บททั้งหมดของ มรสุมรัก CEO ซาตาน: บทที่ 121 - บทที่ 130

278

บทที่ 121

ติงเจียซือทำหน้าบึ้ง แต่ไม่รู้นึกครึ้มอะไร หัวเราะออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย“เซิ่นหรูซวง เธอรู้ไหมว่าทำไมซิงจือเหยียนถึงชอบลู่ลู่ แต่ไม่ชอบเธอ?”“ก็เพราะลู่ลู่ดีกว่าเธอยังไงล่ะ ทั้งเห็นอกเห็นใจและรู้ความ ไม่เหมือนคนแข็งกร้าวอย่างเธอ ซิงจือเหยียนก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง ไม่มีทางชอบผู้หญิงที่แข็งกร้าวอย่างเธอแน่นอน เธอควรหัดเรียนรู้จากลู่ลู่ไว้บ้าง ลองออดอ้อนและทำตัวอ่อนแอดูบ้างสิ”“เตียงนี้ซิงจือเหยียนจัดการให้ทันทีที่ลู่ลู่ขอร้องเขา”ติงเจียซือหัวเราะอย่างเย้ยหยัน “แย่หน่อยนะ เธอพลาดโอกาสทองไปแล้ว แม้ว่าลู่ลู่กับซิงจือเหยียนจะห่างกันตอนอยู่เมืองนอก เธอก็ยังไม่มีปัญญาแทรกตัวเข้าไปอยู่ในใจของซิงจือเหยียนได้เลย เห็นได้ชัดว่าเธอมันไร้ค่าแค่ไหน”เซิ่นหรูซวงกำหมัดแน่น และยิ้มเย็น “ฉันบอกแล้ว ในเมื่อแย่งเตียงไปแล้ว ก็จงเอาโรคภัยไข้เจ็บไปด้วยทั้งหมด”“ในเมื่อพวกคุณหน้าด้าน กล้าแย่งเตียงจากคนแก่คนหนึ่ง ถ้าอย่างนั้นฉันก็ขออวยพรให้พวกคุณหายช้า ๆ ก็แล้วกัน”ติงเจียซือยิ้มเยาะ “ดูทรงแล้ว ยังไม่แน่หรอก ว่าใครจะตายก่อนกัน ฉันได้ยินมาว่ายายแก่นั่นเป็นมะเร็งปากมดลูกระยะสุดท้ายไม่ใช่เหรอ? ยากจนจนไม่มี
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 122

พลังของคนมุงนั้นมีอานุภาพมาก ในเวลาไม่กี่นาที ข่าวลือทั้งหมดก็แพร่สะพัดไปในหมู่ผู้คนที่มาล้อมดูเหตุการณ์ และเล่าปากต่อปากอย่างรวดเร็วตอนนี้ผู้คนเบียดเสียดกันเต็มทั้งในและนอกห้อง พวกเขามองและซุบซิบเรื่องเธอกับติงเจียซือ ที่อยู่กลางฝูงชนนี่แหละคือผลลัพธ์ที่เซิ่นหรูซวงต้องการเรื่องที่ติงเจียซือและคนในครอบครัวแย่งเตียงนั้น เป็นความจริงที่ไม่อาจโต้แย้งได้ตอนนี้เธอจึงต้องอาศัยแรงกดดันจากสาธารณชนบีบให้ติงเจียซือพาคนในครอบครัวออกไปชุดที่เธอสวมอยู่ตอนนี้คือชุดนักเรียน ในสายตาของสังคม นักเรียนคือกลุ่มคนที่ควรได้รับการปกป้องและช่วยเหลือดังนั้นชุดนักเรียนจึงกลายเป็นเครื่องมือที่ช่วยทำให้กระแสวิพากษ์วิจารณ์รุนแรงมากยิ่งขึ้นเซิ่นหรูซวงมองดูสีหน้าของติงเจียซือผ่านซอกนิ้วสามารถบรรยายสีหน้าของติงเจียซือได้เลยว่า เหยเกจนเหมือนกินขี้เข้าไปหน้าดำคร่ำเครียด ทั้งยังบิดเบี้ยว และเคียดแค้นเซิ่นหรูซวงยกมุมปากขึ้นอย่างเย้ยหยัน และขณะที่ติงเจียซือคิดจะเดินออกไป เธอก็คว้าชายเสื้อติงเจียซือเอาไว้จากนั้นเธอก็ปล่อยโฮออกมาดังกว่าเดิมในชั่วพริบตา“พวกคุณอย่าคิดหนี ถ้าไม่คืนเตียงยายฉันมา ก็อย่าหว
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 123

เมื่อเผชิญหน้ากับคนกลุ่มใหญ่ที่โกรธเกรี้ยว ความยโสของพวกติงเจียซือก็หายไปสิ้น ไม่เหมือนตอนที่อยู่ต่อหน้าเซิ่นหรูซวง ถูกบีบคั้นจนหน้าซีดขาว อ้าปากพะงาบ ๆ พูดอะไรไม่ออกสักคำชายวัยกลางคนที่อยู่บนเตียงรีบยัดน่องไก่ทอดในมือให้กับคนอื่น แล้วรีบใช้หลังมือเช็ดคราบน้ำมันและเศษไก่ทอดที่มุมปากออกจากนั้นเขารีบทิ้งตัวลงบนเตียง เอามือกุมหน้าอก และแสร้งทำเป็นหอบหายใจ“โอ๊ย ไม่ไหวแล้ว เจ็บมากเลย ตามหมอมานี่หน่อย เจ็บจริง”ทุกคนต่างก็มองออก ว่าชายวัยกลางคนบนเตียงนั้นแสร้งป่วยได้ไม่เนียนเลย แต่ติงเจียซือและครอบครัว กลับทำราวกับว่าจับจุดอะไรบางอย่างได้ รีบโบ้ยความผิดทั้งหมดไปให้เซิ่นหรูซวง เจียงเสี่ยวชุนและฝูงชนที่มุงดูทันทีติงเจียซือโกรธจัดเป็นพิเศษ ดวงตาเต็มไปด้วยความขุ่นแค้น กัดฟันจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ“เป็นเพราะพวกเธอ พ่อฉันเลยอาการกำเริบ ยังไม่ไสหัวไปอีก!”ผู้คนต่างหัวเราะเยาะพร้อมกันในทันที “คิดว่าพวกเราตาบอดหรือไง?”“ที่นี่รักษาโรคกระเพาะนะ แถมฉันยังเห็นในประวัติการรักษาแล้วว่าพ่อเธอ มารักษาโรคกระเพาะลำไส้อักเสบ แล้วจะมากุมหน้าอกทำไม ถ้าเจ็บหน้าอกก็ต้องไปแผนกอื่นสิ มาเนียนทำไมตรงนี้?”
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 124

ตอนที่เว่ยอวิ่นลู่ สั่งให้คนเอาคุณยายของเจียงเสี่ยวชุน ที่เป็นผู้ป่วยมะเร็งมดลูกระยะสุดท้าย ไปนอนอยู่ตรงทางเดิน ทำไมซิงจือเหยียนถึงไม่เห็นพูดกับเธอว่าก้าวร้าวข่มเหงคนอื่นบ้างล่ะ?ซิงจือเหยียนมักจะเป็นคนสุขุมและฉลาดหลักแหลมในทุกเรื่อง แต่ทำไมพอมาอยู่กับเว่ยอวิ่นลู่ ถึงได้กลายเป็นเหมือนเด็กวัยรุ่นที่หุนหันพลันแล่นไปได้เป็นเพราะความรักและรักแรกจนทำให้หน้ามืดตามัวไปแล้วใช่ไหม?เซิ่นหรูซวงกำหมัดแน่น แล้วแสยะยิ้มเย็นชา “ฉันคงไม่มีวิธีการร้ายกาจเท่าเธอหรอก ถึงขนาดที่รังแกคนแก่ได้ลงคอ”เว่ยอวิ่นลู่ถึงกับหน้าซีดเผือดอีกครั้งเธอซบในอ้อมกอดซิงจือเหยียนตัวอ่อนปวกเปียก แขนเรียวบางทั้งสองข้างพาดเอวของเขา พร้อมกับกล่าวด้วยเสียงที่แผ่วเบาและสั่นเครือว่า“ขอโทษนะคะ ฉันไม่รู้เรื่องพวกนี้เลย อาเหยียน… จะทำยังไงกันดีคะ?”ติงเจียซือดูเหมือนจะทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงก้าวออกมาพร้อมชี้หน้า “เธอมาลงอารมณ์กับลู่ลู่ทำไม ลู่ลู่ไม่รู้เรื่องนี้ด้วยซ้ำ ถ้าเธอแค้นก็มาลงที่ฉัน ลู่ลู่ไม่เกี่ยว!”ไม่รู้เรื่องนี้?ถ้าเซิ่นหรูซวงไม่เห็นแววตายั่วยุของเว่ยอวิ่นลู่ เธอก็อาจจะเชื่อจริง ๆ ว่าเว่ยอวิ่นลู่เป็นผู้บริสุทธิ์
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 125

เจียงเสี่ยวชุนฟังแล้วก็เดือดดาล แทบจะอยากลุกขึ้นมาโต้แย้งกลับไปแต่เซิ่นหรูซวงก็รั้งเธอไว้ “เอาเตียงคืนมาได้ก็จบกัน อย่าไปต่อความยาวสาวความยืดเลย”เจียงเสี่ยวชุนโกรธจัดจนหน้าแดงเถือก “แล้วจะยอมให้พวกนั้นมาบิดเบือนความจริงได้ไง?”เซิ่นหรูซวงกระซิบเบา ๆ “ซิงจือเหยียนเป็นคนแบบไหน เธอก็รู้ดีอยู่ เธอคิดว่าพวกเราสู้เขาได้หรือไง?”เจียงเสี่ยวชุนห่อเหี่ยวเหมือนลูกโป่งที่โดนเจาะลมจนแฟ่บอย่างไรอย่างนั้นในบ่ายวันนั้น ตอนที่เซิ่นหรูซวงออกไปกดน้ำร้อน ติงเจียซือก็เดินกรีดกรายผ่านข้างหลังเธอ พร้อมทั้งมองมาด้วยสายตาที่เย่อหยิ่งและท้าทาย ติงเจียซือเยาะเย้ยแล้วบอกว่า “ห้องรวมเหรอ พวกเธอก็ทนเบียดเสียดแออัดกันไปเถอะ ฉันจะย้ายพ่อฉันไปห้องพิเศษวีไอพี จะได้ไม่ต้องมาทนแออัด ลำบากจะตาย ฉันไม่ยอมให้พ่อมาอยู่รวมกับคนอย่างพวกเธอหรอก”เซิ่นหรูซวงไม่สะทกสะท้าน เติมน้ำร้อนใส่กา โดยมีติงเจียซือพูดพล่ามไม่หยุดอยู่ด้านหลัง“เธอไม่อยากรู้จริงหรือ ว่าใครเป็นคนจัดการให้ฉัน?”“ก็ซิงจือเหยียนไง ซิงจือเหยียนที่เธอเฝ้าใฝ่ฝันแต่ก็ไม่มีทางได้มา ลู่ลู่แค่บอกเขาคำเดียว ซิงจือเหยียนก็สั่งคนให้ไปจัดการทันทีเลย”“เธอคงนึ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 126

เซิ่นหรูซวงรู้สึกขำและจนใจไม่เสียแรงที่เจียงเสี่ยวชุนเป็นนักธุรกิจอัจฉริยะ แค่ตั้งแผงขายของก็พอเห็นแววด้านการทำธุรกิจบ้างแล้วถึงกับพูดเรื่องแบ่งกำไรกันด้วยเจียงเสี่ยวชุนปล่อยมือเธอ พร้อมพูดอย่างเสียดาย“ไม่ใช่สิ เธอต้องเตรียมตัวสอบเข้า ฉันจะทำให้เธอเสียการเรียนไม่ได้หรอก ฉันลุยเองดีกว่า”เซิ่นหรูซวงบอกพร้อมรอยยิ้ม “ไม่มีปัญหา ฉันว่างเมื่อไหร่ก็มาช่วยเธอได้ ฉันก็ไม่ได้ต้องอ่านหนังสือตลอดเวลานี่นา เธอไม่ต้องกังวล”เจียงเสี่ยวชุนตาเป็นประกาย “ดีเลย วันนี้เป็นวันหยุด เรามีเวลาเตรียมตัวพอดี รอจนพรุ่งนี้หลังเลิกเรียน เราก็เริ่มขายของได้เลย!”เจียงเสี่ยวชุนมีความสามารถในการเริ่มลงมือทำยอดเยี่ยมมาก คว้ามือเธอแล้วก็รีบวิ่งออกจากโรงพยาบาล เมื่อกลับถึงบ้าน ก็ตรงไปยังบ้านเพื่อนบ้านทันที และไปยืมรถเข็นสามล้อกับอุปกรณ์ขายของมาได้เจียงเสี่ยวชุนพับแขนเสื้อขึ้น และดันเธอไปอยู่ด้านข้าง ตั้งใจล้างอุปกรณ์อย่างขะมักเขม้น“เธอไม่ต้องทำ ฉันทำเอง”รถสามล้อและอุปกรณ์เปิดร้านเก่านี้ เก็บไว้หลายปีแล้ว มีฝุ่นจับเป็นชั้น ตัวรถสามล้อก็เป็นสนิมอยู่หลายที่ แต่ก็ล้างไม่ยากเลยเซิ่นหรูซวงยิ้มพลางส่ายหน้า
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 127

เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วจามใส่ซิงฟานโหรวติดต่อกันหลายครั้ง“ฮัดชิ้ว ฮัดชิ้ว!”เจียงเสี่ยวชุนขยับเข้าไปใกล้ ๆ ซิงฟานโหรวทีละก้าว จามใส่แทบจะประชิดตัวซิงฟานโหรวแล้วซิงฟานโหรวทำหน้ารังเกียจสุด ๆ ร่างกายก็แข็งทื่อไปหมดเจียงเสี่ยวชุนคว้าปลายเสื้อของซิงฟานโหรว แล้วก็รีบเช็ดจมูกเช็ดปากที่ปลายเสื้อนั่นอย่างลวก ๆเจียงเสี่ยวชุนเงยหน้าขึ้น หัวเราะแหย ๆ แล้วพูดว่า “ขอโทษด้วยนะ ตัวเธอโคตร ฮัดชิ้ว โคตรเหม็นเลย ฉันทน ฮัดชิ้ว ทนไม่ไหวจริง ๆ”ซิงฟานโหรวกระชากชายเสื้อตัวเองคืนมา แต่สายตาดันเหลือบไปเห็นของเหลวเหนียว ๆ ไม่รู้จากไหน สีหน้าของเธอจึงเปลี่ยนเป็นเขียวคล้ำทันที จากนั้นรีบสะบัดปลายเสื้อนั้นออกไปด้วยความขยะแขยงสุดขีด ทันใดนั้น เสียงหัวเราะฮาลั่นก็ดังขึ้นจากรอบข้างซิงฟานโหรวเห็นคนรอบข้าง เอามือปิดปากปิดจมูก แถมลูกสมุนที่มาด้วยกันก็มีท่าทีสงสัย และยกมือปิดปากปิดจมูกตาม พร้อมกับจ้องมองเธออย่างระแวดระวังซิงฟานโหรวหน้าแดงก่ำ หายใจเข้าออกแรงจนหน้าอกกระเพื่อม ดูแล้วคือกำลังโกรธจนตัวสั่นเธอหมุนตัวแล้ววิ่งฝ่ากลุ่มคนออกไปอย่างรวดเร็ว เซิ่นหรูซวงเห็นซิงฟานโหรวตอนกำลังวิ่งจากไกล ๆ ถึงขั้
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 128

เซิ่นหรูซวงผุดความคิด กวาดตามองกลุ่มนักเรียนเหล่านี้ ทั้งชาติก่อนและชาตินี้รวมกันแล้ว นับว่าเป็นครั้งแรกที่เธอได้รับความหวังดีจากผู้คนมากมายที่ผ่านมาทุกคนมีแต่รังเกียจเธอเท่านั้นเธอแย้มยิ้ม มุมปากโค้งขึ้นอย่างช้า ๆ แล้วพยักหน้าตอบรับแม่ของผู้หญิงคนนั้นเจียงเสี่ยวชุนชนไหล่เธอ “ยังนิ่งอยู่ทำไม เร็วเข้าสิ อย่าให้คนเขาต้องรอนาน”เซิ่นหรูซวงเพิ่งจะสังเกตเห็นไม้เสียบหลายไม้ในถาดน้ำจิ้มที่วางซ้อนกันเป็นกองสูง เธอจึงรีบทำงานมือเป็นระวิงคนเริ่มมามุงรอบร้านเยอะขึ้นเรื่อย ๆ ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า จนเซิ่นหรูซวงกับเจียงเสี่ยวชุนไม่มีเวลาพูดคุยเรื่องอื่นเลยแน่นอนว่าพวกเธอก็ไม่ได้ทันสังเกตเห็นซิงฟานโหรวที่เดินออกจากโรงเรียนมาดูฉากนี้ เธอแสยะยิ้ม หยิบโทรศัพท์มาถ่ายเซิ่นหรูซวงที่กำลังง่วนอยู่กับการจุ่มน้ำจิ้มไปหนึ่งแชะเธอใช้นิ้วจิ้มหน้าจอส่งรูปภาพเข้ากลุ่มครอบครัว แล้วก็แท็กชื่อทุกคนในกลุ่มทีละคน“ดูสิ”“เซิ่นหรูซวงตกอับถึงขั้นต้องไปขายของทอดแล้ว”“น่าขำชะมัด อยากดูคลิปไหม เดี๋ยวถ่ายส่งไปให้ดู?”เว่ยอวิ่นลู่ตอบกลับอย่างรวดเร็ว “อุ้ย ทำไมถึงเป็นแบบนี้?”“เธอยังเป็นเด็กมัธยมปลายอยู่ไม่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 129

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง เซิ่นหรูซวงกับเจียงเสี่ยวชุนก็ขายของทอดบนชั้นจนหมดเกลี้ยงควันและความร้อนจากร้านแผงลอยสูงมาก ยุ่งจนหัวฟูหนึ่งชั่วโมงเต็ม ๆ บนตัวของเซิ่นหรูซวงกับเจียงเสี่ยวชุนจึงมีแต่เหงื่อพวกเธอปาดเหงื่อที่หน้าผาก แล้วนั่งลงนับเงินในบัญชีและเงินสด เมื่อนับรวมทั้งหมดแล้ว หนึ่งคืนได้เงินทั้งหมดสามพันสามร้อยหกสิบห้าบาทเซิ่นหรูซวงรู้ดีว่า นี่น่าจะนับว่าเป็นรายได้ที่ดีที่สุดในช่วงไม่กี่วันมานี้แล้ววันแรกเพื่อน ๆ แห่มาซื้ออย่างกระตือรือร้น วันต่อไปความสนใจของเพื่อน ๆ อาจจะค่อย ๆ ลดลง และรายได้ก็จะลดลงตามไปด้วย ดังนั้นเธอกับเจียงเสี่ยวชุนจึงต้องคิดไอเดียทำให้ค้าขายได้นาน ๆเจียงเสี่ยวชุนเห็นจำนวนตัวเลขแล้วก็พอใจมากเป็นพิเศษ เธอปาดเหงื่อพร้อมกล่าว “ฉันกลับไปคิดต้นทุนก่อน จากนั้นหลังหักต้นทุนแล้ว จะแบ่งเงินคนละครึ่ง”เซิ่นหรูซวงหุบยิ้ม “ไม่เอา ฉันมาช่วยแค่เล็กน้อย ร้านรถเข็นนี้เธอก็หามาเอง คนทอดก็เธอ สูตรน้ำจิ้มก็เธอทำ เธอลำบากขนาดนี้ ฉันแทบไม่ได้ทำอะไรเลย เธอแบ่งให้ฉันสิบเปอร์เซ็นต์ก็พอ”เมื่อเห็นเจียงเสี่ยวชุนทำท่าจะพูด เซิ่นหรูซวงจึงรีบชิงพูดตัดหน้าก่อน“อย่ากังวลเรื่องนี้กั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 130

เธอทุบหลังซิงจือเหยียนเสียงดังตึ้ก ๆ แต่ซิงจือเหยียนกลับก้าวเท้ายาวขึ้นกว่าเดิม ทำให้ตัวเธอกระแทกและโยกไปมาหนักกว่าเก่า เซิ่นหรูซวงจนแทบจะอยากกัดเขาให้ตาย“ซิงจือเหยียน คุณเป็นบ้าอะไร?”ซิงจือเหยียนเงียบสนิท เปิดประตูรถแล้วโยนเธอเข้าไปในเบาะหลังโดยทันทีถึงแม้เบาะรถจะนุ่มมาก แต่ก็ยังทำให้เซิ่นหรูซวงถูกกระแทกจนมึนอยู่ดีตอนที่กำลังสับสนวุ่นวาย เธอก็ได้ยินเสียงของเจียงเสี่ยวชุน“ซิงจือเหยียน คุณไม่ได้ยินหรือไงว่าเธอไม่ต้องการไปกับคุณ?!”ซิงจือเหยียนปิดประตูรถดังปัง เสียงของคนทั้งสองก็ถูกตัดขาดอยู่ด้านนอกประตูรถเซิ่นหรูซวงรีบปีนลุกขึ้นจากเบาะหลัง เกาะที่หน้าต่างรถ พยายามจะเปิดประตูรถแต่ก็เปิดไม่ได้ ประตูรถทั้งสองข้างน่าจะถูกซิงจือเหยียนล็อกไว้แล้วเธอเห็นแค่ซิงจือเหยียนหันหลังให้เธอ ดูเหมือนว่าเขาจะพูดอะไรบางอย่างกับเจียงเสี่ยวชุน สีหน้าของเจียงเสี่ยวชุนดูแย่มาก แทบจะมองซิงจือเหยียนด้วยความเกลียดชังเลยด้วยซ้ำซิงจือเหยียนไม่พูดอะไรอีก หมุนตัวขึ้นรถไปเจียงเสี่ยวชุนกำมือแน่น มองมาที่เธอ แล้วก็ยกมือทำท่าโทรศัพท์แนบหูเซิ่นหรูซวงพยักหน้าอย่างเข้าใจหลังจากซิงจือเหยียนขึ้นรถแล้
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
1112131415
...
28
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status