Semua Bab แม่ทัพหญิงปราบพยศฮ่องเต้ร้าย: Bab 1701 - Bab 1710

1715 Bab

บทที่ 1701

รุ่ยอ๋องเอ่ยด้วยน้ำเสียงรู้สึกผิด “ข้าเผลอดีใจไปหน่อย ลืมไปว่าเจ้ามองไม่เห็น เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่อาอวี้...”หร่วนฝูอวี้สะบัดมือเขา“ไสหัวไป! นี่เป็นคำเตือนจากสวรรค์ อยู่กับท่าน ข้าจะไม่มีวันราบรื่น!”พูดจบก็ตะโกนเรียกเก๋อสือชี “เจ้าสุนัขสือชี เจ้ามานำทางข้า”“มาแล้ว ศิษย์พี่!”……รุ่ยอ๋องได้เขียนจดหมายถึงพ่อบ้านของจวนก่อนแล้ว เรื่องงานแต่งงานทุกอย่าง ล้วนถูกจัดเตรียมเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงหาฤกษ์งามยามดีเท่านั้นหร่วนฝูอวี้พูดขึ้นมา “การหกล้มครั้งนี้ ถือเป็นลางร้าย ข้าปฏิเสธการแต่งงาน”รุ่ยอ๋องไม่เห็นด้วย“อุปสรรคมากมายขนาดนั้น พวกเราล้วนผ่านมาด้วยกันแล้ว ตอนนี้กลับเพียงสะดุดล้มเจ้าก็...”เก๋อสือชีหัวเราะพลางพูดขึ้นมา“ศิษย์พี่เขย ท่านไม่เข้าใจ ศิษย์พี่รักสวยรักงาม อยากรอจนกว่าโฉมหน้ากลับมางดงามก่อน ค่อยเป็นเจ้าสาว”หร่วนฝูอวี้:...รุ่ยอ๋องไม่อยากจะเชื่อเขาหันไปมองหร่วนฝูอวี้อย่างแปลกใจ “อาอวี้ เจ้าคิดเช่นนี้จริงหรือ?”เก๋อสือชีพูดเสริม “แน่นอนสิ! ศิษย์พี่พกเครื่องประทินโฉมติดกายตลอดเวลา! จะไม่ใส่ใจใบหน้าของนางได้อย่างไร!”หร่วนฝูอวี้เงียบไป นางนึกว่า รุ่ยอ๋องจะ
Baca selengkapnya

บทที่ 1702

กระทั่งฤดูใบไม้ผลิปีถัดมา หร่วนฝูอวี้ก็ยังไม่ได้เข้าพิธีอภิเษกสมรสกับรุ่ยอ๋องแต่ความสัมพันธ์แบบสามีภรรยาของพวกเขานั้น ในทางปฏิบัติยังคงอยู่หร่วนฝูอวี้พักอยู่ในจวนอ๋อง บรรดาบ่าวไพร่ต่างก็รู้ว่านางคือพระชายาหลังจากเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ จี๋เอ๋อร์ก็ตัวสูงขึ้นไม่น้อยเพียงแต่ร่างกายของเขายังฟื้นตัวได้ช้ามากหร่วนฝูอวี้สงสารลูกชาย จึงเสาะแสวงหาหมอเทวดาจากทุกสารทิศต้นฤดูร้อนในปีเดียวกัน หมอเทวดาเหยียนเพิ่งจากไปแพทย์เปี่ยมคุณธรรมผู้ซึ่งปรุงยาถอนพิษจากหมอยาได้ บัดนี้ได้จากโลกนี้ไปอย่างสงบเพื่อเดินทางสู่ชีวิตอันเป็นนิรันดร์แล้วในวันพิธีศพ ฮ่องเต้ทรงเสด็จมาด้วยพระองค์เอง ราษฎรทั้งเมืองก็มาร่วมส่งเขาเช่นกันบทเพลงอันเศร้าโศกบรรเลงขึ้นในวังหลวง ทุกคนต่างเสียใจกับการจากไปของเขาบางคนแสวงหาหนทางสู่ความเป็นนิรันดร์ แต่บางคนกลับเกลียดชีวิตนิรันดร์ในระหว่างที่ตระกูลถานไถถูกคุมขัง มีหลายคนเลือกที่จะปลิดชีพตัวเองถานไถจิ้งให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง เด็กคนนั้นพิเศษมาก เขาสามารถรับรู้ถึงความเจ็บปวดได้ขณะได้ยินเสียงร้องไห้ของลูก ถานไถจิ้งก็หลั่งน้ำตาแห่งความสุขออกมา“อาเหยี่ยน เจ้ากลับมาแล้
Baca selengkapnya

บทที่ 1703

เฟิ่งจิ่วเหยียนหมดหวังแล้วเพราะอย่างไรเสีย เขาก็จะส่งชื่อมาให้นางไว้เว้นแต่ละวัน นางประหลาดใจมาก ว่าเขาเลี่ยงใช้คำที่ไพเราะเหล่านั้นโดยสิ้นเชิงได้อย่างไรกัน?เซียวอวี้ทำสีหน้าท่าทางลึกลับ“ก็ชื่อ...เซียวจื่อจู้[1]! เขาจะต้องเป็นเสาหลักของต้าฉี ร่วมค้ำจุนอาณาจักรต้าฉีนี้ไว้ไปพร้อมกับพวกเจ้า!”เขากล่าวอย่างฮึกเหิม แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบงันเฟิ่งจิ่วเหยียนหัวเราะแห้งการนำชื่อที่มั่วซั่วมาใส่ความหมายที่ยิ่งใหญ่โอ่อ่า เช่นนี้จะมีประโยชน์อะไรสิ่งที่นางต้องการคือชื่อสักชื่อหนึ่ง ไม่ใช่ความหมายเหล่านั้น!เฟิ่งจิ่วเหยียนถึงกับขี้คร้านจะพูดอะไรแล้วแปะ แปะ แปะ!อาลี่ปรบมือ“เพราะดี ๆ! แมงมุมน้อย! ลูกชอบแมงมุมน้อย[2] เหมือนที่ชอบเจี้ยนเจี้ยนเลย!”“เซียวจื่อจู้ที่แปลว่าเสาหลักต่างหากเล่า”เฟิ่งจิ่วเหยียนกล่าวเหน็บแนม“ใช่แล้ว สามเสาหลัก พอดีเลย อาหลิ่นกับลูก ๆ ก็ไม่ชอบชื่อตัวเอง เช่นนั้นเปลี่ยนชื่อพร้อมกันเลยดีกว่า เป็นต้าจู้ เอ้อจู้ ซานจู้ รับรองว่าแผ่นดินต้าฉีของพระองค์จะมั่นคงแข็งแรง ตั้งตระหง่านไม่ล้มแน่นอนเพคะ!”อาหลิ่นก้มหน้าอย่างท้อแท้ “เช่นนั้นก็ขอเป็นอาหลิ่
Baca selengkapnya

บทที่ 1704

ฮูหยินเมิ่งจดจำครั้งแรกที่ได้พบกับจิ่วเหยียนได้เสมอในตอนนั้น ฤดูหนาวเพิ่งจะผ่านพ้นไป อากาศในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิยังคงหนาวเย็นนางตื่นนอนตั้งแต่เช้ามืด แต่งกายให้สิงโจว เตรียมจะไปรับสามีที่ประตูเมืองสิงโจวเพิ่งอายุสองขวบกว่า ในวันนั้นเขาเริงร่าเป็นพิเศษคงรู้แน่ ๆ ว่าท่านพ่อกำลังจะกลับมาขณะที่พวกเขากำลังจะออกจากบ้าน สาวใช้ก็รีบร้อนวิ่งเข้ามา“ฮูหยินเจ้าคะ ฮูหยิน! ท่านแม่ทัพกลับมาแล้ว!”นางอุ้มสิงโจวอย่างตื่นเต้นยินดี ต้อนรับพร้อมรอยยิ้ม“ท่านพี่...”ทว่าชั่วพริบตาต่อมา เมื่อเห็นผู้ที่มาถึง สีหน้าของฮูหยินเมิ่งก็พลันมืดครึ้มลงทันทีชายที่ยามปกติประหยัดมัธยัสถ์ วันนี้กลับสวมเสื้อคลุมขนจิ้งจอกตัวใหญ่ และอุ้มเด็กทารกคนหนึ่งไว้ในอ้อมแขนเขาปกป้องเด็กทารกคนนั้นอย่างระมัดระวัง ไม่ให้ลมหนาวพัดโดน“หว่านจวิน” เมิ่งฉวียิ้มอย่างใสซื่อปนงงงวย รอยยิ้มอันอ่อนโยนเมื่อครู่ของฮูหยินเมิ่ง บัดนี้เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มเยือกเย็น“เมิ่งฉวีเอ๋ยเมิ่งฉวี! ท่านไปเดินทัพหนึ่งปี ช่างมอบความประหลาดใจใหญ่หลวงให้ข้ายิ่งนัก!”เมิ่งฉวีหน้าซีดเผือดทันที“ไม่ ไม่ใช่! เจ้าเข้าใจผิดแล้ว! นี่ไม่ใช่ลูกของข้านะ.
Baca selengkapnya

บทที่ 1705

“อาจารย์หญิง ทำอย่างนี้ไม่ได้นะ! อาจารย์จะตีท่านเอาได้!” เฟิ่งจิ่วเหยียนตะโกนเสียงดัง แล้วหันตัวลุกขึ้นวิ่งไปฟ้องทันทีฮูหยินเมิ่งวิ่งตามไปข้างหลัง แต่กลับตามไม่ทันหลังจากเรื่องผ่านไปแล้ว เมิ่งฉวีก็หัวเราะจนท้องแข็ง“ฮูหยินเอ๋ย! ครั้งหน้าห้ามให้จิ่วเหยียนจับได้อีกนะ”“จิ่วเหยียน ทำได้ดีมาก!”หลังจากเฟิ่งจิ่วเหยียนได้รับการยอมรับและกำลังใจ ก็ยิ่งนำหลักการนี้ไปปฏิบัติมากขึ้นฮูหยินเมิ่งได้แต่ยิ้มจนกระทั่งวันหนึ่ง ในที่สุดเด็กสาวจิ่วเหยียนก็ส่งอาจารย์ของนางเข้าไปในคุกจำใหญ่ได้สำเร็จ ในวันนั้น เมิ่งฉวีกำลังหารือเรื่องสำคัญกับอดีตลูกน้องหลายคน พวกเขานำอาวุธที่สร้างขึ้นใหม่มาให้เมิ่งฉวีดู ว่าจะใช้ต้านศัตรูที่อยู่นอกชายแดนเหนือได้หรือไม่ขณะที่คนกลุ่มหนึ่งกำลังพูดคุยกันอย่างออกรส เด็กสาวคนนี้ก็พาเหล่าเจ้าหน้าที่ทหารกลุ่มหนึ่งมาปรากฏตัว และชี้ว่าพวกเขาลักลอบซ่อนยุทโธปกรณ์หลังจากวันนั้น ก็เกิดเรื่องตามมาไม่หยุดหย่อนแทบทุกเช้าที่เปิดประตูบ้านออกมา ฮูหยินก็จะเห็นเพื่อนบ้านมาฟ้องร้อง ว่าสิงโจวกับจิ่วเหยียน เด็กสองคนนี้ 'ก่อปัญหา' ไว้ไม่น้อยเลยไม่ใช่วันนี้ต่อยคนนี้ ก็เป็นเมื่อวา
Baca selengkapnya

บทที่ 1706

วันหนึ่งในฤดูใบไม้ผลิ กลิ่นหอมของดอกไม้ลอยเข้ามาในโรงน้ำชา ทำให้ผู้คนรู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายนักเล่าเรื่องที่อยู่ตรงกลางกำลังบรรยายด้วยถ้อยคำอันน่าเร้าใจ“...แต่เห็นเพียงเด็กหนุ่มผู้นั้นสวมหน้ากากเงินครึ่งซีก ใบหน้าหล่อเหลา ไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไปอย่างสิ้นเชิง! แปดคนชั่วของหอเฟิ่งหวง แม้แต่กระบวนท่าของเด็กหนุ่มยังไม่ทันได้เห็นชัดเจน ก็ถูกปลิดชีพด้วยกระบี่เดียวทันที!”ด้านล่างมีคนหัวเราะดังลั่น“เฮ้ย! พูดเหลวไหลอะไรกัน! อีกเดี๋ยวก็บอกว่าคนผู้นั้นสวมหน้ากาก อีกเดี๋ยวก็บอกว่าหน้าตาหล่อเหลา ขัดแย้งกันเองเสียจริง! ลงไปเลย!”มีคนหัวเราะตาม: “กลุ่มคนชั่วของหอเฟิ่งหวง แต่ละคนวรยุทธ์ล้ำเลิศ จะเป็นไปได้อย่างไรที่คนคนเดียวจะฆ่าพวกเขาได้ทั้งหมด? ฟังดูก็รู้ว่าแต่งเรื่องโกหก!”ผู้คนเหล่านั้นเอ่ยกันเซ็งแซ่ นักเล่าเรื่องตอบไม่ทันแต่ละคำถามในขณะนั้น บุรุษในชุดครามที่นั่งอยู่โต๊ะมุมห้องก็เอ่ยขึ้น“พวกเจ้ามีความเข้าใจที่ตื้นเขิน ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่คนอื่นพูดนั้นผิด“ตามที่ข้ารู้ เด็กหนุ่มสวมหน้ากากในเรื่องเมื่อครู่นั้น ก็คือซูฮ่วนที่ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน และกำจัดกลุ่มทะเลสาบเกลือเมื่อสอ
Baca selengkapnya

บทที่ 1707

หลายวันต่อมาณ ลานประหารตงฟางซื่อกับฝานจิ้นในฐานะนักโทษหลวงตามหมายนำจับ ถูกมัดด้วยเชือกอย่างแน่นหนา และถูกกดให้นั่งลงบนแท่นประหารฝูงชนที่มามุงดูต่างรู้สึกแค้นเคืองในความไม่เป็นธรรม“จอมยุทธ์ตงฟางเป็นคนดี! ฆ่าเขาไม่ได้!”“ขุนนางชั่วสมควรตาย! จอมยุทธ์ตงฟางกำจัดภัยเพื่อราษฎร!”บนแท่นประหารตงฟางซื่อไม่เหมือนนักโทษที่กำลังจะถูกตัดหัว กลับเหมือนคนที่กำลังดูการแสดงที่น่าสนุกอยู่ เขาเยาะเย้ยฝานจิ้น“เหล่าฝาน เจ้ายังไม่ดังเท่าข้าเลย เห็นอยู่ว่าพวกเราสองคนเป็นคนฆ่า แต่พวกเขากลับเอ่ยแต่ชื่อข้าคนเดียว...”ฝานจิ้นก้มหน้าลง เตือนโดยปิดบังรูปปาก“เจ้าอย่าเพิ่งได้ใจ!“ต้องโทษความคิดไม่เข้าท่านี้ของเจ้า! บอกว่าอะไรกันต้องเอาตัวเข้าเสี่ยง เพื่อให้ซูฮ่วนมาช่วย... แล้วคนล่ะ? พวกเราศีรษะจะหล่นลงพื้นอยู่แล้ว แม้แต่เงาซูฮ่วนก็ยังไม่เห็นเลย!”ตงฟางซื่อมองไปรอบ ๆฝานจิ้นทนไม่ไหวอีกต่อไป เงยหน้าขึ้น “เจ้ามองหาอะไรกัน!”ตงฟางซื่อ: “ข้าก็มองหาคนน่ะสิ จะดูว่าเขามาหรือไม่”ฝานจิ้นขมวดคิ้วด้วยความสงสัย: “เจ้ารู้หรือว่าเขาหน้าตาเป็นอย่างไร?”“ไม่รู้หรอก ไม่เคยเห็น แต่มิใช่ว่าทุกคนต่างพูดว่าเขาสวม
Baca selengkapnya

บทที่ 1708

รถม้าจอดนิ่งสนิทเจียงหลินกระโดดลงมาจากรถม้าเป็นคนแรก ในชุดอาภรณ์สีแดง ดูสะดุดตายิ่งนัก“พี่น้องทั้งหลาย! ข้ากลับมาแล้ว!”ไม่มีคนสนใจเขา แต่ละคนต่างมองไปยังรถม้าที่อยู่ด้านหลังของเขาเจียงหลิน: ...“ข้าว่า พวกเจ้าพากันมองไม่เห็นข้าใช่หรือไม่!”ฝานจิ้นรีบถาม: “สหายเจียง จอมยุทธ์น้อยซูเล่า?”เจียงหลินชี้ออกไปทางด้านหลังอีก“เขาไม่ชอบนั่งรถม้า จึงขี่ม้ามา ส่วนข้าอ้อมมาทางลัด คาดว่าอีกสักครู่เขาก็คงมาถึง”พอสิ้นเสียง ก็ได้ยินเสียงฝีเท้าม้าดัง “กุบกับ” ฝุ่นละอองในที่ไกลถูกพัดลอยขึ้นมา มองดูขมุกขมัว และฝุ่นควันหนาทึบท่ามกลางฝุ่นทรายที่ปกคลุมอยู่นั้น หนุ่มน้อยในชุดขาวกำลังควบม้าเข้ามา เผยให้เห็นลักษณะของความเป็นจอมยุทธ์ผู้กล้าอย่างเต็มเปี่ยม“นั่นจะต้องเป็นจอมยุทธ์น้อยซูแน่ ๆ!” มีคนตะโกนจากนั้น ก็เห็นหนุ่มน้อยผู้นั้นขี่ม้าเข้ามาถึง“หยุด!”เฟิ่งจิ่วเหยียนดึงบังเหียนไว้ ด้านหลังหน้ากาก สายตานั้นกวาดมองผู้คนที่อยู่หน้าประตูแวบหนึ่ง ก่อนเอียงตัว กระโดดลงจากหลังม้าตงฟางซื่อเป็นคนแรกที่ก้าวมาข้างหน้า แล้วประสานมือคำนับตามแบบชาวยุทธภพ“ข้านามว่าตงฟางซื่อ ได้ยินชื่อเสียงของสหายซ
Baca selengkapnya

บทที่ 1709

เฟิ่งจิ่วเหยียนได้ยินเสียงที่คุ้นเคย ร่างกายก็แข็งเกร็งขึ้นทันทีนางเงยหน้ามองไปเป็นหร่วนฝูอวี้จริง ๆ!หร่วนฝูอวี้สวมชุดสีขาวนวลดั่งจันทร์เสี้ยว เปลี่ยนจากการแต่งหน้าที่ดูเย้ายวนก่อนหน้านี้ เป็นงามตามธรรมชาติราวกับดอกบัวที่โผล่พ้นน้ำเพียงแต่ ความยั่วยวนและความเสน่หาที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ ยังเผยให้เห็นในดวงตา และความรู้สึกในใจของสาวน้อยเหมือนเส้นด้ายบาง ๆ ที่พันรอบเฟิ่งจิ่วเหยียน“สามีตัวน้อยของข้า! ในที่สุดก็หาเจ้าพบแล้ว!” หร่วนฝูอวี้ใช้สะโพกเบียดคนที่อยู่ข้าง ๆ ซูฮ่วนออกไป แล้วนั่งลงแทนเฟิ่งจิ่วเหยียนไม่อาจหลบเลี่ยงได้ ทำได้เพียงแสร้งทำเป็นสงบนิ่ง“เจ้ามิใช่กลับแคว้นหนานเจียงไปแล้วหรือ”หร่วนฝูอวี้ยกถ้วยชาที่เฟิ่งจิ่วเหยียนเพิ่งดื่มขึ้นมา และดื่มเข้าปากทันทีทุกคนมองหน้ากัน นัยน์ตาฉายแววความตกใจแม้จะกล่าวว่าคนหนุ่มสาวในยุทธภพไม่ถือสาเรื่องเล็กน้อย แต่ดูจากท่าทางของเขาทั้งสองแล้ว ความสัมพันธ์คงไม่ธรรมดาเจ้าหนุ่มซูฮ่วนผู้นี้ช่างโชคดีเสียจริง!ตงฟางซื่อถาม: “สหายซู แม่นางผู้นี้คือ... หญิงสาวคนสนิทของเจ้าหรือ”“ไม่ใช่!”“ใช่!”ทั้งสองคนตอบพร้อมกัน แต่คำตอบต่างกันอย่างสิ้
Baca selengkapnya

บทที่ 1710

“ฮ่าฮ่า...” หร่วนฝูอวี้ระเบิดเสียงหัวเราะอย่างสบายใจการที่นางพูดว่าตนเองเป็นสตรีของซูฮ่วน ยังไม่เท่ากับการได้ยินคนอื่นพูดเช่นนี้ความรู้สึกนี้... ช่างวิเศษยิ่งนัก!“คงเป็นจอมยุทธ์ตงฟางกระมัง! ด้วยคำพูดนี้ของเจ้า เรื่องของพรรคเทียนหลง ข้าจะต้องช่วยอย่างแน่นอน!”การที่ตงฟางซื่อเชื่อใจหร่วนฝูอวี้ ก็ต้องทำให้คนอื่นไม่พอใจ“ท่านจอมยุทธ์ตงฟาง ท่านเลือกนางมารผู้นี้หรือ?”“ท่านตงฟางซื่อ ข้าไม่คิดเลยจริง ๆ ว่า ท่านจะแยกแยะถูกผิดไม่ได้ถึงเพียงนี้! เป็นข้าที่มองท่านผิดไป ขออำลา!”ผู้คนไม่สบอารมณ์จึงแยกย้ายกัน จากไปมากกว่าครึ่งเจียงหลินเอ่ยปลอบ“ฮ่าฮ่า... ไม่เป็นไร พวกเขาก็แค่โมโหชั่วขณะ”ตงฟางซื่อยิ้มออกมา“ไม่เป็นไร ถึงอย่างไรพวกเขารวมกัน ก็สู้สหายซูไม่ได้อยู่ดี อีกอย่างคนมากมายเพียงนั้น ไม่ได้ทำเรื่องที่เป็นแก่นสาร กลับมากินเสบียงอาหารของสหายเจียงไปไม่น้อย”ฝานจิ้น: !!สุดยอด! ช่างคิดแยบยลจริง ๆ!จากนั้น ตงฟางซื่อก็หันไปเอ่ยกับซูฮ่วน“สหายซู เจ้ากับน้องสะใภ้ก็พักอยู่ที่นี่เถอะ ข้าเชื่อใจพวกเจ้า”เฟิ่งจิ่วเหยียน: “ข้าบอกแล้วว่า นางไม่ใช่สตรีของข้า”ส่วนหร่วนฝูอวี้กลับยิ้มงดงาม
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
167168169170171172
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status