All Chapters of ข้ามภพมาเป็นชายาอ๋องพิการ: Chapter 1 - Chapter 9

9 Chapters

บทที่ 1

สายฝนพรำลงมาไม่ขาดสาย สาดซัดม่านน้ำสีเทาหม่นคลุมไปทั่วทั้งเมืองหลวงต้าจิง หลังคาดินเผาสีเข้มของหมู่ตึกระฟ้าและจวนขุนนางชั้นสูงสะท้อนเงาของเมฆฝนที่ลอยต่ำ กลืนกินสีสันสดใสของวันวานจนหมดสิ้น เสียงหยาดฝนกระทบกระเบื้องมุงหลังคาดังเป็นจังหวะที่ไม่สม่ำเสมอ คล้ายเสียงถอนหายใจอันยาวนานของแผ่นดินที่กำลังเหนื่อยล้าบนถนนหินฉิงสือที่เปียกลื่น ผู้คนเดินขวักไขว่บางตากว่าปกติ พ่อค้าหาบเร่ต่างรีบเก็บแผงลอยของตนหลบเข้าชายคา รถม้าของขุนนางผู้มั่งคั่งเคลื่อนผ่านไปอย่างเชื่องช้า ทิ้งรอยล้อเปื้อนโคลนไว้เบื้องหลัง บรรยากาศของเมืองหลวงที่เคยคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิตชีวา บัดนี้กลับดูซบเซาและแฝงเร้นไว้ด้วยความตึงเครียดบางอย่างที่มองไม่เห็นความตึงเครียดนี้ไม่ได้มาจากเมฆฝนเพียงอย่างเดียว แต่มันซึมลึกอยู่ในอากาศที่ผู้คนหายใจเข้าไป เป็นเงาที่ทอดทับอยู่เหนือทุกการสนทนาในโรงเตี๊ยมและร้านน้ำชา ข่าวลือเรื่องศึกสายเลือดที่กำลังก่อตัวขึ้นในวังหลวงระหว่างองค์รัชทายาทผู้เปี่ยมบารมี กับเหล่าท่านอ๋องผู้เป็นพระอนุชาของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน แพร่สะพัดไปราวน้ำป่าไหลหลาก และในบรรดาชื่อของท่านอ๋องทั้งหลาย ไม่มีชื่อใดที่จะทำให้ผู้ค
last updateLast Updated : 2025-06-23
Read more

บทที่ 2

มืดจังมันไม่ใช่ความมืดใต้เปลือกตาที่ปิดสนิท หรือความมืดในห้องที่ไร้แสงเทียน มันคือความมืดอันเป็นนิรันดร์ เป็นสุญญากาศที่ไร้ขอบเขต ไร้กาลเวลา และไร้ตัวตนความรู้สึกสุดท้ายของ ‘น้ำหวาน’ หรือ แพทย์หญิงจุฬา ศิริวัฒนกุล คือความร้อนระอุที่แผดเผาผิวหนัง เสียงแก้วแตกละเอียดดุจเสียงอสุนีบาตฟาดผ่านกลางห้องปฏิบัติการ กลิ่นสารเคมีที่คุ้นเคยแปรเปลี่ยนเป็นไอพิษมรณะ และภาพสุดท้ายคือเปลวไฟสีส้มแดงที่ลามเลียเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลงสู่ความว่างเปล่าอันสมบูรณ์นางควรจะตายแล้วแน่ ใช่ นางมั่นใจว่าตนเองตายแล้ว การระเบิดในห้องแล็บนิติวิทยาศาสตร์ระดับนั้นไม่เหลือโอกาสให้ใครรอดชีวิตแต่ในความมืดมิดอันเป็นอนันต์นี้ กลับมีบางสิ่งเคลื่อนไหวมันไม่ใช่ภาพ ไม่ใช่เสียง แต่เป็น ‘ความรู้สึก’ ที่ไหลบ่าเข้ามาในมโนสำนึกที่ไร้รูปร่างของนาง ความรู้สึกเย็นเยียบของการถูกทอดทิ้ง ความขมขื่นของหยดน้ำตาที่ไม่มีใครเห็น เสียงกระซิบเยาะเย้ยที่ก้องอยู่ในหัวราวกับเสียงสะท้อนในถ้ำลึก ความอบอุ่นจางๆ ของอ้อมกอดหนึ่งที่เลือนรางจนแทบจับต้องไม่ได้ และรสขมปร่าของยาพิษที่แผดเผาตั้งแต่ปลายลิ้นจรดช่องท้องข้อมูลมหาศาลที่ไม
last updateLast Updated : 2025-06-23
Read more

บทที่ 3

กาลเวลาในเรือนซิงอวิ๋นคล้ายกับหยุดนิ่ง มีเพียงเสียงหยาดฝนที่แปรเปลี่ยนจากเสียงสาดซัดรุนแรงมาเป็นเสียงพรำๆ แผ่วเบาที่ยังคงบ่งบอกว่าโลกภายนอกยังคงหมุนต่อไป น้ำหวาน—หรือตอนนี้คือจ้าวลี่อิง ยังคงนอนนิ่งอยู่บนเตียงไม้แข็งกระด้าง ร่างกายอ่อนล้าจนแทบไม่รู้สึกถึงความแข็งของมันอีกต่อไป แต่สมองของนางกลับทำงานอย่างไม่หยุดหย่อนหลังจากที่สาวใช้ทั้งสองวิ่งหนีไปด้วยความตื่นตระหนก ทิ้งนางไว้กับความเงียบอีกครั้ง จ้าวลี่อิงก็เริ่มทำในสิ่งที่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญพึงกระทำเมื่อเผชิญหน้ากับเคสผู้ป่วยที่ซับซ้อน... นั่นคือการประเมินสภาพร่างกายอย่างละเอียดและเป็นระบบที่สุดเท่าที่จะทำได้นางเริ่มต้นจากระบบที่สำคัญที่สุดในตอนนี้: ระบบหัวใจและหลอดเลือด‘การเต้นของหัวใจ...’ นางหลับตาลง เพ่งสมาธิไปที่จังหวะการเต้นในอก กลับสู่ภาวะปกติมากขึ้น แต่ยังคงมีภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ เป็นระยะ ๆ จังหวะจะเร็วขึ้น สลับกับช่วงที่เต้นช้าลงและมีจังหวะที่ขาดหายไป นี่คือผลกระทบโดยตรงจากพิษกลุ่มคาร์ดิโอไกลโคไซด์ที่ยังตกค้างอยู่ในระบบ แม้จะขับพิษส่วนใหญ่ออกไปแล้ว แต่กล้ามเนื้อหัวใจได้รับความเสียหายไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย ในโลกเดิมคงต้อง
last updateLast Updated : 2025-06-28
Read more

บทที่ 4

เงาแห่งราตรีทอดตัวยาวเหยียด กลืนกินทุกสรรพสิ่งไว้ในอ้อมกอดอันเยียบเย็น รัตติกาลคืบคลานเข้าสู่จวนเสนาบดีอย่างเงียบงัน ลบเลือนเส้นสายลายสลักและสีสันอันโอ่อ่าให้เหลือเพียงโครงร่างสีดำทะมึนภายใต้แสงจันทร์นวลจาง ในห้องพักของคุณหนูสาม บรรยากาศหนักอึ้งและสงบเยือกเย็น มีเพียงแสงเทียนที่วูบไหวบนเชิงเทียนทองเหลืองเท่านั้นที่ยังเคลื่อนไหว ประหนึ่งลมหายใจของห้องที่กำลังจะดับสูญจ้าวลี่อิงยังคงนั่งสงบอยู่บนเตียง ท่วงท่าของนางสงบนิ่งดุจผิวน้ำไร้ริ้วคลื่น แต่ภายใต้ความเรียบสนิทนั้นคือกระแสความคิดที่เชี่ยวกราก ประสาทสัมผัสทุกส่วนของนางตื่นตัวและแผ่ขยายออกไปในความมืด สดับฟังทุกความเคลื่อนไหวที่อยู่นอกบานประตูกระทั่งเสียงจิ้งหรีดที่เคยกรีดร้องระงมเริ่มแผ่วเบาลง สรรพสำเนียงแห่งชีวิตในยามค่ำคืนได้จมลึกลงสู่การหลับใหลอย่างแท้จริง นางจึงขยับกายอย่างนุ่มนวล ทุกย่างก้าวที่เท้าเปล่าสัมผัสพื้นไม้เย็นเฉียบนั้นไร้สุ้มเสียง แฝงไว้ด้วยความหมายและความมุ่งมั่นที่แตกต่างจากคุณหนูสามผู้ป่วยไข้โดยสิ้นเชิง นางไปถึงบานประตู ใช้วัตถุเล็กๆ ขัดมันไว้กับวงกบ เป็นกลไกเตือนภัยอันเรียบง่ายทว่าเปี่ยมประสิทธิภาพเมื่อแน่ใจในปราก
last updateLast Updated : 2025-06-28
Read more

บทที่ 5

อรุณรุ่งของวันใหม่ทอแสงแรกจับขอบฟ้า ปลุกสรรพชีวิตในจวนเสนาบดีให้ตื่นจากนิทราอันยาวนาน ทว่าสำหรับจ้าวลี่อิงแล้ว นางไม่ได้หลับใหลเลยทั้งราตรี จิตวิญญาณของนางตื่นโพลงอยู่ในความมืด สดับฟังทุกความเคลื่อนไหว ทบทวนทุกร่องรอยแห่งความจริงที่เพิ่งค้นพบ โลกที่นางเห็นในยามนี้มิได้เหมือนเดิมอีกต่อไป ทุกรอยยิ้มที่เคยดูอบอุ่นอาจซ่อนใบมีดไว้เบื้องหลัง ทุกถ้อยคำที่แสดงความห่วงใยอาจเคลือบไว้ด้วยยาพิษเมื่อเสี่ยวชุ่ยประคองชามยาถ้วยใหม่เข้ามาในยามเช้า สีหน้าของนางยังคงเปี่ยมด้วยความห่วงใยอันบริสุทธิ์ ช่างแตกต่างจากบรรยากาศอันหลอกลวงที่อบอวลอยู่ทั่วจวนแห่งนี้ จ้าวลี่อิงมองของเหลวสีนิลในชามนั้นด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป มันไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์แห่งความตายอีกต่อไป แต่บัดนี้มันคือเครื่องมือ คือบททดสอบ และคือเวทีที่นางต้องร่ายรำไปตามบทบาทที่ตนเป็นผู้กำกับนางตระหนักดีว่าการแสร้งทำยาหกหรือปฏิเสธอย่างเด็กๆ นั้นไม่อาจใช้ได้ตลอดไป มันจะสร้างความสงสัยโดยไม่จำเป็น กลยุทธ์ใหม่จึงถูกร่างขึ้นในมโนสำนึกอันเงียบงันของนางอย่างรวดเร็ว มันเป็นกลยุทธ์ที่เสี่ยงอันตราย ทว่าจำเป็นอย่างยิ่งยวด นั่นคือการควบคุมปริมาณพิษที่เข้าสู่ร
last updateLast Updated : 2025-06-28
Read more

บทที่ 6

กาลเวลาในจวนเสนาบดีดูจะบิดเบี้ยวและเชื่องช้าลงนับตั้งแต่วันที่จ้าวลี่อิงได้สนทนากับบิดาในเรือนหนังสือของเขา แต่ในที่สุด วันแห่งพิธีสมรสพระราชทานก็คืบคลานมาถึงราวกับพญามัจจุราชในอาภรณ์สีมงคลจ้าวลี่อิงถูกปลุกให้ตื่นตั้งแต่ยามอิ๋น ท้องฟ้ายังคงเป็นสีน้ำหมึก เหล่านางกำนัลและบ่าวรับใช้ที่ฮูหยินรองส่งมาต่างกรูกันเข้ามาในห้องของนาง ประหนึ่งฝูงผึ้งที่กำลังรุมล้อมดอกไม้ที่ใกล้จะร่วงโรย พวกนางอาบน้ำขัดผิวให้นางด้วยเครื่องประทินผิวชั้นเลิศ อบร่ำร่างกายด้วยเครื่องหอมกำยานราคาแพง แล้วบรรจงสวมทับอาภรณ์สีแดงสดอันเป็นมงคลให้ทีละชั้นๆชุดวิวาห์นั้นงดงามและหนักอึ้งอย่างเหลือเชื่อ ผ้าไหมปักดิ้นทองเป็นลายหงส์คู่มังกรสยายปีก แขนเสื้อยาวลากพื้น ชายกระโปรงซ้อนทับกันถึงเก้าชั้น ทุกฝีเข็มเต็มไปด้วยความประณีต ทว่าสำหรับจ้าวลี่อิงแล้ว มันไม่ต่างอะไรกับโซ่ตรวนอันงดงามที่กำลังพันธนาการนางให้แน่นหนายิ่งขึ้น ศีรษะของนางถูกประดับด้วยมงกุฎหงส์ทำจากทองคำและไข่มุกจนหนักอึ้ง ใบหน้าถูกแต่งแต้มจนขาวผ่อง ริมฝีปากถูกแต้มด้วยชาดสีแดงสดดุจโลหิตเมื่อการแต่งกายเสร็จสิ้น นางถูกพยุงให้นั่งนิ่งๆ อยู่กลางห้อง รอคอยฤกษ์ยามมงคลเพื่อ
last updateLast Updated : 2025-06-28
Read more

บทที่ 7

เมื่อบานประตูไม้หนักอึ้งปิดลง เสียงของมันสะท้อนก้องอยู่ในความเงียบงันราวกับเสียงปิดฝาโลงศพ ตัดขาดโลกของห้องหออันโอ่อ่าออกจากทุกสิ่งภายนอกโดยสมบูรณ์ บัดนี้ เหลือเพียงจ้าวลี่อิงและเสี่ยวชุ่ยผู้กำลังตัวสั่นเทาอยู่กลางห้องที่เต็มไปด้วยสีแดงมงคลอันเยียบเย็น"คุณหนู... ฮือ... ที่นี่... ที่นี่ช่างน่ากลัวเหลือเกิน" เสี่ยวชุ่ยสะอื้นไห้ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหวาดผวา "บ่าวได้ยินพวกเขาพูดกันว่า... พระชายาองค์ก่อนก็สิ้นใจในเรือนหลังนี้ ท่านอ๋องก็ไม่เคยเสด็จมาที่นี่เลยแม้แต่ครั้งเดียว"จ้าวลี่อิงหันไปมองสาวใช้ผู้ภักดีของนาง นางมิได้เอ่ยวาจาปลอบโยน แต่ยื่นมือไปบีบแขนของเสี่ยวชุ่ยเบาๆ เป็นการส่งผ่านความมั่นคงที่ไร้คำพูด จากนั้นนางจึงหันกลับมาสำรวจสภาพแวดล้อมแห่งใหม่ของนางด้วยสายตาที่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง นี่ไม่ใช่ห้องหอสำหรับนาง แต่คือที่เกิดเหตุ คือห้องขัง และอาจเป็น...สุสานของนางในอนาคต หากนางประมาทแม้เพียงนิดเดียวนางค่อยๆ เดินไปนั่งลงบนขอบเตียง ยกมือขึ้นถอดมงกุฎหงส์อันหนักอึ้งออกจากศีรษะอย่างช้าๆ แล้ววางมันลงบนโต๊ะข้างเตียง ความเงียบในห้องหอแห่งนี้ดังกว่าเสียงโห่ร้องใดๆ ที่นางเคยได้ยินมาทั้งชีวิต
last updateLast Updated : 2025-06-28
Read more

บทที่ 8

ราตรีนั้นในเรือนจื่อเวยยาวนานกว่าทุกคืนที่ผ่านมา จ้าวลี่อิงนอนนิ่งอยู่บนเตียงไม้สลักลายอันวิจิตร ดวงตาของนางเปิดกว้างอยู่ในความมืดมิด ภาพของสาวใช้ผู้เคราะห์ร้ายที่ถูกดึงขึ้นมาจากบ่อน้ำยังคงฉายชัดอยู่ในมโนสำนึกของนางราวกับถูกตีตราไว้ด้วยเหล็กร้อน...รอยช้ำที่ข้อมือ, รอยแดงที่ลำคอ, และมือที่กำแน่น...ความเงียบของจวนฉินอ๋องที่เคยทำให้นางรู้สึกถึงการถูกคุกคาม บัดนี้กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไป มันคือความเงียบแห่งการสมรู้ร่วมคิด คือความสงบอันน่าสะพรึงกลัวที่ใช้กลบฝังเสียงกรีดร้องของผู้บริสุทธิ์ในฐานะแพทย์ผู้เคยให้สัตย์ปฏิญาณว่าจะปกป้องชีวิต จิตวิญญาณของนางร่ำร้องโหยหวนต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นตรงหน้า แต่ในฐานะจ้าวลี่อิงผู้ต้องเอาชีวิตรอดในรังอสรพิษแห่งนี้ สัญชาตญาณกลับกรีดร้องให้นางนิ่งเงียบเข้าไว้ การยื่นมือเข้าไปสอดส่องเรื่องนี้ไม่ต่างอะไรกับการเดินเข้าสู่ปากเหวด้วยตนเอง นางเป็นเพียงพระชายาที่ถูกทอดทิ้ง ถูกตราหน้าว่าโง่เขลา ไร้ซึ่งอำนาจและเส้นสายใดๆ ในจวนแห่งนี้ การเปิดโปงฆาตกรคือการท้าทายอำนาจมืดที่หยั่งรากลึกอยู่ ณ ที่แห่งนี้โดยตรง และผลลัพธ์ก็อาจหมายถึงความตายสถานเดียวนางหลับตา
last updateLast Updated : 2025-06-28
Read more

บทที่ 9

ราตรีนั้นในเรือนหนังสือของฉินอ๋องเจิ้งหยาง ยาวนานและเงียบงันกว่าทุกคืนที่ผ่านมา เขามิได้อ่านตำราพิชัยสงครามต่อ แต่กลับนั่งนิ่งอยู่บนรถเข็น ปล่อยให้เปลวเทียนสะท้อนประกายวูบไหวอยู่ในนัยเนตรอันลึกล้ำดุจห้วงเหวไร้ที่สิ้นสุด บรรยากาศรอบกายเขาเยียบเย็นลงจนน่าอึดอัด ประหนึ่งพญามังกรที่กำลังขดตัวนิ่งสงบ ทว่าแท้จริงแล้วภายในกำลังครุ่นคิดถึงพายุที่จะก่อตัวขึ้นคำถามนั้น... ‘เหตุใดคนที่ตกบ่อน้ำจึงไม่มีน้ำอยู่ในปอดเล่าเจ้าคะ’... ยังคงดังก้องอยู่ในมโนสำนึกของเขามันไม่ใช่คำถามธรรมดา มันคือความรู้ คือกุญแจ คือคำใบ้ที่ถูกส่งมาอย่างจงใจในรูปแบบที่วิปลาสที่สุด มันคือเสียงกระซิบจากปัญญาอันคมกริบที่ซ่อนกายอยู่ภายใต้หน้ากากของความโง่เขลาอันสมบูรณ์แบบจ้าวลี่อิง... พระชายาที่เขาได้รับมาดุจสินค้ามีตำหนิ สตรีที่ถูกส่งมาเพื่อเป็นเพียงหมากทางการเมืองและเป็นที่ดูแคลนของคนทั้งใต้หล้า บัดนี้นางได้เผยตัวตนอีกด้านหนึ่งออกมาอย่างแยบยล...ด้านที่น่าพรั่นพรึงและน่าสนใจในเวลาเดียวกันเขาไม่เชื่อในเรื่องบังเอิญ และไม่เคยเชื่อว่าความตายในจวนของเขาจะเป็นเพียงอุบัติเหตุ จวนฉินอ๋องคืออาณาจักรของเขา ทุกความเคลื่อนไหวอยู่ในสา
last updateLast Updated : 2025-06-28
Read more
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status