All Chapters of พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี: Chapter 1011 - Chapter 1020

1022 Chapters

บทที่ 1011

ฉู่จืออี้ยังรู้สึกไม่วางใจนัก แต่เห็นสีหน้าจริงจังของท่านหมอประจำจวน ท้ายที่สุดก็ถอยออกไปก็เพราะเชื่อว่าท่านหมอประจำจวนสามารถช่วยเฉียวเนี่ยนได้จึงถึงได้มาไม่ใช่หรือ?จะไม่วางใจได้อย่างไร?ประตูห้องถูกปิดลง ฉู่จืออี้จึงมองไปยังหนิงซวงที่อยู่ข้างๆ “บอกสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเข้าไปในจวนเมิ่งมาให้หมด”หนิงซวงที่เดิมทีเป็นกังวลต่อเฉียวเนี่ยนจนใจลอย พอได้ยินเสียงทุ้มต่ำของฉู่จืออี้ก็มีสติขึ้นมา แม้น้ำเสียงยังคงตื่นตระหนก แต่ก็เล่าสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากเข้าจวนเมิ่งมาอย่างครบถ้วนระหว่างนั้น ท่านโหวหลินกับหลินเย่ว์ที่ได้ยินข่าวก็รีบร้อนมาถึงเมื่อฟังคำบรรยายของหนิงซวงจบ หลินเย่ว์ก็อุทานออกมา “ตระกูลเมิ่งนี่ เห็นได้ชัดเจนว่าต้องการจะใส่ร้ายเนี่ยนเนี่ยนเลยมิใช่หรือ?”น้ำตาของหนิงซวงหยุดไม่อยู่ “คุณชายใหญ่พูดถูกเจ้าค่ะ! คุณหนูไม่หลงกล พวกเขาก็ไม่ยอมให้คุณหนูกลับ! ไม่เพียงแค่ส่งองครักษ์ในจวนมา ยังให้นักลอบสังหารสองคนนั้น...”พูดมาถึงตรงนี้ หนิงซวงก็เหมือนนึกขึ้นได้ รีบหันไปพูดกับหลินเย่ว์ว่า “คุณชายใหญ่! คุณหนูได้รับบาดเจ็บจากนักลอบสังหารที่จำได้ว่าคุณหนูเป็นสตรีในวัดร้างนั่นแหละเจ้าค่ะ!”
Read more

บทที่ 1012

ฉู่จืออี้แท้จริงแล้วคาดเดาได้ว่าตระกูลเมิ่งไม่มีทางส่งตัวคนมาอย่างไรเสีย แปดปีนั้นมันนานเกินไปนานเสียจนผู้คนในท้องพระโรงต่างก็ลืมไปแล้วว่า ในปีนั้นเป็นผู้ใดกันที่อาศัยเพียงกำลังของตน สงบเหตุการณ์ความวุ่นวายของกษัตริย์ทั้งห้า ทำให้บัลลังก์ของฮ่องเต้มั่นคงได้ดังนั้น ครบหนึ่งชั่วยาม ฉู่จืออี้ก็กลับมาที่จวนเมิ่งอีกครั้งองครักษ์หน้าจวนเมิ่งได้รับคำสั่งไว้นานแล้ว พอเห็นฉู่จืออี้ก็เพียงทำความเคารพเล็กน้อย แล้วกางแขนกั้นทางไว้ “ท่านอ๋อง ใต้เท้าเมิ่ง...อ้าก!”องครักษ์ยังพูดไม่ทันจบ ก็มีเสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้นแสงเย็นวาบหนึ่งไม่รู้มาจากที่ใด ตัดแขนขององครักษ์คนนั้นขาดสะบั้นโดยง่ายดายฉู่จืออี้สวมอาภรณ์ยาวสีดำ ยืนไขว้มืออยู่ด้านหลัง ไม่ไหวติงแม้แต่น้อยแต่องครักษ์พยัคฆ์สิบคนกลับทะยานลงมาจากฟ้า เกราะเหล็กดำเต็มยศ พร้อมกันบุกเข้าไปยังจวนเมิ่งองครักษ์ของจวนเมิ่งไม่เคยเห็นเหตุการณ์น่าหวาดกลัวเช่นนี้มาก่อน ต่างพากันขวัญเสียจนขยับไม่ได้แม้แต่นิดเดียวประตูใหญ่ของจวนเมิ่งกลับถูกเปิดออกในยามนี้พ่อบ้านจวนเมิ่งก้าวออกมา พอเห็นภาพตรงหน้าก็ตกตะลึงจนพูดไม่ออก แต่ยังฝืนเอ่ยออกมาด้วยเสียงสั่
Read more

บทที่ 1013

ฉู่จืออี้สั่งการออกมาโดยไม่ให้โอกาสเขาได้เอ่ยปากอีก “ฆ่าซะ”สิ้นเสียงคำสั่ง พ่อบ้านก็เพียงรู้สึกว่ามีแสงเย็นวาบผ่านตรงหน้า แล้วก็รู้สึกเจ็บแปลบที่ลำคอเขายกมือไปกดลำคอตัวเอง ก็พบว่ามีเลือดพุ่งทะลักออกมาอย่างไม่อาจห้ามไว้ได้…เขาเบิกตากว้าง ล้มลงบนพื้นทั้งที่ใจไม่ยินยอม จ้องมององครักษ์พยัคฆ์ที่เดินข้ามร่างเขาไปทีละคนไม่ควรจะเป็นแบบนี้…พ่อบ้านคิดในใจเขาเพิ่งจะปรึกษากับนายของตนอยู่ว่าจะใส่ร้ายเฉียวเนี่ยนอย่างไร ให้เฉียวเนี่ยนสิ้นหนทางแก้ต่างแล้วเหตุใด เพียงชั่วพริบตา ผู้ที่ตายก่อนกลับกลายเป็นตนเอง?เขาพยายามอ้าปาก แต่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะร้องขอชีวิตหรือร้องเรียกให้ช่วยแต่สุดท้ายกลับไม่มีเสียงใดเล็ดลอดออกมาเลยในตอนนั้น เมิ่งซ่างซูได้ขังตัวเองไว้ในห้องหนังสือประตูหน้าต่างถูกลงกลอนไว้หมด ด้านนอกยังมีองครักษ์จำนวนไม่น้อยคอยเฝ้าอยู่ถึงจะรู้ว่าพวกนี้ไม่อาจขวางฉู่จืออี้ได้ แต่เขาคิดว่าอย่างน้อยก็สามารถถ่วงเวลาไปได้บ้างในขณะที่ฉู่จืออี้กำลังต่อสู้กับนักรบพลีชีพที่เขาเลี้ยงดูไว้ในจวน เขาก็ได้ส่งคนเข้าไปในวังเพื่อขอความช่วยเหลือแล้วฮ่องเต้ต้องรีบส่งทหารรักษาพระองค์มาแน่!เข
Read more

บทที่ 1014

องครักษ์ได้ยินดังนั้น ก็รีบไปหามนักรบพลีชีพที่บาดเจ็บสาหัสคนนั้นออกมานักรบพลีชีพคนนั้นเดิมยังคิดว่าตนเองได้รับการช่วยเหลือจากตระกูลเมิ่ง คงไม่ถึงตายใครจะรู้ว่ากลับถูกหามมาอยู่ต่อหน้าฉู่จืออี้เขาลืมตาขึ้น ก็เห็นฉู่จืออี้กำลังเหลือบมองตน แววตานั้นประหนึ่งพาเขาย้อนกลับไปเมื่อชั่วยามก่อนเขาถึงได้รู้ ว่าตนเองรอดไม่ได้แล้วฉู่จืออี้หันไปมองเจ้ารองหนึ่งครั้งเจ้ารองเข้าใจทันที รีบก้าวออกไปพร้อมเจ้าสาม พานักรบพลีชีพคนนั้นออกไปเสียงจากในห้องหนังสือของเมิ่งซ่างซูดังมา “ฉู่จืออี้! คนที่ท่านต้องการก็ส่งให้แล้ว! ข้า... ข้าได้ส่งคนไปแจ้งฮ่องเต้แล้ว ทหารรักษาพระองค์จะมาในไม่ช้า! หากท่านไม่รีบไปละก็ คงไปไม่ได้อีกตลอดกาล!”ยังไม่ทันขาดคำ ประตูห้องหนังสือกลับถูกถีบเปิดออกอย่างง่ายดายฉู่จืออี้เดินเข้ามาอย่างองอาจ ทำเอาเมิ่งซ่างซูที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตกใจจนรีบลุกขึ้น ร่างกายสั่นเทา มององครักษ์ที่ถอยไปยืนอย่างเรียบร้อยด้านนอกด้วยสายตาไม่อยากเชื่อแต่ก็โทษพวกเขาไม่ได้องครักษ์พยัคฆ์พูดชัดเจนตั้งแต่เมื่อครู่แล้ว หากไม่ยอมหลีกทาง ก็ต้องตายยิ่งกว่านั้น จะกลายเป็นตายเพราะถูกใส่ร้ายว่าเป็นนักลอ
Read more

บทที่ 1015

ฮ่องเต้ไหนเลยจะคาดคิดไว้ วันนี้เป็นวันสิ้นปีแท้ๆ กลับยังต้องตัดสินคดีฆาตกรรม!ยิ่งไปกว่านั้นในตอนนี้ศพของเมิ่งอิ้งจือก็อยู่หน้าห้องทรงอักษร!มองไปยังเมิ่งซ่างซูที่สลบอยู่ถูกโยนลงกับพื้นยังไม่ฟื้นขึ้นมา แล้วหันไปมองฉู่จืออี้ที่ใบหน้ายิ่งอึมครึม ฮ่องเต้ก็กลั้นไม่อยู่ หันไปตวาดซูกงกงว่า “ยังไม่รีบปลุกเขาขึ้นมาอีก!”ซูกงกงจึงรับคำ รีบถือถ้วยชาที่อยู่บนโต๊ะของฮ่องเต้ไปสาดลงบนหน้าเมิ่งซ่างซูในที่สุดเมิ่งซ่างซูก็ค่อยๆ ฟื้นขึ้นมา ลืมตาขึ้นมาก็เห็นฮ่องเต้เป็นคนแรกยังไม่ทันได้เข้าใจสถานการณ์ ก็รีบคลานมากราบ “กระหม่อมคารวะฮ่องเต้! ขอพระองค์ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นหมื่นปี...”ยังทำความเคารพไม่ทันเสร็จก็พลันเห็นฉู่จืออี้ที่ยืนอยู่ข้างๆความหวาดกลัวถาโถมเข้ามา เขาตกใจจนสุดขีด จึงคลานคุกเข่าเข้าไปข้างฮ่องเต้ “ฝ่าบาท! ท่านอ๋องจะฆ่าปิดปากคนจวนเมิ่ง! พระองค์ต้องทรงอำนวยความยุติธรรมแก่ข้าน้อยด้วย!”ฆ่าปิดปากรึ?ฮ่องเต้ขมวดคิ้ว “เขาจะฆ่าเจ้าปิดปากเรื่องอะไร?”“ฝ่าบาท! วันนี้บุตรีของกระหม่อมถูกพบว่าตายในห้องนอน เป็นเพราะถูกท่านหญิงเฉียวรักษาจนตาย! เรื่องนี้พ่อบ้านผู้ดูแลจวนของกระหม่อมสามารถเป็น
Read more

บทที่ 1016

ฮ่องเต้ไม่เชื่อ“เพ้อเจ้ออะไร! เฉียวเนี่ยนเป็นหมอหญิง รักษานางสนมในวังหลังมามากมาย เคยมีผิดพลาดเมื่อใดกัน? ไยจึงไปลืมเข็มเงินแสนสำคัญเช่นนี้ไว้บนศีรษะเมิ่งอิ้งจือได้? เราว่า นี่มันชัดเจนว่าเป็นการวางแผนใส่ร้ายโดยเจตนาของใครบางคน!”ฝ่าบาทตะคอกเสียงต่ำ ตอนเอ่ยคำว่า ‘ใครบางคน’ นั้นยิ่งมองไปยังเมิ่งซ่างซูซูกงกงก็พูดกับเมิ่งซ่างซูว่า “ใต้เท้าเมิ่ง เรื่องกินอะไรมั่วๆ ยังพอว่า แต่คำพูดนั้นพูดมั่วไม่ได้ ไม่เพียงแต่ท่านหญิงเฉียวเป็นคนรอบคอบระมัดระวัง ไม่เคยเกิดเรื่องผิดพลาดอันใดมาก่อน เอาแค่เรื่องเข็มเงินนี้เถิด แต่ไหนแต่ไรผู้ศึกษาวิชาแพทย์ก็ล้วนมีเข็มเช่นนี้ติดตัว ไม่มีสิ่งใดพิเศษ แล้วท่านไปตัดสินได้อย่างไรว่านี่คือของท่านหญิงเฉียว?”ซูกงกงคิดว่า กลอุบายของเมิ่งซ่างซูนั้นช่างหยาบกระด้างเกินไปแต่ก็เพราะมันหยาบกระด้างเช่นนี้ จึงทำให้คนยิ่งสงสัยฉู่จืออี้ยืนอยู่ด้านข้าง ไม่เอ่ยปากพูดอะไร มีเพียงดวงตาคู่นั้นที่จ้องแน่วไปยังเมิ่งซ่างซูเขารู้ดีว่า กลอุบายของเมิ่งซ่างซูมิใช่มีเพียงเท่านี้แล้วก็จริงดังคาดเมิ่งซ่างซูเอ่ยว่า “ถ้าเช่นนั้น ก็ให้ท่านหญิงเฉียวนำเข็มเงินของนางออกมาเถิด! เข็มเงิ
Read more

บทที่ 1017

ประมาณครึ่งชั่วยามต่อมา คนที่ไปเอาเข็มเงินจากจวนอ๋องผิงหยางก็กลับมาแล้ว“ทูลฝ่าบาท นี่คือชุดฝังเข็มที่บ่าวนำมาจากจวนอ๋อง เป็นของที่ท่านหญิงเฉียวใช้เป็นประจำพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีน้อยผู้นั้นก้าวขึ้นมา ชูชุดฝังเข็มขึ้นเหนือศีรษะทั้งสองมือซูกงกงก้าวออกมารับชุดฝังเข็ม นำไปวางไว้บนโต๊ะของฮ่องเต้ชุดฝังเข็มถูกคลี่ออก เข็มเงินเล็กใหญ่เรียงรายเป็นระเบียบอยู่ตรงหน้า เว้นเพียงแต่ขาดเล่มที่ใหญ่ที่สุดและยาวที่สุดเล่มหนึ่งไปใบหน้าของฮ่องเต้พลันหม่นลงโดยไม่อาจห้ามได้ เงยตาขึ้นมองฉู่จืออี้แวบหนึ่ง แววตาแฝงไว้ด้วยความตำหนิส่วนซูกงกงที่อยู่ข้างๆ ก็ได้นำเข็มเงินที่ผู้ตรวจศพเอามาก่อนหน้านั้นไปวางเปรียบเทียบกับชุดฝังเข็ม ดูแล้วก็ใช่ชุดเดียวกันจริงๆทันใดนั้นก็แสดงสีหน้าลำบากใจ “ฝ่าบาท พระองค์ทอดพระเนตร...”ฮ่องเต้สีหน้าเคร่งเครียด ไม่เอ่ยคำใดเมิ่งซ่างซูกลับร้องขึ้นมาเสียงดัง “ขอฝ่าบาททรงมอบความเป็นธรรมให้บุตรสาวของกระหม่อมด้วย!”หลักฐานนี้ แม้จะนับว่าไม่อาจชี้ชัดได้ทั้งหมด แต่ความจริงคือเมิ่งอิ้งจือสิ้นชีวิตหลังได้รับการรักษาจากเฉียวเนี่ยน อีกทั้งเข็มเงินที่ขาดหายไปจากชุดฝังเข็มของเฉียวเนี่ยนก็มาปร
Read more

บทที่ 1018

คราก่อน ที่เกอซูอวิ๋นเข้าวัง ก็เพราะเรื่องการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ของตนครั้งนั้เป็นครั้งแรกที่นางเข้าวัง ทำให้นางหวาดกลัวเกรงไปทั้งตัวแต่วันนี้ไม่เหมือนกัน วันนี้นางมาเพื่อช่วยคน!นางเชิดหน้าก้าวเดินอย่างองอาจ เข้าไปในห้องทรงอักษร คารวะฮ่องเต้ด้วยพิธีการของกลุ่มชนเตอร์กิก แล้วก็หันไปมองฉู่จืออี้อย่างไม่รู้ตัวอีกฝ่ายก็พยักหน้าให้นางเล็กน้อยจนแทบมองไม่เห็นเกอซูอวิ๋นก็ยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้นก็ได้ยินฮ่องเต้เอ่ยถามว่า “ไม่ทราบว่าองค์หญิงเกอซูมีเรื่องสำคัญอันใดหรือ?”เกอซูอวิ๋นเหลือบมองเมิ่งซ่างซูที่คุกเข่าอยู่ด้านข้างก่อนเอ่ยว่า “ข้าได้ยินว่ามีคนรังแกเนี่ยนเนี่ยน เลยตั้งใจมาดู”ฉู่จืออี้บอกนางไว้แล้ว ในเมื่อเป็นองค์หญิงแห่งกลุ่มชนเตอร์กิก ไม่จำเป็นต้องทำตามกฎเกณฑ์ของแคว้นจิ้ง แม้จะบุ่มบ่าม ก็จะถูกมองว่าเป็นคนตรงไปตรงมาฮ่องเต้ฟังน้ำเสียงขององค์หญิงแห่งกลุ่มชนเตอร์กิกก็รู้ได้ทันทีว่าฉู่จืออี้เป็นคนสอนให้นางพูดเช่นนี้ จึงเผยสีหน้าจำใจออกมา แต่ก็ไม่ได้กล่าวอะไรสายพระเนตรทอดไปยังเมิ่งซ่างซู ชัดเจนว่าทรงอยากให้เขาเป็นผู้ตอบเมิ่งซ่างซูชะงักไป ใจข้างในก็รู้สึกขุ่นเคืองเล็กน้อยแ
Read more

บทที่ 1019

เสียงนั้นออกจะเต็มไปด้วยความยินดีเกินไปหน่อยเมิ่งซ่างซูรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงเอ่ยว่า "พ่ะย่ะค่ะ ก็คือเข็มเงินเล่มนั้น"เกอซูอวิ๋นใบหน้าเปื้อนยิ้ม หันกลับไปมองเมิ่งซ่างซู "ใช่เล่มนี้หรือไม่?"นางชูเข็มเงินในมือขึ้น เมิ่งซ่างซูคิดจะพยักหน้าทันที แต่ก็รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ หัวเพิ่งจะพยักลงไปครึ่งหนึ่งก็พบว่า ในมือของซูกงกงยังมีเข็มเงินอีกเล่มหนึ่งเขาก็ตระหนักขึ้นมาทันที ดวงตาเบิกกว้างขึ้นมาในบัดดลก็ได้ยินเกอซูอวิ๋นเอ่ยขึ้น "โธ่เอ๋ย! ข้าก็ว่าแล้ว ว่าพวกท่านรีบเอากระเป๋าชุดฝังเข็มของเนี่ยนเนี่ยนไปทำไม ที่แท้ก็เพราะสงสัยว่านางฆ่าคนหรอกหรือ! แต่เข็มเงินที่นางทำหายอยู่ที่ข้านี่นา!"พูดจบ นางก็หันกายกลับ เสียบเข็มเงินลงไปตรงตำแหน่งที่ควรจะอยู่บนกระเป๋าฝังเข็ม แล้วเอ่ยว่า "ฮ่องเต้ เหมือนกันทุกประการหรือไม่เพคะ?"จะไม่เหมือนได้อย่างไร?ก็เทียบออกมาตรงกันเป๊ะ!ฮ่องเต้ถึงกับจนปัญญา แต่ก็ยังค่อยๆ พยักหน้าช้าๆ "ถ้าเช่นนั้นพูดได้ว่าเข็มเงินของเฉียวเนี่ยนไม่ได้หายไป ใต้เท้าเมิ่ง เจ้าคิดว่าอย่างไร?"เมิ่งซ่างซูรู้สึกขบขันอยู่ในใจเขาจะคิดว่าอย่างไรได้?เกรงว่าตอนนี้คนใน
Read more

บทที่ 1020

ฮ่องเต้รู้สึกว่า เมิ่งซ่างซูก็ชอบยกเรื่องที่ไม่ควรพูดขึ้นมาพูดเป็นการจงใจสร้างความขุ่นเคืองใจให้ฉู่จืออี้เขาเข้าเฝ้าทุกวัน จะไม่รู้ได้อย่างไร ว่าการแต่งงานเชื่อมสัมพันธไมตรีกับกลุ่มชนเตอร์กิกนั้นเป็นเรื่องที่ทำให้ปวดหัวอยู่พอดี?ยังจะต้องมาถามตอนนี้อีก ช่างอัปมงคลยิ่ง!"เราย่อมมีแผนการของเรา! พวกเจ้ากลับไปได้แล้ว!"ฮ่องเต้โบกพระหัตถ์ เหล่าขุนนางทั้งหลายจึงค่อยทำความเคารพแล้วถอยออกไปเพียงรอจนพ้นออกจากห้องทรงอักษร เมิ่งซ่างซูก็มองไปยังฉู่จืออี้แล้วอดหัวเราะเยาะไม่ได้ "ท่านอ๋องควรยินดีจริงๆ ที่มีพี่ชายอย่างฮ่องเต้"มิฉะนั้น วันนี้เฉียวเนี่ยนคงต้องถูกถลกหนังไปแล้วแน่!ฉู่จืออี้หาได้ใส่ใจต่อคำเสียดสีของเมิ่งซ่างซูไม่เพียงแต่แววตาล้ำลึกคู่นั้นเหลือบมองเขา แล้วจึงเอ่ยว่า "อ๋องผู้นี้มีของขวัญชิ้นหนึ่งจะมอบให้ใต้เท้าเมิ่ง"เมื่อได้ยิน เมิ่งซ่างซูก็ชะงักไปทันที สัญชาตญาณบอกว่าไม่ใช่เรื่องดี ใบหน้าก็พลันเคร่งเครียดเขามิได้ถามก็เพียงได้ยินฉู่จืออี้กล่าวต่อ "คืนนี้ยามจื่อ จะส่งไปถึงจวนของใต้เท้าเมิ่งอย่างตรงเวลา"ครั้นล่วงเลยยามจื่อ ก็จะขึ้นปีใหม่พอดี ถือเป็นของขวัญขึ้นปีใหม่ที่เ
Read more
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status