บททั้งหมดของ หลังบวชชี บรรดาท่านพี่ก็อ้อนวอนให้ข้าสึก: บทที่ 871 - บทที่ 880

886

บทที่ 871

หลังจากเต๋อกงกงและคนอื่น ๆ จากไปแล้ว เป่ยเฉินหยวนก็หันมามองเวินซื่อ “จะพักในเมืองหลวง หรือกลับไปที่อารามสุ่ยเยว่ก่อนดี?”ทางด้านจวนสกุลหลานได้เก็บกวาดเรียบร้อยแล้ว หากเวินซื่อรู้สึกเหนื่อยเกินไป ก็สามารถพักอยู่ที่นั่นสักคืนได้จริง ๆแต่สิ่งที่เวินซื่อไม่รู้ก็คือ ที่เป่ยเฉินหยวนพูดถึงนั้นไม่ใช่ฝั่งสกุลหลานจิตใจของใครบางคนกำลังกระสับกระส่าย คว้าโอกาสได้ก็อยากจะลองทดสอบดูน่าเสียดายที่จิตใจของเวินซื่อเป็นเสมือนท่อนไม้ ไม่เข้าใจความนัยที่ซ่อนอยู่ในคำพูดของเขาเลย เพียงส่ายศีรษะอย่างจริงจังพร้อมพูดว่า “ไม่ได้กลับไปนานแล้ว อาจารย์น่าจะเป็นห่วงมากมาโดยตลอด กลับไปที่อารามให้เร็วหน่อยดีกว่า อาจารย์กับพวกศิษย์พี่หญิงจะได้สบายใจ”“ตกลง ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้คนส่งท่านกลับไป”ในใจลึก ๆ เป่ยเฉินหยวนยังอาลัยอาวรณ์ อยากอยู่กับนางอีกสักพัก แต่เขาก็ไม่ได้กลับไปนานแล้ว ทางฝั่งจวนอ๋องก็อาจมีเรื่องราวเกิดขึ้นไม่น้อยอย่าว่าแต่ตอนนี้เลย อีกไม่กี่วันข้างหน้าเขาก็จะมีงานยุ่ง ดังนั้นจึงทำได้เพียงมอบหมายให้คนอื่นไปส่งเวินซื่อเวินซื่อก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้แต่เวลานี้ คนที่สนใจได้มาแล้ว...“ช้าก่อน พี่หญิ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 872

เวินซื่อในเวลานี้ยังไม่รู้ว่าสิ่งที่เขาจะพบเจอในวันพรุ่งนี้ ไม่ใช่แค่ฮ่องเต้และหลินเนี่ยนฉือเท่านั้นยังมีอีกคนหนึ่งก็รอนางอยู่ด้วยหลังจากกลับมาที่อารามสุ่ยเยว่ เวินซื่อก็ถูกรายล้อมไปด้วยอาจารย์อาและศิษย์พี่หญิงที่คอยปลอบขวัญนางด้วยความห่วงใย“กลับมาก็ดีแล้ว หลายวันมานี้อาจารย์คิดถึงเจ้าอยู่ตลอด พาพวกเราไปทำพิธีสวดมนต์อยู่หลายรอบ เพื่อชาวชางโจวและเพื่อเจ้าด้วย”ศิษย์พี่หญิงอู๋ขู่เอนตัวเข้าไปใกล้หูของนางแล้วกระซิบว่า “ตอนนี้อาจารย์อาจจะยังคัดลอกพระสูตรให้เจ้าอยู่ รีบไปพบนางเถอะ”เวินซื่อยิ้มออกมาทันใด แล้วหันหลังรีบจ้ำพรวด ๆ ไปหาอาจารย์ม่อโฉว“อาจารย์ อาจารย์!”ทันทีที่มาถึงด้านนอกเรือนของม่อโฉวซือไท่ เวินซื่อก็ตะโกนเรียกสองครั้งอย่างอดใจรอไม่ไหวเมื่อเดินมาถึงประตู เวินซื่อยังไม่ทันได้ยกมือผลักประตู ประตูนั้นก็เปิดจากทางด้านในแล้ว“อู๋โยว?!”ม่อโฉวซือไท่กำลังยืนอยู่ด้านหลังประตู มองดูนางด้วยสีหน้าเบิกบาน“อาจารย์ ศิษย์กลับมาแล้วเจ้าค่ะ”ใบหน้าของเวินซื่อแย้มยิ้มขึ้นมา แต่ดวงตาทั้งสองของม่อโฉวซือไท่กลับแดงก่ำในทันใด จนแทบหลั่งน้ำตา“นังหนูนี่ ที่ไหนอันตรายก็ไปที่นั่นจริง ๆ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 873

ผลปรากฏว่ารอยยิ้มของม่อโฉวซือไท่ยิ่งเยือกเย็นลงไปอีก “บางครั้งดูภายนอกก็ไม่มีอันตราย แต่ที่อันตรายที่สุดคือคนกันเอง โดยเฉพาะผู้ชาย!”เวินซื่อ “...”นางยังสามารถพูดอะไรได้อีก?ไม่เป็นไร ยอมโดนดุด่าแต่โดยดีจะดีกว่าขณะที่กำลังคิดเรื่องนี้ วินาทีต่อมาม่อโฉวซือไท่ก็กดนางให้นั่งลง “เอาล่ะ ไม่คุยกับเจ้าแล้ว”ม่อโฉวซือไท่ถอนหายใจ มองเด็กน้อยคล้ายสหายเก่าที่อยู่ตรงหน้า นางเอ่ยด้วยความยินดีเคล้าโศกเศร้า “นังหนูนี่ ตั้งแต่แรกที่ขึ้นภูเขามาข้าก็มองออกแล้วว่าเจ้ามีความคิดบางอย่าง มีหัวใจที่ทุ่มสุดตัว ดังนั้นข้าจึงเป็นห่วงเจ้าอยู่เสมอ”ที่จริงแล้วภัยอันตรายทั่วไปนางเชื่อว่าเวินซื่อสามารถรับมือได้ด้วยตัวเอง แต่หากเผชิญกับสถานการณ์ที่จนตรอกจริง ๆ สิ่งที่ม่อโฉวซือไท่เป็นกังวลก็คือเวินซื่อจะยอมเลือดเข้าตา ให้ตายก็ไม่ยอมก้มหัวให้ใครในสายตาของม่อโฉวซือไท่ มองเห็นเวินซื่อเหมือนเชือกที่ถูกขึงไว้แน่นแต่ไหนแต่ไร นางไม่เคยปล่อยให้ตัวเองผ่อนคลายแม้แต่น้อยแต่เชือกถูกขึงไว้อยู่ตลอดเวลา เมื่อเวลาผ่านไปนาน ภายใต้สายลมและแสงแดด มันจะไม่ขาดไม่แยกกันตลอดไปได้อย่างไร?ดังนั้นม่อโฉวซือไท่จึงรู้สึกกลัวนางกล
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 874

ความเศร้าโศกของม่อโฉวซือไท่ เวินซื่อนั้นไม่รู้เลยนางเพียงแค่บอกเรื่องนี้กับม่อโฉวซือไท่อย่างบริสุทธิ์ใจเท่านั้นไม่ใช่ อาจจะไม่บริสุทธิ์ใจขนาดนั้นก็ได้เพราะนางรู้มาตลอดว่า สาเหตุที่ม่อโฉวซือไท่ดีกับนางก็เพราะแม่ของนาง เพราะนางเป็นลูกของหลานจื่อจวินแต่ลูกของหลานจื่อจวินไม่ได้มีแค่นางเท่านั้น แต่ยังมีพี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม และพี่สี่ในอดีตของนางด้วยและระหว่างนางกับคนทั้งสี่นี้ มีความแค้นฝังลึกอยู่แล้ว มิตรภาพในอดีตก็เลือนหายไปหมด เหลือเพียงหัวใจที่เต็มไปด้วยความบาดหมางและเคียดแค้นดังนั้นนางจึงต้องการให้ม่อโฉวซือไท่ตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้อย่างชัดเจน เพื่อที่อาจารย์ของนางจะไม่กลายเป็นอุปสรรคต่อการแก้แค้นของนางในวันข้างหน้าวิธีการเช่นนี้เฉยชาเกินไปแต่เวินซื่อก็ไม่เสียใจเพราะคนที่นางต้องการฆ่า ไม่ได้มีเวินอวี้จือเพียงคนเดียวหลังจากให้ม่อโฉวซือไท่เตรียมใจแล้ว เวินซื่อก็ไม่พูดถึงเวินอวี้จืออีก แต่ขยายหัวข้อสนทนาไปเรื่องอื่น“อ้อ อาจารย์รู้ไหมว่าคนที่ลงมือแทนข้าในครั้งนี้คือใคร?”เวินซื่ออมยิ้มมุมปาก นั่งตัวตรงบนเก้าอี้เอ่ยถามม่อโฉวซือไท่“ไม่ใช่จู๋เยวี่ยหรือ?”ม่อโฉวซือไท่เ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 875

“ความจริงแล้วเมื่อมองในตอนนี้ โชคดีที่เจ้าเด็ดขาดตั้งแต่แรก ขอออกบวชโดยตรง มิฉะนั้นหากยังอยู่ในจวนเจิ้นกั๋วกงล่ะก็ คงถูกพ่อของเจ้าที่สูญสิ้นมโนธรรมทรมานจนไม่เป็นผู้เป็นคน”ม่อโฉวซือไท่พูดมาเช่นนี้แต่กลับไม่รู้ว่าคำพูดของนางกำลังยืนยันชาติก่อนของเวินซื่อเวินซื่อหลุบตาลงเล็กน้อย ไม่พูดอะไร แต่ยังคงฟังต่อไป นางต้องการได้ยินความจริงเพิ่มเติม“พี่ชายทั้งหลายของเจ้าพวกนั้นก็โง่เขลาอย่างไม่น่าเชื่อ หรือบางทีพ่อของเจ้าอาจจะหน้าเนื้อใจเสือเกินไป เขารู้ว่ามีอาจารย์คอยจับตาดูอยู่ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ลงมือกับเจ้าโดยตรง แต่ค่อย ๆ ครอบงำพี่ชายทั้งหลายของเจ้าอย่างแยบยล ให้พวกเขาทรมานเจ้าที่เป็นน้องสาวแท้ ๆ เพื่อน้องสาวนอกสมรสคนนั้น”“และพวกเจ้าทุกคนคือลูกของจื่อจวิน ฝั่งหนึ่งก็คือลูกสาวของจื่อจวิน อีกฝั่งหนึ่งก็คือลูกชายทั้งสี่ของจื่อจวิน เขาคิดว่าแบบนี้ก็จะทำให้ข้าไม่สามารถเลือกได้ระหว่างสองฝั่ง...ฮ่า ๆ แต่เขาประเมินข้าต่ำเกินไป”ทันใดนั้นม่อโฉวซือไท่ก็หัวเราะอย่างเย็นชา ความเคร่งขรึมวาดผ่านแววตานางมองไปทางเวินซื่อ “ในเมื่อเจ้าได้เห็นเด็กคนนั้นแล้ว ก็น่าจะสังเกตเห็นบางอย่างในตัวเขาด้วยใช่ไห
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 876

เสื้อผ้าบนตัวจวี้เอ๋าเป็นชุดชาวต่างถิ่น ตอนนี้มาถึงเมืองหลวงแล้ว หากไม่เปลี่ยนล่ะก็ จะทำให้เกิดความวุ่นวายแน่นอนโดยเฉพาะวันนี้นางยังต้องการพาจวี้เอ๋าเข้าวัง ให้ทุกเรื่องราวกระจ่างต่อหน้าฮ่องเต้ใช่แล้ว ตั้งแต่เวินซื่อตัดสินใจเก็บจวี้เอ๋าไว้ข้างกาย ก็ได้เริ่มวางแผนเรื่องเหล่านี้แล้วก่อนหน้านี้เนื่องจากสถานะพิเศษของจวี้เอ๋า ยากที่จะปล่อยตัวเขาออกมา แต่บัดนี้ที่เขากลับมายังเมืองหลวงแล้ว เพื่อให้เขาปรากฏตัวได้อย่างเปิดเผยในวันข้างหน้า ก็จำเป็นต้องได้รับการยอมรับจากบุคคลสูงสุดดังนั้นเวินซื่อจึงเลือกวันนี้ให้เป็นวันที่จวี้เอ๋าปรากฏตัวต่อหน้าทุกคนเพียงแต่ต่อไปมันค่อนข้างยุ่งยากว่าจวี้เอ๋าจะอาศัยอยู่ที่ไหน เขาไม่สามารถอาศัยอยู่ที่อารามสุ่ยเยว่ได้อย่างแน่นอน และไม่สามารถปล่อยให้เขาอยู่ไกลเกินไปได้อีกด้วยเวินซื่อคิดอะไรได้บางอย่าง จึงออกจากมิติพูดกับเสี่ยวหานว่า “วันนี้เจ้าตามข้าไปเมืองหลวง หลังจากข้าเข้าวังแล้ว เจ้าก็ไปหาพ่อบ้านหลาน ให้เขาหาคนมาสร้างเรือนเล็กที่สูงใหญ่หน่อยที่เชิงภูเขาหนาน ข้าจะจัดการให้คนคนหนึ่งไปพักที่นั่น”เสี่ยวหานถามอย่างรอบคอบ “ต้องการเรือนสูงเท่าไหร่และขนาดให
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 877

“อู๋โยว”เวินซื่อยังไม่ทันเข้าใกล้ เป่ยเฉินหยวนก็ยกเท้าก้าวไปหานางโดยสัญชาตญาณ สายตาของเขาจับจ้องไปที่จวี้เอ๋า ราวกับคาดเดาอะไรบางอย่างได้แล้ว พลางเลิกคิ้วถามว่า “คนผู้นี้คือหนึ่งในคนที่ท่านเคยได้รับมาตอนที่อยู่ในอำเภอหลินเจียงก่อนหน้านี้ใช่ไหม?”เวินซื่อเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ก็ถือว่าใช่ เดิมทีเขาเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของอ๋องชางแห่งราชสำนักต่างถิ่น มีพละกำลังมหาศาลน่าสะพรึงกลัว แต่นิสัยยังไม่โตเต็มที่ เมื่อก่อนถูกอ๋องชางควบคุมด้วยแมลงกู่มาโดยตลอด หลังจากถูกแม่ชีกำจัดแมลงกู่ทิ้งแล้ว ก็เลยเก็บเขาไว้”“จวี้เอ๋า รีบมาคารวะท่านอ๋อง”จวี้เอ๋าเอียงศีรษะ หัวเราะเจื่อน ๆ พลางเอ่ยด้วยเสียงดังลั่นของเขา “ได้ คำนับท่านอ๋อง คำนับพี่หญิง จวี้เอ๋าสบายดี!”จวี้เอ๋าที่ไม่เข้าใจเรื่องมารยาทใด ๆ พูดได้แต่คำว่าคำนับ เมื่อเวินซื่อเห็นฉากนี้ก็แอบพูดในใจว่า ดูเหมือนว่าประเดี๋ยวจะต้องสั่งสอนจวี้เอ๋าเสียหน่อย เพื่อที่เขาจะได้ไม่เสียมารยาทต่อหน้าฝ่าบาททันทีที่เป่ยเฉินหยวนได้ยินที่เขาพูด ก็รู้ว่าที่เวินซื่อบอกว่า “นิสัยยังไม่โตเต็มที่” หมายความว่าอย่างไรแล้ว“ท่านต้องการเก็บเขาไว้ข้างกายหรือ?”ใช่แล้ว ท่านอ๋อ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 878

อีกอย่างในตอนนั้นหลินเนี่ยนฉือยังได้หมั้นหมายกับเวินจื่อเยวี่ยแล้วด้วยดังนั้นต่อมาทั้งสองจึงไม่ได้ติดต่อกันอีกเลยแม้แต่จดหมายสักฉบับก็ไม่เคยส่งหากันแต่วนเวียนไปมา หลินเนี่ยนฉือก็กลับมาที่เมืองหลวงอีกครั้ง สิ้นสุดสถานะหมั้นหมายกับเวินจื่อเยวี่ย แต่กลายมาเป็นฮองเฮาของเขาแทนหลินเนี่ยนฉือไม่รู้ว่าฮ่องเต้หมิงฉี่เฉียนผู้นี้กำลังคิดอะไรอยู่ แต่ความรู้สึกของนางค่อนข้างซับซ้อนในตอนแรกต่อมาเมื่อได้พบกับหมิงฉี่เฉียนตอนเข้าวัง ได้เริ่มไปมาหาสู่กับเขาใหม่หลายครั้ง อารมณ์ที่ซับซ้อนของหลินเนี่ยนฉือก็หายไปอย่างรวดเร็วเพราะเดิมทีนางคิดว่าหมิงฉี่เฉียนที่ได้เป็นฮ่องเต้แล้วต้องเปลี่ยนแปลงไปมากแน่นอน และอาจเป็นไปได้ด้วยซ้ำว่าจะกลายเป็นคนแปลกหน้าที่คุ้นเคยสำหรับนางไปแล้วแต่นึกไม่ถึงว่า ความรู้สึกที่หมิงฉี่เฉียนแสดงออกมากลับยังเหมือนตอนที่เขายังเป็นเด็กสามารถรำลึกถึงอดีตกับนางได้ พานางไปขี่ม้าเที่ยวเล่น ไม่บังคับอุปนิสัยของนาง และไม่ให้นางต้องทำแบบนี้ทำแบบนั้น ไม่วางมาดของฮ่องเต้เลยแม้แต่นิดเดียววันนั้นหมิงฉี่เฉียนในฐานะฮ่องเต้ถึงกับกล่าวคำพูดตอนหนึ่งกับหลินเนี่ยนฉือว่า “เรารู้ว่านิสัยเจ้าร
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 879

ไม่นานเงาร่างอรชรอ่อนแอ้นที่อยู่นอกตำหนักก็เดินเข้ามา“หม่อมฉันขอถวายบังคมฝ่าบาท ถวายบังคมฮองเฮา”อันซินรุ่ยทำความเคารพตามประเพณี หลังจากที่หมิงฉี่เฉียนบอกให้ลุกขึ้นจึงเงยหน้าขึ้น หลังจากดวงตาคู่นั้นกวาดตามองหลินเนี่ยนฉือและหมิงฉี่เฉียนที่อยู่บนตำแหน่งสูงในตำหนักด้วยรอยยิ้มแล้ว ความเหยียดหยามเล็ก ๆ ได้ปรากฏขึ้นในใจของนางกล่าวกันว่านางเข้ามาในวังเพื่อแย่งชิงให้เป็นที่โปรดปราน แย่งชิงฮ่องเต้กับว่าที่ฮองเฮาแต่นางกลับหวังว่าชายที่เป็นเจ้าแห่งใต้หล้าจะไม่เข้ามาในตำหนักของนางแม้แต่ครึ่งก้าวเหตุผลที่นางเข้าวัง ก็เพียงเพื่อทำให้หลินเนี่ยนฉือรู้สึกสะอิดสะเอียน บวกกับการบีบบังคับของตาเฒ่าอันปี่เค่อนั่น นางไม่มีทางเลือกอื่นหลังจากเข้าไปในวังแล้ว ก็อยู่ในตำหนักกุ้ยเฟยของนางเป็นเวลาหลายวันโดยไม่ออกไปไหนโชคดีที่หลินเนี่ยนฉือก็ไม่ต้องการพบนางเช่นกันดังนั้นต่อให้นางไม่ไปแสดงความเคารพ หลินเนี่ยนฉือก็ไม่ได้ส่งใครมาจับผิดนางทั้งสองคนก็พอจะถือได้ว่า “อยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข” มาจนถึงวันนี้แต่ในวันนี้ จู่ ๆ อันซินรุ่ยก็ตื่นขึ้นแต่เช้าตรู่ท่ามกลางความประหลาดใจของนางกำนัลเหล่านั้นภายในตำหนักข
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 880

อันหลันซิน?!เวินซื่อตกตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นก็ขมวดคิ้วถามว่า “เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?”และเสื้อผ้าที่นางสวมใส่อยู่ก็ดูเหมือนกุ้ยเฟยในวังอย่างชัดเจน“บังอาจ! กล้าพูดจากับอันกุ้ยเฟยของเราด้วยน้ำเสียงเช่นนี้ได้อย่างไร!”เมื่อเยวี่ยหลิ่วเห็นความสัมพันธ์อันดีเลิศระหว่างเวินซื่อและฮองเฮา นั่นคือคู่อริของกุ้ยเฟยของนาง จึงเอ่ยปากตำหนินางแทนกุ้ยเฟยโดยจิตใต้สำนึกแต่ทันทีที่นางพูดจบ แววตาของหลินเนี่ยนฉือก็เฉียบขาดในทันที...“บังอาจนัก! เป็นแค่นางกำนัลกล้าดีอย่างไรถึงได้เสียมารยาทกับธิดาศักดิ์สิทธิ์ เด็ก ๆ ตบปากให้ข้าที!”นางกำนัลใหญ่ที่รับใช้หลินเนี่ยนฉือก็ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้ง่าย ๆ เช่นกัน เมื่อได้ยินคำสั่งจากฮองเฮาของตัวเอง ก็จ้ำพรวด ๆ ทันที รีบก้าวไปถึงหน้าเยวี่ยหลิ่ว แล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นฟาดไปที่ใบหน้าของอีกฝ่ายโดยตรง“ผัวะ! ผัวะ! ผัวะ!”ตบสามครั้งอย่างเฉียบขาดและคล่องแคล่ว ตบจนเยวี่ยหลิ่วมึนงง ยังมองไปทางอันซินรุ่ยโดยสัญชาตญาณแต่ใครจะรู้ว่าอันซินรุ่ยกลับนิ่งเฉย พลางหัวเราะเบา ๆ กล่าวว่า “มองข้าทำไม ไม่ได้ยินที่ฮองเฮาพูดหรือ? เป็นแค่นางกำนัลบังอาจเสียมารยาทกับธิดาศักดิ์สิท
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
848586878889
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status