ค่ำคืนนี้ลมเหนือพัดแรงเป็นพิเศษ ท้องฟ้าถูกห่มด้วยเมฆสีเทาหม่น แสงจันทร์เพียงเสี้ยวส่องลอดกิ่งสนสูงโปร่งของเขตตำหนักร้างเว่ยอิง องค์หญิงหลิงเซียงห่อคลุมไหล่ด้วยผ้าคลุมสีดำสนิท ฝีเท้าเบาจนแทบไม่มีเสียงเมื่อก้าวผ่านลานหญ้าเปียกชื้นตำหนักเว่ยอิงเงียบสงัดราวกับถูกเวลาลืมเลือน ประตูไม้แกะสลักซึ่งเคยงดงามบัดนี้เกรอะกรังด้วยฝุ่น แต่เมื่อหลิงเซียงผลักประตูเบา ๆ กลับเกิดเสียงแผ่วเพียงพอให้ได้ยินว่าที่นี่ตื่นแล้ว องค์หญิงหลิงเซียงยังคงมาฝึกวิชาที่ตำหนักเว่ยอิงเหมือนทุกวัน ภายในห้องลับชั้นในยังคงมีกลิ่นยาสมุนไพรเจือกลิ่นไม้จันทน์อ่อน ๆ คบเพลิงที่เคยดับไปแล้วกลับติดขึ้นเองทีละดวงเมื่อนางก้าวเข้าไปคล้ายรู้ตัวดีว่าเจ้าของกลายมาเยือนอีกครั้งหลิงเซียงย่อตัวตรงกลางห้อง หยิบคัมภีร์เล่มใหม่ที่พึ่งค้นพบเมื่อคืนว่าออกมาอ่าน คัมภีร์ลายมังกรเมฆ ที่หาเจอจากซอกผนังลับขึ้นมากาง หน้ากระดาษเก่าแต่เส้นอักขระยังเรืองแสงราวกับเพิ่งเขียนไม่นาน นางหลับตาตั้งสมาธิตามลมหายใจ ก่อนเคลื่อนท่วงท่าตามบทฝึกที่บันทึกไว้ท่าที่สามเหินลมไร้เสียงทำให้กระแสลมภายในห้องก่อเป็นหมุนวนเบา ๆ ผ้าคลุมปลิวตามแรงลมราวกับมี มือของใครสักคนช
Last Updated : 2025-11-19 Read more