Semua Bab อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง: Bab 291 - Bab 300

388 Bab

บทที่ 291

ในคืนนั้น ฮั่วหลินค้างคืนที่ตำหนักเว่ยยางไปโดยปริยายขณะนอนอยู่บนเตียง ฮั่วหลินถอนหายใจยาวๆ อย่างอิ่มเอมใจ เขากอดเจียงหวนแน่น[ในที่สุดนางก็หายโกรธแล้ว กลยุทธ์อาหารแสนอร่อยของข้าได้ผล!][ทำให้นางอีกดีหรือไม่?]เจียงหวนที่มุดอยู่ในอ้อมอกของเขา ได้ยินแล้วก็เหงื่อแตกน้ำใจของเขานับว่าเกิดจากเจตนาดี เพียงแต่ยากจะกลืนไปหน่อยทว่าน้ำแกงบำรุงร่างกายชามนั้นของนางก็ไม่ใช่ของดีแต่อย่างใด ถือว่าเท่าเทียมกันแล้ววันหน้าเราอย่าได้วางยาพิษทำร้ายกันอีกเลยดีกว่าเจียงหวนคิดไปก็อดกลั้นขำไม่ได้ ความรู้สึกหวานชื่นกระจายไปทั่วหัวใจนางขยับท่าทางให้สบายตัว นอนพิงอยู่บนแผงอกอันอบอุ่นของฮั่วหลิน จากนั้นก็หลับตาความรู้สึกปลอดภัยที่ได้กลับคืนมานี้ ประดังประเดเข้ามาพร้อมกับความเหน็ดเหนื่อยในหลายวันที่ผ่านมาฮั่วหลินได้ยินเสียงลมหายใจอันแผ่วเบาของคนในอ้อมอก รู้สึกอิ่มเอมใจอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ไม่นานเขาก็หลับไปโดยไม่รู้ตัวเช้าตรู่วันต่อมา ขณะที่ท้องฟ้าเริ่มสว่างเสียงของหวังเต๋อกุ้ยดังเข้ามาจากนอกตำหนัก “ฝ่าบาท ได้เวลาแล้ว ควรเตรียมตัวเข้าท้องพระโรงได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”ที่จริงฮั่วหลินตื่นนานแล้ว
Baca selengkapnya

บทที่ 292

หลังจากสวมใส่อาภรณ์อย่างยากลำบากจนเสร็จแล้ว ฮั่วหลินจึงค่อยย่างเท้าเดินออกไปอย่างอาลัยอาวรณ์เมื่อเดินออกจากตำหนักเว่ยยาง อากาศเย็นๆ ยามเช้าตรู่ทำให้เขารู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่า แต่เมื่อนึกได้ว่าต้องไปเผชิญหน้ากับขุนนางเฒ่าจอมปลิ้นปล้อนเหล่านั้น สีหน้าของเขาก็ดำทะมึนลงฝีเท้าของเขารีบเร่ง คิดเพียงว่าอยากประชุมช่วงเช้าให้เสร็จโดยเร็วแต่ทว่า ในขณะที่เขาเดินเลี้ยวตรงมุมหนึ่ง เงาร่างอรชรร่างหนึ่งก็ได้เดินออกมาจากประตูวงพระจันทร์ที่อยู่ด้านข้างเป็นหลิ่วซูเหยานางยังคงสวมใส่อาภรณ์สีขาวที่ดูเรียบง่ายทว่าสง่างาม ภายนอกสวมทับไว้ด้วยเสื้อขนสุนัขจิ้งจอกเพียงแต่ดวงหน้าที่ค่อนข้างซีดเซียวนั่น ยิ่งดูอ่อนแอเมื่ออยู่ท่ามกลางหมอกน้ำค้างยามเช้าตรู่ครั้นเห็นฮั่วหลิน นางไม่ได้ตื่นตกใจ ราวกับคาดการณ์ไว้แล้วนางย่อเข่าทำความเคารพ “ถวายบังคมฝ่าบาท”ฮั่วหลินหยุดเดิน ขมวดคิ้วเล็กน้อยจนแทบไม่สังเกตเห็นพักนี้สิ่งกีดขวางในวังช่างมีมากมายเหลือเกิน!มิหนำซ้ำยังมีสิ่งกีดขวางที่วางแผนหรือคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วด้วยองครักษ์ส่วนพระองค์ไปไหนแล้ว หัวหน้าขันทีไปไหนหมด เวลากวาดหิมะบนพื้นช่วยลากคนที่ไม่เก
Baca selengkapnya

บทที่ 293

เวินอี้หลินถูกโต้กลับอย่างนุ่มนวลทว่าเจ็บแสบ ไฟโทสะสุมในอกไร้ที่ระบายยิ่งคิดนางก็ยิ่งโมโห หลิ่วซูเหยาผู้หญิงขี้โรคนั่นแสร้งทำตัวสูงส่ง เจียงหวนก็ยิ่งอาศัยความโปรดปรานจากฝ่าบาทจนไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตานางเป็นถึงบุตรีของเสนาบดีกรมการคลัง มีหรือจะยอมอยู่เงียบๆ ในวังหลังแห่งนี้ ให้พวกนางเหยียบย่ำอยู่ฝ่ายเดียว?“เหอะ จวงเฟยได้รับความโปรดปรานมิใช่หรือ เช่นนั้นข้าก็จะไปเยี่ยมนาง”เวินอี้หลินตัดสินใจแล้วว่าจะไปค้นหาข้อมูลที่ตำหนักเว่ยยางด้วยตนเองถือโอกาสดูด้วยว่าจะสามารถตีสนิท หรือหาจุดอ่อนของอีกฝ่ายได้หรือไม่นางรีบหันไปกำชับสาวรับใช้ข้างกายว่า “ไปหยิบเครื่องประดับผมอัญมณีสีแดงที่ข้าเพิ่งได้มาใหม่มา จากนั้นก็เลือกผ้าไหมดิ้นทองอย่างดีมาอีกสองพับ เลือกสีที่สดใสที่สุด”แม้จวงเฟยจะได้รับความโปรดปราน ทว่าชาติกำเนิดต่ำต้อย หากเห็นของขวัญมีค่าเหล่านี้ อย่างไรก็ต้องไว้หน้านางบ้างกระมังขณะเดียวกัน ในอีกห้องหนึ่งของตำหนักฉู่ซิ่วเหอหลิงฟังเสียงวิเคราะห์ของระบบที่ดังไม่หยุดอยู่ในสมองของนาง รู้สึกราวกับหัวจะระเบิด[…กล่าวโดยสรุปแล้ว เจียงหวนคือจุดยึดหลักทางอารมณ์ความรู้สึกของเป้าหมายในภารกิจ
Baca selengkapnya

บทที่ 294

เจียงหวนชำเลืองมองไหมดิ้นทองและอัญมณีสีแดงที่ส่องประกายจนแสบตาแวบหนึ่ง ในใจไร้ซึ่งคลื่นอารมณ์นางไม่อยากคอสเพลย์เป็นเศรษฐีใหม่ไร้รสนิยมที่ชอบใส่สร้อยทองเส้นใหญ่ๆ หรอกนะนางพยักหน้าเล็กน้อย “เวินกุ้ยเหรินมีน้ำใจแล้ว”หลิ่วซูเหยาก้าวเท้ามาข้างหน้า กิริยาสุขุมสง่างาม นางประคองกล่องผ้าไหมที่บรรจุแท่นหยกทับกระดาษไว้ด้วยสองมือ“ซูเหยาถวายบังคมพระสนม นี่เป็นของขวัญเล็กน้อย หวังว่าพระสนมจะไม่รังเกียจนะเพคะ”ของขวัญของนางไม่นับว่ามีค่า แต่ได้เปรียบที่ความละเอียดอ่อนและใส่ใจอย่างน้อยก็เข้าตากว่าของขวัญของเวินอี้หลินมากกอปรกับพวกนางสองคนยังนับว่ามีมิตรภาพต่อกัน เจียงหวนโบกมือสั่งให้เสี่ยวเจารับไว้“หลิ่วผินลำบากแล้ว หยกทับกระดาษแท่งนี้แวววาวเงางาม ข้าชอบมาก”สุดท้ายก็ถึงตาเหอหลิง นางประหม่าจนเหงื่อซึมไปทั่วฝ่ามือ ก้มหน้าประคองกล่องไม้ขนาดเล็กที่ดูเรียบง่ายยื่นมาให้อย่างระมัดระวัง จากนั้นก็เอ่ยด้วยเสียงที่แผ่วเบาดุจแมลงวัน“ถวายบังคมพระสนม นี่เป็นสิ่งของเล็กๆ น้อยๆ ที่หม่อมฉันทำเอง พระสนมได้โปรดรับไว้ด้วยเพคะ”นางเปิดฝากล่อง เผยให้เห็นแมลงปอที่ถักทอด้วยเส้นไหมหลากสีตัวนั้น[จบสิ้นกันแ
Baca selengkapnya

บทที่ 295

เวินอี้หลินฉีกยิ้มที่นางนึกว่าดูแสดงถึงความสนิทชิดเชื้อแล้ว “น้องสาวเพิ่งเข้าวังมาได้ไม่นาน มิอาจเทียบเคียงพระสนมที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณอย่างเปี่ยมล้น ทั้งเรื่องกฎเกณฑ์ในวัง และความโปรดปรานของฝ่าบาท ล้วนยังจับทางมิค่อยได้ น้องสาวเห็นพระสนมเป็นดั่งแบบอย่างของเหล่าพี่น้องในวังหลังเสมอมาเลยนะเพคะ!”คำสรรเสริญเยินยอของนางสะท้อนถึงเจตนาที่โจ่งแจ้ง เมื่อเอ่ยวาจาปูทางเสร็จ ก็เผยความต้องการที่แท้จริงออกมา“น้องสาวบังอาจขอร้องให้พระสนมช่วยพูดถึงน้องสาวต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทเมื่อสบโอกาสด้วยเพคะ”เวินอี้หลินจ้องหน้าเจียงหวนอย่างตรงไปตรงมา ราวกับกำลังจ้องมองเส้นทางลัดสู่สรวงสวรรค์ก็ไม่ปาน“พระสนมวางใจ บิดาของน้องสาวเป็นเสนาบดีกรมการคลัง หากน้องสาวได้รับพระมหากรุณาธิคุณต่อหน้าพระพักตร์สักเล็กน้อย บิดาของน้องสาวจะจดจำบุญคุณครั้งนี้ไว้ วันหน้าไม่ว่าพระสนมมีเรื่องใดร้องขอ จะต้องตอบแทนอย่างสุดความสามารถอย่างแน่นอน”สิ้นประโยค ทั่วทั้งตำหนักจมดิ่งสู่ความเงียบงมมือของหลิ่วซูเหยาที่ประคองถ้วยชาไว้ไม่ไหวติงแม้แต่น้อย แพขนตาที่หลุบต่ำปกปิดแววดูแคลนไว้อย่างมิดชิดขณะที่เหอหลิงนั้นตกใจจนหน้าซีด นางอ
Baca selengkapnya

บทที่ 296

“ฝ่าบาทเสด็จ!”ฮั่วหลินแทบจะสาวเท้าเข้ามาพร้อมกับเสียงรายงานนี้ เสื้อคลุมของเขาปลิวม้วนไปตามแรงเดิน ฝีเท้าเร่งรีบกว่ายามปกติช่วงประชุมเช้าเขามัวแต่ยื้อยุดฉุดรั้งอยู่กับตาเฒ่าพวกนั้น พวกเขาทะเลาะราวกับฟ้าดินจะถล่มลงมาเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยเขาข่มความหงุดหงิดในใจสะสางราชกิจจนเสร็จสิ้น ครั้นเสร็จก็รีบมุ่งหน้ามายังตำหนักเว่ยยาง แม้แต่ชุดคลุมมังกรก็ยังไม่ได้เปลี่ยนปรากฏว่าเพิ่งจะเข้ามา ก็เห็นดวงหน้าน้อยๆ ของเจียงหวนเย็นชาดุจน้ำแข็ง แววตาคมกริบ คล้ายกำลังสั่งสอนคน[นางเป็นอะไรไป ดูท่าทางอารมณ์ไม่ค่อยดี][ต้องมีใครทำให้นางโกรธแน่ๆ แย่จริงๆ ช่วงเวลาสำคัญอย่างนั้น เหตุใดข้าไม่อยู่กับนางอีกแล้ว][จบกันแล้ว นั่นจะส่งผลต่อความรู้สึกที่นางมีให้ข้าหรือไม่ สถานการณ์ของข้าก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยดีเท่าใดนัก โอ๊ย!][แต่ข้าก็เพิ่งเคยเห็นนางเป็นเช่นนี้ ซี๊ด แววตานั่น…][น่ากลัว แล้วก็น่าหลงใหลมากด้วย!]เมื่อฮ่องเต้มาถึง ทุกคนในตำหนักล้วนคุกเข่าทำความเคารพหลิ่วซูเหยาเป็นคนที่มีความรู้สึกไวและซับซ้อนมากที่สุด นางตั้งตาคอยอยากเจอฮั่วหลินมาตลอด เวลานี้เมื่อเห็นเขามาได้จังหวะ เห็นจวงเฟยกำลังตำหนิผู
Baca selengkapnya

บทที่ 297

หวังเต๋อกุ้ยดำเนินการอย่างคล่องแคล่วว่องไว เขาผายมือเชิญกึ่งนำทางทั้งสามคนที่ยามนี้มีสีหน้าแตกต่างกันออกจากตำหนักเว่ยยางเจียงหวนนวดหัวคิ้ว พลางถอนหายใจยาวๆ เหตุการณ์ตึงเครียดยามปะทะหน้ากับเวินอี้หลินเมื่อครู่หายไปในพริบตาฮั่วหลินเห็นแล้วก็ปวดใจ อ้าแขนดึงนางเข้ามากอด[ข้าต้องทำอะไรสักหน่อยแล้ว สั่งให้ทหารรักษาพระองค์ล้อมตำหนักเว่ยยาง หรือย้ายตำหนักหย่างซินมาอยู่กับนางที่นี่เสียเลย?][ดูเหมือนล้วนไม่เหมาะสม นางจะต้องอึดอัดแน่][ฮ่าๆ วันนี้เป็นวันที่ข้าเกลียดวังหลังมากเลยทีเดียว]เจียงหวนมุดหัวเข้าไปในแผงอกของเขา ปรับเปลี่ยนท่าทางให้สบายขึ้นหึๆ นับว่าเป็นบุรุษที่มีความภักดี“เอาเถิด” เสียงของนางฟังดูเหนื่อยหน่ายระคนเอื่อยเฉื่อย “หม่อมฉันไม่เป็นไรเพคะ อาจเป็นเพราะนอนไม่พอกระมัง”จากนั้นนางก็ใช้นิ้วจิ้มหน้าอกอันกำยำของฮั่วหลิน ก่อนจะลูบไล้ไปตามขอบไหมสีทองบนเสื้อคลุมมังกรของเขาสวมชุดว่าราชการมาเอาใจคนอื่นเขา จะหล่อเหลาเกินไปแล้ว!ฮั่วหลินกระชับแขน “ครั้งหน้าหากพวกนางยังมาอีก เจ้าไม่จำเป็นต้องเกรงใจ หากรำคาญใจจริงๆ สั่งโบยแล้วโยนออกไปก็ได้ ข้าเก็บกวาดเอง”เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหน
Baca selengkapnya

บทที่ 298

ฮั่วหลินยังคงไม่วางใจ ทว่าเมื่อเห็นท่าทางตื่นเต้นของนาง ก็ทำได้เพียงพยักหน้า[ฮือ ไล่ข้าไปเช่นนี้อีกแล้ว][หากเจออันตรายเข้าอีกจะทำอย่างไรเล่า ฉะนั้นข้าไปเป็นเพื่อนนางก็แล้วกัน][อืมๆ เป็นเหตุผลที่ฟังขึ้นอย่างมาก]เจียงหวนได้ยินเสียงในใจของเขา จึงยิ้มไล่เขา“รีบเสด็จกลับห้องทรงพระอักษรของฝ่าบาทเถิดเพคะ อย่าแอบอู้”ฮ่องเต้ไปเดินชมฝ่ายดูแลสัตว์เลี้ยงกับนาง? เป็นภาพจินตนาการที่งดงามเกินไปจนไม่กล้าเพ้อฝัน“แต่…”เจียงหวนตัดบทเขา “ไม่มีแต่ ฝ่าบาทวางใจเถิดเพคะ”เอ่ยจบ นางก็ใช้ ‘เหตุผลที่ฟังขึ้น’ ผลักฮั่วหลินที่ยังคงพะว้าพะวังออกจากประตูตำหนักเว่ยยางด้วยตนเองหลังจากส่งฮั่วหลินกลับไป เจียงหวนเก็บข้าวของครู่หนึ่ง จากนั้นก็พาเสี่ยวเจาและเหล่ากำนัลขันทีมุ่งหน้าไปยังฝ่ายดูแลสัตว์เลี้ยงฝ่ายดูแลสัตว์เลี้ยงในวังไม่ได้เลี้ยงเพียงแค่ม้า สุนัขล่าเนื้อ หรือเหยี่ยวของราชวงศ์เท่านั้น ยังเลี้ยงนกและสัตว์ป่าหายากที่ถูกส่งมาเป็นเครื่องบรรณาการจากที่ต่างๆ รวมถึงสัตว์เลี้ยงจำพวกสุนัขแมวของเหล่านางสนมในวังด้วยแม้สภาพแวดล้อมไม่ได้ยอดเยี่ยม แต่ก็นับว่าสะอาดเรียบร้อยดีเจียงหวนเพิ่งจะเดินไปถึงบริเวณ
Baca selengkapnya

บทที่ 299

โจวฝูยังคงขดตัวอยู่บนพื้นอย่างงุนงง กระทั่งขันทีน้อยที่อยู่ข้างๆ รีบเตือนสติเขา“โจวฝู ยังไม่รีบคุกเข่าถวายบังคมพระสนมอีก”โจวฝูจึงเพิ่งได้สติ เขารีบพลิกตัวขึ้นมานั่งคุกเข่า เพราะลนลานเกินไป ท่าทางจึงดูงุ่มง่าม ส่งผลให้ออกแรงโขกหัวกับพื้นแรงไปหน่อย“บะ บ่าวโจวฝู ถวายบังคมพระสนมพ่ะย่ะค่ะ!”เจียงหวนไม่ได้สนใจเหล่าขันทีที่กำลังโขกศีรษะราวกับกำลังโขลกกระเทียม นางกวาดสายตามองถ้วยกระเบื้องอันประณีตใบนั้นที่พลิกคว่ำอยู่บนพื้น จากนั้นก็หันไปมองแม่สุนัขและลูกสุนัขอีกสองสามตัวที่มันกำลังปกป้องอยู่รูปร่างและสีขนล้วนไม่เลว ตัวกลมขนฟูน่ารักมาก เห็นแล้วอยากลูบสักครั้ง!แต่อาจเพราะตกใจกลัว พวกมันมุดตัวไปอยู่ข้างหลังแม่ของตน ดวงตาดำใสชะเง้อมองออกมาข้างนอกอย่างหวาดกลัวระคนสงสัยเจียงหวนละสายตากลับมา จากนั้นก็หันไปมองขันทีน้อยที่ชื่อโจวฝูอีกครั้งเขารูปร่างผอมบาง ชุดเครื่องแบบที่ถูกซักจนขาวซีดราวกับถูกห้อยโตงเตงไว้บนตัวเขาเมื่อครู่นางสังเกตเห็นแล้ว โจวฝูผู้นี้กำลังพยายามปลอบขวัญฝูงสุนัขที่ตกใจกลัวอยู่ตลอดและสุนัขน้อยพวกนั้นก็ดูท่าทางจะเชื่อใจเขามาก พวกมันส่งเสียง “หงิงๆ!” คล้ายว่าเป็นห่วง
Baca selengkapnya

บทที่ 300

แต่เขานึกไม่ถึงว่า พวกคนสูงศักดิ์ที่ทะนงตน และเห็นสัตว์เลี้ยงเป็นเพียงของเล่นจะมีความคิดเช่นนี้ด้วยโจวฝูรู้สึกอบอุ่นในใจ ยามตอบคำถามจึงมีความจริงใจเพิ่มขึ้นสามส่วน “ทูลพระสนม บ่าว ปกติแล้วบ่าวทำงานเชื่องช้า ยามว่างก็จะชอบเล่นกับพวกมัน หวีขนให้พวกมัน เดาว่าพวกมันคงจดจำได้พ่ะย่ะค่ะ”เขาบอกเพียงสั้นๆ แต่เจียงหวนกลับเข้าใจแล้วปฏิบัติด้วยหัวใจ จึงได้มีการตอบสนองกลับมาลูกสุนัขตัวน้อยพวกนี้ใกล้ชิดกับเขา นั่นก็เพราะเขาใช้ความจริงใจ ไม่ใช่เห็นพวกมันเป็นเพียงหน้าที่“พระสนม โปรดอย่าฟังที่เขาพูดจาเหลวไหลเลยพ่ะย่ะค่ะ” ขันทีผู้หนึ่งเอ่ยปากแทรก น้ำเสียงฟังดูริษยา “เขาก็เพียงแค่ทำงานชักช้า ขี้เกียจสันหลังยาว…”“หุบปาก! ยามพระสนมเอ่ยวาจา เจ้ามีสิทธิ์อันใดมาสอดปาก!” เสี่ยวเจาตำหนิเสียงเกรี้ยว ขันทีคนนั้นตกใจจนเกือบขาอ่อนล้มพับลงไปบนพื้นเจียงหวนไม่สนใจ เพียงถามโจวฝูต่อว่า “เจ้าอยากโยกย้ายงานหรือไม่?”“หา?” โจวฝูไม่เข้าใจ เขาทำอะไรไม่ถูกไปชั่วขณะเจียงหวนกลับส่งยิ้มให้เขา นางได้ตัดสินใจแล้วนางจะยื่นข้อเสนอนี้ให้เขาอย่างแน่นอนหากนางจะเลี้ยงสุนัข ก็อยากเลี้ยงสุนัขที่ยินยอมพร้อมใจ และมีความ
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
2829303132
...
39
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status