Share

บทที่ 10 ทำคะแนน

last update Последнее обновление: 2025-04-08 17:58:53

เหอะ ไม่คิดเหมือนกันว่าตัวเองจะทำอะไรพวกนี้

เขาเดินตามน้องเข้าร้านนั้นออกร้านนี้โดยไม่พูดอะไรสักคำ มองมะเหมียวที่ยิ้มร่าตอนเข้าไปในคาเฟ่ที่มีหน้าเด็กในสังกัดเขาเต็มไปหมด ความสดใสของเธอแทบจะทำให้สีสันในร้านไม่มีความหมาย

เธอสดใสได้ถึงขนาดนี้เลยเหรอ?

เมื่อก่อนเขาไม่เคยคิดมองเธอมาก่อน ไม่ว่าเจอหน้ากันเมื่อไรเป็นอันต้องหงุดหงิดใส่กันทุกครั้ง แต่เวลาผ่านไปเขาก็เริ่มตกผลึกได้ สิ่งที่ทำเอาไว้เมื่อก่อนกับน้องมันก็เกินไปหน่อยจริงๆ

เขาแค่...อยากชดเชยในสิ่งที่ตัวเองเคยทำ เขาไม่ได้มีความคิดที่จะล้มเลิกการแต่งงานในครั้งนี้อยู่แล้ว น้องเองก็เคยชอบเขามากๆ มาก่อน อยากให้ความทรงจำไม่ดีพวกนั้นเป็นแค่เรื่องในอดีตแล้วมาเริ่มต้นกันใหม่ อย่างน้อยๆ ได้ขอโทษ ได้ทำอะไรเป็นการชดใช้กับความนิสัยไม่ดีของตัวเองบ้างก็ยังดี

แต่ถามว่าเขาชอบน้องไหม...ตอนนี้มันก็คงตอบยาก เพราะเราเพิ่งจะกลับมาเจอกันได้ไม่กี่วัน

“สวัสดีค่า รับอะไรดีคะ?”

คาเฟ่แรกที่น้องพาเขามาเป็นธีมไดโนเสาร์ที่ดุร้ายที่สุดในภาพจำของคนอย่างไทแรนโนซอรัส มีทั้งภาพการ์ตูนหลากหลายสไตล์จากฝีมือแฟนคลับวาดให้ศิลปิน แล้วก็ภาพของทีเร็กซ์ เด็กในสังกัดเขาเองแปะอยู่ทั่วไปหมด

ในขณะที่มะเหมียวเดินไปสั่งน้ำที่เคาน์เตอร์ภาคินทร์ก็เดินมามุมหนึ่งซึ่งเป็นโซนให้แฟนคลับเขียนความในใจใส่โพสอิทแปะเอาไว้บนผนัง ในนั้นมีข้อความมากมายจากหลากหลายลายมือดึงให้เขาหยุดอ่านด้วยความอยากรู้อยากเห็น

เขาไม่เคยสนใจแฟนคลับของเด็กในสังกัดตัวเองเท่าไร แค่ก่อตั้งค่ายแล้วให้อิสระเพื่อนในการบริหารอย่างเต็มที่ นี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาได้ลงมาสัมผัสโลกของแฟนๆ เด็กๆ ใกล้ชิดขนาดนี้

‘สุขสันต์วันเกิดนะคะพี่เร้ก รักพี่มากๆ ขอให้ปีนี้เป็นปีที่ดี มีงานเยอะๆ รอลุ้นโปรเจกต์ใหม่ของพี่อยู่นะคะ’

ใบนี้เขียนถึงโปรเจกต์ใหม่ของทีเร็กซ์ที่น่าจะหมายถึงซีรีส์ที่ได้ประกาศไปเมื่อต้นปี ภาคินทร์ได้แต่หัวเราะแห้งๆ อยู่ในใจ เพราะปัญหาภายในที่เกิดขึ้นอาจทำให้ซีรีส์นี้ไม่ได้ทำต่อหรือเปลี่ยนคู่ แฟนคลับคงจะยังไม่มีใครรู้เรื่องนั้น

‘พี่เร็กซ์ของหนู ขอให้พี่แสนดีน่ารักอย่างนี้ตลอดไป ขยันพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ หนูภูมิใจกับทุกผลงานของพี่เลย รอคอนรวมคราวหน้าจะกดบัตร VVIP ให้ได้เลยค่ะ’

คำว่า ขยันพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ก็เหมาะกับทีเร็กซ์จริงๆ นั่นแหละ เขาเป็นศิลปินเบอร์แรกๆ ของค่าย ตอนนั้นค่ายไม่ได้ตั้งใจจะมาทางร้องเล่นเต้นอะไรด้วยซ้ำ แต่พอมีซีรีส์ก็ต้องมีการแสดงอื่นๆ ตามมา เด็กๆ เลยต้องพัฒนาด้านอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย

แต่สิ่งที่ทำให้เขานึกสะท้อนใจอยู่หน่อยๆ คือในขณะที่แฟนคลับภูมิใจในทุกผลงานของศิลปินที่พวกเขารัก ในสายตาผู้บริหารอย่างภาคินทร์กลับรู้สึกว่ามันยังดีไม่พอ

อย่าว่าแต่เต้นเลย ร้องเพลงทีเร็กซ์ก็ทำไม่ได้ดี การแสดงก็ดีแต่ผลตอบรับไม่เท่าไร แม้แต่บัตรแฟนมีตก็ขายไม่หมดมาสักพักแล้ว เร็วๆ นี้ยังมีข่าวเรื่องจะแยกคู่กับนัททิวอีก ไม่รู้ว่ามะเหมียวรู้เรื่องนี้หรือยัง

การได้อ่านข้อความอวยพรพวกนี้มันก็เหมือนได้อ่านฟีดแบ็กค่ายไปในตัวด้วย เขาค่อยๆ ไล่อ่านทุกแผ่น ทุกบรรทัด เผื่อว่าสิ่งไหนที่สามารถนำไปปรับปรุงได้ก็จะทำ แต่ส่วนใหญ่ก็เป็นการอวยพรวันเกิดทั่วไป ไม่ได้มีอะไรพิเศษ

“เฮียอ่านอะไรอยู่คะ นี่ค่ะน้ำได้แล้ว”

มะเหมียวเดินมาหาพร้อมกาแฟสองแก้วที่มีหน้าทีเร็กซ์ในชุดไดโนเสาร์แปะอยู่บนนั้น น้องไม่ได้ยื่นให้เขาแต่กลับวางลงบนโต๊ะแล้วหันไปหยิบโพสอิทมาเขียนด้วยความตั้งใจ

“อวยพรวันเกิดให้น้องเหรอ”

เขาชะโงกดูอย่างอยากรู้อยากเห็น ลายมือเล็กๆ น่ารักเหมือนเจ้าตัวกำลังบรรจงเขียนข้อความถึงดาราที่เธอชอบคนนั้น

เนื้อหาก็ไม่ได้ต่างจากคนอื่นๆ บนบอร์ด แต่ที่พิเศษมากกว่าคือมีหัวใจแปะท้ายด้วยชื่อที่เขาไม่คุ้นเท่าไรนัก

MameawMM

ถ้าเดาไม่ผิด คงเป็นชื่อแอคหลุมที่ใครๆ เขาว่ากัน

ผู้บริหารหนุ่มจดชื่อนั้นไว้ในใจทันที แม้ว่าจะเห็นเพียงแวบเดียวแต่เขาก็จำมันได้ทุกตัวอักษร

“เสร็จแล้ว” ยิ้มให้กระดาษหนึ่งทีก่อนจะเอาไปแปะที่ริมบอร์ดฝั่งที่ตัวเองยื่นมือถึง พอแปะเสร็จก็หันกลับมาหาเขา “อยากเขียนด้วยกันไหมคะ?”

“เฮียเหรอ? ไม่เอาดีกว่า”

ผู้บริหารอวยพรให้คนในองค์กรตัวเองถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่เขาไม่ชินเท่าไรที่ต้องมาอวยพรผ่านกระดาษที่ไม่รู้ว่าเจ้าตัวจะมาเห็นหรือเปล่า ถึงจะไม่ค่อยมีกระแสแต่เด็กแต่ละคนในค่ายก็ยุ่งจะตายชัก ไม่แน่ว่าเขาอาจจะไม่มาที่นี่ด้วยซ้ำ

แต่คนน้องกลับไม่ยอม พอเห็นว่าเขาไม่ทำตามก็เริ่มยู่หน้าด้วยความไม่พอใจ

“เขียนสักหน่อยนะคะ ไหนบอกว่าวันนี้จะทำตามที่หนูบอกทุกอย่างไง”

“บอกตอนไหน โมเมเอาเองไม่ว่า”

หน้าเริ่มจะมุจุ๊ทีละนิด ปากบนนี่แทบจะชนกับปลายจมูกอยู่แล้ว

น่ารักดี

“ก็แค่เขียนอวยพรวันเกิดเอง วันนี้เฮียซื้อน้ำ 1 แก้วได้รับกิ๊ฟอะเวย์ด้วยนะคะ ได้รับของแล้วไม่เขียนมันเสียมารยาทนะ”

แวบหนึ่งที่เขาหันไปมองพนักงานในร้านซึ่งแอบมองอยู่ ทางนั้นมีการขำเล็กๆ เพราะเข้าใจว่าเขาถูกหลอกให้ทำตาม เขาเองก็รู้ว่าเด็กตรงหน้ามันขี้โม้ แต่ก็ยังรับกระดาษและปากกามาเพราะอยากเอาใจ

“ก็ได้ แต่เขียนนิดเดียวนะ”

“อื้อ ได้เลยค่ะ”

มะเหมียวฉีกยิ้มกว้างจนปากแทบจะฉีกถึงรูหู กะอีแค่เขาอวยพรวันเกิดเด็กคนหนึ่งจะดีใจอะไรขนาดนั้น ภาคินทร์ไม่รอช้าวางโพสอิทลงบนโต๊ะแล้วเริ่มเขียน แต่จะให้เขียนอวยพรธรรมดาโลกไม่จำ เลยแค่เซ็นลายเซ็นตัวเองลงไปจนคนที่แอบมองอยู่โวยวายขึ้นมาอีกครั้ง

“เฮียอะ เอาดีๆ สิไม่เล่น”

ในนั้นไม่มีคำอวยพรอะไรเลย มีแต่ลายเซ็นเขาเต็มหน้ากระดาษไปหมด

“นี่แหละคำอวยพรที่ดีที่สุด ลายเซ็นเฮียมีมูลค่านะ เทียบกับลายเซ็นดารานี่หลายร้อยล้านเลยขอบอก”

ไม่ว่าจะโครงการเล็กใหญ่ล้วนต้องพึ่งลายเซ็นของเขาทั้งนั้น อย่าว่าแต่เซ็นอวยพรวันเกิดเลย ต่อให้เขาแค่จรดปลายปากกาลงไปเฉยๆ ก็นับเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตผู้ได้รับแล้ว

แต่เหมือนจะมีเด็กไม่เข้าใจ

“เฮียเม็ดเยอะอะ ไม่เอาแผ่นนี้ เอาใหม่”

แล้วก็ฉีกใบนั้นขยำทิ้งอย่างไม่ไยดี เล่นเอาคนที่ตั้งใจเซ็นทำท่าจะอ้าปากเถียงกลับ

แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรจู่ๆ กลับมีเสียงกรี๊ดกร๊าดดังขึ้นมาที่หน้าร้าน ทั้งคู่หันไปมองแล้วพบว่ามีชายร่างสูงหน้าตาดีคนหนึ่งเดินเข้ามาพร้อมกับคนตัวเล็กอีกคนที่ตัวเล็กมากๆ แทบจะเตี้ยกว่ามะเหมียวด้วยซ้ำ

“อมก. ทีเร็กซ์ นัททิว!!”

มะเหมียวร้องเรียกชื่อสองคนนั้นด้วยความตกใจ ความตั้งใจที่จะให้ภาคินทร์เขียนคำอวยพรให้น้องหายไปในทันที เธอรีบหยิบมือถือขึ้นมาก่อนจะจิ้มๆ ทำอะไรบางอย่าง แต่แล้วก็ต้องขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิด

“บ้าเอ๊ย หนูยังไม่ได้ล็อกอินไอจีเลยอะ”

“จะทำอะไรครับ ยืมของเฮียไหม?”

“ส่งข้อความหาคะนิ้งค่ะ”

“เอาไปสิ”

เขายื่นมือถือให้เธอ คนน้องเลยรับไปแล้วกดอย่างคล่องแคล่ว พิมพ์หาชื่อแอคเคานต์ของคะนิ้งแค่ครั้งเดียวก็เจอ

เจ้าตัวรีบถ่ายรูปน้องๆ ที่อยู่ตรงหน้าแล้วส่งให้เพื่อนในทันที คงต้องรอสักพักกว่าอีกฝ่ายจะตอบกลับมาเพราะแอคนี้ไม่ได้ติดตามกันและกัน เลยยื่นมือถือกลับไปให้ภาคินทร์แล้วตัวเองก็ยกมือถือใหม่ของตัวเองขึ้นมาถ่ายน้องๆ ต่อ

โชคดีชะมัด นึกว่ามาแล้วจะไม่ได้เจอ ได้เจอคนเดียวก็ว่าโชคดีแล้ว นี่เจอถึงสองคน!!

ตายค่ะ นาทีนี้สามารถตายได้เลย

“ถ้าอยากเข้าไปถ่ายรูปก็ได้นะ เดี๋ยวเฮียถ่ายให้”

เห็นยืนกรี๊ดอยู่นานเอาแต่ถ่ายคลิปไม่ยอมเข้าไปสักที เมื่อกี้เห็นน้องๆ พยักหน้าเชิงบอกว่าถ่ายรูปด้วยได้ มีบางคนเข้าไปถ่ายแล้วกรี๊ดกร๊าดกันใหญ่แต่มะเหมียวกลับยืนมองผ่านหน้าจอแล้วยกมือขึ้นปิดปากเงียบๆ

“ไม่ดีกว่าค่ะ แค่ได้มองตรงนี้ก็ดีแล้ว” เธอไม่อยากรบกวนความเป็นส่วนตัวของน้อง แม้ว่าน้องจะบอกว่าถ่ายได้ก็ตามที

“ไปเถอะ แน่ใจนะว่าจะไม่เสียดาย?” แต่ตาคนนี้ก็สปอยเก่งยิ่งกว่าอะไร เขาแย่งมือถือน้องมาก่อนจะดันหลังมะเหมียวเข้าไปในจังหวะที่คนสุดท้ายถ่ายเสร็จพอดี

ตำแหน่งว่าที่คู่หมั้นดีเด่นต้องมาแล้วปะแบบนี้

“เอ่อ...” น้องอึกอัก พออยู่ต่อหน้าคนที่ตัวเองชอบในระยะประชิดแบบนี้เริ่มทำตัวไม่ถูก ถึงตัวเองจะเคยเจอน้องมาแล้วหลายครั้ง ถ่ายรูปแบบ 2:1 ด้วยเบเนฟิตของงานมาแล้วหลายหนก็เถอะ แต่นี่เธอไม่ได้เตรียมตัวมาเลยสักนิด

“เสื้อน่ารักนะครับ”

เป็นนัททิวที่ทักขึ้นมาเสียงใส เขาชี้ไปยังเสื้อฮู้ดสียีนซีดที่มะเหมียวใส่มาซึ่งเป็นแบรนด์ของตัวเอง เห็นแล้วเจ้าเด็กยิ้มแฉ่งจนพี่สาวคนนี้แทบจะละลายกองไปอยู่กับพื้น

อ้ากกกก จะบ้าตาย เขินเป็นบ้าเลยว้อยย

“แม่ๆ ถ่ายรูปกับน้องได้เลยนะคะ เดี๋ยวน้องไปที่อื่นต่อ ทำเวลาหน่อยน้า”

แทบจะลืมไปเลยว่ามี AR ของน้องมาด้วย ได้ยินอย่างนั้นมะเหมียวก็ก้มน้อยๆ ให้ทั้งสองคนเชิงขออนุญาตก่อนจะเดินไปอยู่ข้างๆ นัททิวเจ้าของแบรนด์เสื้อที่ตัวเองใส่อยู่แล้วยังเป็นเมนหลักของตัวเอง แต่น้องกลับเดินอ้อมไปอยู่ทางด้านซ้ายมือมะเหมียว ทำให้เธอได้อยู่ตรงกลางระหว่างทีเร็กซ์และนัททิว

ตาย จังหวะนี้บอกเลยว่าตายสถานเดียว คะนิ้งต้องได้เห็นสิ่งนี้ กรี๊ด!!

แล้วคนที่รับหน้าที่ถ่ายรูปให้ในครั้งนี้ก็คือภาคินทร์ เขาหยิบมือถือขึ้นมารัวชัตเตอร์ให้อย่างคล่องแคล่ว ทีแรกมือถือบังหน้าเขาอยู่เลยไม่มีอะไร ทว่าพอเขาลดมือถือลงมาเช็กรูปเท่านั้นแหละ น้องสองคนที่ขนาบข้างมะเหมียวอยู่ก็ตาโตในทันที

“ทะ...ท่านประธาน?”

พรึ่บ! ทุกสายตาหันไปมองภาคินทร์เป็นตาเดียว เขางงนิดหน่อยมองไปรอบๆ ก่อนจะพบว่ามีเสียงกระซิบกระซาบจากลูกค้าที่เป็นแฟนคลับน้องๆ ภายในร้านกำลังพูดถึงตัวเองอยู่

“ท่านประธาน สวัสดีครับ”

นัททิวและทีเร็กซ์ยกมือขึ้นไหว้ด้วยความนอบน้อมเล่นเอาผู้ใหญ่อย่างภาคินทร์ทำตัวไม่ถูก ปกติเขาก็รับไหว้เด็กๆ พวกนี้อยู่เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว แต่พออยู่ในสถานการณ์แบบนี้รู้สึกแปลกๆ

“ท่านประธานมาทำธุระแถวนี้เหรอครับ ผมมองไม่เห็นเมื่อกี้ขอโทษด้วยนะครับ”

ทีนี้ก็เกร็งกันไปหมด คนไหว้ก็เกร็ง คนรับไหว้ก็เกร็ง แต่มะเหมียวกลับยิ้มกรุ้มกริ่ม

ชอบอกชอบใจใหญ่เลยนะแม่ตัวแสบ

“ไม่ต้องเกรงใจๆ เดี๋ยวก็จะไปแล้วล่ะ”

“แล้วเมื่อกี้ผมใช้ท่านประธานถ่ายรูป...”

“ไม่หรอก ผมถ่ายให้ว่าที่คู่หมั้นน่ะ”

“แค่กๆๆๆ”

คนที่แอบยิ้มอยู่คนเดียวถึงกับเกือบสำลักน้ำลายตัวเองตายคาที่ เขาพูดอะไรออกมารู้ตัวบ้างหรือเปล่า ว่าที่คู่หมั้นอะไรบ้าบอ เธอเพิ่งจะคุยเรื่องนั้นจบไปได้ไม่กี่วันยังไม่ได้คุยรายละเอียดอะไรกับผู้ใหญ่เลยด้วยซ้ำ

แล้วมาประกาศว่าเป็นว่าที่คู่หมั้นต่อหน้าเมนเธอได้ยังไง บ้าบอที่สุด

“หม่ามี๊เหมียว คือว่าที่คู่หมั้นท่านประธานเองเหรอครับ?”

อยู่กันมานาน เจอกันทุกงานจนนัททิวจำชื่อเธอในฐานะหม่ามี๊เหมียวไปแล้ว แต่จู่ๆ ดันมาบอกว่าเป็นว่าที่คู่หมั้นท่านประธานเสียอย่างนั้น

ศิลปินเหวอ เออาร์เหวอ แฟนคลับเหวอ แม้แต่มะเหมียวเองก็ทำตัวไม่ถูก

“เอ่อ...คือว่า” น้องพยายามพูดอะไรบางอย่าง แต่กลับถูกเขาดึงเข้าไปโอบไหล่ราวกับจะประกาศว่านี่คือของเขายังไงยังงั้น

ไอ้เฮีย ไม่ได้ว้อย!!

“ยังไงก็ตามสบายนะครับ ผมขอตัวก่อน”

“คะ..ครับท่านประธาน”

“เดี๋ยวค่ะ”

เขาไม่ฟังแต่โอบไหล่เธอออกมาจากที่นั่นเฉยเลย ท่ามกลางสายตาของทุกคนตอนนี้มะเหมียวแทบอยากมุดดินหนี

โอ๊ย หมดกันแล้วหม่ามี๊เหมียวของน้อง แล้วหลังจากนี้เธอจะแบกหน้าไปเจอน้องยังไง!!

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ไม่ยั่วได้ไหมคะ ท่านประธาน   ตอนจบ ท้ายที่สุดแล้ว

    ใครๆ ต่างก็บอกว่า เธอช่างโชคดีจังเลย เกิดมาไม่มีอะไรสักอย่าง ครอบครัวก็กลางๆ หน้าตาก็ไม่ได้ดีเด่อะไรมากมาย ขนาดถึงขั้นล้มละลายก็ยังมีครอบครัวว่าที่สามีเอ็นดูซัพพอร์ตเสมอ ล้มแต่ละครั้งเหมือนล้มลงบนฟูก จนถึงตอนนี้ไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่างแต่ก็ได้รับแต่สิ่งที่ดีที่สุดหากเป็นเมื่อก่อนเธอคงนอยจนซึมไปหลายวัน แต่พอเล่าให้ภาคินทร์ฟัง เขาก็บอกว่าทำไมต้องสน คนพวกนั้นมีดีแค่พูดเรื่องคนอื่นไปวันๆ ไม่เห็นว่าชีวิตพวกเขาจะดีกว่าเราตรงไหน ครอบครัวล้มละลายแล้วยังไง ต้องพึ่งพาครอบครัวสามีแล้วยังไง การมีคนที่พร้อมหนุนหลังเราไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นยังไงก็ดีกว่าตัวคนเดียวไม่ใช่หรือไงเพราะอย่างนั้น...เธอจึงปล่อยวางทุกอย่าง ปล่อยให้มันเป็นเรื่องของอนาคตแล้วเข้าพิธีแต่งงานโดยไม่สนใจอะไรอีกต่อไปต่อหน้าผู้คนมากมายที่มาร่วมยินดีในวันแห่งความสุขของหลานชายคนโตตระกูลคัลเลน ต่อหน้าเพลงบรรเลงที่ดังคลออยู่ตลอดเวลาเช่นเดียวกับหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ต่อหน้าดอกไม้ ผ้าประดับ เธอยังคงสั่นด้วยความตื่นเต้น ราวกับว่าทุกก้าวบนพรมสีขาวที่นำไปสู่แท่นพิธี คือจุดจบของความวุ่นวายทั้งหมดที่ชีวิตได้เจอมาชีวิตที่ตกหลุมรัก

  • ไม่ยั่วได้ไหมคะ ท่านประธาน   บทที่ 31 จุดจบของคนหักหลัง

    “ปล่อยกู กูบอกว่าให้ปล่อยกู!!”วัชระถูกจับกุมตัวในที่สุด เขาถูกตั้งข้อหาหนักทั้งทำร้ายร่างกาย ฉ้อโกง รวมไปถึงพยายามฆ่า ภาคินทร์ทำทุกอย่างแม้แต่การใช้อำนาจในทางมิชอบ ทำให้เขาไม่ได้รับการประกันตัว แต่คนอย่างวัชระมีหรือจะยอม ทุกครั้งที่มีคนเข้าเยี่ยมเขามักจะโวยวายขอประกันตัวสู้คดี แต่คงไม่คิดว่าทุกครั้งจะเป็นภาคินทร์ที่เข้ามาเขาไม่ยอมให้มะเหมียวหรือใครได้เจอผู้ชายคนนี้อย่างเด็ดขาด เรื่องบางเรื่อง คนของเขาช้ำใจแค่ครั้งเดียวก็พอแล้ว อย่ามาเสียใจกับอะไรเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกเลย อีกอย่างงานแต่งงานก็ใกล้เข้ามาแล้ว เขาไม่อยากให้มีอะไรมากระทบทั้งนั้นแต่เห็นคนในชุดนักโทษแล้วก็อดเวทนาไม่ได้ คนพวกนี้ทรยศครอบครัว หักหลังโดยคิดถึงแค่ผลประโยชน์ แค่ความพึงพอใจของตัวเอง สมควรแล้วที่จะต้องทรมานไปตลอดชีวิต“กูบอกว่าให้ปล่อยกูไง ไปเรียกทนายมาเดี๋ยวนี้ แล้วนี่ลูกเมียกูอยู่ไหน ทำไมไม่เห็นมีใครมาเยี่ยมเลย โธ่เว้ย!!!”วัชระทุบกระจกหนาตรงหน้าด้วยความหัวเสีย ระหว่างภาคินทร์และเขานอกจากกระจกหนาที่กั้นเอาไว้ยังมีตาข่ายเหล็กอีกชั้น ทั้งคนในห้องขังยังมีกุญแจมือสวมอยู่อีก อิสระที่หายไปในชั่วพริบตาเพียงเพราะความขาดการ

  • ไม่ยั่วได้ไหมคะ ท่านประธาน   บทที่ 30 ไม่มีวัน

    “กรี๊— อุ๊บ!”มะเหมียวเผลอหลุดกรี๊ดออกมาด้วยความตกใจ ในจังหวะที่เธอหันมาแล้วเจอว่ามีคนมายืนอยู่ข้างหลังโดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเขามาตั้งแต่เมื่อไร ทว่าเพียงแค่อ้าปากยังไม่ทันได้ส่งเสียง กลับถูกมือเย็นๆ อุดปากเอาไว้ก่อน“ชู่ว อย่าเสียงดัง นี่โรงพยาบาลนะ”คนตรงหน้ายกมือขึ้นแตะปากตัวเองพลางบอกให้เธอเงียบ ดวงตาที่เบิกโพลงเริ่มมีน้ำตาคลอเมื่อเห็นว่าคนที่อยู่ตรงนี้คือใครไอ้เฮียบ้า เขานี่เอง“ฮึก...” คนที่ทั้งกลัวทั้งตกใจเริ่มสะอึกสะอื้น น้ำตาไหลลงมาเป็นทางโดนใส่มือภาคินทร์ที่ปิดปากของเธออยู่ เขาตกใจรีบปล่อยเธอให้เป็นอิสระก่อนจะถามเสียงตื่น“เป็นอะไรครับ เฮียขอโทษที่เล่นอะไรไม่รู้เรื่อง ตกใจมากไหมมาโอ๋ๆ นะ”เขารั้งคนตัวเล็กเข้ามากอดจนทั้งตัวจมอก เสียงสะอื้นไม่มีท่าทีสงบลงง่ายๆ แต่เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแค่ยกมือขึ้นลูบหัวคนน้องเบาๆ แล้วพูดปลอบใจเท่านั้น“ไม่เป็นไรนะ ไม่เป็นไรแล้ว”“ฮึก...ฮือ...”ตกใจเรื่องที่เขาเล่นอะไรไม่รู้เรื่องก็เรื่องหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้เธอร้องไห้หนักกว่าเดิมคงไม่พ้นเรื่องที่คิดอยู่ก่อนหน้านี้ มันอึดอัดมากจริงๆ ยากจะหาที่ระบายในยามที่ทุกคนต่างก็กำลังเครียด ทำได้แค่ร้องไห

  • ไม่ยั่วได้ไหมคะ ท่านประธาน   บทที่ 29 ทำไมต้องทำขนาดนี้

    เมื่อวานเกิดเรื่องที่บริษัทนิดหน่อย เขาไม่คิดว่าจู่ๆ คนที่ไม่ควรจะอยู่ที่นั่นมากที่สุดกลับไปโผล่ที่บริษัทหน้าตาเฉยวัชระ พ่อของมะเหมียวเขาเป็นประธานบริษัทเล็กๆ ที่ทำด้านส่งออกบรรจุภัณฑ์พลาสติก เมื่อก่อนคุณย่าของเขาก็เคยร่วมหุ้นด้วยแต่พอเพื่อนรักอย่างคุณยายของมะเหมียวเสียท่านก็ขายหุ้นทิ้งและไม่ได้สนใจบริษัทนั้นอีก ภาคินทร์เพิ่งจะได้ข่าวว่าบริษัทขาดทุนหนักและกำลังจะล้มละลายแต่ไม่คิดว่ามันจะเร็วอย่างนี้“คือว่า...อา...แค่เห็นว่าเราสองครอบครัวกำลังจะเกี่ยวดองกัน”ร้อยวันพันปีคนอย่างวัชระไม่เคยคิดเข้ามาข้องเกี่ยวกับตระกูลคัลเลน อย่าว่าแต่เรื่องเกี่ยวดองกัน แม้แต่ช่วงเวลาเลวร้ายที่สุดที่ทางนี้ต้องเผชิญข่าวเสียหายก็ไม่เคยเห็นหัว มีแค่วันนั้นที่คุณย่าเชิญเขามาร่วมงานในฐานะแขกเลยได้พบกันมันทำให้เขารู้ว่าจริงๆ แล้วไม่ควรทำอย่างนั้นเลย คนพรรค์นี้ให้เกียรติไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรกับชีวิต ทั้งยังหาแต่เรื่องวุ่นวายมาให้“คุณอามีเรื่องอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่าครับ”คุยนานไปก็มีแต่จะเสียเวลา เขารีบตรงเข้าประเด็นพร้อมทั้งหยิบมือถือขึ้นมาเล่นไปพลาง เขาไม่ได้กำลังทำตัวเสียมารยาทแต่กำลังหาข่าวของบริษัทนั

  • ไม่ยั่วได้ไหมคะ ท่านประธาน   บทที่ 28 โดนจับได้

    ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้...วัชระนั่งทำแผลอยู่ในบ้านตัวเองด้วยความเจ็บใจ นึกถึงเรื่องที่บ้านหลังนั้นแล้วก็ได้แต่กัดฟันกรอด สองแม่ลูกนั่นมันกล้าดียังไงถึงทำกับเขาแบบนี้ ที่ผ่านมาลูกสาวของเขาเป็นเด็กดี ว่าง่าย ไม่เคยเถียงพ่อแม้สักคำเดียว ทั้งหมดนี่ต้องเป็นความผิดของแม่มันอย่างไม่ต้องสงสัย“แล้วเรื่องที่ให้ไปคุยเป็นยังไงบ้างคะ เนี่ย ถ้าเราไม่หาเงินไปจ่ายค่าปรับในเดือนหน้าเราจะล้มละลายกันจริงแล้วนะคะ”กานพลู ภรรยาใหม่ของวัชระว่าด้วยสีหน้าหงุดหงิด หลังช่วยกันประคับประคองบริษัทมาหลายปีแต่สุดท้ายก็ไปไม่รอด ติดหนี้หัวโตกำลังถูกฟ้องล้มละลาย โชคยังดีที่มีเงินสดติดตัวอยู่บ้างให้พอได้ซื้อข้าวกินไปวันๆ แต่เรื่องหนี้สินก็เป็นเรื่องที่เจ้าหล่อนคิดไม่ตกคิดแล้วก็อยากย้อนเวลากลับไปเมื่อ 18 ปีก่อน ตอนนั้นไม่น่าเห็นแก่เงินเป็นชู้กับผัวชาวบ้านจนมีลูกด้วยกัน วัชระในตอนนั้นทั้งหล่อทั้งรวย เป็นลูกเขยของตระกูลที่มีทรัพย์สินกว่าห้าร้อยล้าน ซ้ำตอนที่เผลอใจมีอะไรกันหลายครั้งจนตั้งท้อง เขายังบอกให้หล่อนเก็บเรื่องลูกไว้เป็นความลับ จะเลี้ยงดูปูเสื่อสองแม่ลูกอย่างดีไม่ให้ลำบากเรื่องมาโป๊ะแตกตอนที่ลูกสาวคนเล็กของเขาอ

  • ไม่ยั่วได้ไหมคะ ท่านประธาน   บทที่ 27 แค่บางที...

    พ่อออกไปแล้ว ทิ้งความเงียบหลังความวุ่นวายเอาไว้ที่เบื้องหลัง ยอมรับว่าเรื่องเมื่อกี้เธอตกใจมากๆ จนแทบสติแตก แต่พอเห็นว่าแม่ที่จิตใจไม่ปกติพยายามอย่างมากที่จะเข้มแข็งเพื่อต่อต้านพ่อเป็นครั้งแรก ลูกสาวอย่างเธอจึงต้องพยายามฮึบเพื่อไม่ให้แม่ต้องดิ่งมากไปกว่านี้เธอพาแม่ขึ้นมาบนห้องแล้ววานแม่บ้านมาทำความสะอาดเศษแก้วให้ ก่อนจะส่งแม่เข้านอนโดยไม่พูดหรือไม่ถามอะไรแม่สักคำแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าระหว่างเราสองแม่ลูกจะไม่มีอะไรค้างคาอยู่ในใจ“เหมียวลูก...”ก่อนจะล้มตัวลงนอนเป็นแม่ที่พูดขึ้นมาก่อน ฝ่ามือสั่นเทายกขึ้นมาลูบกรอบหน้าลูกสาวอย่างแผ่วเบา มองรอยตบที่ตอนนี้เริ่มจางลงไปบ้างแล้ว แต่ก็รับรู้ได้ว่าลูกคงเจ็บอยู่บ้าง“หนูเจ็บไหม แม่ขอโทษนะที่ปล่อยให้มันมาทำร้ายลูก”“ไม่เจ็บค่ะแม่ แม่ไม่ต้องห่วงหนูนะคะ สมัยเรียนหนูก็ตบกับเพื่อนบ่อยจะตาย แค่นี้ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”ถึงจะบอกอย่างนั้นแต่แรงตบเมื่อกี้ก็เริ่มทำพิษแล้วเช่นกัน เธอไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจมากไปกว่านี้ เรื่องแค่นี้เธอทนได้สบายมากอยู่แล้ว“แม่นอนพักนะคะ เรื่องวันนี้แม่ลืมมันไปซะ อย่าเก็บมาคิดอีก”“เหมียว แม่ถามจริงๆ นะลูก ถ้าเกิดว่าเฮียรู้เรื่องบ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status