พลอยนภัสตื่นมาด้วยอาการเมาค้าง ร่างกายนั้นก็ยังรู้สึกว่ายังมึนๆ อึนๆ อยู่ ส่วนหัวนั้นก็ยิ่งหนักอึ้งจนต้องสะบัดไปมาอยู่สองสามที ไม่คิดเลยว่าเมื่อคืนเธอจะเมาได้ขนสดนี้ ในขณะที่กำลังนั่งคิดทบทวนเรื่องเมื่อคืน จู่ๆ ภาพเหตุการณ์บางอย่างที่ได้เกิดขึ้นก็ผุดขึ้นมาในหัว พลอยนภัสกำลังพยายามนึกเรียบเรียงอยู่ว่าภาพทั้งหมดที่เกิดขึ้นนั้นคือภาพเหตุการณ์จริงหรือเป็นเพียงแค่ความฝันกันแน่
หญิงสาวนึกชั่งใจชั่งน้ำหนักเหตุการณ์อยู่นาน จึงได้ให้คำตอบตัวเองได้ว่ามันต้องเป็นเพียงแค่ความฝันแน่ๆ เพราะคนอย่างกลวัชรคงไม่มีทางมาทำอะไรกับเธอแบบนั้นได้ เขาออกจะเกลียดขี้หน้าเธอเสียด้วยซ้ำ เเละเธอยังจำได้ดี ว่าตั้งแต่ที่เธอสารภาพบอกความในใจกับเขาไป เมื่อ 6 ปีก่อน โอกาสที่เธอจะได้เห็นเขาหรืออยู่ใกล้ๆ เขาก็ไม่มีอีกเลย เมื่อก่อนก็ว่าเขาไม่ค่อยจะชอบเธอเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นนี้ที่เขาทั้งหลบหน้าและไม่ยอมมาเจอะเจอเธออีกจนกระทั่งเขาย้ายไปอยู่อเมริกา
จะว่าไปที่เธอฝันแบบนั้นได้ มันคงเป็นเพราะว่าจิตใต้สำนึกของเธอแน่ๆ คงเป็นเพราะว่าเธอดีใจที่ได้เจอเขาอีกครั้ง เธอชอบเขา เเละเธอก็คิดถึงเขา จึงทำให้สมองประมวลผลออกมาในรูปแบบของความฝัน คิดไปแล้วก็ได้แต่หน้าแดงว่าทำไมเธอถึงได้ฝันเรื่องน่าอายแบบนี้ นี่ถ้าเขารู้เข้า เธอคงไม่รู้ว่าจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
แต่ลึกๆ จะว่าไปแล้ว ตัวเธอเองก็แอบรู้สึกดีที่ได้ฝันถึงเขาแบบนั้น เพราะฝันแบบนี้ไม่ได้เกิดขึ้นมาบ่อยๆ เเล้วในชีวิตจริง เธอคงไม่มีโอกาสที่จะได้ทำแบบนั้น เพราะตัวเขาเองคงไม่มีทางที่จะหันมาสนใจเธอ เธอบอกตัวเองพลางยิ้มออกมาด้วยหัวใจชื้นฟู สำหรับเธอแล้วแค่ได้ฝันถึงเขาแบบนี้ก็ถือว่ามีความสุขแล้ว
กลวัชร..หลังจากเมื่อคืนที่เขาเรียกสติกลับมาได้ เขารีบผละออกจากเธอโดยไว จัดแจงเสื้อผ้าเธอให้เข้าที่ แล้วก็รีบแจ้นกลับออกมาจากบ้านเธอด้วยความรู้สึกผิดที่ติดค้างในใจ ว่าถ้าเขาทำอะไรเธอลงไปคงไม่พ้นโดนบิดามารดาสั่งให้เขาต้องมารับผิดชอบเธอแน่ๆ
เขาไม่พร้อมและไม่เคยมีความคิดใดๆ เกี่ยวกับการแต่งงานหรือการสร้างครอบครัวเลย เขาหมดศรัทธาเกี่ยวกับความรักไปแล้ว อีกอย่างที่เขารับไม่ได้เลย คือ ยัยเด็กแก่แดดในวันนั้นคงต้องหัวเราะเยาะเขาแน่ว่าในที่สุดเขาก็ตกเป็นของเธอ หรือต้องพ่ายแพ้ให้กับเธอ ทั้งๆ ที่เขาเป็นฝ่ายวิ่งหนี พยายามอยู่ให้ไกลจากเธอมาตลอด จนตอนนี้ตัวเขาเองนึกหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่ในใจ...
"คุณแม่ว่ากริ้งให้พลอยไปเป็นเลขาช่วยงานตาเก้าดีหรือเปล่าคะ สองปีที่ผ่านมานี้กริ้งให้คุณนฤมลเทรนด์ยัยพลอยให้มาเพื่องานนี้โดยเฉพาะเลยค่ะ"ชานิดาหันไปปรึกษามารดาระหว่างที่ช่วยมารดานั่งแกะสลักผลไม้อยู่ในสวนหลังบ้าน
คุณสุนันทาเป็นคนใจเย็น ท่านชอบเรื่องงานบ้านงานเรือนมาตั้งแต่สมัยสาวๆ พอแต่งงาน สามีก็ให้เธออยู่เป็นแม่ศรีบ้านศรีเรือนดูแลลูกๆ พอมีเวลาว่างเธอจึงสามารถทำในสิ่งที่รักที่ชอบได้
"แม่ว่าก็ดีนะลูก น้องก็จบด้านนี้มาโดยเฉพาะ เวลาตาเก้ามีปัญหาอะไรจะได้ปรึกษาแล้วช่วยกันแก้ไขได้"
"จริงด้วยค่ะกริ้งก็คิดว่าอย่างงั้น แล้วนี่พ่อตัวดียังไม่ตื่นอีกหรอคะเนี่ย กลับมาตั้งแต่เมื่อวานกริ้งยังไม่เจอหน้าน้องเลย"
"สงสัยจะยังคงปรับเวลาไม่ได้น่ะ" พูดไปคุณสุนันทาก็หันไปจัดการกับกองผลไม้ตรงไม้เพื่อเตรียมนำไปแปรรูป ทั้งแช่อิ่ม กวน เชื่อม ตามแบบที่ตนเองชอบทำ เสร็จแล้วยังคอยแบ่งแจกจ่ายให้ทั้งคนสวนคนงาน ทั้งเพื่อนบ้าน ฝากญาติๆ หรือบางทีก็จะนำไปทำบุญบ้างตามโอกาส
"ได้ยินแว่วๆ ว่าใครเรียกชื่อผมครับ" กลวัชรแอบเดินเข้ามาเงียบๆ อยู่ข้างหลังสองสาว
"มาแล้วหรอพ่อตัวดี กลับมาตั้งแต่เมื่อวานพึ่งจะโผล่มาให้เห็นหน้า" ชานิดาพูดพร้อมกับทำหน้างอนๆ น้องชาย
"แหมก็คุณพี่สาวพึ่งกลับจากไปดูงานที่ต่างจังหวัดมาไม่ใช่เหรอครับ เเล้วพี่กริ้งจะเจอผมได้ไง อยู่ดีๆ ก็จะมาโยนความผิดให้น้องสะงั้น" พูดจบก็สวมกอดพี่สาวจากทางด้านหลังแล้วหอมแก้มลงไปฟอดใหญ่ คุณสุนันทาก็พลอยยิ้มมีความสุขไปด้วย ที่เห็นพี่น้องรักกัน
"แล้วนี่คุณพ่อไปไหนล่ะครับ"
"ขานั้นน่ะเคยอยู่บ้านซะที่ไหน ตั้งแต่พี่สาวเราดูแลทุกอย่างในบริษัทได้ ก็ค่ำงวดอยู่กับการตีกอล์ฟท่าเดียว สงสัยคงกะว่าจะตีจนให้ได้แชมป์โลกเลยล่ะมั้ง" พูดไปคุณสุนันทาก็อดที่จะกระแนะกระแหนสามีตัวเองไม่ได้ทำลูกๆ ทั้งสองไม่อดที่จะขำออกมา
"เก้า พี่ตกลงกับคุณแม่แล้วนะว่าจะให้พลอยไปเป็นเลขาให้เรา"
"อะไรนะครับ ทำไมต้องเป็นน้องสาวพี่กริ้งด้วยล่ะครับ ผมว่าเดี๋ยวผมหาเลขาเองดีกว่าจะได้ไม่ต้องลำบากพี่กริ้งกับคุณแม่" กลวัชรรีบปฏิเสธทันควันและไม่ค่อยจะเห็นด้วยเท่าไหร่ เขาไม่อยากอยู่ใกล้เธอ จะด้วยเหตุผลตั้งแต่ในอดีตหรือเหตุผลในตอนนี้ก็ตาม
"ก็เพราะว่าพลอยถูกเทรนด์มาเพื่องานนี้โดยเฉพาะยังไงล่ะ สองปีมานี่พี่ก็ให้พลอยฝึกงานกับคุณนฤมลเลขาพี่มาตลอด จนตอนนี้พี่ดูแล้วพลอยเป็นเลขาให้เก้าได้สบายเลยแหละ" กลวัชรนิ่งเงียบไปสักพักขณะที่ใช้ความคิด ดูท่าทางถ้าชานิดาตั้งใจมาขนาดนี้แล้วเขาคงต้องเออออตามน้ำไปก่อน
"งั้นเอาแบบนี้ก็แล้วกัน ผมจะให้เวลาน้องสาวพี่กริ้งได้พิสูจน์ตัวเอง 3 เดือน ถ้าเกิดว่าน้องสาวพี่กริ้งทำงานไม่ถูกใจผม ผมมีสิทธิ์ที่จะเปลี่ยนเลขาใหม่ทันทีโอเคมั้ยครับ" ชายหนุ่มเสนอข้อต่อรอง เพราะรู้อยู่แล้วว่าคงไม่มีทางขัดเจตนาพี่สาวได้
"แม่ว่าเก้าก็คงไม่ใจร้ายกับน้องขนาดนั้นหรอกมั้งลูก แม่เห็นน้องก็ดูตั้งใจทำงานดี ทั้งขยันทั้งเก่งและฉลาดเลยล่ะ" คุณสุนันทาช่วยพูดเสริมทัพสนับสนุนความคิดลูกสาวอีกคราว
"ก็อย่างที่ผมบอกไปไงครับ ถ้าคุณแม่กับพี่กริ้งเห็นว่าดี ผมก็ไม่มีปัญหา แต่อย่าลืมนะครับว่าถ้าเป็นเลขาผมแล้ว ผมสั่งอะไรก็ต้องทำ จะมาอิดออดไม่ได้นะครับ"
สองศรีแม่ลูกนั่งมองหน้ากันแล้วก็อดส่ายหัวไม่ได้ ทั้งคุณสุนันทาและชานิดา จนทุกวันนี้ก็ยังไม่ค่อยแน่ใจ ว่าเหตุผลที่แท้จริงที่กลวัชรไม่ค่อยอยากจะอยู่ใกล้พลอยนภัสนั้นเป็นเพราะอะไรกันแน่
ในที่สุดก็มาถึงวันนี้ หนึ่งเดือนเต็มๆที่กลวัชรและพลอยนภัสต่างใจจดจ่ออยู่กับการช่วยกันทั้งออกแบบและเตรียมงาน แม้ว่าคุณสุนันทานั้นบอกว่าจะหาฤกษ์ให้ได้เร็วที่สุดแต่ก็ยังต้องรอถึงหนึ่งเดือนงานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างอลังการใหญ่โตและหรูหรา เหล่าบรรดาเพื่อนๆทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวต่างพากันมาร่วมแสดงความยินดีกับทั้งสองฝ่ายอย่างคับคั่งงานพิธีในช่วงเช้าคู่บ่าวสาวเลือกที่จะใส่เป็นชุดไทยโบราณ ชุดเจ้าบ่าววันนี้อยู่ในชุดไทยราชปะแตนสีงาช้างคอตั้งสูงกระดุมแถวเดียวที่สวมใส่คู่กับโจงกระเบนสีหม่นเหลือบทองและใส่ถุงเท้าแบบยาว ทรงผมถูกแต่งเซ็ทให้เข้าทรงรับกับใบหน้าหล่อ ส่วนด้านเจ้าสาวสวมใส่ด้วยชุดไทยจักรพรรดิ ตัดเย็บด้วยผ้าไหมอย่างประณีต ห่มด้วยสไบปักเลื่อมลายดอกไม้สีเข้ากันกับฝ่ายเจ้าบ่าว ผมยาวสลวยถูกเกล้าเก็บขึ้นไปด้านบนก่อนจะปักด้วยปิ่นสีทองระย้าและแซมเอาไว้ด้วยช่อดอกไม้เล็กๆตามช่อผมสวยงาม"วันนี้เมียพี่สวยจัง สวยจน..."ในขณะที่พูดก็ไม่ได้พูดเปล่า ฝ่ามือใหญ่ยังคงแวะเวียนลงไปบีบที่สะโพกอวบอิ่มด้วย"พี่เก้าคะ เดี๋ยวก็จะต้องออกไปแล้วนะคะ ยังจะมาทะลึ่งอีก""ก็วันนี้ที่รักสวยมากเป็นพิเศษนี่ พี่เห็นแล้
"พี่อยากอธิบายเรื่องเมื่อคืน" พลอยนภัสเงยหน้าขึ้นมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาที่เวลานี้ขยัยเข้ามาใกล้ กลวัชรเอื้อมมือไปจับมือเธอขึ้นมากุมไว้"เรื่องที่พลอยได้ยิน จริงๆแล้วพี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ที่พี่พูดไปก็แค่อยอยากให้ธาวินมันล้มเลิกความตั้งใจที่จะอยากจีบพลอย แต่เมื่อคืนเป็นวันเกิดมันพี่ก็เลยไม่อยากทำร้ายจิตใจมัน เพราะถ้าพี่บอกความจริงระหว่างเราไปว่าพลอยเป็นอะไรกับพี่ พี่กลัวว่ามันจะเสียใจ เห็นมันยิ่งคลั่งรักพลอยอยู่ พี่ก็เลยเลือกที่จะใช้วิธีนั้นแทน ใครจะคิดว่าอยู่ดีๆพลอยจะไปเดินเล่นอะไรแถวนั้นได้" กลวัชรอธิบายเสียยืดยาวเพียงเพื่อหวังว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะได้เข้าใจเขามากขี้น"พี่พูดจริงๆ พลอยเชื่อพี่หรือเปล่า" เขาจับมือเธอแน่นขึ้น สายตาจ้องมองเธออย่างแน่วแน่เพื่อจะสื่อให้รู้ถึงความจริงใจที่มี"พลอยกลัวว่าพี่เก้าจะแค่อยากหลอกอยากแกล้งพลอย แค่อยากทำให้พลอยเสียใจ" "ตั้งแต่พี่กลับมาแล้วเราอยู่ด้วยกันตลอด พลอยเคยรู้สึกว่าพี่อยากทำแบบนั้นหรอ""ก็มีนะคะ ช่วงแรกๆเห็นแกล้งหาเรื่องพลอยทุกวัน"หื้ออ กลวัชรถึงกับต้องร้องหือออกมาเมื่อพลอยนภัสนั้นตอบกลับไปตรงๆ"โอเคๆก็อันนั้นมันก็อาจช่วงแรกๆไง ใคร
เมื่อคืนทั้งคืนหลังจากที่ไปรับพลอยนภัสมา หญิงสาวก็เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทาง เธอไม่ได้ปริปากบอกหรือพูดอะไร บอกเพียงแค่ว่ามีเรื่องไม่สบายใจเท่านั้น เขาขับรถพาเธอไปจอดอยู่ที่บริเวณริมชายหาด พลอยนภัสเดินลงจากรถก่อนจะขอไปเดินเล่นแบบเงียบๆที่ริมชายหาด จากนั้นเธ จึงกลับขึ้นรถมา ตลอดทั้งคืนเขานั่งเฝ้าดูเธอหลับจนกระทั่งตัวเขาเองก็หลับไป พอเช้ามาจึงได้มาส่งเธอที่บ้าน แต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับความจริงอะไรที่เขาไม่อยากเจอแบบนี้"ฟาน พลอยขอโทษนะที่พามาเจออะไรแบบนี้ตั้งแต่เช้า" พลอยนภัสหันกลับไปหาเพื่อนชายคนสนิทที่เวลานี้ดูจะเสียใจมาก"จริงหรือเปล่าพลอยที่เขาพูดมา เรื่องระหว่างพลอยกับเขามันจริงหรือเปล่า" สเตฟานเอ่ยถามเสียงอ่อน เขาก็ไม่ได้อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอมากนักแต่ก็อยากให้ตัวเองกระจ่าง"เอาไว้วันหลังพลอยจะอธิบายให้ฟานฟังนะ แต่ตอนนี้ฟานกลับไปก่อนได้หรือเปล่า ขอบคุณมากๆที่อุตส่าห์ไปรับพลอยเมื่อคืน" พลอยนภัสหันไปพูดกับเพื่อนชายคนสนิทด้วยสีหน้าและแววตาที่ลำบากใจ เธอคิดว่าเธอเข้าใจความรู้สึกของสเตฟานดีและไม่ได้อยากให้เขาต้องมารับรู้และเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักนิดในขณะที่สเตฟานยอ
ธาวินยังคงตกใจอึ้งไม่หายเมื่อได้ยินคำตอบของกลวัชร 'พลอยเป็นเมียกู' นี่เขาพลาดอะไรไปตรงไหน ทั้งๆที่เขาพยายามที่จะจีบพลอยนภัสมาตลอด แต่อยู่ดีๆไอ้เพื่อนตัวดีก็ดันมาบอกว่าผู้หญิงที่เขาหมายปองนั้นเป็นเมียมัน"แล้วมึงก็ปล่อยให้กูจีบเมียมึงอยู่ได้ตั้งนานเนี่ยนะ ไอ้บ้าเอ้ย"ธาวินนึกอยากจะตีอกชกชกกำแพงให้มันพังๆไปเลย"กูขอโทษที่ไม่ได้บอกก็เพราะเห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิดมึง ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศว่ะ" กลวัชรยืนเท้าสะเอวหน้ายุ่ง พยายามอยากจะอธิบายให้เพื่อนฟังด้วย"ไอ้เก้ามึงนี่เร็วตัดหน้ากูตลอดตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะ นี่ถ้าเป็นเพื่อนนคนอื่นคงเลิกคบกับมึงไปนานแล้ว""แล้วมึงเป็นอะไรวะถึงได้คอยมาชอบผู้หญิงคนเดียวกันกับกูอยู่ได้" เออนั่นดิ ธาวินก็ยังคิดว่าทำไมเขากับกลวัชรถึงได้คอยแต่จะชอบผู้หญิงคนเดียวกัน เป็นมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว นึกแล้วก็ยังแปลกใจ"แล้วไอ้ที่พูดกล่อมกูเป็นวรรคเป็นเวรเสียตั้งนานในออฟฟิศคืออะไรวะ อย่าบอกนะว่ากันซีน" "อือ""แต่กันซีนไม่ให้กูจีบเมียตัวเองใช่มั้ย ไม่ใช่กันซีนไม่ให้จีบน้อง" ธาวินยังคงถามย้ำ"อือ ตามนั้นแหละ"หลังจากที่ธาวินเข้าไปเจอกลวัชรและพลอยนภัสที่ตรงบันไ
"ถ้างั้นกูขอแนะนำ นี่น้องพลอย ว่าที่แม่ของลูกกูในอนาคต น้องพลอยครับส่วนนั่นไอ้เก้าเพื่อนพี่แล้วก็เป็นหุ้นส่วนของร้านนี้กับพี่ครับ" ธาวินเอ่ยออกมาหวังว่าจะให้ทั้งสองไอ้รู้จักกันแต่แล้วคำตอบของกลวัชรก็ทำให้ธาวินและข้าวฟ่างนั้นตกใจกลับมากกว่า"รู้จักละ นั่นเลขากูเอง" กลวัชรตอบกลับทันที ทำเอาสองศรีพี่น้องต่างร้อง ห๊าา ออกมาพร้อมกันโดยไม่ต้องนัดหมาย"อืม ไม่ต้องตกใจหรอก แล้วบ้านก็ยังอยู่บ้านเดียวกันกับกูด้วย" กลวัชรพูดไปสายตาก็จ้องไปยังคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อประเมินสถานการณ์ หากแต่ก็ได้รับมาเพียงแค่ความว่างเปล่า"ถามจริง นี่ล้อกูเล่นป่ะเนี่ย" ธาวินยังคงไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองจนต้องหันไปถามพลอยนภัสอีกรอบ"ที่ไอ้เก้าพูดมานี่จริงหรือเปล่าครับน้องพลอย พี่งงไปหมดแล้ว" "ค่ะ ก็อย่างที่พี่เก้าพูดมานั่นแหละค่ะ คุณแม่พี่เก้าเป็นคนอุปถัมภ์เลี้ยงดูพลอยมาตั้งแต่เด็กๆหลังจากที่คุณลุงคุณป้าพลอยเสียน่ะค่ะ โลกกลมจังเลยนะคะ แถมพี่เก้ากับพี่ธาวินยังเป็นเพื่อนกันอีกต่างหาก" พลอยนภัสหันไปยิ้มเจื่อนๆให้กับธาวิน ส่วนกลวัชรนั้นเธอเพียงแค่เหลือบมองแค่หางตา"ถ้าอย่างนั้นน้องพลอยกับไอ้เก้าก็คงจะเป็นเหมือนพี่เห
พลอยนภัสค่อยๆเดินตามเสียงนั้นไป ไม่ได้ต้องการที่จะเสียมารยาท แต่แค่อยากจะไปดูให้เห็นกับตาเพื่อความแน่ใจเท่านั้น ประตูของห้องไม่ได้ถูกปิด แสงไฟภายในสาดส่องออกมาจนถึงทางเดิน หญิงสาวค่อยๆเดินไปอย่างเงียบๆจนไปหยุดอยู่ตรงมุมประตูของห้องนั้นที่เปิดเพียงแค่แง้มๆเอาไว้แต่ก็สามารถที่จะมองเห็นได้ถึงใครที่นั่งอยู่ในนั้นใช่...ใช่เขาจริงๆด้วย กลวัชรกับธาวินกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะทำงานอย่างสนุกสนานโดยไม่ทันได้สังเกตุว่ามีเธอยืนอยู่ตรงนี้ ทุกๆถ้อยคำที่กลวัชรพูดมันออกมาพลอยนภัสได้ยินมันหมดทุกถ้อยทุกคำ "สาวที่ไหน ไม่มี๊....(เสียงสูง) กูก็ไปเรื่อยๆ มึงก็รู้อยู่เหมือนสมัยก่อนนั่นแหละ วันๆทำแต่งานจะเอาเวลาที่ไหนไปหา นอกเสียจากว่ามีมาให้กินถึงที่เอง ฮ่าๆ""ฮ่าๆ มึงลืมไปหรือเปล่าวะว่านี่ใคร 'เก้าฟันดะ' นะเว้ย ฉายานี้ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย จนตอนนี้ก็ยังใช้ได้อยู่ ถ้าไม่แน่จริงคงไม่อยู่มาจนถึงวันนี้หรอก""กูว่ามึงอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลยว่ะ จะมีไปทำไมวะฟงแฟน สู้อยู่โสดๆคนเดียวเฟี้ยวกว่าเยอะ อยากฟัดกับใครตอนไหนก็ได้ เลิกคิดเสียเถอะพงพลอยอะไรนั่นน่ะ""ไม่ได้!!ไม่ใช่หรอก กูว่ายัยนั่นไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย หน้า