All Chapters of แม่นางไก่ทอด: Chapter 11 - Chapter 20

24 Chapters

พบคนรู้จัก

บรรยากาศครึกครื้นเมื่อครู่พลันเงียบลง กลุ่มคนเริ่มแตกฮือหนีเมื่อเห็นชายฉกรรจ์ยกอาวุธเข้ามา จินเซียงขยับตัวเล็กน้อย ดันเด็กสาวญี่ปุ่นทั้งสองให้หลบไปอยู่หลังเผยอิง“ข้าถามอีกครั้ง มีเรื่องอะไรกับเด็กสองคนนี้” เสียงของนางนิ่งเรียบ แต่แฝงแรงกดดันจนอีกฝ่ายชะงักวูบหนึ่งชายหน้าบากหัวเราะหยัน “หึ! เจ้าไม่ต้องรู้หรอกคุณหนูใหญ่ แค่ส่งตัวพวกนางมา เรื่องก็จบ”“ขู่ข้า? ถ้าไม่จบล่ะ” จินเซียงยกมุมปากขึ้นเล็กน้อยสิ้นคำพูด ร่างของนางหายวับไปจากที่ยืน ก่อนจะปรากฏอยู่ตรงหน้าชายคนนั้นโดยไม่ทันให้ตั้งตัว มือข้างหนึ่งกดข้อมือของเขาอย่างแรงจนดาบร่วงลงพื้น เสียงเหล็กกระทบดัง เคร้ง!“เจ้าจะ!” อีกสองคนรีบพุ่งเข้ามา แต่เพียงพริบตา จินเซียงสะบัดชายแขนเสื้อออก หมัดและปลายเท้าแทรกผ่านราวสายลม ปัดอาวุธออกจากมือพวกมันทีละคนอย่างแม่นยำเสียงแตกตื่นดังไปทั่วตลาด พ่อค้าแม่ค้าพากันถอยหนี บรรยากาศรอบท่าเรือกลายเป็นความวุ่นวายเผยอิงก้าวขึ้นมาข้าง ๆ พลางชักดาบสั้นที่พกติดตัวไว้“หากยังกล้าแตะต้องพวกนางอีกแม้แต่น้อย… อย่าหาว่าข้าไม่เตือน”สีหน้าของชายฉกรรจ์เริ่มแปรเปลี่ยนจากหยิ่งผยองเป็นหวาดหวั่น เหลือบตามองฝูงชนที่เริ่มม
last updateLast Updated : 2025-09-08
Read more

งานแต่งของน้องสาว

วันต่อมาเหล่าแขกเหรื่อทั้งหลายก็ทยอยกันเข้ามาร่วมงานแต่งสายฟ้าแลบของสองบุตรแห่งจวนถัง อี้หลันกับฟางฟาง ข่าวลือแพร่สะพัดไปราวไฟลามทุ่ง หลายคนพากันคิดไปว่าคงเป็นงานของหลานชายคนเดียวของตระกูลที่เผลอทำหญิงสาวท้อง เลยต้องรีบจัดงานแบบไม่ทันตั้งตัวแต่ใครจะคิด… ว่างานแต่งด่วนนี้ กลับเป็นของ บุตรีทั้งสอง ที่ตัดหน้าเหล่าตระกูลใหญ่ไปอย่างเหนือความคาดหมาย!เพราะเป็นงานที่จัดขึ้นฉุกละหุก ของขวัญจากแขกบางคนจึงมาไม่ทัน หลายตระกูลที่เคยเล็งบุตรีคนรองไว้ ก็ถึงกับหน้าชาไปตาม ๆ กัน พวกเขารอจะมาสู่ขอ เพื่อหวังผูกสัมพันธ์ทางการเมือง แต่กลับโดน “มือที่มองไม่เห็น” ปาดหน้าไปในวันเดียวพิธีดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เสียงดนตรีมงคลดังคลอ ผู้คนในตระกูลออกมาร่วมยินดีอย่างคึกคัก หลายสายตาแอบมองคู่บ่าวสาวด้วยความอิจฉา เพราะทั้งหน้าตา ฐานะ และบรรยากาศรอบงานนั้นเรียกได้ว่า “เกินมาตรฐานงานแต่งทั่วไป”“ท่านพ่อ ข้าพึ่งสังเกตว่าตระกูลเรามีแต่บุตรีน่ะเจ้าค่ะ” เอี้ยซ่งยิ้มค้าง ทำท่าประหนึ่งพึ่งเข้าใจสัจธรรมของตระกูลตัวเอง“หืม… ทำไมพ่อไม่เคยคิดเลยน่ะ” จินเซียงยกถ้วยน้ำชา หัวเราะหึ ๆ“นั่นสิท่านพี่ ข้าว่าก็แปลกอยู่” หลอหลันมองไป
last updateLast Updated : 2025-09-09
Read more

เผาค่ายทหารเหลียว

ลมเหนือพัดแรง ฝุ่นทรายลอยคลุ้งไปทั่วผืนดิน ขบวนทัพของจินเซียงเคลื่อนออกจากเมืองหลวงเป็นแนวยาวสุดลูกหูลูกตา ธงรบปลิวไสว เสียงกลองศึกก้องสะเทือนทั่วท้องทุ่งนางขี่ม้าอยู่แถวหน้า สายตาแน่วแน่มองไปยังขอบฟ้าทางเหนือที่ขาวโพลนด้วยหมอก “อีกเจ็ดวัน... หากเราไม่ถึงก่อนพวกมัน เมืองชายแดนจะกลายเป็นเถ้าถ่าน”ข้างกายคือราณีญ่าแห่งแฮมเชียร์ ผู้นำกองพันเปอร์เซียผู้สง่างาม ทั้งสองสบตากันและพยักหน้าอย่างเข้าใจ แม้ต่างเชื้อชาติ แต่ใจมุ่งหมายเดียวกันจินเซียงตัดสินใจมอบทัพหลักให้รองแม่ทัพคุม แล้วนำทหารม้ารวมแปดร้อยมุ่งหน้าไปที่เมืองเหอเป่ย์ เพื่อดูสถานการณ์สู้รบในเวลาเดียวกัน ห้องโถงลับภายในวัง บรรยากาศเย็นยะเยือกและอบอวลด้วยกลิ่นเทียนน้ำมัน ขุนนางกลุ่มหนึ่งนั่งล้อมโต๊ะไม้ พูดคุยกันด้วยเสียงต่ำ“นางเคลื่อนทัพออกไปแล้ว”“ดี... งั้นพวกเราก็ลงมือได้”เสียงหัวเราะเย็นชาดังขึ้นจากเงามืดตรงมุมห้อง “อย่าให้ใครรู้ว่าเบื้องหลังคือเรา... เมืองหลวงจะเป็นของพวกเรา” เงามืดก่อตัวอย่างช้า ๆ ใต้ท้องฟ้าอัสดง********“บ้าเอ้ย! เรามาช้าไป เมืองถูกล้อมหมดแล้ว!”เสียงสบถต่ำของทหารนายหนึ่งสะท้อนก้องกลางความมืดมิด จินเซียงหย
last updateLast Updated : 2025-09-09
Read more

ไร้ความช่วยเหลือ

เช้าวันต่อมา แสงแรกของอรุณยังไม่ทันจางหาย เสียงกลองรบดังสนั่นทั่วเมือง ชาวบ้านชาวเมืองต่างพากันสวดมนต์ขอพรให้กองทัพมีชัยเหนือศัตรูผู้รุกรานถึงแม้จะมีหวังน้อยเต็มทีแต่ก็ยังมีแสงสว่างอยู่ในคือสองแม่ทัพที่ตอนนี้ยืนคู่กันอยู่บนกำแพงเมืองธงรบสีเลือดปลิวสะบัดทั่วป้อมปราการ เหล่าทหารประจำแนวกำแพงต่างขยับขบวนเตรียมพร้อม ชาวเมืองก็ยังพากันจุดธูปเทียนและสวดภาวนาอย่างไม่หวาดหวั่น เสียงสวดมนต์ผสานเข้ากับเสียงกลองกลายเป็นบทสวดขอพรที่มีมนต์ขลัง ความหวังยังคงส่องประกายอยู่บนกำแพงเมือง...“อันเตรียย่าข้าว่ามันสวยจริงๆ ถ้าเทียบกับกองทัพของอัศวินแล้ว”“นั่นซิ แม้จะอยู่ในสงครามมาหลายสิบปีก็ยังไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้”“ท่านพี่ ที่นั่นเป็นเช่นไร” เผยอิงถาม“ที่นั่นเรารบกันด้วยความเชื่อและศรัทธา บ้างก็มีเหตุผลแตกต่างกันไป กองทัพนั้น... อืม... จะว่าไงดีล่ะ พี่ว่าดาบที่อัศวินใช้คงจะฟันพวกทหารเหลียวไม่เข้าแน่ๆ”“ใช่แล้วน้องสะใภ้ ดาบพวกนั้นมันอาศัยน้ำหนักอย่างเดียว ส่วนดาบที่เบาก็เบาเกินไปทำให้สู้กับพวกใส่เกราะเหล็กไม่ได้”“ข้าชอบดาบวงพระจันทร์ กับดาบใหญ่อันนี้มากกว่า” จินเซียงมองดาบคู่ใจในมือ ความสมดุลของดาบทั้ง
last updateLast Updated : 2025-09-12
Read more

ยืนหยัดใต้แสงตะวัน

ถัวปาจวิ้นและขุนพลหลายคนเริ่มกังวลเพราะตอนนี้ก็ปาเข้าไปสองวันแต่ก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรบได้เลยแม้แต่นิดเดียว สิ่งที่พวกมันกังวลมากที่สุดคือทหารของตระกูลหยางเพราะตระกูลนี้เต็มไปด้วยขุนศึกและแม่ทัพมากความสามารถ ยังไม่รวมขุนพลตาเดียวที่เป็นสตรีจากตระกูลถังอีกถัวปาจวิ้นและขุนพลหลายคนเริ่มกังวล เพราะตอนนี้ก็ปาเข้าไป สองวันเต็ม แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรบได้แม้แต่นิดเดียว สิ่งที่พวกเขากังวลที่สุด คือ ทหารตระกูลหยาง ซึ่งเต็มไปด้วยขุนศึกและแม่ทัพฝีมือเยี่ยม และที่สำคัญยังมี ขุนพลตาเดียวจากตระกูลถัง ซึ่งทำให้กองทัพเหลียวหวาดกลัวไม่น้อย และนางก็เป็นสาเหตุให้ไม่สามารถตีเมืองนี้ได้“รายงาน!!” ทหารส่วนหน้าวิ่งเข้ามาในกระโจมแม่ทัพอย่างร้อนรน“มีอะไร! ตีเมืองได้แล้วใช่ไหม!!”“ทัพ... ทัพหน้าส่งสัญญาณถอยทัพแล้วขอรับ… เราสูญเสียทหารไปจนเกือบหมด!”“ทหารมากกว่าสองหมื่น แบ่งเป็นสี่กอง กองละห้าพัน… เจ้าว่าตายหมดเลยงั้นเรอะ! ส่งไปรบหรือไปทำอะไร!!”“ขอรับ! กองหน้าสองกองตายหมด กองที่สามและสี่ยับเยิน ไม่สามารถรบต่อได้!”แม่ทัพนายกองต่างพูดไม่ออก ได้แต่สบตากันด้วยความตึงเครียด“สะ... สองหมื่นทหารม้า” ถั่วปาจวิ้นท
last updateLast Updated : 2025-09-12
Read more

กลับบ้าน

ทุกคนในห้องอาหารเบือนสายตาไปยังจินเซียงเป็นตาเดียว ความเงียบเข้าปกคลุมบรรยากาศชั่วขณะ คำถามมากมายผุดขึ้นในใจของเหล่าขุนนางเหลียว โดยเฉพาะอาวุโสถังผู้เป็นปู่ซึ่งมองใบหน้าของหลานไม่แท้อย่างเคร่งขรึม ทว่าผู้ที่มีสีหน้าตื่นตระหนกที่สุดกลับเป็นพระชายาทั้งสองของรัชทายาท“พวกเจ้ารู้จักนางรึ” ฮองเฮาเอ่ยถาม น้ำเสียงนิ่งแต่แฝงแรงกดดัน“พะ… เพค่ะ” พระชายาองค์โต้ตอบเสียงสั่น “นางคือผู้ที่ช่วยพวกหม่อมฉันไว้จากกลุ่มโจรเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นพวกหม่อมฉันตามเสด็จไปล่าสัตว์เพค่ะ”“เพค่ะ” ชายาองค์รองเสริม “ตอนที่พานางมาพักรักษาตัว ท่านก็น่าจะเคยเห็น รวมถึงนางยังช่วยองค์หญิงจากการถูกลักพาตัวด้วยเพค่ะ”“ข้าเองก็จำอะไรได้ไม่ค่อยมากนัก” จินเซียงตอบเรียบ “เมื่อหลายเดือนก่อนเกิดอุบัติเหตุ ทำให้ความจำบางส่วนหายไป ต้องขอโทษด้วย”นางไม่โกหก…เพราะความทรงจำในช่วงนั้นขาดหายไปจริง ๆ “ข้าเองก็จำอะไรได้ไม่ค่อยมาเพราะเมื่อหลายเดือนก่อนเกิดอุบัติเหตุขึ้นทำให้ความจำบางส่วนหายไป ต้องขอโทษด้วย” จินเซียงพูดแก้ตัว เพราะจำไม่ได้จริงๆต่างจากอาวุโสถังที่รู้สึกว่าเหตุการณ์นี้มันดูคุ้นเคย เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนบรรยากาศคลายควา
last updateLast Updated : 2025-09-13
Read more

เริ่มกิจการร้านไก่ทอด

เช้าวันต่อมา จินเซียงออกไปดูหน้างานตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างดี โรงเตี๊ยมที่ถูกไฟไหม้กำลังอยู่ระหว่างการปรับปรุง กลิ่นไม้ไหม้เกรียมยังคงอ้อยอิ่งอยู่ในอากาศจาง ๆ นางหยุดยืนมองซากหลังคาที่พังลงมา แสงแดดยามเช้าสีหม่นลอดผ่านช่องไม้แตกให้บรรยากาศอึมครึม“เช้านี้... ดูท่าฝนน่าจะตกในไม่ช้า” นางเงยหน้ามองท้องฟ้า ฝนตั้งเค้าอยู่เหนือศีรษะหัวหน้ากององครักษ์ซึ่งแอบมาดักรอ ก้าวออกมาจากมุมเงา “ท่านแม่ทัพขอรับ… สืบได้ความแล้ว” น้ำเสียงนั้นสั่นเครือ ขณะที่จินเซียงเดินเข้าไปนั่งยังเก้าอี้ไม้เก่ากลางห้อง ท่ามกลางความเงียบที่แม้แต่เสียงลมหายใจก็ดังชัด เพียงหายใจแผ่วเบาก็ทำให้องครักษ์รอบ ๆ สั่นกลัว“ใคร…” เสียงของนางเรียบเย็นจนน่าหวาดหวั่น“องค์ชายรองขอรับ แต่คนที่อยู่เบื้องหลัง… เรายังหาตัวไม่ได้”เกร๊ก!“ถ้ามันยังรู้ที่ต่ำที่สูง ข้าก็จะไม่ว่าอะไร” นางล้วงมือลงไปในอกเสื้อ ก่อนจะโยนป้ายไม้ดำลงบนพื้น เสียงกระทบพื้นดังชัดเจนราวคำเตือน“พวกข้าจะเร่งจัดการให้ขอรับ!” หัวหน้าองครักษ์รีบตอบแทบไม่ทันหายใจ“เมื่อคืนมันยังกล้ามาเดินเล่นในสวนเรือนข้า… ที่นี่ไม่ใช่โรงน้ำชาให้พวกมันเข้ามาเหยียบเล่น!” แววตาสีฟ้านุ่มลึกชวนห
last updateLast Updated : 2025-09-13
Read more

ขายดีจนอิจฉา

ทุกคนในร้านต่างพากันตกใจเมื่อเห็นฮ่องเต้ตะโกนออกมา หมอหลวงและองครักษ์รีบพากันวิ่งเข้ามา“ฝ่าบาท!” ฮองเฮารีบเขย่าตัวฮ่องเต้“หยุดก่อน!” ฮ่องเต้คีบเนื้อย่างเข้าปากแล้วพูดบางอย่าง “จานของเจ้าถ้าไม่กิน... เรากินเอง” ฮองเฮามองอาหารในจานที่หายไปอย่างรวดเร็วเสียงหัวเราะดังขึ้นทั่วงาน ฮองเฮากลอกพระเนตรเบา ๆ “หม่อมฉันเห็นท่านพูดนาน ข้าเลย...ช่วยชิมแทนเพคะ”“ฮองเฮา! เจ้าแย่งข้ารึ!” ฮ่องเต้ทรงเอ็ดพลางหัวเราะกลั้นไม่อยู่ “ยกเข้ามาได้!”“พะย่ะค่ะ” หีบหลายใบถูกขนเข้ามามอบให้จินเซียงที่ยืนงงอยู่ ฮ่องเต้นั้นเล่นใหญ่มาก ทำเอานึกว่าจะหัวหลุดเสียแล้ว“เหล่าอาหารที่แตกต่าง อาหารก็อร่อย บรรยากาศการตบแต่งก็สวยงาม มีการรวมรูปแบบสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมของแต่ล่ะชนชาติได้อย่างลงตัว อะ อ่าว แผ่นแป้งห่อเนื้อพิเศษหายไปไหน!” ฮ่องเต้ก้มมองจานตัวเองที่ว่างเปล่า แล้วหันไปถามกงกงคนสนิทที่ยืนอยู่ด้านหลัง“เสด็จพี่ ข้าเห็นท่านพูดนานนึกว่าจะไม่ทานข้าเลยเอามาทานแทน”“ฮองเฮา! เจ้าไม่อายรึไง!” ฮ่องเต้หันไปต่อว่าฮองเฮาของตนบรรยากาศคลี่คลายเป็นความสุขที่อบอวล แต่ก่อนที่ทุกอย่างจะจบ เสียงองครักษ์ก็ดังขึ้นจากหน้าร้าน“ทูลฝ่าบาท
last updateLast Updated : 2025-09-13
Read more

อดีต

จินเซียงมองคนรักนั่งเงียบมาซักพักตั้งแต่ได้ฟังเรื่องที่เอมิลเล่า เรื่องของคนรักเก่าที่ตายจากไปไม่หวนกลับ ทั้งคู่มีหลายอย่างที่เหมือนกันอย่างแยกไม่ออกแตกต่างกันก็แค่สีผม “เจ้าก็คือเจ้า ข้ารักเจ้าด้วยใจจริง”“ท่านคงไม่คิดว่าข้าเป็นตัวแทนนางใช่รึไม่” “อดีตก็คืออดีตไม่อาจย้อนกลับได้อีก ความผิดพลาดครั้งนั้นเป็นบทเรียนให้ข้าว่าข้าจะต้องไม่ผิดพลาดอีกซ้ำสอง” “ท่านอย่าได้โทษตัวเองเลย” “นั่นซิน่ะ มาเถอะไปดูคนอื่นๆ ทำงานกัน” “เจ้าค่ะ” ทั้งคู่เดินออกนอกห้องทำงานตรงไปที่ท้ายจวนติดท่าเรือ โรงหลอมนั้นกำลังถูกสร้างอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้ผิดพลาด ส่วนพื้นที่ด้านข้างและจวนหลังนั้นก็กำลังมีการปรับปรุงโดยใช้แผ่นไม้มาล้อมส่วนติดถนนไว้เพื่อไม่ให้คนเห็นว่าทำอะไรก่อนที่กำแพงจะสร้างเสร็จแต่เรื่องการเตรียมตัวสำหรับวัตถุดิบนั้นก็ได้คนจากตระกูลหวังที่ครอบครองการค้าเหล็กและแร่หลายชนิดมาช่วยในการจัดหา ทำให้เรื่องวัตถุดิบง่ายขึ้นมามาก เจ็ดวันต่อมาโรงหลอมก็สร้างเสร็จ ฮ่องเต้ทรงมาดูงานด้วยตัวเองเพราะอยากรู้ว่าการหล่อปืนใหญ่จะเหมือนตีดาบรึไม่ หลังจากที่โหรหลวงมาถึงก็เริ่มทำพิธีบูชาดินฟ้าเพื่อความเป็นสิริมงคล ฮ่
last updateLast Updated : 2025-09-13
Read more

พักผ่อน

เช้าวันต่อมา จินเซียงพาเผยอิงและสองสาวไปเล่นน้ำที่น้ำตกใกล้บ้าน แต่ทว่ากลับไม่มีใครยอมลงเพราะการเปลืองผ้าเล่นน้ำนั้นถือว่าผิดหลักสอนหญิง แต่บางทีพวกนางอาจลืมไปว่าทีนี่มีแต่สตรีเท่านั้น จินเซียงโดดลงน้ำโดยมีเพียงบังทรงกับกางเกงสั้นเท่านั้น ซู่มม~ “สดชื่นจริงๆ อ้าวพวกเจ้าไม่ลงมาล่ะ ฮูหยินข้า เจ้าไม่ลงมาหรอ” “พวกข้าว่ายน้ำไม่เป็นเจ้าค่ะ” เผยอิงตอบตามตรง “อะไรกัน เช่นนั้นก็นั่งเล่นกันดีๆ น่ะ” “เจ้าค่ะ” วันเวลาอันสงบสุขก็ดำเนินต่อไปจนวันสุดท้ายของการพักผ่อนมาถึง ทั้งสี่ช่วยกันเก็บข้างของขึ้นรถม้าเพื่อเตรียมตัวกลับไปที่จวน “เสี่ยวจูเจ้าเก็บของมาครบรึยัง” “เจ้าค่ะฮูหยิน” เสียวจูตอบ “ฮวาฮวาปิดรั้วให้ดีด้วยน่ะ จะได้ไม่มีใครเข้าไปได้” “แน่ใจรึเจ้าค่ะ” จินเซียงย้ำอีกรอบ “เชื่อข้า” ฮวาฮวาพยักหน้าแล้วปิดรั้วให้สนิท แล้วเดินมาขึ้นรถม้า รถม้าค่อยๆ เคลื่อนออกห่างจากบ้านช้าๆ ไม่มีใครสังเกตเลยแม้แต่น้อยว่าบ้านหลังดังกล่าวได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยนอกจากจินเซียงเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด กุบกับ กุบกับ เสียงรถม้าค่อยๆ เคลื่อนไปตามทางขรุขระมุ่งหน้าสู่เมืองใหญ่เซี่ยโจว “ทำไมรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย”
last updateLast Updated : 2025-09-17
Read more
PREV
123
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status