ในฐานะที่เป็นผู้บริสุทธิ์นอนอยู่บ้านดี ๆ ก็ได้เรื่อง เขามีสิทธิ์รู้“จิ้นหรูไม่เป็นไรกระมัง?” มู่หรงฉิงเทียนนัยน์ตาขมุกขมัวด้วยไอกรุ่นโกรธดำทะมึนชั้นหนึ่ง“รอดแล้ว หน้าถูกกรีดจนลาย นิ้วถูกตอกตะปู ตัวมีแต่แผล” จ่านเหยียนกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทว่าในดวงตากลับมีเพลิงโทสะวูบไหว“พังได้ดี!” มู่หรงฉิงเทียนยิ้มเยาะ“ข้ารู้ว่าท่านมีความผูกพันวัยเยาว์กับจิ้นหรูจึงมาบอกกับท่าน รักษาชีวิตได้แล้ว แต่ต้องใช้เวลารักษาระยะหนึ่ง” จ่านเหยียนเอ่ย“ผู้หญิงสกุลถงชอบกรีดใบหน้าคนอื่นที่สุด เอาไว้จะให้พวกนางได้ลิ้มรสเช่นนี้บ้าง” มู่หรงฉิงเทียนเอ่ยเสียงเย็นจ่านเหยียนหัวเราะเบาะ ๆ เอ่ยราวกับมีความคิด “ต้องมีโอกาสนี้”นางยื่นมือรับถ้วยในมือเขากลับมา เผยรอยแผลตรงข้อมือ นี่คือแผลที่เกิดจากพลังชั่วร้ายตอนใช้มหาเวทสวัสติกะ เนื่องจากสิ้นพลัง แผลยังไม่หายมาตลอดมู่หรงฉิงเทียนดวงตาชะงักไป ดึงมือของนาง “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”แผลนั้นคล้ายแผลไฟลวกอยู่บ้าง จ่านเหยียนมองแวบหนึ่ง จากนั้นก็ท่องบทของโจวซิงฉือแบบไม่ใส่ใจ “วันนั้นทำปิ้งย่างในตำหนัก คนสิบกว่าคนแย่งปีกไก่ชิ้นเดียว ตะลุมบอนกันขึ้นมาจึงถูกไฟลวกบาดเจ็บ”
Baca selengkapnya