Semua Bab ศึกยอดมังกรครองบัลลังก์ แผ่นดินนี้ข้าไม่เอา: Bab 331 - Bab 340

350 Bab

บทที่ 331

จวนฉู่อ๋องป้ายเดิมของจวนเผิงไหลจวิ้นอ๋องถูกเปลี่ยนเป็น ‘จวนฉู่อ๋อง’ สามคำเข้ามาแทนที่ ทำมาจากงานฝีมือการฝังทอง ซึ่งดูสง่างามและน่าเกรงขามอย่างยิ่ง เมื่อมองจากไกลๆ ก็ให้ความรู้สึกไม่อาจล่วงเกินฉู่หนิงกลับมาพร้อมกับกองกำลังคุ้มกัน และยังมองเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังรออยู่ที่หน้าประตูจวนแต่ไกลผู้เป็นผู้นำสวมชุดกระโปรงสีม่วง ผมสีดำขลับยาวสลวยปล่อยสยายไปด้านหลัง เรือนร่างอันน่าภาคภูมิใจยิ่งโดดเด่น ภายใต้การหนุนเสริมของผ้าไหมที่แนบกระชับจนเผยส่วนเว้าโค้งได้อย่างชัดเจนเพียงปราดเดียว สายตาของฉู่หนิงก็ต้องหยุดอยู่ที่เรือนร่างนางเสิ่นหว่านอิ๋ง สตรีอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งต้าฉู่มาต้อนรับด้วยตนเองฉู่หนิงพลันยิ้มที่มุมปาก ควบม้ามาถึงหน้าประตูจวนอย่างรวดเร็ว เขายังไม่ทันได้ลงจากม้า ทุกคนก็พร้อมใจกันตะโกนเสียงดัง“คำนับท่านอ๋อง!”ฉู่หนิงหัวเราะฮ่าๆ “ทุกคนไม่ต้องมากพิธี!”เขากล่าวพลางลงจากหลังม้า แล้วยื่นมือไปประคองเสิ่นหว่านอิ๋งที่กำลังคารวะมือของทั้งสองสัมผัสกัน ผู้หนึ่งผิวขาวผ่องดุจหิมะ สัมผัสเย็นยะเยือกดุจน้ำแข็ง ในขณะที่อีกผู้หนึ่งร้อนแรงดุจไฟทันทีที่สัมผัส ทั้งสองก็สะดุ้งเล็กน้อยฉ
Baca selengkapnya

บทที่ 332

ที่แท้เป็นเช่นนี้นี่เอง!ฮ่องเต้ให้เสิ่นหว่านอิ๋งร่วมงานเลี้ยงฉลองชัยชนะก็เพื่ออยากเตือนเขาว่า ‘ว่าที่ภรรยาของเจ้าเป็นทายาทอดีตราชวงศ์ มอบอำนาจทางทหารให้เจ้าไม่ได้เด็ดขาด!’ต้องยอมรับว่าฮ่องเต้ก็พอมีชั้นเชิงอยู่บ้างหากวันนี้เขาไม่ส่งมอบอำนาจทางทหาร การแต่งงานครั้งนี้คงล่มแน่อยากรักษาอำนาจทางทหารไว้ เช่นนั้นก็ต้องทิ้งเรื่องงานแต่งอยากแต่งงานกับเสิ่นหว่านอิ๋ง ก็จำต้องส่งมอบอำนาจทางทหารนี่คือโจทย์ที่ฮ่องเต้ให้เลือกเมื่อฉู่หนิงเข้าใจแล้ว สีหน้าเย็นชาขึ้นทันใดเขาสร้างผลงานการรบเช่นนี้ให้แคว้นฉู่ ทันทีที่กลับมาก็ต้องรับการตรวจสอบก็ช่างเถอะ ตอนนี้แม้แต่ฮ่องเต้ก็จะเรียกคืนอำนาจทางทหารในมือเขาหากไม่ใช่เพราะเขาเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว เรื่องนี้ก็คงรับมือยากจริงๆ“ไม่ต้องห่วง ข้าจะจัดการเรื่องนี้อย่างเหมาะสม!”ฉู่หนิงยิ้มหยัน “ข้าจะไม่ส่งมอบอำนาจทางทหาร และแต่งงานของเจ้ากับข้าก็จะจัดขึ้นตามกำหนด คืนนี้เจ้าแต่งตัวสวยๆ ไปร่วมงานเลี้ยงก็พอ”ใบหน้าอันงดงามของเสิ่นหว่านอิ๋งฉายแววประหลาดใจแม้เคยนึกถึงความเป็นไปได้หลายแบบ แต่นางกลับคิดไม่ถึงว่าฉู่หนิงจะมีท่าทีที่หนักแน่นเช่นนี้นางถอนห
Baca selengkapnya

บทที่ 333

ช่วงค่ำ ความมืดปกคลุมทั่วทั้งเมืองหลวง เมื่อความครึกครื้นในยามกลางวันหายไป บรรยากาศเงียบสงบเป็นพิเศษพระราชวังอันสว่างไสว ราวกับดวงตาอสูรยักษ์ที่กำลังส่องประกายระยิบระยับอยู่ตลอดเวลางานเลี้ยงฉลองชัยชนะในคืนนี้ยิ่งใหญ่อลังการ ขุนนางขั้นสี่ขึ้นไปในเมืองหลวงทุกคนต้องเข้าร่วมชั่วขณะ บริเวณประตูพระราชวังวุ่นวายมาก ผู้คนทยอยเดินทางมาด้วยเกี้ยวและม้าอย่างต่อเนื่องดีที่ทหารรักษาพระองค์มีประสบการณ์ในเรื่องนี้ จึงได้เตรียมการล่วงหน้าไว้แล้ว ผู้คนลงจากเกี้ยวและม้าศึกก็ตรงเข้าวังไปทันที ส่วนคนหามเกี้ยวและม้าศึกจะไปรออยู่ที่ด้านข้าง เพื่อป้องกันการจราจรติดขัดไม่นานนัก ขุนนางจำนวนมากก็มุ่งหน้าไปยังอุทยานหลวงเป็นกลุ่มๆและภายในอุทยานหลวง เหล่าองค์ชายและขุนนางก็ทยอยเดินทางมาถึง พวกเขาจับกลุ่มกับคนที่ตนเองรู้จักคุยกัน“การกลับมาพร้อมชัยชนะของฉู่อ๋องในครั้งนี้ เป็นภัยคุกคามใหญ่หลวงต่อองค์รัชทายาทเลยนะ”“ก็ใช่น่ะสิ วันนี้องค์รัชทายาทลงมือกับฉู่อ๋อง คิดว่าก็คงเพราะเรื่องนี้”“ไม่รู้ว่าฉู่อ๋องทำบุญด้วยอะไร ถึงได้โชคดีชนะศึกนี้ได้”“พูดก็พูดเถิด ศึกนี้หวุดหวิดจริงๆ เปลี่ยนเป็นผู้อื่น คงไม่มีใค
Baca selengkapnya

บทที่ 334

“ฉู่อ๋องก็จริงๆ เลย เหตุใดต้องไปทะเลาะกับองค์รัชทายาทด้วย แค่ต่อว่าเจ้าคำสองคำ อดกลั้นไว้ก็สิ้นเรื่อง”“ใครว่าไม่ใช่ล่ะ ฉู่อ๋องมองสถานการณ์ไม่ออกเลย”“ในเมืองหลวงแห่งนี้ นอกจากฝ่าบาทแล้ว คำพูดขององค์รัชทายาทใหญ่สุด ฉู่อ๋องเป็นศัตรูกับองค์รัชทายาท ไม่ใช่ความคิดที่ฉลาดเลย”ขุนนางส่วนใหญ่รู้สึกว่าฉู่หนิงไม่ควรพูดเช่นนี้เขาเป็นรัชทายาท ส่วนเจ้าเป็นแค่ชินอ๋อง องค์รัชทายาทต่อว่าเจ้า แล้วเจ้าทำอะไรเขาได้?ต่อให้เจ้ามีอำนาจทางทหารในมือแล้วอย่างไร ทหารอยู่ที่แนวหน้า เจ้าอยู่ในเมืองหลวง องค์รัชทายาทอยากจัดการเจ้าง่ายเหมือนพลิกฝ่ามือ!องค์รัชทายาทย่อมได้ยินคำพูดของเหล่าขุนนาง เขามองฉู่หนิงอย่างเย้ยหยัน “ดูเหมือนน้องสิบแปดไม่ค่อยพอใจกับคำพูดของข้านะ ข้าว่าเจ้ามาสาย เจ้าก็มาสาย!”“หากเจ้าไม่เชื่อ ก็ลองถามใต้เท้าทุกท่านดูสิ”ต่อว่าเจ้ายังไม่พอใจ?เช่นนั้นก็ได้ ข้าจะอาศัยคนหมู่มากรังแกเจ้า!ภาพนี้ทำให้สีหน้าของจ้าวอวี่ที่เดินตามหลังฉู่หนิงเปลี่ยนฉับพลัน และจะก้าวออกมาพูดแทนฉู่หนิงทันทีแต่ฉู่หนิงกลับยื่นมือไปขวางจ้าวอวี่เอาไว้ เขามององค์รัชทายาทแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านพี่องค์รัชทายาทพูด
Baca selengkapnya

บทที่ 335 

ภายในศาลา ฉู่หนิงกับองค์รัชทายาท คนหนึ่งนั่งฝั่งซ้าย คนหนึ่งนั่งฝั่งขวาของฮ่องเต้เสิ่นหว่านอิ๋งกับพระชายารัชทายาทก็ย่อมนั่งข้างผู้ชายของตนเองหนึ่งโต๊ะมีแปดที่นั่ง ตอนนี้นั่งไปห้าคนแล้ว องค์ชายที่เหลือจ้องที่นั่งที่เหลืออีกสามที่จนตาแดงฮ่องเต้ย่อมสังเกตเห็นเรื่องแค่นี้ ในสายพระเนตรจึงมีแววพินิจแลบผ่าน“ฉู่หนิง โต๊ะของพวกเรายังเหลือที่นั่งอีกสามที่ เจ้าคิดว่าควรให้ใครนั่งดี?”เมื่อครู่ช่วยฉู่หนิงคลี่คลายสถานการณ์ ควรเก็บดอกเบี้ยสักหน่อย ไม่อย่างนั้นเจ้าลูกทรพีพวกนั้นจะรู้สึกว่าเราลำเอียงแน่นอน ยังสามารถใช้โอกาสนี้หยั่งเชิงฉู่หนิง ดูว่าเขาอยากให้ใครมาร่วมโต๊ะเมื่อคำพูดนี้ออกมา สายตาของทุกคนไปรวมกันที่ตัวฉู่หนิงโดยเฉพาะองค์ชายทั้งหลาย แต่ละคนจ้องฉู่หนิงตาแดงก่ำ ราวกับว่าถ้าฉู่หนิงไม่ให้พวกเขาร่วมโต๊ะ ก็จะกลืนเขาลงท้องทั้งเป็นองค์รัชทายาทมองฉู่หนิงแวบหนึ่ง บนใบหน้าปรากฏแววเย้ยหยันสิ่งที่เสด็จพ่อถนัดที่สุดก็คือการสร้างความสมดุล เมื่อครู่จงใจช่วยฉู่หนิงคลี่คลายสถานการณ์ ตอนนี้ก็จะให้โจทย์ยากแก่ฉู่หนิงยังเหลือองค์ชายอีกสิบหกคน ดูซิว่าเจ้าจะเลือกอย่างไรไม่ว่าเขาให้ใครมาร่ว
Baca selengkapnya

บทที่ 336

อีกทั้งนางยังเป็นสตรีคนแรกในใต้หล้าที่ได้ออกสู่สนามรบ หากเรื่องนี้เป็นที่เลื่องลือออกไป ชื่อเสียงของแคว้นต้าฉู่ย่อมเหนือกว่าราชวงศ์อื่นใด“พูดดีมีเหตุผล!”ฮ่องเต้พยักพระพักตร์เล็กน้อย ตรัสยิ้ม ๆ ว่า “โต๊ะนี้ควรมีที่นั่งสำหรับนาง!”“ขอบพระทัยฝ่าบาท!” เฝิงมู่หลานแย้มยิ้มพริ้มเพรา ก้าวเข้าไปในศาลาอย่างสง่างาม แล้วนั่งลงเคียงข้างเสิ่นหว่านอิ๋งฮ่องเต้ทรงทอดพระเนตรไปยังเหล่าขุนนางและองค์ชายทั้งหลายที่อยู่ร่วมงานเลี้ยง พบว่ายังไม่มีผู้ใดคัดค้าน จึงอดร้อนพระทัยไม่ได้เราคิดหาวิธีกดดันฉู่หนิงแทบตาย พวกเจ้ากลับไม่ให้ความร่วมมือเสียนี่ยังเหลืออีกหนึ่งตำแหน่ง ดูซิว่าฉู่หนิงจะเลือกผู้ใดอีก!แม่ทัพผู้ร่วมรบกับฉู่หนิงที่กลับมาก็มีเพียงจ้าวอวี่กับเฝิงมู่หลานเท่านั้น คราวนี้เจ้าคงไม่มีคนให้แนะนำแล้วกระมัง“ยังเหลืออีกหนึ่งตำแหน่ง ฉู่หนิง เจ้าคิดว่าผู้ใดควรได้นั่ง?” ฮ่องเต้ทรงตรัสถามอย่างสงบนิ่งฉู่หนิงเพิ่งจะอ้าปาก องค์รัชทายาทที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกลับหัวเราะขึ้นมาเบา ๆ “น้องสิบแปด ตำแหน่งสุดท้ายนี้สำคัญยิ่ง เจ้าต้องคิดให้ดีก่อนพูดยังมีพี่ชายอีกสิบหกคนที่ไม่ได้เข้ามา เจ้าตั้งใจจะมอบตำแหน่
Baca selengkapnya

บทที่ 337

อาหารเลิศรสที่ถูกยกมาจัดวางส่งกลิ่นหอมฟุ้งเตะจมูก บรรยากาศพลันผ่อนคลายลงไม่น้อยฮ่องเต้ต้องการให้บรรยากาศรื่นเริงขึ้น จึงบอกให้ทุกคนยกจอกดื่มอวยพรกันในช่วงนี้ชั่วครู่หนึ่ง ทุกคนต่างสลับจอกกันดื่ม ช่างครึกครื้นยิ่งนักแน่นอนว่า ในฐานะดาวเด่นของงาน ฉู่หนิงย่อมตกเป็นเป้าหมายในการรุมล้อมของทุกคน“ขอแสดงความยินดีกับชัยชนะครั้งใหญ่ของท่านฉู่อ๋อง!”“จอกนี้กระหม่อมขอมอบให้ฉู่อ๋อง!”“ช่างเป็นวีรบุรุษในวัยหนุ่มจริง ๆ ฉู่อ๋องยังหนุ่มแน่นแต่กลับมีผลงานเช่นนี้ ช่างน่าทึ่งยิ่งนัก”“ท่านอ๋อง กระหม่อมขอดื่มให้พระองค์หมดจอก ส่วนพระองค์ก็ตามสบายเลยพ่ะย่ะค่ะ!”ภายใต้การ “รุมล้อม” ของทุกคน แม้ฉู่หนิงจะเป็นคนคอแข็งแต่ก็ยังต้องดื่มจนใบหน้าแดงก่ำแล้วแม้สุราในยุคนี้จะไม่ได้ร้อนแรงอันใด แต่ดื่มมากไปก็เมามายได้เช่นกันเมื่อมีขุนนางหลายสิบคนผลัดกันมาดื่มอวยพร ต่อให้เป็นเทพสุรามาอยู่ตรงนี้ก็คงต้านทานไม่ไหวภาพนี้ทำให้เสิ่นหว่านอิ๋งที่อยู่ด้านข้างรู้สึกกังวลยิ่ง ใบหน้าอ่อนหวานปรากฏความร้อนใจเป็นครั้งแรกหากดื่มต่อไปเช่นนี้ ฉู่หนิงจะทนไหวได้อย่างไร!อีกทั้งเหล่าองค์ชายยังไม่ได้มาดื่มอวยพร หากบรรดาองค
Baca selengkapnya

บทที่ 338

ข้าต้องขู่ให้รู้สำนึกเสียบ้าง!เป็นเพียงรองเสนาบดีคนหนึ่งเท่านั้น แค่ได้รับการเสนอชื่อจากฉู่หนิงให้มานั่งที่โต๊ะนี้เข้าหน่อย เจ้าก็คิดว่าตนเองมีคุณสมบัติดีพอจะรับจอกแทนฉู่หนิงแล้วหรือ?“นี่...”หลิวโส่วเริ่นเหลือบมองฮ่องเต้ที่อยู่ด้านข้างแวบหนึ่ง รู้สึกลำบากใจยิ่งนักหากตนเองไม่ออกมา ท่านอ๋องต้องถูกกรอกสุราจนเมามายแน่แต่หากยืนกรานจะรับจอกแทนต่อไป ย่อมถูกตีตราว่าเป็นพรรคพวกฉู่อ๋อง ซึ่งไม่เป็นผลดีทั้งต่อตนเองและท่านฉู่อ๋องในขณะที่ลังเล ฮ่องเต้ก็ทรงหรี่พระเนตร จ้องมองหลิวโส่วเริ่นแล้วตรัสเสียงเรียบว่า “ใต้เท้าหลิว ท่านช่างจงรักภักดีต่อฉู่หนิงจริง ๆ”คำพูดนี้ทำให้หลิวโส่วเริ่นตกใจจนเหงื่อกาฬแตกผลั่กการบอกว่าตนจงรักภักดีต่อฉู่หนิง นั่นก็คือไม่จงรักภักดีต่อฮ่องเต้นี่เป็นการเตือนตนเองว่า ไม่ควรรับจอกดื่มแทนผู้อื่นหลิวโส่วเริ่นรีบคำนับ “ฝ่าบาท กระหม่อมเพียงแต่สงสารท่านฉู่อ๋อง มิได้มีเจตนาอื่นใดพ่ะย่ะค่ะ”ฮ่องเต้ไม่ตรัสอะไรแต่องค์รัชทายาทกลับหัวเราะออกมาเล็กน้อย “เพียงดื่มสุราเท่านั้น ใต้เท้าหลิวก็สงสารแล้ว หากฉู่อ๋องมีเรื่องอื่น ใต้เท้าหลิวคงรีบร้อนเข้าหาราวกับฝูงนกบินไปรับอา
Baca selengkapnya

บทที่ 339

วีรกรรมของเฝิงมู่หลานทำให้ทุกคนตกตะลึงขุนนางกว่าสิบคนที่มาดื่มอวยพร จอกสุราในมือล้วนถูกเฝิงมู่หลานรับไปดื่มรวดเดียวหมดแม้แต่ฮ่องเต้ก็ทรงตะลึงลานแม้จะเคยได้ยินกิตติศัพท์ของเฝิงมู่หลานอยู่บ้าง และรู้จักนิสัยของนางดี แต่การได้เห็นความห้าวหาญของเฝิงมู่หลานด้วยตาตนเองเป็นครั้งแรกเช่นนี้ ก็ยังทำให้อดตกตะลึงไม่ได้!แต่อย่างไร การเรียกคืนอำนาจทางทหารก็ไม่อาจล่าช้าเพราะเฝิงมู่หลานเมื่อไม่อาจกรอกสุราต่อไป ก็ต้องใช้วิธีที่แข็งกร้าวแทนโชคดีที่ฉู่หนิงก็ดื่มไปไม่น้อยแล้ว บางทีสติสัมปชัญญะอาจไม่แจ่มใสเท่าเดิมฮ่องเต้พลันทรงหัวเราะออกมาเสียงกังวาน “เราได้ยินมานานแล้วว่าบุตรสาวของใต้เท้าเฝิงเป็นวีรสตรี ครั้งนี้ไม่เพียงสร้างคุณูปการที่สนามรบแนวหน้า แม้แต่การดื่มสุราก็ช่างห้าวหาญยิ่งนัก!”“เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ฉู่หนิงก็ดื่มไปไม่น้อย นับว่าพอสมควรแล้ว”บรรดาขุนนางที่มาดื่มอวยพรได้ยินเช่นนั้นก็พากันโล่งอก พร้อมใจกันคำนับถอยออกจากศาลาเสิ่นหว่านอิ๋งถอนหายใจด้วยความโล่งใจ เพียงฮ่องเต้มีรับสั่ง เรื่องนี้ก็ถือว่าจบเพียงเท่านี้นางดึงมือเฝิงมู่หลานเบา ๆ ด้วยความเป็นห่วงเฝิงมู่หลานส่ายหน้าให้เส
Baca selengkapnya

บทที่ 340

ฮ่องเต้ทรงหรี่พระเนตร ความสงสัยสาดประกายวูบผ่านไม่ถูกต้อง เป็นเช่นนี้ไม่ถูกต้องด้วยนิสัยของเจ้าหนุ่มฉู่หนิงผู้นี้ จะยอมส่งมอบตราอาญาสิทธิ์คืนมาง่าย ๆ ได้อย่างไรไม่ได้ เราต้องถามให้ชัดเจน!ฮ่องเต้มิได้รับตราอาญาสิทธิ์ แต่ทรงยิ้มถามว่า “ฉู่หนิงเอ๋ย การที่เราทำเช่นนี้ก็เพื่อประโยชน์ของเจ้า เชื่อว่าเจ้าคงไม่โกรธเรา ใช่หรือไม่?”ฉู่หนิงหัวเราะออกมาเล็กน้อย “ลูกจะไปโกรธเสด็จพ่อได้อย่างไร ลูกยังต้องขอบพระทัยเสด็จพ่อด้วยซ้ำ”คำพูดนี้ทำให้ทุกคนตกตะลึงฮ่องเต้จะเรียกคืนอำนาจทางทหารของเจ้า เจ้ากลับยังจะขอบพระทัยพระองค์อีกหรือ?แม้แต่ฮ่องเต้ก็ทรงตกตะลึงเช่นกันแต่องค์รัชทายาทกลับหัวเราะเยาะ “น้องสิบแปดไม่จำเป็นต้องเล่นลูกไม้ หากมีความเห็นใด เจ้าก็กล่าวออกมาเลยเถิด!”ฉู่หนิงหัวเราะฮ่า ๆ ตอบว่า “น้องไม่ได้มีความเห็นอันใด ถึงคืนนี้เสด็จพ่อไม่หยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมา น้องก็จะคืนตราอาญาสิทธิ์ให้เองอยู่แล้ว มิเช่นนั้นน้องจะนำตราอาญาสิทธิ์ติดตัวมาด้วยได้อย่างไร?”องค์รัชทายาทแค่นหัวเราะ ใบหน้ามีแต่ความดูแคลนคำพูดเช่นนี้ คงมีแต่ผีที่จะเชื่อ!ทว่า ฮ่องเต้ผู้ทรงมีนิสัยระแวดระวังกลับขมวดพระขนงต
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
303132333435
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status