All Chapters of เกิดใหม่เป็นองค์หญิงวิปลาส: Chapter 41 - Chapter 50

79 Chapters

บทที่ 40 ลอบบุกเข้าตำหนักไฉ่หง

ค่ำคืนนี้ลมเหนือพัดแรงเป็นพิเศษ ท้องฟ้าถูกห่มด้วยเมฆสีเทาหม่น แสงจันทร์เพียงเสี้ยวส่องลอดกิ่งสนสูงโปร่งของเขตตำหนักร้างเว่ยอิง องค์หญิงหลิงเซียงห่อคลุมไหล่ด้วยผ้าคลุมสีดำสนิท ฝีเท้าเบาจนแทบไม่มีเสียงเมื่อก้าวผ่านลานหญ้าเปียกชื้นตำหนักเว่ยอิงเงียบสงัดราวกับถูกเวลาลืมเลือน ประตูไม้แกะสลักซึ่งเคยงดงามบัดนี้เกรอะกรังด้วยฝุ่น แต่เมื่อหลิงเซียงผลักประตูเบา ๆ กลับเกิดเสียงแผ่วเพียงพอให้ได้ยินว่าที่นี่ตื่นแล้ว องค์หญิงหลิงเซียงยังคงมาฝึกวิชาที่ตำหนักเว่ยอิงเหมือนทุกวัน ภายในห้องลับชั้นในยังคงมีกลิ่นยาสมุนไพรเจือกลิ่นไม้จันทน์อ่อน ๆ คบเพลิงที่เคยดับไปแล้วกลับติดขึ้นเองทีละดวงเมื่อนางก้าวเข้าไปคล้ายรู้ตัวดีว่าเจ้าของกลายมาเยือนอีกครั้งหลิงเซียงย่อตัวตรงกลางห้อง หยิบคัมภีร์เล่มใหม่ที่พึ่งค้นพบเมื่อคืนว่าออกมาอ่าน คัมภีร์ลายมังกรเมฆ ที่หาเจอจากซอกผนังลับขึ้นมากาง หน้ากระดาษเก่าแต่เส้นอักขระยังเรืองแสงราวกับเพิ่งเขียนไม่นาน นางหลับตาตั้งสมาธิตามลมหายใจ ก่อนเคลื่อนท่วงท่าตามบทฝึกที่บันทึกไว้ท่าที่สามเหินลมไร้เสียงทำให้กระแสลมภายในห้องก่อเป็นหมุนวนเบา ๆ ผ้าคลุมปลิวตามแรงลมราวกับมี มือของใครสักคนช
last updateLast Updated : 2025-11-19
Read more

บทที่ 41 สำนักเงารัตติกาล

อวิ๋นโซ่วไล่ตามล่ามือสังหารในความมืด หลังมือสังหารสองคนกระโดดหนีออกจากหน้าต่างตำหนักไฉ่หง เสียงฝนกระทบหลังคายังคงดังชัด แต่แล้วเงาหนึ่งก็พุ่งตามออกไปอย่างไร้เสียงราวกับเป็นส่วนหนึ่งของความมืด อวิ๋นโซ่วสายลับเงามืดของฮ่องเต้ผู้รับคำสั่งคอยจับตาดูองค์หญิงลับ ๆ เขาคาดไว้อยู่แล้วว่าอาจมีบางอย่างเกิดขึ้น คืนนี้เขาจึงเฝ้าดูจากต้นไม้ใหญ่ด้านกำแพงตำหนักไฉ่หง และเมื่อเห็นเงาดำพวกนั้นพุ่งหนีออกมา เขาก็ไม่ลังเลอวิ๋นโซ่วเหยียบปลายกิ่งไม้แล้วดีดตัวตาม ท่วงท่าเบาและนิ่งเหมือนพญาเหยี่ยวกลางรัตติกาล มือสังหารรู้ตัวทันทีหันกลับมาฟาดดาบสวนทั้งที่ยังวิ่งอยู่ ประกายโลหะเฉียดปลายจมูกของอวิ๋นโซ่วไปเพียงเส้นผม“มีคนตาม”น้ำเสียงของมือสังหารคนหนึ่งต่ำเย็น“สายลับเงามืด” อีกคนกล่าวราวกับรู้ พวกมันไม่หยุดวิ่ง แต่แบ่งทางวิ่งคนละฝั่งราวกับเตรียมแผนมาโดยเฉพาะ อวิ๋นโซ่วไม่พูดแม้แต่คำเดียว เขาเลือกไล่ตามคนที่ทำท่าว่าจะวิ่งไปยังเขตด้านหลังวัง พื้นหญ้าเปียกและมืดมาก แต่ฝีเท้าของเขาไม่มีเสียงแม้แต่น้อย เขาเร่งฝีเท้า มือสังหารคนนั้นพุ่งขึ้นกำแพง ฉีกผ้าคลุมออกโยนใส่เขาผ้าคลุมนั้นเหมือนผืนมืดที่กลบสายตา อวิ๋นโซ่วเฉื
last updateLast Updated : 2025-11-19
Read more

บทที่ 42 คอยอารักขา

ลมดึกพัดผ่านยอดไผ่จนเกิดเสียงเสียดสีกันเบา ๆ ทั่วบริเวณตำหนักไฉ่หง ไฟประทีปแทบทุกดวงดับลงแล้ว เหลือเพียงแสงจันทร์ส่องต้องหลังคาอย่างเย็นเยียบ หลังรับพระบัญชายามค่ำ อวิ๋นโซ่วเร่งกลับมาที่ตำหนักไฉ่หงตามคำสั่งให้เฝ้าองค์หญิงอย่างใกล้ชิด เขาเลือกใช้วิธีที่ตนถนัดที่สุด เงียบและมองจากในความมืดเมื่อเขามาถึงกำแพงด้านเหนือของตำหนัก เงาในสายตาของเขาไม่ผิดเพี้ยนตำหนักมืดเกินไป ทั้งที่ก่อนหน้านี้เพิ่งเกิดเหตุลอบสังหาร เขาขยับตัวขึ้นไปบนหลังคาอย่างไร้เสียง ตั้งใจจะตรวจดูความปลอดภัยขององค์หญิงจากด้านบนตามวิธีขององครักษ์เงา แต่ก่อนที่เขาจะลงไปใกล้ห้องนอนของนาง เสียงบางอย่างดึงความสนใจของเขาไปอีกฝั่งหนึ่งของตำหนักเป็นเสียงฝ่ามือกระทบลมเบา ๆ จังหวะนั้นแม่นยำเกินกว่าจะเป็นท่าทางของหญิงชั้นใน อวิ๋นโซ่วหรี่นัยน์ตาแล้วเลื่อนตัวไปตามขอบหลังคาอย่างชำนาญ สิ่งที่เห็นเบื้องล่างทำให้เขานิ่งค้าง ใต้ศาลาเล็กริมบ่อน้ำองค์หญิงหลิงเซียงยืนอยู่เพียงลำพัง ผมยาวสยายเพราะเพิ่งถูกปล่อยออก นางสวมชุดนอนเรียบง่ายแต่แนวแขนเสื้อพับขึ้นสูงที่พื้นเบื้องหน้าเป็นแท่นหินลับคมแบบพกพา และมีเศษเหล็กบาง ๆ กระจัดกระจาย หลิงเซียงกำลั
last updateLast Updated : 2025-11-20
Read more

บทที่ 43 เทศกาลชุนเจี๋ย

ค่ำคืนก่อนขึ้นปีใหม่จีน ลมหนาวปลายฤดูพัดพาเสียงประทัดที่ดังประปรายไปทั่วพระราชวัง บรรยากาศทั้งวังเต็มไปด้วยโคมสีแดงแขวนเรียงราย แต่ตำหนักที่งดงามที่สุดในคืนนี้กลับเป็น ตำหนักไฉ่หงขององค์หญิงหลิงเซียงนางกำนัลทั้งหลายกำลังติดป้ายคำมงคล 福 และ 春 ที่ประตูไม้แกะสลักอย่างตั้งใจ เสี่ยวถังจือยืนบนตั่งตัวเล็ก ๆ ติดโคมแดงรูปลายเมฆมงคลแล้วร้องอย่างดีใจ“หม่ากูกู! ไฟในโคมนี้เป็นสีแดงเข้มดังไฟปีใหม่เลยขอรับ” หม่ากูกูหม่ากูกูหัวเราะเอ็นดู“เจ้าค่อย ๆ ติด เดี๋ยวตกลงมา คอหักก่อนกินเกี๊ยวปีใหม่หรอก” หม่ากูกูกลิ่นหอมของธูปและดอกเหมยที่ถูกจัดเป็นแจกันประดับลอยในอากาศ ทำให้ตำหนักที่เคยสงบเงียบขององค์หญิงมีชีวิตชีวาขึ้นเป็นพิเศษบนโต๊ะยาวหน้าศาลเจ้าประจำตำหนัก มีอาหารมงคลจัดวางอย่างงดงาม เกี๊ยวสีทองรูปเงินตำลึง ปลานึ่งทั้งตัว ขนมเหนียนเกา ส้มสีทองในตะกร้าทรงโบราณ ขนมถั่วแดงและเมล็ดทานตะวัน เฟิงหวงกับห่าวเฉินช่วยกันต้ม ถังหยวน ลูกกลมข้าวเหนียวในหม้อดิน หอมหวานลอยฟุ้งไปทั่วตำหนักเมื่อองค์หญิงหลิงเซียงก้าวออกจากห้องในชุดสีแดงอ่อนปักลายดอกเหมย เสียงคนในตำหนักต่างหยุดลงครู่หนึ่งเพราะตะลึงในความงามของนาง แสง
last updateLast Updated : 2025-11-20
Read more

บทที่ 44 ยังคงอยู่รอด

หลังจากเทศกาลชุนเจี๋ยผ่านไปเกือบสองเดือน อากาศต้นฤดูใบไม้ผลิเริ่มอุ่นขึ้นทีละน้อย ดอกเหมยที่หน้าตำหนักไฉ่หงผลิดอกเป็นระลอกสุดท้ายก่อนร่วงโรย ทิ้งไว้เพียงกลิ่นหอมบางเบาติดปลายลมยามเช้า ภายในตำหนักเงียบสงบตามแบบที่องค์หญิงหลิงเซียงชอบ ช่วงนี้ไม่มีเหตุการณ์วุ่นวาย ทั้งเรื่องลอบสังหารและเรื่องในวังหลวงก็สงบนิ่งอย่างประหลาด ราวกับมีมือใครสักคนคอยเก็บกวาดเบื้องหลังให้ทุกอย่างเป็นระเบียบอวิ๋นโซ่วในช่วงสองเดือนมานี้ยังคงมาปรากฏตัวทุกเช้าอย่างเคร่งครัด อ้างว่ามาเฝ้าดูความปลอดภัยขององค์หญิงตามพระบัญชาฮ่องเต้ แต่สายตาเจ้ากรรมก็ยังมององค์หญิงแต่ละทีก็เต็มไปด้วยความสงสัยปนไม่ไว้วางใจอยู่เสมอ ไป๋กงกงและหม่ากูกูต่างก็ดีใจที่องค์หญิงมีชีวิตสงบสุขเสียที ขันทีหนุ่มสองคนเสี่ยวถังจือกับเสี่ยวผิงจื่อ ก็กลับมาทำงานอย่างกระตือรือร้นเพราะไม่ต้องคอยระวังภัยเหมือนช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมาแต่สิ่งที่ต่างออกไปคือองค์หญิงหลิงเซียงเริ่มคุ้นชินกับชีวิตในวังมากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ ช่วงเช้าหลิงเซียงมักนั่งอ่านตำราแพทย์จีนโบราณที่ได้จากห้องลับ ว่างก็ฝึกวิชาภายในเบา ๆ ตามแบบที่ซือฝู่เคยสอนในความทรงจำร่างเดิม ตอนกลางวันก็ชิมอ
last updateLast Updated : 2025-11-21
Read more

บทที่ 45 ทุ่งหลงชุย

ขบวนของตำหนักไฉ่หงเตรียมพร้อมเกือบทั้งหมด แต่ก่อนจะก้าวขึ้นรถม้า หลิงเซียงเงยหน้ามองทิศตะวันออกทิศที่ทุ่งหลงชุยตั้งอยู่ ลมพัดแรงขึ้นอย่างประหลาด จนปิ่นหยกบนศีรษะสั่นไหวเล็กน้อย หัวใจของนางเต้นช้าลงหนึ่งจังหวะเหมือนกำลังมีบางอย่างรออยู่ที่นั่น บางอย่างที่อาจเกี่ยวข้องกับร่างเดิม หรือเกี่ยวข้องกับคนที่กำลังคิดถึงท่านอ๋องเจ็ด หลิงเซียงก้าวขึ้นรถม้าอย่างสงบแต่สายตาเต็มไปด้วยความแน่วแน่ รถม้าค่อย ๆ เคลื่อนออกจากตำหนักไฉ่หง เข้าร่วมกับขบวนใหญ่ของราชวงศ์ ทันทีที่ล้อรถหมุนความเงียบสงบที่นางได้รับมาตลอดหลายเดือนก็จบลงอย่างสมบูรณ์เสียงล้อรถม้ากระทบพื้นหินกรวดดังกึกๆ ต่อเนื่องเป็นจังหวะ ขบวนเสด็จเคลื่อนผ่านประตูเมืองหลวงออกไปยังเส้นทางกว้างที่ทอดสู่ทุ่งหลงชุย ฟ้าเช้าสีฟ้าอ่อนปนหมอกลางฤดูใบไม้ผลิทำให้ทุกอย่างดูอบอุ่นแต่แฝงความเย็นเฉียบอยู่ลึก ๆภายในรถม้า องค์หญิงหลิงเซียงนั่งพิงหมอนผ้าไหมเบา ๆ มองทิวทัศน์ผ่านช่องหน้าต่างผ้าม่าน ทุ่งนอกเมืองเริ่มปลูกต้นข้าวสาลีอ่อน ต้นไม้สองข้างทางผลิใบใหม่ ชวนให้คิดว่าการเดินทางครั้งนี้ควรจะสดใสและสงบ แต่หัวใจของนางกลับไม่สงบเหมือนภาพที่เห็นเลย ไป๋กงกงนั่งเฝ้า
last updateLast Updated : 2025-11-21
Read more

บทที่ 46 ท่านอ๋องเจ็ดกับท่านอ๋องแปดปะทะกัน

เสียงม้าสองตัวที่เร่งเข้ามาใกล้ดังขึ้นอย่างฉับพลัน ฝุ่นดินปลิวฟุ้งจนทหารคุ้มกันต้องยกแขนบังหน้า รถม้าขององค์หญิงหลิงเซียงหยุดกึกกลางเนินป่า ทหารคนหนึ่งกระโดดลงจากหลังม้า เข่าทั้งสองแตะพื้นทันที หอบหายใจแรงเหมือนเพิ่งเร่งม้าจนสุดกำลัง“องค์หญิง พะ…พ่ะย่ะค่ะ เกิดเหตุใหญ่แล้ว!”อวิ๋นโซ่วชักม้าบังหน้ารถม้าทันที“รายงานมา!” อวิ๋นโซ่วทหารคนนั้นรีบตอบเสียงสั่น“ท่านอ๋องเจ็ดกับท่านอ๋องแปด ทั้งสองพระองค์กำลังต่อสู้กันอยู่ในแนวป่าด้านหน้า! ใกล้ลานเนินทางลงสู่ทุ่งหลงชุยพ่ะย่ะค่ะ!”คำว่าท่านอ๋องเจ็ดกับท่านอ๋องแปด ทั้งสองพระองค์กำลังต่อสู้กัน ทำให้หลิงเซียงยกม่านขึ้นแทบจะทันทีโดยไม่สนสายตาคนรอบข้าง“เจ้าพูดว่าอะไรนะ” หลิงเซียงน้ำเสียงนางตกใจจน ไป๋กงกงสะดุ้งทหารคุกเข่าลงต่ำกว่าเดิม“กระหม่อมเห็นกับตาพ่ะย่ะค่ะ! ท่านอ๋องเจ็ดทรงชักดาบปะทะกับท่านอ๋องแปด! คนของทั้งสองพระองค์ต่างล้อมเป็นวงสถานการณ์รุนแรงมาก!”อวิ๋นโซ่วกัดฟัน“เหตุใดท่านอ๋องทั้งสองถึงมาอยู่ตรงนั้น ทำไมถึงมีการปะทะกันก่อนพระราชพิธีเริ่ม!” อวิ๋นโซ่ว“ข้าน้อยไม่ทราบเช่นกันขอรับใต้เท้า แต่ดูท่า…เหมือนมีการซุ่มโจมตีบางอย่างมาก่อน!”หลิงเซีย
last updateLast Updated : 2025-11-22
Read more

บทที่ 47 ตกเป็นพยาน

กลางลานป่ากว้างท่านอ๋องเจ็ด จิ้งซวนในชุดล่าสัตว์สีดำปักเงิน กำลังประจันหน้ากับท่านอ๋องแปด จิ้งซีที่ยืนยิ้มเย็นพร้อมดาบเปื้อนเลือด ทั้งสองรายล้อมด้วยทหารที่พร้อมสู้ตาย บรรยากาศตึงเครียดจนเหมือนอากาศแตกเป็นเสี่ยง ๆหลิงเซียงไม่รู้เลยว่าการเดินทางครั้งแรกนอกวังของนาง จะพาเธอก้าวสู่จุดที่อันตรายถึงเพียงนี้ แต่อย่างไรก็ต้องห้ามท่านพี่ทั้งสองให้ได้เสียงดาบกระทบกันเงียบลงเพียงเสี้ยวอึดใจ เมื่อทหารทั้งสองฝ่ายถอยออกตามสัญญาณ ลานป่าที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหงื่อ กลิ่นคาวเลือด และความตึงเครียด…พลันกลายเป็นเวทีประจันหน้าของพี่น้องร่วมสายเลือดสองคน ท่านอ๋องเจ็ดจิ้งซวนยืนแน่นิ่ง ดาบสีเงินในมือยังหยดเลือดลงทีละหยด ร่างสูงในชุดสีดำปักเงินดูเย็นชา น่าเกรงขามแต่ภายในดวงตายังสงบนิ่งเหมือนยอดเขาอวิ๋นหลางยามหิมะตกตรงข้ามกันคือท่านอ๋องแปดจิ้งซี ชายหนุ่มรูปงามทว่าใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยโทสะและความไม่พอใจ ดาบในมือเขามีเลือดเปื้อนที่ไม่รู้ว่าเป็นของผู้ใด ดวงตาแดงก่ำราวกับผ่านศึกอารมณ์มานานกว่าการต่อสู้จริงทันทีที่เห็นองค์หญิงหลิงเซียงปรากฏตัวหลังพุ่มไม้ จิ้งซวนเหลือบตามองเพียงครู่เดียว ดวงตาคมดุที่ปกติไม่สะทกสะท้านอ
last updateLast Updated : 2025-11-22
Read more

บทที่ 48 สถานการณ์สงบลง

เสียงฟาดกระบี่ดัง เคร้ง! สะท้อนก้องไปทั้งแนวป่าลึกบริเวณเชิงเขาทุ่งหลงชุย ใบไม้ปลิวว่อนตามแรงลมจากการปะทะ หน่วยทหารที่ตามองค์หญิงหลิงเซียงมาด้วยยืนนิ่งตึงเครียด ไม่กล้าเข้าใกล้ เพราะทั้งสองคือเชื้อพระวงศ์ผู้มีวรยุทธ์สูงส่งที่สุดในแผ่นดินจิ้งซวนท่านอ๋องเจ็ดดวงตาเย็นชาดุจน้ำแข็ง กำกระบี่แน่น ความเงียบขรึมประจำตัวถูกแทนที่ด้วยความดื้อดึงจิ้งซีท่านอ๋องแปดสีหน้าฉายชัดถึงความเจ็บแค้น “เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยคนที่ลอบสังหารข้าไว้รึ!” จิ้งซีทั้งคู่พุ่งเข้าหากันอีกครั้ง ก่อนที่เสียงใสแต่นิ่งสงบดังแทรกขึ้น“พอได้แล้ว!” หลิงเซียงเสียงนั้นเหมือนลมเย็นชะงัดหยุดทุกอย่าง องค์หญิงหลิงเซียงก้าวออกจากพุ่มไม้ ใบหน้าสงบแต่แววตาเฉียบราวมีด มีเพียงอวิ๋นโซ่วที่ตามติดอยู่ด้านหลังสีหน้าราวกับหัวใจหล่นวูบ ทหารทั้งหมดคุกเข่าลงทันที “ถวายบังคมองค์หญิง!”การเคลื่อนไหวของสององค์ชายชะงักชั่วขณะ แต่ยังไม่ลดกระบี่ลง หลิงเซียงก้าวเข้าไปยืนระหว่างกลางทั้งสอง โดยไม่หวาดหวั่นแม้แต่น้อย“หากวันนี้พระเชษฐาทั้งสองยังฝืนสู้ต่อเช่นนี้ บัลลังก์มังกรไม่ต้องสั่นคลอนเพราะไพร่ฟ้าศัตรูภายนอก… แต่เพราะเลือดเชื้อพระวงศ์ที่รดลงพื้นด
last updateLast Updated : 2025-11-23
Read more

บทที่ 49 ใจสั่นและเรียกหา

ป่าริมทุ่งหลงชุยเงียบสงัดอีกครั้งหลังองค์หญิงหลิงเซียงทำให้สองอ๋องยุติการต่อสู้ลง ทหารทุกนายถอนหายใจพร้อมกัน แต่มีเพียงคนเดียวที่ยังยืนมององค์หญิงด้วยหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะอวิ๋นโซ่วเขาเดินตามองค์หญิงที่กำลังก้าวลงจากโขดหินช้า ๆ แสงแดดลอดผ่านพฤกษาทำให้เงาของนางทอดยาวบนพื้นดิน ดุจคนผู้หนักแน่นและไม่หวั่นไหวต่อภัยใดทั้งสิ้น“องค์หญิง…เมื่อครู่…” อวิ๋นโซ่วอวิ๋นโซ่วเอ่ยเบา ๆ น้ำเสียงคล้ายยังไม่เชื่อว่าทุกอย่างเกิดขึ้นจริง หลิงเซียงหันมาสบตา ยิ้มน้อย ๆ“เมื่อครู่ข้าเพียงทำในสิ่งที่สมควรทำ หากปล่อยให้พระเชษฐาทั้งสองฆ่าฟันกัน สุดท้ายใครกันที่จะชนะจริง ๆ ไม่สำคัญหรอก แต่คนที่ได้ประโยชน์ครั้งนี้ก็คือตนร้ายตัวจริง” หลิงเซียงอวิ๋นโซ่วอ้าปากจะพูด แต่กลับเงียบไป เขามองนางอย่างพินิจ ประสานสายตากับนางแล้วเห็นสิ่งหนึ่งที่เขาไม่เคยเห็นชัดนักมาก่อน ความเด็ดเดี่ยวที่แฝงความเมตตา เขาเอ่ยอย่างจริงใจ“กระหม่อม...นึกไม่ถึงเลยว่าองค์หญิงจะยอมยืนกลางกระบี่ของสององค์ชายเช่นนั้น หากพลาดแม้แต่นิดเดียว” อวิ๋นโซ่ว“ข้าก็อาจตาย…ใช่ไหมล่ะ เจ้าจะพูดแบบนี้” หลิงเซียงหลิงเซียงตอบเสียงเบา แต่สีหน้าไร้ความหวาดกลัว“แ
last updateLast Updated : 2025-11-23
Read more
PREV
1
...
345678
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status