All Chapters of ยามบุปผางามผลิบานทั้งใจ: Chapter 11 - Chapter 20

80 Chapters

บทที่ 11

พระชายาเฉิงไม่คาดคิดว่าถังหนิงจะบอกไม่ให้นางไปที่สกุลซ่ง นางขมวดคิ้ว “แต่ทางสกุลซ่ง เรื่องนี้จะปล่อยไปง่าย ๆ เช่นนี้หรือ?”“ไม่เจ้าค่ะ”“เช่นนั้นเจ้า...”“พวกซ่งจิ่นซิวจะมาหาข้าเอง”ถังหนิงมองดูมือที่บาดเจ็บของตนเอง คนที่ร้อนใจคือพวกซ่งหงเอง คนที่เสียหน้าคือสกุลซ่งตราบใดที่นางไม่กลับสกุลซ่งวันหนึ่ง คนข้างนอกก็จะจดจำเรื่องที่คนสกุลซ่งทำไปได้อีกวันหนึ่งขอเพียงนางนิ่งไว้ได้ สกุลซ่งจะร้อนใจยิ่งกว่าใคร ๆ พระชายาเฉิงรู้ดีว่าซ่งถังหนิงเคยติดพี่ชายคนโตคนนั้นของสกุลซ่งมากเพียงใด เมื่อก่อนไม่ว่าจะทำอะไรก็เรียกท่านพี่ทุกคำ เมื่อเอ่ยถึงซ่งจิ่นซิวก็เต็มไปด้วยความสนิทสนม แต่มาบัดนี้กลับเรียกชื่อเต็มโดยตรง ตอนที่พูดถึงสกุลซ่งก็ยิ่งเย็นชา นางรู้สึกเพียงว่าสกุลซ่งทำร้ายจิตใจของหลานสาวแล้ว“ได้ น้าจะฟังถังหนิงทุกอย่าง”“ท่านน้าดีที่สุดเลย”ซ่งถังหนิงพิงอยู่ที่ไหล่ของพระชายาเฉิงแล้วถูเบา ๆ พระชายาเฉิงถูกเด็กสาวออดอ้อนจนใจอ่อน ลูบผมของนางด้วยความสงสาร “เจ้ากับเซียวเยี่ยนเป็นมาอย่างไรกัน เหตุใดจู่ ๆ เขาถึงได้รับเจ้าเป็นน้องสาวบุญธรรม?”ถังหนิงลูบจี้ลายมังกรที่ห้อยอยู่ที่คอโดยไม่รู้ตัวระหว
Read more

บทที่ 12

เพียะ!ฟู่ไหลชิ่งตบมือที่อยู่บนคอเสื้อของเขาออกไป “ยังจะเสแสร้งอะไรอีก?!”“บนภูเขาเชวี่ยหิมะทับถมอยู่ ตกค่ำแล้วทางก็ลื่น ในเขามีสัตว์ป่าปรากฏตัวอยู่บ่อย ๆ ตอนที่ท่านทิ้งแม่นางน้อยซ่งไว้ในป่านั่น ไม่ได้คิดหรือว่านางจะเจออันตราย?”“ท่านมีใจจะไปส่งบุตรีอนุนอกเรือนของท่านไปร่วมงานเลี้ยงที่สกุลเฉียน กลัวว่านางจะต้องน้อยใจแม้เพียงน้อยนิด แต่กลับไม่คิดจะส่งคนไปตามหาน้องสาวแท้ ๆ ที่ถูกท่านทอดทิ้งบ้างเลยหรือ?”เมื่อทั้งลานเงียบสงัด น้ำเสียงของฟู่ไหลชิ่งก็เยาะเย้ยจนถึงที่สุด“จิตใจของใต้เท้าเสี่ยวซ่งนี่ แข็งยิ่งกว่าหินเสียอีกนะ”ใบหน้าของซ่งจิ่นซิวซีดขาวลงทันที เป็นไปได้อย่างไร... เขาให้นางกลับไปที่วัดหลิงอวิ๋นชัด ๆ เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าที่นั่นอยู่ไม่ไกลจากวัด...ตอนนั้นเขากลัวว่าซูหลานจะเจออันตราย จึงปกป้องนางจากไป แต่ยังมีเซี่ยอิ๋นกับลู่จื๋อเหนียนอยู่พวกเขาสองคนสนิทสนมกับถังหนิงถึงเพียงนั้น จะไม่ทิ้งบ่าวไพร่ไว้คอยคุ้มกันได้อย่างไร?ฟู่ไหลชิ่งเห็นท่าทางของเขา ก็แค่นเสียงเย็นด้วยความดูแคลน แล้วหันหลังเดินจากไปคนอื่น ๆ ที่หยุดอยู่รอบ ๆ ก็มีสีหน้าแตกต่างกันไปเรื่องที่สกุลเฉียนเกิดขึ
Read more

บทที่ 13

“ท่านพี่!”ซ่งจิ่นซิวรีบเดินมาถึงหน้าประตู พอจะก้าวขึ้นรถม้า ก็เห็นซ่งซูหลานยกชายกระโปรงเดินโซซัดโซเซออกมาจากข้างหลัง เขาจึงรีบปล่อยบังเหียนแล้วหยุดลง “เจ้าออกมาทำไม?”ซ่งซูหลานชนเข้ากับอกของเขาแล้วถูกประคองไว้ “ท่านพี่ ข้าจะไปกับท่านด้วย”ใบหน้าของเด็กสาวซีดขาวอย่างยิ่ง ดวงตาที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มายังคงแดงก่ำ“เป็นข้าที่ไม่ควรตามท่านพี่ไปที่วัดหลิงอวิ๋น เป็นข้าที่ทำให้ถังหนิงเข้าใจท่านพี่ผิด ข้ารู้ว่าท่านพี่เป็นห่วงถังหนิง เรื่องเมื่อวานเป็นความผิดของข้าเอง ข้าไม่ควรไปต่อปากต่อคำกับถังหนิงจนทำให้ท่านพี่โมโหไปชั่วขณะ ถึงได้เกือบจะทำร้ายถังหนิง ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของข้าเอง” นางดึงชายเสื้อของซ่งจิ่นซิวเบา ๆ ร้องไห้สะอึกสะอื้น“คนที่ถังหนิงโกรธคือข้า คนที่นางไม่ชอบก็คือข้า เป็นข้า... เป็นข้าที่ไม่ควรมาที่เมืองหลวง...”ซ่งจิ่นซิวมองซ่งซูหลานที่บอบบางน่าทะนุถนอม ก็รู้สึกใจอ่อนยวบไปหมด“เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไรกัน เรื่องของถังหนิงไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้าเป็นคุณหนูของสกุลซ่ง ไม่กลับสกุลซ่งแล้วจะไปที่ไหนได้ เป็นข้าที่ประมาทจนทำให้ถังหนิงบาดเจ็บ นางเป็นคนใจร้อนและไม่ชอบเจ้าอยู่แล้ว หากเจ้า
Read more

บทที่ 14

ความรักระหว่างท่านน้าและเฉิงอ๋องนั้นดีมาโดยตลอด ตอนที่ถังหนิงยังเด็กก็เข้าออกจวนเฉิงอ๋องอยู่บ่อยครั้ง และมักจะมาค้างคืนกับท่านน้าอยู่เสมอ นางเห็นกับตาตนเองว่าเฉิงอ๋องตามใจท่านน้ามากเพียงใด ตั้งแต่เรื่องใหญ่ ๆ อย่างเสื้อผ้าอาหารการกินการเดินทาง ไปจนถึงเรื่องเล็ก ๆ อย่างปิ่นปักผมดอกไม้ไข่มุก เฉิงอ๋องจะใส่ใจทุกเรื่อง แม้แต่ช่างปักผ้าและผ้าที่จะใช้ตัดเย็บเสื้อผ้าให้ท่านน้าในแต่ละปี เขาก็เป็นคนเลือกด้วยตัวเองเขายอมตามใจท่านน้าทุกอย่าง ไม่เคยโมโหเลยแม้แต่น้อย ทั้งสองคนนาน ๆ ทีจะทะเลาะกัน ส่วนใหญ่ก็เป็นเฉิงอ๋องที่ยอมให้ท่านน้าและเป็นฝ่ายยอมรับผิดก่อนเสมอท่านน้าแต่งงานมีบุตรมานานหลายปี แต่ก็ยังคงมีนิสัยเอาแต่ใจราวกับเด็กสาวที่ยังไม่ออกเรือน และถังหนิงก็เคยเห็นทั้งสองคนกระซิบกระซาบคลอเคลียกันอยู่บ่อยครั้ง ความรักที่ลึกซึ้งนั้นทำให้คนอิจฉา เฉิงอ๋องดีต่อท่านน้าจนหาข้อตำหนิไม่ได้แม้แต่ครึ่งคำ แม้แต่กับนางก็ยังรักและเอ็นดูราวกับเป็นบุตรสาวของตนเองแต่ในชาติที่แล้วหลังจากที่นางถูกกักขังอยู่ในเรือนหลังของสกุลซ่ง ท่านน้าก็ป่วยตายอย่างกะทันหัน น้าเขยที่นางเคยเฝ้ารอคอยครั้งแล้วครั้งเล่า หวังว่า
Read more

บทที่ 15

เมื่อเซี่ยอิ๋นและซ่งจิ่นซิวเข้ามาในเรือน ก็เห็นร่างที่ไม่คุ้นเคยยืนขวางอยู่ที่หน้าประตูชางลั่งสวมชุดผ้าแพรสีดำสนิท ในมือยังอุ้มกระบี่ไป๋หลินอวี้เฟิงอยู่ เขาพิงเสาระเบียงทางเดินอย่างไม่ใส่ใจ ครึ่งตัวซ่อนอยู่ในเงามืด“เจ้าเป็นใคร มาอยู่ในเรือนของถังหนิงได้อย่างไร?” เซี่ยอิ๋นตกใจในทันทีซ่งจิ่นซิวได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึง “เขาไม่ใช่คนของจวนเฉิงอ๋องหรือ?”“ใครก็ได้...”เมื่อเห็นว่าเซี่ยอิ๋นอ้าปากจะเรียกคน ชางลั่งก็เดินออกมาจากเงามืด“เซี่ยซื่อจื่อตาบอดหรือ? เพิ่งจะพบกันที่สกุลเฉียนเมื่อเช้านี้ พอตกกลางคืนก็จำไม่ได้เสียแล้ว”“เป็นเจ้า!”หลังจากที่เซี่ยอิ๋นเห็นชัดเจนว่าเป็นใคร ก็พลันนึกถึงความอัปยศอดสูที่ได้รับที่สกุลเฉียนในวันนี้หากจะบอกว่าคำพูดและเรื่องราวเหล่านั้นที่ถังหนิงพูดทำให้เขาเสียหน้าจนอับอายอย่างถึงที่สุด เช่นนั้นเจ้านายของคนที่อยู่ตรงหน้านี้ก็คือตัวการใหญ่ ถ้าไม่ใช่เพราะเขา ถังหนิงจะไปที่สกุลเฉียนได้อย่างไร เขารู้สึกโกรธขึ้นมาทันที“เจ้ามาทำอะไรที่จวนของพวกเรา? ยังกล้ามาอยู่ในเรือนของถังหนิงตอนกลางดึกอีกด้วย?” ซ่งซูหลานที่ตามมาข้างหลังเห็นซ่งจิ่นซิวทำหน้างุนงง ก็กระซ
Read more

บทที่ 16

ซ่งจิ่นซิวถูกนางพูดจากดดันจนใบหน้าแข็งค้าง แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกว่าตนเองผิดเขาเป็นพี่ชายคนโต ในใจของเขาถังหนิงและซูหลานล้วนเหมือนกัน พวกนางต่างก็เป็นน้องสาวของเขา เขาเพียงแค่อยากให้พวกนางพี่น้องปรองดองกัน อยากให้ถังหนิงเลิกจู้จี้จุกจิกกับเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เขาได้แต่บอกกับตนเองว่าถังหนิงแค่เข้าใจเขาผิด อายุยังน้อยไม่เข้าใจว่าเขาทำไปเพื่อนาง ข่มความสับสนวุ่นวายในใจลง พยายามพูดคุยกับนางด้วยเหตุผล“ถังหนิง ข้ารู้ว่าเจ้าไม่ชอบซูหลาน แต่นางเป็นพี่สาวแท้ ๆ ของเจ้า พวกเจ้ามีสายเลือดเดียวกัน เป็นญาติสนิทร่วมสายเลือด เหตุใดเจ้าจะต้องแบ่งแยกด้วย พี่ทำทุกอย่างก็เพื่อเจ้า หากเจ้าคิดเล็กคิดน้อยใจแคบเช่นนี้ ต่อไปจะแต่งเข้าสกุลลู่แล้วให้พวกเขายอมรับได้อย่างไร?”“คืนนี้เดิมทีข้าไม่อยากให้ซูหลานมาด้วย เรื่องเมื่อวานก็ไม่เกี่ยวกับนาง เป็นซูหลานที่หลังจากรู้ว่าเจ้าบาดเจ็บก็รู้สึกเสียใจและรู้สึกผิด แทบอยากจะรับความเจ็บปวดแทนเจ้า ท่านย่าพวกเขาก็ลงโทษนางให้นางคุกเข่าอยู่นาน นางมาที่นี่ก็เพียงแค่อยากจะมาขอโทษเจ้า ขอให้เจ้ากลับไป เหตุใดเจ้าจะต้องบีบคั้นนาง...”“ข้าบีบคั้นนางหรือ? ไม่ใช่พวกท่านที่บีบคั
Read more

บทที่ 17

ทั่วทั้งเรือนมีเสียงลมพัดหวีดหวิว ตอนที่ซ่งจิ่นซิวคุกเข่าลงไปนั้น ก็ได้ยินเสียงดังตุ้บหนัก ๆ พร้อมกับเสียงครางในลำคอ ถังหนิงถึงกับสงสัยว่าหัวเข่าของเขาจะแตกหรือไม่ แต่บุรุษร่างสูงใหญ่ที่ยืนอยู่เบื้องหน้านาง กลับเพียงแค่ใช้แขนเสื้อมาบังใบหน้าของนางไว้ถังหนิงรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นจาง ๆ ที่บดบังสายตาอยู่เบื้องหน้า ข้างหูคือเสียงที่เย็นเยียบดุจหยกน้ำแข็งของเขา “เจ้าชื่อซ่งซูหลานหรือ?”ใบหน้าของซ่งซูหลานซีดเผือด“ในเมื่อเจ้าบอกว่าเรื่องเมื่อวานนี้เกิดขึ้นเพราะเจ้า เจ้าไม่ควรพลั้งมือปัดตะเกียงนิรันดร์ของฮูหยินรองซ่งตก ทั้งยังบอกว่าขอเพียงแค่ให้ถังหนิงยอมให้อภัย จะให้เจ้าทำอะไรก็ได้ เช่นนั้นเจ้าก็จงออกจากที่นี่ เริ่มจากหน้าประตูจวนเฉิงอ๋อง เดินก้าวหนึ่งก้าวคุกเข่าหนึ่งครั้งแล้วโขกศีรษะไปจนถึงวัดหลิงอวิ๋น เพื่อจุดตะเกียงนิรันดร์ให้ฮูหยินรองซ่งใหม่”“แม่นางใหญ่ซ่งช่างเข้าอกเข้าใจผู้อื่น ช่วยแบ่งเบาภาระให้พี่ชายเช่นนี้ คงจะไม่ปฏิเสธกระมัง”ซ่งซูหลานได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงไปในทันทีเขาบ้าไปแล้วหรือ?!จวนเฉิงอ๋องตั้งอยู่ในย่านที่เจริญที่สุดของเมืองหลวง แค่จากที่นี่ไปถึงประตูเมืองก็ต้องใช้เว
Read more

บทที่ 18

ถังหนิงมองเซียวเยี่ยนอย่างเหม่อลอยเล็กน้อยไปกับเขาหรือ?เดิมทีนางอยากจะอยู่ที่จวนเฉิงอ๋อง เพราะท่านน้าอยู่ที่นี่ มีนางอยู่ย่อมปกป้องตนเองได้แน่นอน แต่นางกลับลืมไปว่าเซี่ยอิ๋นก็อยู่ที่นี่ด้วยเซี่ยอิ๋นเป็นซื่อจื่อแห่งจวนเฉิงอ๋อง เขาสามารถเข้าออกทุกที่ในจวนนี้ได้อย่างอิสระ ไม่มีใครกล้าขวางเขา หรือแม้แต่ไม่กล้าขวางคนสกุลซ่งที่เขาพาเข้ามาตอนนี้นางเพียงแค่เห็นหน้าเซี่ยอิ๋นพวกเขาก็รู้สึกรำคาญและขยะแขยง และยิ่งเกลียดชังที่พวกเขาเอาแต่แกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องรู้ราวครั้งแล้วครั้งเล่า ใช้คำพูดเดิม ๆ เรื่องเดิม ๆ มาทิ่มแทงนางสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ นางต้องสืบให้รู้แน่ชัดว่าเรื่องราวของเฉิงอ๋องนั้นเป็นอย่างไรกันแน่ชาติที่แล้ว หลังจากที่นางเกิดเรื่องได้ไม่ถึงครึ่งปี ท่านน้าก็ป่วยตายอย่างกะทันหัน แต่เท่าที่สังเกตท่านน้าก็ร่างกายแข็งแรงมาโดยตลอด เหตุใดจู่ ๆ ถึงได้ป่วยขึ้นมา หลังจากป่วยได้ไม่ถึงเดือนก็เสียชีวิตอย่างกะทันหัน นางไม่ได้เห็นแม้แต่ร่างไร้วิญญาณเลย การอยู่ที่จวนเฉิงอ๋องแม้จะสามารถปกป้องท่านน้าได้ตลอดเวลา แต่การจะทำอะไรใต้จมูกของเฉิงอ๋องก็ไม่สะดวก“ถังหนิง อย่าดื้อรั้น!”เมื่อเห็น
Read more

บทที่ 19

“เจ้าพูดจาเหลวไหลอะไรกัน?”เซี่ยอิ๋นตกตะลึงจนพูดไม่ออก สายตาเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ นางจะไม่แต่งเข้าสกุลลู่ได้อย่างไร?ซ่งจิ่นซิวก็เงยหน้าขึ้นมองถังหนิงทันที การแต่งงานของสกุลซ่งและสกุลลู่เป็นเรื่องที่ฮองเฮาทรงกำหนดด้วยพระองค์เอง วันแต่งงานก็กำหนดไว้ในปีหน้า หลายปีมานี้ถังหนิงก็พึ่งพิงลู่จื๋อเหนียนอย่างยิ่ง ตั้งแต่รู้ความก็พูดว่าจะแต่งให้พี่ลู่ของนางมาโดยตลอด และยังถือว่าตนเองเป็นสะใภ้ของสกุลลู่ ไปมาหาสู่กับสกุลลู่อยู่เสมอแต่ตอนนี้นางกลับบอกว่านางจะไม่แต่งเข้าสกุลลู่ นางโกรธถึงเพียงนี้เชียวหรือ?อย่าว่าแต่พวกซ่งจิ่นซิวเลย แม้แต่พระชายาเฉิงและเซียวเยี่ยนก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ถังหนิงซ่งจิ่นซิวข่มความร้อนใจและความโกรธลง พยายามพูดอย่างใจเย็นที่สุด “ถังหนิง อย่าพูดจาประชดประชันเลย เรื่องการแต่งงานของเจ้ากับสกุลลู่พูดกันมานานหลายปีแล้ว ฮองเฮาก็ทรงดีกับเจ้ามาโดยตลอด ข้ารู้ว่าเจ้าโกรธเรื่องที่ภูเขาเชวี่ย แต่ไม่ว่าอย่างไร ก็ไม่ควรเอาเรื่องแต่งงานของเจ้ามาล้อเล่น”“เชื่อฟังเถอะ อย่าก่อเรื่องอีกเลย พี่ผิดไปแล้ว ยังไม่ได้หรือ”เขาเต็มไปด้วยความจนปัญญา ราวกับกำลังพูดอยู่กับเด็กที่เอา
Read more

บทที่ 20

“เจ้าจะไปรู้อะไร”เฉิงอ๋องรู้สึกเพียงว่านางช่างไร้เดียงสา “ถังหนิงกับเขาไม่มีความแค้นต่อกัน แต่เบื้องหลังของนางยังมีจวนซ่งกั๋วกง และนางก็ยังมีสัญญาหมั้นหมายกับสกุลลู่อยู่”เขาข่มความโกรธลงแล้วพยายามเกลี้ยกล่อมนาง“ช่วงนี้เซียวเยี่ยนกำลังตรวจสอบเรื่องการลำเลียงเสบียงทางน้ำ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคนของตระกูลใหญ่ทั้งสิ้น เขาต้องการจะช่วยเสด็จพี่ต่อกรกับตระกูลใหญ่ แต่ตระกูลใหญ่มีอำนาจมาก โดยเฉพาะสกุลชุยและสกุลลู่ที่เป็นผู้นำ จวนซ่งกั๋วกงก็มีความสัมพันธ์อันดีกับทั้งสองสกุลนั้น ถังหนิงไปคลุกคลีกับเซียวเยี่ยน แล้วถูกพวกเขารู้เข้า จะมีผลดีอะไรได้?”สีหน้าของพระชายาเฉิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย นางลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท แต่ในชั่วพริบตาก็ไม่พอใจคำพูดของเฉิงอ๋อง “อะไรคือคลุกคลี ท่านก็มองถังหนิงเช่นนั้นหรือ?”“ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้าแค่กลัวว่านางจะเสียชื่อเสียง...”“มีอะไรให้ต้องกลัว”พระชายาเฉิงขมวดคิ้ว “ฐานะของเซียวเยี่ยนในเมืองหลวงนี้ใครบ้างจะไม่รู้ เขาเข้าออกวังหลวงทุกวัน อยู่กับพระสนมก็ยังไม่มีใครปากมาก ต่อให้อยู่กับถังหนิงตามลำพังในห้องแล้วใครจะเข้าใจผิดได้? ท่านมีเวลามาว่าถังหนิง สู้ไปด
Read more
PREV
123456
...
8
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status