ฮูหยินเจียงประคองจอกชาอุ่น ๆ พลางพึมพำว่า “นายท่าน ทราบเรื่องหรือไม่?”วาจานี้ตกกระทบโสตประสาทของแม่นมหลิน ราวกับสายฟ้าฟาดลงมาหากเป็นเช่นนั้นจริง ฮูหยินมิใช่ว่า…“ฮูหยิน...”แม่นมหลินก้าวเข้าไปยืนเคียงข้าง คอยปลอบประโลมอยู่อย่างเงียบงันบรรยากาศตกอยู่ในความเงียบสงัดเนิ่นนานฮูหยินเจียงทอดถอนใจแผ่วเบา แววตาเต็มไปด้วยความโศกศัลย์ที่มิอาจจางหาย“เจ้าจงไปที่ตระกูลเจียงด้วยตนเองสักเที่ยว แจ้งเรื่องนี้แก่พี่ชายข้า ให้เขาช่วยตรวจสอบอีกแรง”แม่นมหลินรับคำอย่างจริงจัง “เจ้าค่ะฮูหยิน ข้าจะไปเดี๋ยวนี้”……วันต่อมา รถม้าคันหนึ่งที่ดูเรียบง่ายได้เคลื่อนออกจากเมืองหลวงเซวียหว่านอี้ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงสองวันนี้ ไม่รู้ว่านางจะไปทันเวลาหรือไม่ชาติก่อน หลังจากมีราชโองการพระราชทานสมรสลงมาไม่ถึงสองวัน บุตรสาวคนเล็กสายตรงของมู่ชินอ๋องได้หายตัวไปที่วัดหลิงอวิ๋น กว่าจะพบตัวอีกครั้งก็ผ่านไปสามวันแล้ว กลายเป็นศพอยู่ในหลุมดินที่หลังเขาวัดหลิงอวิ๋นเล่าลือกันว่าก่อนตาย นางถูกทารุณกรรมอย่างโหดเหี้ยมที่สุด ทั่วทั้งร่างไม่มีผิวหนังดีเลยสักแห่งเพราะเหตุนี้ พระชายามู่ชินอ๋
Magbasa pa