องค์หญิงซูหยวนมองเฉียวเนี่ยนด้วยแววตาเย็นชา แววตาเต็มไปด้วยความเย้ยหยัน “อย่าได้พาลให้คนอื่นมารับเคราะห์รึ? หมายความว่า ข้าจะพาลลงกับเจ้าแทนก็ได้อย่างนั้นหรือ?”เฉียวเนี่ยนจ้องมองดวงตาขององค์หญิง ไม่ได้หลบเลยแม้แต่น้อย “หากหม่อมฉันสามารถปกป้องให้พระองค์ผ่านพ้นเคราะห์นี้ไปได้อย่างปลอดภัย ก็ย่อมแสดงให้เห็นว่าหม่อมฉันมีประโยชน์ต่อพระองค์”ใครจะกล้ารับประกันว่าตนจะไม่ล้มป่วย ไม่มีภัยในภายหน้าแล้วจะไม่จำเป็นต้องพึ่งนางอีก?เมื่อได้ฟังดังนั้น องค์หญิงซูหยวนก็เริ่มคิดคำนวณในใจ แววตากวาดมองเฉียวเนี่ยนจากหัวจรดเท้า แล้วจึงเอ่ยว่า “เมื่อก่อน เป็นข้าที่ส่งเจ้าไปอยู่กรมซักล้าง ทั้งยังสั่งให้คนรังแกเจ้าทุกวัน แล้วเหตุใดเจ้าจึงไม่โกรธแค้น?”“เป็นหนี้ต้องชำระ เป็นคนผิดต้องชดใช้กรรม เคราะห์กรรมของหม่อมฉันล้วนมีต้นตอมาจากหลินยวนเท่านั้น บัดนี้หลินยวนก็ตายแล้ว เรื่องนี้ก็ถือว่าชำระสะสางสิ้นแล้วเพคะ”นัยว่า นางไม่โกรธแค้นอีกต่อไปแล้วองค์หญิงซูหยวนมองเฉียวเนี่ยน พยายามค้นหาเสี้ยวหนึ่งของความเสแสร้งในดวงตาของนางแต่ไม่คาดคิด ในดวงตาของเฉียวเนี่ยนกลับมีเพียงความจริงใจองค์หญิงซูหยวนจึงถอนหายใจเบา ๆ
Baca selengkapnya