All Chapters of อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง: Chapter 231 - Chapter 240

242 Chapters

บทที่ 231

นางกำนัลน้อยร้องไห้หนักกว่าเดิม นางส่ายหน้าสุดกำลัง “ไม่ใช่เพคะพระสนม! เช้านี้ตอนบ่าวตื่นมาแล้วจัดเตียงพับผ้าห่ม ก็ยังไม่เห็นปิ่นปักผมอะไรเลย จะต้องมีคนใส่ร้ายบ่าวแน่เพคะ ขอพระสนมโปรดให้ความเป็นธรรมแก่บ่าวด้วยเถิดเพคะ”นางร้องไห้อย่างหนักจนลมหายใจขาดห้วง ท่าทางโดดเดี่ยวไร้คนช่วยที่น่าเวทนาของนาง ทำให้ผู้ใดพบเห็นก็ต้องเกิดความรู้สึกเห็นใจใบหน้าของเสี่ยวเจาเริ่มแสดงความสงสารออกมาแล้ว “พระสนม นางร้องไห้เสียใจขนาดนี้ ดูแล้วไม่เหมือนเสแสร้งเลยเพคะ...”ไม่เหมือนหรือ?เจียงหวนหรี่ตาลงเล็กน้อย สายตาหยุดลงบนใบหน้าของนางกำนัลน้อยครู่หนึ่งอื้ม น้ำตาเป็นของจริง ความหวาดกลัวก็เป็นของจริง แต่ความเคียดแค้นกับความลนลานในส่วนลึกของดวงตาก็เป็นของจริงเหมือนกันชาติก่อน นางเคยเห็น ‘พวกไม่ยอมหยุดงาน’ ทะเลาะหยุมหัวกับ ‘พวกหยุดงานประท้วง’ ที่ทำงานทุกวัน แกแทงฉันทีหนึ่ง ฉันแทงแกหนึ่งที สลับกันไปมาพอเจ้านายมาถึงก็จะร้องไห้โฮ อ้างว่าตัวเองเป็นคนที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลก ถูกใส่ร้าย ไม่ได้รับความยุติธรรม ถูกใส่ความเหมือนตัวเอกในนิยายนางน่ะฝึกสายตามาจนมองออกหมดแล้ว โอเคไหม?แววตาของคนตรงหน้าล่อกแล่กไม่น
Read more

บทที่ 232

เจียงหวนมองนางกำนัลน้อยที่คุกเข่าเนื้อตัวสั่นเทาอยู่บนพื้น ในใจก็ถอนใจออกมาดูแล้วอายุยังไม่มาก ทำไมไม่รู้จักเรียนรู้แบบอย่างดีๆ กันนะ?“การขโมยทรัพย์สินในวังเป็นความผิดร้ายแรง ตามกฎสมควรได้รับโทษโบย 20 ครั้ง แล้วขับออกจากวัง”เจียงหวนจงใจพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม น้ำเสียงก็ตั้งใจกดให้ต่ำลงหลายส่วนเมื่อนางกำนัลน้อยได้ยินดังนั้นก็รีบโขกศีรษะทันที หน้าผากกระแทกพื้นกระเบื้องจนเกิดเสียงดังตุบๆ“พระสนมโปรดเมตตาด้วย บ่าวไม่กล้าอีกแล้วเพคะ ขอพระสนมโปรดอภัยให้บ่าวสักครั้งเถิด!”เจียงหวนเหลือบมองเติ้งหมอม่อที่ยืนอยู่ด้านข้างครั้งหนึ่ง เห็นนางมีสีหน้าสงบนิ่งราวกับรอให้ตนตัดสินใจหลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง นางก็กล่าวต่อว่า “แต่ข้าสามารถให้โอกาสเจ้าครั้งหนึ่ง เจ้าจงลองบอกมา ว่าเหตุใดจึงต้องขโมยปิ่นปักผมของผู้อื่น?”นางกำนัลน้อยตอบอย่างสะอึกสะอื้นว่า “ท่านแม่ของบ่าวป่วยหนัก ที่บ้านไม่มีเงินซื้อยาจริงๆ บ่าวได้ยินมาว่าปิ่นของพี่อวี้เป็นเงิน จึง... จึง...”เจียงหวนขมวดคิ้วเล็กน้อย สายตาตกลงบนมือที่หยาบกร้านของนางกำนัลน้อย มือคู่นั้นเต็มไปด้วยรอยด้านและบาดแผลเล็กๆ เห็นได้ชัดว่าทำงานหนักมาไม่
Read more

บทที่ 233

ขณะที่กำลังคิดอยู่นั้น ก็พลันได้ยินเสียงฝีเท้าที่คุ้นเคยดังมาเมื่อเจียงหวนเงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นฮั่วหลินไม่รู้ว่ามายืนอยู่ที่ทางเข้าสวนดอกไม้ตั้งแต่เมื่อใด สีหน้าของเขาดำทะมึนอย่างน่ากลัว[อะไรที่เรียกว่า “มอบพระเมตตาอย่างเท่าเทียม”? เราเคยไป “เมตตา” ผู้อื่นตั้งแต่เมื่อใด?][เหตุใดเติ้งหมอม่อจึงปรักปรำเราโดยไร้หลักฐานเช่นนี้?][เราเป็นผู้บริสุทธิ์ สะอาดไร้ราคี กลับถูกนางพูดจนเหมือนคนเจ้าชู้ประตูดินไปเสียได้]เสียงความในใจที่เดือดดาลและเปี่ยมไปด้วยความน้อยใจ ดังขึ้นข้างหูของเจียงหวนนางมองใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาดุจภูเขาน้ำแข็งของฮั่วหลิน พร้อมกับฟังคำบ่นในใจของเขา แล้วก็จะเกือบหัวเราะออกมาฮั่วหลินสาวเท้ายาวเข้ามา เขาตวัดตามองเติ้งหมอม่ออย่างเย็นชาแม้เติ้งหมอม่อถูกถลึงตาใส่จนงุนงง แต่ก็ยังรีบถวายคำนับ“บ่าวถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”ฮั่วหลินแค่นเสียงเย็นทีหนึ่ง ไม่สนใจนาง และหันไปมองเจียงหวนแทน“กำลังพูดเรื่องอะไรอยู่หรือ?”เจียงหวนฝืนกลั้นรอยยิ้มที่มุมปาก พยายามทำให้ตนเองดูเป็นปกติ“ทูลฝ่าบาท เติ้งหมอม่อกำลังสอนหม่อมฉันเรื่อง...เอ่อ กฎระเบียบของวังหลังเพคะ”[สอนอะไร? สอนให้นางยอม
Read more

บทที่ 234

หลังจากเดินเล่นในสวนกับเจียงหวนไปสักพัก ฮั่วหลินก็อยู่รับประทานอาหารค่ำที่ตำหนักเว่ยยางอย่างเป็นธรรมชาติเหล่าข้าราชบริพารจัดอาหารอันงามประณีตลงบนโต๊ะทรงกลมอย่างคล่องแคล่ว พร้อมตะเกียบ จาน ชามครบถ้วนพร้อมสรรพฮั่วหลินนั่งตัวตรงอยู่ที่หัวโต๊ะ รถเข็นของเจียงหวนถูกเข็นมาอยู่ในตำแหน่งข้างกายเขาส่วนเติ้งหมอม่อก็ยืนค้อมศีรษะอยู่ใกล้ๆ อย่างเคารพ เตรียมปรนนิบัติในทุกเมื่ออาหารเพิ่งขึ้นโต๊ะหมด ฮั่วหลินมิได้รีบขยับตะเกียบ แต่กวาดสายตาไปทั่วโต๊ะรอบหนึ่งแทน[หึ ให้ทำตัวเป็น ‘น้ำฝนน้ำค้าง’ ที่ตกต้องถ้วนหน้างั้นหรือ? วันนี้เราจะให้นางได้เห็นว่า “น้ำพระเมตตา” ของเราจะไปตกอยู่ที่ใด][เราจะคีบอาหารให้นางเอง แบบนี้คงชัดเจนพอแล้วกระมัง? มาดูกันว่าเติ้งหมอม่อจะมีสิ่งใดมาพูดอีก]เจียงหวนเพิ่งหยิบชามใบเล็กตรงหน้าของตนขึ้นมา ก็ได้ยินคำพูดเต็มไปด้วย “ปณิธานอันแรงกล้า” ของฮั่วหลินพอดีนางฝืนกลั้นยิ้ม หลุบตาทอดมองปลายจมูก ตาจ้องจมูกจมูกจ้องใจ แสร้งทำเป็นไม่ได้ยินจากนั้นก็เห็นฮั่วหลินคีบเนื้อปลานึ่งชิ้นหนึ่งขึ้นมาอย่างเก้ๆ กังๆ แล้ววางลงในชามของเจียงหวนอย่างมั่นคง“ปลานี้ทั้งสดทั้งนุ่ม เจ้ากินให้มาก
Read more

บทที่ 235

“เรายังมีฎีกาที่ต้องพิจารณาอีกบางส่วน ดึกหน่อยค่อยมาเยี่ยมเจ้า”ฮั่วหลินวางถ้วยชาลงแล้วกล่าวกับเจียงหวน น้ำเสียงกลับคืนสู่ความสงบในยามปกติ[นางคงจะมีความสุขมากกระมัง?][เราพยายามแสดงออกมากแล้วนะ]เจียงหวนพยายามกลั้นยิ้มและพยักหน้าอย่างว่าง่าย“เพคะ ฝ่าบาทค่อยๆ เสด็จนะเพคะ”ฮั่วหลินถึงได้ลุกขึ้นแล้วออกจากตำหนักเว่ยยางไปเมื่อประตูตำหนักปิดลง ทั่วทั้งตำหนักอันกว้างใหญ่เหลือเพียงเจียงหวนและเติ้งหมอม่อที่มีสีหน้าเคร่งเครียด นางคล้ายอยากจะกล่าวสิ่งใดแต่ก็ลังเลเจียงหวนยกถ้วยชาขึ้นมาเป่าไล่ไอร้อนอย่างช้าๆเมื่อเติ้งหมอม่อเห็นว่าพระสนมของตนดูอารมณ์ดีมากอย่างเห็นได้ชัด คิ้วก็ยิ่งขมวดแน่นกว่าเก่านางก้าวเข้าไปก้าวหนึ่ง หลังไตร่ตรองอยู่หลายครั้ง สุดท้ายก็ยังคงตัดสินใจเอ่ยปากพระสนมทรงพระปรีชาและมีเมตตา แต่ถึงอย่างไรก็ยังทรงเยาว์วัย ทั้งยังตกอยู่ในบ่วงแห่งความรัก จึงมีบางคำพูดที่นางในฐานะหมอม่อผู้ดูแลจำเป็นต้องพูด“พระสนมเพคะ” เสียงที่ถูกลดจนเบาอย่างยิ่งของเติ้งหมอม่อเต็มไปด้วยความกังวลอันเข้มข้น“พระเมตตาที่ฝ่าบาทมีต่อพระสนมเมื่อครู่นั้น เป็นความโปรดปรานสูงสุดอย่างหาได้ยากยิ่ง”เจี
Read more

บทที่ 236

ขณะที่ฮั่วหลินออกจากตำหนักเว่ยยางไปได้ไม่ไกลนัก ก็นึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องที่ลืมบอกเจียงหวนเขาย้อนกลับไปที่ตำหนักเว่ยยาง เพิ่งเดินไปถึงด้านนอกตำหนัก ก็ได้ยินเสียงอันคุ้นเคยของเติ้งหมอม่อดังออกมา“…ความโปรดปรานที่มากเกินไปของฝ่าบาท ใช่ว่าจะเป็นเรื่องดีเสมอไป…”ฝีเท้าของฮั่วหลินหยุดชะงัก คิ้วขมวดเป็นปมทันทีเอาอีกแล้วหรือ?!มิง่ายเลยกว่าเขาจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้ตนเองได้ เหตุใดเติ้งหมอม่อยังพูดจายุแยงอยู่อีก?ฮั่วหลินยืนอยู่นอกประตูตำหนัก เงี่ยหูแอบฟังอย่างตั้งใจ ยิ่งฟังสีหน้าก็ยิ่งดำคล้ำ“…เกลี้ยกล่อมฝ่าบาท ให้สำรวมกิริยา พระราชทานพระเมตตาอย่างทั่วถึง…”หมอม่อผู้นี้ติดใจอันใดกับคำว่าพระราชทานพระเมตตาอย่างทั่วถึงนักงั้นรึ? ความบริสุทธิ์ใจของเขาไร้ค่าถึงเพียงนี้เชียวหรือ?ฮั่วหลินนึกแล้วก็โมโห อยากพุ่งตัวเข้าไปแก้ต่างให้ตนเองเสียเดี๋ยวนั้นทว่าพอคิดดูอีกที บุ่มบ่ามบุกเข้าไปเช่นนี้มิเท่ากับเป็นการเสียเกียรติของฮ่องเต้หรือ คิดได้ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงข่มกลั้นเพลิงโทสะ และเดินกลับไปกลับมาอยู่หน้าตำหนักครั้นได้ยินเสียงเจียงหวนสำลักน้ำชา เขาร้อนใจจนเกือบพุ่งตัวเข้าไปแล้ว โชคดีที่ไ
Read more

บทที่ 237

เจียงหวนมองฮั่วหลินอย่างแปลกใจ “ฝ่าบาทจะตรวจฎีกาที่นี่จริงหรือเพคะ?”ฮั่วหลินลุกขึ้น เดินตรงไปนั่งลงที่โต๊ะทรงงานตัวกว้าง“อืม ตำหนักของเจ้าเงียบสงบ เหมาะแก่การตรวจฎีกาพอดี”ไม่นาน หวังเต๋อกุ้ยได้นำขันทีน้อยสองสามคน ยกสิ่งของจำพวกม้วนฎีกา พู่กัน น้ำหมึกรวมถึงตราประทับมาวางบนโต๊ะทรงงานอย่างพินอบพิเทานางกำนัลในตำหนักเองก็ได้ยกน้ำชาและขนมว่างหน้าตาประณีตสองสามอย่างมาถวาย จากนั้นก็ถอยออกไปเงียบๆฮั่วหลินหยิบพู่กันขึ้นมา สีหน้าเคร่งขรึม เข้าสู่สภาวะสะสางราชกิจอย่างจริงจังแสงแดดส่องลอดลายฉลุบนหน้าต่างสาดลงบนใบหน้าด้านข้างของเขา ท่าทางจริงจังของเขามีรังสีน่าเกรงขามที่ชวนให้หยุดหายใจเจียงหวนมิได้รบกวนเขา เพียงหาที่นั่งอ่านตำราเงียบๆบรรยากาศในตำหนักเงียบสงบกว่ายามปกติ ทว่าความคิดของฮั่วหลินกลับมิได้จดจ่ออยู่กับราชกิจทั้งหมดหางตาของเขาเหลือบมองเจียงหวนโดยมิได้ตั้งใจ อารมณ์หงุดหงิดที่เกิดจากเติ้งหมอม่อพลันหายไปในพริบตาเขาแสร้งทำเป็นเงยหน้าอย่างไม่ได้ตั้งใจ อยากจะมองนางให้ชัดขึ้นอีกหน่อยประจวบเหมาะกับที่เจียงหวนเงยหน้าเพื่อจะยืดเส้นยืดสายสักหน่อย สายตาของทั้งคู่สบประสานกันอย่างไม
Read more

บทที่ 238

ดอกกุ้ยฮวาในวังเบ่งบานแล้ว กลิ่นหอมลอยอบอวลไปทั่วทั้งตำหนักเว่ยยางเจียงหวนนั่งชันคางอยู่ใต้เฉลียง สั่งการทุกคนให้เตรียมโคมไฟและแม่พิมพ์ขนมสำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์เสี่ยวเจานั่งอยู่ข้างๆ นาง ในมือถือถุงหอมที่ปักไปได้ครึ่งหนึ่ง ฝีเข็มบิดเบี้ยวไม่ค่อยน่าดูนัก“พระสนม ท่านดูลวดลายนี้ใช้ได้หรือไม่เพคะ?”เสี่ยวเจายื่นถุงหอมมาให้ราวกับสมบัติล้ำค่า “บ่าวปักลายกระต่ายหยกตำยาเพคะ”เจียงหวนรับไปดู กระต่ายตัวนั้นหัวเบี้ยว ราวกับดื่มสุราจนเมามายก็ไม่ปาน กระบองตำยายิ่งบิดเบี้ยวจนชี้ขึ้นขอบฟ้าแล้วนางอดกลั้นขำไม่ได้ กล่าวหยอกเย้าว่า “นับว่ามีเอกลักษณ์ดี”เสี่ยวเจาเกาหัวอย่างเขินอาย “บ่าวฝีมือไม่ดี ปักหลายอันแล้วก็ยังใช้ไม่ได้ นี่เป็นชิ้นที่นับว่าดีที่สุดแล้วเพคะ”ขณะที่ทั้งสองคนกำลังพูดคุยกัน นางกำนัลน้อยคนหนึ่งยกขนมและน้ำชามา เป็นนางกำนัลที่คอยรับใช้อยู่ข้างกายเจียงหวนนางมีถุงหอมประณีตเหน็บไว้ที่เอวหนึ่งใบ ปักลวดลายดอกกุ้ยฮวาที่ดูซับซ้อน ฝีเข็มละเอียดลออ ดูก็รู้ว่ามีฝีมือด้านการเย็บปักเจียงหวนมองเห็นตั้งแต่แวบแรก “เป็นถุงหอมที่งามนัก เจ้าปักเองหรือ”ฝีมือเช่นนี้ ห่างชั้นกับเสี่ยวเจาหล
Read more

บทที่ 239

เจียงหวนนั่งอยู่ริมหน้าต่าง มองดูท้องฟ้าด้านนอก นางกำลังคิดคำนวณเรื่องถุงหอมเมื่อเช้า“พระสนม” เสี่ยวเจายกน้ำแกงสงบจิตที่เพิ่งต้มเสร็จเข้ามา นางกล่าวด้วยดวงตาแดงก่ำเล็กน้อย “รีบดื่มเพื่อผ่อนคลายจิตใจหน่อยเถิดเพคะ”เจียงหวนเพิ่งจะรับถ้วยน้ำแกงไป เสียงฝีเท้าเร่งรีบอันคุ้นเคยระลอกหนึ่งก็ดังมาจากนอกตำหนัก นำพาแรงกดดันขุมหนึ่งเข้ามาด้วย[ผู้ใดกันมิดูตาม้าตาเรือ กล้าแตะต้องนางเช่นนี้? ข้าจะถลกหนังมันทั้งเป็น!][นางได้รับบาดเจ็บหรือไม่? จะตกใจหรือไม่นะ?]เสียงในใจที่ทั้งบันดาลโทสะและร้อนใจดังขึ้นข้างหูเจียงหวนราวกับพวงประทัดที่ถูกจุดชนวนฮั่วหลินสาวเท้ามายืนอยู่ต่อหน้านาง กวาดสายตาสำรวจเจียงหวนอย่างละเอียดตั้งแต่หัวจรดเท้า ราวกับเครื่องสแกนคุณภาพสูง[ดูเหมือนไม่ได้เป็นอะไรมาก][เพียงแค่หน้าซีดเล็กน้อยเท่านั้น นางจะต้องตกใจมากแน่ๆ][พรุ่งนี้ให้นางติดตามข้าไปว่าราชการในท้องพระโรง และนอนที่ตำหนักหย่างซินเสียเลย มิให้อยู่ห่างข้าแม้แต่ก้าวเดียว ดูสิใครจะกล้าทำอะไรนางอีกหรือไม่!]กลิ่นอายอำมหิตแผ่กระจายรอบตัวเขา บรรยากาศในตำหนักราวกับหยุดชะงักไปชั่วขณะเหล่าข้ารับใช้ก้มหน้ากลั้นหายใจ ไ
Read more

บทที่ 240

หลินเจิงดำเนินการอย่างรวดเร็วมาก ใช้เวลาเพียงสองวันก็ส่งคนมาถึงตำหนักของเจียกุ้ยเฟยแล้วได้ยินว่าคนคนนี้เคยเป็นพ่อครัวใหญ่ของห้องเครื่อง และเคยรับใช้อดีตฮ่องเต้มาก่อน ชำนาญการทำอาหารในวังที่สุดเจียกุ้ยเฟยพึงพอใจอย่างมาก นางจงใจเปลี่ยนไปสวมใส่ชุดกระโปรงที่หรูหรางดงาม พานางกำนัลกลุ่มหนึ่งตรงไปยังห้องเครื่องในห้องทรงพระอักษรฮั่วหลินกำลังก้มหน้าก้มตาสะสางฎีกา รอบกายแผ่กลิ่นอายเย็นชาไม่น่าเข้าใกล้ในเวลานี้เอง หวังเต๋อกุ้ยเข้ามารายงานอย่างระมัดระวัง“ฝ่าบาท พระสนมเจียกุ้ยเฟยมาขอเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ”พู่กันในมือของฮั่วหลินชะงักหยุด หยดน้ำหมึกกระจายตัวเป็นวงเล็กๆ บนกระดาษฎีกาคนที่เขาไม่อยากพบที่สุดก็คือเจียกุ้ยเฟย!ฮั่วหลินวางพู่กันลง ยกมือขึ้นนวดขมับ “ให้นางเข้ามา”หวังเต๋อกุ้ยรีบออกไปถ่ายทอดคำสั่ง ไม่นาน เจียกุ้ยเฟยก็เดินเข้ามาใบหน้าของนางแต่งแต้มด้วยรอยยิ้ม นางคารวะฮั่วหลินอย่างอ่อนช้อย“ถวายบังคมฝ่าบาท”ฮั่วหลินไม่แม้แต่จะช้อนตาขึ้นมอง เพียงส่งเสียง ‘อืม’ เบาๆ ในจมูกเป็นการตอบรับเจียกุ้ยเฟยราวกับไม่สนใจความเย็นชาของฮั่วหลิน นางลุกขึ้นด้วยตนเอง เอ่ยด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อยว่
Read more
PREV
1
...
202122232425
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status