หากเอ่ยถึงคุณหนูสกุลเฟิ่งคงไม่มีผู้ใดไม่รู้จักจนถอนหายใจอย่างเอือมระอา ด้วยชื่อเสียงอันอื้อฉาวเลื่องลือไปทั่ว ทั้งความเอาแต่ใจและนิสัยร้ายกาจที่พูดทั้งวันก็มิอาจบรรยายได้หมดสิ้นสกุลเฟิ่งเป็นตระกูลขุนนางเก่าแก่ สืบทอดต่อกันมาหลายชั่วรุ่น ทว่าหลังจากที่นายท่านเฟิ่งรับช่วงต่อจากบิดาผู้เฒ่า แม้จะมีภรรยาตั้งแต่วัยเยาว์ แต่เวลากลับล่วงเลยผ่านไปหลายสิบปีโดยยังไร้บุตรสืบสกุลฮูหยินผู้เฒ่ากับท่านผู้เฒ่าเฝ้ารอคอยที่จะได้เห็นสกุลเฟิ่งมีทายาทสืบต่ออีกหนึ่งรุ่น ได้อุ้มหลานสักครั้งก่อนสิ้นลมหายใจ ทว่าเวลากลับล่วงเลยปีแล้วปีเล่า ก็ยังคงไร้วี่แววข่าวดีและแม้ฮูหยินผู้เฒ่าจะอายุมากแล้ว นางก็ยังคงเข้าวัดวาไม่เว้นวัน กราบไหว้บูชาขอพรให้สกุลเฟิ่งไม่สิ้น ท่ามกลางเสียงทักท้วงของผู้คนมากมายที่เอ่ยเย้ยหยันว่าวันหนึ่งตระกูลเฟิ่งย่อมสิ้นทายาทสืบทอดอย่างแน่นอนจนเมื่อเวลาล่วงเลยไปปีแล้วปีเล่า เส้นผมของทั้งสองพลางขาวโพลนทั่วหัวฮูหยินผู้เฒ่ากับท่านผู้เฒ่าก็ไม่อาจรอคอยได้อีกสุดท้ายก็สิ้นลมจากไปด้วยโรคชรา แต่แม้ร่างกายจะดับสูญ วิญญาณกลับยังคงเป็นห่วงกังวล ไม่อาจปล่อยวางและหลับใหลได้อย่างสงบอยู่ดีกระทั่งวันหนึ่ง
Last Updated : 2025-10-25 Read more