อังกาบแทบจะเป็นลม แต่ก็ยังต้องฝืนยิ้มเอาไว้ คำพูดของปฐพียังก้องอยู่ในหู
‘ยายฟ้าเป็นพวกเหยียบขี้ไก่ไม่ฟ่อ ผมรบกวนคุณอังกาบอบรมแกให้ด้วยนะครับ’
นี่มันเป็นจริงอย่างที่ปฐพีพูดเลย หล่อนถอนใจแผ่วเบา ยกมือขึ้นทาบอกเป็นระยะ
“ป้าเกรงว่าห้องจะไม่พอใส่กระเป๋าของหนูฟ้าน่ะ”
“ทำไมล่ะคะ นี่ฟ้าไม่เอาห้องเล็กนะ ยังไงฟ้าก็ต้องได้ห้องใหญ่ที่สุดในบ้านหลังนี้”
อังกาบต้องกุมขมับซ้ำสอง
“ห้องใหญ่ของบ้านเป็นของตาเอกน่ะ หนูฟ้าไปอยู่ห้องที่ป้าเตรียมเอาไว้ให้เถอะ เล็กกว่ากันนิดเดียวเอง รับรองว่าหนูฟ้าต้องชอบแน่ๆ”
“ไม่เอา ไม่ยอม ฟ้าจะเอาห้องใหญ่”
“หนูฟ้า...”
“ขนของตามฉันมา”
ฟ้าลดาไม่สนใจอาการอ่อนอกอ่อนใจของอังกาบ หล่อนก้าวยาวๆ ขึ้นบันไดไปทันที แต่พอคิดว่าไม่เคยมาที่นี่มาก่อนก็หยุด และหันมาถามอังกาบ
“ห้องใหญ่อยู่ตรงไหนคะ”
“ห้องริมขวามือสุดจ้ะ แต่ว่าห้องนั้นยังไงก็ไม่ได้นะหนูฟ้า”
ยิ่งหวงๆ แบบนี้แหละ หล่อนยิ่งชอบ
“แต่ฟ้าจะเอาค่ะ ใครก็ขัดใจฟ้าไม่ได้หรอก”
“คุณหนูครับ ที่นี่ไม่ใช่บ้านเรานะครับ”
“ก็ฟ้าเป็นแขกของที่นี่ ยังไงซะ ฟ้าก็ต้องได้ห้องที่ดีที่สุด”
แล้วหล่อนก็สะบัดหน้าเดินขึ้นไปทันที อังกาบยืนมองไปด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวล
“คุณอังกาบ ผมขอโทษแทนคุณหนูด้วยนะครับ”
“ไม่เป็นไรหรอกลุงสม ฉันรับปากกับคุณปฐพีเอาไว้แล้ว ยังไงก็จะอดทน”
หล่อนถอนใจอีกครั้ง ก่อนจะตัดสินใจเดินตามฟ้าลดาขึ้นไปทันที
ฟ้าลดาก้าวเข้ามายืนภายในห้องใหญ่ ที่ภายในตกแต่งเอาไว้ด้วยโทนสีเข้มทั้งหมด เตียงนอนหลังใหญ่อยู่ริมผนัง ที่โต๊ะเครื่องแป้งมีเครื่องใช้ของผู้ชายวางเรียบเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ
ใครนะเป็นเจ้าของห้องนี้? แต่ช่างเถอะ หล่อนไม่สนใจหรอกว่าห้องนี้จะเป็นของใคร แต่หล่อนเป็นแขกกิติมศักดิ์ยังไงอะไรที่ดีที่สุดก็ต้องเป็นของหล่อน
“แวว ขนข้าวของพวกนี้ออกไปไว้นอกห้อง แล้วเอาของฉันเข้ามาให้หมด”
“แต่ว่า... คุณหนูคะ...”
แววอึกอักไม่สบายใจ
“ทำไม นี่เธอกล้าขัดคำสั่งฉันเหรอ”
“คือ... เปล่าค่ะ แต่... แต่แววคิดว่าคุณหนูไปห้องพักที่ทางไร่จัดเอาไว้ให้ดีกว่าค่ะ...”
หล่อนหันไปจ้องหน้าสาวใช้เขม็ง
“ไม่เอา! ฉันชอบห้องนี้ จะนอนห้องนี้ เข้าใจหรือยัง”
แววไม่มีทางเลือก จำต้องก้มหน้าทำตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
ฟ้าลดาเดินไปนั่งบนเตียงที่ตอนนี้ผ้าปูเตียงเปลี่ยนเป็นสีชมพูลายคิตตี้เรียบร้อยแล้วด้วยความภาคภูมิใจเป็นที่สุด
“จะว่าไปแล้ว ที่นี่ก็อากาศดีไม่เบานะ”
“โธ่ คุณหนู...”
ฟ้าลดาได้ยินคำพูดของแววก็หันมาเอ็ดตะโรใส่
“ไม่ต้องมาธงมาโธ่เลย จัดข้าวของของฉันให้เรียบร้อย อ้อ แล้วชุดชั้นในของฉันน่ะ แยกสีด้วยนะ แล้วก็แยกประเภทด้วย ตัวไหนเป็นจีสติงก็เอาไว้ลิ้นชักหนึ่ง อันไหนเป็นเต็มตัวก็เอาไว้อีกที่เข้าใจไหม”
“เข้าใจค่ะ แต่ว่าลิ้นชักน่าจะไม่พอ...”
“ไม่พอเหรอ?”
คุณหนูผู้ถูกตามใจมาเสียเคยตัวทำหน้าครุ่นคิด ก่อนจะดีดนิ้วออกมา
“ก็เอาไปเก็บไว้ห้องที่คุณป้าจัดเอาไว้ให้ฉันไง เวลาฉันอยากได้เธอก็ไปเอามาให้ฉัน”
“คุณหนูคะคือว่า...”
“ทำตามที่ฉันบอกนั่นแหละ”
แล้วหล่อนก็ล้มตัวนอน รอยยิ้มหวานอย่างมีความสุข
“เตียงนุ่มดีนะ แสดงว่าเจ้าของห้องก็รสนิยมดีเหมือนกันน่ะเนี่ย”
สาวใช้จัดของไปก็ถอนใจไปอย่างแสนจะวิตกกังวล ซึ่งก็ไม่ต่างจากอังกาบเลยแม้แต่นิดเดียว
“ตาเอกกลับมาเจอเข้าแบบนี้ บ้านแตกแน่ๆ”
เอกกวี ภูพนา หรือที่คนงานทุกคนเรียกว่า ‘นาย’ กำลังสั่งลูกน้องให้ตัดกิ่งของต้นองุ่น
“ครับนาย”
“ดีมาก ไปทำได้แล้ว”
“ครับ”
คนงานเดินจากไป แต่ชายหนุ่มในชุดกางเกงยีนส์สีซีด เสื้อยืด และมีแจ็คเก็ตยีนส์สีเดียวกับกางเกงสวมทับยังคงยืนกอดอกมองไร่องุ่นที่กว้างสุดลูกหูลูกตาด้วยรอยยิ้มพึงพอใจเช่นเดิม
เขาเรียนจบปริญญาโทจากต่างประเทศด้วยคะแนนอันดับหนึ่ง แต่กลับไม่สนใจที่จะทำงานในบริษัทใหญ่โตที่ยื่นข้อเสนอดีๆ มาให้ ความชื่นชอบในการทำเกษตรฝังอยู่ในตัวตนของเขามานานแล้ว อาจจะเป็นเพราะบิดาและมารดาเป็นชาวไร่ เขาซึ่งเป็นลูกจึงซึมซับเลือดของกรรมกรมาเต็มเนื้อตัว
“นายคะ เกิดเรื่องใหญ่แล้วค่ะ”
คนงานผู้หญิงวิ่งหน้าตาตื่นมาบอก
“มีอะไรหรือ”
“เอ่อ... คนจากกรุงเทพฯ เดินทางมาถึงแล้วค่ะ”
เขาระบายยิ้มน้อยๆ “แล้วไงล่ะ แม่ฉันก็อยู่ที่บ้านนี้ ให้ต้อนรับแทนฉันไปเลย”
“เอ่อ คือว่า...”
“กลับไปบอกแม่ด้วยนะว่ากลางวันนี้ฉันจะไม่กลับไปกินข้าวที่บ้าน”
“เอ่อ...”
“ไปสิ ฉันจะทำงานแล้ว”
คนงานหญิงดูอึกอักและอึดอัดแต่เขาไม่ได้สนใจอะไร เขาหมุนตัว และเดินออกไปอีกทาง
“โธ่ นาย... กำลังจะบอกว่าถูกแย่งห้องนอนไปแล้วก็ไม่ยอมฟัง...”
เอกกวีเดินลัดเลาะดูคนงานตัดแต่งกิ่งของต้นองุ่น ก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดรับสาย
“ครับเดือน”
เดือนเพ็ญเพื่อนผู้หญิงที่เขาสนิทด้วยมากที่สุด
“เอาไว้เย็นนี้นะครับ กลางวันผมไม่ว่างนะ ต้องคุมคนงานตัดกิ่งองุ่น ครับ... ไว้เจอกันครับ”
เขากับเดือนเพ็ญคบหากันในฐานะเพื่อนสนิทมาเกินสิบปี แม้จะรู้ดีว่าเดือนเพ็ญคิดกับเขามากกว่าคำว่าเพื่อน แต่เขาก็ไม่คิดจะสานสัมพันธ์ให้มากกว่านั้น เพราะคำว่าเพื่อนทำให้คบกันสบายใจที่สุดแล้ว
ชายหนุ่มระบายยิ้มบางๆ พลางอดคิดถึงแขกของมารดาที่จะมาอยู่ที่ไร่เป็นเวลาหนึ่งเดือนไม่ได้
ตอนที่ 57. ตอนอวสาน“ใครจะกล้าไปสารภาพรักกับคุณหนูขาวีนอย่างคุณกันล่ะ มีหวังถูกหัวเราะเยาะตายกันพอดี”หล่อนกับเขาสบตากัน และหล่อนก็ได้เห็นประกายความรักจากดวงตมคมกริบของเขาชัดเจน หัวใจของหล่อนฟูฟ่อง แต่ก็ยังอดสงสัยไม่ได้“ถ้าฉันนิสัยไม่ดีขนาดนั้น ก็อย่ามายุ่งสิ ปล่อยฉันไปตามทางของฉัน”“ใครจะปล่อยเมียตัวเองไปได้ล่ะ ไม่มีวันเสียล่ะ ผมรักของผม”“แต่ฉันนิสัยไม่ดีนะ แถมยังชอบใส่จีสตริงด้วย”เขาหัวเราะร่วน ก้มลงจูบแก้มนวลอย่างแสนรัก“ใส่เฉพาะในห้องนอน ตอนอยู่กับผมบนเตียงน่ะไม่ว่าหรอก แต่ห้ามใส่ไปเดินอวดผู้ชายคนอื่น เพราะผมหึงคุณมาก เข้าใจไหม”หล่อนยังคงมึนงง และไม่อยากเชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน“นาย... ไม่ได้โกหกฉันใช่ไหม เรื่อง... ที่บอกว่ารักฉันน่ะ”ศีรษะทุยส่ายน้อยๆ ก่อนจะระบายยิ้มหวานฉ่ำให้กับหล่อน“เรื่องแบบนี้ใครเขาเอามาล้อเล่นหรือโกหกกันล่ะ ผมรักคุณจนแทบจะล้นออกมาจากอกอยู่แล้ว รักทั้งๆ ที่คิดเสมอว่าคุณเป็นผู้หญิงรักสนุก”“อีตาบ้า ฉันไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย”“ผมรู้ก็ตอนที่ได้เข้าไปในตัวของคุณแล้วนั่นแหละ” เขาอมยิ้ม มองลึกเข้ามาในดวงตาคู่งามของหล่อน “ผมรักคุณนะฟ้าลดา ยิ่งได้กอด ได้จูบ ผมก็ยิ
ตอนที่ 56.“ผมจะแต่งงานกับฟ้าครับ ผมรักเธอ”ปฐพีระบายยิ้มโล่งอกออกมา“พูดแบบนี้ พูดเสียงดังๆ เลยนะ เวลาอยู่ต่อหน้ายายฟ้าน่ะ”“แต่ผม... ไม่รู้เลยครับว่าเธอไปอยู่ที่ไหนตอนนี้”ปฐพีหัวเราะร่วน “โอ๊ย... การตามหาตัวยายฟ้าน่ะไม่ยากหรอก”“คุณลุงหมายความว่ายังไงครับ”“เดี๋ยวดูจากข้อมูลการใช้บัตรเครดิตก็รู้แล้วล่ะพ่อเอกว่ายายฟ้าไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน”เอกกวีได้ฟังคำพูดของปฐพีก็ระบายยิ้มออกมาอย่างโล่งอก“คุณหนูขา... เราจะไปช็อปปิ้งกันอีกแล้วเหรอคะ”แววที่เดินตามฟ้าลดาเข้ามาในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในจังหวัดภาคตะวันออกเอ่ยถามด้วยความวิตกกังวล“ใช่ ฉันเครียด ช็อปปิ้งแล้วมันทำให้รู้สึกดีขึ้น”“แต่ที่ห้องพักของเรามันแทบจะไม่มีที่เดินแล้วนะคะคุณหนู มีแต่ของที่ซื้อไว้เต็มห้องไปหมดเลย”“งั้นฉันจะซื้อวันนี้อีกวัน พรุ่งนี้จะไม่ซื้ออะไรแล้ว โอเคไหมแวว”“ค่ะคุณหนู”ฟ้าลดาเดินตรงหน้าไปในร้านเสื้อผ้ายี่ห้อดัง หยิบทุกชุดที่อยู่ตรงหน้าส่งให้แววถือ จนแววต้องรีบเตือนสติเพราะเกรงว่าคุณหนูของตัวเองจะไม่มีมือหิ้วกลับห้อง“คุณหนูขา พอเถอะค่ะ นี่ก็สิบกว่าชุดแล้วนะคะ”“ก็ได้”ฟ้าลดาแขวนชุดเดรสสีดำคืนที่เดิม ก่อนจะหันมาห
ตอนที่ 55.“ก็คุณหนูฟ้าลดาคนสวยไงครับ”“บ้า ฉันจะไปงอนนายทำไมกันล่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันสักหน่อย อ๊ะ... อื้อ... อย่าขยับแบบนี้สิ คนบ้า อื้อ... อ๊า... อา...”หล่อนครวญครางเลยทีเดียวเมื่อคนที่นอนทับนิ่งๆ อยู่เคลื่อนไหวสะโพกเป็นวงกลม คลึงเค้นจนหล่อนเสียวสะท้าน“ก็ผมอยากจะยืนยันไงครับว่าเราสองคนเป็นอะไรกันแค่ไหน”หล่อนแก้มแดงก่ำ และก็อดตัดพ้อไปอย่างน้อยใจไม่ได้“ก็แค่เซ็กซ์เท่านั้นแหละ”“ถึงจะเป็นแค่เซ็กซ์ แต่มันก็ทำให้เราสองคนได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ผมว่าชีวีตคู่หากไม่มีเซ็กซ์เป็นส่วนประกอบก็คงจะจืดชืดมากเลยทีเดียว”“ไอ้คนบ้ากาม”“ผมบ้าคุณต่างหาก เมียจ๋า...”“นี่อย่ามาพูดแบบนี้นะ ออกไปจากตัวฉันเลย”“อย่าไล่ผัวสิครับ” เขาพูดเสียงอ่อนเสียงหวานและระดมพรมจูบหล่อนทั้งใบหน้า มือใหญ่ก็บีบเค้นเต้าอวบตลอดเวลา“นายรักฉันหรือเปล่า”ในที่สุดหล่อนก็ตัดสินใจถามออกมา และจ้องหน้าเขาอย่างรอคอยคำตอบเอกกวีระบายยิ้มอ่อนโยน มองลึกเข้าไปในดวงตาคู่งามของภรรยาคนสวย“ผมจะพิสูจน์ให้คุณดู ฟ้าลดา”แล้วเขาก็ก้มลงมาบดขยี้ปากอิ่มของหล่อน ปลุกเร้าให้หล่อนร้อนผ่าวและร้อนฉ่าพรักพร้อมต่อเกมสวาทของเขาอีกครั้งหล่อนอยากฟังคำตอบ
ตอนที่ 54. ฝ่ามือกางออกเค้นคลึงจนยอดถันแข็งชันเป็นไต นิ้วยาวถูไถจนเม็ดทรวงเคร่งครัด ก่อนจะส่งเข้าไปในอุ้งปาก ดูดอมมันอย่างเอร็ดลิ้น ทั้งกัดทั้งดูดทั้งเลียจนสาวน้อยกรีดร้องทรมานร่างอวบอัดส่ายระริก ดิ้นพล่านด้วยความเสียวกระสัน หยาดน้ำสวาทไหลซึมออกมาจนกลีบสาวเปียกชุ่ม ความร้อนฉ่าอัดแน่นอยู่เต็มซอกขา“อ๊า... อา... อ๊า...”หล่อนกรีดร้องด้วยความเสียวซ่านทรมาน ยิ่งยามที่เขาดูดเม็ดทรวงแรงๆ ตามด้วยการขบกัดด้วยแล้ว หล่อนก็ยิ่งแสนรัญจวน ร่างสาวลอยสูงขึ้นทุกขณะ“อ๊า... อา... เอก... เอกขา...”เขาคลายยอดถันออกจากปาก เลื่อนหน้าต่ำลงไปยังหน้าท้อง สองมือเลื่อนนำหน้าลงไปกระชากต้นขาอวบให้แยกกว้างออกจากกัน ซึ่งก็เป็นจังหวะเดียวกันที่ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำลดต่ำลงไปอยู่ที่เนินสวาทพอดิบพอดีเสียงคำรามด้วยความพึงพอใจจากปากหยักสวยดังขึ้นไม่หยุด นิ้วยาวค่อยๆ แยกแย้มกลีบนางออก ดวงตาคมกริบจับจ้องมองสีสันความงดงามนั้นด้วยความตื่นตะลึง เขารู้สึกพรึงเพริดทุกครั้งที่ได้จับจ้องกับความอูมอวบของฟ้าลดา“สีสวยเหลือเกินฟ้าจ๋า...”หล่อนจิกเล็บลงกับศีรษะของเขา และกรีดร้องไม่หยุด เมื่อกลีบสาวถูกโจมตีด้วยปากด้วยลิ้น และนิ้วมื
ตอนที่ 53.“ไปเถอะแวว ฉันรับรองด้วยเกียรติของลูกผู้ชายว่าจะไม่ทำร้ายคุณหนูของแววให้ต้องเจ็บปวด ฉันจะพูดดีๆ กับคุณหนูของแววโอเคไหม”“ก็ได้ค่ะ แต่อย่าทำให้คุณหนูร้องไห้นะคะ”“รับรองครับ”แววเดินจากไปแล้ว เขาจึงหันมามองบานประตูไม้ตรงหน้า ยกมือขึ้นค้างอยู่กลางอากาศ ตั้งใจจะเคาะเรียก แต่ก็รู้ดีว่าเจ้าของห้องไม่มีทางยอมเปิดง่ายๆ แน่นอน ดังนั้นการไขกุญแจเข้าไปเลยจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดคนที่นอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงรีบดีดตัวลุกขึ้นทันที เมื่อเห็นประตูห้องเปิดออกโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แต่นั่นยังไม่น่าตกใจเท่ากับคนที่ปรากฏตัวขึ้นหลังบานประตูไม้“นาย...”หล่อนช็อกค้าง ตาเบิกกว้าง ปากเผยอจนน้ำลายไหลย้อยออกมาคนตัวโตระบายยิ้มอ่อนๆ ก้าวข้ามธรณีประตูเข้ามาหา และดึงประตูให้ปิดสนิทลง พร้อมกับล็อกอย่างแน่นหนา“นี่ผัวนะไม่ใช่ผี ไม่ต้องทำหน้าตกใจแบบนั้นก็ได้ ฟ้าลดา”“นาย... มาได้ยังไง”“ขับรถมาครับ”“แล้ว... เข้ามาทำไม”เขาอมยิ้มน้อยๆ ก้าวเดินเข้ามาหา หญิงสาวตัวแข็งทื่อขยับไม่ได้“ก็เข้ามาหาเมียไงครับ”“ออกไปนะ ใครเป็นเมียนาย”เขามาหยุดยืนที่ขอบเตียง และมองหล่อนทั้งตัว มองด้วยสายตาเป็นเจ้าข้าวเจ้า
ตอนที่ 52.ฟ้าลดาจำรถของเอกกวีได้ ทันทีที่เห็นมันแล่นเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์ของตัวเองเท่านั้น หล่อนก็รีบโกยแน๊บขึ้นห้องนอนและล็อกประตูอย่างแน่นหนาเลยทีเดียว พร้อมกับกำชับแววไว้ ให้บอกว่าหล่อนไม่อยู่ไปบวชชีสามปีนั่นแหละถึงจะกลับมาแววรีบออกมาต้อนรับเอกกวีที่หน้าบ้านตามหน้าที่ ด้วยสีหน้าไม่ค่อยสบายใจนัก เพราะไม่ชอบที่จะโกหกแต่ก็เลี่ยงไม่ได้“สวัสดีค่ะคุณเอก ลมอะไรหอบมาถึงที่นี่คะ”เอกกวียิ้มตอบให้กับแวว“ไม่ได้มีลมอะไรหอบฉันมาหรอก ฉันตั้งใจมาที่นี่ด้วยตัวเองเลยแหละ”“เอ่อ ตั้งใจเลยเหรอคะ”“อืม”เอกกวีพยักหน้ารับ ก่อนจะชะเง้อคอมองเข้าไปภายในคฤหาสน์หลังงามเบื้องหน้า“คุณลุงอยู่ไหมครับ แวว”“อยู่ค่ะ เดี๋ยวเชิญคุณเอกเข้าไปนั่งดื่มน้ำเย็นๆ ในห้องรับแขกนะคะ แล้วแววจะไปเรียนคุณท่านให้ค่ะว่าคุณเอกมาขอพบ”“ขอบใจมาก” เอกกวีระบายยิ้ม“เชิญค่ะ”แววทำหน้าที่เชื้อเชิญแขกเข้าไปในบ้าน เอกกวีเดินตามไป แต่ก็อดที่จะเงยหน้าขึ้นมองชั้นบนของบ้านไม่ได้ และก็ได้เห็นเงาของใครบางคนแอบอยู่หลังม่านในห้องหนึ่ง เขาระบายยิ้มน้อยๆ และรีบก้าวตามแววไป“เชิญนั่งก่อนนะคะ เดี๋ยวแววไปเรียนคุณท่านก่อนค่ะ”เอกกวีพยักหน้ารับ ท