All Chapters of ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา: Chapter 321 - Chapter 330

350 Chapters

บทที่ 321  

ความคิดของหลิวโส่วเริ่นไม่เลวทีเดียว ที่แท้ฉู่หนิงตั้งใจจะเปลี่ยนปิงโจวให้เป็นอาณาเขตของตนเอง! ปิงโจวตั้งอยู่ตรงเขตชายแดน ถูกกองทัพจ้าวก่อกวนและโจมตีตลอดทั้งปี ไม่มีองค์ชายพระองค์ใดคิดจะครอบครองพื้นที่บริเวณนี้ ส่วนราชสำนักก็หาได้เหลียวแลประชาชนที่อาศัยในที่แห่งนี้ ปล่อยให้พวกเขาเผชิญชะตากรรมตามมีตามเกิด แต่เพราะราชสำนักไม่ให้ความสำคัญ ฉู่หนิงถึงได้วางเป้าหมายไว้ที่เขตพื้นที่แห่งนี้ จงใจทูลขอเสบียงอาหารจากราชสำนัก เพื่อรอให้ราชสำนักปฏิเสธ และใช้สิ่งนี้เป็นเงื่อนไขต่อรองกับราชสำนักอีกที หากเอ่ยปากขอสิทธิ์ปกครองตนเองในเขตพื้นที่ปิงโจวกับราชสำนักไปตอนแรก พวกขุนนางคร่ำครึในราชสำนักจะต้องคัดค้านอย่างแน่นอน และบรรดาองค์ชายจะต้องทำทุกวิถีทางเพื่อขัดขวางเขาอย่างเต็มที่ ทว่าสถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ในเมื่อพวกเจ้าปฏิเสธการจัดสรรเสบียงอาหารและหญ้าเลี้ยงม้า มิหนำซ้ำยังบอกให้พวกเขาพึ่งพาตนเอง เช่นนั้นแล้วหากจะมอบสิทธิ์ปกครองตนเองในเขตพื้นที่ปิงโจวให้ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาอะไรกระมัง? ขอเพียงราชสำนักเห็นชอบกับเรื่องนี้ จากนั้นฉู่หนิงก็สามารถนำแผนเก็บภาษีตามที่ดินแทนเกณฑ์แรงงานของตน
Read more

บทที่ 322  

ชั่วขณะนั้น ขุนนางจำนวนมากในท้องพระโรงต่างพากันก้าวเท้าออกจากแถว พวกเขาต้องการประณามการกระทำของฉู่หนิง!ภาพฉากนี้ทำให้สีหน้าของฮ่องเต้ดูย่ำแย่ลงเล็กน้อย แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าบรรดาองค์ชายเหล่านี้ต่างรวบรวมพรรคพวกตักตวงผลประโยชน์ส่วนตัวไว้ในราชสำนัก ทว่าการขุนนางจำนวนมากมายเพียงนี้ถูกดึงเข้าไปอยู่ในกลุ่มของพวกเขากลับเป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือความคาดหมายของเราไปมากทีเดียว ดูเหมือนว่าเรื่องนี้ต้องขอบใจฉู่หนิงแล้ว หากมิใช่เพราะฉู่หนิงทำให้เรื่องนี้ปะทุขึ้นมา เราคงไม่รู้ว่าขุนนางอำมาตย์ชั้นผู้ใหญ่จำนวนมากมายเพียงนี้ไปขอพึ่งพาอาศัยเจ้าลูกเวรพวกนี้ได้อย่างไรแล้ว สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้ว ฮ่องเต้พยายามข่มเพลิงโทสะไว้ในใจ แสร้งทำเป็นตรึกตรองก่อนจะตรัสออกมาว่า “ในเมื่ออ้ายชิงทุกท่านต่างเห็นว่าเรื่องนี้สมควรให้ฉู่หนิงออกมารับผิดชอบ เช่นนั้นก็ให้เสนาบดีกรมอาญามาสอบสวนเรื่องนี้เถิด” หลิงเฮ่าหรานเสนาบดีกรมอาญาเป็นพ่อตาขององค์รัชทายาท ให้คนผู้นี้ดำเนินการสอบสวนเรื่องนี้ คิดว่าองค์รัชทายาทจะไม่ขัดข้อง ส่วนคนอื่น ก็แค่วางมาดใหญ่โตตบตาผู้คน ขอแค่รัชทายาทไม่ก่อความวุ่นวาย คนอื่นจะมีเหตุผลอะไรเอาเรื่อ
Read more

บทที่ 323  

“ไยต้องให้ข้ากลับเมืองหลวงไปพร้อมกับเจ้าด้วยเล่า!” หลายวันต่อมา บนถนนหลวงของเมืองติ้งเซียงที่มุ่งสู่เมืองหลวง ทัพทหารม้ากลุ่มหนึ่งกำลังเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างเชื่องช้า ทว่าเมื่อเสียงโวยวายของเฝิงมู่หลานดังขึ้นมา ความเร็วของขบวนพลันเพิ่มขึ้นไม่น้อย เหล่าทหารทั้งหลายครั้นได้ยินเสียงของฉู่หนิงก็เหมือนเห็นผีเข้าแล้วที่เป็นเช่นนี้ย่อมเป็นเพราะเฝิงมู่หลานถูกฉู่หนิงบังคับให้ต้องกลับเมืองหลวง จึงเกิดความไม่พอใจ ตั้งแต่วันออกเดินทางก็เอาแต่โวยวายใส่ฉู่หนิงไม่หยุด น่าเสียดายเฝิงมู่หลานทำอะไรฉู่หนิงไม่ได้ สุดท้ายก็กลับกลายเป็นว่าเอาคำด่าทอต่อว่าไประบายใส่เหล่าพลทหารรอบข้างที่ร่วมเดินทางมาด้วยแทน และหนนี้เหล่าทหารก็ฉลาดขึ้นบ้างแล้ว เมื่อใดที่เฝิงมู่หลานเปิดปาก พวกเข้าก็แค่ต้องหนีไปให้ไกล ฉู่หนิงในตอนนี้เองก็ปวดศีรษะไม่รู้จบสิ้น เพิ่งออกเดินทางได้สามวัน ระหว่างทางก็ถูกเฝิงมู่หลานก่อกวนอยู่หลายครั้ง พูดดีด้วยก็แล้วพูดข่มขู่ด้วยก็แล้วแต่ก็ไม่เป็นผล ตราบใดที่เฝิงมู่หลานเกิดหงุดหงิดขึ้นมาก็หาเรื่องมาทะเลาะได้ทุกที “คุณหนูเฝิง เสด็จพ่อแต่งตั้งเจ้าเป็นท่านหญิงแล้ว เจ้าจำเป็นต้องกลับไป
Read more

บทที่ 324  

ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด แต่เพียงคิดว่าฉู่หนิงจะสมรสกับเสิ่นหว่านอิ๋ง นางกลับรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา ทว่าความรู้สึกไม่สบายใจลักษณะนี้กลับมิใช่แค่ความจองหองที่นางมีต่อฉู่หนิงเท่านั้น หากแต่เจือด้วยรสชาติขมปร่าบางอย่างตลอดหลายปีที่ผ่านมา นางไม่เคยรู้สึกเช่นนี้มาก่อน! นางไม่รู้จะอธิบายอย่างไร เพียงรู้สึกคล้ายว่ามีสิ่งของล้ำค่าบางอย่างถูกคนอื่นแย่งชิงไปแบบนั้น รู้สึกอาวรณ์ยิ่งนัก ถึงขั้นที่ตอนนี้นางไม่อยากเห็นหน้าฉู่หนิงด้วยซ้ำไป และก็เป็นเพราะว่ายิ่งเข้าใกล้เมืองหลวงมากเท่าใด ความรู้สึกนี้ก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น ก่อนหน้านี้ที่นางคอยหาเรื่องฉู่หนิงไม่หยุด ความจริงก็เพราะอยากพูดคุยกับฉู่หนิงให้มากขึ้นเท่านั้นเอง มิใช่เพราะอยากหาเรื่องให้ฉู่หนิงวุ่นวายจริง ๆ สักหน่อย ฉู่หนิงมองเงาแผ่นหลังของเฝิงมู่หลานที่ห่างออกไปเรื่อย ๆ ใบหน้าฉายแววประหลาดใจออกมาสีหน้าของสตรีผู้นี้ไยจึงเหมือนสภาพอากาศนัก นึกจะเปลี่ยนก็เปลี่ยนทันที? ช่างเถิด ตอนนี้ยังต้องเร่งเดินทางให้เร็วที่สุด กลับถึงเมืองหลวงแล้วยังมีเรื่องใหญ่อีกเรื่องหนึ่งรอให้ตนเองไปจัดการอยู่ “จ้าวอวี่ ถ่ายทอดคำสั่ง เร่งเดินทาง
Read more

บทที่ 325  

หน้าประตูเมืองหลวง ธงทิวปลิวไสว ผู้คนมืดฟ้ามัวดิน ครึกครื้นเป็นที่สุด พวกชาวบ้านปรารถนาจะยินยลความสง่างามของฉู่อ๋องกับตา อยากรู้ว่าจะจองหองลำพองตนจริงอย่างคำเล่าลือหรือไม่ ธงมังกรสิบสองผืนตั้งตระหง่าน โบกสะบัดต้านแรงลมหนาว เสียงดังพึ่บพั่บบทเพลงแห่งชัยชนะที่นักสังคีตบรรเลงขึ้นมาก็กึกก้องฮึกเหิมยิ่งนัก เสียงสังคีตแว่วลอยตามแรงลมออกไปไกลแสนไกล ปลุกเร้าให้คนที่ได้ยินเลือดลมเดือดพลุ่งพล่าน จ้าวหมิงหัวหน้าขันทีซึ่งยืนอยู่ข้างกายองค์รัชทายาทบัดนี้กลัดกลุ้มจนปัญญายิ่งนัก ไม่อยากเลือกข้างระหว่างองค์ชายทั้งสองพระองค์ แต่ก็มิบังอาจเข้าไปตักเตือนฉู่หนิงภายหลังจากที่ได้รับคำขู่ของรัชทายาทเช่นกัน ทว่าเพียงสายตากลอกวูบ จ้าวหมิงผุดความหนึ่งขึ้นมาทันที ก็เอ่ยขึ้นพลางกลั้วหัวเราะเสียงแห้ง “รัชทายาทตรัสหยอกเย้าแล้ว ในเมื่อบ่าวมาในพระนามของฝ่าบาท ย่อมสงวนกิริยาวาจาเป็นธรรมดาพ่ะย่ะค่ะ” “เช่นนั้นก็ดี!” รัชทายาทถอนสายตาตักเตือนกลับมาอย่างพึงพอใจ ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มกระหยิ่มอย่างผู้ครองชัยชนะขึ้นมา ตราบใดที่จ้าวหมิงไม่เข้าไปตักเตือน โอรสนอกสมรสอย่างฉู่หนิงหรือจะสังเกตได้ว่าธงมังกรและเพลงบรรเล
Read more

บทที่ 326  

“ถวายบังคมองค์รัชทายาท ท่านอ๋องทุกพระองค์และคารวะใต้เท้าทุกท่าน!” จ้าวอวี่ประสานมือค้อมกายคารวะต่อทุกคน รัชทายาทกลั้วหัวเราะ พลางยื่นมือไปตบบ่าจ้าวอวี่ พลางเอ่ยยิ้ม ๆ “แม่ทัพจ้าวไม่จำเป็นต้องมากพิธี ศึกครานี้เจ้าเองก็สร้างผลงานอันยิ่งใหญ่ เป็นทัพโจมตีเมืองแห่งราชวงศ์พวกเรา!”เว้นไปครู่หนึ่ง รัชทายาทก็เหลือบสายตามองไปด้านหลังจ้าวอวี่ พลางเอ่ยอย่างฉงน “ไม่ทราบน้องสิบแปดเหตุใดจึงหยุดอยู่ไกลนัก หรือเพราะพิธีการของข้าบกพร่องไม่สมเกียรติ?” เพียงเอ่ยปากก็ตั้งตนอยู่บนจุดสูงสุดของศีลธรรม พร้อมยัดเยียดข้อครหาให้ฉู่หนิงทันที ชาวบ้านรอบด้านที่ไม่รู้ความจริงต่างก็พากันชี้ไม้ชี้มือ ส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ออกมา “ฉู่อ๋องจองหองอวดดีถึงเพียงนี้จริงหรือ?” “ว่าตามเหตุผลแล้วพิธีการของรัชทายาทก็ครบถ้วนมิบกพร่อง ฉู่อ๋องเหตุใดยังไม่เคลื่อนขบวนเข้าเมืองหลวงอีก?” “ดูท่าจะจริงอย่างที่เล่าลือไม่ผิดเพี้ยน ฉู่อ๋องเป็นเพราะได้อำนาจ ถึงได้ทำท่าลำพองเช่นนี้!” เสี้ยวขณะนั้น ความรู้สึกในแง่ดีที่ทุกคนมีต่อฉู่หนิงก็ลดฮวบลงทันตาเห็นภาพฉากนี้ทำให้มุมปากของรัชทายาทกระตุกขึ้นเล็กน้อย เผยรอยยิ้มดูแคลนออกมาจ้า
Read more

บทที่ 327  

“ยินดีต้อนรับฉู่อ๋อง (น้องสิบแปด) กลับมาพร้อมชัยชนะอย่างสง่างาม!” ฉู่หนิงตะบึงอาชานำทัพม้าขาวไปถึงหน้าประตูเมือง บรรดาขุนนางทั้งฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋นซึ่งนำโดยรัชทายาทต่างเปล่งเสียงอย่างพร้อมเพรียงกัน พลทหารและเหล่าราษฎรรอบด้านก็ถูกพลังอันฮึกเหิมของขุนนางครอบงำเช่นกัน เปล่งเสียงกึกก้องออกมาว่า “ต้อนรับฉู่อ๋องกลับมาอย่างสง่างามจากชัยชนะ!” วิกฤติของแคว้นต้าฉู่ถูกคลี่คลายด้วยฝีมือฉู่หนิง แม้จะมีข่าวลือว่าฉู่หนิงหยิ่งยโสและกำเริบเสิบสานเพียงใด ทว่า ณ ตอนนี้ ทุกคนล้วนปีติยินดีที่ได้ร่วมต้อนรับการกลับมาของวีรบุรุษแห่งต้าฉู่จากใจจริง ฉู่หนิงกวาดสายตามองผู้คนมากมายจากบนหลังม้า ก่อนจะผุดยิ้มเล็กน้อย และพลิกตัวลงจากหลังอาชามาค้อมกายทำความเคารพต่อรัชทายาทและทุกคน “ถือเป็นเกียรติยิ่งนักที่องค์รัชทายาทพร้อมด้วยเสด็จพี่ทุกพระองค์ รวมถึงท่านใต้เท้าทุกท่านออกมาต้อนรับข้าด้วยตนเอง”เว้นไปครู่หนึ่ง ก็ผินใบหน้ามองไปทางจ้าวหมิง พร้อมกับเอ่ยยิ้ม ๆ “หัวหน้าจ้าวเองก็มาด้วยหรือ?”จ้าวหมิงยิ้มกว้างพลางเอ่ยว่า “บ่าวเป็นตัวแทนของฝ่าบาทมาเพื่อต้อนรับท่านอ๋องกลับสู่เมืองหลวง ศึกครั้งนี้ท่านอ๋องได้ชัยชนะอันยิ
Read more

บทที่ 328

เฝิงอันกั๋วสีหน้าเปลี่ยนไป ตวาดเสียงดังว่า “หุบปาก!”แต่คำพูดก็หลุดออกไปแล้ว ชาวบ้านรอบข้างต่างส่งเสียงอึกทึกขึ้นทันที“ไม่จริงกระมัง องค์รัชทายาทต้องการกำจัดฉู่อ๋องจริง ๆ หรือ?”“เรื่องนี้ว่าไม่ได้ มีตำแหน่งฉู่อ๋องอยู่ตรงนั้น เขาเป็นคนที่มีโอกาสท้าทายตำแหน่งองค์รัชทายาทมากที่สุด”“ผู้ใดว่าไม่ใช่เล่า มิเช่นนั้นองค์รัชทายาทคงไม่รีบร้อนหาเรื่ององค์ชายสิบแปดเช่นนี้หรอก”ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนต่างประณามองค์รัชทายาทผ่านทางวาจาสีหน้าขององค์รัชทายาทเย็นชาลงทันทีเขาคิดว่าตนจะยืนอยู่บนจุดสูงทางศีลธรรม ฉวยโอกาสกดดันฉู่หนิง นึกไม่ถึงว่าจะมีเฝิงมู่หลานกระโดดเข้ามาขัดขวางเสียอย่างนั้นหญิงเสียสติผู้นี้นี่!ปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปไม่ดีแน่ มิเช่นนั้นกระแสมวลชนคงไม่เป็นผลดีต่อข้าแล้วองค์รัชทายาทหน้าบึ้ง โบกมือส่งสัญญาณ “องครักษ์ จับตัวเฝิงมู่หลานเดี๋ยวนี้!”องครักษ์ตำหนักบูรพาสิบกว่านายรีบวิ่งเข้ามาเฝิงอันกั๋วพลันตกใจ เตรียมจะก้าวไปเจรจากับองค์รัชทายาท แต่เฝิงมู่หลานกลับสะบัดมือขวาของเขาออกโดยแรง แล้ววิ่งเข้าไปเองเมื่อเห็นทั้งสองฝ่ายกำลังจะปะทะกัน ฉู่หนิงก็รีบยิ้มกล่าวว่า “คุณหนูเฝิง นี
Read more

บทที่ 329

คำพูดของฉู่หนิงทำให้องค์รัชทายาทและหลิงเฮ่าหรานตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกทั้งสองคิดไม่ถึงเลยว่าฉู่หนิงจะกล้าเล่นงานพวกตนต่อหน้าผู้คนเช่นนี้!พวกเขาอยากถามฉู่หนิงนักว่า ยังมีความละอายใจอยู่บ้างหรือไม่?องค์ชายผู้สูงศักดิ์ กลับคิดวิธีการที่ไร้ยางอายเช่นนี้ออกมาได้องค์รัชทายาทมีสีหน้าเคร่งขรึม จ้องมองฉู่หนิงไม่วางตา “น้องสิบแปดพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร นี่กำลังข่มขู่ข้าและใต้เท้าหลิงงั้นหรือ?”ฉู่หนิงยักไหล่ “ท่านพี่องค์รัชทายาทกล่าวเกินไปแล้ว ข้าไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น แต่การไปกรมอาญาก็ต้องมีการไต่สวนไม่ใช่หรือ? การเดินทางไปกลับทำให้เสียเวลา ผู้ที่ต้องรับผิดชอบย่อมไม่ใช่ข้า”ความรับผิดชอบไม่ได้อยู่ที่เจ้า งั้นก็แสดงว่าต้องอยู่ที่ข้าน่ะสิ!องค์รัชทายาทแค่นหัวเราะ “เจ้าคิดว่าพูดเช่นนี้แล้ว ใต้เท้าหลิงจะไม่กล้าพาเจ้าไปหรือ?”ฉู่หนิงหัวเราะเสียงดัง “ข้าตกลงไปกรมอาญาแล้ว ท่านพี่องค์รัชทายาทไม่จำเป็นต้องพูดมาก ไปกันเถอะ ใต้เท้าหลิง~”พูดพลาง ฉู่หนิงก็ก้าวปราด ๆ เข้าไปในเมืองหลิงเฮ่าหรานหันมององค์รัชทายาทแวบหนึ่งเรื่องนี้ท่านก่อขึ้นเอง ตอนนี้ควรทำอย่างไร ท่านก็จัดการเองเถ
Read more

บทที่ 330

เฝิงมู่หลานยักไหล่ “จะคิดบัญชีก็คิดไปเถิด ถึงอย่างไรท่านก็สู้ข้าไม่ได้ อีกอย่างตอนนี้ข้าเป็นเสี่ยนจู่ ยศตำแหน่งสูงกว่าท่านเสียอีก!”เฝิงอันกั๋วมุมปากกระตุก พูดคำใดไม่ออกขณะนั้น องค์ชายรองก้าวเข้ามาส่งยิ้มให้แก่ฉู่หนิง “น้องสิบแปด ศึกนี้เจ้าได้รับชัยชนะครั้งใหญ่ บางคนคงเกิดความระแวง ต่อไปเจ้าต้องระวังตัวมากขึ้นแล้ว”ฉู่หนิงหัวเราะเสียงดัง “ขอบคุณพี่รองที่กล่าวเตือน น้องจะระวังตัว ไม่ให้พวกคนชั่วมีโอกาสเป็นแน่”องค์ชายรองพยักหน้าเล็กน้อย ถือว่าได้ทักทายกันแล้ว จึงก้าวเท้าเข้าไปในเมืองฉู่หนิงก็ไม่อยากเสียเวลาอยู่ที่ประตูเมืองอีก จึงยกมือโบก “ทุกคนเข้าเมือง อย่าให้ข้าเป็นเหตุกีดขวางการเข้าออกของชาวบ้านเลย!”เมื่อมีคำสั่ง ทุกคนก็ทยอยเข้าเมืองชาวบ้านที่รออยู่ในเมืองตั้งแต่ต้นพากันส่งเสียงโห่ร้องอย่างต่อเนื่อง ทั้งสองข้างทางเต็มไปด้วยผู้คน แม้กระทั่งบนชั้นสองก็ยังมีคนมองลงมาพร้อมกับการที่ฉู่หนิงขี่ม้าเข้าเมือง ไม่รู้ว่าผู้ใดเป็นคนตะโกนขึ้นมาก่อน คนอื่น ๆ จึงพร้อมใจตะโกนตามกัน“ขอฉู่อ๋องอายุยืนพันปี!”“ขอฉู่อ๋องอายุยืนพันปี!”“ขอฉู่อ๋องอายุยืนพันปี!”เสียงดังกังวานราวกับระฆังยั
Read more
PREV
1
...
303132333435
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status