ภายในงาน...
หลังจากที่จัดการเหล่าบาร์บีคิวกับจุ๊บแจงเสร็จแล้ว พลอยนภัสจึงได้โอกาสเดินเข้าไปหาคุณโชติ พร้อมของขวัญที่เธอเตรียมไว้ให้ท่าน
"สุขสันต์วันเกิดค่ะคุณลุง"
"อ้าวพลอย หายไปไหนมาลูก ลุงกับป้าก็มองหาอยู่"
"นั่นสิ พี่ก็ว่าจะโทรตาม แต่เห็นตาเก้าบอกว่าเราแอบไปนั่งกินบาร์บีคิวกันอยู่สองคนกับจุ๊บแจงทางโน้น น่าตีนักไม่ชวนกันเลย"
"แหะๆ พอดีพลอยหิวน่ะค่ะพี่กริ้ง เลยชวนจุ๊บแจงไปแอบกินกัน นี่ของขวัญที่พลอยตั้งใจเก็บเงินซื้อให้คุณลุงค่ะ หวังว่าคุณลุงคงจะชอบ ขอให้คุณลุงสุขภาพแข็งแรง อยู่เป็นร่มโพธิ์ร่มไทรให้กับพวกเราไปนานๆ นะคะ"
พูดจบก็เข้าไปกอดประมุขของบ้าน ซึ่งเป็นทั้งผู้มีพระคุณและยังเปรียบเสมือนญาติแท้ๆ อีกคน ที่คอยอุปการะเลี้ยงดูเธออย่างดีมาตลอด
"ขอบใจมากๆ นะลูก ทีหลังไม่ต้องลำบากเก็บเงินมาซื้ออะไรให้ลุงหรอก พลอยเก็บไว้ใช้จ่ายส่วนตัวเถอะ"
"พลอยเต็มใจค่ะ พลอยอยากตอบแทนพระคุณที่คุณลุงกับคุณป้าเมตตาพลอย"
"ถ้าพลอยอยากตอบแทนลุงกับป้า ก็แค่ตั้งใจทำงาน ช่วยพี่ๆ เขาดูแลกิจการของครอบครัวเราเท่านี้ลุงกับป้าก็พอใจแล้วล่ะลูก" คุณสุนันทากล่าวเสริมท้าย ก่อนจะเข้ามากอดพลอยนภัสด้วยอีกคน
"พลอยขอบคุณคุณลุงกับคุณป้านะคะ"
พลอยนภัสเข้าไปโอบกอดคุณสุนันทาอีกครั้ง เธอรู้สึกซาบซึ้งจริงๆ ที่ได้มาอาศัยอยู่ใต้ร่มโพธิ์ร่มไทรนี้ ทุกคนในบ้านหลังนี้ต่างทั้งรักและเมตตาเธอ จะมีก็แต่คนคนเดียวเท่านั้น ที่ยังทำให้เธอให้ไม่สามารถที่จะอยู่บ้านนี้ได้อย่างสนิทใจจริงๆ
"อ้าวคุณจารุวรรณ ช่างเป็นเกียรติจริงๆ เลยครับที่อุตส่าห์มา"คุณโชติกล่าวเอ่ยขี้น ขณะที่พลอยนภัสยังกอดคุณสุนันทาอยู่ เธอจึงได้หันกลับมา
"เป็นเกียรติอะไรกันล่ะคะคุณโชติก็ กำลังจะร่วมหุ้นกันอยู่แล้วเชียวค่ะ คนกันเองทั้งนั้น สุขสันต์วันเกิดนะคะ วันนี้วรรณพาหลานชายมาเปิดหูเปิดตาด้วย พึ่งย้ายกลับมาจากอังกฤษน่ะค่ะ พ่อเขากะว่าให้มาดูแลโปรเจ็คนี้เต็มๆ ไรอันสวัสดีคุณลุงสิลูก"
"สวัสดีครับคุณลุง Happy birthday ครับ"
"อ้าวคุณ" พลอยนภัสทักขึ้นทันทีที่เห็นหน้าว่าเป็นใคร
"ครับคุณพลอย"
"อ้าวนี่คุณพูดไทยได้เหรอคะ"
"นิดหน่อยครับ"
"อ้าวนี่เคยเจอกันแล้วเหรอไรอัน" คุณจารุวรรณเอ่ยถามหลานชายขึ้นมาอีกคน
"นั่นสิลูก เคยเจอกันแล้วเหรอลุงไม่ยักรู้"
"ใช่ครับ สัปดาห์ที่แล้วคุณพ่อให้ผมไปเซ็นสัญญาตกลงข้อเสนอร่วมกันที่บริษัทแทน เลยได้เจอทุกคนครับ สวัสดีนะครับคุณชานิดา"
"แหมพูดไทยได้ก็ไม่บอกนะคะ เห็นหน้าฝรั่งเชียว" ชานิดาเอ่ยขึ้น
"อ๋อ ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง จริงๆ น้าก็คอยสอนเขาพูดอยู่ตลอดน่ะหนูกริ้ง อยากให้พูดไทยได้ ยายเป็นไทยแท้ ถ้าหลานโตมาพูดไม่ได้เลยก็คงจะแย่อ่ะนะ ตาก็ฝรั่ง แม่เขาก็ลูกครึ่ง พ่อก็ยังเป็นฝรั่งอีก นี่น้าคนเดียวสู้กับเขาสามคนแน่ะ ดีนะที่แม่เขายังพูดไทยกับลูกอยู่บ้าง ไรอันเลยพูดได้" คุณจารุวรรณเอ่ยตบท้าย
"คุณจารุวรรณเลี้ยงหลานได้เก่งจริงๆ เลยนะคะ"คุณสุนันทาเอ่ยพี่ชมอย่างจริงใจ
"ตาไรอันก็เป็นเด็กที่ว่านอนสอนง่ายด้วยล่ะค่ะคุณพี่สุ ยายพูดอะไรสอนอะไรแกก็ทำตามหมด มีหลานอยู่คนเดียวยังว่านอนสอนง่ายอีก ชื่นใจยายจริงๆ ค่ะ พูดเยอะไปเดี๋ยวก็จะหาว่าชมหลานนะคะ เดี๋ยวคุณพี่สุกับคุณโชติมีเองก็จะรู้ค่ะ"
ว่าแล้วทุกคนก็ต่างหัวเราะชอบใจถึงหัวข้อสนทนา คุณสุนันทาเองก็ใช่ว่าไม่อยากจะมีเสียเมื่อไหร่ ขยั้นขยอทั้งชานิดาและกลวัชรแต่ก็ยังไม่เห็นว่าจะมีทีท่าว่าจะได้หลานมาให้ชื่นใจในเร็ววันนี้ได้เลยสักคน
"งั้นเชิญๆ คุณจารุวรรณกับไรอันในงานได้เลยครับ พลอยช่วยพาคุณจารุวรรณกับไรอันไปทีนะลูก"
"ค่ะคุณลุง"
เชิญคุณจารุวรรณกับคุณไรอันนั่งโต๊ะนี้เลยนะคะ ส่วนอาหารก็มีทั้งเป็นซุ้มทางด้านโน้นกับหรือจะเป็นแบบว่าบริการตัวเองอีกฝั่งหนึ่งก็มีนะคะ
"ไรอันอยากทานอะไรล่ะลูก รู้จักอาหารไทยหรือเปล่า มีหลายอย่างนะ ไม่ใช่ยายไปหาแต่ละทีก็ร้องจะกินแต่ข้าวผัด"
"งั้นถ้าวันนี้...ผมจะขอรบกวนคุณพลอยเป็นไกด์เรื่องอาหารให้ผมหน่อยจะได้ไหมครับ ผมโตมาจากที่โน่น ปกติทานแต่พวกขนมปังเป็นอาหารหลัก เลยไม่ค่อยรู้จักอาหารไทย"
"อ๋อได้สิคะ ยินดีเลยค่ะ งั้นวันนี้คุณไรอันเชื่อใจพลอยได้เลยค่ะรับรองว่าอร่อยทุกอย่างค่ะ" พลอยนภัสพูดพร้อมจีบมือมาปิดไว้ที่ริมฝีปากแถมกระพริบตาด้วยหนึ่งที ซึ่งดูแล้วช่างน่ารักสดใสในสายตาของไรอัน
"โอเคครับ"
"น้าฝากตาไรอันด้วยหนูพลอย ตาไรอันพึ่งกลับมายังไม่รู้อะไรเกี่ยวเมืองไทยอีกเยอะน่ะจ๊ะ"
"สบายมากๆ ค่ะคุณจารุวรรณ เดี๋ยวคุณจารุวรรณนั่งรอที่นี่นะคะ พลอยกับคุณไรอันจะไปหาของอร่อยๆ มาฝากค่ะ"
"ได้ๆ ลูก หนูพลอยนี่น่ารักจริงๆ รู้ใจคนแก่ด้วยว่าเดินเยอะก็จะมีแต่เมื่อยขาน่ะลูกเอ้ย"
"เดี๋ยวผมมานะครับยาย"
"ไปๆ ลูก"
คุณจารุวรรณนั่งมองสองหนุ่มสาวที่พากันเดินออกไปก็ได้แต่ยิ้ม นี่ถ้าทายไม่ผิดเจ้าหลานชายของเธอคงจะหลงเสน่ห์แม่สาวไทยหน้าหวานคนนี้เข้าให้แล้วแหงๆ เพราะปกติเห็นมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้าหา แต่พ่อหลานตัวดีก็ไม่เห็นมีทีท่าว่าจะสนใจใคร แต่กับคนนี้ถึงกับเอ่ยปากขอให้หญิงสาวเป็นไกด์คืนนี้นางคงเดาไม่ผิดแน่ ขนาดตัวเธอเองพึ่งเห็นพลอยนภัสเมื่อกี้ ยังอดถูกใจไม่ได้เลย เห็นทีแบบนี้คงต้องเรียบเรียงเคียงถามผู้ใหญ่ของบ้านนี้ดูซะหน่อยว่าหญิงสาวที่หลายชายถูกใจนั้น มีใครจับจองเป็นเจ้าของหรือยัง
"คุณจารุวรรณ ทำไมนั่งอยู่คนเดียวล่ะคะ เด็กๆ ไปไหนกันหมด"
"อ๋อ ตาไรอันขอให้หนูพลอยไปเป็นไกด์ให้อยู่ทางโน้นน่ะค่ะ บอกว่ายังไม่รู้จักอาหารไทย ปกติตอนวรรณไปเยี่ยมตาไรอันก็ร้องจะกินแต่ข้าวผัดน่ะค่ะ"
"หลานคุณจารุวรรณน่ารักจังเลยนะคะ แบบนี้สาวๆ คงมีมาให้เลือกไม่ขาดสาย"
"ไอ้มีก็มีอยู่หรอกค่ะ แต่ตาไรอันจะเลือกหรือเปล่าน่ะสิคะ จะว่าไปคุณพี่สุพูดเรื่องนี้พอดีเลย วรรณอยากจะขอถามอะไรสักนิดนึงน่ะค่ะ"
"คุณจารุวรรณมีอะไรหรือคะ... อ้าวตาเก้า หนูลิตามานี่สิลูก มาไหว้คุณจารุวรรณก่อนเร็ว เก้าจำคุณจารุวรรณได้ใช่มั้ยลูก ครั้งที่แล้วที่ไปคุยกับคุณปีเตอร์เรื่องสัญญาร่วมหุ้น คุณจารุวรรณก็น่าจะอยู่ใช่มั้ยคะ"
"ใช่แล้วค่ะคุณพี่ ตาเก้านี่ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นจริงๆ นะคะ ไฟแรงเหมือนคุณโชติไม่มีผิดเลยค่ะ"
"สวัสดีครับคุณจารุวรรณ ส่วนนี่ลลิตาครับ เพื่อนผมตอนเรียนที่อเมริกาด้วยกันครับ คุณจารุวรรณสบายดีนะครับ"
"สวัสดีจ๊ะ เด็กๆ น้าเองก็เรื่อยๆ ช่วงนี้ตามประสาคนแก่น่ะลูกเอ้ย อีกสองสามปีก็จะตามคุณพ่อคุณแม่ของเก้าทันแล้วล่ะ มาๆ นั่งด้วยกันสิลูกถ้าไม่รังเกียจเบื่อฟังคนแก่พูดล่ะก็"
"ใครจะไปกล้ารังเกียจท่านประธานที่ปรึกษาอาวุโสของ WK ล่ะครับ นั่นเท่ากับว่าผมหักแขนขาของตัวเองเชียวนะครับ"
"ตาเก้านี่ก็ช่างพูดช่างเอาใจจริงๆ เชียว ใช่มั้ยจ๊ะหนูลิตา"
"ใช่ค่ะคุณจารุวรรณ เก้าเขาช่างเอาใจน่ะค่ะ"
"ถึงว่าหนูลิตาไม่ยอมปล่อยแขนเชียว"
ขณะที่คุณสุนันทากับคุณจารุวรรณพูดแซวจนลลิตาเขินว่าเธอกับกลวัชรก็ดูเป็นอีกคู่ที่ดูเหมาะสมกัน แต่วินาทีนั้นสายตาของกลวัชรกลับจดจ้องไปยังคู่หนุ่มสาวที่เดินช่วยกันเลือกอาหารอยู่อีกทางไม่ไกลออกไป แน่นอนเขาจำได้ดีว่าผู้หญิงในชุดสีครีมรัดรูปคว้านหลังคนนั้นเป็นใคร แต่กลับผู้ชายอีกคนที่ยืนหันหลังอยู่ใกล้ๆ พลอยนภัสนั้นเขายังไม่เห็นหน้า แถมทั้งคู่ยังดูพูดคุยกันสนิทสนม สังเกตุได้จากพลอยนภัสที่คอยหันมายิ้มและหัวเราะอยู่ไม่ขาด
"เอ่อ เมื่อตะกี้คุณจารุวรรณว่าจะถามอะไรนะคะ ลืมไปสนิทเลยค่ะ"
ในที่สุดก็มาถึงวันนี้ หนึ่งเดือนเต็มๆที่กลวัชรและพลอยนภัสต่างใจจดจ่ออยู่กับการช่วยกันทั้งออกแบบและเตรียมงาน แม้ว่าคุณสุนันทานั้นบอกว่าจะหาฤกษ์ให้ได้เร็วที่สุดแต่ก็ยังต้องรอถึงหนึ่งเดือนงานแต่งงานถูกจัดขึ้นอย่างอลังการใหญ่โตและหรูหรา เหล่าบรรดาเพื่อนๆทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและฝ่ายเจ้าสาวต่างพากันมาร่วมแสดงความยินดีกับทั้งสองฝ่ายอย่างคับคั่งงานพิธีในช่วงเช้าคู่บ่าวสาวเลือกที่จะใส่เป็นชุดไทยโบราณ ชุดเจ้าบ่าววันนี้อยู่ในชุดไทยราชปะแตนสีงาช้างคอตั้งสูงกระดุมแถวเดียวที่สวมใส่คู่กับโจงกระเบนสีหม่นเหลือบทองและใส่ถุงเท้าแบบยาว ทรงผมถูกแต่งเซ็ทให้เข้าทรงรับกับใบหน้าหล่อ ส่วนด้านเจ้าสาวสวมใส่ด้วยชุดไทยจักรพรรดิ ตัดเย็บด้วยผ้าไหมอย่างประณีต ห่มด้วยสไบปักเลื่อมลายดอกไม้สีเข้ากันกับฝ่ายเจ้าบ่าว ผมยาวสลวยถูกเกล้าเก็บขึ้นไปด้านบนก่อนจะปักด้วยปิ่นสีทองระย้าและแซมเอาไว้ด้วยช่อดอกไม้เล็กๆตามช่อผมสวยงาม"วันนี้เมียพี่สวยจัง สวยจน..."ในขณะที่พูดก็ไม่ได้พูดเปล่า ฝ่ามือใหญ่ยังคงแวะเวียนลงไปบีบที่สะโพกอวบอิ่มด้วย"พี่เก้าคะ เดี๋ยวก็จะต้องออกไปแล้วนะคะ ยังจะมาทะลึ่งอีก""ก็วันนี้ที่รักสวยมากเป็นพิเศษนี่ พี่เห็นแล้
"พี่อยากอธิบายเรื่องเมื่อคืน" พลอยนภัสเงยหน้าขึ้นมองไปยังใบหน้าหล่อเหลาที่เวลานี้ขยัยเข้ามาใกล้ กลวัชรเอื้อมมือไปจับมือเธอขึ้นมากุมไว้"เรื่องที่พลอยได้ยิน จริงๆแล้วพี่ไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น ที่พี่พูดไปก็แค่อยอยากให้ธาวินมันล้มเลิกความตั้งใจที่จะอยากจีบพลอย แต่เมื่อคืนเป็นวันเกิดมันพี่ก็เลยไม่อยากทำร้ายจิตใจมัน เพราะถ้าพี่บอกความจริงระหว่างเราไปว่าพลอยเป็นอะไรกับพี่ พี่กลัวว่ามันจะเสียใจ เห็นมันยิ่งคลั่งรักพลอยอยู่ พี่ก็เลยเลือกที่จะใช้วิธีนั้นแทน ใครจะคิดว่าอยู่ดีๆพลอยจะไปเดินเล่นอะไรแถวนั้นได้" กลวัชรอธิบายเสียยืดยาวเพียงเพื่อหวังว่าคนตัวเล็กตรงหน้าจะได้เข้าใจเขามากขี้น"พี่พูดจริงๆ พลอยเชื่อพี่หรือเปล่า" เขาจับมือเธอแน่นขึ้น สายตาจ้องมองเธออย่างแน่วแน่เพื่อจะสื่อให้รู้ถึงความจริงใจที่มี"พลอยกลัวว่าพี่เก้าจะแค่อยากหลอกอยากแกล้งพลอย แค่อยากทำให้พลอยเสียใจ" "ตั้งแต่พี่กลับมาแล้วเราอยู่ด้วยกันตลอด พลอยเคยรู้สึกว่าพี่อยากทำแบบนั้นหรอ""ก็มีนะคะ ช่วงแรกๆเห็นแกล้งหาเรื่องพลอยทุกวัน"หื้ออ กลวัชรถึงกับต้องร้องหือออกมาเมื่อพลอยนภัสนั้นตอบกลับไปตรงๆ"โอเคๆก็อันนั้นมันก็อาจช่วงแรกๆไง ใคร
เมื่อคืนทั้งคืนหลังจากที่ไปรับพลอยนภัสมา หญิงสาวก็เอาแต่นั่งเงียบมาตลอดทาง เธอไม่ได้ปริปากบอกหรือพูดอะไร บอกเพียงแค่ว่ามีเรื่องไม่สบายใจเท่านั้น เขาขับรถพาเธอไปจอดอยู่ที่บริเวณริมชายหาด พลอยนภัสเดินลงจากรถก่อนจะขอไปเดินเล่นแบบเงียบๆที่ริมชายหาด จากนั้นเธ จึงกลับขึ้นรถมา ตลอดทั้งคืนเขานั่งเฝ้าดูเธอหลับจนกระทั่งตัวเขาเองก็หลับไป พอเช้ามาจึงได้มาส่งเธอที่บ้าน แต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาเจอกับความจริงอะไรที่เขาไม่อยากเจอแบบนี้"ฟาน พลอยขอโทษนะที่พามาเจออะไรแบบนี้ตั้งแต่เช้า" พลอยนภัสหันกลับไปหาเพื่อนชายคนสนิทที่เวลานี้ดูจะเสียใจมาก"จริงหรือเปล่าพลอยที่เขาพูดมา เรื่องระหว่างพลอยกับเขามันจริงหรือเปล่า" สเตฟานเอ่ยถามเสียงอ่อน เขาก็ไม่ได้อยากก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของเธอมากนักแต่ก็อยากให้ตัวเองกระจ่าง"เอาไว้วันหลังพลอยจะอธิบายให้ฟานฟังนะ แต่ตอนนี้ฟานกลับไปก่อนได้หรือเปล่า ขอบคุณมากๆที่อุตส่าห์ไปรับพลอยเมื่อคืน" พลอยนภัสหันไปพูดกับเพื่อนชายคนสนิทด้วยสีหน้าและแววตาที่ลำบากใจ เธอคิดว่าเธอเข้าใจความรู้สึกของสเตฟานดีและไม่ได้อยากให้เขาต้องมารับรู้และเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักนิดในขณะที่สเตฟานยอ
ธาวินยังคงตกใจอึ้งไม่หายเมื่อได้ยินคำตอบของกลวัชร 'พลอยเป็นเมียกู' นี่เขาพลาดอะไรไปตรงไหน ทั้งๆที่เขาพยายามที่จะจีบพลอยนภัสมาตลอด แต่อยู่ดีๆไอ้เพื่อนตัวดีก็ดันมาบอกว่าผู้หญิงที่เขาหมายปองนั้นเป็นเมียมัน"แล้วมึงก็ปล่อยให้กูจีบเมียมึงอยู่ได้ตั้งนานเนี่ยนะ ไอ้บ้าเอ้ย"ธาวินนึกอยากจะตีอกชกชกกำแพงให้มันพังๆไปเลย"กูขอโทษที่ไม่ได้บอกก็เพราะเห็นว่าวันนี้เป็นวันเกิดมึง ไม่อยากทำให้เสียบรรยากาศว่ะ" กลวัชรยืนเท้าสะเอวหน้ายุ่ง พยายามอยากจะอธิบายให้เพื่อนฟังด้วย"ไอ้เก้ามึงนี่เร็วตัดหน้ากูตลอดตั้งแต่สมัยเรียนแล้วนะ นี่ถ้าเป็นเพื่อนนคนอื่นคงเลิกคบกับมึงไปนานแล้ว""แล้วมึงเป็นอะไรวะถึงได้คอยมาชอบผู้หญิงคนเดียวกันกับกูอยู่ได้" เออนั่นดิ ธาวินก็ยังคิดว่าทำไมเขากับกลวัชรถึงได้คอยแต่จะชอบผู้หญิงคนเดียวกัน เป็นมาตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว นึกแล้วก็ยังแปลกใจ"แล้วไอ้ที่พูดกล่อมกูเป็นวรรคเป็นเวรเสียตั้งนานในออฟฟิศคืออะไรวะ อย่าบอกนะว่ากันซีน" "อือ""แต่กันซีนไม่ให้กูจีบเมียตัวเองใช่มั้ย ไม่ใช่กันซีนไม่ให้จีบน้อง" ธาวินยังคงถามย้ำ"อือ ตามนั้นแหละ"หลังจากที่ธาวินเข้าไปเจอกลวัชรและพลอยนภัสที่ตรงบันไ
"ถ้างั้นกูขอแนะนำ นี่น้องพลอย ว่าที่แม่ของลูกกูในอนาคต น้องพลอยครับส่วนนั่นไอ้เก้าเพื่อนพี่แล้วก็เป็นหุ้นส่วนของร้านนี้กับพี่ครับ" ธาวินเอ่ยออกมาหวังว่าจะให้ทั้งสองไอ้รู้จักกันแต่แล้วคำตอบของกลวัชรก็ทำให้ธาวินและข้าวฟ่างนั้นตกใจกลับมากกว่า"รู้จักละ นั่นเลขากูเอง" กลวัชรตอบกลับทันที ทำเอาสองศรีพี่น้องต่างร้อง ห๊าา ออกมาพร้อมกันโดยไม่ต้องนัดหมาย"อืม ไม่ต้องตกใจหรอก แล้วบ้านก็ยังอยู่บ้านเดียวกันกับกูด้วย" กลวัชรพูดไปสายตาก็จ้องไปยังคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเพื่อประเมินสถานการณ์ หากแต่ก็ได้รับมาเพียงแค่ความว่างเปล่า"ถามจริง นี่ล้อกูเล่นป่ะเนี่ย" ธาวินยังคงไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองจนต้องหันไปถามพลอยนภัสอีกรอบ"ที่ไอ้เก้าพูดมานี่จริงหรือเปล่าครับน้องพลอย พี่งงไปหมดแล้ว" "ค่ะ ก็อย่างที่พี่เก้าพูดมานั่นแหละค่ะ คุณแม่พี่เก้าเป็นคนอุปถัมภ์เลี้ยงดูพลอยมาตั้งแต่เด็กๆหลังจากที่คุณลุงคุณป้าพลอยเสียน่ะค่ะ โลกกลมจังเลยนะคะ แถมพี่เก้ากับพี่ธาวินยังเป็นเพื่อนกันอีกต่างหาก" พลอยนภัสหันไปยิ้มเจื่อนๆให้กับธาวิน ส่วนกลวัชรนั้นเธอเพียงแค่เหลือบมองแค่หางตา"ถ้าอย่างนั้นน้องพลอยกับไอ้เก้าก็คงจะเป็นเหมือนพี่เห
พลอยนภัสค่อยๆเดินตามเสียงนั้นไป ไม่ได้ต้องการที่จะเสียมารยาท แต่แค่อยากจะไปดูให้เห็นกับตาเพื่อความแน่ใจเท่านั้น ประตูของห้องไม่ได้ถูกปิด แสงไฟภายในสาดส่องออกมาจนถึงทางเดิน หญิงสาวค่อยๆเดินไปอย่างเงียบๆจนไปหยุดอยู่ตรงมุมประตูของห้องนั้นที่เปิดเพียงแค่แง้มๆเอาไว้แต่ก็สามารถที่จะมองเห็นได้ถึงใครที่นั่งอยู่ในนั้นใช่...ใช่เขาจริงๆด้วย กลวัชรกับธาวินกำลังนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะทำงานอย่างสนุกสนานโดยไม่ทันได้สังเกตุว่ามีเธอยืนอยู่ตรงนี้ ทุกๆถ้อยคำที่กลวัชรพูดมันออกมาพลอยนภัสได้ยินมันหมดทุกถ้อยทุกคำ "สาวที่ไหน ไม่มี๊....(เสียงสูง) กูก็ไปเรื่อยๆ มึงก็รู้อยู่เหมือนสมัยก่อนนั่นแหละ วันๆทำแต่งานจะเอาเวลาที่ไหนไปหา นอกเสียจากว่ามีมาให้กินถึงที่เอง ฮ่าๆ""ฮ่าๆ มึงลืมไปหรือเปล่าวะว่านี่ใคร 'เก้าฟันดะ' นะเว้ย ฉายานี้ตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย จนตอนนี้ก็ยังใช้ได้อยู่ ถ้าไม่แน่จริงคงไม่อยู่มาจนถึงวันนี้หรอก""กูว่ามึงอย่าหาเรื่องใส่ตัวเลยว่ะ จะมีไปทำไมวะฟงแฟน สู้อยู่โสดๆคนเดียวเฟี้ยวกว่าเยอะ อยากฟัดกับใครตอนไหนก็ได้ เลิกคิดเสียเถอะพงพลอยอะไรนั่นน่ะ""ไม่ได้!!ไม่ใช่หรอก กูว่ายัยนั่นไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย หน้า