All Chapters of เกิดใหม่ครานี้ ข้าขอถีบอาจารย์ผู้ลำเอียงทิ้ง: Chapter 81 - Chapter 90

100 Chapters

บทที่ 81

“หลังพลังวิญญาณของ ‘เป่ยโจว’ ทวีปทางเหนือและ’ หนานโจว’ ทวีปทางใต้สองทวีปถดถอย สำนักใหญ่ของทวีปทางเหนือและใต้ก็พากันอพยพมาที่ตงโจวเรามากขึ้นเรื่อย ๆ ครั้งนี้ที่เป็นฝ่ายออกตัวเข้าร่วมงานชุมนุมใหญ่ของสำนักเซียน ก็เพราะคิดอาศัยโอกาสจากงานชุมนุมของเหล่าสำนักเซียน มาจัดแบ่งทรัพยากรในการฝึกฝนใหม่อีกครั้ง”“ข้าได้ยินว่า งานประลองในครั้งนี้ใช้ระบบสะสมคะแนน ศิษย์ทุกคนที่ติดอันดับในการแข่งขัน จะสามารถสะสมคะแนนให้สำนักตนได้ เทียบกับระดับสร้างฐานปราณและหลอมแก่นปราณแล้ว คะแนนที่ระดับหลอมปราณจะได้รับมีน้อยมาก”พูดอีกอย่างก็คือ การแข่งขันของระดับหลอมปราณเป็นเพียงการต่อสู้กันเล็ก ๆ น้อย ๆ เท่านั้นจุดสำคัญยังคงอยู่ที่ระดับสร้างฐานปราณและระดับหลอมแก่นปราณจากที่เวินจิ่นจือรู้มา หลายสำนักได้เตรียม ‘ไพ่ตาย’ ไว้แล้ว โดยเฉพาะทางหนานโจวมีหลายสำนักที่มีวิชายุทธ์รูปแบบพิเศษ ศิษย์ในสำนักแค่ขั้นต้นก็อยู่ที่ระดับสร้างฐานปราณแล้ว ส่วนผู้ที่อยู่ในระดับสร้างฐานปราณขั้นสมบูรณ์แต่มีความสามารถเท่าระดับหลอมแก่นปราณก็มีไม่น้อยดังนั้น เพื่อไม่ให้สำนักกระบี่เสวียนเทียนขายหน้าในการประลองใหญ่ของเหล่าสำนักเซียนครั้งนี้
Read more

บทที่ 82

ชาติก่อน จี้ฝูเหยาเข้าร่วมงานชุมนุมใหญ่ของสำนักเซียนในอีกห้าปีให้หลังตอนนั้นความวุ่นวายในตงโจวสงบลงแล้ว เหล่าสำนักใหญ่ก็‘กลับมาดี’ กันอีกครั้ง ดังนั้น ทันทีที่จี้ฝูเหยาปรากฏตัวในงานประชุมก็ได้รับความเมตตาจากหลายฝ่ายและหลังจากนั้นยังได้อันดับที่ดี จัดอยู่ในสามอันดับแรกอีกด้วยส่วนที่ว่าอันดับนี้ได้มาอย่างไรนั้น ผู้อื่นไม่รู้ แต่อวี้หลานชิงที่ฝึกซ้อมเป็นเพื่อนนาง คอยป้อนกระบวนท่าให้นางก่อนงานประลองจะไม่รู้ได้อย่างไรยังมิใช่เพราะฝีมือของปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนที่ทำเพื่อศิษย์รักของตนหรือ!ครั้งนี้ นางไม่มีทางให้ศิษย์อาจารย์คู่นั้นสมหวังแน่ท่ามกลางแสงจันทร์ อวี้หลานชิงกลับไปถึงยอดเขาชิงจู๋ พักอยู่ครู่หนึ่งก็จะออกไปอีก“ศิษย์น้อยจะไปที่ใดหรือ?” เสิ่นหวยจั๋วที่เห็นเงากระบี่วาบผ่านยอดเขาไปเรียกคนไว้“ท่านอาจารย์” อวี้หลานชิงประสานมือคำนับ ตอบกลับอย่างประหม่าเล็กน้อยว่า “ศิษย์อยากไปที่ยอดเขาวั่นเจี้ยน เพื่อศึกษาค่ายกลกระบี่ที่ผู้อาวุโสในสำนักเหลือไว้อีกครู่เจ้าค่ะ”หลายวันมานี้ เวลาว่างทั้งหมดที่นางแบ่งออกมาได้ล้วนนำไปใช้กับยอดเขาวั่นเจี้ยนเดิมคิดว่าอาจารย์จะเตือนให้นางใส่ใจกับการพ
Read more

บทที่ 83

ใช่แล้ว ไม่ผิดแน่นางคิดว่าค่ายกลกระบี่แห่งนั้น เป็นผลงานศิษย์น้องหญิงร่วมสำนักของปรมาจารย์กระบี่ฉางยวน ‘ปรมาจารย์กระบี่เยวี่ยหวา’!กล่าวกันว่าวิชากระบี่ที่ปรมาจารย์กระบี่เยวี่ยหวาใช้ วิวัฒนาการมาจากวิชากระบี่เสวียนเทียนที่คิดค้นโดยปรมาจารย์อาวุโสชางหวน วิชากระบี่ของปรมาจารย์กระบี่ฉางยวน ก็พัฒนามาจากต้นตอเดียวกันทว่า ในชาติก่อนอวี้หลานชิงเคยเห็นปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนและจี้ฝูเหยาฝึกกระบี่ วิชากระบี่ที่คนทั้งสองใช้แตกต่างกันอยู่บ้าง แต่ปราณกระบี่ที่ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนผนึกไว้บนกระบี่ของจี้ฝูเหยาพวกนั้น กลับเหมือนวิชากระบี่ที่จี้ฝูเหยาฝึกทุกประการนางคิดว่า บางทีสิ่งที่ปรมาจารย์กระบี่สอนให้จี้ฝูเหยาตั้งแต่แรก ก็คือวิชากระบี่ที่ปรมาจารย์กระบี่เยวี่ยหวาใช้แบบนี้ก็หาได้ง่ายแล้วสองวันนี้ อวี้หลานชิงได้กำหนดจุดเป้าหมายไว้แล้ว……เมื่อเขตอาคมที่ตนทิ้งไว้ถูกแตะต้องปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนก็รับรู้ได้ในทันที“ท่านอาจารย์?”จี้ฝูเหยาที่กำลังแนบฝ่ามือกับเขาลืมตาขึ้นอย่างกะทันหัน นางที่กำลังถูกเขาใช้พลังวิญญาณชำระล้างเส้นลมปราณและชักนำการโคจรลมปราณตามเคล็ดวิชาใหม่ มองเขาด้วยความไม่เข้าใจเ
Read more

บทที่ 84

กลไกที่ถูกตั้งไว้ในค่ายกลกระบี่ ถูกขับเคลื่อนโดย ‘ศิลามิติดับจันทรา’ ที่ถูกซ่อนไว้กลางค่ายกลหลังเปิดใช้ สามารถแยกมิติในค่ายกลออกจากโลกภายนอกได้ในระยะเวลาหนึ่งในช่วงเวลานี้ ค่ายกลกระบี่จะกลายเป็นหนึ่งเดียวยกเว้นผู้ทรงพลานุภาพระดับฝ่าด่านเคราะห์หรือระดับมหายานที่มีความสามารถในการฉีกกระชากมิติอยู่ที่นี่มิเช่นนั้นผู้ใดก็ไม่มีวิธีเข้ามา และยิ่งไม่สามารถออกไปจากที่นี่ได้ภายในค่ายกลกระบี่เงียบอย่างประหลาด แม้แต่เสียงลมก็ถูกปิดกั้นไว้ ด้วยเหตุนี้ ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนจึงไม่อาจแม้แต่จะสงสัยว่าตนฟังผิดฝัน…เฟื่อง?ศิษย์สตรีนางนี้ นางกล้าได้อย่างไร?เพลิงโทสะพวยพุ่ง ปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนปรารถนาที่จะสะบัดแขนเสื้อจากไป ทว่าแม้เขาจะแข็งแกร่ง เพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับเทพจุติ ที่ไม่มีความสามารถในการฉีกมิติ เขายังห่างจากระดับฝ่าด่านเคราะห์และระดับมหายานซึ่งไม่มีผู้ใดในตงโจวบรรลุถึงนานแล้วอีกไกลดังนั้น ต่อให้ต้องการจะจากไป ก็จะต้องรอหลังหนึ่งก้านธูป ให้ความสามารถของศิลามิติดับจันทราสลายไปมองดูท่าทางไร้ความสามารถและท่าทีโมโหของเขา อวี้หลานชิงพลันรู้สึกน่าขันขึ้นมา ในใจอดยกนิ้วโป้งให้ปรมาจารย์
Read more

บทที่ 85

ตากลมหนาวอยู่ที่หลังเขากว่าครึ่งคืน กระทั่งบริเวณขอบฟ้าปรากฏแสงระเรื่อขึ้นมา เขาถึงกลับไปยังยอดเขาหลิงเซียวเงาร่างที่เดิมควรนั่งฝึกฝนอยู่บนเบาะรองนั่ง บัดนี้เอนกายอยู่บนตั้งเล็กที่หน้าประตูมือสองข้างเท้าคาง เอียงศีรษะเล็กน้อย เผยใบหน้าที่กำลังนิทราดวงหนึ่งออกมา ขาทั้งสองข้างที่งอขึ้นกับชายกระโปรงที่ห้อยอยู่ข้างเตียง ยิ่งทำให้นางดูตัวเล็กและบอบบางไปทั้งตัวแววตาของปรมาจารย์กระบี่ฉางยวนอ่อนโยนขึ้นในฉับพลันยื่นมือออกไปเสกผ้าห่มบางผืนหนึ่ง คลุมให้นางอย่างแผ่วเบาทว่าในยามนี้ เงาร่างบนเตียงได้ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาแล้วในตอนแรก นางขดตัวสะดุ้งด้วยความตกใจ แต่หลังเห็นชัดว่าเป็นเขาก็ลอบถอนใจอย่างโล่งอก แก้มแดงขึ้นมาและเผยความเขินอายออกมาเล็กน้อยแทน“ฝูเหยาเห็นท่านอาจารย์ไม่กลับเสียที จึงเฝ้าอยู่ตรงนี้ด้วยความเป็นห่วง คิดว่าหากท่านอาจารย์กลับมาก็จะสามารถเห็นได้ทันทีเจ้าค่ะ”เมื่อเห็นแววตาที่ใสกระจ่างและเขินอายดุจลูกกวางน้อย หัวใจที่ถูกลมหนาวพัดจนแข็งกระด้าง ก็ค่อย ๆ อ่อนลงเมื่อคิดถึงความเบื่อหน่ายและการหลบเลี่ยงก่อนหน้า ก็บังเกิดความรู้สึกผิดขึ้นมา น้ำเสียงจึงอ่อนโยนขึ้นอีก “ครั้งหน้
Read more

บทที่ 86

ช่วงเวลาสามเดือนผ่านไปอย่างรวดเร็วงานชุมนุมใหญ่ของสำนักเซียนในครั้งนี้ ยิ่งใหญ่เป็นพิเศษกล่าวกันว่า สำนักเซียนที่เข้าร่วมงานชุมนุมในครั้งนี้ ทั้งสำนักเล็กสำนักใหญ่รวมกันแล้วเกือบร้อยสำนักกระทั่งสำนักที่ขนาดค่อนข้างเล็กบางแห่งเพียง เพื่อแย่งที่ให้ได้ก่อน ก็ยังเดินทางมาถึงเมืองหย่างเซียนซึ่งเป็นสถานที่จัดงานชุมนุมตั้งแต่เดือนที่แล้ว เพื่อไม่ให้เมื่อถึงเวลาคนเยอะจนไร้ที่พักส่วนสำนักใหญ่อย่างสำนักกระบี่เสวียนเทียนนั้น ย่อมไม่มีความกังวลเช่นนี้พวกเขามีเรือนพักตากอากาศของสำนักอยู่ในเมืองหย่างเซียน กินขนาดพื้นที่กว้างขวางพอจะรองรับศิษย์นับพันก่อนงานชุมนุมจะเริ่มขึ้นเพียงสามวัน เรือวิญญาณของสำนักกระบี่เสวียนเทียนถึงได้เตรียมจะออกเดินทางในสวนไผ่เขียวมองดูอาจารย์ที่ไม่รีบร้อน แถมยังกำลังชิมชาดอกกุ้ยฮวาที่เพิ่งคั่วใหม่ อวี้หลานชิงจึงสอบถามว่า “อาจารย์ ครั้งนี้พวกเราจะเดินทางด้วยตัวเอง แล้วค่อยไปรวมตัวกับสำนักเมื่อถึงเมืองหย่างเซียนหรือเจ้าคะ?”เสิ่นหวยจั๋วส่ายศีรษะ แล้วกล่าวเป็นเหตุเป็นผลว่า “แน่นอนว่าไม่ ระยะทางไปเมืองหย่างเซียนนั้นไกลมาก และพอถึงแล้ว ก็ยังต้องพักที่เรือนตากอากา
Read more

บทที่ 87

ยืนอยู่ในตำแหน่งผู้อาวุโสสำนักชั้นในเช่นเดียวกัน มีศิษย์ยืนอยู่ด้วยด้านข้างเหมือนกันศิษย์อาจารย์ทั้งสองคู่ ดึงดูดสายตาของคนด้านล่างมามากมายผ่านไปสามเดือน คนจำนวนไม่น้อยลืมเรื่องเดิมพันในตอนนั้นไปแล้ว เมื่อเห็นพวกเขาปรากฏตัวขึ้นพร้อมกัน จึงนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าขึ้นมาได้เทียบกับก่อนหน้านั้น ต่างมีความคิดเห็นแตกต่างกันตอนนี้คนส่วนใหญ่ ล้วนไม่คิดว่าอวี้หลานชิงจะเอาชนะได้ข่าวที่สำนักใหญ่ของทางหนานโจวและเป่ยโจวก็มาเข้าร่วมงานชุมนุมใหญ่ของสำนักเซียนในครั้งนี้ ได้แพร่กระจายออกไปแล้ว ทุกคนจึงรู้ว่าการแข่งขันในงานชุมนุมของบรรดาสำนักเซียนครั้งนี้ จะต้องดุเดือดอย่างที่สุดเป็นแน่ระดับพลังยุทธ์ยิ่งสูง คิดจะได้อันดับที่ดีก็ยิ่งลำบากแม้อวี้หลานชิงจะมีพรสวรรค์สูงส่ง แต่หากเปรียบทั่วแดนบำเพ็ญเพียรแล้ว นางก็อาจมิใช่ผู้ที่มีความโดดเด่นที่สุด ยิ่งไปกว่านั้น ระยะเวลาที่นางเข้าสู่ระดับสร้างฐานปราณยังสั้นนัก แถมยังไม่มีอาจารย์ที่มีชื่อเสียงคอยชี้แนะอีกไม่เหมือนจี้ฝูเหยา ความก้าวหน้าในช่วงไม่กี่เดือนมานี้ของนางเป็นที่ประจักษ์ รวมกับการที่ผู้ฝึกตนระดับหลอมปราณยังคงมีร่างกายเหมือนปุถุชนคนธรรมดา
Read more

บทที่ 88

ในแผ่นหยกจารึก นอกจากผู้ฝึกตนของสำนักใหญ่ต่าง ๆ ในตงโจวแล้ว ยังบันทึกข้อมูลผู้ฝึกยุทธ์ที่มาจากสำนักใหญ่ของหนานโจวและเป่ยโจวไว้ด้วยภายในนั้น อวี้หลานชิงเห็นชื่อที่คุ้นตาอยู่หลายชื่อ ยกตัวอย่างเช่นสหายซือถูแห่งสำนักเทียนเหยี่ยนของเป่ยโจว ยังมีศิษย์พี่หญิงเฝิงแห่งยอดเขาวั่งเฉินของสำนักกระบี่เสวียนเทียนของพวกนางด้วย ล้วนอยู่ในรายชื่อทั้งหมดภายในแผ่นหยกจารึกแนะนำไว้อย่างละเอียดอย่างมากนอกจากชื่อแซ่ สำนัก อาจารย์ และรากวิญญาณแล้ว แม้แต่กระบวนท่าและอาวุธวิเศษที่คนเหล่านี้ใช้ประจำก็มีแนะนำด้วยข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเช่นนี้ ก็ไม่รู้ว่าผู้ที่หลอมสร้างแผ่นหยกจารึกชิ้นนี้ไป ‘ขุดข้อมูล’ มาจากที่ใดกันเพราะถึงแม้ว่านางกับศิษย์พี่หญิงเฝิงจะรู้จักกัน แต่ตอนนี้เมื่อได้เห็นแผ่นหยกจารึกถึงรู้ว่า ที่แท้อาวุธวิเศษที่นางถนัดมิใช่กระบี่ที่พบเห็นได้บ่อยที่สุดในสำนักเสวียนเทียน แต่เป็นพัดที่ทำจากขนของสัตว์ประเภทวิหคด้ามหนึ่งยังมีซือถูเหมี่ยวแห่งสำนักเทียนเหยี่ยน อาวุธที่เขาชอบใช้ที่สุดในยามประลองกับผู้อื่น ไม่ใช่เข็มทิศที่พกติดมืออยู่ตลอด แต่เป็นกระบวยน้ำเต้าอันหนึ่งไม่ผิด ‘กระบวยน้ำเต้า’ ก็คือกระบวย
Read more

บทที่ 89

“ไม่สนใจผู้อื่น ชอบเอาชนะ อารมณ์ร้อน ได้ยินว่าก่อนหน้านี้ยังเคยทำร้ายคนที่หน้าหอคุมกฎด้วย"“ไม่แปลกที่ก่อนหน้านี้ท่านปรมาจารย์กระบี่จะไม่รับนางเป็นศิษย์ แล้วรับเพียงศิษย์น้องหญิงจี้เท่านั้น”“ชิ ก็เพราะแบบนี้นางถึงได้จงใจหาเรื่องศิษย์น้องหญิงจี้ล่ะสิ? แถมยังบอกว่า การชี้แนะของท่านปรมาจารย์กระบี่สู้ผู้อาวุโสเสิ่นไม่ได้ ช่างทำให้คนอยากหัวร่อจนฟันร่วงจริง ๆ ข้าว่านางเข้าตำรา ‘องุ่นเปรี้ยว’ ที่บอกว่าองุ่นเปรี้ยวเพราะตัวเองไม่ได้กิน ใส่ร้ายป้ายสีเพราะไม่อาจได้มาครอบครองมากกว่า”จี้ฝูเหยารอให้พวกเขาพูดจบ ค่อยคัดค้านด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “พวกท่านอย่าได้กล่าวเช่นนั้นอีกเลย อาจารย์อาอวี้มิใช่คนแบบนั้น”การโน้มน้าวแบบนี้มีแต่จะให้ผลลัพธ์ที่ตรงกันข้ามเท่านั้น “ศิษย์น้องหญิงจี้ นางถึงกับบังคับให้เจ้าขอโทษนางต่อหน้าทุกคนในสำนักแล้ว เหตุใดเจ้ายังพูดแทนนางอีกเล่า?”งานชุมนุมใหญ่ของสำนักเซียนในครั้งนี้ สำนักกระบี่เสวียนเทียนมีคนไปทั้งสิ้นร่วมพันเรือวิญญาณทั้งสองลำล้วนมีคนนั่งอยู่ไม่น้อยบรรดาศิษย์ของยอดเขาวั่งเฉิน ก็นั่งอยู่บริเวณมุมห้องโดยสารขนาดใหญ่ที่ชั้นหนึ่งของเรือวิญญาณเมื่อได้ยินเสีย
Read more

บทที่ 90

ล่ำลือกันว่า เมืองหย่างเซียนเคยเป็นสถานที่ลงทัณฑ์ของสวรรค์เคยมีเซียนจากดินแดนเบื้องบนถูกเนรเทศลงมาด้วยเหตุนี้ แม้บริเวณรอบเมืองหย่างเซียนจะอุดมไปด้วยพลังวิญญาณ แต่กลับมีข้อจำกัดจำนวนมากสำหรับผู้ฝึกตนระดับสูง ในสถานที่แห่งนี้ ยิ่งระดับพลังยุทธ์แข็งแกร่งมากเท่าใด ก็ยิ่งถูกควบคุมจำกัดได้ง่ายขึ้นเท่านั้นแน่นอนว่าในที่นี่ ระดับความแข็งแกร่งของพลังยุทธ์ที่ว่าหมายถึงระดับกำเนิดวิญญาณขึ้นไป ผู้ฝึกยุทธ์ที่ต่ำกว่าระดับกำเนิดวิญญาณจะไม่ได้รับผลกระทบส่วนความสามารถในการพลิกภูเขาคว่ำทะเลของผู้แข็งแกร่งระดับจุติเทพเหล่านั้น เมื่ออยู่ที่นี่ก็จะไม่อาจสำแดงออกมาได้เลยอวี้หลานชิงเคยได้ยินคำกล่าวหนึ่งที่ว่า ที่เหล่าสำนักใหญ่กำหนดให้สถานที่จัดงานชุมนุมใหญ่ของสำนักเซียนเป็นที่นี่ ก็เพราะที่นี่ควบคุมความสามารถของผู้ฝึกตนระดับสูงได้งานชุมนุมใหญ่ของสำนักเซียนเกี่ยวพันถึงการแบ่งทรัพยากรในตงโจว จึงมักเกิดข้อพิพาทขระหว่างสำนักต่าง ๆ มีเพียงเช่นนี้จึงจะรับประกันอย่างสูงสุดได้ว่า เหล่าผู้ฝึกตนที่มาร่วมงานชุมนุมจะปลอดภัยไร้กังวล และมีเพียงเช่นนี้เท่านั้นจึงจะยุติธรรมงานชุมนุมใหญ่ของสำนักเซียนถูกจัดขึ้น
Read more
PREV
1
...
5678910
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status