Share

บทที่ 10

ฉันรีบขอบคุณเขา และอีกฝ่ายก็ตอบกลับ “ถ้าอยากปราบผี ก็ต้องฝึกลมปราณก่อน ถ้าในร่างกายของเธอไม่มีพลัง ก็ใช้ได้แค่วิธีที่คนธรรมดาใช้กัน อันนั้นจะสามารถจัดการพวกวิญญาณอาฆาตได้ แต่ถ้าจะจัดการพวกวิญญาณชั่วร้าย วิญญาณมุ่งร้าย พลังจะไม่พอเอาได้ ในตอนท้ายของหนังสือเล่มนี้มีวิธีการฝึกลมปราณ เธอลงไปฝึกดู ถ้าเธอฝึกได้ ฉันค่อยสอนขั้นตอนที่ลึกกว่านั้น”

ฉันเห็นเขากำลังจะออฟไลน์ จึงรีบถาม “ราชาตัวจริง คุณรู้จักแผลจากกรรมชั่วไหมคะ?”

“ห๊ะ?” ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางตอบด้วยความแปลกใจ “เธอถามฉันทำไม?”

ฉันหัวเราะแห้ง ๆ “แค่ถามเฉย ๆ”

ราชาตัวจริงแห่งเจิ้งหยางว่าต่อ “แผลจากกรรมชั่วมันคือคำสาปชนิดหนึ่ง บรรพบุรุษของเราได้ทำกรรมชั่วอย่างร้ายแรงไว้ บาปกรรมของเขาจึงส่งต่อไปยังรุ่นลูกรุ่นหลาน ทำให้พวกเขามีแผล”

จุนเหยาได้ยินแล้วขนลุกทันที บรรพบุรุษของฉันไปทำบาปกรรมอะไรไว้ มันถึงได้ตกมาอยู่บนร่างกายฉันอย่างนี้นะ

ฉันมันไร้เดียงสามาก ๆ

“แล้วจะมีวิธีแก้ไขไหมคะ?” ฉันถามอย่างรอบคอบ

“ถ้าอยากแก้ก็ไม่ยาก แค่ฆ่าคนชั่ว ฆ่าวิญญาณชั่วร้ายให้เยอะหน่อยก็ได้แล้ว”

ในที่สุดฉันก็เข้าใจแล้ว ไม่แปลกที่หลังจากฉันฆ่าผีหมอเจิ้ง ผีอันซื่อปิง และผีชายชราที่ฆ่าคนนับไม่ถ้วนนั้น แผลบนใบหน้าของฉันก็ค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ ที่แท้ก็เป็นการหักล้างบาปกรรมที่มีอยู่บนตัวฉันนี่เอง

พลันเทพเจ้าตัวจริงแห่งเจิ้งหยางก็ออฟไลน์ไป ฉันคลิกเข้าไปดูข้อมูลส่วนตัวเองเขา ไม่มีข้อมูลอะไรเลย ทุกช่องนั้นว่างเปล่า

เหมาะกับเป็นผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ

ฉันปริ๊นท์อีบุ๊คออกมาและเริ่มฝึกลมปราณตามคำแนะนำ น่าเสียดายที่ฉันนั่งไขว่ห้างทั้งคืนจนไม่รู้สึกถึงลมปราณเลย

กระทั่งฟ้าสว่าง พระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออก แสงอาทิตย์จากนอกหน้าต่างส่องเข้ามา ขณะที่ฉันสะลึมสะลือ ฉันเห็นแสงสีม่วงผ่านตาไปแวบหนึ่ง จึงรีบออกไปดูทันที แสงนั้นขยายออกและส่องเข้ามาที่ฝ่ามือฉัน

ณ เวลานั้น ฉันรู้สึกได้ถึงกระแสความอุ่นในร่างกาย แม้ว่าจะเป็นเพียงเส้นเล็ก แต่มันกลับเป็นไปตามที่ต้องการและเคลื่อนไหวในร่างกายอย่างอิสระ

ร่างเล็กลิ่งโลดดีใจ แบบนี้มันคือลมปราณที่โบราณเขาว่ากันหรือเปล่า?

ทันใดนั้นฉันได้กลิ่นเหม็น จึงก้มหัวลงไปดูพบว่ามีชั้นเหงื่อเหม็นออกมาจากร่างกาย ฉันไม่รู้สาเหตุว่ามาได้อย่างไร แต่กลิ่นเหงื่อพวกนี้ส่งกลิ่นเหม็นมากจนฉันได้กลิ่นแล้วอยากจะอาเจียน

หลังจากอาบน้ำเสร็จ ฉันก็ส่องกระจกอีกครั้ง ก่อนพบว่าเนื้องอกที่แก้มขวาหายไป หรืออาจจะเป็นเพราะฉันสูดควันดำตอนที่ก้งชายตาย

ก้งชายต้องเป็นคนเลวมากแน่ ๆ ไม่รู้ว่ามีคนตายเพราะหนอนพิษกู่มาแล้วกี่คน

ฉันนึกภาพตอนถังหมิงหลีหยิบมีดกริช ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า เขาเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว

เขาทั้งเท่มาก หล่อมาก และโหดมากเช่นกัน

เขาต้องไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ๆ

มือเรียวตบหน้าตัวเองเบา ๆ “หยวนจุนเหยา อย่าลืมสถานะตัวเองสิ เธอเป็นแค่ผู้หญิงน่าเกลียดคนหนึ่ง ผู้ชายที่ทั้งหล่อและรวยแบบนั้น ไม่มีทางที่จะจริงใจกับเธอจริง ๆ หรอก เธอไม่ควรประมาทเพียงเพราะความอบอุ่น ความใส่ใจของเขานะ

ฉันแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยและกำลังจะออกไปหาน้องชายที่โรงพยาบาล ทันทีที่เปิดประตูก็เจอกับถังหมิงหลียืนยิ้มให้อยู่ที่ทางเดิน

“นายถัง มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” ฉันถาม

ถังหมิงหลีตอบ “ก็ไม่มีเรื่องใหญ่อะไรหรอก ฉันแค่จะชวนเธอไปทานข้าวสักมื้อ”

“ฉันไม่ชินกับการทานข้าวนอกบ้าน” ฉันปฏิเสธอย่างสุภาพ แต่ถังหมิงหลียังคงพูดต่อ “ ฉันมีข้อมูลบางอย่าง ที่เหมาะกับการไลฟ์สด เราจะได้ทานไปคุยไปด้วยไง”

ฉันถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ เพราะอยากไลฟ์สดต่อไป ไม่อยากรบกวนคนอื่น ฉันก็ยังต้องพึ่งพาเขาอยู่

วันนี้อีกฝ่ายขับรถปอร์เช่ คาร์เย่นสีแดงมา เจ้าของร้านอาหารของที่ฉันทำงานก่อนหน้านี้ก็มีหนึ่งคัน ฉันเคยมองอยู่ห่าง ๆ แล้วรู้สึกอิจฉามาก ๆ ไม่รู้ว่าจะได้นั่งสักครั้งในชีวิตไหม คิดไม่ถึงว่าจะได้นั่งแล้วจริง ๆ

“เธอเพิ่งได้รับพิษงู ร่างกายยังฟื้นฟูไม่หมด เราไปกินอาหารมังสวิรัติกันเถอะ” ถังหมิงหลีกล่าว “ในเขตตงเฉิงมีร้านอาหารมังสวิรัติร้านหนึ่งชื่อเสียงดังมาก”

ปอร์เช่คาเยนน์ ชะลอความเร็วหยุดจอดตรงหน้าประตูโบราณ ฉันมองขึ้นไป บนประตูสีแดงสดมีป้ายแผ่นหนึ่ง บนป้ายใช้ตัวอักษรที่ใช้อย่างเป็นทางการสมัยราชวงศ์ฮั่น เขียนว่า ทำจิตใจให้สงบ

ทันทีที่เดินเข้าประตู สาวสวยสวมชุดกี่เพ้าสีขาวลายดอกไม้สีฟ้าเดินเข้ามาและกล่าวด้วยความเคารพ “คุณชายถัง เชิญทางนี้ค่ะ”

ขาเรียวเดินตามร่างสูงผ่านโคมไฟที่แขวนตามทางเดิน ภายในร้านจิ้งซินจายตกแต่งสไตล์โบราณ สวนด้านนอกเต็มไปด้วยต้นไผ่ อากาศด้านในอบอวลไปด้วยกลิ่นไม้จันทน์ เรียบง่ายและสวยงามมาก

“โอ้ คุณถัง ไม่เจอกันนานเลยนะครับ” ชายหนุ่มคนหนึ่งเดินมาหาเขา เขาสวมชุดลำลองที่ดูดี หน้าตาของเขาก็ค่อนข้างดีอีกด้วย ระหว่างคิ้วดูมีโหงวเฮ้ง ข้าง ๆ เขาเป็นหญิงสาวหน้าตาสวยมีเสน่ห์ ฉันรู้สึกคุ้นหน้าเธอ ลองคิด ๆ ดูนั่นใช่นางแบบชื่อดังทั้งในและต่างประเทศที่ชื่อว่าเซี่ยน่าหรือเปล่านะ?

ถังหมิงหลีค่อย ๆ เหลือบมองเขา “คุณหลง ไม่เจอกันนานเลย”

คุณหลงมองมาที่ฉัน เขายิ้มให้ “คุณถัง คนนี้คือแฟนใหม่เหรอ? รูปร่างดีใช้ได้เลยนะ ไม่รู้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร อากาศร้อนแบบนี้ทำไมถึงใส่หน้ากากสวมหมวกล่ะ?”

ฉันไม่ชอบสายตาที่เขามองมา ฉันจึงรีบก้มหน้าหลบลงทันที

ถังหมิงหลียืนอยู่ข้างหน้าฉัน เสียงเข้มพูดเอื่อย ๆ “คุณหลง ไม่เจอกันสองสามเดือน แต่ยังชอบก้าวก่ายเรื่องของคนอื่นไม่เปลี่ยนเลยนะครับ”

คุณหลงหัวเราะอย่างสนุกสนาน “ปกป้องกันจริง ๆ วางใจเถอะ ผมไม่แย่งของคุณหรอก” เขาโอบเซี่ยน่า และกระซิบข้างหูของเธอ เธอขำออกมาและกล่าวว่า “แต่ฉันคือซุปเปอร์โมเดลระดับนานาชาตินะ”

“หยาบคาย” ถังหมิงหลีกล่าวอย่างเหยียดหยามและเขาพาฉันเข้าไปในห้องส่วนตัวข้าง ๆ

เรานั่งที่เก้าอี้ของแต่ละคนที่โต๊ะกลมสีแดง สาว ๆ ในชุดกี่เพ้าสีฟ้าลายดอกสีขาวเดินเรียงเข้ามาเสริ์ฟอาหารหลากหลายชนิด

ไก่รมควันมังสวิรัติ ซี่โครงหมูผัดเปรี้ยวหวานมังสวิรัติ เห็นออรินจิเทอริยากิ…

อาหารมังสวิรัติแต่ละอย่างทั้งน่ากินและรสชาติอร่อย ฉันไม่เคยกินอาหารที่ดีๆแบบนี้มาก่อน จนอดไม่ได้ที่จะชี้นิ้ว

พอถังหมิงหลีเห็นฉันกินอย่างมีความสุข เขาก็ยกยิ้มมุมปากเล็ก ๆ นัยน์ตาของเขาดูผ่อนคลายโดยที่เขาไม่รู้ตัว

เขาบอกฉันว่าการไลฟ์สดของฉันได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก คนจำนวนมากกำลังรอฟังข่าวของฉันอยู่ หนำซ้ำยังมีนักข่าว บริษัทเซ็นสัญญาไลฟ์สด หรือแม้แต่คนจากความมั่นคงแห่งชาติเข้ามาติดต่อ แต่เขาช่วยกันคนพวกนั้นให้แล้ว เพราะกลัวว่าจะมารบกวนชีวิตของฉัน

เขาเอาข้อมูลสองสามส่วนมาให้ฉันเลือก เพื่อเตรียมพร้อมการไลฟ์สดครั้งถัดไป

ทีวีมีกฎว่าบล็อกเกอร์จะแบ่งเป็นระดับ คนที่เพิ่งลงทะเบียนใหม่อยู่ในระดับหญ้า ถัดขึ้นมาก็เป็นระดับเหล็ก ระดับเงิน ระดับทอง และระดับที่สูงที่สุดคือระดับเพชร

ส่วนแบ่งของระดับหญ้าจะน้อยที่สุด ของรางวัลก็น้อยมาก ส่วนระดับเพชรเป็นระดับที่สูงที่สุด ส่วนแบ่งสูงถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ รางวัลเองก็สูงเสียดฟ้าเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ในบรรดาช่องทีวีทั้งหมดจะมีบล็อกเกอร์ระดับเพชรแค่หนึ่งคนเท่านั้น

ผลการไลฟ์สดครั้งล่าสุดของฉันดีมากและได้รับการเลื่อนขั้นเป็นระดับเหล็ก ตอนนี้ส่วนแบ่งคือเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์

แต่หากไม่มีการไลฟ์สดเป็นระยะเวลานาน ทีวีก็จะลดระดับของบล็อกเกอร์ลง ซึ่งไม่คุ้มกับการเสียไปมาก ๆ

สำหรับฉันแล้วฉันคิดว่าโรงแรมสยองขวัญนี้น่าสนใจที่สุด

โรงแรมเอมส์เป็นโรงแรมระดับห้าดาว แต่มีข่าวลือว่าโรงแรมแห่งนี้มีผีสิง ว่ากันว่าห้องหนึ่งแปดหนึ่งสี่ผีดุมาก หลังจากโรงแรมสร้างเสร็จได้ไม่นานก็มีแขกคนหนึ่งแขวนคอตายในห้องนั้น

หลังจากนั้นก็เริ่มมีคนทะยอยตายไปทีละคน ว่ากันว่าข้างในนั้นมีคนตายเจ็ดถึงแปดคน

บางครั้งก็ได้ยินเสียงแปลก ตอนกลางคืน ในห้องน้ำมีเสียงร้องเศร้า ๆ ราวกับว่ามีผู้หญิงกำลังฮำเพลง ซึ่งน่ากลัวมาก ๆ

โรงแรมเอมส์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องปิดผนึกห้องนั้น

ถังหมิงหลีบอกว่าโรงแรมเอมส์เปลี่ยนเจ้าของแล้ว เขาเป็นคนที่ไม่เชื่อเรื่องผีสาง เขาต้องการหาโอกาสพิสูจน์ว่าในห้องนั้นไม่มีผี เขาจึงเปิดห้องนั้นให้ใช้บริการอีกครั้ง แต่ก็ยังไม่มีใครกล้าเข้าไปอยู่

เราสองคนตกลงกันว่าจะไปไลฟ์สดที่โรงแรมเอมส์ในอีกสองวัน ระหว่างมื้ออาหาร ฉันรู้สึกอยากเข้าห้องน้ำ จึงเดินออกมาหาห้องน้ำ แต่ห้องน้ำสุดทางเดินมีคนอยู่ ฉันรอนานแล้วก็ยังไม่ออกมา ฉันจึงต้องเดินข้ามสวนเพื่อไปห้องน้ำฝั่งตรงข้าม

ขณะที่กำลังเดินผ่านสวน จู่ ๆ ก็มีร่างหนึ่งปรากฏต่อหน้าฉัน ฉันมองผ่านแสงสลัว ที่แท้ก็เป็นคุณหลงที่เจอกันก่อนหน้านี้

“เธอเป็นแฟนสาวของคุณถังใช่ไหม? ทำไมเดินออกมาคนเดียวล่ะ?” คุณหลงหัวเราะอย่างสนุกสนาน

ฉันขมวดคิ้วไม่อยากคุยกับเขา แต่ทันใดนั้นเขาคว้าตัวฉันและโน้มตัวลงมาสูดหายใจ

“หอมจังเลย ฉันไม่เคยดมกลิ่นหอมๆแบบนี้มาก่อน เธอใช้น้ำหอมแบรนด์อะไรเหรอ?”

“คุณหลง กรุณาเอามือคุณออกไปด้วยค่ะ” ฉันพูดเบา ๆ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status