ด้านของภาคินที่ตอนนี้ เขาคือนักศึกษาปี 4 ของคณะวิศวกรรมศาสตร์ อย่างเต็มตัว และนอกจากที่เขาจะเป็นนักศึกษาที่เรียนเก่ง หน้าตาดีรูปร่างดีแล้ว เขายังเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลตัวแทนของมหาวิทยาลัยอีกด้วย นั่นยิ่งทำให้เขาเป็นหนุ่มฮอต ที่ใครต่อใคร ต่างก็หมายปองอยากจะได้เขาแทบจะครึ่งมหาวิทยาลัย
“พรุ่งนี้น้องปีหนึ่งมันต้องเลือกชมรมใช่ไหมวะ แล้วน้องวาของกู จะมาเลือกชมรมบาสเหมือนพวกเราไหมวะ”พี่ระเอ่ยถาม เพื่อนของเขาที่ไหนอยู่ข้างๆ
“ไอ้สัส!! กูบอกแล้วไง ว่าไม่ให้ยุ่งกับน้องกู” ภาคินบอกกับเพื่อนรักเขาเอาออกไปอย่างเบื่อหน่าย
“ไอ้เหี้ยคิน ทำไมมึงต้องห่วงน้องขนาดนั้นวะ หรือว่ามึงจะหวงน้องไม่แดกเอง” นทีเอ่ยแซวเพื่อน
“แดกเองพ่องมึงสิ กูแค่ไม่อยากให้น้องกู ต้องมาเจอกับพวกนรกอย่างมึงเนี่ย”
“มึงว่าพวกกูเป็นนรก แต่น้องวาอาจจะบอกว่ากูเป็นสวรรค์ก็ได้นะเว้ย” พีระบอกกับเพื่อน พร้อมกับทำท่าทางมั่นอกมั่นใจจนน่าหมั่นไส้
“น้องกูก็ต้องอยู่ชมรมเดียวกันกับกูสิวะ แต่กูบอกไว้ก่อนเลยนะ ว่าห้ามพวกมึงจีบน้องกู ไม่อย่างนั้นพวกมึงโดนตีนกูแน่” ภาคินบอกกับเพื่อนทั้งสองคนของเขาเสียงเข้ม พร้อมกับยกเท้า 1 ข้างขึ้นมาโชว์เพื่อบ่งบอกให้รู้ว่าเขาเอาจริง
“ไอ้สัส!!โหดตลอด” นทีบ่นออกมา แต่ก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเพื่อนอย่างจริงจังอะไร
ตกเย็นทิวา เคนตะโอโซน และนักศึกษาปี 1ทุกคนก็ได้เวลาเข้ากิจกรรมรับน้องที่ห้องเชียร์ เมื่อพวกเขามาถึง ก็พบกับรุ่นพี่ กลุ่มหนึ่ง ที่นั่งรอพวกเขาอยู่ในห้องเชียร์แล้ว และหนึ่งในนั้นคือไรวินที่เป็นหัวหน้ากลุ่มพารุ่นน้องทำกิจกรรม ในครั้งนี้“สวัสดีครับน้องๆ พี่ชื่อไรวินหรือเรียกว่าพี่วินก็ได้นะครับถึงพี่จะเป็นเฮดว้าก แต่พี่จะไม่ว้าก การรับน้องของเราต่อไปนี้ จะไม่มีการตะคอกเสียงดัง หรือดุด่า เพื่อทำให้น้องไม่พอใจ แต่เราจะเน้น ในการกระชับความสัมพันธ์ เข้าใจกันนะครับ ที่ยืนอยู่ข้างหน้าน้องๆทั้งหมดนี้ ก็คือรุ่นพี่ปี 3 และปี 2 ที่จะคอยดูแลพวกน้องๆ ตลอดเรื่องรับน้อง และเวลาที่พวกน้อง ๆอยู่ที่มาวิทยาลัยแห่งนี้ด้วย”ไรวินพูดออกมาด้วยน้ำเสียง อ่อนโยนใจดี และยิ้มอย่างเป็นมิตรให้กับน้องๆปีหนึ่งทุกคน
กิจกรรมรับน้อง ผ่านมาประมาณ เกือบ ๆ 2 ชั่วโมง รุ่นพี่ก็ได้ปล่อยให้รุ่นน้องกลับบ้านพักผ่อน ทิวาเดินคุยเล่นหยอกล้อ ออกมาจากห้องกิจกรรม พร้อมกับ เคนตะ และโอโซน จนมาถึงที่หน้าตึก ก็พบกับ หนุ่มหล่อหน้าตาดี คณะวิศวะที่อยู่ในเสื้อช็อปของคณะ ยืนหน้าตึงบอกบุญไม่รับ อยู่ที่รถของเขา“มึงมีโทรศัพท์เอาไว้ประดับบารมีหรือไง ไอ้วา กูโทรไปเป็นร้อยสาย มึงคิดจะรับสายกูบ้างไหมวะ”ภาคินบ่นทิวาด้วยความหงุดหงิดทันทีที่ทิวาเดินมาถึง
“ก็วาอยู่ในกิจกรรมรับน้อง มันรับโทรศัพท์ได้ที่ไหนเล่า พี่คินจะบ่นวาเพื่อ วายังไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะ” ทิวารีบเถียง ผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าคอเป็นเอ็น หน้าดำหน้าแดง
“เถียงคอเป็นเอ็นเลยนะมึง เออๆๆๆ เถียงไปกูก็ไม่เคยชนะมึงหรอก ไปๆกลับได้แล้ว หาข้าวแดกก่อนแล้วค่อยกลับห้อง” ภาคินรีบพูดตัดบท ก่อนที่เขา กับเด็กน้อยข้างบ้าน ที่ยืนเถียงเขาคอเป็นเอ็น จะทะเลาะกันมากไปกว่านี้
“ก็แค่นี้แหละ เออลืมแนะนำไป พี่คิน นี่เคนตะกับโอโซนเพื่อนใหม่ของวา” ทิวาแนะนำเพื่อนใหม่ทั้งสองคนได้รู้จักกับพี่ชายของเขา เคนตะกับโอโซนก็ได้แต่ยกมือไหว้ อย่ากล้าๆกลัวๆ ภาคินก็ได้แค่พยักหน้ารับทราบ ก่อนที่จะดึงข้อมือของคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆ ไปขึ้นรถและก็ขับตรงออกไป
หลังจากแวะกินข้าวเรียบร้อยแล้ว ภาคินก็พาทิวากลับมาที่คอนโด เพื่อพักผ่อน และเตรียมตัว ไปเรียนในวันพรุ่งนี้“พรุ่งนี้มึงต้องเลือกชมรมใช่ไหมวะ” ภาคินถามทิวาขึ้นทันที ที่เขามาถึงที่คอนโด
“ใช่ ทำไมหรอ”ทิวาถามภาคินออกมาด้วยความสงสัย
“พรุ่งนี้มึงต้องเลือกชมรมบาสเกตบอลนะ ชมรมเดียวกันกับกู”
“ทำไมต้องเลือกชมรมเดียวกันกับพี่คินด้วย วาเล่นบาสไม่เป็นสักหน่อย”
“อย่าเรื่องมากได้ไหม กูบอกให้เลือกก็เลือก อย่างน้อยได้อยู่ชมรมเดียวกัน กูก็จะได้มีเวลาดูแลมึง อย่างที่พ่อแม่มึงกับพ่อแม่กูบอกไง สงสัยอะไรนักหนาวะ ตกลงตามนี้” พูดจบ ภาคิน ก็เดินเรียกออกไปจากจุดนั้น แล้วเดินตรงไปยังห้องนอนของตัวเอง ทิวาก็ได้แต่ยืนหัวแกรก ๆด้วยความสงสัย และไม่เข้าใจเหตุผลของอีกฝ่ายก่อนจะเดินเข้าห้องนอนของตัวเองไปเช่นกัน
และสุดท้ายทิวาก็ยอมทำตามที่ภาคินบอกนั่นคือการเลือกชมรมบาสเกตบอล ทั้งที่ตัวเองก็เล่นไม่เป็นด้วยซ้ำแต่เขาเองก็ไม่รู้จะเลือกชมรมอะไร ก็เลยยอมทำตามที่อีกฝ่ายบอก จะได้ไม่ต้องมีปัญหาโดนฝ่ายนั้นบ่นอารมณ์เสียใส่ที่เขาขัดคำสั่งซึ่งนอกจากทิวาแล้วโอโซนและเคนตะก็เลือกชมรมนี้เช่นกัน เพราะเคนตะ เคยเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลของโรงเรียนที่เขาเรียนจบมา เขาจึงอยากจะเข้าชมรมนี้อยู่แล้ว ส่วนโอโซน เมื่อเห็นว่าเพื่อนทั้งสองคนเข้าชมรมนี้ก็เลยเขาตามเพื่อน ทั้ง ๆที่เขาเองก็เล่นไม่เป็น และเหตุผลหลักอีกหนึ่งเหตุผลที่เขาเลือกชมรมนี้ก็เพราะคนส่วนใหญ่มักจะบอกว่า ชมรมนี้มีแต่คนหน้าตาดี หุ่นดีเป็นศูนย์รวมของหนุ่มฮอตของมหาวิทยาลัย ที่ใครใครต่อใครก็อยากจะอยู่ใกล้กันทั้งนั้น“สวัสดีครับน้องวาที่น่ารักของพี่พี เจอกันอีกแล้วนะครับ”พีระเอ่ยทักทิวาทันทีที่เขาและเพื่อนเดินมาลงชื่อสมัครเข้าชมรม
“สวัสดีครับพี่พี สวัสดีครับพี่ที” ทิวาเอ่ยทักทายพร้อมกับยกมือไหว้ทั้งสองหนุ่ม
“ใครวะไอ้พี หน้าตาน่ารักจัง เด็กมึงเหรอวะ” เพื่อนคนหนึ่งที่นั่งอยู่ด้วยเอ่ยแซว
“ไอ้นี่หาเรื่องให้กูโดนตีนแล้วไหมหล่ะ นี่น้องไอ้คินมัน เรียนบริหารปี1 ไม่ใช่เด็กกู” พีระรีบบอกกับเพื่อนที่นั่งอยู่เพราะตอนนี้ภาคินเริ่มส่งสายตาที่ไม่พอใจมาที่เขาอย่างเห็นได้ชัด
“น้องไอ้คินเหรอวะ หน้าตาน่ารักจัง แหมพี่คิน มีน้องน่ารักขนาดนี้ก็ไม่บอก นะครับคุณพี่คิน” เพื่อน ๆที่นั่งอยู่เริ่มเอ่ยแซว
“ไอ้สัส!!หุบปากเลยพวกมึง อย่ายุ่งกับน้องกู ถ้าใครไม่เชื่อโดนตีนกูแน่” ภาคินบอกกับเพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่บริเวณนั้นพร้อมกับชี้หน้าคาดโทษ
“โหดจริง ๆไอ้ประธานชมรมกู ดุขนาดนี้ไม่มีใครกล้ายุ่งกับน้องมึงหรอก ดุอย่างกับเสือเลยมึง แล้วสองคนนี้เพื่อนน้องวาเหรอครับ”นทีเอ่ยแซวเพื่อนก่อนจะหันไปถามทิวาที่มีเพื่อนอีก2คนยืนอยู่ข้าง ๆ
“ใช่ครับ ชื่อเคนตะกับโอโซนครับ”
“ไม่เจอกันนานเลยนะ”นทีมองหน้าเคนตะก่อนจะเอ่ยทักอีกฝ่ายออกมา
“ครับ ช่วงนี้ป๋ากับม๊าถามถึงพี่ทีด้วยนะครับ ช่วงนี้พี่ไม่ค่อยกลับบ้านเลย” เคนตะบอกกับนทีด้วยน้ำเสียงเศร้า นทีก็ได้แต่ยิ้มบาง ๆให้กับน้องชายต่างแม่ของเขา ไม่ใช่ว่าเขารังเกียจ หรือไม่ชอบเคนตะ น้องชายต่างแม่ของเขา เพียงแต่เขาเป็นคนรักอิสระ และไม่อยากอยู่ภายใต้คำสั่งของคนเป็นพ่อ เขาจึงแยกตัวออกมาอยู่ที่คอนโดคนเดียวเพื่อตัดปัญหา
“ส่วนผมเล่นบาสไม่เป็นครับ แต่เพื่อนทั้งสองคนสมัครชมรมนี้ ผมก็เลยมาสมัครด้วยครับ” โอโซนบอกยิ้มแหย ๆ พร้อมกับบอกนทีไปตามตรง
“ไม่เป็นไรค่อย ๆฝึกไปก็ได้ เล่นไม่เป็นเดี๋ยวพี่ช่วยฝึกเอง” พีระบอกกับโอโซนพร้อมกับส่งยิ้มหวานไปให้ ซึ่งในความรู้สึกของโอโซนรู้สึกว่าผู้ชายตรงหน้าช่างหล่อซะเหลือเกินถึงแม้จะหล่อน้อยกว่าภาคินไปนิดแต่ก็ถือว่ามีเสน่ห์มาก ๆ จนแทบจะละสายตาไม่ได้เลย
“พี่คิน วันนี้วามีรับน้องนะ น่าจะเลิกค่ำ พี่คินกลับคอนโดก่อนก็ได้ เลิกแล้วเดี๋ยวให้เคนตะกับโอโซนไปส่ง” ทิวาบอกกับภาคินที่นั่งหน้าตึงอยู่ ซึ่งจากที่หน้าตึงอยู่แล้ว ยิ่งทำให้ภาคินหน้าตึงขึ้นไปยิ่งกว่าเดิม
“ไม่ต้อง เลิกเรียนแล้วกูว่าง ไม่ได้ทำอะไร เดี๋ยวกูไปรับเอง เลิกแล้วก็โทรมาแล้วกัน เดี๋ยวกูไปรับ”ภาคินบอกกับทิวาด้วยน้ำเสียงไม่พอใจนิด ๆ
“เอาอย่างนั้นก็ได้ งั้นวาไปก่อนนะ เจอกันตอนเย็น” ทิวาบอกกับภาคินไปแค่นั้น ก่อนที่เขาจะเดินออกไปพร้อมกับเพื่อนทั้งสองคนของเขา
************************************************************************************************************
ช่วงเย็นของวันงานปาร์ตี้ที่จัดขึ้นภายในบ้านสวนของภาคินและทิวาก็เริ่มต้นขึ้น บรรยากาศเป็นไปอย่างกันเองน่ารักและอบอุ่น อาหารทั้งคาวหวาน ผลไม้และเครื่องดื่มมากมากมายถูกจัดเตรียมเอาไว้รองรับสำหรับทุกคน แต่ละแต่งกายกันมาในชุดสบาย ๆ เข้ามาร่วมในงาน ต่างพากันดื่มกินร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน ภาคินก็ยังคอยบริการหยิบนั่นตักนี่ให้ทิวาไม่ขาดตกบกพร่อง จนเพื่อน ๆต่างพากันเอ่ยปากแซวว่าเป็นคนคลั่งรัก และกลัเมีย แต่ภาคินก็ไม่ได้ใส่ใจ เพราะเขาเองก็รู้สึกว่าตัวเองก็เป็นคลั่งรักอย่างที่เพื่อนเขาแซวจริง ๆ หลังจากที่ปาร์ตี้ผ่านไปได้สักพักก็เริ่มจะดึกแล้ว ผู้ใหญ่ทั้งสี่ท่านจึงขอตัวเข้าไปพักผ่อนส่วนวัยรุ่นที่เหลือก็ยังคงปาร์ตี้กันต่อ และวันนี้พวกเขาทั้งหมดก็ตกลงกันว่าจะกางเต็นท์นอนข้างนอกด้วยกันทั้งหมด เพื่อเก็บเกี่ยวบรรยากาศและรับอากาศที่บริสุทธิ์ด้วยกัน บรรยากาศท้องทุ่งและต้นไม้ที่เขียวขจีพร้อมกับกลิ่นหอมอ่อนๆของดอกไม้ในยามราตรี สร้างความสงบภายในจิตใจพร้อมด้วยกลิ่นอายของความสดชื่นจากธรรมชาติ ยิ่งทำให้พวกเขาที่เหนื่อยจากงานปาร์ตี้แล้วพากันมานั่งพักที่มุม ๆหนึ่งของสวนถึงกับพากันหายใจสูดเอากลิ่นอ
ช่วงนี้อยู่ในช่วงปิดเทอมทุกคนต่างก็แยกย้ายกลับบ้านของตัวเองเพื่อกลับไปอยู่กับครอบครัวตัวเอง รวมถึงภาคินและทิวาด้วย เพราะตอนนี้พวกเขาทั้งคู่ก็เดินทางกลับมาถึงบ้านของพวกเขาเองเรียบร้อยแล้ว ทั้ง2ครอบครัวกำลังช่วยกันจัดสถานที่และเตรียมอาหารและเครื่องดื่มไว้สำหรับเลี้ยงฉลองสำหรับคืนนี้ เพราะงานเลี้ยงวันนี้บรรดาเพื่อน ๆของทิวาและภาคินจะเดินทางมาร่วมในงานครั้งนี้ด้วย “อ้าว!!!น้องวาตื่นแล้วเหรอลูก เดินทางมาเหนื่อย ๆ กว่าจะมาถึงก็ดึก ทำไมไม่นอนต่ออีกสักหน่อยหล่ะลูก” แม่จูนแม่ของทิวาเอ่ยท้วงลูกชายเพียงคนเดียวของเธอขึ้นเมื่อเธอหันไปเจอทิวาที่อาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยและเดินลงมาจากข้างบนบ้านมาหาเธอ “มันชินครับแม่ อีพี่คินปลุกวาตื่นแต่เช้าไปเรียนทุกวัน จนร่างกายเริ่มปรับตัวเป็นแบบนั้นไปแล้ว แล้วอีกอย่างวาก็อยากตื่นมาอยู่กับพ่อกับแม่ด้วยไงครับ” ทิวาบอกกับแม่ของเขา พร้อมกับเดินเข้าไปกอดด้วยท่าทีออดอ้อน “ขี้อ้อนตลอดเลยนะเราเนี่ย หิวไหมลูก แม่ทำของโปรดของน้องวาไว้ให้อยู่ในครัว ไปกินสิลูก” แม่จูนบอกกับลูกชายสุดที่รักเพียงคนเดียวของเธอด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่อ่อนโยน “คุณแม่ใจดีแล้วก็น่ารักกับวาตลอดเลย
ตอนนี้เคนตะเอาแต่เดินวนไปวนมาอยู่ภายในคอนโดของดีนคนรักของเขา เพราะเขากำลังเครียดและคิดไม่ตก เนื่องจากเรื่องที่เขากำลังแอบคบหาดูใจกันกับดีน ถูกมือดีถ่ายภาพเอาไว้ได้ จนตอนนี้กลายเป็นข้าวใหญ่โต ทำให้ดีนเองต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเป็นวงกว้าง “
หลังจากที่นทีและไรวินขับรถออกไปแล้ว ทิวาก็เอาของที่เขาถือมาไปเก็บที่ท้ายรถ ก่อนจะเดินอ้อมมาเพื่อตั้งท่าจะขึ้นรถของภาคินด้านคนขับ เพื่อสตาร์ทรถเปิดแอร์รอภาคินที่กำลังคุยธุระกับโค้ชโจ้อยู่ แต่ยังไม่ทันที่ทิวาจะได้ขึ้นไปนั่งบนรถไทม์ก็เดินตรงดิ่งมาหาทิวาพร้อมกับดึงที่ข้อมือของทิวาเอาไว้ จนทิวาเองเซถลาจนเกือบจะล้ม
ตอนนี้ภาคิน ได้ขึ้นเป็นนักศึกษาปี4 และทิวาก็ขยับมาเป็นนักศึกษาปี 2
นับตั้งแต่วันที่ภาคินได้ตัดสินใจบอกเรื่องความสัมพันธ์ของเขากับทิวาให้ผู้ใหญ่ได้รับรู้และพวกท่านก็อนุญาตให้พวกเขาคบกัน ภาคินก็ย้ายตัวเองไปนอนห้องเดียวกับทิวาทุกคืน และแน่นอนว่าในบางคืนพวกเขา