Tous les chapitres de : Chapitre 281 - Chapitre 290

388

บทที่ 281

เจียงหวนออกแรงดิ้นรนอย่างหนัก เพื่อสลัดพันธนาการของเขาออกโดยไม่ทันตั้งตัว การต่อต้านอย่างกะทันหันของนางทำให้ฮั่วหลินออกแรงจับแน่นขึ้นโดยสัญชาตญาณ แต่จากนั้นก็รีบคลายออกอย่างรวดเร็วราวถูกนาบด้วยเหล็กเผาไฟ“ซี้ด...”เจียงหวนซวนเซถอยหลังไปก้าวหนึ่ง นางก้มมองรอยแดงบนข้อมือของตน เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ในดวงตาก็มีหยาดน้ำตาเอ่อคลอ แต่ก็ไม่ยอมหลั่งลงมาอย่างดื้อรั้น[นี่เราทำสิ่งใดลงไปกัน!][เราทำให้นางบาดเจ็บแล้ว! นางกลัวความเจ็บปวดถึงเพียงนั้น ข้อมือแดงไปหมดแล้ว สมควรตายนัก สมควรตายจริงๆ!]เขายื่นมือออกไปอย่างลนลาน ก่อนจะชะงักค้างอยู่กลางอากาศ ด้วยเกรงว่าจะทำให้นางโกรธอีก“เจียงหวน” เขาอ้าปากค้าง ใบหน้าเต็มไปด้วยความสับสน “เรา... เราไม่ได้... เรา...”เขาพูดจาไม่รู้เรื่อง หน้าผากหลั่งเหงื่อเย็นออกมา ทำให้ฮ่องเต้ที่ยามปกติไม่แสดงออกทางสีหน้าดูทุลักทุเลอยู่บ้าง“เราผิดไปแล้ว เจ้าอย่าได้เกลียดเรา...”[เรื่องที่รับปากไว้ เราล้วนจำได้][เราทำให้นางเสียใจแล้ว ล้วนเป็นเราที่ไม่ดี][ฮือฮือฮือ เห็นนางร้องไห้แล้วเราก็อยากร้องตามเหมือนกัน]เจียงหวนรู้สึกแสบจมูกมาก นางไม่อาจระงับความพลุ่งพ
Read More

บทที่ 282

ฮ่องเต้สะบัดแขนเสื้อจากไปต่อหน้าทุกคน ทิ้งความยุ่งเหยิงและกลุ่มสาวงามที่กำลังตกตะลึงพรึงเพริดไว้เบื้องหลัง นับว่าไม่เห็นนางอยู่ในสายตาเลย“ขอไทเฮาโปรดทรงระงับโทสะเถิดพ่ะย่ะค่ะ” หวังเต๋อกุ้ยค้อมกายเกลี้ยกล่อมอย่างระมัดระวัง“ระงับโทสะ?” พระพันปีเย้ยหยัน “ฮ่องเต้ถูกนางจิ้งจอกนั่นหลอกล่อจนลุ่มหลง แม้แต่ระเบียบของราชสำนักก็ไม่สนใจแล้ว การคัดเลือกสนมถือเป็นเรื่องสำคัญของแว่นแคว้น จะปล่อยให้เขาทำเป็นเล่นได้อย่างไร!”สายตาคมกริบของนางกวาดมองไปยังหญิงสาวที่เข้าร่วมการคัดเลือกสนมทั้งสาม ซึ่งกำลังยืนก้มหน้าอยู่เบื้องล่างหลิ่วซูเหยายังคงสงบนิ่ง เพียงแต่ใบหน้าดูซีดขาวกว่าเก่า ขนตางอนยาวหลุบต่ำอยู่บนพวงแก้ม ไม่รู้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่สีหน้าของเวินอี้หลินเต็มไปด้วยความไม่ยินยอม แม้แต่เครื่องประทินโฉมที่ถูกแต่งแต้มอย่างประณีตก็ไม่อาจปกปิดความบูดบึ้งนั้นเหอหลิงกำลังก้มศีรษะลงคล้ายเคารพ แต่ร่างกายของนางกลับกำลังสั่นสะท้านเบาๆทั้งสามนางล้วนจัดอยู่ในกลุ่มแรกที่ได้รับเลือกให้เข้าเฝ้าฮ่องเต้ ไม่ว่าจะเป็นด้านภูมิหลังครอบครัว พรสวรรค์ความสามารถ หรือบุคลิกภาพหน้าตา ล้วนจัดอยู่ในชั้นยอดเดิมนางวางแ
Read More

บทที่ 283

เหอหลิงเดินตามหวังเต๋อกุ้ยมาถึงตำหนักข้างของตำหนักฉู่ซิ่วอย่างด้วยจิตใจที่ไม่อยู่กับเนื้อกับตัวหลังจัดการเรื่องที่พักเรียบร้อย เหอหลิงก็นั่งลงบนเก้าอี้ กังวลเสียจนลำไส้แทบจะขมวดเข้าหากัน เสียงอิเล็กทรอนิกส์ของระบบยังคงดังอยู่ในหัวของเธอไม่หยุด[โฮสต์โปรดรักษาทัศนคติเชิงบวกไว้ การอยู่ในวังเป็นก้าวแรกที่สำคัญมากต่อการบรรลุเป้าหมายสูงสุดของคุณ][จากการคำนวณ ตอนนี้เป้าหมาย “ฮั่วหลิน” น่าจะอยู่ในช่วงที่เกราะป้องกันทางอารมณ์อ่อนแอ ขอแนะนำให้โฮสต์ฉวยโอกาสนี้สร้าง ‘การพบกันโดยบังเอิญ’ โดยเป้าหมายน่าจะมุ่งหน้าไปตำหนักเว่ยยางในช่วงอาหารเย็น โฮสต์สามารถไปรอตามเส้นทางที่ต้องผ่านได้]เหอหลิงฟังจนขนหัวลุก “ตอนนี้ฮั่วหลินต้องกำลังรำคาญฉันแทบตายแน่ นายไม่เห็นแววตาของเขาตอนเลือกสนมใหม่หรือไง? ยังจะมาสร้าง ‘การพบกันโดยบังเอิญ’ อีก? ฉันกลัวว่าเขาจะลากฉันออกไปตัดหัวเลยมากกว่า!”[โฮสต์ ไม่จำเป็นต้องกังวลมากเกินไป]ระบบเต็มไปด้วยความมั่นใจ[จากการวิเคราะห์ แม้เป้าหมายจะมีนิสัยที่ดุดันเย็นชา แต่ก็ไม่ใช่คนที่จะสังหารผู้บริสุทธิ์อย่างไร้เหตุผล ยิ่งไปกว่านั้น โฮสต์ยังมีบัฟคอยเสริมอีก กลยุทธ์นี้จะต้องประ
Read More

บทที่ 284

“ไม่เป็นไร เราจะไม่รบกวนนาง”ฮั่วหลินกระแอมเบาๆ น้ำเสียงของเขาราบเรียบ เก็บซ่อนความยินดีไว้ในดวงตา “เราจะรออยู่ตรงนี้จนนางทำเสร็จ ไม่ต้องรีบ”เสี่ยวเจาค้อมศีรษะรับ แล้วหลุบตาถอยออกไปห้องครัวเล็ก ภายในตำหนักวังเว่ยยางเจียงหวนยืนอยู่หน้าเตา ฟังเสี่ยวเจารายงานสถานการณ์ในมือยังถือช้อนยาวไว้ด้ามหนึ่ง ค่อยๆ คนน้ำแกงในหม้อดินเผาอย่างช้าๆน้ำแกงในหม้อมีสีขาวขุ่นดุจน้ำนม กรุ่นไอร้อนชวนให้คนลิ้มลอง กลิ่นหอมเข้มข้นของเนื้อ ผสมผสานกับรสชาติสดใหม่ของเห็ดหอมฟุ้งไปทั่วครัวการเคลื่อนไหวที่มือของเจียงหวนมิได้หยุดลง นางส่งเสียง ‘อ้อ’ คำหนึ่งราวกำลังครุ่นคิดถึงบางสิ่งจากนั้นก็คว้ากระปุกเกลือที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา แล้วสะบัดข้อมือเพิ่มส่วนผสมลงไปอย่างหนักหน่วงเสี่ยวเจาชมดูจนเปลือกตากระตุกไม่หยุด เผยสีหน้าหวาดหวั่นออกมา “พระสนม แบบนี้จะทำให้คนเค็มจนแสบคอตายได้นะเพคะ”เจียงหวนเลิกเปลือกตาขึ้นอย่างใจเย็น: “จริงด้วยสิ”กล่าวจบก็หยิบจานด้านข้างที่ใส่ผงพริกฮวาเจียวไว้ขึ้นมาเทลงไปทั้งจาน“งั้นก็ทำให้ลิ้นชาจนไม่มีความรู้สึกสิ แบบนี้ก็แก้ปัญหาเรื่องเค็มจนแสบคอได้หมดแล้วไม่ใช่หรือ?”“พระสนม นี่..
Read More

บทที่ 285

[แค่กๆ นางใส่เกลือกับพริกฮวาเจียวลงไปในน้ำแกงเท่าใดกันนี่?][ลิ้นเราไม่เหลือความรู้สึกแล้ว นี่หมายความว่า นางไม่อยากฟังเราอธิบายอย่างนั้นหรือ?][ไม่ได้ เราไม่อาจเป็นใบ้ นางยังไม่หายโกรธเลย เราไม่อาจไม่อธิบาย][น้ำ! น้ำช่วยชีวิตของเราอยู่ที่ใด?]ภายในใจของฮั่วหลินร่ำร้องอย่างบ้าคลั่ง แต่ภายนอกเขากลับทำเพียงเม้มริมฝีปากแน่นเท่านั้นเขาเงยหน้าขึ้น ฝืนตนเองให้มองเจียงหวนที่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างสงบ แล้วพยายามฝืนยิ้มออกมาหวังเต๋อกุ้ยดูอยู่ข้างๆ อย่างอกสั่นขวัญแขวน ล้วนเป็นคนเก่าคนแก่ในวังแล้ว มีสิ่งใดที่มองไม่ออกกัน?เขาแทบอยากจะพุ่งออกไปตักน้ำเข้ามาโอ่งหนึ่งเสียเดี๋ยวนี้ ทว่าเขาไม่อาจทำเช่นนั้นเพราะหากฝ่าบาทต้องการคืนดีกับพระสนม นี่ก็คือบททดสอบเพื่อความสุขชั่วชีวิตที่เหลือของฮั่วหลิน เคล็ดลับมีเพียงคำเดียวก็คือ ‘อดทน’เจียงหวนมองฮั่วหลินที่เจ็บปวดแทบตายชัดๆ แต่กลับแสร้งทำเป็นสงบมั่นคง ความอัดอั้นเล็กๆ ภายในใจก็จางหายไปกว่าครึ่งนางไม่อาจระงับรอยยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากไว้ได้อีก ดวงตาทรงเมล็ดซิ่ง [1] ของนางเปล่งประกายสว่างไสวจนทำให้คนตกใจด้วยความได้ใจสัจธรรมแห่งชีวิตก็คือ อย่าไปล่ว
Read More

บทที่ 286

[นางเห็นถึงความจริงใจของข้าแล้วหรือไม่?]ฮั่วหลินวางถ้วยน้ำแกงลง ถอนหายใจยาวๆ แววตาที่มองเจียงหวนเปล่งประกายจนน่าตกใจเขายื่นมือออกไปหมายจะดึงนางให้เข้ามาใกล้ๆ จากนั้นค่อยดึงนางมากอดและพร่ำพรรณนาถึงความคิดและความสำนึกผิดของตนทว่าเจียงหวนกลับเหมือนปลาไหล ครั้นเห็นมือข้างนั้นใกล้จะสัมผัสถูกปลายนิ้วของนาง“โอ๊ย”จู่ๆ นางก็ยกมือขึ้นกุมขมับ ร่างบางโซเซเล็กน้อย ราวกับเพียงสายลมพัดผ่านก็สามารถล้มได้มือของฮั่วหลินพลันเปลี่ยนทิศทาง ประคองเจียงหวนไม่ให้ล้มลงไปความคาดหวังและความอ่อนโยนบนใบหน้าถูกแทนที่ด้วยแววตากังวล“เป็นอะไรไป ไม่สบายตรงที่ใดหรือ?”เจียงหวนเบี่ยงตัวออกจากมือของเขา แสร้งทำเสียงให้ฟังดูอ่อนแรง“ฝ่าบาทโปรดทรงประทานอภัย หม่อมฉันรู้สึกเวียนหัวและอ่อนแรง อาจเพราะวันนี้ยืนอยู่ในครัวนานไปหน่อย ยามนี้รู้สึกแน่นหน้าอก รู้สึกไม่ค่อยสบายนักเพคะ”นางเอ่ย พร้อมกับยกมือขึ้นทาบตรงหน้าอก คิ้วงามขมวดเล็กน้อย[เวียนหัว? อ่อนแรง? แน่นหน้าอก?][หรือข้าทำให้นางโกรธ?]ฮั่วหลินตึงเครียดขึ้นมาทันที ลืมความตั้งใจอันหวานซึ้งทั้งหมดไปจนสิ้น“หวังเต๋อกุ้ย มัวยืนทำอันใดอยู่ รีบไปเรียกตัวหมอ
Read More

บทที่ 287

เช้าตรู่วันถัดมา เจียงหวนเพิ่งกินมื้อเช้าเสร็จ หมอม่อจากตำหนักฉือหนิงก็มาส่งข่าว“พระสนมจวงเฟย ไทเฮาทรงมีรับสั่งให้ไปเข้าเฝ้าที่ตำหนักฉือหนิงเพคะ”เจียงหวนขมวดคิ้วเล็กน้อยจนแทบไม่สังเกตเห็นไทเฮาอีกแล้วนางไม่เข้าใจจริงๆ ไทเฮาไม่ชอบนาง แต่กลับเรียกนางไปเข้าเฝ้าทุกวัน เจ้าคิดเจ้าแค้นกับนางถึงเพียงนี้ เหตุใดยังไม่หมดเรี่ยวหมดแรงไปสักทีแต่จะว่าไปแล้ว เดาว่าคงเป็นเพราะเรื่องที่ฮั่วหลินสั่งให้หยุดการคัดเลือกสนมไว้ก่อน หากไทเฮายังนิ่งเฉยได้ก็แปลกแล้วคราวนี้ก็เลยถือโอกาสเตือนสตินางสนมในวังหลัง เพื่อปูทางให้สาวงามที่มาใหม่สามคนนั้นและถือโอกาสซ้ำเติมนางไปด้วยแม้เจียงหวนรู้ดีแก่ใจ ทว่าภายนอกยังคงประดับรอยยิ้มไว้บนใบหน้าอย่างพอเหมาะพอควร“ทราบแล้ว ประเดี๋ยวข้าก็จะไป”นางเปลี่ยนไปใส่ชุดฝ่ายในที่ดูสง่างามทว่ามิได้ดูโอ่อ่าจนเกินงาม เจียงหวนพาเสี่ยวเจามุ่งหน้ายังตำหนักฉือหนิงครั้นก้าวเท้าเข้าไปในตำหนัก พบว่าด้านในมีคนนั่งอยู่ไม่น้อยแล้วนอกจากนางสนมหน้าเดิมในวัง คนที่สะดุดตาที่สุดเห็นจะเป็นผู้มาใหม่สามคนที่นั่งอยู่ไม่ไกลจากไทเฮาหลิ่วซูเหยาสวมชุดกระโปรงสีขาวเรียบง่ายทว่าสง่างาม สีหน
Read More

บทที่ 288

เป็นนางจริงๆ ด้วยเหอหลิงคนนี้เป็นไปได้สูงว่ามาจากโลกปัจจุบันเช่นเดียวกัน แต่เจียงหวนไม่แน่ใจว่านางถูกระบบบังคับให้มาที่นี่ หรือเต็มใจมาด้วยตนเองเฮ้อ ได้เจอคนบ้านเดียวกัน แต่กลับต้องมาห้ำหั่นกันเองมิหนำซ้ำเจ้าระบบนั่นก็ยังฉลาดมากด้วย แม้แต่ความเป็นศัตรูก็ยังวัดค่าออกมาได้เจียงหวนหรี่ตา ต่อไปนางคงต้องระวังตัวแล้วนางจะปล่อยให้เหอหลิงกับเจ้าระบบนั่นรู้ไม่ได้โดยเด็ดขาดว่านางอ่านใจพวกเขาได้เจียงหวนละสายตาออกมาอย่างแนบเนียน นางเก็บงำแววตาเยือกเย็นของตน ราวกับแววตาคมกริบเมื่อครู่เป็นเพียงภาพลวงตาที่เหอหลิงรู้สึกไปเองเวลานี้เอง หลิ่วซูเหยาที่นั่งอยู่เยื้องถัดไปด้านหน้าเงยหน้ามองไปที่เจียงหวนเล็กน้อยนางกระแอมไอเบาๆ สองสามครั้ง น้ำเสียงฟังดูอ่อนแรงเช่นที่เคยเป็น“ซูเหยาถวายบังคมพระสนมจวงเฟย ได้ยินชื่อเสียงของพระสนมมานาน วันนี้ได้เจอพระองค์ นับว่าสง่างามสมคำร่ำลือ”นางเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนขึ้นเล็กน้อย “หลายวันก่อนที่ตลาดนอกวัง ซูเหยาเคยพบพระสนม พระสนมสงบเยือกเย็นแม้ตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย โดดเด่นสง่างาม ซูเหยายังจำได้มิเคยลืมเพคะ”เจียงหวนชะงักเล็กน้อย
Read More

บทที่ 289

ทุกคนที่อยู่ตรงนี้ล้วนเป็นนางสนมในวังหลัง ไม่นานพวกนางก็หันไปพูดคุยกัน ต่างคนต่างมีแผนการของตนเองมีคนพูดถึงเจียงหวนอยู่บ่อยครั้ง ขณะที่เจียงหวนเพียงแต่ก้มหน้าก้มตา ทำราวกับไม่ได้ยิน เพราะนางขี้คร้านจะเอาตัวเข้าไปข้องเกี่ยวกับเรื่องราวเหล่านั้นสายตาของนางกวาดมองผ่านขนมว่างรูปร่างประณีตสองสามอย่างที่นางกำนัลเพิ่งยกมาถวาย ความสนใจของนางถูกดึงดูดไปในทันทีแหม วันนี้ห้องเครื่องทุ่มเทไม่น้อยเชียวนะขนมเกาลัดนี้ดูไม่เลวทีเดียว วางเรียงรายทับซ้อนกันเป็นชั้น จะต้องกรอบจนมีเศษร่วงตกลงมาอย่างแน่นอนจานข้างๆ คงจะเป็นขนมไส้ดอกกุ้ยฮวาที่เพิ่งคิดค้นขึ้นมาใหม่กระมัง? สีทองอร่าม แค่ดมกลิ่นก็หอมแล้วเพียงแต่น่าเสียดาย ขนมดีๆ เช่นนี้หากต้องมากินในสถานการณ์แบบนี้ คงไม่ต่างอะไรจากการเคี้ยวขี้ผึ้งเจียงหวนกินขนมว่างด้วยท่าทางสุขุมสง่างามไทเฮามองดูคลื่นใต้น้ำตรงหน้าอย่างเงียบงัน ทะเลาะกันไปเถิด สู้กันไปเสียให้พอ ยิ่งเป็นเช่นนี้ ยิ่งมีโอกาสที่จะดึงเจียงหวนลงมาได้นางยกถ้วยชาขึ้นมาอย่างแช่มช้า หมายจะเอ่ยปากยุแยงตะแคงรั่วสักสองสามคำ กลับมีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาก่อน“ฝ่าบาทเสด็จ” เสียงตะโกนรายงานอันเล็
Read More

บทที่ 290

อีกจานหนึ่งคาดว่าเป็นขนมไส้ดอกกุ้ยฮวา ขนาดของมันนับว่าเท่ากัน เพียงแต่ผิวหนังภายนอกดูดำเกรียมไปสักหน่อยยังมี… เอิ่ม ยังมีขนมที่หากดูดีๆ ก็ยังพอมองออกว่าเป็นขนมแป้งข้าวเหนียว[1]อีกหนึ่งจาน ทว่าแต่ละชิ้นตะเหลวเป๋วจนแทบจะติดหนึบอยู่กับก้นจานแล้วเจียงหวนมองขนมว่างบนโต๊ะที่เรียกได้ว่าเหมือนเพิ่งผ่านเหตุการณ์ภัยพิบัติมา จากนั้นก็หันไปมองใบหน้าประหม่าระคนคาดหวังของฮั่วหลินที่ยืนอยู่ข้างๆ การคาดเดาอันบ้าคลั่งผุดขึ้นมาในหัวของนางนี่คงไม่ใช่ว่าเขาทำด้วยตนเองหรอกกระมัง?“คือ ข้าคิดว่าเมื่อวานข้าทำเจ้าโกรธ หากขอโทษแค่เพียงลมปาก ก็อาจดูไร้ความจริงใจเกินไป”เขาชี้ไปที่ขนมว่างเหล่านั้น น้ำเสียงจริงใจแฝงการเอาอกเอาใจที่ดูงุ่มง่าม“ข้ารู้ว่าเจ้าชอบของหวาน จึงได้ทำด้วยตนเองเล็กน้อย แม้ว่ารูปร่างภายนอกอาจไม่น่าดูไปบ้าง…”ยิ่งพูด เสียงของเขาก็ยิ่งเบาลงเรื่อยๆ หัวก็ก้มต่ำลงเรื่อยๆ เช่นกัน[นี่เรียกว่าไม่น่าดูไปบ้างเสียที่ไหน ข้าพูดชมไม่ออกจริงๆ][นางเป็นแม่ครัว มีอาหารใดบ้างที่ไม่เคยพบเห็นท? ไม่สิ อาหารที่หน้าตาอัปลักษณ์เช่นนี้นางต้องไม่เคยเห็นแน่ๆ][โอ๊ย นี่ข้าคิดผิดหรือไม่นะ นางต้องไม่ชอบขนม
Read More
Dernier
1
...
2728293031
...
39
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status