จ่านเหยียนยืนอยู่ในลานตำหนักดูทุกคนเก็บกวาดครู่หนึ่ง กัวอวี้จึงเดินมาเอ่ย “ดึกแล้ว คุณหนูใหญ่รีบบรรทมเถอะเพคะ”จ่านเหยียนบิดขี้เกียจพลางแหงนหน้ามองม่านรัตติกาล จันทราทอแสงสุกใสผลุบ ๆ โผล่ ๆ หลังชั้นเมฆ จ่านเหยียนถามกัวอวี้ “พระอาจารย์เป่ากวงอยู่ที่ไหน?”“ยามนี้เกรงแต่จะจำวัดแล้วเพคะ” กัวอวี้ตอบ“มิเป็นไร ข้าจะไปพบเขาหน่อย” จ่านเหยียนเก็บเรื่องเอาไว้ในใจ อยากหาคนระบายสักหน่อยกัวอวี้เอ่ย “เช่นนั้นก็ได้ บ่าวจะไปกับคุณหนูใหญ่ พระอาจารย์กับท่านนักพรตอยู่ที่เรือนรับรองเพคะ” (เรือนสำหรับรับรองราชทูตหรือแขกพิเศษ อยู่ห่างจากวังหลวงมาก จำเป็นต้องเดินเท้าระยะเวลาหนึ่ง)“ไม่ละ เจ้าพักผ่อนเร็วหน่อยเถอะ ข้าอยากเดินคนเดียว เมื่อครู่กินแน่นเกินไป เดินสักหน่อยจะได้ย่อยอาหารด้วย” จ่านเหยียนกล่าวจบก็เดินออกไปข้างนอกกัวอวี้มองเงาหลังของจ่านเหยียน จากหว่างคิ้วของนาง เห็นได้ว่านางมีเรื่องในใจ เพียงแต่ด้วยสถานะของนางไม่สะดวกจะถามพระอาจารย์เป่ากวงยังไม่จำวัด เขาราวกับรู้ล่วงหน้าว่าจ่านเหยียนจะมา ดังนั้นจ่านเหยียนเพิ่งเข้าประตูเรือนรับรอง เขาก็ผลักประตูออกมา“หลวงจีน เจ้ารู้ว่าข้าจะมาหรือ” จ่านเหย
Read more