Lahat ng Kabanata ng วังวนแห่งรัก หมอหญิงพลิกชีวี: Kabanata 781 - Kabanata 790

804 Kabanata

บทที่ 781

บุรุษชุดแดงยกมือวางลงบนบ่าของยวี่เจี่ยกวง พลางเอ่ยเสียงเรียบ “เมื่อครู่เจ้ากล่าวว่า จะรับใครเป็นภรรยา”“ก็เจ้าของร้านหรงเยว่เก๋อนั่นไง หญิงแซ่เจียงนั่น ท่านคงไม่เคยไม่ได้ยินชื่อนางกระมัง” ยวี่เจี่ยกวงไม่แม้แต่จะเงยหน้า สายตายังคงจับจ้องที่ถ้วยลูกเต๋าที่สั่นไหว“เจ้าหมายถึงเจียงซุ่ยฮวน” บุรุษชุดแดงเอ่ยเสียงเรียบ ทว่าฝ่ามือกลับกำแน่นขึ้นเรื่อย ๆยวี่เจี่ยกวงถึงกับสะดุ้งที่ไหล่ด้วยความเจ็บ หันไปมองกลับพบว่าเป็นชายหนุ่มรูปงามสูงโปร่ง ในใจยิ่งขุ่นเคือง ด่าทอออกมาเสียงดังว่า “เกี่ยวอะไรกับเจ้า เจ้าหน้าหวาน ต่อให้เจ้าริษยา ข้าก็ไม่ยกให้อยู่ดี!”บรรยากาศโดยรอบพลันเงียบกริบ เด็กรับใช้ที่อยู่ข้าง ๆ โค้งตัวคำนับอย่างเคารพ “คารวะท่านเจ้าของบ่อน!”“อืม” เฉียนจิงอี๋ส่งเสียงหัวเราะเบา ๆ แล้วหันไปกล่าวกับยวี่เจี่ยกวงผู้หน้าซีดเขียวว่า “ข้าร่วมพนันกับเจ้าสองตา เป็นอย่างไร”ยวี่เจี่ยกวงส่ายหน้าอย่างฝืน ๆ “ไม่...ไม่ต้องหรอกกระมัง”เฉียนจิงอี๋เสมือนไม่ได้ยิน รับถ้วยลูกเต๋าจากสตรีบนโต๊ะ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ว่า “วางเดิมพันเถิด”ผู้คนรอบข้างต่างยืนนิ่ง ไม่มีผู้ใดกล้าเดิมพันแม้แต่คนเดียวยวี่เ
Magbasa pa

บทที่ 782

สี่คนตรงนั้นได้แต่เบิกตาโพลง เห็นชายผู้นั้นทรุดกายคุกเข่าลงแทบเท้าเจียงซุ่ยฮวน หาใช่เพราะตกตะลึงจนไร้ปฏิกิริยาไม่ หากแต่พวกเขาล้วนรู้จักชายผู้นี้ดียามเช้ายังสำรวมเรียบร้อย สวมชุดบัณฑิตท่าทีสง่างาม ครั้นผ่านไปเพียงครึ่งวัน ยวี่เจี่ยกวงกลับกลายเป็นผู้ที่สิ้นสภาพ เหลือเพียงความอเนจอนาถหยวนจิ่วโกรธจนสุดกลั้น ถลกแขนเสื้อขึ้นพลางตวาดว่า “ยวี่เจี่ยกวง เจ้ากำลังทำอันใดกันแน่”ยวี่เจี่ยกวงคุกเข่าก้มหน้าอยู่เบื้องเท้า มือทั้งสองกำชายกระโปรงของนางไว้แน่น ร้องไห้น้ำมูกน้ำตาไหลพราก ร่ำไห้ว่า “คุณหนู บิดาข้าเป็นข้ารับใช้ในจวนท่าน บัดนี้ข้าประสบเคราะห์กรรม ขอท่านเมตตาช่วยเหลือด้วยเถิด!”เจียงซุ่ยฮวนถอยไปหนึ่งก้าวด้วยท่าทีรังเกียจ ดึงชายกระโปรงกลับคืนจากมือเขา พลางเอ่ยเย้ยว่า “เจ้ามีทุกข์ มันเกี่ยวอันใดกับข้าด้วยเล่า”ชายผู้นี้เคยใช้คำหวานลวงล่อหยิ่งเถา คิดหวังจะเอาใจนาง แต่นางมิได้ใส่ใจสักนิด ในสายตานาง เขาก็แค่ตัวตลก หาได้มีค่าควรใส่ใจไม่เห็นเขาอนาถถึงเพียงนี้ เจียงซุ่ยฮวนหัวเราะเบา ๆ หากคาดไม่ผิด คงเป็นเพราะไปเล่นการพนันอีกแล้วกระมังยวี่เจี่ยกวงร่ำไห้เสียงหลง คุกเข่ากลางถนนดั่งวิญญาณร่ำไ
Magbasa pa

บทที่ 783

ฝูงชนที่มุงดูอยู่ ครั้นได้ยินวาทะอันบิดเบี้ยวเช่นนั้น ต่างก็พากันชี้หน้ายวี่เจี่ยกวงแล้วประณามเสียงดังลั่นเฉียนจิงอี๋โกรธเกรี้ยวหนักยิ่งกว่าเดิม ยกเท้ากระทืบลงกลางอกของเขาอย่างแรงเขาเจ็บปวดถึงกับหอบหายใจแทบไม่ทัน ร่ำไห้พลางร้องว่า “ข้าผิดไปแล้ว! ข้าไม่ควรให้บิดามารดามาชดใช้แทน! ข้ายอมชดใช้เอง!”“สายไปเสียแล้ว” เฉียนจิงอี๋กล่าวเย็นชา พลางหยิบสัญญาค้าทาสออกมา แล้วกรีดลงบนฝ่ามือของยวี่เจี่ยกวง บังคับให้เขาประทับฝ่ามือลงไปเมื่อเสร็จสิ้นทุกสิ่ง เฉียนจิงอี๋ก็เก็บสัญญาค้าทาสอย่างละเมียดละไม ก่อนหันไปสั่งบ่าวด้านหลังว่า “พาตัวเขาไป”“เดี๋ยวก่อน” เจียงซุ่ยฮวนกล่าวขึ้นมา“หรือว่าคุณหนูเจียงเกิดใจอ่อนขึ้นมา อยากจะยื่นมือช่วยเขาไว้กระนั้นหรือ” เฉียนจิงอี๋แย้มยิ้มกึ่งเย้ยกึ่งหยอกเจียงซุ่ยฮวนยังคงสีหน้าเย็นชา ตอบว่า “ไม่ใช่ เพียงแต่เขาเป็นบุตรชายของหัวหน้าพ่อบ้านในจวนข้า ก็ควรให้เขาได้พบหน้าบิดาเป็นครั้งสุดท้าย”กล่าวจบ นางจึงหันไปบอกหยวนจิ่วว่า “เจ้ากลับไปแจ้งเรื่องนี้แก่ยวี่จี๋เสียเถอะ”ยวี่เจี่ยกวงราวกับเห็นฟางเส้นสุดท้าย ตะโกนเสียงดังว่า “ใช่ๆ! บอกบิดาข้าด้วย! ให้ท่านนำเงินมาช่วยไถ่
Magbasa pa

บทที่ 784

เฉียนจิงอี๋เอนกายพิงพนักเก้าอี้ ยิ้มพลางกล่าวว่า “แน่นอนว่าข้ารอเจ้ากลับมา”“บัดนี้ องค์ชายเป่ยโม่ได้ตายไปแล้ว ไร้ผู้คุ้มครองเจ้า ข้าจึงอดเป็นห่วงไม่ได้”เขาหยิบถ้วยชาที่เจียงซุ่ยฮวนเคยจิบขึ้นมาแนบริมฝีปาก ลิ้มรสเบา ๆ“หากเจ้าเอ่ยเรียกข้าว่าพี่ชายสักคำ วันหน้าข้าย่อมขอรับหน้าที่ปกป้องเจ้าแทนองค์ชายเป่ยโม่”เจียงซุ่ยฮวนขมวดคิ้วอย่างรังเกียจ เอ่ยกับหยวนจิ่วว่า “ถ้วยชานี่ใช้ต่อไม่ได้แล้ว อีกเดี๋ยวไปซื้อชุดใหม่มาเปลี่ยน”หยวนจิ่วพยักหน้ารับอย่างแข็งขันเฉียนจิงอี๋เอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่เร่งร้อน “คุณหนูเจียง ข้าแนะนำให้เจ้าคิดให้รอบคอบ โอกาสเช่นนี้หาได้ยากยิ่ง พลาดแล้วพลาดเลย”เจียงซุ่ยฮวนเอ่ยเย็นชา “ที่บ้านข้ายังขาดสุนัขเฝ้าประตูตัวหนึ่ง เจ้าสนใจจะมาเป็นหรือไม่”“โอกาสเช่นนี้หาได้ยากยิ่ง พลาดแล้วพลาดเลย”นางกล่าวย้อนวาจาเดิมของเฉียนจิงอี๋กลับไปไม่ผิดแม้แต่คำเดียว เฉียนจิงอี๋หัวเราะเบา ๆ“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้าอยากให้ข้าอยู่บ้านเจ้า จะได้เห็นข้าตลอดเวลาใช่หรือไม่”“...”เจียงซุ่ยฮวนขมวดคิ้ว ผู้นี้ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องกระนั้นหรือนางเอ่ยเสียงเย็น “ข้าไม่มีเวลามาสิ้นเปลืองกับเจ้าหรอก อย่
Magbasa pa

บทที่ 785

เจียงซุ่ยฮวนถึงกับพูดไม่ออก ข่าวลือแพร่สะพัดเร็วเกินคาด ยังไม่ทันข้ามวัน กลับแพร่สะพัดไปถึงจวนโหวเสียแล้วท่านโหว ฮูหยินโหว และเจียงอวี่ยืนเรียงกันสามคน ด้านหลังมีองครักษ์ตามมาอีกสี่นาย เมื่อเทียบกับขุนนางตระกูลอื่นแล้ว พวกเขากลับดูสุภาพเรียบง่ายกว่าเป็นไหน ๆฮูหยินโหวดูซูบเซียวกว่าแต่ก่อนมาก ร่องรอยตีนกาที่หางตาเพิ่มขึ้นหลายเส้น แต่เมื่อเพ่งมองกลับให้ความรู้สึกเมตตายิ่งนักท่านโหวยืนอยู่ข้างกาย หลังจากล้มป่วยหนักเมื่อคราวก่อน ก็แลดูแก่ชราลงมาก ผมหงอกแซมข้างขมับทั้งสองข้าง แม้เพิ่งจะล่วงวัยสี่สิบ แต่ท่วงท่ากลับไม่ต่างจากชายชราเขามิได้เอื้อนเอ่ยคำใด เพียงจ้องมองเจียงซุ่ยฮวนแน่นิ่ง สายตานั้นซับซ้อนนัก แฝงไว้ทั้งความเสียใจและความคิดถึงเจียงซุ่ยฮวนกำลังจะเอ่ยปาก ทว่าฮูหยินโหวตาไวเหลือบไปเห็นเสี่ยวถังหยวนในอ้อมอกนาง ก็ตกตะลึงเอ่ยว่า “ที่เจ้าอุ้มอยู่นั่นคือเด็กผู้นั้นหรือ”เจียงอวี่ก้มหน้ามองลงไป พอเห็นเสี่ยวถังหยวน เขาก็ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะแอบเหลือบมองเจียงซุ่ยฮวน และขมวดคิ้วแน่นเจียงซุ่ยฮวนมิแสดงอารมณ์ใด เพียงใช้แขนปิดบังใบหน้าของถังหยวน แล้วกล่าวเสียงเรียบ “พวกท่านเข้าใจผิดเส
Magbasa pa

บทที่ 786

ท่านโหวกล่าวว่า “ใช่แล้ว ครอบครัวของเรามิได้ร่วมวงสนทนาเช่นนี้มานานนัก”“ครอบครัวที่เคยกลมเกลียว เหตุใดกลับกลายเป็นเช่นนี้ไปได้”ครั้นรำลึกถึงเหตุการณ์ในอดีตกาล ทั้งสองก็พากันนิ่งเงียบลงทันใดเจียงอวี่ส่งทั้งสองกลับถึงเรือน แล้วจึงควบม้าฝ่าเงาค่ำออกประตูไปเพียงลำพัง แม้มีทหารองครักษ์ประสงค์ติดตาม ก็ถูกเขาห้ามไว้เขามิได้หยุดพัก มุ่งควบม้าออกจากเมืองหลวง ตรงสู่ทิศเหนืออย่างรวดเร็วครานั้นฟ้าค่ำมืด ถนนหลวงนอกเมืองว่างเปล่าไร้ผู้คน แสงจันทร์โปรยปรายเย็นเยียบลงพื้นดินเจียงอวี่มือซ้ายรั้งบังเหียนไว้มั่น มือขวากระหวัดแส้ เฆี่ยนร้องว่า “ไป!”ม้าอาชาควบพุ่งดุจสายฟ้า ในเงารัตติกาลเห็นเพียงเงาเลือนราง เจียงอวี่บนหลังม้า หน้าตาเคร่งขรึม เปล่งวาจาต่ำๆ มิหยุด “เร็วเข้า! เร็วกว่านี้อีก!”ครั้นใกล้ถึงทางแยกสายหนึ่ง จู่ๆ ก็มีม้าขาวพุ่งออกจากทางด้านซ้ายบนหลังม้ามีสตรีนางหนึ่ง เงาร่างมิแจ่มชัด แลเห็นเพียงรูปร่างสูงโปร่ง ท่วงท่าหาญกล้าองอาจเจียงอวี่เร่งรั้งบังเหียนแน่น พลางร้องว่า “หยุด!”ม้าใต้กายยกสองเท้าหน้าขึ้นจนแทบจะยืนขึ้น เจียงอวี่ต้องใช้เรี่ยวแรงทั้งร่างประคองไว้ จึงไม่ตกจากหลังม้า
Magbasa pa

บทที่ 787

“……” เจียงอวี่ไม่เหลียวมองนาง เอียงหน้าส่งเสียงผิวปากแผ่วพลิ้วใส่ม้าขาวที่นอนอยู่บนพื้น “ลุกขึ้นเถิด”ม้าขาวค่อย ๆ ลุกขึ้นอย่างเนิบนาบ แล้วเดินไปยืนอยู่ข้างทางหญิงสาวเบิกตากว้าง เอ่ยพึมพำว่า “เจ้าคือเทพแห่งม้าหรือ”เจียงอวี่เอ่ยถาม “เทพแห่งม้าคือสิ่งใดกัน”“ก็หมายถึงม้าที่บำเพ็ญจนได้เป็นเซียนน่ะสิ!” นางพูดด้วยความตื่นเต้น “เจ้าแค่ผิวปากเบา ๆ ม้าข้าก็ลุกขึ้นแล้ว ท่านต้องเป็นเทพแน่นอน!”เจียงอวี่หัวเราะเบา ๆ แล้วกล่าวว่า “ข้าไม่ใช่เทพ เพียงแต่พอมีวิชาฝึกม้าอยู่บ้าง”เขาคุกเข่าลง ตรวจดูขาซ้ายนาง นางเจ็บจนเหงื่อท่วมศีรษะ แต่ก็กัดริมฝีปากแน่นไม่เอื้อนเอ่ยคำใด“หากเจ็บนัก ก็ร้องออกมาเถิด ไยต้องฝืนอดทนไว้”“ไม่เป็นไร” หญิงสาวกัดฟันแน่น “เจ้าช่วยดูทีว่าข้าจะใช้ขานี้ได้อีกหรือไม่ หากไม่ได้แล้ว ขอรบกวนท่านเข้าเมืองหลวง ไปตามบิดามารดาข้ามาที”“บิดาข้าคือท่านอาจารย์จาง หากท่านไม่รู้จวนไท่ซืออยู่ที่ใด ก็เพียงเดินจากประตูเมืองทิศใต้ไปทางตะวันออก ไปถึงสามแยกแล้วเลี้ยวซ้าย……”อาจเพราะความกังวลทำให้นางพูดไม่หยุด เจียงอวี่จึงขัดคำนาง “เจ้าคือธิดาของท่านอาจารย์จาง จางรั่วรั่วหรือ”จางรั่วรั่ว
Magbasa pa

บทที่ 788

“ข้ามาตามหาเจ้า” เจียงอวี่เอ่ยขึ้นอย่างเยือกเย็น “เจ้าจำเจียงซุ่ยฮวนได้หรือไม่”หญิงผู้นั้นชำเลืองมองเขาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “แม่นังเด็กนั่นหรือ จำได้แน่นอน”“เจ้ามีสัมพันธ์อันใดกับนาง”เจียงอวี่ขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินคำว่า "แม่นังเด็กนั่น" “ข้าเป็นพี่ชายแท้ ๆ ของนาง”เจียงซุ่ยฮวนเคยอาศัยอยู่ที่นี่ตั้งแต่วัยเยาว์ จวบจนสิ้นอายุสิบปีเต็มก่อนที่ผู้คนจากจวนโหว จะมารับเจียงซุ่ยฮวนไป เจียงอวี่เคยพาเจียงเม่ยเอ๋อร์แอบมาดูด้วยความสงสัยใคร่รู้ในครานั้น ที่นี่มิใช่อื่นใดนอกจากกระท่อมหญ้าคาหลังหนึ่ง หญิงผู้นี้นั่งอยู่บนม้านั่งกลางลาน คอยสั่งการให้นางเจียงซุ่ยฮวนวัยสิบขวบทำงานไม่หยุดหย่อนเจียงอวี่ในยามนั้นยังเยาว์นัก เห็นน้องสาวที่มอมแมมแลดูโง่งมกลับมิได้สงสารเลยแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามกลับเคืองแค้นว่านางแย่งชิงตำแหน่งธิดาโดยชอบธรรมของเจียงเม่ยเอ๋อร์ไปต่อมา จวนโหวมอบเงินถุงหนึ่งแก่หญิงผู้นั้น และพาเจียงซุ่ยฮวนจากไปเวลาล่วงเลยไปแปดปี กระท่อมหญ้าคาแปรเปลี่ยนเป็นเรือนอันกว้างขวาง ทว่าหญิงผู้นี้กลับแทบไม่เปลี่ยนแปลงเลยแม้แต่น้อยครั้นเมื่อรู้ฐานะของเจียงอวี่ หญิงผู้นั้นก็พลันเปลี่ยนท่าทีเ
Magbasa pa

บทที่ 789

“อืม...” จางรั่วรั่วนั่งอยู่ด้านหน้าของเจียงอวี่ แผ่นหลังแนบแน่นกับอกเขา แม้จะมีอาภรณ์กั้นกลางหลายชั้น แต่กลับรู้สึกได้ถึงไออุ่นแผ่วเบาเจียงอวี่ขมวดคิ้วพลางเอ่ยเสียงเรียบ “ยามนี้มืดค่ำนัก เกรงว่าซุ่ยฮวนนางคงหลับไปแล้ว”เขาเหยียดมือทั้งสองอ้อมผ่านร่างของนาง กุมสายบังเหียนไว้มั่น มองผิวเผินคล้ายชายหนุ่มโอบนางไว้จากด้านหลังจางรั่วรั่วไม่เคยอยู่ใกล้บุรุษถึงเพียงนี้มาก่อน จึงรู้สึกกระดากใจ ขยับกายไปด้านหน้าเล็กน้อยด้วยท่าทีเก้อเขิน“ข้ามีเรื่องด่วนจะพบนาง หากไม่ใช่เพราะเจ้าทำให้ข้าตกม้า ป่านนี้คงถึงจวนของนางแล้ว”“เห็นกันอยู่ชัด ๆ ว่าเป็นเจ้าที่ชนข้า...เฮ้อ ช่างเถอะ” เจียงอวี่ส่ายศีรษะเบาๆ ก่อนตวาดเสียงต่ำ “ย่ะ!”ม้าดำเบื้องใต้ทะยานออกไปเต็มกำลัง จางรั่วรั่วเพิ่งนึกขึ้นได้ “แล้วม้าของข้าล่ะ”“มันจะตามมาเอง” เจียงอวี่ผิวปากแผ่วเบา ม้าขาวที่ยืนอยู่เบื้องหลังก็ควบตามมาอย่างว่าง่าย“ยอดเยี่ยมจริงๆ” จางรั่วรั่วเอ่ยด้วยความตื่นเต้น “เจ้าสอนข้าบ้างได้หรือไม่”เจียงอวี่ลอบทอดถอนใจ สตรีผู้นี้มิใคร่ถือพิธีรีตอง ยามดึกดื่นกล้าไปจวนผู้อื่น แถวขณะควบม้ายังมิละความพยายามอยากจะเรียนรู้เขาตอบอ
Magbasa pa

บทที่ 790

เขาเคยย่างกรายมาที่นี่ก่อน ทว่าเจียงซุ่ยฮวนนั้นหาได้มีท่าทีดีต่อเขาไม่ ดังนั้นยวี่จี๋จึงคิดว่าเจียงซุ่ยฮวนมิได้ต้อนรับเขายวี่จี๋หันไปมองจางรั่วรั่ว “ท่านมากับท่านแม่ทัพฉีหยวนหรือ”จางรั่วรั่วเห็นสีหน้าของยวี่จี๋แปรเปลี่ยน ก็กลัวว่าเขาจะขับไล่นางกับเจียงอวี่ออกไปพร้อมกัน จึงรีบโบกมือกล่าวว่า “ไม่ใช่ เราไม่ได้มาด้วยกัน”วาจานั้นยังไม่ทันสิ้น นางก็สาวเท้าก้าวล่วงไปเบื้องหน้า “ท่านทั้งสองคุยกันตามสบาย ข้าขอไปปลุกซุ่ยฮวนก่อน”เจียงอวี่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงกล่าวกับยวี่จี๋ว่า “เช่นนี้เถอะ ข้าจะยืนรออยู่ตรงนี้”“ท่านลองไปบอกซุ่ยฮวนสักคำ หากนางยินยอมพบข้า ข้าจักเข้าไป หากนางมิประสงค์ ข้าก็จักจากไปโดยพลัน”ยวี่จี๋ครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ เห็นว่าความคิดนี้พอใช้ได้ จึงพยักหน้าตอบ “ท่านโปรดรอสักครู่ ข้าจะไปเรียนถามคุณหนูให้แน่ก่อน”“อืม” เจียงอวี่กล่าวเสริมขึ้นอีกประโยค “ช่วยบอกนางด้วย ว่าข้าไปที่หมู่บ้านจ้วงจื่อมา นำภาพวาดตอนนางอายุสิบขวบกลับมาด้วย”เมื่อยวี่จี๋จากไป เจียงอวี่ก็วางมือลงบนอก ภาพวาดใบนั้นเก็บอยู่ที่นั่น ถึงจะเบาราวขนนก ทว่าในอกกลับหนักอึ้งประหนึ่งมีหินก้อนมหึมากดทับอยู่
Magbasa pa
PREV
1
...
767778798081
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status