 LOGIN
LOGIN8
- เมาขาดสติ -
(- -) (o o) (0 0) นี่คือสีหน้าของฉันเมื่อลืมตาตื่นขึ้น
‘เชี่ยแล้ว ยัยฟ้า ตัวแกทำอะไรลงไปเนี่ย’ ดวงตาฉันเบิกกว้าง ร่างกายที่รู้สึกว่าไร้การห่อหุ้มจากเสื้อผ้า เมื่อเปิดดูร่างกายตัวเองภายใต้ผ้าห่มที่คลุมอยู่ ก็รับรู้ได้ถึงความเย็นวาบจากร่างกายเปลือยเปล่า ดูเหมือนจะมีรอยไปทั่วตัว ‘ระ..รุนแรงอะไรอย่างนี้’ ฉันเริ่มทำตัวไม่ถูก และค่อยๆ หันมองไปยังคนที่นอนข้าง ๆ
‘คุณพระ!!! นี่มันคุณเอ็ดเวิร์ด’ ฉันยกมือปิดปากตัวเองทันที จากที่สะลืมสะลือ ตอนนี้รู้สึกตื่นเต็มที่ชนิดที่อยากจะวาปหนีจากตรงนี้ไปให้ไกล
แล้วรอยตามตัวเขานั่นมันอะไรกันทำไมถึงเยอะขนาดนั้น คราวก่อนที่เคยเจอกัน แม้เขาจะกำลังมีเซ็กซ์กับผู้หญิงหลายคน แต่ตอนนั้นร่างกายเขาแทบขาวสะอาด ไร้รอยประทับด้วยซ้ำ แม้แต่รอยลิปสติกยังไม่มี แต่คราวนี้ตามตัวเขาดันเป็นรอยใหม่ ๆ ซะด้วย เดี๋ยวนะ อย่าบอกนะว่า เป็นฉันที่ฝากไว้ ยัยหื่น ยัยเรื้อน ยัยลามกเอ้ย คอแกได้ขาดสะบั้นแน่ถ้าเขาตื่น
ทั้งที่รู้ว่าฉันเมาแล้วฉันจะเป็นแบบนี้ ฉันก็ยังดื่มเหล้ากับคนที่พึ่งพบกันครั้งแรกอีก เรื่องนี้จะโทษใครไม่ได้เลยนอกจากตัวฉันเอง
คุณเอ็ดเวิร์ดคงไม่คิดอะไร ไม่งั้นคงไม่ปล่อยฉันจนตื่นมาตอนนี้ เพราะเขาเองก็คั่วสาวไปทั่วอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งที่ฉันล่วงเกินเขาไป เขาคงไม่ถือสาอะไรแน่ ๆ
ฉันอยากจะเก็บความบริสุทธิ์ให้สามีในอนาคต ดูท่ามันคงพังทลายไปตั้งแต่ต้นแล้วสินะ พอดื่มเหล้าแล้วธาตุแท้ดันออก อยากสัมผัสเขาจนตัวสั่นสิท่า ยัยฟ้าครามคนโง่ เจอคนที่สเปกหน่อยก็อดทนไม่ได้
“ฉันต้องรีบหนีก่อนที่เขาจะตื่น” ฉันค่อย ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นอย่างเบาที่สุด ไม่ให้เตียงสะเทือน จนเกิดเสียงใด ๆ ที่เสี่ยงจะทำให้เขาตื่นขึ้น จากการนอนหลับสนิทหรอก
“อั่ก....ปะ...ปวดหนึบชิบหาย” ร่างกายที่เมื่อได้ยืนก็รับรู้ได้ถึงความปวดร้าวไปทั้งตัว
ยิ่งมองไปรอบ ๆ มุมนั้นก็เละ มุมนี้ของก็หล่นตกไปหมด ชุดเขา และ ชุดของฉันทั้งเดรส กางเกงใน บรา คือปลิวไปคนละทาง โอ๊ยยยยยยยยย อยากจะบ้ารู้ถึงไหนอายถึงนั่น
ครั้งแรกดันมีกับคนแปลกหน้า แถมมอบให้กับคนเจ้าชู้ เซ็กซ์ไม่เลือกอีก หัวจะปวดเลยกู
เมื่อฉันสวมใส่ชุดและรวบผมให้เรียบร้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้แล้วนั้นก็คว้ากระเป๋าเพื่อเตรียมออกจากห้องทันที
ก่อนออกจากห้องฉันหันไปมองร่างเปลือยของเขาเป็นบุญตาตอนยังมีสติอีกสักหน
“เอาวะ อย่างน้อยครั้งแรกก็ได้กับคนหล่อฟ้าประทานขนาดนี้ถือว่ากำไรได้อยู่ จากนี้ยังไงก็คงไม่ได้เจอกันอีกหรอก” ฉันส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินออกจากห้องนี้ไปแบบระแวดระวัง เมื่อมองว่าไม่มีใคร ก็วิ่งกุลีกุจอกลับไปยังห้องของตัวเองอย่างเร่งด่วน อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องเข้าร่วมประชุมโครงการแล้วนะสิ
(
ณ.ห้องพัก สวีทรูม วีไอพี
ชายร่างกำยำลืมตาตื่นขึ้น แท้จริงแล้วเขาตื่นนอนก่อนที่เธอจะตื่นขึ้นเสียอีก แต่เพราะเขาอยากดูปฏิกิริยาของเธอ จึงทำให้เขาแสร้งทำเป็นยังนอนอยู่ เขายกแขนก่ายหน้าผาก และจู่ ๆ ใบหน้าเขาก็ยกยิ้มขึ้นเมื่อนึกท่าทีของเธอเมื่อสักครู่
“หึ...คิดว่าจะหนีไปง่าย ๆ อย่างนั้นเหรอ”
ไม่นานนักลูกน้องคนสนิทของเขาก็เข้ามาภายในห้องเพื่อแจ้งกำหนดการ
“ท่านครับ ใกล้ถึงเวลาประชุมแล้วนะครับ”
“รู้แล้วเตรียมชุดให้ฉัน”
“ผมจัดเตรียมทุกอย่างไว้แล้วครับ”
“ดี วันนี้ถึงเวลาที่ต้องเปิดตัวซะที”
“เอ่อ วันนี้สีหน้าท่านดูอารมณ์ดีนะครับ เมื่อคืนนอนหลับสบายหรือเปล่าครับ”
“อืม เหมือนจะเป็นแบบนั้น”
“จริงเหรอครับ ที่ท่านบอกว่าหลับสบาย” สีหน้าของลูกน้องคนสนิท อ้าปากเหวออย่างตกใจ เพราะเป็นครั้งแรกที่เขาได้ยินนายของตัวเองพูดว่านอนหลับสบาย
“ว่าแต่คุณผู้หญิงคนสวยเมื่อคืนไปไหนแล้วล่ะครับ”
“หนีไปแล้ว” เสียงทุ้มเข้มตอบ
“ท่านปล่อยให้เขากลับเหรอครับ นาน ๆ ท่านจะมีผู้หญิงที่ทำให้นอนหลับได้” ลูกน้องคนสนิทรู้สึกเสียดายมาก และแปลกใจที่นายของเขาปล่อยเธอออกไปอย่างง่ายดาย ทั้งที่เขาควานหาคนที่จะทำให้เขานอนหลับได้สบายมาหลายปีแล้ว
“หึ ไม่ใช่เรื่องที่ต้องกังวลไป ยังไงซะเธอคนนั้นก็ลูกไก่ในกำมือ” สีหน้าของเอ็ดเวิร์ดแสดงออกมาด้วยความมั่นใจ ก่อนที่เขาจะคว้าผ้าเช็ดตัวและเดินเข้าไปห้องน้ำอย่างสบายอารมณ์
“ยังไงซะ เดี๋ยวเราก็ได้เจอกันแล้ว”
)
ณ.ห้องพักของฟ้าคราม
ฉันกลับมาถึงห้อง อันดับแรกฉันต้องการอาบน้ำอย่างแรง เนื้อตัวฉันมันทั้งเหนียว แถมกลิ่นน้ำหอมของเขาก็ติดไปทั่วตัวฉัน ราวกับไม่มีส่วนไหนเลยที่ไม่ได้แนบเนื้อกัน ยิ่งอาบน้ำแล้วจ้องมองไปยังกระจกก็ยิ่งพบร่องรอยอารยธรรมตามตัว ตั้งแต่คอ เนินนม ลามไปจนต้นขา วดฟ. มากแม่ ดีนะที่ฉันยังพกเครื่องสำอางชุดใหญ่มาด้วย ดังนั้นการลบรอยพวกนี้ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับสาว ๆ ล่ะนะ
วันนี้แต่งตัวด้วยชุดสูทที่จัดเตรียมไว้ ทรงผมก็รวบเก็บให้ดูสุภาพ แต่งหน้าด้วยโทนสีอ่อนไม่จัดจ้าน หันตัวซ้ายขวามองกระจก เพื่อตรวจดูความเรียบร้อย
"อืม ใช้ได้แล้วล่ะ" ฉันยิ้มให้ตัวเองในกระจกเสริมความมั่นใจ แน่ล่ะดีลงานมูลค่าพันล้านครั้งนี้ต้องเป็นของบริษัทไอ้กรณ์กับฉันให้ได้เลยคอยดู
ไม่รู้เหมือนกันว่ากลุ่มนายทุนจะเป็นรูปแบบไหน แต่ก็ต้องระแวดระวังไว้ก่อนเพราะหากเขาจะสร้างโรงแรมนี้ นอกจากเป็นที่พักแล้วยังมีบ่อนพนันในตัว นายทุนก็คงไม่ได้ขาวสะอาดนักหรอก อาจจะเป็นพวกกลุ่มตาแก่นักเลงที่ชอบข่มเหง วางมาดก็เป็นได้ ดังนั้นทำใจรับคำดูถูกไว้หน่อยดีกว่า
ฉันหยิบมือถือเพื่อโทรไลน์หาไอ้กรณ์ผู้เป็นทั้งหัวหน้า และเพื่อนสนิท
“ฮัลโหล กูพร้อมแล้ว มึงอย่างลืมเตรียมเอกสารของมึงให้ดีด้วยล่ะ”
(เรียบร้อยทุกอย่างแล้ว เรามาคว้างานใหญ่กันเถอะเพื่อน)
“เออ เจอกันหน้าห้องประชุมนะ”
“ได้เลย”
ฉันเดินออกจากห้องพักตัวเอง ถามว่าตื่นเต้นมั้ย ก็มีนิดหน่อย แต่ก็เตรียมเผื่อใจรับความผิดหวังไว้บ้างแล้ว
แม้ที่ผ่านมาฉันจะมั่นใจในการดีลงานที่ไม่เคยพลาดสักครั้ง แต่งานพวกนั้นมันเทียบไม่ได้กับโครงการนี้เลย แต่ไม่ว่าผลจะเป็นยังไง อย่างน้อยขอแค่ให้บริษัทเราได้แสดงศักยภาพในการนำเสนอให้ประจักษ์ต่อสายตานายทุนรายใหญ่ไว้ก่อน หากพลาดโอกาสนี้ อย่างน้อยหากมีโอกาสหน้าพวกเขาจะได้มองเห็นบริษัทเราในสายตาบ้าง ถือว่าเป็นการวางคอนเนคชั่นได้ดี
ตอนนี้ฉันเดินมาจนถึงหน้าประตูทางเข้าห้องประชุมแล้ว เนื่องแน่นไปด้วยนักธุรกิจที่พกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยมว่าจะได้งานใหญ่แห่งนี้ ฉันเองก็เหมือนกัน ความมั่นใจในการเสนองานของฉันเต็มร้อยสุด ๆ แต่จะได้ไม่ได้ก็อีกเรื่อง
“อยู่ไหนกันนะ” ฉันพยายามมองหาไอ้กรณ์ มองหาไม่นานก็พบว่าไอ้กรณ์กำลังยืนคุยกับนักธุรกิจคนอื่น ๆ อยู่
“ท่านคะ ดิฉันมาแล้วค่ะ” ฉันที่ต้องสวมบทบาทเป็นเลขาเฉพาะกิจ
“คุณฟ้าครามมาแล้วสินะ เอกสารที่ผมให้เตรียมเรียบร้อยดีใช่มั้ย”
“ค่ะท่าน ดิฉันเตรียมเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“งั้นก็ดี เราเข้าไปด้านในกันเถอะ” ไอ้กรณ์ หันมาพูดกับฉัน ก่อนที่จะหันไปพูดกับนักธุรกิจตรงหน้า “ผมขอตัวเข้าไปก่อนนะครับ หวังว่าบริษัทเราจะได้ร่วมงานกันในอนาคต”
“แน่นอนครับ ผมตั้งตารอวันนั้นที่จะมาถึงเลยครับ” นักธุรกิจคนหนึ่งตอบรับเช่นกัน ดูท่าไอ้กรณ์มันคงจะพยายามหาคอนเนคชั่นไว้เหมือนกัน ทำดีมากเพื่อน
เมื่อปลีกตัวออกมาจากวงสนทนาได้แล้ว พวกเราเข้าไปยังที่นั่งประจำจุดโดยมีป้ายชื่อกำกับซึ่งเป็นส่วนที่ทางโรงแรมได้เตรียมไว้ พอเรานั่งเสร็จ ไอ้กรณ์ก็หันมากระซิบกับฉัน
“วันนี้ดูสีหน้าสดชื่นนะ เมื่อคืนหลับสบายมาเหรอ”
“หืม...ก็นอนปกตินิ”
“ปกติ ดวงตาต้องดูหม่น ๆ เหมือนคนโดนผีอำ บอกมาเมื่อคืนไปทำอะไรมา ฟ้า”
“เสียงดังไปแล้ว กูไม่ได้ทำอะไร นี่ก็เพิ่งลุกจากเตียงตื่นมาเนี่ย” สีหน้าไอ้กรณ์ดูไม่เชื่อที่ฉันพูดเท่าไหร่ พวกเรารู้จักกันมานานไม่แปลกที่หากฉันจะเปลี่ยนไปนิดมันก็จะจับสังเกตได้ทันที
ไม่ทันไรภายในห้องประชุมก็เต็มถนัดตา ดูเหมือนเหล่านักธุรกิจจะเข้ามาครบทุกที่นั่งแล้ว
“เอาล่ะครับพวกเราจะเริ่มประชุมกันแล้วนะครับ ขอให้ทุกท่านอยู่ในความสงบ” คนที่กล่าวน่าจะเป็นคนหนึ่งในหมู่กลุ่มนายทุน ดูภูมิฐานมาก สมเป็นพวกคนรวยขนานแท้
แต่แล้ว ก็มีนักธุรกิจคนหนึ่งยกมือขึ้น เหมือนจะกล่าวถามอะไรบางอย่าง
“ขอโทษนะครับ ไม่ทราบว่า ประธานของพวกคุณจะมาหรือยังตั้งแต่ผมมา ผมไม่ยักกะเห็น” สิ้นคำของนักธุรกิจคนหนึ่งเอ่ย หนึ่งในกลุ่มนายทุนได้เอ่ยถามเขาอย่างเสียงเรียบนิ่ง
“คุณมาจากบริษัทไหนครับ”
“ผมมาจากบริษัท Y ครับ”
“งั้นทางเราของเรียนแจ้ง ยกเลิกการว่าจ้างบริษัทคุณเชิญออกจากห้องประชุมได้ครับ” สิ้นเสียง นักธุรกิจทุกคนในห้องประชุม ต่างก็ตกใจที่ทางกลุ่มนายทุนปฏิเสธการดีลง่ายกับบริษัทด้วยเหตุผลเช่นนี้ ทำให้ทุกคนที่กำลังพูดคุยเซ็งแซ่ ต้องหุบปากเงียบสงัดไปโดยพร้อมเพรียง ฉันเองก็เช่นกัน ใครจะคิดว่าแค่เอ่ยถามหาประธานของพวกเขา จะถึงขนาดโดยปฏิเสธโดยไม่มีการต่อรองใด ๆ ทั้งสิ้น นะ...น่ากลัวไปแล้ว

ผมวิ่งแทบไม่เหลือสติ ลูกน้องก็รั้งผมไม่ได้ จนถึงห้องที่เธออยู่ เพียงแค่สายตาผมเห็นเธอนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยมันก็ทำให้ใจผมสลาย เธอเป็นอะไรไปทำไมใบหน้าถึงซีดเซียวขนาดนี้ หรือเพราะผมดูแลเธอไม่ดีไม่คอยสังเกตอาการของเธอ จนทำให้เธอป่วยแบบนี้กันผมลากเก้าอี้มาข้าง ๆ เตียงเธอ ก่อนจะนั่งลงกุมมือเธอแน่น และอยู่แบบนี้สักพักเพื่อสงบสติของตัวเองที่มันกำลังคิดมาก“พะ...พี่คะ มาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่เรียกฉัน” เสียงของเธอที่เอ่ยมาอย่างแผ่วเบาทำให้ผมต้องรีบมองเธอ“ฟ้า....เป็นยังไงบ้าง หมอครับเมียผมฟื้นแล้ว หมอ...” พอผมเห็นเธอตื่น ผมก็ลุกวิ่งออกไปเรียกหมอทันที แม้ผมจะได้ยินเธอเรียกรั้งผมไว้ แต่ผมไม่สนผมต้องรู้จากหมอว่าเมียผมเป็นอะไรให้ได้แน่นอนว่าใช้เวลาไม่นานผมก็สามารถลากหมอเข้ามาในห้องได้ แม้จะโดนหมอค้อนมา ก่อนจะพามาห้องนี้ก็ตาม“หมอเมียผมเป็นอะไรครับ ทำไมหน้าเธอซีดแบบนั้น หมอ...”“ใจเย็น ๆ ครับผมกำลังจะอธิบาย” ผมเพ่งมองหมอ สลับกับเมียผมที่ตอนนี้ นั่งกุมขมับตัวเอง“จะให้ผมใจเย็นได้ไงครับ หมอดูสิ เมียผมกุมขมับเธอต้องปวดหัวเพราะป่วยแน่ ๆ ครับ หมอเอกซเรย์ศีรษะเมียผมรึยัง” ผมตื่นตระหนกจริง ๆ ก็ผมเป็นห
ในพิธีการ ผมยืนอยู่หน้าเวที ตอนนี้สมองผมแทบจะหยุดสั่งการ เสียงผู้คนแขกผู้มีเกียรติ เสียงของพิธีกร อะไรผมแทบจะไม่ฟัง จนเมื่อประตูไม้บานใหญ่เปิดออกเหล่าเพื่อนเจ้าสาวเดินนำถือตะกร้าโปรยดอกไม้ระหว่างเดิน แขกผู้มาร่วมงานปรบมือ จนท้ายสุดท้ายตาผมก็จดจ้องที่เดียวนั่นคือเจ้าสาวแสนสวยว่าที่ภรรยาของผมกำลังเดินเข้ามาพร้อมกับคุณพ่อ(ในนาม) ที่กำลังเดินมาส่งตัวเธอให้ผม ตอนนั้นแหละที่ใบหน้านิ่งของผม อดยิ้มจนแทบแก้มปริไม่ได้วันนี้ภรรยาผมสวยมาก สวยชนิดที่อยากจะวิ่งไปโอบอุ้มซะตอนนี้แต่ก็ทำไม่ได้ ยิ่งเธอยืนอยู่ตรงหน้าผม ใจผมยิ่งเต้นแรงรอยยิ้มของเธอทำให้ผมได้รู้ว่าไม่ได้มีแค่ผมที่มีความสุขฝ่ายเดียวพิธีการยังคงดำเนินต่อไป เรากล่าวคำสาบานร่วมกัน จวบจนแลกแหวน ก่อนจะจบที่จุมพิตพิสูจน์คำปฏิญาณ จากนั้นแขกที่มาร่วมงานก็ยืนขึ้นปรบมือแสดงความยินดีกันอีกครั้ง“เอาล่ะนา.......” เสียงของเธอยิ้มหันไปบอกสาว ๆ ที่ตอนนี้รอที่จะแย่งช่อดอกไม้ช่อหนึ่งจากมือของภรรยาผม“ฟ้า...พวกเราพร้อมแล้ว”“หนึ่ง...สอง...สาม...ฟิ้ว.....” สาว ๆ ทุกคนสายตาจับจ้องช่อดอกไม้ที่ภรรยาผมหันหลังโยนออกไปกันยกใหญ่ พอช่อนั้นใกล้หล่น มือจำนวนนับไม่ถ
ตอนพิเศษ 1(ฉบับเอ็ดเวิร์ด)วันนี้ผู้คนต่างหลั่งไหลมาโรงแรมของผมไม่ขาดสาย แน่นอนว่าวันนี้มีงานที่สำคัญสุดในชีวิตของผม ผมกำลังจะแต่งงานครับ ทุกคน ช่วยยินดีกับผมด้วยนะ เมียผมก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ทุกคนก็น่าจะรู้จักกันดี เธอคือคนที่เข้ามาทำให้หัวใจผมเต้นแรง และคอยช่วยเหลือผมอย่างเต็มใจเมื่ออยู่ในช่วงเวลาลำบากเอาจริง ผมไม่ใช่คนดีอะไรหรอก ตอนที่อยู่บ้านเกิดพ่อ (ก็ต่างประเทศนั่นแหละ) พวกผมก็ค่อนข้างเกเร ขาใหญ่ โหดร้าย เพราะสังคมที่นั่นคนอ่อนแออยู่ไม่ได้ไงที่นั่นการก่ออาชญากรรม ยาเสพติด อาวุธสงคราม การล้างแค้น เป็นเรื่องปกติที่ทางรัฐบาลไม่สามารถทำอะไรได้เลย ดีไม่ดีที่ประเทศนั้นยังคงดำรงอยู่ได้ก็คงเป็นเงินเทา ๆ ทั้งนั้นแหละจนเกิดเขตเสรีที่กฎหมายคุ้มครองไม่ได้ และพวกผมเองก็ดันเกิดที่นั่น ดังนั้นหากพวกเราไม่เข้มแข็ง ไม่ร้าย หรือ ไม่มีอิทธิพล เราก็จะเป็นฝ่ายถูกเหยียบให้จมดินซะเองแต่พอผมได้คุยกับ พ่อแม่ที่ตอนนี้อยู่ต่างประเทศ ว่าอยากลงทุนอะไรที่สุจริตไว้บ้างเผื่อวันใดที่ประเทศนั้นล่มสลายจะได้มีแผนสำรอง แม่ผมก็แนะนำเป็นบ้านเกิดของท่านผมหันไปถามเพื่อนซี้อีกสองคนอย่าง ไอ้เจ กับ ไอตินที่เราผ่านอะไรด้
เรายืนอยู่หน้าหลุมศพของพ่อแม่ฉัน ต่างคนต่างถือช่อดอกลิลลี่คนละช่อ ฉันสูดอากาศให้เต็มปอดก่อนที่จะมองป้ายหลุมศพนั้นด้วยความคิดถึงจากหัวใจ“พ่อคะ แม่คะ ฟ้ามาเยี่ยมแล้วค่ะ ฟ้าสบายดีมาก ๆ” ฉันพูดแบบนั้นออกไปจ้องมองรูปตรงป้ายอย่างแน่วแน่ ไม่นานนักไอวิญญาณของพ่อแม่ก็ลอยล่องเหนือหลุมทำให้ฉันเบิกตาโตมองตาม ฉันเห็นผีมากมายก็จริงในโลกคนเป็น แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นพ่อกับแม่ฉันในโลกคนเป็นนี้ เพียงใบหน้าพวกเขาปรากฏ แม้จะเลือนราง แต่ความคิดถึงมันก็ทำให้ไอวิญญาณตรงหน้าชัดเจนขึ้นได้ฉันน้ำตาเอ่อล้น จนคนข้าง ๆ หันมามองอย่างแปลกใจ“ฟ้าเป็นอะไรไปทำไมจู่ ๆ ร้องไห้แบบนั้นครับ”“ฮือ...ฮึ่ก..พี่คะ พ่อกับแม่มาหาฉันด้วยค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นพวกเขาฮือ....หลังจากที่ ...พวกเขาจากฉันไป ฮือ....” ฉันร้องแบบนั้น จนรู้สึกได้ว่ามือหนาของเขากุมมือฉันแน่นอย่างอ่อนโยน พอฉันเริ่มตั้งสติได้ ก็หันไปมองพวกท่านอีกครั้ง“พ่อคะ แม่คะ นี่แฟนหนูเองนะคะ พี่เขาชื่อเอ็ดเวิร์ด เป็นคนเก่งมาก หล่อด้วยค่ะ ที่สำคัญพี่เขารักฟ้าและก็เป็นคนที่ฟ้ารักมาก ๆ ด้วย” ฉันที่ตอนนี้น้ำตาคลอเบ้าเพราะกลั้นไม่ไหว แต่ฉันเห็นนะว่า ไอวิญญาณของพว
51- คำสัญญาชั่วนิรันดร์ –ฉันขึ้นรถที่เรียกผ่านแอปไปกับพี่เอ็ดเวิร์ด ส่วนคุณมาตินบอกว่าจะตามไปซึ่งฉันก็ส่งโลเคชั่นให้แล้ว ตอนแรกที่คุณมาตินเห็นโลเคชั่น เขาก็มองหน้าฉันพลางเลิกคิ้ว ฉันก็ได้แต่ยิ้มให้ แต่ก็ดูเหมือนเขาจะมองออกนะว่าจุดหมายปลายทางที่ฉันกำลังจะไปนั้นเป็นที่ไหน ที่ไม่รู้ก็มีแต่คนตัวโตหล่อคมคายข้างฉันนี่แหละ ก็ปล่อยให้พี่เขาไม่รู้แบบนี้ต่อไปแล้วกัน หึงดีนักรถเข้ามาในสถานที่แห่งหนึ่ง ถนนที่โล่ง ต้นไม้รอบข้างที่ราบรื่น พร้อมกับสนามหญ้าเขียวขจี ไปทั่วบริเวณ สวยงามประดับไปด้วยดอกไม้นานาพรรณ ตัดขอบด้วยท้องฟ้าสีครามสว่างสดใส ฉันมองผ่านจากบานกระจกรถด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม จากนั้นคุณลุงขับรถก็จอดให้พวกเราลงตรงลานจอดรถของสถานที่แห่งนี้ ฉันหอบช่อดอกลิลลี่ก่อนจะหันไปมองเขาที่กำลังเดินตามมา“พี่ดูสิ วิวที่นี่ สวยดีนะคะ”“อืม....” เขาตอบเพียงสั้น ๆ แต่ใบหน้าไม่มองฉันด้วยซ้ำ ทำเอาฉันต้องใช้มือข้างหนึ่งกุมใบหน้าหล่อเหลาของเขาให้หันมามองฉัน“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิคะ ฟ้าไม่ได้หนีจะมาที่นี่คนเดียวตั้งแต่แรก ฟ้าอยากให้พี่มาด้วยจะตายไป แต่พี่บอกติดงานด่วนเองนินา”“จริงเหรอครับ”“จริงสิคะฟ้าจะโกหกทำไม
50- คนสำคัญ –(Fah Talk)หลังจากที่ฉันวิ่งแจ้นออกจากห้องทำงานของเขามาได้ ฉันก็ตรงดิ่งไปยังท่าเรือทันที เพราะตอนนี้ใกล้เวลาประชุมใหญ่ ฉันก็เป็นถึงผู้บริหารร่วมจะเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีไม่ได้ จะทำให้คนรอในห้องประชุมได้ไงจริงมั้ยล่ะฉันนั่งอยู่ในเรือด้วยใจเลื่อนลอย วันนี้ภารกิจฉันมีเยอะจริง ๆ แม้จะเสียดายที่วันนี้ พี่เอ็ดเวิร์ดติดลูกค้าคนสำคัญ ทำให้ฉันพาเขาไปด้วยไม่ได้ แต่ไม่เป็นไรปีหน้าค่อยพาเขามาใหม่แล้วกัน ฉันจะมางี่เง่าบังคับเขาทำโน้นทำนี่ทั้งที่ยังเป็นแค่แฟน ก็คงไม่ดีล่ะนะฉันมาถึงบริษัทตรงเวลา และได้รับความเคารพจากพนักงานอย่างดีเช่นเคย แถมพวกเขายังอวยฉันมากกว่าเดิมไปมาก เพราะตั้งแต่ฉันทำโครงการร่วมกับโรงแรมคุณเอ็ดเวิร์ดสำเร็จ ก็ทำให้บริษัทเติบโตแบบก้าวกระโดดโบนัสฉ่ำ ๆ ไงล่ะการประชุมวันนี้ ก็เป็นการประชุมของผู้ถือหุ้น โดยคุณพ่อคุณแม่ของไอ้กรณ์ตัดสินใจยกหุ้นที่เหลือของเขาให้ฉัน แต่ยังไงเริ่มแรกเดิมทีบริษัทนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่ใช่ ครอบครัวของไอ้กรณ์ และตัวไอ้กรณ์มันเอง ฉันจึงรับน้ำใจแค่บางส่วนแล้วกลายเป็นผู้ถือหุ้นลำดับสอง (ไม่เอาหรอก NO.1 ใครจะอยากออกงานสังคมกัน) ส่วนหุ้นบางต








