนี้ยัยนั่นก็แทบจะมองเขาเป็นพ่ออยู่แล้ว เอาน่า อายุที่ห่างกันมันก็เหมือนสีสันหนึ่งของชีวิต ไม่ต้องไปคิดอะไรมาก ไม่มีผลต่อแนวราบอยู่แล้ว

“เออ กูมันอีกนิดจะเป็นพ่อเขาได้แล้ว แล้วไง มึงก็อายุเท่ากัน มะเหมียวกับคะนิ้งก็อายุเท่ากันปะวะ มันก็พ่อเหมือนกันนั่นแหละ”

“พ่อของมึง มึงกับพ่อกู มันคนละความหมายกัน อีกอย่าง อย่าสะเออะมาเรียกชื่อมะเหมียวแบบนั้น ชื่อนั้นกูตั้งให้ กูเรียกได้คนเดียว”

“คร้าบบบ ไอ้ท่านประธาน เมื่อก่อนทำเป็นไม่ชอบ ไม่เอา ไม่อยากเข้าใกล้ ตอนนี้มีชื่อที่เรียกกันสองคนซะงั้น แล้วบอกไม่คลั่งรัก ถุย!”

“สถุน ไอ้สัตว์”

ได้ยินอย่างนั้นแล้วเขาก็สบายใจ คนอย่างไอ้ประธานภาคินทร์ถ้าไม่สนใจใครจริงๆ ไม่มีวันเอาตัวเองเข้าไปข้องแวะเด็ดขาด แล้วปากแบบนี้แต่ก็อยากลองเขาตั้งแต่เจอครั้งแรก อยากรู้เหมือนกันว่าจะลองไปได้สักกี่น้ำ

“กูจะคอยดูว่ามึงจะได้ลองแล้วเท หรือกลายเป็นหมาให้แมวมันจูง ไอ้คนไร้ใจ!”

[1] กลุ่มแฟนคลับสาวที่ชื่นชอบในความสัมพันธ์แบบชายรักชาย หากเป็นผู้ชายจะถูกเรียกว่า หนุ่มวาย

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • ไม่ยั่วได้ไหมคะ ท่านประธาน   ตอนจบ ท้ายที่สุดแล้ว

    ใครๆ ต่างก็บอกว่า เธอช่างโชคดีจังเลย เกิดมาไม่มีอะไรสักอย่าง ครอบครัวก็กลางๆ หน้าตาก็ไม่ได้ดีเด่อะไรมากมาย ขนาดถึงขั้นล้มละลายก็ยังมีครอบครัวว่าที่สามีเอ็นดูซัพพอร์ตเสมอ ล้มแต่ละครั้งเหมือนล้มลงบนฟูก จนถึงตอนนี้ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่างแต่ก็ได้รับแต่สิ่งที่ดีที่สุดหากเป็นเมื่อก่อนเธอคงนอยจนซึมไปหลายวัน แต่พอเล่าให้ภาคินทร์ฟัง เขาก็บอกว่าทำไมต้องสน คนพวกนั้นมีดีแค่พูดเรื่องคนอื่นไปวันๆ ไม่เห็นว่าชีวิตพวกเขาจะดีกว่าเราตรงไหน ครอบครัวล้มละลายแล้วยังไง ต้องพึ่งพาครอบครัวสามีแล้วยังไง การมีคนที่พร้อมหนุนหลังเราไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นยังไงก็ดีกว่าตัวคนเดียวไม่ใช่หรือไงเพราะอย่างนั้น...เธอจึงปล่อยวางทุกอย่าง ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตแล้วเข้าพิธีแต่งงานโดยไม่สนใจอะไรอีกต่อไปต่อหน้าผู้คนมากมายที่มาร่วมยินดีในวันแห่งความสุขของหลานชายคนโตตระกูลคัลเลน ต่อหน้าเพลงบรรเลงที่ดังคลออยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ต่อหน้าดอกไม้ ผ้าประดับ เธอยังคงสั่นด้วยความตื่นเต้น ราวกับว่าทุกก้าวบนพรมสีขาวที่นำไปสู่แท่นพิธี คือจุดจบของความวุ่นวายทั้งหมดที่ชีวิตได้เจอมาชีวิตที่ตกหลุมรัก

  • ไม่ยั่วได้ไหมคะ ท่านประธาน   บทที่ 31 จุดจบของคนหักหลัง

    “ปล่อยกู กูบอกว่าให้ปล่อยกู!!”วัชระถูกจับกุมตัวในที่สุด เขาถูกตั้งข้อหาหนักทั้งทำร้ายร่างกาย ฉ้อโกง รวมไปถึงพยายามฆ่า ภาคินทร์ทำทุกอย่างแม้แต่การใช้อำนาจในทางมิชอบ ทำให้เขาไม่ได้รับการประกันตัว แต่คนอย่างวัชระมีหรือจะยอม ทุกครั้งที่มีคนเข้าเยี่ยมเขามักจะโวยวายขอประกันตัวสู้คดี แต่คงไม่คิดว่าทุกครั้งจะเป็นภาคินทร์ที่เข้ามาเขาไม่ยอมให้มะเหมียวหรือใครได้เจอผู้ชายคนนี้อย่างเด็ดขาด เรื่องบางเรื่อง คนของเขาช้ำใจแค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว อย่ามาเสียใจกับอะไรเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกเลย อีกอย่างงานแต่งงานก็ใกล้เข้ามาแล้ว เขาไม่อยากให้มีอะไรมากระทบทั้งนั้นแต่เห็นคนในชุดนักโทษแล้วก็อดเวทนาไม่ได้ คนพวกนี้ทรยศครอบครัว หักหลังโดยคิดถึงแค่ผลประโยชน์ แค่ความพึงพอใจของตัวเอง สมควรแล้วที่จะต้องทรมานไปตลอดชีวิต“กูบอกว่าให้ปล่อยกูไง ไปเรียกทนายมาเดี๋ยวนี้ แล้วนี่ลูกเมียกูอยู่ไหน ทำไมไม่เห็นมีใครมาเยี่ยมเลย โธ่เว้ย!!!”วัชระทุบกระจกหนาตรงหน้าด้วยความหัวเสีย ระหว่างภาคินทร์และเขานอกจากกระจกหนาที่กั้นเอาไว้ยังมีตาข่ายเหล็กอีกชั้น ทั้งคนในห้องขังยังมีกุญแจมือสวมอยู่อีก อิสระที่หายไปในชั่วพริบตาเพียงเพราะความขาดการ

  • ไม่ยั่วได้ไหมคะ ท่านประธาน   บทที่ 30 ไม่มีวัน

    “กรี๊— อุ๊บ!”มะเหมียวเผลอหลุดกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ ในจังหวะที่เธอหันมาแล้วเจอว่ามีคนมายืนอยู่ข้างหลังโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไร ทว่าเพียงแค่อ้าปากยังไม่ทันได้ส่งเสียง กลับถูกมือเย็นๆ อุดปากเอาไว้ก่อน“ชู่ว อย่าเสียงดัง นี่โรงพยาบาลนะ”คนตรงหน้ายกมือขึ้นแตะปากตัวเองพลางบอกให้เธอเงียบ ดวงตาที่เบิกโพลงเริ่มมีน้ำตาคลอเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ตรงนี้คือใครไอ้เฮียบ้า เขานี่เอง“ฮึก...” คนที่ทั้งกลัวทั้งตกใจเริ่มสะอึกสะอื้น น้ำตาไหลลงมาเป็นทางโดนใส่มือภาคินทร์ที่ปิดปากของเธออยู่ เขาตกใจรีบปล่อยเธอให้เป็นอิสระก่อนจะถามเสียงตื่น“เป็นอะไรครับ เฮียขอโทษที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง ตกใจมากไหมมาโอ๋ๆ นะ”เขารั้งคนตัวเล็กเข้ามากอดจนทั้งตัวจมอก เสียงสะอื้นไม่มีท่าทีสงบลงง่ายๆ แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแค่ยกมือขึ้นลูบหัวคนน้องเบาๆ แล้วพูดปลอบใจเท่านั้น“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรแล้ว”“ฮึก...ฮือ...”ตกใจเรื่องที่เขาเล่นอะไรไม่รู้เรื่องก็เรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้เธอร้องไห้หนักกว่าเดิมคงไม่พ้นเรื่องที่คิดอยู่ก่อนหน้านี้ มันอึดอัดมากจริงๆ ยากจะหาที่ระบายในยามที่ทุกคนต่างก็กำลังเครียด ทำได้แค่ร้องไห

  • ไม่ยั่วได้ไหมคะ ท่านประธาน   บทที่ 29 ทำไมต้องทำขนาดนี้

    เมื่อวานเกิดเรื่องที่บริษัทนิดหน่อย เขาไม่คิดว่าจู่ๆ คนที่ไม่ควรจะอยู่ที่นั่นมากที่สุดกลับไปโผล่ที่บริษัทหน้าตาเฉยวัชระ พ่อของมะเหมียวเขาเป็นประธานบริษัทเล็กๆ ที่ทำด้านส่งออกบรรจุภัณฑ์พลาสติก เมื่อก่อนคุณย่าของเขาก็เคยร่วมหุ้นด้วยแต่พอเพื่อนรักอย่างคุณยายของมะเหมียวเสียท่านก็ขายหุ้นทิ้งและไม่ได้สนใจบริษัทนั้นอีก ภาคินทร์เพิ่งจะได้ข่าวว่าบริษัทขาดทุนหนักและกำลังจะล้มละลายแต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วอย่างนี้“คือว่า...อา...แค่เห็นว่าเราสองครอบครัวกำลังจะเกี่ยวดองกัน”ร้อยวันพันปีคนอย่างวัชระไม่เคยคิดเข้ามาข้องเกี่ยวกับตระกูลคัลเลน อย่าว่าแต่เรื่องเกี่ยวดองกัน แม้แต่ช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดที่ทางนี้ต้องเผชิญข่าวเสียหายก็ไม่เคยเห็นหัว มีแค่วันนั้นที่คุณย่าเชิญเขามาร่วมงานในฐานะแขกเลยได้พบกันมันทำให้เขารู้ว่าจริงๆ แล้วไม่ควรทำอย่างนั้นเลย คนพรรค์นี้ให้เกียรติไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับชีวิต ทั้งยังหาแต่เรื่องวุ่นวายมาให้“คุณอามีเรื่องอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ”คุยนานไปก็มีแต่จะเสียเวลา เขารีบตรงเข้าประเด็นพร้อมทั้งหยิบมือถือขึ้นมาเล่นไปพลาง เขาไม่ได้กำลังทำตัวเสียมารยาทแต่กำลังหาข่าวของบริษัทนั

  • ไม่ยั่วได้ไหมคะ ท่านประธาน   บทที่ 28 โดนจับได้

    ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้...วัชระนั่งทำแผลอยู่ในบ้านตัวเองด้วยความเจ็บใจ นึกถึงเรื่องที่บ้านหลังนั้นแล้วก็ได้แต่กัดฟันกรอด สองแม่ลูกนั่นมันกล้าดียังไงถึงทำกับเขาแบบนี้ ที่ผ่านมาลูกสาวของเขาเป็นเด็กดี ว่าง่าย ไม่เคยเถียงพ่อแม้สักคำเดียว ทั้งหมดนี่ต้องเป็นความผิดของแม่มันอย่างไม่ต้องสงสัย“แล้วเรื่องที่ให้ไปคุยเป็นยังไงบ้างคะ เนี่ย ถ้าเราไม่หาเงินไปจ่ายค่าปรับในเดือนหน้าเราจะล้มละลายกันจริงแล้วนะคะ”กานพลู ภรรยาใหม่ของวัชระว่าด้วยสีหน้าหงุดหงิด หลังช่วยกันประคับประคองบริษัทมาหลายปีแต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด ติดหนี้หัวโตกำลังถูกฟ้องล้มละลาย โชคยังดีที่มีเงินสดติดตัวอยู่บ้างให้พอได้ซื้อข้าวกินไปวันๆ แต่เรื่องหนี้สินก็เป็นเรื่องที่เจ้าหล่อนคิดไม่ตกคิดแล้วก็อยากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 18 ปีก่อน ตอนนั้นไม่น่าเห็นแก่เงินเป็นชู้กับผัวชาวบ้านจนมีลูกด้วยกัน วัชระในตอนนั้นทั้งหล่อทั้งรวย เป็นลูกเขยของตระกูลที่มีทรัพย์สินกว่าห้าร้อยล้าน ซ้ำตอนที่เผลอใจมีอะไรกันหลายครั้งจนตั้งท้อง เขายังบอกให้หล่อนเก็บเรื่องลูกไว้เป็นความลับ จะเลี้ยงดูปูเสื่อสองแม่ลูกอย่างดีไม่ให้ลำบากเรื่องมาโป๊ะแตกตอนที่ลูกสาวคนเล็กของเขาอ

  • ไม่ยั่วได้ไหมคะ ท่านประธาน   บทที่ 27 แค่บางที...

    พ่อออกไปแล้ว ทิ้งความเงียบหลังความวุ่นวายเอาไว้ที่เบื้องหลัง ยอมรับว่าเรื่องเมื่อกี้เธอตกใจมากๆ จนแทบสติแตก แต่พอเห็นว่าแม่ที่จิตใจไม่ปกติพยายามอย่างมากที่จะเข้มแข็งเพื่อต่อต้านพ่อเป็นครั้งแรก ลูกสาวอย่างเธอจึงต้องพยายามฮึบเพื่อไม่ให้แม่ต้องดิ่งมากไปกว่านี้เธอพาแม่ขึ้นมาบนห้องแล้ววานแม่บ้านมาทำความสะอาดเศษแก้วให้ ก่อนจะส่งแม่เข้านอนโดยไม่พูดหรือไม่ถามอะไรแม่สักคำแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าระหว่างเราสองแม่ลูกจะไม่มีอะไรค้างคาอยู่ในใจ“เหมียวลูก...”ก่อนจะล้มตัวลงนอนเป็นแม่ที่พูดขึ้นมาก่อน ฝ่ามือสั่นเทายกขึ้นมาลูบกรอบหน้าลูกสาวอย่างแผ่วเบา มองรอยตบที่ตอนนี้เริ่มจางลงไปบ้างแล้ว แต่ก็รับรู้ได้ว่าลูกคงเจ็บอยู่บ้าง“หนูเจ็บไหม แม่ขอโทษนะที่ปล่อยให้มันมาทำร้ายลูก”“ไม่เจ็บค่ะแม่ แม่ไม่ต้องห่วงหนูนะคะ สมัยเรียนหนูก็ตบกับเพื่อนบ่อยจะตาย แค่นี้ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”ถึงจะบอกอย่างนั้นแต่แรงตบเมื่อกี้ก็เริ่มทำพิษแล้วเช่นกัน เธอไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจมากไปกว่านี้ เรื่องแค่นี้เธอทนได้สบายมากอยู่แล้ว“แม่นอนพักนะคะ เรื่องวันนี้แม่ลืมมันไปซะ อย่าเก็บมาคิดอีก”“เหมียว แม่ถามจริงๆ นะลูก ถ้าเกิดว่าเฮียรู้เรื่องบ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status