หน้าหลัก / รักโบราณ / ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี / บทที่ 9 คิดอ่านเยี่ยงสตรีร้ายกาจ

แชร์

บทที่ 9 คิดอ่านเยี่ยงสตรีร้ายกาจ

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-11-11 01:28:11

บทที่ 9 คิดอ่านเยี่ยงสตรีร้ายกาจ

       ลี่เฟยถอนใจเฮือกใหญ่เมื่อเดินเข้ามายังเรือนนอนของตน นางรู้สึกราวกับมีเข็มเล็กแหลมนับพันเล่มทิ่มแทงหัวใจ ขาทั้งสองหนักอึ้งการก้าวเดินไปยังห้องส่วนตัวในยามนี้ช่างยากเย็นเกินกว่าที่จะจินตนาการ 

       แม้จะเคยคิดสงสัยอยู่ลึกๆ แต่คุณหนูไป๋ผู้นี้ก็ไม่คาดคิดเลยว่า น้องรองที่ตนทำดีด้วยมาตลอดในทุกชาติ จะทำกับตนเช่นนี้ได้จริง

“จูจู ที่ข้าเคยสั่งไว้ได้คนมาหรือยัง”  นางหันไปถามเรื่องที่เคยสั่งให้จูจู หาคนที่สามารถเป็นหนอนบ่อนไส้ในเรือนของฮูหยินรอง และซินหยานไว้สักคนสองคน

“ได้แล้วเจ้าค่ะ” จูจูบอกกล่าว แต่ไม่ได้แจกแจงว่าเป็นผู้ใด เพื่อให้ยามที่ถูกจับได้ คุณหนูของตนจะได้ปฏิเสธอย่างหมดจด

“ดีจริง ข้าก็นึกว่าจะแอบใช้ความวุ่นวายแกล้งหลงลืมคำสั่งข้า เหมือนตีเนียนอยู่ข้างกาย ทั้งที่สั่งให้ไปพักผ่อนเสียอีก” ลี่เฟยเอ็ดจูจูด้วยความขบขัน

“โถ่ มีคนมาเช่นนี้ จูจูควรอยู่ข้างกายจึงจะถูกต้อง”

       เมื่อบ่าวที่รู้ใจอ้างเหตุผลออกมาลี่เฟยก็ไม่ได้ว่าอันใด ต่อ และเงียบขรึมลงไปครู่หนึ่ง “จูจู…หากวันหนึ่งข้าร้ายกาจ เจ้าจะยังรักข้าหรือไม่”

“หากคุณหนูต้องการร้ายกาจ บ่าวก็จะช่วยคุณหนูคิดอ่านอย่างสตรีร้ายกาจเจ้าค่ะ” บ่าวที่อายุมากกว่าลี่เฟยเพียงไม่กี่ปีรับปากอย่างหนักแน่น การเป็นบ่าวผู้อื่นไม่ง่ายเลย มีแต่คุณหนูผู้นี้ของนางที่มากเมตตา หากคุณหนูใหญ่ร้ายกาจใส่ผู้ใด จูจูก็คิดว่ามันผู้นั้นคงกระทำในสิ่งที่สมควรโดนแล้ว

“เช่นนั้นข้าจะฝึกฝนตนเอง ให้คิดอ่านสิ่งใดก็ยึดถือเอาสตรีร้ายกาจเป็นแบบอย่างแล้วกัน” ลี่เฟยคลี่ยิ้มเต็มดวงหน้า แล้วเคลื่อนตัวไปนั่งอยู่ขอบหน้าต่างของห้องนอนตนเอง ร่างกายเพรียวลมนั่งอยู่อย่างนั้นจนดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป

ทำอย่างไรดี ส่งไปดูน้ำพุเหลืองร่วมกันตอนนี้ได้หรือไม่นะ

       แม้ไป๋ลี่เฟยจะต้องการให้จ้าวหลินไฉ่ได้ลิ้มรสชาติของความตาย แต่ในเวลานี้นางยังไม่สามารถพอที่จะลงมือทั้งหมด โดยไม่เดือดร้อนมาถึงตัวเอง สิ่งที่นางลงมือได้ควมีแต่การทำให้รู้สึกแสบคันเท่านั้น

       คุณหนูใหญ่ผู้เหนื่อยล้าคิดได้ว่าชาตินี้ ตนต้องผูกสัมพันธ์กับผู้ที่นางรู้ชัดเจนว่าเป็นปรปักษ์กับองค์ชายสาม และต้องเร่งเลื่อนขั้นให้เหนือกว่าในชาติภพก่อน ส่วนการจะช่วงชิงน้ำหกธาตุพิชิตมาครอบครอง ลี่เฟยคงต้องมีสัตว์ในพันธะไว้คอยช่วยยามเดินทางเสียก่อน

หากได้เจอมี่เก๋ออีกคราก็คงดี

       สัตว์ในพันธะข้างกายของนางในชาติก่อน มีนามว่ามี่เก๋อ จิ้งจอกขาวที่อยู่ร่วมกันมาจนผูกพันนั้น คือส่วนสำคัญในชีวิตของลี่เฟย เมื่อนึกดูแล้วมี่เก๋ออาจเป็นหนึ่งในไม่กี่ชีวิตที่รักและซื่อสัตย์กับไป๋ลี่เฟยอย่างจริงใจ

‘ตุ๊บ’ เสียงของหินก้อนหนึ่งตกกระทบลงบนพื้นห้อง ไป๋ลี่เฟยใช้พลังปราณในกายส่งไปยังม่านดวงตาทันที นางสอดส่องดูในความมืดมิด แต่กลับพบแค่ไอปราณบางเบาในทิศทางมุ่งออกไปจากจวนเท่านั้น

       คืนนี้นางเหนื่อยอ่อนเกินกว่าจะลุกขึ้นไล่ตามผู้ส่งสารที่ลักลอบเข้ามาในจวน ลี่เฟยจึงลงจากขอบหน้าต่างที่นั่งอยู่หยิบก้อนหินที่ห่อกระดาษนั้นขึ้นมาแทน

‘อีกสองวัน ข้าจะรับเจ้าไปสำนักศึกษา โจวเฉิง’

      ในจดหมายเป็นสารจากองค์ชายหกนั่นเอง ไป๋ลี่เฟยยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย แม้จะรู้อยู่ก่อนแล้วว่าจ้าวโจวเฉิงเพียงแค่ทำตามสัญญาให้นางได้ออกห่างจากหลินไฉ่ แต่เพราะไม่เคยได้ทำสิ่งที่ต้องหลบๆ ซ่อนๆ สายตาผู้ใหญ่เช่นนี้มาก่อน ก็อดจะรู้สึกตื่นเต้นไม่ได้

       ไป๋ลี่เฟยกลับมาคราวนี้เห็นทีว่าจะกระทำหลายอย่างที่แหกกฎเกณฑ์ไป จนนางแอบรู้สึกว่าชาติที่แล้ว อาจทำตัวน่าเบื่อหน่ายมากไปเสียหน่อย แต่สิ่งที่น่าแปลกใจคือองค์ชายผู้นั้นลอบเข้าจวน หลบเลี่ยงทหารที่ตรวจตราโดยรอบมาได้อย่างไร ในเมื่อระดับปราณขององค์ชายในการรับรู้ของนางนั้นอยู่ที่เขียวขั้นต่ำในอีกหกปีข้างหน้า

       นั่นทำให้เกิดความสงสัยเสียแล้ว เพราะหากจะลอบเข้าจวนขุนนางชั้นสูง อย่างน้อยก็ต้องมีระดับเขียวขั้นกลาง จึงจะหลบเลี่ยงการตรวจสอบได้ ดูเหมือนว่าจะไม่ได้มีเพียงตัวนางที่ปกปิดพลังปราณที่แท้จริงเอาไว้เสียแล้ว

“เวียนหัวจริง” ไป๋ลี่เฟยมองไปที่มุมห้องเตรียมจะอธิบายให้บ่าวคนสนิทฟังว่าหินก้อนนี้ไม่ได้มาจากผู้ประสงค์ร้าย แต่เมื่อเห็นว่าจูจูสัปหงกอยู่มุมห้องก็หัวเราะเสียงใสออกมา “จูจูเป็นอย่างไรเล่า ข้าบอกให้พักก็ดื้อดึง คิก คิก” 

ก็หลงนึกว่าที่ไม่ถามเพราะจะรอข้าบอก ที่แท้ก็ไม่ได้รับรู้เรื่องราวใดเลย

“จูจู!” ลี่เฟยเรียกเสียงดังครั้งหนึ่ง ก็สามารถปลุกจูจูให้ตื่นได้ และหลังจากขอโทษขอโพยไปชุดใหญ่ และการเรียกร้องบทลงโทษจากบ่าวผู้นี้ สุดท้ายคุณหนูใหญ่ผู้มีพื้นฐานจิตใจงดงามจึงต้องยอมลงโทษบ่าวผู้นี้ โดยการสั่งให้อยู่แต่ในห้องนอนบ่าวและสวนข้างเรือนสองวัน เพื่อบังคับให้จูจูพักทางอ้อม

       เมื่อจูจูรุดกายออกไปแล้ว ลี่เฟยก็หยิบกระดาษแผ่นน้อยมาสอดเก็บไว้ใต้แผ่นหยกทับกระดาษของตน ก่อนจะนอนหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย

สองวันผ่านไป…

       ไป๋ช่างชางแจ้งกับไป๋มู่ชางผู้เป็นบิดาว่า วันนี้ตัวเขา และไป๋ลี่เฟยจะไปยังสำนักศึกษาพร้อมกับขบวนขององค์ชายหก 

       ในคราแรกขุนนางไป๋คัดค้านเล็กน้อย เพราะเป็นวันรายงานตัวเข้าสำนักศึกษาของไป๋ลี่เฟยและไป๋ซินหยาน แม้จะอยู่ดูได้เพียงห่างๆ ผู้เป็นบิดาก็ต้องการจะไปส่งบุตรสาวด้วยตนเอง แต่เมื่อไป๋ช่างชางหว่านล้อมว่าอย่างไรขบวนของสกุลไป๋ก็มีบิดามารดาไปด้วยอยู่แล้ว เมื่อถึงจุดหมายก็ไม่เป็นปัญหาใด ไป๋มู่ชางจึงยินยอม ด้วยเห็นว่าเด็กทั้งหลายอาจต้องการพูดคุยกันให้สนุกสนานกว่ายามมีผู้ใหญ่ปะปน

“พี่รอง!” ไป๋ลี่เฟยร้องทักพี่ชายมารดาเดียวกันที่มายืนรอรับอยู่ วันนี้นางใส่อาภรณ์สีขาวคาดผ้าสีม่วงอ่อนที่ตนเองชอบเช่นเดิม

“พักหลังนี้เจ้าใส่แต่สีม่วง เห็นทีหากเจอผ้าสีม่วงที่งดงามคงต้องซื้อเก็บไว้ให้แล้ว” ไป๋ช่างชางหยอกล้อออกไป

“ดียิ่ง ข้าจะได้ตัดเพิ่มให้หนำใจ” ดวงตาที่ยกยิ้มขึ้นเป็นจันทร์เสี้ยวปรากฎขึ้น พร้อมกับรถม้าขององค์ชายหกที่เลี้ยวเข้ามาในจวนไป๋

“องค์ชายมาแล้ว พวกเราไปกัน” ไป๋ช่างชางพยักหน้า

“ท่านพ่อท่านแม่ไว้พบกันที่สำนักนะเจ้าคะ” ลี่เฟยกล่าวลาบิดามารดาแล้วจึงเดินตามพี่ชายที่พยุงตนขึ้นรถม้า

       ภายในรถม้ากว้างขวางไม่แน่ว่าอาจจุคนได้ถึงแปดคน เมื่อขึ้นมานั่งแล้วก็เข้าใจแจ่มแจ้งว่าเหตุใดจ้าวโจวเฉิงจึงต้องการมารับตนและพี่ชายให้ไปด้วยกัน

อ่าา…เป็นคุณหนูผู้นี้สินะที่องค์ชายหกต้องการให้ช่วยกีดขวาง

_______

น้ำพุเหลือง หมายถึงปรโลก โลกหลังความตาย

มู่ลี่ดาหลา Mulidala

แก้ชื่อที่ผิดแล้วค่ะ

| ชอบ
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 4 บรรจบเป็นวงกลม

    บทพิเศษ 4 บรรจบเป็นวงกลมในที่สุดสหายรักของไป๋ลี่เฟยก็เดินทางถึงเมืองหลวงในแคว้นจ้าวอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนเสียที หลังเดินทางเข้ามาถึงตงหม่าจางต้องทำเรื่องขอกลับเข้าเป็นองครักษ์ ส่วนฉือจี้ผ่าก็จำเป็นต้องกลับไปอยู่บ้านเดิมให้บิดามานดาของนางเห็นหน้ามากหน่อย กว่าจะได้มาพบปะสหายทั้งหลาย เวลาก็ผ่านไปเกือบรอบจันทร์แล้ว“ข้ามาแล้ว” จี้ผ่าเอ่ยทักเมื่อเข้ามาในร้านประมูลของแม่นางอูที่เปิดขึ้นใหม่เมื่อสองปีก่อน“จี้ผ่า คิดถึงเจ้านัก” ลี่เฟยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เสียดายที่มิได้ร่ำลากัน”“โชคยังดีที่มีโอกาสได้กลับมา” จี้ผ่ายิ้มเล็กน้อย“และโชคดีที่พวกเจ้าออกมาหาข้าได้ มิเช่นน

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 3 งานปักผ้าของจี้ผ่า

    บทพิเศษ 3 งานปักผ้าของจี้ผ่าชีวิตของฉือจี้ผ่าและตงหม่าจางหลังออกจากเมืองหลวงมิได้ลำบากนัก ด้วยทรัพสินเงินทองที่ฮ่องเต้พระราชทานให้ติดตัวมิได้น้อยเลย หากจะมีลำบากก็เพราะตงหม่าจางต้องติดสินบนปลอมแปลงเอกสารยืนยันตัวตน เพื่อผ่านทางไปยังแคว้นอื่นที่สงบจากภัยสงครามในขณะนี้แต่เมื่อผ่านมาได้แล้วทั้งสองก็เลือกปักหลักอยู่ที่เมืองทางทิศใต้ของทะเลสาบต้งถิง เป็นเมืองที่มีผู้คนผ่านไปมามาก จึงทำให้ผู้มาใหม่ทั้งสองสามารถกลืนไปกับผู้คนในเมืองได้ไม่ยากเย็นนัก จวนที่ซื้อต่อจากสกุลวานิชเล็กๆ สกุลหนึ่ง กลายเป็นบ้านใหม่ของคู่สามีภรรยาเยาว์วัยคู่นี้ทุกๆ วันตงหม่าจางจะเข้าป่าเพื่อสร้างสถานที่เก็บตำราของฮ่องเต้ พร้อมกับคิดค้นกับดักและร่ายอักขระไว้ปกป้องตำราภายในด้วย ส่วนจ

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 2 ความร้อนในกายช่วยให้อบอุ่น

    บทพิเศษ 2 ความร้อนในกายช่วยให้อบอุ่นโจวเฉิงจับข้อมือของไป๋ลี่เฟยอ้าออกก่อนจะก้มลง เพื่อใช้ลิ้นร้อนฉ่าทักทายยอดบัวชมพูอย่างตั้งใจ อีกมือหนึ่งผละจากท่อนแขนมากอบกุบความนุ่มนวลตรงหน้านี้ สลับข้างไปมาอย่างคนถูกมอมเมามิอาจละตัวให้ห่างไปได้เลย“อ๊ะ..พะ พี่” ลี่เฟยที่ถูกจู่โจมเช่นนี้รู้สึกวูบวาบจนเริ่มหายใจติดขัด จะกล่าววาจาใดก็ไม่ถนัดดังเช่นยามปกติเห็นเช่นนั้นท่อนแขนแข็งแรงช้อนตัวไป๋ลี่เฟยให้ขึ้นไปนั่งยังบริเวณขอบบ่อ หยดน้ำพราวเกาะบนผิวยิ่งทำให้ร่างกายนี้เย้ายวนเหนือบรรยาย ใบหน้าของชายหนุ่มไล่สายตาจนมาหยุดอยู่ที่กึ่งกลางร่างกายของไป๋ลี่เฟย“เฟยเฟยอ้าขาออก”

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทพิเศษ 1 พักตากอากาศ

    บทพิเศษ 1 พักตากอากาศเมืองซุ่ยปาคือจุดมุ่งหมายที่สองบิดามารดามือใหม่ตั้งใจจะไปพักผ่อนให้สบายจิตใจ เมืองแห่งนี้เป็นเมืองสงบมีผู้คนอยู่อาศัยไม่มากนัก ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นขุนนางที่ปลดระวางตนเองจากตำแหน่งหน้าที่แล้วมาอยู่อาศัย ไม่ห่างไกลจากเมืองหลวงเกินไป เพื่อให้สะดวกหากมีขุนนางคนใดอยากเข้ามาปรึกษาหารือประเด็นต่างๆเมืองซุ่ยปามีทิวเขางดงาม ป่าไม่อุดมสมบูรณ์มีแหล่งพลังปราณธรรมชาติหนาแน่น สตรีมีครรภ์และผู้มีอายุจึงนิยมมาอาศัยในเมืองแห่งนี้เพื่อบำรุงร่างกาย ข้อเสียเพียงอย่างเดียวมีเพียงอากาศที่เย็นกว่าพื้นที่ส่วนอื่นของแคว้นอย่างน่าประหลาดจ้าวโจวเฉิงจับจูงไป๋ลี่เฟยให้เดินชมสวนของจวนไม่เล็กไม่ใหญ่หลังนี้ “ชอบหรือไม่”

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 67 คลี่คลายง่ายนัก

    บทที่ 67 คลี่คลายง่ายนัก“ท่านหมอ พอรู้หรือไม่ว่าต้องทำอย่างไร” ไป๋ลี่เฟยเอ่ยถามออกไป แต่ไม่ทันที่จะได้เว้นช่วงให้หมอเทวดาตอบ นางก็มิอาจกลั้นอาเจียนไว้ได้อีกต่อไป“พระชายาไป๋ นั่งลงก่อน” หมอเทวดาดวงตาเป็นประกาย เมื่อเห็นความท้าทายในการรักษาถึงสองอาการ คนหนึ่งหลับไปเฉยๆ โดยที่มิได้รับความบาดเจ็บใด ส่วนอีกผู้หนึ่งอาเจียนเป็นเลือด แต่ยังเดินเหินและดูแข็งแรงปกติไป๋ลี่เฟยนั่งลงให้ท่านหมอตรวจอาการ และไม่ลืมนำน้ำหกธาตุพิชิตออกมาให้หมอเทวดาผู้นี้ดู ก่อนจะเล่าว่าอาการของตนและองค์ชายหกเกิดได้อย่างไร แต่มิได้บอกความมหัศจรรย์ของพิษจิตแตก บอกแต่เพียงว่าเป็นพิษ“วิเศษนัก” ท่านหมอกล่าวระหว่างยกขวดโอสถขึ้นมาส่องดู ก่อนจะวางลงข้างกาย “อาการขององค์ชายหก

  • ไม่เป็นมันแล้วนางรองผู้แสนดี   บทที่ 66 ความสุขกลับคืนทีละน้อย

    บทที่ 66 ความสุขกลับคืนทีละน้อยเช้าวันรุ่งขึ้นข่าวแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองหลวงว่าองค์รัชทายาทต้องการพาพระชายาไปพักผ่อนให้เป็นส่วนตัว จึงมิได้ให้องครักษ์คนใดติดตามไป เกิดเป็นเรื่องราวน่าใจหายองค์ชายถูกสัตว์รุมกัด มีร่องรอยการต่อสู้ดุเดือด ส่วนไท่จื่อเฟยก็หนีอยากหวาดกลัว กล่าวกับผู้คนว่าองค์ชายปกป้องตนเองจนตัวตายท่าทางของพระชายาคนงามดูอ่อนแอบอบบางจนมีแต่ผู้คนสงสาร เล็บมือเล็บเท้าของสตรีสูงศักดิ์ฉีกขาดเพราะการหนีตาย ยิ่งทำให้หมดข้อสงสัยว่าไป๋ซินหยานมีส่วนรู้เห็นกับการตายขององค์ชายสาม ช่วงเวลาต่อมาวังเมฆาแสงจันทร์ถูกปิดตาย ด้วยคำสั่งพระชายามีเพียงหมอหลวง และคนจากสกุลเดิมเท่านั้นที่ได้รับอนุญาตเข้าออกวังแห่งนี้ได้ ส่วนตัวไป๋ซินหยานเองก็ออกมาด้ายนอกเพียงเพื่อร่วมพิธีศพเท่านั้น“ซินหยาน เป็

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status