All Chapters of มรสุมรัก CEO ซาตาน: Chapter 141 - Chapter 150

278 Chapters

บทที่ 141

เจียงเสี่ยวชุนมองออก ว่าหลังจากที่ได้เจอหน้ากับซิงเหยียนจือ เซิ่นหรูซวงก็อารมณ์ไม่ดีเอามาก ๆเธอไม่กล้าแตะต้องอารมณ์ของเซิ่นหูซวง จึงพูดเสียงเบา “เธอกินอะไรมาหรือยัง?”เซิ่นหรูซวงตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ว่า “ยังเลย แค่เห็นซิงจือเหยียนก็โมโหจนอิ่มแล้ว”เจียงเสี่ยวชุนยกมือขึ้น จากนั้นก็ฟาดลงบนแผ่นหลังของเด็กหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าหนึ่งป้าบเด็กหนุ่มร้องโอดครวญออกมาหนึ่งคำ “พี่ชุน พี่ทำอะไรของพี่เนี่ย?”เจียงเชียวชุนพูดขึ้น “มีอะไรกินบ้าง รีบเอาออกมาเร็ว เซิ่นหรูซวงยังไม่ได้กินข้าวเที่ยงเลย”บรรดานักเรียนที่อยู่รอบ ๆ จึงทยอยเคลื่อนไหว หยิบเอาพวกขนมที่อยู่ในลิ้นชักของตนเองโยนลงบนโต๊ะของเซิ่นหรูซวง เซิ่นหรูซวงหลบไม่ทัน จึงถูกขนมปังก้อนหนึ่งปาโดนเข้าที่ศีรษะพอดีเธอกุมศีรษะ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อเห็นว่ามีขนมอยู่เต็มโต๊ะจนแทบจะล้นออกมา เธอก็ชูมือขึ้น “พอแล้ว พอแล้ว เยอะมากแล้วล่ะ”เจียงเสี่ยวชุนบิขนมปังจนเป็นรู ต่อด้วยปักหลอดสำหรับดูดนมลงไป แล้วถามเธอเสียงเบา “ทำไม เธอดูอารมณ์ไม่ดีเลย”เซิ่นหรูซวงตอบกลับอย่างไร้เรี่ยวแรง “ก็ถูกซิงจือเหยียนโมโหใส่น่ะสิ”เจียงเสี่ยวชุนโบกไม้โบ
Read more

บทที่ 142

ภาพลวงตาและภาพตรงหน้าค่อย ๆ หลอมรวมเข้าด้วยกัน เป็นเว่ยอวิ่นลู่ส่งยิ้มอ่อนโยนให้กับเขา “อาเหยียน ฉันเล่นเป็นยังไงบ้างคะ?”หัวคิ้วซิงจือเหยียนคลายออกจากกันเล็กน้อย “เพราะมาก” เว่ยอวิ่นลู่หลุดหัวเราะออกมาเบา ๆ “ลูกน้องพวกนั้นของคุณต่างก็พูดกันว่าการที่จะได้ยินคำพูดดี ๆ จากปากคุณสักประโยคมันยากมาก แต่พอเป็นฉัน คุณกลับชมฉันอยู่เรื่อยเลย”ซิงจือเหยียนพูด “ดึกมากแล้ว กลับไปพักผ่อนเถอะ”เว่ยอวิ่นลู่เม้มริมฝีปากแล้วส่ายหน้า พูดด้วยเสียงกระซิบกระซาบ “ฉันยังไม่พักก่อนดีกว่าค่ะ เหลือเวลาอีกสองเดือนการแข่งขันเปียโนเย่ว์ไห่ก็จะเริ่มแล้ว ฉันยังต้องฝึกอีกสักหน่อย”ซิงจือเหยียนเดินเข้าไป เปลือกตาหลุบลงต่ำ แสงจันทร์อันอ่อนโยนที่นอกหน้าต่างทอดลงบนใบหน้าของเขา ทำให้ดูอ่อนโยนและหล่อเหลามากกว่าเดิม เขาพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่น“พรุ่งนี้ค่อยฝึกก็ยังทัน”เว่ยอวิ่นลู่ลังเลชั่วขณะ จากนั้นก็ยกยิ้มต่อ จนดวงตาหยีโค้งลง “ก็ได้ค่ะ ในเมื่อคุณยืนหยัดขนาดนี้ล่ะก็ ฉันก็จะไม่ฝึกแล้ว จะไปนอนเดี๋ยวนี้แหละ”ซิงจือเหยียนหมุนตัว แบฝ่ามือไปทางเว่ยอวิ่นลู่หลังจากเว่ยอวิ่นลู่ชะงักไปชั่วขณะก็ยกยิ้มที่เปล่งประกายมากกว่าเด
Read more

บทที่ 143

เซิ่นหรูซวงกับเจียงเสี่ยวชุนเริ่มออกเดินทางในช่วงรุ่งเช้าของวันถัดมาก่อนที่จะออกเดินทาง หลินส่วงได้กำชับพวกเธอว่า “อาจารย์ท่านนั้นชอบความเงียบสงบ พวกเธอห้ามเสียงดังหรือเอะอะโวยวายเด็ดขาด ต้องรอให้เธอมีเวลาว่างก่อน ถึงค่อยเข้าไปหาได้”เซิ่นหรูซวงพูด “ได้ ฉันรู้แล้ว ขอบคุณเธอมากนะ” อาจารย์กรรมการท่านนั้นเป็นคนจีน ชื่อว่าจวงเหมย อายุราว ๆ สามสิบกว่าปี เป็นนักเปียโนที่มีชื่อเสียงทั้งในประเทศและต่างประเทศมาเป็นเวลานาน เป็นผู้ชนะทุกการแข่งขันทั้งในและต่างประเทศ แล้วก็เป็นคณะกรรมการหลักของการแข่งขันเปียโนเย่ว์ไห่ในครั้งนี้ สัดส่วนการให้คะแนนของเธอสูงถึงยี่สิบเปอร์เซนต์ ที่มาครั้งนี้ เซิ่นหรูซวงมาเพื่อโควต้าเข้าร่วมการแข่งขันหนึ่งที่ในมือของเธอเท่านั้นตอนที่เดินทางมาถึงบ้านของจวงเหมยนั้น เวลายังเช้าตรู่ แต่เซิ่นหรู่ซวงก็พบว่า ประตูของบ้านถูกล็อคจากทางด้านนอกแล้ว“ออกไปแล้วล่ะ”เจียงเสี่ยวชุนเกาศีรษะอย่างงุนงง “ออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่?”เซิ่นหรูซวงหันหน้ากลับไปมองที่นี่เป็นพื้นที่เขตชนบท บริเวณรอบ ๆ บ้านก็คือทุ่งนาที่กว้างสุดลูกหูลูกตา สามารถมองเห็นชาวนากำลังวุ่นสาวะวนอยู่กลางทุ่งน
Read more

บทที่ 144

เจียงเสี่ยวชุนพูดอย่างเหนื่อยใจ “ฉันพูดจริง ๆ นะ ถึงแม้ว่าตระกูลซิงจะมีเงินเป็นถุงเป็นถังก็จริง แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็คิดไม่ถึงเลยว่า พวกเขาจะทำเรื่องออกมาได้มากมายขนาดนี้ เรื่องบุญคุณความแค้นของพวกเศรษฐีนี่ไม่ใช่เรื่องที่ฉันเข้าใจได้จริง ๆ” เธอถอนหายใจพร้อมกับตบไหล่เซิ่นหรูซวงเบา ๆ “ยังดีที่เธอหนีออกมาได้ ไม่อย่างนั้นฉันคงจะคิดแล้วว่า ซิงจือเหยียนจะจับเธอเป็นเมียน้อยของเขาแล้ว”คำพูดของเจียงเสี่ยวชุนแล่นผ่านสมอง เซิ่นหรูซวงถึงกับชะงักไปชั่วครู่เธอหลุดหัวเราะออกมาทันที “เธอคิดไปได้ยังไงน่ะ เรื่องนี้เป็นไปไม่ได้หรอก” ชาติที่แล้ว ก่อนที่ซิงจือเหยียนกับเว่ยอวิ่นลู่จะคืนดีกัน เธอเคยเป็นคนรักที่ไม่สามารถพาออกไปพบหน้าใครได้ของซิงจือเหยียนมาระยะหนึ่ง แต่หลังจากซิงจือเหยียนและเว่ยอวิ่นลู่กลับมาคืนดีกัน ซิงจือเหยียนก็ตัดความสัมพันธ์กับเธอจนขาดสะบั้น หนึ่งปีเธอเห็นหน้าซิงจือเหยียนอยู่ไม่กี่ครั้ง จนเกือบจะลืมไปแล้วว่าซิงจือเหยียนรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร ตอนนี้ ซิงจือเหยียนกับเว่ยอวิ่นลู่กำลังจะหมั้นหมายกัน เป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีความสัมพันธ์ฉันท์อื่นกับเธอได้ด้วยซ้ำเซิ่นหรูซวงพูด “เธ
Read more

บทที่ 145

“อาจารย์จวง ทำไมไม่ให้พวกเธอเข้ามาล่ะคะ?”ใบหน้าจวงเหมยยังคงประดับด้วยรอยยิ้มอ่อนโยนเช่นเคย เพียงแต่ความอ่อนโยนในแววตาจางหายไปกว่าครึ่งเธอเดินกลับมาอีกครั้ง วางฝ่ามือบนกรอบประตู “ฉันเป็นคนชอบความเงียบสงบ พวกเธอสองคนกลับไปเถอะ ไม่ต้องมาก่อกวนอยู่ที่นี่อีกแล้ว”เซิ่นหรูซวงพูดขึ้นทันที “ขอโทษค่ะ พวกหนูไม่ได้มีเจตนามารบกวนอาจารย์ เพียงแต่หนูต้องการความช่วยเหลือจริง ๆ”จวงเหมยไม่ใช่คนไร้เหตุผล แต่การที่สองคนตรงหน้ามาเปิดปากบอกว่าต้องการความช่วยเหลือโดยยังไม่เคยพบหน้ากันมาก่อนนี้เลย เสียมารยาทและล่วงเกินไปจริง ๆแต่เมื่อเห็นเซิ่นหรูซวงร้อนรนเช่นนี้ เธอก็เกิดสนใจขึ้นมาน้อย ๆ“ลองว่ามาสิ?”เซิ่นหรูซวงแววตาเป็นประกายวาบ สะกดความหวังที่ผุดขึ้นมาในอก “อาจารย์ งานแข่งขันเปียโนเย่ว์ไห่ที่จะจัดในเร็ว ๆ นี้——”ใครจะคาดคิดว่าจวงเหมยแววตาไหววูบ ขมวดคิ้วแน่น ความอ่อนโยนในแววตาจางหายไปทันทีอย่างไร้ร่องรอย สีหน้าย่ำแย่จนดูน่ากลัว“เย่ว์ไห่เหรอ? พวกเธอเป็นผู้เข้าแข่งขันใช่ไหม? ฉันไม่ยอมให้พวกเธอโกงหรอกนะ”เซิ่นหรูซวงจึงร้อนรนขึ้นในใจ “ไม่ใช่นะคะ หนูหมายความว่า——”จวงเหมยพูดพร้อมกับยิ้มเยาะ “พวก
Read more

บทที่ 146

ติงเจียซือสีหน้านิ่งแข็งไป แอบกัดฟันกรอดทันที “แต่เดิมก็กำลังจะหมั้นกันอยู่แล้ว แต่ถูกผู้หญิงคนหนึ่งทำลายลงซะได้”จวงเหมยค่อย ๆ ขมวดคิ้วช้า ๆ “หมายความว่ายังไง? เธอหมายความว่าแฟนของอวิ่นลู่...”ติงเจียซือพูด “ไม่ใช่ความผิดของซิงจือเหยียนหรอกค่ะ เป็นความผิดของผู้หญิงที่ตระกูลซิงรับเลี้ยงไว้ต่างหาก ชอบเกาะติดซิงจือเหยียนแจมาตั้งแต่เด็ก ๆ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าซิงจือเหยียนมีภรรยาอยู่แล้วยังไปเกาะแกะอยู่เรื่อย หน้าไม่อายเลยจริง ๆ รู้ทั้งรู้ว่าลู่ลู่กับซิงจือเหยียนกำลังจะหมั้นหมายกัน ก็ยังไปตามก่อกวนในงานหมั้น จนเกือบทำร้ายลู่ลู่เชียวนะคะ”จวงเหมยพูดขึ้น “เด็กผู้หญิงที่ตระกูลซิงรับเลี้ยงหรือ?” เธอรู้สึกคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเป็นลูกสาวของคนขับรถแววตาติงเจียซือเปล่งประกายวาววับแน่นอนว่าเธอรู้เรื่องราวเบื้องลึกเบื้องหลังที่เกิดขึ้นในงานวันหมั้นอยู่แล้ว แต่มีคนจำนวนมากที่ไม่รู้ และมีเพียงคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เท่านั้นที่รู้หลาย ๆ คนต่างคิดว่าเซิ่นหรูซวงเป็นคนควบคุมให้คนก่อความวุ่นวายขึ้นที่เบื้องหลังเธอพูดขึ้น “ใช่ค่ะ อาจารย์ก็เคยเห็นหน้าเธอมาก่อน”จวงเหมยเหลือบตาขึ้นมองอย่างแคลงใจ
Read more

บทที่ 147

การที่จะปลูกต้นทิวลิปในที่นาเป็นเรื่องที่แปลกประหลาดมาก เซิ่นหรูซวงไม่จำเป็นต้องสอบถามอะไรมากก็หาแปลงต้นทิวลิปที่จวงเหมยปลูกเจอดอกทิวลิปหลากสีสันที่ยังไม่ทันบานสะพรั่งเต็มที่นาผืนใหญ่ ดูโดดเด่นสะดุดตาท่ามกลางท้องทุ่งนาสีเขียวชอุ่มเซิ่นหรูซวงและเจียงเสี่ยวชุนเดินลัดเลาะผ่านทุ่งนาไปอย่างระมัดระวัง มายืนอยู่ข้างแปลงต้นทิวลิป และเพ่งมองอย่างละเอียดถี่ถ้วนเจียงเสี่ยวชุนขยับตัวเข้าไปใกล้ “ฉันเห็นแล้ว มีหลายต้นเลยที่มีรอยถูกหนูแทะ”เซิ่นหรูซวงพยักหน้าเธอก็เห็นแล้วเหมือนกันไม่ใช่แค่ต้นทิวลิป ยังมีพืชเกษตรอย่างอื่นต่างก็มีร่องรอยถูกหนูแทะเยอะบ้างน้อยบ้างได้ยินชาวนาในพื้นที่พูดกันว่า พวกเขาเคยใช้วิธีการต่าง ๆ นานาจัดการไปแล้ว หลังจากกำจัดหนูไปได้จำนวนหนึ่ง ก็จะมีหนูอีกฝูงหนึ่งโผล่ออกมา จับกันไม่หวาดไม่ไหวงานจับหนูเป็นงานที่ใหญ่มาก คุณไม่มีทางรู้ได้เลยว่ามีรังหนูอยู่กี่รัง และอยู่ที่ไหนบ้างเซิ่นหรูซวงกับเจียงเสี่ยวชุนไม่ค่อยรู้เรื่องการเกษตรมากเท่าไหร่ ทั้งสองคนจึงได้แต่ยืนมองดอกทิวลิปตาปริบ ๆ อยู่ที่เดิม ไม่รู้แม้กระทั่งขั้นตอนแรกของการเริ่มต้นลงมือทำคืออะไรทั้งสองคนค้นหาข้อ
Read more

บทที่ 148

เว่ยอวิ่นลู่เม้มปาก ยกยิ้มด้วยท่าทางเรียบร้อยสง่างาม “หนูไม่ลำบากใจค่ะ หนูแค่กังวลว่าอาจารย์ทุ่มเทเวลาไปกับการปลูกต้นทิวลิปนานขนาดนี้ ต้องเสียเปล่าหมดแล้ว”“ถ้าหรูซวงทำผิดต่ออาจารย์จริง ๆ หนูจะขอโทษอาจารย์แทนหรูซวงเองค่ะ”ในตอนแรกจวงเหมยสะกดความโกรธลงไปได้แล้ว แต่ก็ถูกคำพูดสองประโยคก่อนของเว่ยอวิ่นลู่ทำให้ขุ่นเคืองขึ้นมาทันที สีหน้ามืดครึ้มลง“เธอไม่ต้องขอโทษ”จวงเหมยพูดพร้อมตวัดสายตาคมกริบมองไปที่เซิ่นหรูซวง สายตามองสำรวจสีหน้าของเธอทุกกระเบียบนิ้ว ราวกับกำลังพิจารณาว่าเธอพูดโดหกอยู่หรือเปล่าเซิ่นหรูซวงมองเห็นรอยยิ้มที่ผุดขึ้นมาในแววตาเว่ยอวิ่นลู่ ก่อนเย้ยหยันในใจเธอมองออกว่า ที่เว่ยอวิ่นลู่จงใจพูดเรื่องต้นทิวลิป ก็เพื่อทำให้จวงเหมยโกรธ และทำให้ตัวเธอเกิดความเดือดร้อนจวงเหมยพูดถามเธอเสียงต่ำ “เป็นเธอใช่ไหม?”เซิ่นหรูซวงกวาดสายตามองกลุ่มคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม ซิงจือเหยียนสอดมือใส่ในกระเป๋า แววตาราบเรียบมาก ราวกับว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเขาเลย แววตาไม่ยี่หระนั้นทอดมองบนแผ่นหลังของเว่ยอวิ่นลู่ ราวกับว่าในสายตาเขามีที่สำหรับเธอคนเดียวเท่านั้นตั้งแต่ต้นจนจบ เป้าหมายที่ซิง
Read more

บทที่ 149

พื้นของชนบทในตอนนี้เป็นพื้นซีเมนต์หมดแล้ว ถ้ามีใครเหยียบลงไปด้วยฝ่าเท้าที่เปื้อนโคลน จะต้องทิ้งรอยเท้าไว้แน่นอนใช้เวลาไม่นาน เซิ่นหรูซวงก็หารอยเท้าเจอในบริเวณใกล้เคียง เป็นรอยเท้าเล็ก ๆ รอยหนึ่ง ซึ่งดูชัดเจนมากเมื่ออยู่ท่ามกลางรอยเท้าของผู้ใหญ่เธอกับเจียงเสี่ยวชุนเดินตามรอยเท้าไป จนมาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่ง มีเสียงร้องเอะอะโวยวายของเด็กผู้ชาย และเสียงสั่งสอนของผู้เป็นแม่ดังลอดออกมา“ช้า ๆ หน่อย อย่าหกล้มล่ะ”เด็กผู้ชายไม่ยอมหยุด แต่กลับส่งเสียงดังขึ้นกว่าเดิมบ้านของครอบครัวนี้เป็นบ้านในชนบท ประตูบ้านเปิดกว้างไว้ เด็กผู้ชายอายุราวเจ็ดถึงแปดขวบคนหนึ่ง วิ่งเท้าเปล่าอยู่บนพื้น เสื้อผ้าที่สวมใส่สกปรกไปหมด และยังมีกลีบดอกทิวลิปติดอยู่ห่างจากเด็กชายไปไม่ไกล ยังมีต้นทิวลิปจำนวนมากถูกเหยียบย่ำบนพื้นดินจนราบเป็นหน้ากลอง เผยให้เห็นถึงของเหลวที่เหนียวหนืดเซิ่นหรูซวงไม่ได้เดินเข้าไป แค่หยิบโทรศัพท์ขึ้น แล้วกดถ่ายรูปเด็กชายและต้นทิวลิปที่กองอยู่บนพื้นเป็นจำนวนมากลงไปหลังจากถ่ายภาพและถ่ายวิดิโอเสร็จ เซิ่นหรูซวงก็หมุนตัวเดินออกไปเธอไม่คิดจะเรียกร้องแทนจวงเหมยแต่อย่างใดต่อให้จวงเหมยจะระ
Read more

บทที่ 150

เมื่อจวงเหมยตะโกนเรียกชื่อของเซิ่นหรูซวงออกมาอีกครั้ง ในที่สุดเซิ่นหรูซวงก็หยุดฝีเท้าลง เธอหันตัวกลับไป มองจวงเหมยด้วยสีหน้าราบเรียบพูดว่า “อาจารย์จวง หนูรู้ว่าที่อาจารย์โมโหใส่หนูเป็นเพราะไม่รู้ความจริง แต่หนูไม่ได้ทำผิด หนูไม่ควรได้รับการดูถูกเหยียดหยามแบบนี้”จวงเหมยพูดอย่างรีบร้อน “ฉันรู้ เพราะฉะนั้นก็เลยอยากชดใช้ให้เธอ”“ในมือฉันยังมีโควาต้าเข้าร่วมการแข่งขันเปียโนเย่ว์ไห่จริง ๆ มีอยู่ที่เดียว ฉันยอมยกให้เธอเพื่อเป็นการชดใช้”จวงเหมยละล้าละลังเล็กน้อย “ไม่รู้ว่า...เธอจะอยากได้ไหม?”สายตาของเกือบทุกคนทอดมองไปยังใบหน้าของเซิ่นหรูซวง เพื่อรอดูปฏิกิริยาของเธอมุมปากเว่ยอวิ่นลู่ยังคงเจือรอยยิ้มอ่อนโยน แต่ขบกรามกรอดจนฟันแทบแหลกละเอียดอยู่ในใจทำไมถึงสละโควต้าเข้าร่วมการแข่งขันที่มีเพียงที่เดียวไปได้นะ?เซิ่นหรูซวงมีสิทธิ์อะไรถึงเข้าร่วมการแข่งขันเดียวกันกับเธอ เธอคิดว่าเธอเป็นใคร?แย่งซิงจือเหยียนจากเธอ ตอนนี้ยังมาแย่งชิงการแข่งขันไปจากเธออีกหรือ?ด้วยเหตุนั้น ในสายตาของทุกคน จู่ ๆ เว่ยอวิ่นลู่ก็มีเรี่ยวแรงขึ้นมากะทันหัน เธอยืนตัวตรง ยกยิ้มน้อย ๆ พร้อมกับพูดขึ้น “หรูซวง เธอต้
Read more
PREV
1
...
1314151617
...
28
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status