หลงเจิ้งหยางบดจุมพิตลงบนกลีบปากนางอย่างลุ่มหลง ปลายลิ้นแผ่วพลิ้วสัมผัสกับความหวานภายในโพรงปากของพระชายา ราวกับจะแสวงหาน้ำทิพย์จากเกสรดอกเหมยในฤดูวสันต์ ลิ้นของทั้งสองเกี่ยวกระหวัดกันไปมา ละเมียดละไมแต่อัดแน่นด้วยแรงปรารถนา“อื้อ อื้อ อื้อ จ๊วบ จ๊วบ” มือแกร่งค่อย ๆ ปลดเปลื้องอาภรณ์ที่ขวางกั้นระหว่างกันอย่างแช่มช้า แต่มั่นคง ดั่งนักรบผู้ถอดเกราะก่อนศึกใหญ่ เสื้อคลุมชั้นนอกของนางหลุดลู่ไปตามแรงมือ จากนั้นเป็นชุดตู้โตวบางเบาผืนแดงลายบุปผา ที่ยังคลุมเรือนกายไว้อย่างแผ่วเบาแนบเนื้อ เผยให้เห็นผิวขาวนวลผ่องดั่งหิมะให้ดูยิ่งเปล่งประกายยามต้องแสงเทียน แม้จะยังมีเพียงแพรบางผูกแน่นที่ช่วงสะโพก แต่ก็กลับยิ่งขับเรือนกายของพระชายาให้ยิ่งดูยั่วเย้าใจ น่าค้นหายิ่งขึ้นฝั่งหลงเจิ้งหยางเองก็มิได้ต่างกัน อาภรณ์ของเขาหลุดลอกออกทีละชั้น จนเหลือเพียงกางเกงแพรผูกเชือกเนื้อบางที่แนบไปกับลำกายกำยำ กล้ามเนื้อแน่นชัดประหนึ่งปั้นจากหยกกล้า เผยให้เห็นเค้าโครงแห่งบุรุษผู้ช่ำชองในสมรภูมิ สมชายชาติทหารที่แม้ยามไร้อาวุธยังเปี่ยมไปด้วยอำนาจริมฝีปากอุ่นร้อนค่อย ๆ ละจากกลีบปากอวบอิ่ม เลื่อนลงสัมผัสปลายคาง แล้วไล้ลงมาต
Last Updated : 2025-08-28 Read more