All Chapters of โดนเมินมาสามปี พอฉันขอหย่าเขากลับร้องไห้: Chapter 71 - Chapter 80

100 Chapters

บทที่ 71

จี้อวิ๋นโจวชอบรสเปี้ยวหวาน ฉันสังเกตเอาจากการไปร่วมงานเลี้ยงที่ตระกูลจี้ทุกครั้ง โดยเฉพาะเมนูซี่โครงผัดเปรี้ยวหวาน ถึงวัตถุดิบจะเรียบง่าย แต่ถ้าอยากทำให้รสหวานเปรี้ยวพอดี ไม่ให้สูญเสียความกลมกล่อมของซีโครงไป จริง ๆ แล้วก็ค่อนข้างยากเคล็ดลับของเมนูนี้อยู่ที่น้ำตากรวดที่โรยบนซี่โครง เวลาตุ๋นห้ามเปิดไฟแรง และห้ามเบาเกินไป เก้าลูกพอดีเป๊ะ เป็นรสชาติที่ดีที่สุดที่จี้อวิ๋นโจวชอบและเคยเป็นเมนูที่ถนัดน่าภาคภูมิใจของฉันแต่ตั้งแต่ที่เขาบอกว่าเบื่อแล้ว ฉันก็ไม่มีความคิดจะเข้าครัวอีก ครั้งนี้ถ้าไม่ใช่เหลียงฮ่าวเหมี่ยวขอมา เมนูนี้ก็คงไม่มาโผล่อยู่บนโต๊ะอาหารในตอนนี้ด้วยซ้ำเจิ้งซินหรานไม่รู้เรื่องนี้ จึงเอ่ยถึง แต่ฉัน จี้อวิ๋นโจวรวมถึงเหลียงฮ่าวเหมี่ยวต่างรู้เรื่องนี้อยู่แก่ใจฉันไม่กลัวว่าจี้อวิ๋นโจวจะเปิดเผยออกไป กลับเหลือบมองเหลียงฮ่าวเหมี่ยวอย่างละอายใจไม่คิดว่าจะเห็นสายตาที่เขากำลังมองมาวินาทีต่อมา สายตาของเขาก็เบนไปทางจี้อวิ๋นโจว พูดอย่างเรียบนิ่ง “อาหารขึ้นชื่อในเมืองจิงกั่งมีเหรอที่หมอจี้จะไม่เคยกิน ไม่แน่อาจจะกินจนเบื่อแล้วก็ได้”คิดไปเองหรือเปล่านะ? ทำไมตอนที่คำว่า “เบื่อ” อ
Read more

บทที่ 72

ที่แท้หัวหน้าพยาบาลก็พูดถึงเรื่องนี้นี่เองฉันถอนหายใจออกมาเบา ๆ ส่ายหน้าแล้วพูด “ไม่ดีกว่าค่ะ ประสบการณ์ฉันยังอ่อน คงไม่เหมาะสม”อีกอย่าง ออกไปทำงานนอกสถานที่กับจี้อวิ๋นโจว แค่คิดก็ปวดหัวแล้ว“ดูถูกตัวเองเกินไปแล้ว” หัวหน้าพยาบาลพูดด้วยน้ำเสียงไม่ได้ดั่งใจ “มีอะไรไม่เหมาะสม การปฏิบัติงานของเธอนับว่าโดดเด่นที่สุดในบรรดานักศึกษาฝึกงานชุดนี้ มีโอกาสดี ๆ เข้ามาต้องรู้จักคว้าเอาไว้สิ อีกอย่างงานสัมมนาลักษณะนี้ในแต่ละปีก็มีบุคคลสำคัญจากโรงพยาบาลซินหย่าเข้าร่วมด้วย เธอไม่อยากไปเรียนรู้เพิ่มเติมหน่อยเหรอ?”โรงพยาบาลจิงเสียงแห่งภาคเหนือ โรงพยาบาลซินหย่าแห่งภาคใต้ ซึ่งโรงพยาบาลสองแห่งนี้มีผลงานโดดเด่นในด้านศัลยกรรมประสาทสูสีกัน ก่อนหน้านี้ตอนอยู่คณะแพทยศาสตร์ฉันก็เคยมีโอกาสได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับเพื่อน ๆ นักศึกษาจากซินหย่าในงานแข่งขัน จุดนี้ค่อนข้างน่าดึงดูดสำหรับฉัน“ฉันไม่โน้มน้าวเธอแล้วก็ได้” หัวหน้าพยาบาลเห็นฉันดูลังเล “เธอไปคิดเอาเองดี ๆ แล้วกัน”ด้านหนึ่งก็เป็นโอกาสที่นาน ๆ ทีจะมีครั้ง อีกด้านก็เป็นจี้อวิ๋นโจวที่ต้องคอยรับมือต่อ มันน่าปวดหัวจริง ๆแต่สิ่งที่ฉันคิดไม่ถึงคือ ฉันยังไม่
Read more

บทที่ 73

ฉันไม่รู้ว่าเจิ้งซินหรานเห็นฉันได้อย่างไรระยะห่างของพวกฉัน จะว่าไกลก็ไม่ไกล จะว่าใกล้ก็ไม่ไกล้ตอนฉันหันกลับไป สาวน้อยก็กระโดดโลดเต้นมาหยุดตรงหน้าฉันเธอปรายตามองกระเป๋าลากของฉัน แววตามีความดีใจปนประหลาดใจ แฝงไปด้วยความสงสัยข้างหลังของเธอ มีจี้อวิ๋นโจวยืนนิ่งอยู่ที่เดิมเหมือนต้นไผ่ มีกระเป๋าเดินทางสีดำสีชมวางอยู่ข้าง ๆ เหมือนแฟนที่มีหน้าที่ถือกระเป๋าเวลาออกไปเที่ยวกับแฟนข้างนอก“ไปดูงานน่ะ” ฉันละสายตากลับมา พูดอย่างเปิดเผย “ที่เมืองอวิ๋น”ดวงตาทั้งสองข้างของสาวน้อยเบิกกว้าง พูดอย่างเข้าใจในทันที “รุ่นพี่เองก็ไปเข้าร่วมงานสัมมนาเหมือนกันเหรอ?!”ฉันพยักหน้าเล็กน้อย ไม่ได้ตอบกลับไป แต่วินาทีต่อมา เจิ้งซินหรานก็พุ่งพรวดเข้ามาใกล้ จับมือฉันไว้ แล้วพูดอย่างดีใจ “ว้าว แบบนั้นก็ดีเลย ฉันยังกังวลอยู่เลยว่าจะเบื่อตอนนั่งเครื่องบิน มีรุ่นพี่ไปด้วยแบบนี้ เราก็ยังคุยกันได้”ฉันสะดุ้งตกใจกับความกระตือรือร้นของเจิ้งซินหรานที่จู่โจมเข้ามาอย่างกะทันหัน แต่พอคิดว่าขั้นตอนการขึ้นเครื่องหลังจากนี้ต้องไปพร้อมกันสามคน ฉันก็รู้สึกอึดอัดในใจอย่างมาก จึงหาข้ออ้าง “ฉันต้องไปซื้อกาแฟ”ค่อยดื่มหลังผ่า
Read more

บทที่ 74

เจิ้งซินหรานมีสีหน้านิ่งค้าง ดวงตาที่เหมือนกวางน้อยหันไปมองจี้อวิ๋นโจว วินาทีต่อมา เสียงเย็นชาของชายหนุ่มก็ดังเข้ามาในหูของฉัน “แล้วแต่”จี้อวิ๋นโจวพูดสองคำสั้น ๆ รวบรัด จากนั้นก็ยกเท้าเดินออกไปน้ำเสียงฟังดูไม่ค่อยเกรงใจเท่าไรราวกับว่าคนที่ไม่รับน้ำใจคนอื่นเป็นฉันซะงั้นฉันรู้สึกขมขื่นในใจ จากนั้นก็ได้ยินเจิ้งซินหรานพูด “รุ่นพี่ ถ้าอย่างนั้นไว้เจอกันที่โรงแรมนะคะ”เมื่อมองตามแผ่นหลังของทั้งสองคนจากไป หัวใจของฉันก็เหมือนมีก้อนหินแขวนไว้ทำไมกัน ระหว่างพวกฉันทั้งสามคนในตอนนี้ จี้อวิ๋นโจวยังคิดจะนั่งรถคันเดียวกันอีกเหรอ?เรียกฉันไปด้วย เพื่ออยากแสดงความมีน้ำใจของเขา หรืออยากให้ฉันเห็นพวกเขาสองคนพลอดรักกัน?ขอโทษที ฉันทำไม่ได้หรอกฉันลากกระเป๋าเดินทางอย่างหงุดหงิด เดินไปออกอีกทางแต่พอออกมานอกสนามบินฉันก็เริ่มรู้สึกคิดผิด ลมหนาวตีแสกหน้า ทั้งฝนทั้งหิมะตกลงมาพร้อมกัน จนฉันหนาวสั่นสะท้านกลุ่มคนที่เรียกรถเบียดเสียดอยู่ที่เดียวกันน เสียงคุยโทรศัพท์เรียกรถแทรกกันมั่วไปหมดฉันดึงมือทั้งสองข้างที่เย็นเฉียบออกมาอย่างเคร่งเครียด กำลังจะกดโทรหาคนขับรถ กระเป๋าเดินทางที่อยู่ข้าง ๆ ก็ถูก
Read more

บทที่ 75

เธอคงไม่คิดว่าฉันจะปฏิเสธ ใบหน้าของเจิ้งซินหรานพลันมีแววกระอักกระอ่วนพาดผ่าน พูดอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “ขอโทษนะคะรุ่นพี่ ฉันคิดน้อยไป งั้น…นั้นพี่พักผ่อนก่อนได้เลยค่ะ”ไม่รอให้ฉันตอบ สาวน้อยก็หอบเอกสารเดินจากไปอย่างเร่งรีบฉันละสายตากลับมาเงียบ ๆ ความรู้สึกขมขื่นแผ่ซ่านทั่วหัวใจ รู้สึกเหมือนมีก้างติดคอเบื้องหน้า เหมือนเจิ้งซินหรานมาขอให้ฉันช่วย แต่เธอก็เป็นแค่นักศึกษาฝึกงานคนหนึ่ง เจอหน้าฉันยังต้องเรียกว่า “รุ่นพี่” ถ้าไม่ใช่เพราะมีจี้อวิ๋นโจวหนุนหลัง เธอจะกล้าโยนงานมาให้ฉันได้อย่างไร?ถ้าเป็นตอนปกติ ฉันก็คงไม่คิดเล็กคิดน้อยกับพวกเขา แต่ว่าตอนนี้ฉันไม่สบายจริง ๆ น้ำเสียงจึงไม่ค่อยน่าฟังเป็นธรรมดาสิ่งที่ทำให้ฉันรู้สึกไม่ดียิ่งกว่านั้นคือ ถึงอย่างไรก็เป็นสามีภรรยากัน ต่อให้จี้อวิ๋นโจวจะปกป้องเจิ้งซินหรานมากแค่ไหน ก็ไม่ควรให้คุณนายจี้ในนามอย่างฉันทำงานแทนเธอใช่ไหม?พูดไม่น่าฟังหน่อย หากยึดตามลำดับสถานะในตระกูลใหญ่แบบโบราณ อย่างน้อยฉันก็เป็นภรรยาเอกในนามของเขา ตลอดสามปีที่ผ่านมา ถึงจะไม่มีผลงานอะไรแต่ก็พยายามอยู่บ้าง จำเป็นต้องรีบร้อนให้เจิ้งซินหรานเหยียบฉันเพื่อขึ้นตำแหน่งขนาดนี้เลยเห
Read more

บทที่ 76

“รุ่นพี่ ไม่งั้น…”เจิ้งซินหรานพูดยังไม่ทันจบ จี้อวิ๋นโจวโยนข้อมูลใส่มือของฉันจมูกแสบร้อนไปหมด ฉันกำกระดาษไว้แน่น รีบหันหลังอย่างรวดเร็ว กลัวว่าจะเผลอร้องไห้ออกมาถึงแม้ฉันจะพยายามกลั้นเอาไว้ แต่พอประตูห้องปิดลง ฉันก็ยังได้ยินเสียงสะอื้นของตัวเองอาการไข้เป็นเหตุแน่ ๆแต่เสิ่นเสียนเยว่คนนี้ไม่ใช่คนอ่อนแอ อุปสรรคมากมายในคณะแพทยศาสตร์ฉันก็ผ่านมันมาหมดแล้ว กองเอกสารแค่นี้ จะทำอะไรฉันได้ฉันสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ กลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมา หยิบข้อมูลนั่งลงหน้าโน้ตบุ๊กพอเริ่มทำงาน ก็ลากยาวมาถึงตีสามสิ่งที่ให้ฉันประหลาดใจคือ เนื้อหาคร่าว ๆ ของจี้อวิ๋นโจวประมาณเจ็ดถึงแปดหน้า พูดถึงเรื่อง “แนวทางการใช้ยาสลบรูปแบบใหม่ควรประยุกต์ใช้กับผู้ป่วยสูงอายุอย่างไร” ซึ่งเป็นหัวข้อที่ฉันเคยเขียนในวิทยานิพนธ์ปริญญาโท มองอีกแง่หนึ่งก็ช่วยไขข้อสงสัยของฉันในเรื่องการผสมผสานกันระหว่างสองแผนกนี้เมื่อความเหนื่อยล้าถึงขีดกำจัด หลังจากบันทึกไฟล์เสร็จ หัวถึงหมอนฉันก็หลับไปทันทีไม่รู้ว่าหลับไปนานแค่ไหน ขณะที่กำลังสะลึมสะลือ ฉันเหมือนได้ยินเสียงโทรศัพท์ เมื่อลืมตา ก็เห็นว่ามีคนโทรเข้ามาจริง ๆเป็นเบอร์ของ
Read more

บทที่ 77

ฉันถือข้อมูลเดินเข้าไปหาจี้อวิ๋นโจวอย่างโมโหแต่พอขึ้นลิฟต์ ถึงได้รู้ว่าฉันไม่รู้ว่าเขาอยู่ห้องไหนจะว่าไปก็ตลกดี ในทะเบียนสมรส ชื่อของพวกฉันอยู่ใกล้กันมากที่สุด แต่พอพักโรงแรมเดียวกัน ฉันกลับไม่รู้ข้อมูลดอะไรเกี่ยวกับสามีของตัวเองเลยฉันทำได้เพียงเดินเข้าไปถามที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์“ไม่ทราบว่าคุณมีความสัมพันธ์อะไรกับคุณจี้คะ?” พนักงานเคาน์เตอร์มองฉันเงียบ ๆ ถามอย่างจริงจังฉันนิ่งไปเล็กน้อย เกือบจะหลุดคำว่าสามีภรรยาออกไป ลังเลอยู่ชั่วครู่ก็เอ่ย “เพื่อนร่วมงานค่ะ”“ในเมื่อเป็นเพื่อนร่วมงาน คุณโทรหาคุณจี้ไม่ดีกว่าเหรอคะ?”สมกับเป็นโรงแรมห้าแดว พนักงานระมัดระวังมากจริง ๆฉันล้วงโทรศัพท์ออกมา ชี้หน้าจอพลางพูด “ก็เพราะว่าโทรไม่ติดนี่แหละค่ะ ฉันถึงมาถาม”พนักงานมองฉันอย่างลังเล แล้วเหลือบมองหน้าจอโทรศัพท์ ไม่ได้ตอบกลับในทันทีเดิมทีฉันก็เหมือนมีไฟสุมอก ยังถามหาเลขห้องของสามีตัวเองไม่ได้เพราะนโยบายความเป็นส่วนตัวของลูกค้าอีก รู้สึกว่าตำแหน่งคุณนายจี้หลายปีที่ผ่านมาช่างเสียเปล่าจริง ๆขบคิดอยู่ชั่วครู่ ฉันก็พูดอย่างจนใจ “เอาแบบนี้แล้วกัน ถ้าฉันบอกหมายเลขบัตรประชาชนของหมอจี้ได้ถ
Read more

บทที่ 78

ฉันพลันพูดอะไรไม่ออก พูดอย่างไม่เกรงใจ “คนที่ไม่ทำตามสัญญาก่อนน่าจะเป็นคุณนะ?”เพราะพูดด้วยความร้อนรน เสียงของฉันจึงค่อนข้างดัง“หมอเสิ่น ฉันคิดว่าฉันจำเป็นต้องย้ำเตือนเธอหน่อย ตอนนี้พวกเรากำลังมาทำงานนอกสถานที่ เข้าใจไหม?”เมื่อฉันเห็นสายตาที่จี้อวิ๋นโจวส่งมา และได้ยินน้ำเสียงเอื่อยเฉื่อยของเขา ก็รู้สึกอับอายอย่างรุนแรง จึงพูดอย่างโมโห “หมอจี้เองก็รู้นี่ว่าเรามาทำงานนอกสถานที่? เพราะงั้นการที่หมอจี้พานักศึกษาฝึกงานในสังกัดของตัวเองไปชมวิวแม่น้ำจนทำให้ฉันโดนด่าแทนมันถูกต้องแล้วเหรอ?”หลังจากพูดจบประโยคนี้ฉันก็จ้องจี้อวิ๋นโจวเขม็ง ไม่ยอมถอนให้อีกต่อไปแต่จี้อวิ๋นโจวเป็นใคร จะเกรงกลัวเพียงเพราะฉันแฉ “พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม” ได้อย่างไร ไม่กี่วินาทีต่อมาเขาก็พูดอย่างเรียบนิ่ง “ทำไมฉันรู้สึกว่า คำพูดของหมอเสิ่น แฝงไปด้วยความหึงหวงด้วยล่ะ?”เขาพูดจบก็ยกกาแฟขึ้นมาจิบเบาๆ ด้วยท่วงท่าสง่างามแต่กลับเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งแผ่กลิ่นอายความเป็นผู้ดีในเมืองจิงกั่งออกมาอย่างเต็มที่แต่ฉันกลับรู้สึกเหมือนถูกเหยียบย่ำศักดิ์ศรี“รังเกียจต่างหาก” ฉันจิกมือที่อยู่ใต้อย่างรุนแรง แสร้งทำเป็นนิ่งแล
Read more

บทที่ 79

ฉันบอกเรื่องเรียบเรียงข้อมูลให้เขาต่อหน้าทุกคนหัวหน้าเย่ที่อ่านเนื้อหาคร่าว ๆ พลันเผยแววตาประหลาดใจออกมา ส่วนจี้อวิ๋นโจวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขากลับขมวดคิ้วเล็กน้อยเจิ้งซินหรานที่ตัวติดกับเขาตลอด ใบหน้าเล็ก ๆ พลันเผยความกระอักกระอ่วนออกมาโดยไม่รู้ตัวแต่ไม่สำคัญจี้อวิ๋นโจวบอกเองไม่ใช่เหรอว่าฉันชอบเห็นเขาเป็นบันได? งั้นฉันก็จะให้เขาเป็นฉันจะไม่ยอมทำงานให้เงียบ ๆ อีกแล้ว“ดีมาก แนวคิดชัดเจนดี” หัวหน้าเย่ปิดเอกสารข้อมูลลง พูดอย่างชื่นชม “ประสิทธิภาพในการทำงานของเสี่ยวเสิ่นนี่น่าชื่นชมจริง ๆ”ฉันเตรียมจะตอบกลับ พลันได้ยินเสียงฮือฮาที่หน้าประตู เมื่อเงยหน้าไปมอง ก็เห็นกลุ่มผู้ชายห้าคนในชุดเป็นทางการเดินเข้ามาอย่างพร้อมเพรียง คนที่เดินนำหน้าเป็นผู้อาวุโสที่มีผมหงอกแต่ยังมีชีวิตชีวา ก้าวเดินมั่นคง เต็มเปี่ยมด้วยออร่า เห็นแวบแรกก็รู้แล้วว่าไม่ธรรมดาหัวหน้าเย่ส่งสายตาให้พวกฉัน จากนั้นก็เข้าไปต้อนรับ “ศาสตราจารย์หลัว ไม่เจอกันนานเลยนะครับ”ฉันถึงได้รู้ว่าบุคคลนี้คือศาสตราจารย์หลัวหงจวิ้นผู้เชี่ยวชาญด้านวิสัญญีในประเทศ และเป็นตัวแทนจากโรงพยาบาลซินหย่า รับหน้าที่เป็นตัวหลักของงานสัมมนาคร
Read more

บทที่ 80

วิธีการพูดของเขาละเอียดแม่นยำแม้กระทั่งบอกได้ว่ากี่วินาที เพียงชั่วพริบตาก็เรียกสายตาชื่นชมจากผู้คนในที่นั้นส่วนจี้อวิ๋นโจวที่ถูกโต้กลับก็ไม่ได้ประหม่าแต่อย่างใด หลังจากคิดอยู่ครู่ใหญ่ก็พูดขึ้น “เมื่อศูนย์กลางตอบสนองในสมองของผู้ป่วยเคลื่อนตำแหน่งแล้ว การปลุกผู้ป่วยให้ตื่นระหว่างผ่าตัดพร้อมกับกระตุ้นไฟฟ้าที่เปลือกสมองเป็นวิธีเดียวที่ทำได้ ถ้าพวกเรามัวแต่หลีกเลี่ยงความเสี่ยงระหว่างผ่าตัดจนไม่กล้าก้ามข้ามไป ในอนาคตถ้าเจอผู้ป่วยในเคสเดียวกันจะทำยังไง?”อภิปรายมาถึงตรงนี้ แผนกศัลยกรรมระบบประสาทกับแผนกวิสัญญีก็นิ่งค้างแม้ทางผู้จัดจะเป็นคนออกคำถาม แต่พวกเขาก็ไม่ได้มีแนวทางการผ่าตัดที่แน่นอน จึงไม่ได้พูดแทรกในขณะนั้น ทำได้เพียงโยนคำถามให้ศาสตราจารย์หลัวศาสตราจารย์หลัวเป็นคนอ่อนน้อม ไม่ได้ให้คำแนะนำในทันที แต่โยนคำถามไปให้หัวหน้าเย่แทนในฐานะที่เป็นหัวหน้าแผนกวิสัญญีของโรงพยาบาลจิงเสีย ตามหลักแล้วหัวหน้าเย่ก็ควรให้คำแนะนำอะไรบ้าง แต่นี่ก็เท่ากับเป็นการหักหน้ามือมีดในโรงพยาบาลจิงเสียอย่างจี้อวิ๋นโจวกลาย ๆ หัวหน้าเย่จึงเผยสีหน้าลำบากใจออกมาถึงจะเรียกว่างานสัมมนา แต่ก็ไม่ต่างอะไรกับงานสั
Read more
PREV
1
...
5678910
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status