สงคราม....
"พี่กลับมาแล้วนะเราอยู่ไหนไม่มารับพี่" ผมโทรหาเอมอรคู่หมั้นของผมทันทีที่ลงจากเครื่องผมกับเอมเราไม่เจอกันเลยถึงสี่ปีเต็ม ถามว่าคิดถึงไหมก็มีบ้างเพราะเราสนิทกันตั้งแต่เด็กแถมยังหมั้นกันแล้วด้วยเราหมั้นกันก่อนที่ผมจะไปเรียนต่อที่หมั้นเพราะน้าอุษาขอร้องผมซึ่งผมก็ยอมหมั้นเพราะถึงยังไงซะผมก็ต้องแต่งงานกับเอมอยู่ดีมันคือข้อตกลงของพ่อผมกับพ่อเอมที่สัญญากันเอาไว้ตั้งแต่ผมกับเอมอรยังเล็ก แต่ถ้าถามว่าผมคิดถึงเอมทุกวันจนกินไม่ได้นอนไม่หลับไหมก็ไม่นะเฉยๆมากกว่าเพราะอยู่ที่โน่นผมก็คั่วหญิงไปเรื่อยใครเข้ามาแล้วผมถูกใจก็ลากขึ้นเตียง จนไอ้ชนะศึกพี่ชายผมมันบ่นว่าผมทำตัวเหมือนคนโสดไม่มีคู่หมั้น ผมก็เถียงมันนะว่าแค่หมั้นยังไม่ได้แต่งเพราะฉะนั้นผมจะเอากับใครก็ได้ผมจะหยุดก็ต่อเมื่อผมแต่งงานแล้วเท่านั้น
"คือตอนนี้เอมติดธุระสำคัญกับแม่น่ะค่ะกลับไปรับพี่ไม่ทันเอมโทษด้วยนะคะพี่คราม"
"แล้วตอนนี้เราอยู่ที่ไหนเดี๋ยวพี่ไปหา"
"เอ่อ คือตอนนี้เอมอยู่เกาหลีค่ะ"
"ห๊ะ เกาหลี ไปทำไมที่โน่นแล้วทำไมไม่บอกพี่"
"คือเอมมากระทันหันค่ะพี่ครามพี่ครามอย่าโกรธเอมนะคะ"
"หึ พี่คงไม่สำคัญกับเอมแล้วสินะ" ผมทำเสียงเหมือนน้อยใจ คือผมก็พูดไปงั้นแล่ะเพราะเอาจริงก็ดีใจนะที่เอมไม่อยู่ไทยเพราะคืนนี้ผมนัดเพื่อนสมัยเรียนไปเที่ยวผับด้วยกัน
"ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ พี่สำคัญกับเอมเสมอ เอางี้นะคะไว้เอมกลับไปเอมจะไถ่โทษพี่ด้วยการเอาใจพี่ทั้งคืนเลยรับรองพี่ต้องหายงอนเอมแน่ แต่ตอนนี้เอมขอวางสายก่อนนะคะ คือเอมต้องรีบไปทำธุระกับแม่ก่อนน่ะค่ะ ไว้เจอกันอาทิตย์หน้านะคะ"
"โอเคครับไว้เจอกันนะ" ผมยิ้มอย่างพอใจเมื่อรู้ว่าเอมจะไม่อยู่หนึ่งอาทิตย์
"โทรหาคู่หมั้นอยู่ใช่ไหมเจ้าลูกชาย"
"ครับพ่อ แต่เอมไม่อยู่เธอไปเกาหลี" ผมพูดอย่างไม่ได้ใส่ใจหรือเสียใจที่เธอไม่ได้มารับพร้อมเก็บมือถือเข้ากระเป๋ากางเกงยีนส์
"ไปเกาหลีทั้งที่รู้ว่าเราจะกลับมาจากอังกฤษนี่นะ เป็นคู่หมั้นภาษาอะไร"
"ก็ไม่เห็นเป็นไรเลยพ่อไม่อยู่ก็ดีเพราะคืนนี้ผมจะออกล่าอย่างสบายใจไม่มีใครโทรตาม"
"อะไรออกล่า"
"มันจะออกไปเที่ยวไปล่าหาสาวๆสวยๆไงครับพ่อ" เป็นไอ้ชนะศึกพี่ชายผมเองครับที่คอบคำถามพ่อ
"เพลาๆมั่งนะเรื่องผู้หญิง นี่ประเทศไทยทำอะไรก็หัดไว้หน้าพ่อหน้าแม่บ้างไหนจะคู่หมั้นเราอีก"
"ผมรู้ว่าควรทำยังไงผมไม่ทำอะไรโจ่งแจ้งหรือกินแบบเปิดเผยหรอกน่าพ่อสบายใจได้ ว่าแต่ทำไมแม่ไม่มารับผมล่ะ" ผมถามหาแม่เมื่อเห็นว่ามีแค่พ่อที่มารับผม
"แม่เราน่ะเหรอ มัวแต่จัดงานเลี้ยงอ้อนรับเราอยู่ที่บ้านน่ะสิไม่ยอมปล่อยให้ใครทำเลยจัดการคนเดียวหมด ดีนะที่มีหนูขวัญมาช่วย"
"เดี๋ยวนะพ่อ หนูขวัญ?? ยัยเด็กกาฝากลูกเมียน้อยลุงเขตน่ะเหรอ"
"ทำไมเรียกน้องแบบนั้น หนูขวัญน่ะน่ารักจะตายอีกทั้งยังนิสัยดีมากๆด้วยแม่เราทั้งรักทั้งเอ็นดู"
"ของขวัญมาช่วยแม่จัดงานที่บ้านเหรอครับพ่อ" ผมหันไปมองไอ้ชนะศึกที่มันมีท่าทีกระดี๊กระด๊าออกหน้าออกตาด้วยความดีใจเมื่อรู้ว่ายัยเด็กกาฝากนั่นช่วยจัดงานอยู่ที่บ้าน
บนรถ...
"พ่อยัยขวัญเป็นยังไงบ้างผมไม่เจอตั้งห้าปีป่านนี้คงโตเป็นสาวแล้วสินะ"
"อื้มตอนนี้ก็ยี่สิบแล้วเรียนครูด้วยนะ" ดูพ่อจะภูมิใจเหมือนกับว่ายัยนั่นเป็นลูก
"ผมจำได้ว่าเมื่อตอนเด็กๆขวัญจะชอบนั่งเล่นคนเดียวเอาตุ๊กตามาวางเรียงกันให้เป็นนักเรียนแล้วตัวเองเป็นคุณครู"
"น้องบอกว่าอยากเป็นครูอนุบาลคุณย่าก็เลยส่งให้เรียนครู"
"พี่กับพ่อจะพูดเรื่องยัยเด็กกาฝากนี่อีกนานไหม"
"ทำไมนายมีปัญหาอะไรฉันจะคุยกับพ่อเรื่องของขวัญ"
"พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบยัยนั่น เลิกพูดถึงซะทีเหอะ"
"อะไรกัน จนถึงป่านนี้นายก็ยังไม่เลิกเกลียดขวัญอีกเหรอวะ"
"ผมจะเกลียดยัยนั่นไปจนวันตายนั่นแล่ะ"
"หึเกลียดแบบไหนระวังจะได้แบบนั้นนะไอ้ลูกชาย"
"พ่อพูดแบบนี้หมายความว่าไง พ่อคิดว่าผมจะคิดอะไรยัยนั่นงั้นดิ"
"ก็ไม่แน่" ผมขี้เกียจเถียงพ่อก็เลยหยิบมือถืออกมาเพื่อแชทถามพวกเพื่อนๆว่าคืนนี้จะไปเจอกันที่ไหน
สักพักผมก็ได้ยินเสียงรถเจ้ามาตลอดพร้อมกับเสียงเอะอะโวยวายของสองแฝดแที่แปลกที่ไม่ได้ยินเสียงน้องข้าวเพราะปกติสามคนนี้ถ้าอยู่ด้วยกันมีอันต้องทะเลาะกันเสียงดังลั่นบ้าน ผมนั่งรอจนทุกคนเดินเข้ามาในบ้านรวมถึงน้องฟรังที่แกยกมือไหว้ผมพอผมรับไหว้เสร็จผมก็เดินไปดูหน้าบ้านเพราะผมไม่เห็นน้องข้าวเดินตามเข้ามาทั้งที่ไปด้วยกัน"ขวัญน้องข้าวล่ะ" ผมเดินเข้าในบ้านแล้วถามขวัญที่กำลังนั่งคุยกับน้องฟรังอยู่ที่ห้องรับแขก"แกน้อยใจแด๊ดดี้ของแกน่ะค่ะก็เลยงอนเดินหายไปไหนไม่รู้เดี๋ยวเฟยคงพากลับมา""ห๊ะ ลูกหาย!!!""แกไม่ได้หายหรอกค่ะ เดี๋ยวก็กลับมาแล้ว" ขวัญพูดเหมือนเป็นเรื่องปกติที่ลูกหายแต่ผมไม่ปกติไงนั่นลูกสาวสุดที่รักของผในะแล้วอะไรคือไอ้เฟยจะพากลับมา ในขณะที่กำลังจะเดินไปหยิบมือถือเพื่อโทรหาน้องข้าวเสียงรถก็แล่นเข้ามาจอดเป็นรถของไอ้เฟยผมจำได้ สักพักน้องข้าวก็วิ่งลงมาแล้วก็ร้องไห้แกวิ่งผ่านหน้าผมไปแล้ววิ่งขึ้นข้างบนผมจะเรียกก็ไม่ทันเลยหันไปถามไอ้เฟยอย่างเอาเรื่อง"นายทำอะไรลูกสาวฉันน้องข้าวถึงร้องไห้แบบนี้""ผมว่าพี่ไปถามลูกสาวพี่เองดีกว่านะเด็กอะไรเอาแต่ใจเป็นที่สุด" ผมหัวร้อนขึ้นทันทีที่มันว่าลูกสาวผมเอาแ
ของขวัญ....ตอนนี้น้องข้าวอายุสิบห้าแล้วค่ะอยู่มอสามส่วนสองแฝดได้สิบขวบอยู่ปอสี่แต่ถึงจะโตกันขนาดนี้แต่ทั้งสามคนก็ยังทะเลาะกันเถียงกันอยู่ทุกวัน"แม่ขาขึ้นรถมาเร็วๆค่าไปช้าเดี๋ยวรถติดน๊าาาา""ค่ะๆ" ฉันยิ้มให้ลูกก่อนจะเดินขึ้นรถตู้โดยมีสองแฝดนั่งเล่นมือถืออยู่ด้านหลังที่สนามบิน...พวกเราทั้งสี่คนยืนรอเฟยกับน้องฟรังด้วยความตื่นเต้นที่ฉันตื่นเต้นเพราะฉันอยากเห็นน้องฟรังเดินได้"แม่ขานั่นไงแด๊ดดี้แล้วก็อาฟรัง อาฟรังเดินได้แล้วค่า แด๊ดดี้ขาอาฟรังน้องข้าวอยู่นี่ค่า" น้องข้าวพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นพร้อมตะโกนเรียกจนฉันต้องปรามเพราะแกตะโกนเสียงดังเกินไปจนกระทั่งทั้งสองคนเดินมาหา"น้องฟรังเดินได้แล้วพี่ดีใจด้วยนะคะ""ขอบคุณค่ะพี่ขวัญ ว่าแต่หลานๆชองฟรังโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้วนะคะเนี้ยไม่เจอกันแค่สองปีเอง""สวัสดีครับอาฟรังอาเฟย""สวัสดีครับอาฟรังอาเฟย" สองแฝดยกมือไหว้ทั้งสองคนมีแต่น้องข้าวที่ยืนตัวแข็งทื่อมองหน้าแด๊ดดี้ของเธอแล้วน้ำตาคลอจนฉันต้องถามว่าลูกเป็นอะไร"น้องข้าวเป็นอะไรลูก""น้องข้าวดีใจที่แด๊ดดี้กลับมา ฮึก ฮึก น้องข้าวคิดถึงแด๊ดดี้ทุกวันเลยค่ะ" ฉันยิ้มให้กับความเจ้าน้ำตาสาวที่ไ
ที่โรงพยาบาล..."ยินดีด้วยนะคะคุณขวัญตั้งครรภ์ได้10สัปดาห์แล้วค่ะ และที่สำคัญ...เป็นท้องแฝดด้วยค่ะ^^" ผมแทบจะกระโดดอุ้มขวัญด้วยความดีใจแต่ก็เกรงใจคุณหมอกับพยาบาลก็เลยทำได้แค่ยิ้มที่ในที่สุดความพยายามของผมก็สัมฤทธิผลทำทุกวันถ้าไม่ท้องก็แปลกแล้วครับผมคงต้องพิจารณาตัวเอง หลังจากนั้นคุณหมอก็แนะนำอะไรหลายๆอย่างและบอกถึงความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ที่จะมีมากกว่าปกติ หลังจากได้ฟังคนข้างๆก็นั่งเงียบไม่พูดไม่จา แม้คุณหมอจะบอกวิธีการดูแลแล้วก็ตามระหว่างที่นั่งรอยาและใบนัด"พี่ครามคะขวัญกลัวจังเลยค่ะ""กลัวอะไรอีกครับ""ท้องแฝดดูแลลำบากแถมยังเสี่ยงกับอะไรหลายอย่าง ขวัญกลัวค่ะกลัวว่าขวัญจะดูแลพวกแกได้ไม่ดีพอ""ไม่ต้องกลัวอะไรทั้งนั้นแล้วก็ห้ามเครียดด้วยเข้าใจมั้ยพี่เชื่อว่าขวัญจะดูแลเจ้าแฝดน้อยได้ดีพี่มั่นใจและที่สำคัญพี่ก็จะดูแลขวัญกับลูกให้ดีที่สุด""ขอบคุณนะคะ""ไม่ต้องขอบคุณพี่หรอกครับ เพราะมันคือหน้าที่คือสิ่งที่พี่ต้องทำและพี่ก็เต็มใจทำมาตั้งแต่ต้น ขวัญก็รู้ว่าพี่อยากมีเจ้าตัวเล็กเพิ่มมาตั้งนานแล้วมีแต่ขวัญที่บอกให้รอน้องข้าวโตก่อน""ตอนนี้พี่ก็ได้สมใจแล้วไงคะ""ใช่แถมยังมาทีเดียวพร้อมกันสองค
สงคราม...."พ่อน้อยใจน้องจริงๆเหรอค้า""เอ่อ...ครับ พ่อน้อยใจจริงๆก็น้องไม่รักพ่ออ่ะน้องรักอาเฟยมากกว่าพ่อ" พอผมบอกแกก็เงยหน้ามองหน้าผมแล้วทำหน้าเศร้าจนผมรู้สึกผิดขึ้นมาที่ทำให้ลูกเศร้าก่อนที่แกจะซบลงมาที่อกของผมแล้วกอดผมตบหลังผมเบาๆคล้ายปลอบใจ"โอ๋ โอ๋ พ่อห้ามน้อยใจน้องสิค้า น้องรักพ่อที่สุดในโลกเลยนะค้าพ่ออย่าน้อยใจน้องเลยนะค้า น้องขอโทษที่ทำให้พ่อน้อยใจนะค้า" เอ็นดูลูกสาวทำไมแกน่ารักขนาดนี้"น้องข้าวรักพ่อมากกว่าอาเฟยใช่มั้ยครับ" "ค่า น้องรักพ่อมากกว่าแด๊ดดี้อาเฟยแต่ว่า...พ่อต้องตามใจน้องเหมือนที่แด๊ดดี้อาเฟยตามใจน้องด้วยนะค้า""........." อะไรคือต้องตามใจทุกอย่างถึงจะรักผมมากกว่าแด๊ดดี้อาเฟย "นะค้าพ่อขา" "แปลว่าถ้าพ่อตามใจน้องทุกอย่างน้องจะรักพ่อมากกว่าอาเฟยใช่มั้ยครับ""ใช่ค่าาา ^____^" ผมถึงกับพูดไม่ออกตกลงลูกมาง้อผมใช่ไหมหรือมาขอให้ผมตามใจแกทุกอย่าง"โอเคครับต่อไปนี้พ่อจะตามใจน้องข้าวทุกอย่างเลยขอให้น้องรักพ่อมากกว่ารักแด๊ดดี้อาเฟยก็พอ" ผมไม่มีทางเลือกแล้วไงครับก็เลยต้องตอบตกลง สงสารตัวเองจริงๆ เห้ออออ"แปลว่าตอนนี้คุณพ่อหายน้อยใจน้องแล้วใช่มั้ยค้า""ครับหายก็ได้ครับ" ไม่ห
ของขวัญ....ฉันเอือมระอากับพี่ครามที่ไม่รู้ทำไมเขาถึงไม่ชอบหน้าเฟยขนาดนี้ทั้งที่เฟยก็ไม่เคยทำอะไรให้เขาเลยสักครั้งคือเขาเป็นแบบนี้มาหลายปีแล้วตั้งแต่เจอหน้าเฟยครั้งแรกที่มหาลัยต่อให้เฟยจะทำดีพูดดีกับเขาแค่ไหนแต่เขาก็ยังไม่ชอบหน้าเฟยอยู่ดีเมื่อก่อนฉันคิดว่าเขาหวงฉันหึงฉันกับเฟยทั้งที่ฉันกับเฟยเป็นแค่เพื่อนกันเท่านั้นจนตอนนี้ผ่านมาห้าปีแล้วจนเรามีลูกด้วยกันคือน้องข้าวแต่เขาก็ยังไม่เลิกเกลียดเฟย แล้วยิ่งมาเป็นหนักเมื่อเห็นว่าลูกสาวคนเดียวของตัวเองติดเฟยอะไรอะไรก็แด๊ดดี้ คิดถึงแด๊ดดี้จะไปหาแด๊ดดี้ นั่นอาจจะเป็นเพราะเฟยตามใจน้องข้าวทุกอย่างน้องข้าวอยากได้อะไรเฟยก็ตามใจไม่เคยขัดไม่เหมือนฉันกับพี่ครามที่จะคอยดุคอยสอนเวลาที่แกดื้อไม่เชื่อฟัง คือยอมรับว่าแกโดยสปอยเยอะไม่ว่าจะเป็นคุณปู่ทัพคุณย่ากานคุณลุงศึกรวมถึงแด๊ดดี้เฟยแล้วไหนจะอาฟรังอีก อ้อลืมเล่าให้ฟังนะคะคือตอนนี้น้องฟรังยอมที่จะรักษาขาตัวเองแกบอกว่าเป็นเพราะน้องข้าวที่ทำให้แกอยากกลับมาเดินได้อีกครั้งน้องฟรังบอกว่าอยากเดินได้อยากวิ่งเล่นกับน้องข้าวอยากพาน้องข้าวไปเที่ยวเล่น ฉันดีใจที่น้องฟรังยอมเข้ารับการรักษาทั้งที่ผ่านมาเฟยขอร้องแล้วขอร
สงคราม...."ขวัญรู้ได้ไงว่าลูกจะหน้าเหมือนพี่" ผมถามอย่างสงสัยว่าขวัญรู้ได้ยังไงว่าลูกจะหน้าเหมือนผมเพราะตอนนี้ลูกยังไม่คลอดเลย"เพราะขวัญเคยเจอแกมาแล้วค่ะ""เจอมาแล้ว?? เจอตอนไหน" ผมถามอย่างงงๆ และไม่เข้าใจว่าขวัญเจอแกยังไง"ตอนนั้นที่ขวัญยังนอนไม่ได้สติขวัญเจอกับคุณย่าแล้วก็คุณพ่อของขวัญค่ะท่านทั้งสองพาแกกลับมาหาขวัญทั้งๆที่ตอนนั้นแกไม่อยู่กับขวัญแล้ว แกหน้าตาเหมือนพี่มากเลยนะคะไม่ว่าจะเป็นรอยยิ้มแววตาแกได้พี่มาหมดเลย""แกเหมือนพี่จริงๆเหรอ""ค่ะเหมือนมากที่สุด แค่มองแว๊บเดียวก็รู้เลยว่าเป็นลูกของพี่^^""ถ้างั้นขวัญก็ต้องรู้แล้วล่ะสิว่าแกเป็นเด็กผู้หญิงหรือเด็กผู้ชาย""ใช่ค่ะขวัญรู้ พี่เตรียมไว้หนวดไว้ได้เลยนะคะ""หมายความว่า..."หลายปีต่อมา..."พ่อขา พ่อขา" เด็กหญิงพิมพ์ชนกหรือมีชื่อเล่นว่าน้องขวัญข้าวลูกสาวตัวน้อยวัยสี่ขวบวิ่งมาหาผมขณะที่ผมกำลังเดินเข้าบ้านมาหลังจากเลิกงานผมรีบอุ้มแล้วกอดหอมแกด้วยความคิดถึง"ว่าไงครับน้องข้าวคนสวยของพ่อ""พ่อขาพาน้องข้าวไปบ้านแด๊ดดี้ทีสิค้า""ห๊ะ!!!ไปบ้านไอ้..เอ่อไปบ้านแด๊ดดี้เหรอครับ?? ไปทำไมครับลูก""น้องข้าวอยากเจอแด๊ดดี้ค่าน้องข้าวคิดถึงแด๊ดด