All Chapters of บางเบาดั่งสายหมอก: Chapter 21 - Chapter 30

73 Chapters

๑ เผชิญดาวร้าย / 11

“ใช่เจ้าค่ะ” หลิงจูเอ่ยขึ้นอีกเจิ้งเหรินอี้ยิ้มรับอย่างเป็นมิตรและเอ่ยขึ้น “แม่นางมีธุระอันใดกับข้าหรือ”“กล่าวไปสิซิงหนี่ว์” หลิงจูกระทุ้งข้อศอกเบาๆ ไปด้านข้าง“ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ ข้ามีนามว่าไป๋ซิงหนี่ว์ ส่วนนี่หลิงจู จะรบกวนให้ท่านหมอมาตรวจดูอาการของบ่าวคนสนิทให้เสียหน่อย”เจิ้งเหรินอี้ที่ยังแย้มยิ้มกว้างอยู่นั้น ก็เอียงหน้าลงด้านข้างเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลุบตามองสตรีงามตรงหน้า พลางใช้หัวครุ่นคิดไปด้วยว่า ‘ไป๋’ ใช่แซ่หนึ่งในสิบตระกูลมหาอำนาจลำดับที่หนึ่งหรือไม่ แต่นับว่าหายากที่เจ้านายจะใส่ใจดูแลบ่าว เขาจึงพยักหน้าตอบรับอย่างสุภาพ พร้อมกับผายมือออกไปด้านหน้า“เชิญแม่นางไป๋นำทาง”“ขอบใจมากเจ้าค่ะ ที่ไม่รังเกียจตรวจดูอาการบ่าวของข้า” ข้าขอบใจแทนเสี่ยวเมิ่ง หมอหลวงนั้นเปรียบดั่งขุนนาง พวกเขาตรวจให้เพียงบุคคลชั้นสูง ไม่มีทางที่จะลดตัวลงมาตรวจอาการบ่าวเช่นนี้ได้“แม่นางไป๋กล่าวเกินไปแล้ว” เจิ้งเหรินอี้กล่าวอย่างเป็นมิตร เดินมาขนาบข้างไป๋ซิงหนี่ว์“มิทราบว่าหมอหลวงมีนามว่าอันใดหรือเจ้าคะ เมื่อครู่พวกข้าเสียมารยาทมิได้เอ่ยถามชื่อกลับ” หลิงจูชะโงกหน้าจากอีกฝั่งไปถาม“ข้ามีนามว่าเจิ้งเหรินอ
last updateLast Updated : 2025-06-07
Read more

๑ เผชิญดาวร้าย / 12

“โป๊ยกั๊กนี่นำไปต้มดื่มทุกวันกับน้ำชา ไม่เกินสามวันจะเป็นปกติตามเดิม เจ้าเพียงแค่ข้อเท้าเคล็ดเท่านั้น ข้านำติดกายมาด้วยเพียงเล็กน้อย ถ้าหมดก็ไปขอเอาได้จากในครัว” เจิ้งเหรินอี้กล่าว“จริงหรือเจ้าคะ!” เสี่ยวเมิ่งกล่าวขึ้นเสียงดังอย่างดีใจ นางเพียงข้อเท้าเคล็ดเท่านั้น นึกว่าจะหักเสียแล้ว บ่าวน้อยกล่าวขึ้นในใจ“ฮ่าๆ จริงสิ ข้าจะโป้ปดเจ้าให้ได้อันใด” เจิ้งเหรินอี้หัวเราะก่อนจะเอ่ยตามอย่างขบขันเสี่ยวเมิ่งฉีกยิ้มกว้างก้มหัวขอบใจอีกสามรอบ ส่วนเจิ้งเหรินอี้ก็ยืนประกบมือไว้ด้านหน้าขา และเลื่อนสายตาไปมองคุณหนูตระกูลไป๋ ก่อนจะกล่าวออกไปอีก“ตาท่านแล้ว แต่ข้าต้องขอออกไปล้างมือก่อนสักครู่” เขาหลุบตามองเท้าเสี่ยวเมิ่ง เป็นนัยแฝงไปด้วยข้าเบิกตาขึ้นเล็กน้อย กำมือใต้แขนเสื้อ หายใจติดขัด ก่อนจะพยักหน้ารับเขาอย่างเข้าใจ แต่ที่ไม่เข้าใจในยามนี้จะให้หลิงจูสหายคนสนิทนี้ออกไปด้านนอกนั้น ควรจะใช้วิธีอันใดถึงจะดูแนบเนียนมากที่สุด พอหมอเจิ้งหมุนกายเดินออกจากห้องไป ก็ผุดความคิดหาข้ออ้างได้ออก“หลิงจู ข้าหิวข้าวยิ่งนัก” ข้าแสร้งกล่าวเสียงอ่อน เดินกุมท้องไปนั่งด้านข้างของนาง“ซิงหนี่ว์ เจ้ายังมิได้กินข้าวตั้งแต่
last updateLast Updated : 2025-06-07
Read more

๒ ความจริงที่มาพร้อมความจำใจ / 1

๒ความจริงที่มาพร้อมความจำใจเขาผ่อนลมหายใจออกมาแผ่วเบาและยืดกายขึ้น ปล่อยมือของนางวางลงช้าๆ และกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อยก่อนจะเอ่ยขึ้น“มีอาการทุกวันไหม”“เกือบทุกวันเจ้าค่ะ” ข้าตอบอย่างเข้าใจในคำถามของเขา“มีอาการอันใดอีกนอกจากอาเจียน” เจิ้งเหรินอี้กลับมาทำสีหน้ายิ้มแย้มตามเดิมเอ่ยถามนางอีก“ไม่ค่อยอยากอาหาร ส่วนมากที่กินเข้าไปคือต้องกินอย่างหลีกเลี่ยงมิได้” ข้าตอบเสร็จก็เม้มปากเข้า มองสีหน้าเป็นมิตรของบุรุษตรงหน้า“อืม...อาการข้างเคียงช่วงนี้ท่านมีเรื่องให้คิดหนักหรือ หยินภายในจึงมิสมดุลเช่นนี้” เจิ้งเหรินอี้กล่าวช้าๆ ด้วยน้ำเสียงอ่อนลงและฟังรื่นหู“มีเจ้าค่ะ จะส่งผลร้ายหรือไม่เจ้าคะ” ข้าเอ่ยถามอย่างร้อนใจ"มากเกินจำเป็นก็ส่งผลร้าย ขนาดคนที่มีร่างกายดีก็ทรุดได้เช่นกัน” เจิ้งเหรินอี้กล่าวจบ ริมฝีปากบางก็ปิดสนิท และยกโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มที่เข้าใจในความทุกข์ของนางที่เก็บเอาไว้“ข้า…” เสียงแผ่วเบาลอดออกจากปาก หลุบตามองท้องตนเอง พยายามจะไม่คิด แต่มิอาจลบล้างความคิดและความทรงจำได้เลย และเงยหน้าขึ้นไปเอ่ยกับหมอเจิ้ง“ข้าควรจะทำเช่นไรดีเจ้าคะ”“คุณหนูไป๋หมายถึงร่างกายหรือสภาพจิตใจ” เจิ้งเหรินอ
last updateLast Updated : 2025-06-07
Read more

๒ ความจริงที่มาพร้อมความจำใจ / 2

“ซิงหนี่ว์ เมื่อครู่คุณชายจิ้นมองทางนี้ด้วย” หลิงจูเอ่ยขึ้นอย่างดีใจ เขย่าแขนเสื้อสหายเบาๆ“เหอะๆ” ข้าเพียงหัวเราะแห้งในคอ เขยิบกายหันหลังให้กับคุณชายจิ้นแทน วันนี้อากาศสดใส ท้องฟ้าปลอดโปร่งไร้เมฆ นับว่าเป็นวันดี เช่นนั้นแล้วจำเป็นต้องมองแต่สิ่งที่สบายใจและเป็นมงคล หากเห็นของอัปมงคล วันนี้อาจจะวิบัติเอาได้ทางด้านจิ้นฝานรับสุราต้มร้อนๆ ขึ้นมาเป่าไปได้สองลม เพื่อให้ความอบอุ่นคลายหนาวยามเช้า พลันก็ย่นคิ้วเข้า ขยับจอกสุราขึ้นมาจ่อจมูก ทำสีหน้ากระอักกระอ่วน และวางลงไปบนโต๊ะตามเดิมเสนาบดีจางเห็นท่าทางไม่สู้ดีของเขาจึงเอ่ยทักออกไปด้วยความสงสัย“สุรามิถูกปากหรือซือจื๋อ”“กลิ่นมิค่อยถูกจมูกขอรับ” จิ้นฝานตอบไปตามตรง“กลิ่นก็ปกติดีนี่” เสนาบดีจางเอ่ย ยกจอกสุราขึ้นมาดม เงยหน้าขึ้นมองจิ้นฝานอย่างแปลกใจ และเอ่ยขึ้นมาใหม่“ซือจื๋อลองยกขึ้นมาดมดูใหม่เถิด ถ้ากลิ่นยังเหมือนเดิมอาจจะเป็นจอกสุราที่ล้างไม่สะอาดกระมัง จะได้ให้บ่าวมาเปลี่ยนให้ใหม่”“ขอรับ” จิ้นฝานที่คิ้วยุ่ง หลุบตาลงยกจอกสุราขึ้นมาดมเฮือกหนึ่ง ท้องไส้ก็พลันปั่นป่วนขึ้นมาเสียดื้อๆท่านเสนาบดีจางทำตาโต ตกใจมองสีหน้าดำแดงที่เปลี่ยนมาอมเขียวร
last updateLast Updated : 2025-06-07
Read more

๒ ความจริงที่มาพร้อมความจำใจ / 3

ส่วนตัวข้าก็สบายตัว ทานอาหารได้คล่องคอมากขึ้น ถึงแม้จะยังมีอาการแพ้ท้องอยู่ก็ตามที หรืออาจจะเป็นเพราะคำแนะนำก่อนหน้านี้ที่ช่วยทำให้สบายใจมากขึ้นก็อาจเป็นไปได้ คำแนะนำของเขาคล้ายกับยาในรูปแบบหนึ่งเจิ้งเหรินอี้ที่นั่งฝั่งตรงข้ามเห็นสีหน้าชื่นมื่นสดใสขึ้นของคุณหนูรองไป๋ ก็ก้มหน้าลงยกจอกชาขึ้นดื่ม แย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย และทอดสายตามองดูนางรำด้านหน้าต่อส่วนจิ้นฝานลุกจากที่นอน จัดอาภรณ์เข้าที่แล้วก็เดินออกจากกระโจมเข้าร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้เขาเดินไปนั่งโต๊ะด้านหน้าสุด ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างโต๊ะของเสนาบดีฝ่ายขวา และยังได้เอ่ยทักทายเสนาบดีจางออกไปสองสามประโยค“ซือจื๋อมานั่งโต๊ะเดียวกันเถิด” เสนาบดีจางเอ่ยเรียกอย่างเป็นมิตร“ขอรับ” จิ้นฝานรับคำ ลุกขึ้นไปร่วมโต๊ะและนั่งหลังตรง หลุบตามองบ่าวที่กำลังเทสุราลงจอกให้เขาเหตุใดต้องเป็นสุรา เพราะอากาศหนาวสุราจึงช่วยดับความหนาวภายในร่างกายลงได้หลายส่วน พวกเขาจึงนิยมนั่งจิบกันเรื่อยๆ ขณะล้อมวงสนทนาสายลมยามดึกพัดผ่าน ทำให้เปลวไฟในคบเพลิงวูบไหว สายลมนี้พัดเอากลิ่นหอมอ่อนๆ ของสุราในมือจิ้นฝานลอยเข้าจมูกมันเป็นกลิ่นหอมที่เหม็นชวนให้ลมในท้องก่อตัวเป็นพายุ ร
last updateLast Updated : 2025-06-07
Read more

๒ ความจริงที่มาพร้อมความจำใจ / 4

“อาจูกลับกันเถิด ข้าว่าจะหลงทางเอาได้ หมอกลงหนาเรื่อยๆ เช่นนี้ แสงไฟก็มิอาจช่วยได้”“ซิงหนี่ว์…” หลิงจูเอ่ยเสียงสั่น น้ำตาคลอเบาบาง เบือนหน้ากลับมามองสหายอย่างหวาดกลัว“ขะ ขุนนางผู้นั้นและฮูหยินของเขาหายไปแล้ว” นางเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกักสาเหตุมาจากคนทั้งสองข้างหน้าได้หายวับไปทันทีราวกับเป็นผีก็มิปาน จึงเป็นเหตุให้นางไม่กล้าตะโกนเรียกออกไปข้าคอแห้งขึ้นมาฉับพลัน มองสีหน้าตื่นตระหนกของสหาย และมองทะลุไปด้านหน้า เพียงแวบเดียวเท่านั้น เบื้องหน้าก็ไร้เงาร่างทั้งสอง มีเพียงหมอกสีขาวมาแทนที่ตะเกียงในมือของหลิงจูสั่นเสียงดังแก๊งๆ ตามแรงมือของนาง จมูกเริ่มแดงระเรื่อด้วยความกลัวเสี่ยวเมิ่งลอบถอนหายใจออกมา เป็นอย่างที่นางนึกไว้ คุณหนูหลิงนี่ตัวป่วนชัดๆ“จูจูใจเย็นๆ พวกเราเพียงหมุนกายกลับ และเดินตรงไปตามทางเดิมก็พอแล้ว” ข้าเอ่ยกับนางเสียงเบา เอื้อมแขนไปดึงมือของนางมาจับไว้“ข้า...ข้าขอโทษ มิคิดว่ายามดึกหมอกจะลงหนาจนมองไม่เห็นแบบนี้ นานๆ ครั้งจะได้ออกมาเปิดหูเปิดตา จึงติดเล่นสนุกไปหน่อย” หลิงจูร่ายยาวออกมาอย่างสำนึกผิด“อย่าตระหนกไป เราเดินขึ้นเหนือก็พอแล้วมิใช่รึ” ข้าแข็งใจกล่าว มิใช่ว่าไม่กลั
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more

๒ ความจริงที่มาพร้อมความจำใจ / 5

“เจ็บเท้าเจ้าค่ะ” ข้าตอบเขา“พอจะเดินไหวไหม” เจิ้งเหรินอี้ถามต่อ“พอเดินได้อยู่” ข้าตอบเขาเสียงแผ่ว คนยิ่งเหนื่อยๆ และเจ็บเท้าไม่มีแรงจะเดิน เลยคร้านที่จะสนทนาโต้ตอบกับเขาด้วยเท่าไรนัก“ซือจื๋อหยุดประเดี๋ยวก่อนเถิด คุณหนูไป๋เดินต่อมิไหวแล้ว” เจิ้งเหรินอี้ตะโกนขึ้น ดูสีหน้านางก็รู้ว่ากำลังใช้ความอดทนอย่างมาก“เพิ่งจะเดินมาสามเค่อเอง เหนื่อยแล้ว...” จิ้นฝานที่หันหลังเอ่ยขึ้นเสียงเรียบ“นางเจ็บเท้าน่ะ” เจิ้งเหรินอี้ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม“แต่ตะเกียงจะมอดดับแล้ว...แม้ว่าจะมองหากันเองในระยะใกล้ก็จะลำบาก” จิ้นฝานเอ่ยขึ้นเสียงเรียบเช่นเดิม หรี่ตาเพ่งมองไปทางไป๋ซิงหนี่ว์“ซิงหนี่ว์” หลิงจูสงสารสหายจับใจ เดินเข้าไปประคองด้านข้าง นางเห็นสีเหนื่อยล้าที่ไม่เคยเห็นมาก่อนก็เกิดความพะวงขึ้น และเอ่ยขอร้องจิ้นฝานอีกคน“หยุดพักประเดี๋ยวเถิดเจ้าค่ะ” จิ้นฝานเพียงพยักหน้ารับเดินกลับมา และหยุดลงฉีกแขนเสื้อตนเองออกมาเป็นเศษผ้า ใช้เป็นเชื้อเพลิงติดไฟให้เร็วขึ้น อากาศเย็นชื้นแบบนี้กว่าไม้นี้จะติดไฟก็ลำบากคนทั้งหมดมองดูการกระทำอันเงียบเชียบของเขา ที่กำลังชันเข่าจุดไฟกองอยู่นานสองนาน กว่าไฟจะโหมขึ้นมาให้ความสว่างไ
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more

๒ ความจริงที่มาพร้อมความจำใจ / 6

หลิงจูกับเสี่ยวเมิ่งต่างสบตากันอย่างเลิ่กลั่ก มองสลับไปมาระหว่างไป๋ซิงหนี่ว์และจิ้นฝาน ส่วนเจิ้งเหรินอี้ยืนกอดอกยิ้มแห้งๆ มองดูเหตุการณ์เท่านั้น แค่เพียงเขาปรายตาแวบเดียวก็รู้แล้วว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งสองไม่ลงรอยกัน จนเห็นได้อย่างชัดเจน“วางทิฐิลง...จะขึ้นหลังข้าเองหรือจะให้ข้าเป็นคนแบกท่านไป” จิ้นฝานกล่าวด้วยน้ำเสียงที่แฝงความหน่ายใจไว้ส่วนหนึ่งตามตรงแล้วถึงแม้ว่าเขาจะเป็นสหายไป๋มี่อิง แต่อายุก็มากกว่านางสามสี่ปีได้ จะให้มาทะเลาะต่อปากต่อคำราวกับเด็ก มันก็ไม่ใช่หนทางของเขาเท่าไรนัก“ไม่” ข้ายังยืนยันจุดเดิมของตนเอง สบกับดวงตาแข็งกร้าวตรงหน้าจิ้นฝานถอนหายใจออกมา และเขยิบกายเข้ามาใกล้ หากมามัวนั่งเจรจาไฟคงได้ดับไปก่อน กว่าจะติดไฟได้อีกครั้งนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับสภาพอากาศแบบนี้เลยเขาเอื้อมแขนหมายจะรวบตัวนางขึ้นมาอุ้ม แต่กระนั้นสาวงามเบื้องหน้ากลับถอยกรูดไปด้านหลังด้วยสีหน้าตื่นตระหนก“ออกไป!” ข้าตะโกนขึ้นไม่ดังมาก พยายามข่มอารมณ์กลัวเอาไว้ เพราะยามนี้ภาพในคืนนั้นได้ย้อนเข้ามาในหัวอีกครั้ง ฝ่ามือใหญ่ตรงหน้าที่เอื้อมเข้ามาฉุดรั้งทำร้ายร่างกายและจิตใจให้บอบช้ำ ยังคงตรึงตราไม่จางลง
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more

๒ ความจริงที่มาพร้อมความจำใจ / 7

ความกังวลสำหรับคนท้อง ที่ต้องคิดถึงความปลอดภัยของบุตร มันไม่ง่ายเลยที่จะหยุดคิดลงได้ มันก่อเป็นความกลัวที่มากขึ้น มากขึ้น...และมากขึ้นสำหรับไป๋ซิงหนี่ว์ในยามนี้มีสภาพจิตใจไม่สู้ดี ต้องกล่าวเลยว่า พื้นฐานของนางกักเก็บทุกอย่าง ซ่อนเอาไว้ในใจ ยามใดที่ถูกกระตุ้น จะแสดงออกมาคล้ายกับผู้ป่วยประเภทหนึ่ง จะมีความทุกข์ทรมานอย่างมากจากอาการวิตกกังวลภายในใจมันสามารถแสดงออกมาได้หลากหลายวิธี และอาการนั้นบางครั้งบางคราจะรุนแรงจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันได้ เหมือนกับช่วงเดือนแรก ที่นางจำฝังใจนอนฝันร้ายสะดุ้งตื่นทุกคืน และในยามนี้ก็ด้วยเช่นกัน“นี่ท่าน” เจิ้งเหรินอี้เริ่มรู้ความมากขึ้น แต่มิอาจกล่าวออกไปได้หมด“ข้าหายใจไม่ค่อยออก” ข้าตอบเขา กำหัวไหล่แน่นขึ้นๆ มันเป็นที่ยึดเหนี่ยวให้พอประคองสติไว้ได้หมอกที่ว่าหนาตอนแรก เริ่มพัดไปตามสายลม และจางลงเรื่อยๆ พร้อมกับพระอาทิตย์ที่ทอแสงสีเหลืองนวลอ่อน ๆ“มองเห็นแสงแล้ว …ท่านปลอดภัยแล้วคุณหนูไป๋” เจิ้งเหรินอี้กล่าวกับนาง“คุณหนู” เสี่ยวเมิ่งเดินเข้าไปใกล้ ยกมือขึ้นโบกอากาศ และใช้ผ้าเช็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นมาบนดวงหน้าหมดจด ให้สะอาดเกลี้ยงเกลาตามเดิม“ฮึก” เสียงสะ
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more

๒ ความจริงที่มาพร้อมความจำใจ / 8

ส่วนหลิงจูไม่ต้องกล่าวว่ารู้เรื่องกับเขาหรือไม่ นางไม่รู้เรื่องอยู่แล้ว ยามนี้นั่งน้ำตาร่วงเผาะสงสารสหายรักจับใจ เพราะนางเป็นต้นเหตุให้ไป๋ซิงหนี่ว์ต้องมาหลงป่าตลอดทั้งคืน เจอความลำบากเช่นนี้หมอกที่ดูคล้ายว่าจะหนาแน่นและจางหายไปแล้วก่อนหน้านี้ ผู้ใดจะไปคิดมามันจะย้อนกลับมา ก่อตัวหนาขึ้นในใจของจิ้นฝานยามนี้เขาอยากแพ่นกบาลตนเองยิ่งนัก ไฉนถึงหน้ามืดตามัวจำผิดคนได้ถึงเพียงนี้ อีกทั้งยังทำให้ไป๋ซิงหนี่ว์ต้องมีมลทินจากความมักมาก ที่ขาดสติยับยั้งของตนเองไปด้วยเจิ้งเหรินอี้มองสีหน้าอึมครึมเบื้องหน้าของซือจื๋ออยู่นาน ก็ผ่อนลมหายใจออกมา เมื่อครู่นี้เขาหายใจเข้าออกอย่างลำบาก เพราะสถานการณ์ตื่นตาตื่นใจที่แสนระทึกนี้ มาบัดนี้สติทุกอย่างได้กลับมาครบถ้วนจึงเอ่ยขึ้น“ซือจื๋อเข้ามาอุ้มนางเถิด…”“ได้” จิ้นฝานตอบรับ แล้วเข้าไปช้อนกายนางขึ้นมาอุ้ม หลุบตามองดวงหน้านวลซีดขาวที่แนบอิงตรงอกของเขาอย่างสำนึกผิดถึงแม้ว่าเขาจะไม่ค่อยชอบพอนางมากเท่าไร เพราะนางมีนิสัยไม่น่าเข้าใกล้ แต่ต้องยอมรับเลยว่าความผิดที่เขาก่อขึ้นมานั้น มันโหดร้ายกับสตรีคนหนึ่งมากเกินไป ทั้งการแสดงออกอย่างหวาดหวั่น อาการเพ้อยามหลับ บ่งบอก
last updateLast Updated : 2025-07-08
Read more
PREV
1234568
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status