All Chapters of หย่าเสร็จ ท่านประธานฉวยโอกาสเป็นสามีใหม่: Chapter 61 - Chapter 70

100 Chapters

บทที่ 61

บทที่ 61สวีเหยียนเช่อโกรธจนดวงตาแทบลุกเป็นไฟ หันไปมองสวีเหยียนซีในชั่วขณะหนึ่งพร้อมกับสั่งการว่า “ซีซี มาหาพี่”เขากำลังให้สวีเหยียนซีเลือกถ้าเธอเลือกที่จะมาหาเขาแต่โดยดี เขาก็จะสามารถจัดการเจ้าตัวปัญหาอย่างจ้าวจวิ้นโจวได้เรียบร้อย และแสร้งทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นสวีเหยียนซีกำมือแน่นพร้อมกัดฟันกรอด เธอเกลียดการกระทำของพี่ชายตรงหน้าที่ทำราวกับเป็นเจ้าของและคอยควบคุมเธอ “พี่ ฉันไม่ใช่เด็กสามขวบแล้วนะ”คำพูดเมื่อครู่เพียงพอที่จะบ่งบอกถึงท่าทีของเธอ ลูกตาดำในดวงตาของสวีเหยียนเช่อหดแคบลง ใบหน้าของเขาค่อย ๆ ซีดเผือด “เธอรู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่?”“คุณโหยว รบกวนช่วยพาเธอออกไปก่อน” จ้าวจวิ้นโจวหันไปทางโหยวฉีที่กำลังแผ่รังสีความเกรี้ยวกราดอยู่ข้าง ๆ และพูดกับเธอด้วยน้ำเสียงที่สุภาพโหยวฉีที่ได้สติกลับมาก็ร้อง อ๋อ พร้อมกับตอบกลับเขาว่า “ได้ ไม่มีปัญหา”เธอเข้าใจดีว่าถ้าซีเอ๋อร์ยังคงยืนอยู่ตรงนี้ ประธานจ้าวจะไม่สามารถลงมือได้อย่างเต็มที่จากนั้น เธอจึงคว้าข้อมือของสวีเหยียนซีและพาเธอออกมาจากจุดนั้นทันที พร้อมกับช่วยปิดประตูให้เสร็จสรรพโหยวฉีลงมือจัดการทุกอย่างอย่างรวดเร็วจนสว
Read more

บทที่ 62

บทที่ 62“กำลังคุยกับลูกค้าอยู่ดี ๆ คิดจะทิ้งก็ทิ้งลูกค้าไว้ตรงนั้นเลยหรือไง แกเริ่มทำตัวหุนหันพลันแล่นแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน หา!”สวีกั๋วหมิงตวาดอย่างไม่ยั้งสวีเหยียนเช่อหันหลังพลางขึ้นรถ “จู่ ๆ ก็เรื่องเข้ามานิดหน่อยครับ”ความโกรธของสวีกั๋วหมิงพุ่งสูงขึ้นกว่าเดิม “จะมีเรื่องอะไรสำคัญไปกว่าลูกค้าอีก! สมองแกน่ะ ใช้ซะบ้างสิ!”สวีเหยียนเช่อกดนวดขมับด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหงุดหงิด “พ่อครับ พ่อจะให้ผมคุยกับลูกค้าหรือไปดูตัว?”“ทั้งสองอย่าง”“เรื่องงานแต่งของผม ผมเป็นคนตัดสินใจเอง ขืนพ่อยังคงจัดแจงให้ผมไปดูตัวอีก เรื่องธุรกิจกับตระกูลฉินผมจะไม่ทำอีก” เขาพูดข่มขู่“แกกล้าเหรอ!”“ถ้าผมไม่กล้า แล้วผมจะพูดกับพ่อให้เปลืองน้ำลายไปทำไมล่ะครับ” สวีเหยียนเช่อพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา“แก!”“ผมกำลังกลับบริษัท แค่นี้ก่อนครับ” สวีเหยียนเช่อพูดตัดบทพร้อมกับตัดสายทิ้งทันทีโดยไม่สนใจว่าปลายสายจะกำลังโกรธเกรี้ยวมากแค่ไหน -บรรยากาศภายในรถเงียบสงัด สวีเหยียนซีมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยความรู้สึกจมดิ่ง“ตั้งใจมาเจอเขาเหรอ?” จู่ ๆ จ้าวจวิ้นโจวก็เอ่ยปากถามขึ้นมา“ถ้าฉันไม่มา เขาก็จะคอยส่งคนมาเฝ้
Read more

บทที่ 63

บทที่ 63หลังจากสวีเหยียนซีกล่าวขอบคุณเสร็จเรียบร้อย เธอไม่กล้าขึ้นไปชั้นบนเพื่อบอกลาจ้าวจวิ้นโจวโดยตรง จึงฝากลุงโจวให้ช่วยบอกแทน จากนั้นเธอก็ลากกระเป๋าเดินทางเดินลัดเลาะไปตามทางเล็ก ๆ เพื่อกลับไปยังว่านจิ่นฟุ เรสซิเด้นซ์ณ ชั้นสองของคฤหาสน์ ร่างของจ้าวจวิ้นโจวยืนพิงอยู่บริเวณหน้าต่างกระจกบานใหญ่ มองแผ่นหลังที่กำลังเดินอย่างเชื่องช้าของสวีเหยียนซีคนไร้หัวใจ...เมื่อกลับถึงคอนโด สวีเหยียนซีก็ยุ่งวุ่นวายกับการจัดการสิ่งต่าง ๆ จนกระทั่งห้าทุ่ม เธอทิ้งตัวลงบนเตียงอย่างไร้เรี่ยวแรง จากนั้นพลิกตัวแล้วเปิดดูไลน์ ทำให้เธอเพิ่งนึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กดรับคำขอเป็นเพื่อนจากเหมาเจียนั่วและทันทีที่เธอกดยืนยันรับเป็นเพื่อน ไม่กี่วินาทีต่อมาเหมาเจียนั่วก็โทรศัพท์มาหาเธออย่างไม่ทันให้ตั้งตัวทำเอาเธอตกใจสุดขีด“สวีเหยียนซี! ทำไมเธอถึงเพิ่งกดรับคำขอเป็นเพื่อนฉันล่ะ! ฉันไปหาเธอที่โรงแรม พนักงานหน้าเคาน์เตอร์บอกว่าพวกเธอเช็คเอาต์ไปนานแล้ว ทำไมไม่บอกฉันสักคำ!” น้ำเสียงของเหมาเจียนั่วเต็มไปด้วยความน้อยใจ ราวกับว่าหากสวีเหยียนซีไม่สามารถหาเหตุผลอธิบายเรื่องที่เกินขึ้นได้ เธอจะไม่ยอมอย่างเด็ดขาดสวี
Read more

บทที่ 64

บทที่ 64“สถาปนิกสวี ไว้คราวหน้าให้พวกเราเป็นฝ่ายเลี้ยงคุณบ้างนะ”“งั้นไว้เป็นหลังจากจบการประกวดการออกแบบเมืองเก่าในเมืองซูแล้วกันเนอะ” ไห่ล่างเป็นคนเอ่ยขึ้น“โอ้ ฉันว่าเข้าท่าดีนะ” อู๋เสว่นีพูดเสริมขึ้น “สถาปนิกสวี แค่คุณคว้ารางวัลชนะเลิศกลับมาได้ บอสจะต้องพาพวกเราไปเที่ยวเมืองซูด้วยกันแน่ ๆ เลย เที่ยวครั้งนี้บริษัทจะออกงบให้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคุณแล้วนะ”สวีเหยียนซีประหลาดใจ “เที่ยวได้ด้วยเหรอ?”ไห่ล่างได้ยินเธอถามแบบนี้ ก็ยิ่งรู้สึกประหลาดใจเข้าไปใหญ่ “อ้าว? บอสไม่บอกสถาปนิกสวีเลยเหรอว่าถ้าเกิดคว้ารางวัลมาได้ เขาก็จะลงทุนกับโครงการเมืองเก่า?”สวีเหยียนซีพยักหน้า “เคยพูดอยู่”“เพราะฉะนั้น ต้องไปดูสถานที่จริงสักหน่อยไง ก็เลยมีโอกาสได้ไปเที่ยวแบบเบิกงบบริษัทแบบนี้” อู๋เสว่นีพูดอย่างมั่นใจ “นี่เป็นสวัสดิการที่บอสเราให้บ่อยมากเลยนะ”สวีเหยียนซีแอบชื่นชมจ้าวจวิ้นโจวในใจเงียบ ๆ จะว่าไปแล้ว เขาก็เป็นเจ้านายที่ดีคนหนึ่งเลยทีเดียวสวัสดิการตั้งมากมาย แถมยังดีขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่ทำไมใครหลาย ๆ คนถึงแย่งชิงกันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในทีมในขณะที่สวีเหยียนซีกำลังทานข้าวพูดคุยกับเพื่อนร่วม
Read more

บทที่ 65

บทที่ 65ณ ห้องทำงานชั้นสามเสิ่นเนี่ยมองทางพระพุทธรูปองค์ใหญ่ตรงหน้า ทำไมรู้สึกว่ามันไม่ชอบมาพากลยังไงชอบกล เมื่อเวลาผ่านไปยาวนานสมควร เขาก็ประสานมือเข้าด้วยกันพร้อมกับเอ่ยขึ้นว่า “ที่มึงจู่ ๆ ก็มาทานอาหารร้านกูด้วยตัวเองอย่างนี้นี่ คงไม่ใช่เพราะคิดถึงอาหารร้านกูแน่ ๆ ”“ก็แค่อยากกิน”เสิ่นเนี่ยถ่มน้ำลายทีหนึ่ง “ถ้ามึงอยากกินจริง ๆ ก็แค่โทรมาก็ได้นี่ จะมาถึงที่ร้านด้วยตัวเองทำไม?”จ้าวจวิ้นโจวถึงกับพูดไม่ออก “ทำไมมึงมีเรื่องไร้สาระให้คิดเยอะแยะนักวะ”“เชี่ย! ก็มึงผิดปกติขนาดนี้จะไม่ให้กูสงสัยหน่อยหรือไง?!”ในฐานะที่เป็นเพื่อนกันมานานหลายปี พอจ้าวจวิ้นโจวทำตัวผิดปกติทีไร เหล่าบรรดาเพื่อน ๆ ก็จะตกใจลนลานกันเป็นแถว เพราะเวลาคนคนนี้ทำตัวผิดปกติเมื่อไหร่ มักจะทำในสิ่งที่คนปกติเขาไม่ทำกัน เพราะฉะนั้น อย่างน้อยเขาก็ควรส่งสัญญาณเตือน บอกกันล่วงหน้าหน่อยสิเขากำลังจะถามต่อแต่โทรศัพท์ก็ดังขึ้นก่อน“ว่าไง?”ในขณะที่ผู้จัดการกำลังอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทั้งหมดผ่านทางโทรศัพท์ เสิ่นเนี่ยเมื่อได้ยินก็ค่อย ๆ เลิกคิ้วขึ้นพร้อมกับมองไปยังใครบางคนอย่างมีนัย จากนั้นมุมปากก็ถูกยกขึ้น
Read more

บทที่ 66

บทที่ 66“สวีเหยียนซี นังสารเลว!”เธอลุกขึ้นมาหมายจะใช้เล็บอันแหลมคมของตนขูดไปที่ใบหน้าของสวีเหยียนซี แต่สวีเหยียนซีเร็วกว่า เธอคว้าขวดไวน์แดงมาสาดใส่หน้าของเธอได้เสียก่อนในชั่วพริบตานั้น สวีหว่านหนิงหยุดนิ่งอยู่กับที่ไวน์แดงค่อย ๆ ไหลลงมาตามคางหยดลงใส่ชุดเดรสราคาแพงของเธอสีแดงและสีเหลืองที่อยู่บนเลื่อนร่างเธอผสมปนเปกันไปหมด ทั้งกลิ่นไวน์ กลิ่นวาซาบิ กลิ่นพริกไทย และกลิ่นอื่น ๆ อีกมากมายปะปนจนกลายเป็นกลิ่นที่หลากหลายมิติ ซึ่งยิ่งชวนให้คลื่นไส้อยากอาเจียน“แก! ฉันจะทำให้แกไม่มีโอกาสได้เหยียบเข้ามาในรั้วบ้านตระกูลสวีอีกตลอดไป!” สวีหว่านหนิงชี้หน้าขู่สวีเหยียนซีด้วยถ้วยคำร้ายกาจ พร้อมกับกระทืบเท้าสวีเหยียนซียกยิ้มมุมปาก “อ๋อ งั้นดีเลย ฉันจะตั้งหน้าตั้งตารอข่าวดีนั้นนะ”หวังว่ามันจะสำเร็จจริง ๆ เถอะถ้าเป็นอย่างที่พูดได้จริง ๆ เธอก็พร้อมที่จะลืมเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมด และในวันแต่งงานของสวีหว่านหนิงกับฉินเซียวเธอจะได้ให้ของขวัญเป็นกระเช้าดอกไม้ราคาถูก ๆ ที่ดูเหมือนจะสื่อถึงความยินดี แต่แท้จริงแล้วมันเป็นการเยาะเย้ยต่างหากเมื่อสวีหว่านหนิงเห็นว่าเธอไม่ได้สะทกสะท้านและไม่สนใจ
Read more

บทที่ 67

บทที่ 67พอได้ยินคำว่าแจ้งตำรวจ สวีหว่านหนิงก็ขอยกธงขาวยอมแพ้ทันทีสุดท้ายเธอก็ได้แต่นำเสื้อโค้ทมาห่อตัวเองอย่างไม่เต็มใจสักท่าไหร่ และเดินออกไปจากร้านอาหารอย่างหมาจนตรอกเธอกลับบ้านมาด้วยสภาพอย่างกับหมาจนตรอกเช่นนั้น เมื่อเห็นแม่ของตน เธอจึงร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บใจ “แม่คะ!”เมื่อแม่สวีเห็นเธอสภาพเช่นนั้นก็รีบเดินเข้ามาอย่างร้อนรน “ลูกไปกินข้าวกับเพื่อนไม่ใช่เหรอ ทำไมถึงกลับบ้านมาในสภาพนี้?”สวีหว่านหนิงร้องไห้พร้อมกับกระทืบเท้า “เป็นฝีมือของสวีเหยียนซีค่ะ! หนูบังเอิญเจอเธอที่ร้านอาหาร เธอมาโทษว่าหนูเป็นคนแย่งพี่ฉินเซียวไป เลยรังแกหนู”เมื่อได้ยินว่าเป็นสวีเหยียนซี แม่สวีก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้าทันที“ซ่อนตัวอยู่ตั้งหลายวัน พอโผล่ออกมาก็รังแกลูกสาวฉัน ยัยนั่นมันไม่อยากมีชีวิตอยู่บนโลกนี้แล้วใช่ไหม!” แม่สวีปลอบเธอ “ลูกรัก ไม่เป็นไรนะ เดี๋ยวแม่ให้พี่ใหญ่ไปจัดการให้”-การเลี้ยงอาหารครั้งนี้ไม่จบอย่างเลวร้ายสักเท่าไหร่ สวีเหยียนซีและเพื่อนร่วมงานเดินทางกลับบริษัทเมื่อเธอนั่งลงที่โต๊ะทำงานได้ไม่นาน ก็มีสายจากต่างประเทศโทรเข้ามาลางสังหรณ์บอกเธอว่านี่คือฉินเซียวเธอเดินเข้าไปในห
Read more

บทที่ 68

บทที่ 68เมื่อฉินเซียวเห็นว่าเธอมีความตรงไปตรงมาอย่างเปิดเผย เขาก็เกิดอาการลนลานขึ้นอีกครั้ง “เสี่ยวซี ผมผิดไปแล้ว”“ไม่ต้องมาสำนึกผิดแล้ว” สวีเหยียนซีพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำ “ฉินเซียว จากลากันด้วยดีเถอะนะ อย่าบังคับให้เรื่องไปอยู่จุดที่เกิดความบาดหมางจนมองหน้ากันไม่ติดเลย มันไม่มีประโยชน์กับคุณหรอก”เมื่อพูดจบเธอก็วางสายทันที เธอไม่อยากจะฟังเสียงเขาคลุ้มคลั่งอีกต่อไปและในเวลาเดียวกัน เธอรีบปลดบล็อกสวีเหยียนเช่อชั่วคราว พร้อมกับส่งข้อความไปหาเขาอย่างรวดเร็ว [สวีเหยียนเช่อ เวลาคิดจะทำอะไรอย่าทำตัวให้มันน่ารังเกียจ อุตส่าห์ทุ่มแรงหาทุกวิถีทางทำให้ฉันกับฉินเซียวหย่ากันแล้ว ตอนนี้ยังจะทำให้เขามาตามตอแยฉันอีก สนุกมากไหม?]เมื่อส่งข้อความเสร็จ เธอจัดการบล็อกเขาเหมือนเดิมสวีเหยียนซีไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านอะไรจากเรื่องนี้เลย เธอตั้งใจทำงานต่อโดยไม่รู้ตัวว่า สวีเหยียนเช่อที่ได้รับข้อความของเธอแล้วแต่กลับโทรหาไม่ติด กำลังรีบตรงมาที่บริษัทย่าซั่วทันทีแต่เพราะเขาไม่ได้ทำการนัดหมายไว้ล่วงหน้า จึงไม่สามารถเข้าไปพบสวีเหยียนซีได้เขาจึงต้องจำใจจากไปด้วยสีหน้าที่บึ้งตึง แต่ยังคงสั่งคนของตัวเองให้
Read more

บทที่ 69

บทที่ 69เมื่อเห็นเธอตอบตกลง สองสามีภรรยาตระกูลเซวียนก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ส่วนเซวียนเหยาถึงกับเอียงศีรษะซบลงบนไหล่ของสวีเหยียนซีอย่างมีความสุขเซวียนเฉิงหวยกลัวว่าตนจะทำให้สวีเหยียนซีลำบากใจ จึงหันไปพูดกับจ้าวจวิ้นโจวว่า “จวิ้นโจว แม้การที่ฉันชักชวนคนในทีมนายแบบนี้จะดูเหมือนจะเป็นการไม่ให้เกียรตินายเลยก็ตาม ถ้านายไม่พอใจ ก็ลงที่ฉันได้เลย อย่าไปทำให้ครูสวีลำบากใจเลย”จ้าวจวิ้นโจวหัวเราะออกมา “ถ้าผมไม่พอใจจริง ๆ จะพาเธอมาทานข้าวกับพวกคุณถึงที่นี่เหรอ?”เซวียนเฉิงหวยยกแก้วขึ้น “บุญคุณครั้งนี้ฉันจะจำไม่ลืมเลย หากในวันหน้ามีอะไรที่ฉันพอจะช่วยได้ บอกมาได้เลยไม่ต้องเกรงใจ”“เรื่องของเหยาเหยาสำคัญเป็นอันดับแรก” จ้าวจวิ้นโจวพูดขึ้นพลางชนแก้วกับเขาจัดการเรื่องนี้เป็นที่เรียบร้อย ในส่วนของรายละเอียดปลีกย่อยค่อยหาโอกาสพูดคุยกันอีกครั้งเมื่อทานอาหารไปได้สักพัก จู่ ๆ เซวียนเหยาก็ดึงมือของสวีเหยียนซี “ครูสวี ครูออกไปเดินเล่นกับหนูหน่อยได้ไหมคะ?”สวีเหยียนซีรีบพูดก่อนที่คุณนายเซวียนจะเอ่ยปากปฏิเสธ “ทุกคนทานกันต่อได้เลยนะคะ ฉันขอตัวออกไปเดินเล่นกับเหยาเหยาข้างนอกสักครูค่ะ”คุณนายเซวียนรี
Read more

บทที่ 70

บทที่ 70สวีเหยียนได้ฟังเรื่องราวแล้วก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ เธอกอดเซวียนเหยาเพื่อปลอบประโลมคุณปู่เซวียนเคยเป็นนักร้องโอเปร่าเมื่อตอนสมัยยังหนุ่ม แต่เซวียนเฉิงหวยกลับชอบการทำธุรกิจมากกว่า ดังนั้นความกดดันทั้งหมดจึงตกไปอยู่ที่เซวียนเหยาเสียงของเซวียนเหยาเริ่มสั่นเครือ ราวกับว่ากำลังกลั้นอารมณ์บางอย่างไว้ “คุณพ่อกับคุณแม่กลัวคุณปู่มาก ๆ หนูเลยคิดว่าบอกพวกท่านไปคงไม่มีประโยชน์อะไร เพราะคุณปู่ยังคงยืนกรานให้หนูอยู่ที่นั่น แต่หนูอยากกลับประเทศ ไม่อยากอยู่ที่นั่นแล้ว หนูเลยตัดสินใจฆ่าตัวตายสี่ครั้ง”“คุณปู่เริ่มรับรู้แล้วว่าหนูไม่ปกติ ท่านเลยให้คุณพ่อกับคุณแม่ไปรับหนูกลับมา ที่จริงแล้วหนูไม่ได้ป่วยเลยค่ะ”นั่นทำให้สวีเหยียนซียิ่งสงสารเธอมากขึ้นไปอีก เซวียนเหยาเป็นคนจิตใจดี คิดถึงความรู้สึกของคนอื่นมากเกินไปจนเก็บความกดดันทั้งหมดไว้ที่ตัวเองในตัวของเซวียนเหยานั้น ทำให้สวีเหยียนเหมือนได้เห็นตัวเองสวีเหยียนซีปลอบโยนเธอสองสามประโยคและตัดสินใจจะหาโอกาสคุยกับคุณนายเซวียนและคนอื่น ๆ ให้ได้ เมื่อเห็นว่าลมเริ่มพัดแรงขึ้น สวีเหยียนซีจึงเตรียมจะพาเธอเดินกลับเข้าไปในร้านอาหารแต่ในทันใดนั้นเองก
Read more
PREV
1
...
5678910
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status