Semua Bab อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง: Bab 81 - Bab 90

249 Bab

บทที่ 81

สมองของเจียงหวนเกิดเสียง ‘วิ้ง’ ขึ้นมาทีหนึ่ง ขาวโพลนไปหมดถะ ถวายงาน?!ไม่ สงบใจไว้ อย่าได้ลนลาน ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้ก็เคยเรียกให้นางถวายงาน สุดท้ายก็เป็นเพราะอยากกินของว่างมื้อดึกต่างหากเจียงหวนฝืนยิ้มออกมา“หวังกงกง รบกวนรอสักครู่ ข้า ข้าจะไปเตรียมการที่ห้องครัวเดี๋ยวนี้…”หวังเต๋อกุ้ยกลับยิ้มตาหยีพลางส่ายหน้า“นายหญิงน้อยล้อเล่นแล้ว กฎการถวายงานท่านก็ทราบดี ตอนนี้เหล่าหมอม่อได้รออยู่ด้านนอกแล้วพ่ะย่ะค่ะ”เพิ่งกล่าวจบ หมอม่อกลุ่มหนึ่งก็เดินเข้ามาทันทีที่จางหมอม่อซึ่งเป็นผู้นำโบกมือ เหล่านางกำนัลน้อยก็รีบยกอ่างอาบน้ำมาทันที ภายในน้ำอาบที่กรุ่นด้วยไอร้อนมีกลีบดอกไม้ลอยฟ่อง“บ่าวจะปรนนิบัติจวงกุ้ยเหรินชำระกายนะเพคะ”จางหมอม่อยิ้มกว้างจนตาหยี“ข้าทำเองก็พอแล้ว”แต่เจียงหวนยังไม่ทันพูดจบ นางกำนัลทั้งหลายก็กดนางลงในอ่างอาบน้ำพร้อมรอยยิ้มทันทีพวกนางยิ่งหัวเราะ เจียงหวนก็ยิ่งรู้สึกขนลุกซู่นี่มันอาบน้ำที่ไหน? จะเชือดหมูชัดๆ !หลังขัดล้างกันไปพักหนึ่ง สมองของเจียงหวนก็มึนงงไปหมดไม่ง่ายเลยกว่าจะสวมเสื้อผ้าเสร็จ เมื่อกลับไปนั่งลงหน้าคันฉ่องทองแดง ยังไม่ทันผลัดลมหายใจ ก็เห็นหม
Baca selengkapnya

บทที่ 82

[แต่เรื่องเมื่อวานไม่พูดถึงสักคำ วันนี้กลับทำตัวสูงส่งเสียแล้ว นับเป็นสตรีผู้บริสุทธิ์อย่างไรกัน เป็นคนหลอกลวงหลายใจชัดๆ แถมยังเลือกหลอกเราโดยเฉพาะด้วย]เจียงหวนแทบเป็นเสียสติแล้วที่แท้ฮ่องเต้ถือสาเรื่องเมื่อคืนขนาดไหนกันนะ!นอกจากนี้ ทำไมความคิดในใจของเขายิ่งพูดก็ยิ่งพิสดารเล่านางไม่กล้าฟังต่ออีก เกรงว่าตนเองจะอับอายจนเป็นลมไปเสียเดี๋ยวนั้นในขณะที่เจียงหวนคิดว่าควรจะแก้สถานการณ์อย่างไรนั่นเอง หวังเต๋อกุ้ยก็พลันส่งเสียงขึ้นจากนอกตำหนัก“ฝ่าบาท กรมหมอหลวงมีเรื่องรายงาน บ่าวให้คนไปรอที่ห้องทรงพระอักษรแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฮั่วหลินก้มศีรษะลง ขนตาที่บดบังแววตาทำให้มองอารมณ์ไม่ออกสุดท้ายเพียงกล่าวเรียบๆ ว่า “เรายังมีงานราชการต้องจัดการ เจ้าไปพักผ่อนให้ดีก่อน”กล่าวจบ ก็สาวเท้ายาวจากไปเจียงหวนจึงได้ถอนใจอย่างโล่งอก ขาอ่อนแรงจนเกือบล้มลงบนพื้นอีกนิดก็จะเขินจนตายแล้วนางไม่กล้าคิดเลย หากไม่มีคนมาขัดจังหวะ ฮั่วหลินยังสามารถคิดพิสดารไปได้ถึงขนาดไหนอีกด้านหนึ่ง ห้องทรงพระอักษรในราชนิเวศน์หมอหลวงถวายบังคมฮั่วหลินอย่างเคารพ กระซิบเสียงเบาว่า “ทูลฝ่าบาท ยาที่จวงกุ้ยเหรินเป็นยาที่ทำขึ้
Baca selengkapnya

บทที่ 83

เสิ่นยี่ถอยหลังไปครึ่งก้าวพร้อมกับยกมือสองข้าง “ฟ้าดินเป็นพยาน เป็นเจ้าพวกลูกหมาในหน่วยองครักษ์ลับของเจ้ากำลังพนันกันว่ากุ้ยเหรินจะถวายตัวเมื่อไหร่ อัตราเดิมพันสูงไปถึงหนึ่งต่อสามแล้ว"“หุบปาก!”นิ้วของฮั่วหลินออกแรงอย่างกะทันหัน พู่กันชาดหักออกเป็นสองท่อน เสิ่นยี่หัวเราะร่ายิ่งกว่าเดิม“นางเป็นสนมของเจ้า หากเจ้าพึงใจจริงๆ เพียงออกราชโองการก็พอ เหตุใดต้อง…”เมื่อฮั่วหลินคิดถึงท่าทางของเจียงหวนตอนที่พบเขาในวันนี้ ภายในอกก็จุกแน่น“ที่เราต้องการคือความเต็มใจ”หากมีราชโองการให้เจียงหวนถวายงาน เช่นนั้นเขาจะต่างอันใดกับองครักษ์ที่บุกเข้าไปในตำหนักน้ำพุร้อนกันเล่า?เสิ่นยี่อดเดาะลิ้นไม่ได้ ภายในใจคิดว่าฮั่วหลินตกหลุมเข้าไปแล้วจริงๆในเมื่อเป็นเช่นนี้ ตัวเขาในฐานะสหายที่ดี จะไม่ช่วยสักหน่อยได้อย่างไรที่สำคัญที่สุดคือการพนันของหน่วยองครักษ์ลับ เขาก็วางเดิมพันไปเช่นกันรอยยิ้มของเสิ่นยี่เปล่งประกายขึ้นกว่าเดิม “อันที่จริงแล้วเรื่องยินยอมพร้อมใจก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ ข้ากลับมีวิธีบางอย่าง”เมื่อฮั่วหลินได้ยินดังนั้น แววตาก็วูบไหวเล็กน้อย “วิธีอะไร?”เสิ่นยี่ยกริมฝีปากยิ้มออกมา หล
Baca selengkapnya

บทที่ 84

กระทั่งชาดบนพู่กันชาดหยดลงบนฎีกา และกระจายตัวเป็นหมึกสีแดงกลุ่มหนึ่ง ฮั่วหลินกลับยังคงไม่รู้สึกตัว‘สามสิบหกกลยุทธ์พิชิตนารี’ เมื่อคืนของเสิ่นยี่ยังคงวนเวียนอยู่ในหัว ทำให้ฮั่วหลินไม่อาจสงบใจเนื่องจากเนื้อหามีมากเกินไป จนเด็กน้อยเรียนจนสับสนแล้วในขณะที่กำลังคิดถึงเรื่องนั้น เสียงรายงานของหวังเต๋อกุ้ยก็ดังเข้ามาว่า“ฝ่าบาท จวงกุ้ยเหรินได้รออยู่นอกตำหนักแล้วพ่ะย่ะค่ะ”ฎีกาในมือของฮั่วหลินปิดดัง ‘ป้าบ’ เข้าหากัน จากนั้นก็บังคับตนเองให้สงบและกระแอมเบาๆ ทีหนึ่ง“เบิกตัว”เจียงหวนเดินถือกล่องอาหารเข้ามา ทำความเคารพอย่างชดช้อย“หม่อมฉันถวายบังคมฝ่าบาท”กระโปรงสีกลีบบัวคลี่สลายอยู่บนพื้นราวกลีบดอกไม้ ปิ่นเงินเรียบง่ายที่ประดับอยู่บนผมพลิ้วไหวเบาๆ ไปตามการเคลื่อนไหว ไหวจนหัวใจของฮั่วหลินรู้สึกคันคะเยอเล็กน้อย[เมื่อก่อนไม่เคยรู้สึก ว่าการคารวะของจวงกุ้ยเหรินจะงดงามเพียงนี้][ชายกระโปรงคล้ายดอกโบตั๋น? แต่บุคลิกกลับคล้ายดอกซิ่ง [1] ยิ่งกว่า… ]เจียงหวนที่กำลังลุกขึ้นซวนเซทันที มือสั่นจนเกือบทำกล่องอาหารตกในยุคโบราณก็มีเกมออนไลน์เหรอ ไม่งั้นฮ่องเต้มาเล่นเรื่องเทพธิดาบุปผาอะไรกัน!
Baca selengkapnya

บทที่ 85

ทันทีที่คำพูดหลุดออกไป ทั่วทั้งห้องก็เต็มไปด้วยความเงียบสงัดเพื่อเว้นพื้นที่ให้พวกเขา นางกำนัลต่างยืนอยู่ห่างออกไปริมห้อง แม้แต่หวังเต๋อกุ้ยก็มิได้ปรนนิบัติอยู่ข้างกายฮั่วหลินนับจากเริ่มกินข้าว บริเวณรอบๆ ก็ไม่มีผู้ใดเอ่ยวาจาฮั่วหลินตกตะลึงไปแล้ว แม้แต่ความเย็นชาภายในดวงตาสีเข้มอันลึกล้ำคู่นั้นของเขาก็จางหายไปสามส่วนเขามองไปที่เจียงหวน ในก้นบึ้งของดวงตาเขียนเครื่องหมายคำถามอันเบ้อเริ่มไว้“ส่งเสียงกวนอะไรหรือ?”เสียงของฮั่วหลินมีกระแสความสงสัยกระทั่งมีกระแสความอบอุ่นของความเมตตาห่วงใยต่อผู้พิการทางสมอง ที่ทุกคนต้องรับผิดชอบอยู่ด้วยทว่าเจียงหวนไม่มีเวลามาสนใจเรื่องนี้ นางกำลังเค้นสมองคิดข้ออ้างเพื่อกลบเกลื่อนสถานการณ์นี้“หม่อมฉันหมายถึง…” นางนึกวิธีแก้ออกอย่างรวดเร็ว “หมายถึงจักจั่นที่อยู่นอกหน้าต่างหนวกหูเกินไปเพคะ…”ฮั่วหลินหันศีรษะมองออกไปนอกหน้าต่าง ในช่วงฤดูร้อนมีจักจั่นร้องอยู่ใต้ต้นไม้จริงๆ ทว่าเสียงนั่นเบามากจนแทบไม่ได้ยิน[เหตุใดเราจึงไม่ได้ยินเล่า?][หรือจวงกุ้ยเหรินจะมีหูพันลี้ เป็นผู้มีฝีมือที่เหมาะจะเป็นองครักษ์ลับเมื่อเจียงหวนได้ยินความในใจนี้ ก็รีบคีบ
Baca selengkapnya

บทที่ 86

เจียงหวนเหงื่อตกด้วยความละอาย ฮั่วหลินไม่รู้เลยว่า ตนต้องแสดงออกอย่างระมัดระวังเพื่อปกปิดความในใจมากเพียงใดนางไม่สังเกตเห็นหรือไง นางหมดคำพูดต่างหากแต่แขนเสื้อของฮั่วหลินก็พับขึ้นมาแล้ว ย่อมไม่อาจไล่คนเขาไปกระมังเจียงหวนจึงได้แต่สาธิต “ทำแบบหม่อมฉันนี่ หั่นเป็นชิ้นบางๆ ก็พอเพคะ”ฮั่วหลินพยักหน้า หยิบมีดทำอาหารขึ้นมาเขาเป็นคนที่เคยชินกับการใช้กระบี่ ยามนี้วิธีการจับมีดไม่ถูกแม้แต่น้อย เจียงหวนยังไม่ทันได้แก้ไขข้อผิดพลาด ก็ได้ยินเสียง ‘ฉับ’ ดังขึ้นมารากบัวขาดออกเป็นสองท่อนตามเสียง หน้าตัดเรียบลื่นเป็นมันวาว“ฝ่าบาท นี่เป็นการทำอาหาร มิใช่การประหารนะเพคะ”เจียงหวนมองจนปากอ้าตาค้าง หากรากบัวพูดเป็นแล้วล่ะก็ จะต้องร้องขอความเป็นธรรมจากกองเลือดแน่“เรารู้”ฮั่วหลินรู้สึกกระดากอายอยู่บ้าง ทว่าเขาปากแข็งนัก หยิบรากบัวขึ้นมาอีกท่อนแล้วคราวนี้ไม่หั่นคนแล้ว เปลี่ยนเป็นประหารด้วยการแล่เนื้อแทนเจียงหวนมองแผ่นรากบัวรูปร่างแปลกประหลาด หนาบางไม่เท่ากันที่อยู่บนโต๊ะ บางแผ่นยังถึงกับเละเป็นเศษซากด้วยฮั่วหลินมองมือของตนอย่างเงียบงัน จากนั้นก็มองไปที่รากบัว[เหตุใดหั่นรากบัวชิ้นเดียว
Baca selengkapnya

บทที่ 87

คนทั้งสองยุ่งอยู่ในห้องครัวตลอดเช้า ขณะนี้เวลาได้ล่วงเลยมาถึงยามเที่ยงแล้ว และอาหารก็ได้ถูกเตรียมพร้อมแล้วเช่นกันเจียงหวนจัดยำรากบัวเย็นรายการสุดท้ายขึ้นโต๊ะ ขณะจะถอยไปด้านข้าง ฮั่วหลินก็เอ่ยปากอย่างกะทันหันว่า“ยุ่งมาตลอดเช้าแล้ว นั่งลงกินข้าวกับเราเถอะ”น้ำเสียงของเขายังคงให้ความรู้สึกของการออกคำสั่ง ตามที่ผู้เป็นฮ่องเต้มักมี[เสิ่นยี่บอกว่าแบบนี้จะดูใส่ใจกว่า…นางน่าจะชอบใช่ไหม?]ดวงตาของเจียงหวนเบิกกว้างเล็กน้อย เงยหน้ามองไปที่ฮั่วหลินเหตุใดเสียงความในใจนี่ถึงได้เพี้ยนไปเรื่องอื่นอยู่หน่อยเล่า?ฮ่องเต้หนุ่มน้อยนั่งหยัดกายตรงอยู่หน้าโต๊ะ ใบหน้าเคร่งขรึม ทว่าเนตรหงส์ทั้งคู่นั้นกลับแฝงไปด้วยความคาดหวังอย่างเลือนราง[เหตุใดนางจึงไม่ขยับ? หรือว่าเราดุเกินไป?][ไม่เช่นนั้นลองพูดอีกทีดีหรือไม่ ลดน้ำเสียงให้อ่อนโยนหน่อย?]นี่หากเป็นในอดีต ไม่ต้องให้ฮั่วหลินเรียก เจียงหวนก็คงนั่งลงกินข้าวเองแล้วแต่หลังจากผ่านเหตุการณ์ที่บ่อน้ำพุร้อนและเรื่องการถวายงาน เจียงหวนก็ลังเลแล้วก่อนหน้าก็เป็นเพราะนางมักทำอาหารให้ฮ่องเต้ เพราะต้องการเอาใจเขา ถึงได้สร้างความเข้าใจผิดว่านางก็ชอบเขาเช่นก
Baca selengkapnya

บทที่ 88

[ดังนั้น นางชอบรากบัวที่เราหั่น หรือชอบเรากันล่ะ?!]บนหน้าผากของเจียงหวนมีเครื่องหมายคำถามขนาดใหญ่ มุมปากแทบจะกลั้นไม่อยู่แล้วผู้ใดจะคิดว่าฮ่องเต้ที่ตัดสินเรื่องราวอย่างเด็ดขาดในราชสำนัก ยามอยู่ลำพังจะหมกมุ่นเพราะรากบัวชิ้นเดียวเช่นนี้“รากบัวนี้รสชาติเป็นเช่นใดเพคะ?” นางจงใจถามเจียงหวนมิได้หั่นรากบัวใหม่อีกครั้ง ตอนนั้นเพียงให้ฮั่วหลินหั่นเพิ่มอีกเท่านั้น แม้จะดูไม่หนาขนาดนั้นแล้ว แต่ก็มิได้ดูสวยงามมากนักฮั่วหลินพยักหน้าอย่างจริงจัง “ใช้ได้”[เรายอมรับว่ารากบัวที่เราหั่นไม่สมบูรณ์แบบอยู่บ้าง แต่ฝีมือนางดีนี่นา][อร่อยจนอยากเต้นระบำแล้ว นี่เป็นรากบัวที่อร่อยที่สุดที่เราเคยกินมาเลย!][แถมยังเป็นของที่เราทำกับนางด้วย!][จะบอกนางดีไหมนะว่า ที่จริงตอนเราหั่นรากบัว ได้แอบอธิษฐานด้วย…][ไม่ได้ไม่ได้ น่าขายหน้าเกินไปแล้ว ยังคงไม่พูดจะดีกว่า]เจียงหวนอดไม่อยู่ ‘พรวด’ พ่นเสียงหัวเราะออกมาความในใจของฮ่องเต้นั้นนางได้ยินทั้งหมด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงตอนอธิษฐานเลยความปรารถนานั่นใสซื่ออย่างยิ่ง หวังเพียงจะได้พบนางทุกวันเท่านั้นในฐานะฮ่องเต้ผู้หนึ่งๆ เรื่องเล็กน้อยเช่นการพบนางนี้ ต้อง
Baca selengkapnya

บทที่ 89

เจียกุ้ยเฟยถูกกักบริเวณมาหลายวันแล้ว ประตูห้องภายในตำหนักของนางปิดสนิท แม้แต่เหล่านางสนมที่เมื่อก่อนไปมาหาสู่กันเป็นประจำก็ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้ทว่าแม้นางจะออกไปไม่ได้ แต่ข่าวคราวที่ควรได้ฟังนางก็มิได้พลาดแม้แต่ข่าวเดียวเวลานี้ เจียกุ้ยเฟยเอนกายอยู่บนเก้าอี้กุ้ยเฟย ฟังข่าวที่คนข้างกายรายงานเข้ามา สีหน้าอึมครึมราวจะสามารถกลั่นเป็นน้ำออกมาได้“วันนี้ ฝ่าบาททรงเรียกนางสารเลวนั่นมาทำอาหารถวายอีกแล้วหรือ?”นางกำนัลที่ไปสืบข่าวมาคุกเข่าอยู่บนพื้น เนื้อตัวสั่นเท่า บนหน้าผากมีเหงื่อเย็นเยียบผุดออกมาชั้นหนึ่ง“เพคะ ทูลพระสนม ได้ยินว่าฝ่าบาทยัง ยังทรงเข้าครัวช่วยจวงกุ้ยเหรินทำอาหารด้วยพระองค์เองอีกด้วยเพคะ…”เสียงของนางกำนัลเบาลงเรื่อยๆ จนแทบไม่ได้ยิน น่าหวาดเกรงเป็นอย่างยิ่งว่าคำตอบของตนจะชักนำเพลิงโทสะที่รุนแรงขึ้นของเจียกุ้ยเฟยมา“เสียงดังขึ้นหน่อย พูดต่อไปให้ข้า”เจียกุ้ยเฟยยกจอกชาขึ้นมา ถามต่ออย่างขบเขี้ยวเคี้ยวฟันว่า “ฝ่าบาทยังทรงทำสิ่งใดอีก?”“ได้ ได้ยินว่าฝ่าบาททรงประทานปิ่นหยกลายดอกมะลิเพคะ…”เพล้งนางกำนัลยังไม่ทันกล่าวจบ จอกชาก็แตกกระจายอยู่ข้างเท้านางเสียแล้ว น้ำชา
Baca selengkapnya

บทที่ 90

“ท่านพี่รู้ใจข้าจริงๆ”เพื่อไม่ให้หลงเหลือจุดอ่อนไว้ เจียกุ้ยเฟยหยิบตะบันไฟขึ้นมา เพียงสะบัดเบาๆ จดหมายก็ติดไฟเปลวไฟลามไปทั่วจดหมายอย่างรวดเร็ว ตัวกระดาษถูกเปลวไฟกลืนกินกลายเป็นขี้เถ้าหลังจัดการเรื่องเหล่านี้เสร็จ นางจึงมีเวลาว่างมาพินิจผู้ที่อยู่เบื้องหน้าชุนเถาเป็นสตรีนางหนึ่ง ดูไปแล้วมิได้แข็งแรงกำยำแต่งอย่างใด รูปโฉมธรรมดาไม่มีสิ่งใดพิเศษ เป็นคนที่ผู้อื่นเห็นเพียงครั้งเดียวก็จะลืมไปแบบนั้นแต่คนไม่อาจตัดสินจากภายนอก พี่ใหญ่ย่อมไม่มีทางทำร้ายนางเจียกุ้ยเฟยสงบใจลง สอบถามว่า “ข้าต้องการให้เจ้าลงมือในราตรีนี้เลย ทำได้หรือไม่?”ยิ่งลงมือเร็วเท่าใด ก็ยิ่งทำให้คนไม่ทันตั้งตัวเท่านั้นหนนี้ไม่อาจปล่อยให้เจียงหวนมีโอกาสถ่วงเวลาเช่นครั้งก่อนอีกเด็ดขาดชุนเถาโค้งริมฝีปากยิ้มอย่างมั่นใจ “ย่อมได้แน่นอนเพคะ รับบัญชาพระสนม ทว่าบ่าวมีเพียงผู้เดียว ยังต้องให้พระสนมช่วยล่อทหารยามที่เฝ้าอยู่ด้านนอกออกไปด้วยเพคะ”เจียกุ้ยเฟยพยักหน้าอย่างพอใจ เคาะปลายนิ้วกับโต๊ะเบาๆ“ในช่วงยามจื่อ [1] ของคืนวันนี้ ข้าจะส่งคนไปล่อทหารยามออกไป เจ้าไปครั้งนี้ต้องทำให้สำเร็จให้จงได้!”“เพคะ”เวลาไหลผ่านไปอ
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
7891011
...
25
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status