All Chapters of นับเวลาสามสิบวัน ฉันจะเป็นอิสระ: Chapter 141 - Chapter 150

156 Chapters

บทที่ 141

“ฉันไปคุยกับคุณปู่ฟู่เรื่องการลงทุน เขายินดีที่จะลงทุนให้ แล้วก็เลยถือโอกาสถามว่าฉันอยากแต่งงานกับฟู่อี้ชวนไหม ฉันชอบเขามาหลายปีแล้ว ตอนนั้นดีใจจนหน้ามืดตามัว ก็เลยตอบตกลงไปค่ะ”“การลงทุนกับการแต่งงานกับฉัน ไม่ใช่เหตุและผลที่ตามกัน แต่เป็นเรื่องที่คู่ขนานกัน เพียงแต่เพราะว่าฉันยอมแต่งงานด้วย เขาก็เลยเปลี่ยนจากการลงทุนแบบนักบุญมาเป็นการลงทุนส่วนตัว”“จะมองว่าเป็นสินสอดที่คุณปู่ฟู่มอบให้ฉันโดยเฉพาะก็ได้ แต่ฉันไม่ได้เอามาทั้งหมด แต่เป็นการแบ่งผลกำไรคนละครึ่ง”ซูมั่วอธิบายที่มาที่ไปทั้งหมดรวดเดียวจบ โจวจิ่งอันมองหญิงสาวอย่างเหม่อลอย ในที่สุดสติก็ค่อยๆ กลับคืนมาและใจเย็นลงได้บ้างซูมั่วปัดมือของผู้ชายที่วางบนไหล่ของเธอลง แล้วพูดอีกครั้งว่า“รุ่นพี่คะ การที่ฉันแต่งงานกับฟู่อี้ชวนไม่เกี่ยวกับรุ่นพี่เลย อีกอย่าง นี่มันยุคสมัยไหนแล้ว คุณปู่ฟู่คงไม่มาบังคับขืนใจกันหรอกใช่ไหมคะ”“ฉันสมัครใจจริง ๆ ค่ะ และก็ได้จ่ายค่าตอบแทนมหาศาลไปเพื่อการนี้แล้ว”โจวจิ่งอันได้แต่จ้องมองซูมั่ว ซูมั่วปลดเข็มขัดนิรภัย ท้ายที่สุดก็กล่าวว่า“ขอบคุณที่มาส่งฉันวันนี้นะคะ สุดสัปดาห์นี้ก็พักรักษาตัวดี ๆ นะคะ”“อีก
Read more

บทที่ 142

แต่ตอนนี้กว่าจะเข้าใจก็สายไปเสียแล้วผ้าห่มถูกกำไว้แน่น ชายร่างสูงใหญ่ซุกใบหน้าลงกับหมอน ค่อย ๆ ขดตัวเป็นก้อนกลมใหญ่ จมดิ่งอยู่กับความรู้สึกจนหาทางออกไม่เจอในขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่ง“นี่ เธอจะไปหาโจวจิ่งอันแล้วจะลากฉันมาด้วยทำไมเนี่ย” หลีโย่วพูดขณะขับรถ“ชายหญิงอยู่กันสองต่อสอง ไปหาถึงที่มันดูไม่ดี ต้องเลี่ยงข้อครหา” ซูมั่วตอบหลีโย่ว “...”“เหอะ ๆ งั้นเธอบอกฉันหน่อยสิว่าถ้าชายหญิงอยู่กันสองต่อสองแล้วผู้หญิงจะตุ๋นซุปให้เขากินได้เหรอ” หลีโย่วพูดอย่างจนปัญญา“มั่วมั่ว ถ้าชอบเขาก็ยอมรับสิ จะมาทำเหนียมอายอะไรกัน อีกอย่างโจวจิ่งอันก็ชอบเธอเหมือนกัน สองคนน่ะใจตรงกันจะตาย”ซูมั่วที่เห็นว่าอีกฝ่ายเข้าใจผิด “...”“เธออย่าคิดส่งเดชนะ เมื่อคืนรุ่นพี่กล้าเข้ามาช่วยฉันไว้ ฉันก็แค่ซาบซึ้งใจ...” ซูมั่วถอนหายใจ“เกิดอะไรขึ้นเหรอ?” หลีโย่วขมวดคิ้วถามทันทีซูมั่วเล่าโดยข้ามเรื่องของฟู่อี้ชวนไป บอกแค่ว่าเลิกงานดึกแล้วเจอขโมย เมื่อหลีโย่วได้ฟังก็พูดด้วยความเป็นห่วงว่า“พระเจ้า อันตรายขนาดนี้ เกือบไปแล้วนะเนี่ย”“ทำไมเธอเลิกงานตั้งสี่ทุ่มล่ะ? เพิ่งเข้าทำงานไม่ใช่เหรอ? พนักงานใหม่ทำงานหนักขนา
Read more

บทที่ 143

อิจฉาฟู่อี้ชวนชะมัด ผู้ชายแบบนั้นมีดีอะไรให้ซูมั่วชอบมาได้ตั้งหลายปีนะ? หรือเป็นเพราะว่าตนไม่ได้เรียนมันธยมปลายที่เดียวกับเธอ? คนที่มาก่อนเลยได้เปรียบงั้นเหรอ?เมื่อมองดูทั้งสองคนจากไปแล้ว โจวจิ่งอันจึงกลับเข้าบ้าน แผนที่วางไว้ว่าจะชวนซูมั่วไปเที่ยวในวันหยุดสุดสัปดาห์ก็ไม่ได้ทำตามที่คิด“อุตส่าห์ลากฉันมาด้วย นึกว่าจะเข้าไปในบ้านเขาซะอีก แค่อยู่หน้าประตูคอนโดเนี่ยนะ จะต้องเลี่ยงข้อครหาอะไรกัน? นี่มันที่สาธารณะนะ” หลีโย่วพูดแซวขณะขับรถ“จริง ๆ แล้วเป็นฉันเองที่ไม่อยากเจอรุ่นพี่ตามลำพัง มันค่อนข้างน่าอึดอัด...” ซูมั่วพูดเมื่อคืนหลังจากที่เขาเข้าใจผิด สีหน้าก็ดูตื่นเต้นและกระตือรือร้น แถมยังบอกว่าจะรับผิดชอบด้วยการแต่งงานกับเธออีก ทำเอาเธอตกใจนิดหน่อย ประกอบกับที่รุ่นพี่ชอบเธออยู่แล้ว ก็ยิ่งต้องรักษาระยะห่าง“ไปดูหนังด้วยกันนะ แล้วค่อยออกมาหาอะไรกิน ฉันเลี้ยงเอง” ซูมั่วหันมายิ้ม“ได้เลย ฉันอยากดูหนังรักเรื่องใหม่ที่เพิ่งเข้า มื้อเย็นก็กินปลาแล้วกัน!” หลีโย่วบอกทั้งสองคนไปที่โรงภาพยนตร์ในห้างสรรพสินค้า ควงแขนกันอย่างอารมณ์ดี แต่อีกด้านหนึ่งที่บ้านตระกูลฟู่ภายในห้องมืดสลัว ผ้าม่าน
Read more

บทที่ 144

บอกว่าตอนแรกคุณชายก็เงียบไปแล้ว นึกว่าสงบลงแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมถึงได้สะอึกสะอื้นขึ้นมาอีก ใครได้ยินก็เศร้า ใครเห็นก็ถึงกับน้ำตาไหลในห้องโถงด้านหน้า คุณท่านฟู่ที่กำลังดื่มชาก็ได้ยินดังนั้นจึงวางถ้วยชาลง แล้วพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า“ทำงานเหนื่อยยังรู้จักพัก ร้องไห้เหนื่อยแล้วก็หยุด พักให้พอแล้วค่อยร้องต่อ”พ่อบ้าน เอ่อ...“เราไม่ทำอะไรสักอย่างเหรอครับ? คุณชายเป็นแบบนี้ ไม่ดีต่อสุขภาพนะครับ ไม่แน่อาจจะกระทบกับงานวันจันทร์ด้วย” พ่อบ้านพูดด้วยความเป็นห่วง“ไม่ต้องไปสนใจ ก็แค่สองวันเท่านั้น ถ้ามันกระทบกับงาน ตำแหน่งประธานฟู่ซื่อกรุ๊ปของเขาก็คงจะรักษาไว้ไม่ได้ เดี๋ยวก็มีพวกหมาป่าจ้องจะขย้ำอยู่ข้างหลังเอง” คุณท่านฟู่พูดอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อพ่อบ้านได้ยินดังนั้นก็นึกถึงลูกนอกสมรสคนนั้นที่อยู่ข้างนอก อายุน้อยกว่าคุณชายน้อยเพียงครึ่งปี ตลอดหลายปีที่ผ่านมาคุณท่านไม่เคยอนุญาตให้พวกเขาเข้าบ้านเลย ไม่ต้องพูดถึงการมีชื่ออยู่ในทะเบียนตระกูล“คุณชายขยันมาตั้งแต่เด็ก กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย คงไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ หรอกครับ” พ่อบ้านกล่าวแค่รู้สึกว่าน่าสงสารมาก ถึงจะเสียใจก็เสียใจได้แค่ส
Read more

บทที่ 145

กล้าหาญเหรอ? ฉันเคยกล้ามาแล้วครั้งหนึ่ง หลังจากนั้นก็สูญเสียความกล้าหาญทั้งหมดไป แถมยังกลายเป็นแผลในใจมาจนถึงตอนนี้“จิ๊ ๆ ๆ ทำหน้าตาอะไรของเธอน่ะ เหมือนมีเรื่องราวเยอะแยะเลยนะ เธอไม่ได้ไปมีความรักที่ต่างประเทศมาใช่ไหม?” หลีโย่วมองเพื่อนที่กำลังเหม่อลอย แล้วถามขึ้นอย่างสงสัย“ที่ไหนกันล่ะ ก็แค่รู้สึกว่าคำพูดของเธอมีเหตุผลดี เลยกำลังคิดตามเท่านั้นเอง” ซูมั่วได้สติกลับมาแล้วหัวเราะหลีโย่วแค่นเสียงเย็นชา “แน่นอนอยู่แล้ว ถึงตอนนั้นถ้าเธอมีความรักก็มาให้ฉันเป็นกุนซือนะ ส่วนเพื่อนเจ้าสาวฉันก็ขอจองด้วย~”ซูมั่วยิ้มแต่ไม่ได้พูดอะไร เธอแต่งงานกับฟู่อี้ชวนโดยไม่ได้จัดงานแต่งงาน แล้วก็ไม่ได้เชิญแขกอย่างเป็นทางการ ดังนั้นก็ถือซะว่าไม่เคยแต่งงานก็แล้วกัน......วันหยุดสุดสัปดาห์สองวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว เป็นไปตามที่คุณท่านฟู่พูดไว้จริง ๆ ไม่ว่าฟู่อี้ชวนจะจมอยู่กับความเศร้าโศกเพียงใดในช่วงสองวันนี้ พอถึงเช้าวันจันทร์ เขาก็ตื่นนอนตรงเวลา เตรียมตัวแล้วไปทำงาน“คุณชาย ไม่กินอาหารเช้าที่บ้านใหญ่เหรอครับ?” พ่อบ้านถาม“ไม่ล่ะ ผมจะไปกินที่บริษัท” ฟู่อี้ชวนตอบ เสียงแหบแห้งไปหมดแล้วข้างประตู คุณท่า
Read more

บทที่ 146

“คุณงีบสักหน่อยไหมครับ บ่ายสองผมจะมาปลุกตรงเวลา” หลี่หยวนกล่าว“ไม่นอนแล้ว เอาพรีเซนเทชั่นที่จะประชุมตอนบ่ายมาให้ฉันดูตอนนี้เลย” ฟู่อี้ชวนกล่าว“ประชุมตอนห้าโมงครับ ไม่ต้องรีบ ท่าน...” หลี่หยวนพูด แต่ยังไม่ทันจบประโยค พอสบตากับประธานฟู่ เขาก็รีบหุบปากแล้วส่งไฟล์ไปให้เขามองสภาพจิตใจของเจ้านายตัวเองแล้วรู้สึกว่ามันไม่ปกติอย่างมากแล้ววันนี้จนถึงตอนนี้ก็ไม่พูดถึงเรื่องคุณนายน้อยเลยสักนิด ทั้ง ๆ ที่เมื่อวันเสาร์เจ้านายก็เพิ่งได้ข้อมูลบริษัทที่คุณนายน้อยทำอยู่ไม่ใช่เหรอ?นึกถึงพฤติกรรมบ้าคลั่งของเขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งแจ้งตำรวจ ทั้งจ้างแฮกเกอร์ให้หาที่อยู่ของคน ทำไมพอผ่านไปแค่สุดสัปดาห์เดียวถึงได้ไม่สนใจไยดีเลยล่ะ?คืนวันศุกร์เขาไม่ได้ตามไปด้วย หรือว่าจะเกิดอะไรขึ้นกันแน่ แล้วทำไมคุณท่านถึงต้องส่งคนมาคอยจับตาดูท่านประธานฟู่ด้วย อีกฝ่ายก็ไม่ได้บอกเหตุผลเสียด้วยในใจของหลี่หยวนเต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากถาม ได้แต่สืบเรื่องของบริษัทติ่งเซิ่งเทคโนโลยีต่อไปใกล้เวลาเลิกงาน เขานำข้อมูลใหม่ที่หามาได้ในช่วงกลางวันมารายงานให้ท่านประธานฟู่“คุณนายน้อยทำงานอยู่ที่ฝ่ายออก
Read more

บทที่ 147

ตอนแรกคิดว่าจะไม่ไปหาซูมั่วอีกแล้ว ไม่อยากทำร้ายเธออีก แต่...ไม่ว่าจะด้วยความรักและความต้องการครอบครอง หรือความต้องการเอาชนะของผู้ชายก็ตามเขาไม่สามารถประเคนผู้หญิงที่รักให้คนอื่นได้ ในเมื่อตอนนั้นคนที่อยากจะแต่งงานกับเขาคือซูมั่วเอง เขาไม่ได้บังคับเธอสักหน่อยในเมื่อมายุ่งกับเขาแล้ว ก็อย่าคิดว่าจะสลัดทิ้งไปง่าย ๆ จะเกลียดก็เกลียดไปเถอะ แต่คำร้องขอหย่านี้เขาจะต้องยกเลิกให้ได้!“ช่วงทบทวนสามสิบวัน นายไปหาวิธีทำให้ข้อตกลงเป็นโมฆะซะ การหย่าครั้งนี้ต้องไม่เกิดขึ้น” ฟู่อี้ชวนพูดเสียงเย็นเมื่อหลี่หยวนได้ยินดังนั้นก็นึกถึงเอกสารข้อตกลงหย่าที่ไปดูที่บ้านใหญ่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว จึงพูดว่า“โดยทั่วไปแล้ว ข้อพิพาทในการหย่าร้างมีอยู่สองประเภทครับ อย่างแรกคือการแบ่งทรัพย์สิน อย่างที่สองคือเรื่องลูก”“คุณกับคุณนายน้อยไม่มีลูกด้วยกัน ส่วนเรื่องทรัพย์สิน ในเอกสารฉบับนั้นระบุว่าคุณนายน้อยจะไปแต่ตัว ไม่ต้องการเงินจากคุณเลยสักสลึง ดังนั้นโดยสรุปแล้ว การหย่าครั้งนี้ไม่มี...”หลี่หยวนยังพูดไม่ทันจบ ก็สัมผัสได้ถึงสายตาพิฆาตที่ประธานฟู่ส่งมา เขาจึงจำใจต้องหุบปาก“ฉันสั่งให้นายไปหาวิธี ไม่ได้สั่งให้
Read more

บทที่ 148

“เธอไม่ได้หวังอะไรจากคุณเลย คุณก็ไม่ได้เสียอะไรเลยสักนิด กลับกันเป็นคุณนายน้อยที่คอยดูแลเรื่องอาหารการกินและความเป็นอยู่ของคุณมาตลอดสองปี แถมเดือนที่ผ่านมาก็ยังบาดเจ็บหลายครั้ง”ดังนั้นเมื่อพิจารณาโดยรวมแล้ว คุณนายน้อยเป็นฝ่ายที่เสียหายมากที่สุดเลย ประธานฟู่จะมาตอแยไม่เลิกทำไมกัน? ก็ไม่ใช่ว่าเธอจะแบ่งทรัพย์สินของเขาไปครึ่งหนึ่งเสียหน่อยเมื่อฟู่อี้ชวนได้ยินผู้ช่วยพูดเช่นนั้น เขาก็จ้องอีกฝ่ายเขม็ง อยากจะโกรธและโต้เถียงกลับไปแต่ก็ไม่มีเหตุผลใด ๆ เลย เหมือนภูเขาไฟที่กำลังจะปะทุแต่ถูกสะกดกลั้นเอาไว้ทั้งเป็นใช่แล้ว ซูมั่วแต่งงานกับเขาสองปี ซักผ้าทำอาหารล้วนเป็นหน้าที่ของเธอ เขาไม่เคยให้เงินเธอเลยสักครั้ง ปกติเรื่องซื้อกับข้าวทำอาหารก็เป็นเงินของเธอเองทั้งนั้น ไม่ต้องพูดถึงเรื่องซื้อของขวัญอะไรเลยแล้วเขายังเป็นคนสั่งให้ซูมั่วห้ามเปิดเผยตัวตน ห้ามเรียกตัวเองว่าเป็นภรรยาของเขา เขาไม่เคยให้สิ่งของหรือสถานะอะไรกับเธอเลยดังนั้นซูมั่วคงจะเสียใจและผิดหวังถึงที่สุดใช่ไหม? ถึงได้ยอมหย่าโดยไม่เอาทรัพย์สินอะไรเลย ไปแต่ตัวอย่างหมดจด อยากจะตัดขาดกับเขาโดยสิ้นเชิงเมื่อคิดถึงเรื่องเหล่านี้ ขอบตาข
Read more

บทที่ 149

ยี่สิบนาทีต่อมาก็มาถึงคอนโด ฟู่อี้ชวนเดินขึ้นไปชั้นบนอย่างเหม่อลอย สายตาเลื่อนลอย จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ถึงขั้นไม่เห็นว่ามีคนนั่งยอง ๆ อยู่ข้างประตูห้องของเขาเขาเลี้ยวซ้ายไปตามความเคยชินของร่างกาย เพราะได้ยินเสียงฝีเท้า คนที่อยู่ข้างประตูก็พลันหันมามอง จากนั้นก็ดีใจลุกขึ้นยืนแล้ววิ่งเข้ามาหาเขา“อี้ชวน!” เย่ซินหย่าโผเข้ากอดเอวของเขา น้ำเสียงเจือสะอื้นฟู่อี้ชวนถึงเพิ่งได้สติกลับมา พอเห็นว่าเป็นใครที่อยู่ในอ้อมกอด เขาก็ผลักเธอออกไปอย่างไม่ไยดีถ้าหาก ถ้าหากคนที่กอดเขาอยู่คือซูมั่วก็คงจะดี“เธอมาทำอะไรที่นี่?” ฟู่อี้ชวนถามเสียงเย็นชา“ฉันก็มาหานายไง อี้ชวน สุดสัปดาห์สองวันที่ผ่านมานายไปไหนมา? ทำไมไม่กลับบ้านเลย?” เย่ซินหย่าพยายามจะเข้าไปหาอีกครั้ง แต่ก็ถูกจับมือแล้วผลักออก เธอพูดทั้งน้ำตาที่นองหน้าฟู่อี้ชวนขมวดคิ้วทันที ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะมานั่งเฝ้ารอเขาถึงสองวัน นิติบุคคลหายไปไหน? ปล่อยให้เธอเข้ามาได้ยังไง?“ฉันจะไปไหนก็ไม่เกี่ยวกับเธอ” ฟู่อี้ชวนพูดด้วยสีหน้าบึ้งตึงเมื่อเย่ซินหย่าได้ยินดังนั้น น้ำตาก็ยิ่งไหลพราก เธอกำหมัดแน่นแล้วพูดว่า “นายไปหาซูมั่วมาใช่ไหม? สองวัน
Read more

บทที่ 150

นี่หมายความว่า ตลอดสามปีที่ผ่านมาเธอเป็นแค่ ‘ตัวแทน’ งั้นเหรอ?คนที่ฟู่อี้ชวนรักคือ “เพื่อนทางอินเทอร์เน็ตที่ไม่รู้จัก” ที่เคยคุยกับเขาตอนมัธยมปลาย ไม่ใช่ตัวเธอดังนั้นพอได้อยู่กับซูมั่วสองปีก็เลยกลับไปชอบเธออีกครั้งสินะ!เพราะตั้งแต่แรกฟู่อี้ชวนก็ชอบแค่เธอคนเดียว!การที่เธออยู่เคียงข้างเขาในโลกความจริงมาตลอดสามปี ยังสู้การอยู่เป็นเพื่อนคุยในโลกออนไลน์ไม่ได้เลย!เมื่อคิดถึงตรงนี้ เย่ซินหย่าก็ยิ่งเกลียดมากขึ้น เธอกัดฟันกรอด แววตาเต็มไปด้วยความอาฆาตตอนนี้ฟู่อี้ชวนเข้าไปในห้องแล้ว เลยไม่เห็นสีหน้าที่บิดเบี้ยวและชั่วร้ายของผู้หญิงคนนั้นขณะที่เขากำลังจะปิดประตู ทันใดนั้นก็มีบางอย่างมาขวางไว้ที่ขอบประตู“อี้ชวน นายก็บอกเองว่านายไม่ค่อยเข้าใจเรื่องความรัก แล้วทำไมนายถึงคิดว่าตัวเองชอบซูมั่วล่ะ? เมื่อก่อนนายน่ะเกลียดเธอมากเลยนะ!” เย่ซินหย่าดันประตู พยายามจะเข้ามาให้ได้“ส่วนฉัน ฉันคบกับนายนะ รักแรกของนายคือฉัน ความรู้สึกที่นายมีให้ฉันต่างหากคือความรัก!”“นายลืมช่วงเวลาดี ๆ ที่เราคุยกันตอนม.ปลายไปแล้วเหรอ? เราคุยกันเรื่องแข่งขันโอลิมปิกคณิตศาสตร์ เรื่องความฝันของแต่ละคน เราต่างให้กำ
Read more
PREV
1
...
111213141516
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status