ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย의 모든 챕터: 챕터 1441 - 챕터 1450

1545 챕터

บทที่ 1441

“ช่างเป็นที่น่าอัปยศแก่สำนักเรายิ่งนัก!”หากเมื่อครั้งนั้นล่วงรู้ว่าเวินซินถงจะกลายเป็นเช่นนี้ ลั่วชิงยวนย่อมต้องยับยั้งอาจารย์มิให้พาศิษย์น้องผู้นี้กลับมาด้วยประการทั้งปวงเวินซินถงโกรธเกรี้ยว “ลั่วชิงยวน เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นใคร มีสิทธิ์อะไรมากล่าววาจาเช่นนี้!”สิ้นคำพูด เวินซินถงก็ตวัดฝ่ามือเข้าใส่ลั่วชิงยวนทันใดลั่วชิงยวนหลบหลีกไปด้านข้าง จากนั้นทั้งสองก็เข้าต่อสู้กันในตรอกแคบยาวฝีมือของเวินซินถงที่ปราศจากเซี่ยหลิงมิได้สูงส่งนัก ดังนั้นหลังจากต่อสู้กันหลายกระบวนท่าเวินซินถงก็ถูกบีบจนต้องล่าถอยทันใดนั้นเอง ร่างหนึ่งก็ร่อนลงมาที่พื้น“เจ้ากล้ารังแกคนของข้าอีกแล้วรึ? ดูเหมือนว่าบทเรียนที่ข้าเคยให้เจ้าไปนั้นยังมิเพียงพอ!” เฉินชีกล่าวด้วยน้ำเสียงดุดันแฝงไว้ด้วยจิตสังหารสีหน้าของเวินซินถงเปลี่ยนไป รีบกระโจนตัวขึ้นเหาะหนีไปในทันทีลั่วชิงยวนเองก็หมดแรงพิงกำแพงพลางยกมือกุมหน้าอกไว้เฉินชีตกใจพลันรีบเข้ามาประคองนาง “เป็นอะไรไป? มิสบายหรือ?”“กลับไปกับข้าเถิด”เฉินชีกล่าวพลางจะอุ้มนางขึ้นลั่วชิงยวนกลับยกมือผลักเฉินชีออก “ข้ายังมีธุระต้องทำ มิอาจกลับไปกับเจ้าได้”“แล้วข้าก็มิอ
더 보기

บทที่ 1442

“ขออภัยที่มิได้บอกเจ้าตามตรง วันนี้ที่เชิญแม่นางเข้าวังก็ด้วยเรื่องที่ปรารถนานี้แล”“ถึงแม้บุตรีของข้าจะเป็นถึงกุ้ยเฟย แต่หลายปีมานี้กลับมิอาจตั้งครรภ์ได้”“เคยเชิญหมอหลวงมาตรวจเป็นการส่วนตัวหลายครั้งก็ไม่มีผู้ใดทราบอาการ จึงใคร่ขอให้แม่นางลั่วช่วยดูว่ามีสิ่งชั่วร้ายใดแอบแฝงอยู่หรือไม่”เมื่อได้ยินดังนั้น ลั่วชิงยวนก็ประหลาดใจเล็กน้อยแท้จริงแล้วที่ซีกุ้ยเฟยมิได้มีโอรส ก็เพราะนางเป็นเพียงตัวแทนของฮองเฮาเท่านั้นเมื่อครั้งนั้น ฮองเฮาถูกจักรพรรดิลงโทษกักบริเวณในตำหนักเย็นช่วงหนึ่ง ด้วยเหตุอะไรนางก็มิทราบแน่ชัด ในช่วงที่ฮองเฮาประทับในตำหนักเย็นนั้นเอง จักรพรรดิก็ได้พบกับหญิงสาวตระกูลซีนางมีรูปโฉมคล้ายคลึงกับฮองเฮา จักรพรรดิจึงโปรดปรานนางและเลื่อนขึ้นสู่ตำแหน่งกุ้ยเฟยในที่สุดแต่ต่อมาจักรพรรดิและฮองเฮากลับคืนดีกัน ความโปรดปรานที่มีต่อกุ้ยเฟยจึงมิได้เป็นเช่นเดิมอีกต่อไปนี่เป็นเรื่องที่ผู้คนมากมายทราบกันดีการที่ซีกุ้ยเฟยมิอาจตั้งครรภ์ได้ มิใช่เพราะจักรพรรดิมิได้เสด็จไปประทับที่ตำหนักของนางหรอกหรือนางเพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรกว่าอาจมีสิ่งชั่วร้ายแฝงอยู่“ท่านมิได้เชิญท่านนักบวช
더 보기

บทที่ 1443

ซีกุ้ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงเชื่องช้าและใจเย็น แต่แฝงไว้ด้วยโทสะและความมิพอใจอันรุนแรงลั่วชิงยวนยิ้มแล้วกล่าวว่า “เมื่อก่อนเคยได้ยินกิตติศัพท์ความเย่อหยิ่งของกุ้ยเฟย วันนี้ได้มาเห็นกับตาก็ประจักษ์ด้วยตนเองแล้วเพคะ”“มิแปลกใจเลยที่ส่งคนไปลอบสังหารมู่หยวนหยวนเพียงเพราะนางงดงาม และกำลังจะเข้าวังเป็นพระสนม นางทำให้กุ้ยเฟยหวาดระแวงถึงเพียงนี้เลยหรือเพคะ?”เมื่อได้ยินดังนั้น สีหน้าของซีกุ้ยเฟยก็เปลี่ยนไปแต่นางกลับมิโกรธ ยกคิ้วขึ้นแล้วคลี่ยิ้ม “เจ้ามาแก้ต่างให้มู่หยวนหยวนหรือ?”“แท้จริงแล้วข้าก็ได้ยินมาว่าก่อนหน้านี้เจ้ากับท่านนักบวชระดับสูงเคยไปจวนตระกูลมู่”“มู่หยวนหยวนหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย คงจะจากเมืองหลวงไปกับฉีหงแล้วกระมัง? พวกเขาสุขสมหวังกันก็ต้องขอบคุณข้า”“หากข้ามิได้จงใจปล่อยข่าวให้ฉีหงรู้ ฉีหงจะสามารถพาตัวมู่หยวนหยวนไปได้หรือ? ข้าได้ช่วยเหลือคู่รักคู่หนึ่งแต่เจ้ากลับกล่าวหาว่าข้าริษยานางที่นางงดงาม จึงคิดจะฆ่านางน่ะหรือ”เมื่อพูดจบ ซีกุ้ยเฟยก็ค่อย ๆ ยันกายลุกขึ้น พลางมองไปยังลั่วชิงยวนนิ้วเรียวเล็กแตะเบา ๆ ที่บ่าของลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนถอยหลังไปก้าวหนึ่ง“ส่วนเจ้า ร่าง
더 보기

บทที่ 1444

“กล่าวมาเถิด” ซีกุ้ยเฟยกล่าวอย่างมิใส่ใจลั่วชิงยวนค่อย ๆ เอ่ยว่า “ฝ่าบาทเสด็จมายังตำหนักกุ้ยเฟยบ่อยครั้งหรือไม่เพคะ?”เมื่อได้ยินดังนั้น ซีกุ้ยเฟยก็เลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจแล้วหัวเราะเบา ๆ อย่างมิอยากจะเชื่อ “เจ้าช่างกล้าถามเสียจริง”“เจ้าคงหมายความว่าข้ามิรู้จักประมาณตน ฝ่าบาทมิได้เสด็จมายังตำหนักข้าเลย แล้วข้าจะครรภ์ได้อย่างไรเช่นนั้นหรือ”ซีกุ้ยเฟยสนใจหญิงสาวผู้นี้มากยิ่งขึ้นนางยังมิเคยพบผู้ใดกล้าหาญถึงเพียงนี้มาก่อนแต่ก็ดีแล้ว นางต้องการผู้ที่กล้ากล่าวความจริง มิเช่นนั้นนางจะทราบได้อย่างไรว่าแท้จริงแล้วนางเป็นอะไรกันแน่ลั่วชิงยวนมิได้ตอบคำ นั่นมิใช่สิ่งที่นางกล่าวซีกุ้ยเฟยกล่าวต่อไปว่า “จักรพรรดิเสด็จมาสองสามวันในแต่ละเดือน”“ในช่วงวันที่ฮองเฮาทรงมีระดู”ซีกุ้ยเฟยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยแต่ลั่วชิงยวนกลับสัมผัสได้ถึงความขมขื่นดูเหมือนว่าซีกุ้ยเฟยจะทราบดีถึงฐานะของตนที่เป็นเพียงผู้มาแทนที่ฮองเฮา“หากอาศัยเพียงรูปโฉม สักวันข้าก็ต้องร่วงโรยไป มีเพียงการให้กำเนิดโอรสธิดาเท่านั้นที่จะสามารถรักษาฐานะของข้าไว้ได้”“เป็นถึงกุ้ยเฟย จะไร้โอรสธิดาได้อย่างไร”“ถึงแม้ข้าจะรู้
더 보기

บทที่ 1445

“ช่างประหลาดนัก ดวงชะตาของกุ้ยเฟยนั้นมีวาสนาต่อบุตร”“ถึงกับเป็นดวงที่มีบุตรมากและนำมาซึ่งโชคลาภมหาศาล”“เป็นไปได้อย่างไรที่จะไร้โอรสธิดา…”เมื่อได้ยินดังนั้น ซีกุ้ยเฟยก็ตกใจ “ว่ากระไรนะ?”ซีกุ้ยเฟยกำแขนเสื้อแน่น“นี่หมายความว่าอย่างไร? หรือว่ามีผู้ใดปองร้ายข้าอีกหรือ?” ซีกุ้ยเฟยพูดด้วยน้ำเสียงตึงเครียด“ขอท่านอย่าเพิ่งทรงกังวล อาจเป็นเพราะวาสนามาเยือนช้าไป ยังมิอาจด่วนสรุปว่ามีผู้ใดปองร้ายท่านเพคะ”ถึงแม้นางจะคำนวณได้ว่าซีกุ้ยเฟยควรจะมีโอรสก่อนอายุยี่สิบสาม แต่บัดนี้นางอายุยี่สิบห้าแล้ว ยังมิได้ให้กำเนิดบุตรเลยเช่นนี้ย่อมมีพิรุธบางอย่างแต่นางมิอาจบอกกุ้ยเฟยตรง ๆ ได้ท้ายที่สุดแล้ว สถานการณ์ในวังหลวงซับซ้อนยิ่งนัก ผู้ใดลงมือและใช้วิธีการใดนั้นยังต้องสืบให้กระจ่างเสียก่อนมิเช่นนั้นอาจเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นซีกุ้ยเฟยจึงพยายามสงบสติอารมณ์ให้มากที่สุดลั่วชิงยวนตรึกตรองแล้วถามว่า “โดยปกติแล้วกุ้ยเฟยเสวยสิ่งใดบ้าง เขียนรายการให้หม่อมฉันดูได้หรือไม่เพคะ?”จากนั้นซีกุ้ยเฟยก็เรียกแม่นมเฉาเข้ามา แม่นมเฉายื่นสมุดเล่มใหญ่เล่มหนึ่งให้“ในช่วงสองปีที่ผ่านมา กุ้ยเฟยเสวยสิ่งใดล้วน
더 보기

บทที่ 1446

เมื่อลั่วชิงยวนวางกระดาษแผ่นนั้นลงตรงหน้าซีกุ้ยเฟย ซีกุ้ยเฟยก็หยิบขึ้นมาด้วยความสนใจ ก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เจ้าหาเจอจริง ๆ สินะ”“อาหารเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่ข้ากินมาตลอดสองปีนี้”ลั่วชิงยวนตกใจ “ท่าน? ท่านทราบอยู่แล้ว เหตุใดจึงมิตรัสบอกหม่อมฉัน แล้วเหตุใดยังประทานสมุดหนาปึกนั้นแก่หม่อมฉันหรือเพคะ?”ซีกุ้ยเฟยหัวเราะเบา ๆ “เช่นนั้นข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าเจ้าเก่งกาจจริงหรือเป็นเพียงนักต้มตุ๋น?”“ข้าเพียงอยากจะทดสอบความอดทนของเจ้าเท่านั้น”“อีกอย่าง เจ้ารับเงินไปมากมายแล้วก็ควรจะทำอะไรบ้างมิใช่หรือ?”ซีกุ้ยเฟยกล่าวพลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยแฝงไว้ด้วยความหยอกล้อแต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือความปีติยินดี ลั่วชิงยวนมีความอดทนถึงเพียงนี้ สามารถค้นหาสิ่งที่นางกินเป็นประจำได้อย่างแม่นยำจากบันทึกการเสวยพระกระยาหารสองปีอย่างน้อยก็พิสูจน์ได้ว่านางตั้งใจจะแก้ไขปัญหาให้ตนจริง ๆมิใช่เพียงแค่หวังจะหลอกเอาเงินแล้วทำทีเป็นจัดการให้ลั่วชิงยวนหมดคำจะกล่าวจำต้องดำเนินการในขั้นตอนต่อไป “ชื่ออาหารเหล่านี้ล้วนแปลกประหลาดยิ่งนัก โบตั๋นแดงหยกขาวคือสิ่งใด? แล้วยังมีเนื้อหยกละลายลิ้นกับห้วงเวลาพักใจคือกระไ
더 보기

บทที่ 1447

“ของเสวยเหล่านี้มิได้มีปัญหาอะไร…” ลั่วชิงยวนอดมิได้ที่จะปวดเศียรเวียนเกล้าเป็นครั้งแรกที่นางประสบปัญหาเช่นนี้ซีกุ้ยเฟยก็ถอนใจ “นั่นสินะ หากมีสิ่งใดผิดปกติ ข้าคงพบไปนานแล้ว”“อาจมิใช่ของเสวย แต่เป็นสภาพแวดล้อมที่อยู่?”ซีกุ้ยเฟยคาดเดาแล้วจึงถามลั่วชิงยวนขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่นาน จึงเอ่ยว่า “หามิได้เพคะ!”“เหตุใดจึงขาดของเสวยไปอย่างหนึ่ง!”ลั่วชิงยวนเอ่ยถามซีกุ้ยเฟยมองบนโต๊ะ แล้วนึกขึ้นได้ “อ้อ ใช่แล้ว ลืมบอกเจ้าไป ยามนี้มิอาจกินเนื้อหยกละลายลิ้นได้”“ทำได้เพียงในยามเช้าเท่านั้น”“มันคือปลาเนื้ออ่อนสด ๆ ที่จับจากทะเลสาบน้ำแข็งยามรุ่งอรุณกับน้ำค้างที่เก็บสด ๆ จากสวนหญ้าหอม ผสมกับเต้าหู้ที่ทำสดใหม่ยามเช้าและปรุงรสด้วยสมุนไพรบางอย่าง”“มันจึงเป็นอาหารเช้าของข้า”“ยามนี้มิอาจทำให้เจ้าดูได้”เมื่อฟังถึงส่วนผสมเหล่านั้นก็ดูเหมือนจะไม่มีปัญหาอะไรมิอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายของซีกุ้ยเฟยได้แต่ลั่วชิงยวนยังคงอยากจะดู เพราะนั่นคืออาหารเช้าของซีกุ้ยเฟยซึ่งกินบ่อยมากที่สุด“เช่นนั้นกุ้ยเฟยจะขัดข้องหรือไม่เพคะ หากหม่อมฉันจะพักค้างคืนที่นี่ แล้วรุ่งเช้าจะดูว่าเนื้อหยกละลายลิ้นนั้นเป็น
더 보기

บทที่ 1448

ซีกุ้ยเฟยชะงักไปจากนั้นก็รู้สึกตัว หันไปเห็นว่าลั่วชิงยวนกำลังมองขนมถ้วยนั้น“สิ่งนี้… มีปัญหาอะไรหรือ?”ลั่วชิงยวนยกถ้วยนั้นขึ้นดม มีกลิ่นสมุนไพรเจือปนกับกลิ่นน้ำเชื่อมแฝงไว้ด้วยกลิ่นคาวจาง ๆลั่วชิงยวนถามว่า “กุ้ยเฟย สิ่งนี้เสวยแล้วมีกลิ่นคาวมากหรือไม่เพคะ?”เมื่อได้ยินดังนั้น ซีกุ้ยเฟยก็ชะงักไป แล้วตอบว่า “มีเพียงเล็กน้อย แต่ก็มิได้รบกวนนัก อย่างน้อยรสชาติก็ดีอยู่”“เจ้าลองชิมดูหรือไม่?”ลั่วชิงยวนกลับส่ายหน้า “สิ่งนี้มีบางอย่างผิดปกติเพคะ”“วัตถุดิบข้างในมิได้มีเพียงปลา เต้าหู้และสมุนไพรเท่านั้น”นางหยิบตะเกียบจิ้มลงไป ปรากฏว่ามีกลิ่นคาวเลือดโชยมามิใช่เพียงปนเปื้อนเท่านั้น แต่สิ่งนี้มีปัญหาในตัวมันเองซีกุ้ยเฟยตกใจเมื่อได้ยิน “สิ่งนี้จะมีปัญหาได้อย่างไร? ข้ากินมาหลายปีแล้ว”“นี่เป็นขนมที่ข้ากินมาตั้งแต่ย้ายเข้ามายังพระตำหนักชีอู๋ เป็นฝีมือของพ่อครัวหลวงที่องค์จักรพรรดิโปรดให้ทำถวายข้าแต่เพียงผู้เดียวในวัง”“จะมีปัญหาได้อย่างไร?”ซีกุ้ยเฟยมิเคยสงสัยเรื่องอาหารจานนี้เลยลั่วชิงยวนขมวดคิ้วเมื่อได้ยินเช่นนั้น “พ่อครัวหลวงหรือเพคะ? องค์จักรพรรดิโปรดให้ท่านเสวยขนมนี้หร
더 보기

บทที่ 1449

ซีกุ้ยเฟยครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงกล่าวว่า “คืนนี้”“หลังอาหารเย็น ข้าจะให้เจ้าเข้าไปยังห้องเครื่อง แต่เมื่อห้องเครื่องปิดแล้วจะเปิดอีกทีในวันรุ่งขึ้นเท่านั้น”“พ่อครัวใหญ่ผางเป็นถึงหัวหน้าพ่อครัวหลวง เขามีกุญแจ และมีเพียงเขาเท่านั้นที่มีสิทธิ์เข้าออกห้องเครื่องได้ตลอดเวลา”“ดังนั้นหากเจ้าอยู่ในห้องเครื่องตลอดทั้งคืน จงระวังตัวให้ดี”ลั่วชิงยวนพยักหน้าจากนั้นนางก็เตรียมตัว เพื่อความปลอดภัยจึงเหน็บกริชเล่มหนึ่งติดตัวไว้ด้วย แน่นอนว่าซีกุ้ยเฟยอนุญาตแล้วเมื่อถึงยามเย็น ห้องเครื่องกำลังทยอยยกอาหารออกมาทีละจานลั่วชิงยวนเปลี่ยนไปสวมชุดนางกำนัลไว้ล่วงหน้าแล้ว เมื่อคนจากห้องเครื่องนำอาหารมาส่ง ลั่วชิงยวนก็ปะปนอยู่ในหมู่พวกนาง แล้วตามพวกนางกลับไปยังห้องเครื่องนางกำนัลคนหนึ่งในกลุ่มนั้นเป็นคนของซีกุ้ยเฟยเมื่อเข้าไปในห้องเครื่องแล้ว นางก็ดึงลั่วชิงยวนเข้าไปในห้องเก็บฟืน“เจ้าหลบอยู่ในนี้ ข้างนอกกำลังวุ่นวาย ไม่มีใครมาที่นี่หรอก”“รอจนทุกคนไปแล้ว เจ้าค่อยออกมา”ลั่วชิงยวนพยักหน้าจากนั้นนางกำนัลผู้นั้นก็วิ่งออกจากห้องเก็บฟืนแล้วรีบไปทำงานต่อลั่วชิงยวนหลบอยู่มุมห้องเก็บฟืนใก
더 보기

บทที่ 1450

ในขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น จู่ ๆ ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นลั่วชิงยวนตกใจ แต่ก็สายเกินไปแล้วที่หลบเข้าไปในห้องเก็บฟืนได้ทัน นางจึงจำต้องหลบเข้าไปในทางเดินระหว่างห้องสองห้องข้าง ๆได้แต่เอนตัวแนบชิดกำแพง มิกล้าส่งเสียงเมื่อได้ยินเสียงฝีเท้าภายนอก พ่อครัวใหญ่ผางดูเหมือนจะตื่นตระหนกเช่นกัน เขารีบล้างมือทันทีแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็วเหล่านางกำนัลที่นำอาหารไปส่งทยอยกลับมามีผู้คนเดินผ่านไปมาทั้งสองด้าน ลั่วชิงยวนเดินเตร็ดเตร่อย่างไร้จุดหมาย แต่กลับไม่มีใครสังเกตเห็นนางผู้คนทยอยเดินออกไปจนหมดทันใดนั้นก็ได้ยินพ่อครัวใหญ่ผางสั่งขันทีว่า “ไปตรวจดูว่าคนออกไปหมดแล้วหรือยัง ข้าจะลงกลอนประตู”“ขอรับ”จากนั้นขันทีสองคนก็เริ่มออกตรวจตราลั่วชิงยวนทำได้เพียงหาห้องใกล้ ๆ แล้วเข้าไปหลบอยู่ในมุมห้องในห้องเครื่องนี้นอกจากห้องครัวหลวงแล้วส่วนที่เหลือล้วนเป็นห้องเก็บของ ไม่มีห้องพักอาศัย ดังนั้นลั่วชิงยวนจึงมิได้พบเจอผู้ใดเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกประตู ขันทีเปิดประตูมองเข้าไปมิเห็นลั่วชิงยวนที่หลบอยู่มุมห้อง จึงหันหลังกลับไป“ทุกคนออกไปหมดแล้วขอรับ ไม่มีใครแล้ว”พ่อครัวใหญ่ผางพยักหน้า “ดี
더 보기
이전
1
...
143144145146147
...
155
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status